ว่าด้วยเรื่องพระสมเด็จ

ขอตั้งกระทู้ให้ผู้ที่รู้และไม่รู้เข้ามาพูดคุยให้ความรู้เกี่ยวกับพระสมเด็จครับ

ทั้งแบบสากลนิยม........และสากลไม่นิยมแต่สากูนิยมก็ได้.

แต่พูดกันด้วยเรื่องข้อมูลหลักฐาน...ที่มาที่ไป...ทั้งทางประวัติศาสตร์....

โบราณคดี...เชิงวิทยาศาสตร์....กระทู้นี้เปิดกว้างกันทางความคิดข้อมูล...

คิดต่าง...แตกต่าง...แต่ไม่จำเป็นต้องแตกแยก...

ในส่วนตัวผมเชื่อว่าพระสมเด็จที่สมเด็จโตสร้า้งอาจมีมากกว่าพิมพ์ที่เล่นหากัน

ในปัจจุบัน...ที่เชื่อเช่นนี้ก็เพราะว่า..ยุคหนึ่งพระสมเด็จพิมพ์ของวัดเกษไชโยก็

ไม่ถูกเซียนทั้งหลายยอมรับ........หาว่ายัดกรุอ้างว่า......

จนเมื่อมาเจอพระสมเด็จพิมพ์วัดเกษไชโยตอนที่...วัดใหม่อมตรส(บางขุน

พรหม)...เปิดกรุแล้วมีพิมพ์วัดเกษอยู่จึงยอมรับกันมาจนทุกวันนี้..........

ข้อมูลแต่เก่าก่อนที่ว่าแน่ๆ...พอมีข้อมูลใหม่ที่มาหักล้างได้ก็ต้องเชื่อ....

จนทุกวันนี้ก็เล่นหาพระพิมพ์วัดเกษไชโยจนเป็นสากลครับ............

เหมือนกับพระวัดถ้ำเสือกรุดีสลักที่สุพรรณ....ที่ อ.มนัส โอภากุล...นำมาบอก

กล่าว........เพราะหลักฐานทางโบราณคดีมันตรวจสอบได้โดยทางวิทยา

ศาสตร์...ไม่ได้ตรวจสอบทางจิต......ถ้ามาอ้างทางจิตท่านคงโดนสวด.......

ความจริงก็คือความจริง...........ในห้องวัตถุนี้ก็มีท่านผู้รู้หลายท่าน.....มาก

น้อยตามแต่ที่ได้ศึกษามา.นักคิดนักปราชญ์ยุคเก่าต้องตายเพราะพูดความจริงที่

ไม่เหมือนคนอื่นเอยะแยะไป....ดูอย่างไอแซค นิวตัน ...หรือ กาลิเลโอ เป็นไร

แต่สิ่งที่เขาพูดก็เป็นความจริง...มิได้เลื่อนลอยและพิสูจน์ได้.........

เพราะอย่างน้อยผมก็อาจจะได้พระสมเด็จโตที่นอกระบบแต่อยู่ในระเบียบที่ท่าน

สร้า้งสักองค์.....ครับ.....แต่ต้องขึ้นอยู่ในข้อมูลหลักฐาน......มิใช้หลักกู...

ของกู ตัวกู.กูถูก.......อย่างงี้ก็ไม่กว้างนะครับพี่น้อง..............

เปิดกว้างแบบเหตุผล.......สากลก็ใช้.....สากูก็ได้..........แต่ขึ้นอยู่บนพื้นฐาน

แห่งความจริง....

 

55555 มันก็เข้าอีหรอบเดิม ของอย่างนี้ ตาใครตามัน หรอกครับ 55555

 

ท่านก็รู้ว่าเจตนาผมเพื่ออะไร......วัดขุนอินทประมูล..........

วัดสะตือที่สมเด็จท่านมาสร้า้งพระนอนองค์ใหญ่ไว้.......

ทีวัดเกษไชโยยังมาเล่นหาว่าเป็นสมเด็จโตสร้า้ง............ตอนหลัง

วัดสะตือนะท่านก็จะไม่สร้า้งบ้างหรือ..............

ท่านจะสร้้างแค่วัดระฆังกับวัดใหม่บางขุนพรหม...วัดเกษไชโย........

แค่นั้นหรอ...คนที่เล่นนอกสายคงคิดอย่างนี้....เพราะวัดสะตือท่านก็มาจำ

พรรษามาสร้างพระนอนองค์ใหญ่ไว้...เหมือนที่ท่านไปสร้า้งพระนั่งที่วัด

เกษไชโย........

มันน่าศึกษานะท่าน....ถ้าจะบอกว่าพระแท้ต้องขายได้.....เหมือนที่กล่าวๆกัน

วัดขุนอินทประมูล หรือวัดสะตือ....เขาก็เอามาขายกันนี้ครับ...........ขายได้

ด้วยซิ

หรือต่างกันว่าแบบนั้นแพง แบบนี้ถูก................นั้นเป็นสิ่งที่เขาให้ค่าความ

หายากกันมั้งผมว่า...

เหมือนกับพระนางพญาที่นิยมก็กรุทางพิษณุโลก......กรุโรงทอแต่ทางบ้านผม

เซียนทั้งหลายก็ไม่กล้าิปฎิเสธกรุวัดดาวเสด็จนะครับ........

หรือพระเนื้อชิน...ก็กรุวัดเพชร.....ที่สระบุรี....

ของอย่างเนี้ยมันขึ้นอยู่ที่ข้อมูลด้วยครับท่านทั้งหลาย...ความจริงของจริง....

เป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้แน่นอน....กาลเวลา...และกาลยอมรับ......

การเปิดใจให้กว้าง.....ไม่งั้นอาจเหมือนดั่งคำที่เขาว่า...กบในกะลาได้...

เหมือนผม....ผมอยู่ในกะลามานาน อยากจะดูโลกกว้างบ้างครับ....

ใครมีข้อมูลก็บอกได้...ความรู้ผมชอบ...

ด้วยความนับถือครับทุกๆท่าน.....555

 

คร๊าบๆๆๆ

 

:VO

 

ถ้าจะถกปัญหา..ว่าด้วยเรื่องพระสมเด็จ..จบยาก
ต่างคนต่างความเห็น...
สิ่งที่เป็นมาตราฐานสากล...การดูเนื้อและพิมพ์... เป็นที่ยอมรับในวงกว้าง..
คือ..ข้อสรุปที่ดีที่สุด..อาจจะไม่ถูกต้อง..100%
แต่ก็คือข้อยุติ..สำหรับนักสะสมพระสมเด็จ
ปัจจุบัน..วงการพระเครื่อง..มีกระจายไปทั่วโลก ไมใช่มีเป็นวงแคบ
และมีมูลค่าในการแลกเปลี่ยน...ไม่ใช่แจกฟรี
ดังนั้นการดูพระ...เนื้อและพิมพ์...จึงเป็นมาตราฐานสากลต่างชาติทั่วโลกยอมรับ
ถ้าจะใช้วิธีอื่น..เช่น ดูพุทธคุณ เอาไปลองยิง..ถ้าไม่ออก..ถึงจะซื้อ..
หรือลองจับพลัง..องค์ไหนพลังมาก..ราคาแพง..
จะกลายเป็น..เล่นแบบเชิญยิ้ม...

ส่วนที่มีพระบางกรุ..แตกออกมา..ซึ่งช่วงแรกวงการพระไม่ยอมรับ..
เช่น พระวัดถ้ำเสือกรุดีสลัก หรือกรุอื่นๆ ก็เพราะว่า..ต้องอาศัยเวลาและผู้ชำนาญเล่นหา
ยอมรับเป็นแนวทางเดียวกัน...ดังนั้นช่วงแรกๆ จึงไม่เป็นที่ยอมรับ
ถ้าเป็นพระแท้..ยังไง..ก็แท้..
สุดท้ายจะช้าหรือเร็ว..วงการก็ต้องยอมรับหันมานิยมเล่นหา
ไม่แปลกเป้นเรื่องปกติ

ถ้าแตกกรุออกมา..แล้วให้ยอมรับเลย...ผลเสียจะมากกว่าผลดี..
และก็คงไม่เป็นการดี....ถ้าเป็นเช่นนั้น...
ขนาดทุกวันนี้ระแวงระวัง....เรื่องพระแตกกรุ..ยัดกรุ
ยังมีให้เห็นมากมาย....
<!-- google_ad_section_end -->

 

สาธุ... ต้องอย่างนี้สิครับ ท่านผู้ชำนาญการ

บอกแล้วว่า คนละมุมมอง... อิอิ

การศึกษาค้นคว้าของแต่ละคนไม่เท่ากัน และ ไม่เหมือนกันหรอกครับ อย่าไปจริงจังเลยครับ คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Jumbo A<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2123244", true); </SCRIPT> ไปเรื่อยๆ สบายๆ ดีกว่า มีอะไรก็เอามาลงในห้องนี้ได้ พี่ๆ เพื่อนๆ ในห้องนี้ ใจดีจะตายไป รู้จริงบ้าง รู้ไม่จริงบ้าง ก็สนุกสนานดี ถือว่ามาแลกเปลี่ยนวิทยายุทธกัน อิอิ

เรื่อง พระนอกวงการนิยม นั้น ถกกันไปไม่รู้จบหรอกครับ ขนาดพระในวงการนิยม บางทียังดูไม่ขาดกันเลย ต้องนำไปแห่หลายตลบ อิอิ นับประสาอะไรกับพระนอกวงการ ยกเว้น ได้ท่านผู้ชำนาญการมาตัดสิน และ ทำการวิเคราะห์โดยละเอียด


เล่นพระตามที่วงการนิยม สบายใจที่สุดครับ มีมาตรฐานเดียวกัน และ สังคมให้การยอมรับ ส่วน พระนอกวงการ นั้น ขอให้เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ก็เพียงพอแล้วครับ

 

สะสมแบบเปลี่ยนเป็นทุนทรัพย์ได้ให้สะสมที่สังคมเขานิยมกัน ถ้ารักจะค้นคว้าก็ต้องลงแรงหนักหน่อยต้องหาทั้งตำราหาทั้งผู้รู้หาของด้วย ไม่ต้องอะไรพระในหลวงพ่อโต วัดอินทร์ขนาดมีบันทึกของลูกศิษย์ก้นกุฏิท่าน ว่าพิมพ์อื่นๆที่ล้อพิมพ์พระโบราณได้นำไปบรรจุในองค์หลวงพ่อโต ตอนซ่อมแซม ภานในมืดมากช่างไม่เห็นพระเพราะคลุมไปด้วยมูลนกมูลค้างคาวช่างโกยโยนทิ้ง พระหักเสียส่วนมาก ที่เหลือก็แจกกันไปจนบัดนี้ทั้งวงการยังไม่มีใครรู้เลยว่าเป็นอย่างไร ส่วนของวัดขุนอินทร์ กับวัดดักคะนน มีผู้ค้นผู้ปลุกเสกแล้วครับ กลายเป็น หลวงปู่ศุข ลองตามไปดูในเวปsiam amulet และยังมีอีกหลายที่ ที่พยายามบอกว่าสมเด็จโตสร้าง แต่เนื่องด้วยเนื้อหาแลความเก่ายังไม่เข้าขั้นพระร้อยกว่าปีก็ยังไม่ได้รับการยอมรับ ของกรุกุฎีทองที่ท่านร่วมสร้างกับขรัวตาแสงก็มีผู้ยอมรับมากอยู่ครับผม จากบันทึกของศิษย์ท่านมีสองกระแส 73พิมพ์ กับ173พิมพ์ ข้อนี้เท่าที่ศึกษามาผมว่าน่าจะเป็น73พิมพ์แต่มีแม่พิมพ์173อัน ดูจากพิมพ์ใหญ่4กลุ่มมีหลายแม่พิมพ์ พิมพ์เจดีย์5พิมพ์ยังมีพิมพ์ย่อยๆอีกฯลฯ ถ้ารักจะพิศูจน์ก็ต้องทุ่มแรงกายแรงใจกล้าลงทุนหน่อยนะครับเอาใจช่วย

 

คิดแบบพานิชย์ค้าขายพระเครื่องก็ต้องว่าพระนอกกรุบ้าง พระสนามบ้าง เนื้อไม่ใช่บ้าง ต้องยอมรับนะครับว่า ไม่มีใครทราบข้อมูลชัดเจนได้ว่าท่านสร้างพระเครื่องมาตั้งแต่เมื่อไหร่แม้แต่คนที่ใกล้ชิดก้นกุฏิก็ยังตอบแบบไม่ฟันธงแล้วลุกๆหลานที่อ้างตัวเป็นผู้รู้เหมือนเกิดทันยุคท่านอะไทำนองนั้นนะครับจะรู้ดีได้อย่างไรว่ามีกี่พิมพ์ครับ ขายได้เงินก็บอกดี ขนาดชื่อพิมพ์ใหญ่ในปัจจุบันยังบิดเบือนสมเด็จท่านเรียกพิมพ์ทรงเจดีย์ แล้วจะยังอ้างตัวเป็นเซียน ขายได้ใช่ว่าจะเป็นพระแท้ที่ท่านสร้างย้อมแมวก็เยอะ โฆษณาก็เยอะ ราคาคุยก็เยอะ ถามหน่อยอะไรคือบทสรุปคุณกล้าสรุปเหรอครับว่าพิมพ์นี้ไม่ใช่พิมพ์นี้ใช่ ต้องยอมรับนะว่าท่านสร้างมาเยอะไม่มีบทสรุปหรอกครับ

 

งานนี้ ผมเผ่นดีกว่า 55555

 

บุญพระเครื่อง เคยจัดประกวดพระสมเด็จ ที่เสรี เซนเตอร์ เมื่อกลางปี 2551
ปรากฏว่า..ในงานประกวดมีพระสมเด็จแท้ 500 กว่า องค์
มีคนเอาโชว์ในของสะสม เว๊ป Uamulet พระสมเด็จที่ชนะในงานประกวด
ที่บุญพระเครื่อง จัดที่เสรี เซนเตอร์
ทางคุณ อุ๊ กรุงสยาม และเซียนในวงการ ไม่ยอมรับพระสมเด็จที่ชนะในงานประกวด ที่บุญพระเครื่อง จัด
สั่งงดไม่ให้นำมาโชว์ในของสะสม เว๊ป Uamulet

ทั้งงานประกวด...พระสมเด็จ 500 กว่า องค์ เก๊ดูง่าย
สำหรับ..บุญพระเครื่อง ใครจะเชื่อก็ไม่ว่ากัน...ถ้าเงินเหลือใช้..

ผมเคยแนะนำ..ให้ไปเช่าที่แผงแถวท่าพระจันทร์...
ถูกว่าเยอะ..ราคาไม่กี่สิบบาท...
เช่าพระ..แถมฟังนิทาน..ขายหนังสือวิธีการดูพระสมเด็จฯ

นั่นแหละ..วิถีทางแห่งการเป็นเซียน...
ต้องไปถอนเงินในธนาคาร..ขายบ้าน.ขายรถและที่ดิน
เจอพระกรุนี้..ที่ไหน..กวาดให้หมด..ซื้อให้เกลี๊ยง..เอาแบบให้คนขายเข็ดขยาด..
รีบบอกต่อ..ให้ญาติพี่น้อง..เพื่อนสนิทมิตรสหาย..ให้รีบไปซื้อให้เกลี๊ยงหมดแผง
รีบๆ หน่อย..เดี๋ยวพวกนักเล่นพระที่ชอบดูเนื้อและพิมพ์มาแย่งซื้อ..
เพราะพระกรุชุดนี้..เหมาะมากกับผู้มีบุญญาธิการ...
ต้องอุดหนุนสินค้าไทย..ช่วยเศรษฐกิจไทย..
องค์ละ 10 บาท 62ล้านคน เศรษฐกิจไทยรอด...

 

ลองเปรียบเทียบกับพระสมเด็จของบุญพระเครื่อง

สมเด็จบางขุนพรหม กรุใหม่
พิมพ์เกศบัวตูม

 

รูปหล่อสมเด็จโต

ข้อควรพิจารณา
1.รูปหล่อสมเด็จโต ประดิษฐานที่วัดไหน..
2.ต้องมีหลักฐานจากท่านเจ้าอาวาสวัดระฆังเป็นลายลักษณ์อักษร
3.หลักฐานการขุดพบเจอ...จากทางกรมศิลป์
4.ตาแป๊ะเสื้อสีเหลือง..เป็นใคร..มีเอี่ยวรึเปล่า..
5.หลักฐานทั้งหมด...เมคขึ้นมา...รึเปล่า..
6.เจ้าของหนังสือบุญพระเครื่อง..เก็บเอาไว้กี่ร้อยองค์

สรุป...คนเชื่อหลักฐานแค่นี้...แล้วบอกว่า..เป็นพระแท้..
ต้องขอบอกประกาศว่า...คุณกำลังจะกลายเป็น...
เซียนสายตรงพระสมเด็จบุญพระเครื่อง...

 

จะรีบไปไหน....จะรีบไปไหน....มาอยู่ด้วยกันก่อน......ต่างคน ต่างทางแต่จุด

มุ่งหมายเดียวกัน.....อย่าเพิ่งไปท่าน.....ผมไม่ได้คิดมากน่า.....มาหาข้อมูล

ท่าน....ก็เหมือนฟังเพลง...เพลงบางเพลงเขาว่าเพราะผมฟังไม่เพราะผมก็ไม่

ฟังเขาฟังเพราะก็ให้เขาฟังไป.......แต่ยังไงก็เพลงเหมือนกันน่า.......

ผมต้องการเสพข้อมูล...มาให้ข้อมูลช่วยคิดวิเคราะห์กันหน่อย.....

หาเพื่อนคุยน่า......ท่านวิสุทโธยังมาเลย.......

ละครและความจริงมันคนละอย่าง.....ผมก็ฟังก็ดูมาหลายเรื่องแล้ว......

ฮาๆก็เคยเจอ.....เฮๆก็มากท่าน...............

ไอ้ประเภทชายชุดขาวมานั่งจับพระเหวี่ยงมือไปมาหลับตาสองข้าง.........

แล้วบอกว่าแท้........นั้นก็เคยดูแต่ไม่ค่อยเอามาคิดงมงาย.................

เพราะใครที่เห็นก็หัวเราะเหมือนดูตลกเชิญยิ้ม........นานวันนานวันผันผ่านก็

หายไปกับสายลมที่งมงาย......เรื่องจิตอภิญญาผมเชื่อ.....แต่อภิญญาหากิน

แบบโกหก...เป็นอีกเรื่อง......เหมือนเข้าเจ้าเข้าทรง.....มีทั้งคนเชื่อและไม่

เชื่อ.............

เมื่อวันก่อนไปเดินสนามพระแถวบ้านมา........เจอเพื่อนเก่าไม่ได้เจอกันมา

นานสอบถามเสียงดัง...ว่าเป็นไงยังดูสมเด็จแม่นเหมือนเดิมไหม......

ยิ้มและตอบไปแบบฮาๆดูได้แต่ไม่รู้เก้แท้............พี่เจ้าของแผงเลยพูดแบบ

ตลกๆเล่นสมเด็จเสร็จทุกราย.......555.........

ตำนานนักเล่นพระสมเด็จมีเยอะแยะไป...........ผมเจอมาเยอะ...........

บางคนก็บอกว่าเล่นแค่ชอบ........เนื้อหา...และความน่าจะเป็น...แบบเข้า

ข้างตนเอง............บางครั้งราคาไม่ใช้ตัวสรุปผมว่าใช้.............

คนรุ่นอาตอนไปงานประกวดพระด้วยกันเอาพระสมเด็จที่ตนเองหามา......ไป

ส่งเข้าประกวด...มีอยู่องค์กรรมการที่ว่าแน่ๆต้องมาลุมส่องกันหลายท่านอยู่

นานสองนาน.....ใช้เวลานานกว่าปกติสุดท้ายก็ไม่รับเข้าประกวดก็แสดงว่าเก้

ไม่ผ่าน....แต่เจ้าของพระก็สงสัยว่ามันดูกันนานแสดงว่าต้องมีอะไรเข้าท่า

น่าสนกว่าจะตัดสินใจ...........ยังเก็บพระไว้แต่ตระกร้าที่จะให้ใส่พระเข้า

ประกวดโยนทิ้งทันที.......อย่างเนี้ยเป็นท่านทั้งหลายจะคิดอย่างไร......

ถ้าคิดเข้าข้างตนเอง...ก็ต้องว่าแท้แต่กรรมการมันไม่อยากรับมันกลัวว่าไม่แท้

ไม่ใช้ของพวกมัน..........แต่กรรมการอาจบอกว่าเก้ถ้าให้เข้าประกวดได้อาจ

โดนด่าว่ายอมรับของเก้มาได้อย่างไรเรื่องอย่างนี้เจอบ่อยนะตามงานประกวด

กรรมการถึงต้องมีหลายคนและหลายฝ่ายเอามายันกันเพราะกรรมการตัดสินผิด

พลาดมีเยอะแยะ...แต่กรรมการฟุตบอลนะครับ555....

อย่างหลักฐานพระสมเด็จที่ท่าน""SUMMA.....แค่นี้ไม่พอ.......ให้คนเชื่อ

หรอกผมว่า..........ในที่นี้หลายคนคงไม่เชื่อ............แค่เอาอะไรมาให้ดู

ขาดข้อมูลมากกว่านี้.......ตอนนี้ผมยังเข้าใจอาจเข้าใจผิดนะครับว่าเป็นหลัก

ฐานเท็จ......ต้องขอดูหลักฐานเต็มด้านอื่นด้วย...........อย่างนี้ยังไม่พอ

ข้อมูลที่ต้องการครับ............ถ้าขึ้นศาลก็ไม่เหลือ.....ศาลไม่รับฟัง

มาร่วมด้วยช่วยกันนะทุกท่าน...........ไม่ต้องการถึงขั้นเก่งหรอกแต่มาหา

ข้อมูลและเพราะอะไร ทำไมถึงเชื่อเช่นนั้น.........แล้วก็นำไปสรุปกันเอง

ตามศรัทธาความเชื่อ.........เอาทั้งสากลและสากูเลยครับ.....

แต่ต้องชัดเจน.................เท่านั้นพอ........อย่าฉาบฉวย

555"""""".............

 

หลักฐานสร้างขึ้นก็ได้ หลักฐานเท็จ มีอยู่มากมาย

การหล่อรูปเคารพที่เป็นพระสงฆ์นั้นยิ่งสมัยก่อนมักไม่ค่อยนิยมหล่อกันเพราะถือคติ ยังไม่ตายไม่ควรทำแทนตัว คนโบราณเขาถือสา กว่าจะนิยมหล่อรูปเหมือนกันได้ก็ตกปลายรัชกาลที่ ๕ แล้ว

ยิ่งหล่อรูปเหมือนของสมเด็จโตนั่งชักประคำมีพระสมเด็จแปะไว้ใต้ฐาน แถมบอกว่าหล่อเมื่อคราวฉลองสมณศักดิ์พระธรรมกิติด้วยแล้วยิ่งเป็นไปไม่ได้ งานช่างสมัยก่อนทำไม่ได้ละเอียดขนาดนี้หรอก พระบรมรูปของรัชกาลที่ ๕ ยังต้องสั่งให้หล่อมาจากยุโรปเลย

อีกอย่างสมเด็จโตท่านไม่เคยอาลัยไยดีกับ ยศช้างขุนนางพระ แม้แต่ตาลปัตรพัดยศท่านก็ไม่ใส่ใจ ในประวัติก็กล่าวเอาไว้ ยิ่งจะให้คิดหล่อรูปตัวท่านเองในงานฉลองสมณศักดิ์ยิ่งเป็นไปไม่ได้ ตัวท่านคงไม่คิดสร้างหลักฐานเองกระมังเว้นแต่ผู้แสวงหาผลประโยชน์อาศัยศรัทธาหากินเท่านั้น

คิดดูดีดี

 

ให้ใช้ปัญญาและสติพิจรณา ประกอบทั้งประวัติ วัตถุที่อยู่ในสายตาว่ามีอายุเหมาะสมกับความจริงหรือไม่ เดี๋ยวนี้เขาลงทุนผลิตสื่อลวงหวังผลระยะยาว ถ้าไม่รอบคอบ อิๆ โดน

 

โคตรเชื่อเลยจ้า

ผมยังจะพอเกิดทันในกลุ่มที่มีความเชื่อที่ว่า ไม่นิยมถ่ายรูปตัวเอง เพราะถือจะทำให้ชีวิตสั้น และคนจะเอาไปทำของใส่ได้

ทีนี้ขนาดหล่อรูปตัวเองไว้น่ะ บอกได้เลยว่าคนยุคนั้นไม่คิดหรอก ที่คิดเพราะมีเจ้านายยุคเก่า ท่านไปดูงาน ไปเรียนเมืองนอกมา เอาคติฝรั่งติดพระองค์เข้ามา มีการเปลี่ยนชุดเปลี่ยนการแต่งกาย ของข้าราชการ อาวุธ ดนตรี อาหารการกิน เหล้าสุรา แล้วก็วาดภาพ ถ่ายรูปตัวเอง และหล่อรูปตัวเองของเจ้านายขึ้นมา เลยมาถึงเจ้านายที่เป็นพระด้วย แล้วก็คงต่อๆกัน แล้วมานิยมกันต่อมา มาจากพวกระดับเจ้านายครับ ไม่ใช่สามัญชน

ส่วนสามัญชนน่ะ ตามมาทีหลัง การที่สมเด็จโตจะไปหล่อรูปตัวเองไว้ เช่นรูปปางจับยาม สามตา หรือ รูปข้างบนน่ะ ไม่น่าจะมีคติแบบนั้นครับ คนนับถือท่านมาทำตอนหลังมากกว่า

ยุคก่อนนั้นคงหล่อแต่รูปพระพุทธ หรือ พระสาวกครับ หรือ เทวรูป หรือ เครื่องลางไปเลยครับ

 

ขอบคุณท่านที่เข้าใจมุมมองของท่านอื่นๆครับ..........

เพราะตอนนี้หลายท่านยังมองว่าเป็นหลักฐานเท็จ....ขาดความน่าเชื่อถือ...

ผมคิดว่าหลายท่านคงเคยเจอหนังสือที่ท่านนำมาให้ดู....แต่ยังไม่เชื่อ..และไม่

สนใจเท่าไหร่..........หนังสือประเภทอย่างนั้นผมก็เห็นเยอะแต่ยังไม่น่าจะพอ

เชื่อได้.......เหมือนที่หลายท่านบอกว่าหลักฐานเท็จใครสร้า้้งก็ได้...ลงทุน

ให้หนักๆหน่อยแล้วค่อยสอยคืน....มาร่วมกันใจกว้างเพื่อประโยขน์ของตนเอง

กันครับ....

 

ข้อมูลที่พี่กล่าวก็ถือว่าเป็นสากลนิยมมาแต่กาลก่อนรุ่นผมก็พอรู้และเข้าใจการ

ไม่หล่อรูปเหมือนตนเองจนกว่าจะตายแล้วมีคนมาหล่อไว้เพื่อกราบไว้บูชาระลึก

ถึงคุณงามความดี...

แต่ยุคนี้มันกลับกันแล้ว.....เรื่องรูปหล่อ.....บ้างไม่เล่นหาบอกว่าไม่ทันท่าน

เสก.......ไม่ได้กราบและเคารพบูชาในคุณงามความดีที่ท่านเคยทำไว้.....

นี้ก็เป็นอีกข้อมูลที่นำมาขัดแย้งอย่างเป็นเหตุเป็นผลครับ............

สุดท้ายท่านที่อ่านก็ใช้สติพิจรณา.....กันเอาเองไม่จำเป็นต้องเชื่อก็ได้ไม่มีการ

บังคับ......ตามสบาย....สบายใจไทยแลนด์.แดนพุทธศาสนาครับ....

 

ยากจัง ......ปวดหัวแย่เลยครับ