วัดโพธิญาณ ละเมิดระเบียบ บวชให้ภิกษุณี

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 20 ธันวาคม 2009.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    [​IMG]
    มหาเถรสมาคม มีมติถอดวัดโพธิญาณ ประเทศออสเตรเลีย ออกจากการเป็นสาขาวัดหนองป่าพง และไม่ร่วมสังฆกรรม หลัง ละเมิดระเบียบคณะสงฆ์ไทย บวชให้ภิกษุณี ...

    นายอำนาจ บัวศิริ ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการประชุมมหาเถรสมาคม ที่ประชุมได้รับทราบมติของคณะสงฆ์วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี ที่มีมติให้ถอดวัดโพธิญาณ เมืองเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย ออกจากการเป็นสาขาของวัดหนองป่าพง

    ทั้งนี้เนื่องจากคณะสงฆ์วัดโพธิญาณ ซึ่งมีพระวิสุทธิสังวรเถร (พระพรหมวังโส) เป็นเจ้าอาวาส ได้ดำเนินการอุปสมบทให้กับภิกษุณี ซึ่งถือว่าขัดกับระเบียบของคณะสงฆ์ฝ่ายเถรวาท ทางคณะสงฆ์วัดหนองป่าพงจึงมีมติให้ถอดวัดโพธิญาณ ออกจากการเป็นสาขาของวัดหนองป่าพง ดังนั้นจะหมายความว่าวัดดังกล่าวไม่มีต้นสังกัดดูแล และจะส่งผลให้ไม่ได้รับการดูแลจากทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ และมหาเถรสมาคมด้วย หรือเรียกได้ว่าจะไม่มีการร่วมสังฆกรรม เพราะถือว่าวัดโพธิญาณไม่เชื่อฟัง ไม่อยู่ในโอวาทของวัดต้นสังกัด

    อย่างไรก็ตามสถานภาพของวัดจะยังคงอยู่ เพราะได้รับการอนุญาตจากทางประเทศออสเตรเลียแล้ว แต่หลังจากที่มีมติของคณะสงฆ์วัดหนองป่าพงออกไปวัดดังกล่าวก็จะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางฝั่งไทย

    นายอำนาจ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของพระธรรมทูตจากไทยหากต้องการที่จะไปจำพรรษาที่วัดโพธิญาณ ก็จะไม่ได้รับการอนุญาต ขณะเดียวกันทางสำนักงานพระพุทธศาสนาฯ จะมีการแจ้งไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศออสเตรเลีย ให้ทราบด้วย

    พระธรรมกิตติเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม กล่าวว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เจ้าอาวาสวัดเป็นถึงพระราชาคณะชั้นสามัญ ไม่น่าที่จะดำเนินการในเรื่องที่ขัดกับระเบียบของคณะสงฆ์แบบนี้ อีกทั้งวัดโพธิญาณ เป็นสาขาของวัดหนองป่าพง ซึ่งเป็นวัดที่ก่อตั้งโดยหลวงปู่ชา สุภัทโท ซึ่งเป็นพระสงฆ์ที่ได้รับการยอมรับว่าเคร่งครัดในเรื่องการปฏิบัติมากที่สุดรูปหนึ่งของประเทศไทยด้วย แต่กลับมีการกระทำที่ละเมิดระเบียบของคณะสงฆ์เสียเอง การกระทำของพระวิสุทธิสังวรเถร ถือว่าเป็นการละเมิดจริยาพระสังฆาธิการ เพราะไม่อยู่ในโอวาทของครู อาจารย์ที่เคยตักเตือนมาแล้ว

    ส่วนจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ต้องรอดูการพิจารณาของทางคณะสงฆ์วัดหนองป่าพงอีกครั้ง แต่เบื้องต้นทางมหาเถรสมาคมก็รับทราบมติของทางวัดหนองป่าพงแล้วว่าได้ถอดวัดโพธิญาณออกจากการเป็นวัดในสังกัดแล้ว

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์การอุปสมบทภิกษุณีที่วัดโพธิญาณ ได้มีผู้นำมาเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ alittlebuddha.com Homepage of Wat Thai Las Vegas U.S.A. โดยลงรายละเอียดว่า เกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนต.ค.2552 โดยมีการอุปสมบทให้กับผู้หญิงชาวต่างประเทศ 4 คน โดยมีภิกษุณีอยยา ทถาโลก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวิสุทธิสังวรเถร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสุชาโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดกับระเบียบของคณะสงฆ์ไทยเพราะได้มีพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ พ.ศ. 2471 ห้ามภิกษุสงฆ์ในประเทศไทยทำการอุปสมบทให้แก่สตรี และคำวินิจฉัยของมหาเถรสมาคมในการประชุมครั้งที่ 28/2527 และครั้งที่ 18/2530 ห้ามภิกษุสงฆ์ทำพิธีอุปสมบทให้สตรีเป็นภิกษุณี ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้ววัดโพธิญาณ ละเมิดระเบียบ บวชให้ภิกษุณี - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  2. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    - -* ยังไงกันละเนี่ย
     
  3. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ภิกษุณีอยยา ทถาโลก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระวิสุทธิสังวรเถร เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสุชาโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    แปลกๆ....บวชภิกษุณีเขาบวชกันอย่างนี้เหรอ....

    ไม่ใช่ภิกษุณีต้องบงช ๒ ครั้ง.....คือ คณะสงฆ์หนึ่งครั้ง คณะภิกษุณีอีกหนึ่งครั้ง.....ไม่ได้มีบัญญัติว่าบวชพร้อมกันในเวลาเดียวกัน.....

    อีกอย่างภิกษุณีในครุธรรม ๘ แม้บวชมาเป็น ๑๐๐ ปี ก็ต้องกราบพระสงฆ์ที่บวชแม้แต่วันเดียว.....อันนี้ หลวงแม่เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสงฆ์เป็นกรรมวาจา และ อนุสา.....คิดไม่ออกว่าท่านนั่งลำดับกันอย่างไร....แปลกๆ....น่าสนนะ.....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2009
  4. นายสาธิต

    นายสาธิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    409
    ค่าพลัง:
    +1,066
    เราคงวิจารณ์อะไรมากไม่ได้ เพราะท่านอยู่ในผ้าเหลือง ต้องให้สงฆ์จัดการสงฆ์เอง เราศาสนิกชนที่ดี ต้องทำความสงบสืบต่อไป
     
  5. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    [​IMG]
    พระอาจารย์พรหมวังโส
    .................................................................................................


    วัดโพธิญาณ (Bodhiyana Monastery)
    ประเทศออสเตรเลีย

    Bodhinyana Monastery
    Lot 1, Kingsbury Drive,
    Serpentine 6125, WA, Australia
    www.bswa.org

    Bodhivana Monastery
    780 Woods Point Road,
    East Warburton, VIC 3799, Australia

    พระวิสุทธิสังวรเถร หรือพระอาจารย์พรหมวังโส
    (Ven. Ajahn Brahmavamso) เจ้าอาวาส

    ท่านเป็นศิษย์พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง)
    โดยท่านเป็นชาวอังกฤษ-ออสเตรเลีย เดินทางจากประเทศออสเตรเลีย แล้วมาบวชกับหลวงพ่อชา

    ..........................................................................................


    ความเสื่อม เริ่มมาเยือน



    .
     
  6. MarkZilla

    MarkZilla เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +191
    พระพุทธองค์ได้ฝากพระศาสนาไว้กับบริษัท 4 แม้เป็นผู้ห่มผ้าเหลือง แม้นยังมิได้เข้าสู่กระแสแล้วไซร์ ก็ยังได้ชือว่าสมมุติสงฆ์เท่านั้น ศาสนาไม่มีวันเสื่อม มีแต่คนเท่านั้นที่เสือม
     
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    18,714
    ค่าพลัง:
    +43,529
    สมมติสงฆ์.....
     
  8. มนต์ชัยIM

    มนต์ชัยIM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +473

    ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดสมมติสงฆ์คือพระสงฆ์ที่มีอยู่ทั่วไปในปัจจุบ้น

    ส่วนพระสงฆ์จริงๆจะต้องเกิดจากพระพุทธเจ้าท่านบวชให้เองและพระสงฆ์ท่านนั้นต้องบรรลุธรรมไม่น้อยกว่าโสดาบัน

    ไม่แน่ใจว่าผมเข้าใจถูกหรือเปล่านะครับ ถ้าผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วย...
     
  9. ryback

    ryback สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +6
    เห็นด้วยอย่างสูงครับ ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงอนุญาติให้มีภิกษุณี ทั้งพระนางมหาปชาบดี โคตมี(มีศักดิ์เป็นพระน้าของพระพุทธเจ้า) ทูลขอบรรพชา ถึง ๓ ครั้งพระพุทธองค์ก็ยังทรงตรัสห้าม และพระอานนท์ทูลขอ ถึง ๓ ครั้งพระพุทธองค์ก็ยังทรงตรัสห้ามว่า "ดูก่อนอานนท์! อย่าเลย ท่านอย่าพอใจอนาคาริยะบรรพชาของมาตุคามในพระธรรมวินัยอันตถาคตประกาศแล้วเลย" (อย่าพอใจในการออกบวชของสตรีในศาสนาพุทธ)

    พระพุทธองค์ตรัสให้เหตุว่า "การที่มีสตรีมาบวชในพระพุทธศาสนา จะำทำให้พระธรรมวินัยตั้งอยู่ไม่ได้นานเท่าที่ควร"

    ที่มา : พระไตรปิฎก ฉบับประชาชน
    ก็คงเพราะทั้ง ชายและหญิงต่างดึงดูดซึ่งกันและกันนั่นเองครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2009
  10. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    พระสงฆ์จริงๆ...นับแต่พระอริยเจ้า...ขั้นพระโสดาบันขึ้นไป.....ไม่ว่าท่านผู้นั้นจะอยู่ในเพศใหน....

    จริงๆแล้วไม่ได้จำกัดว่าพระพุทธเจ้าทรงบวชให้เท่านั้นครับ.....หมายเอาอริยมรรคอริยผลเป็นหลัก......
     
  11. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    คือบางครั้งก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน....สื่ออาจลงหนักไปก็ได้......

    แต่ถ้าเป็นมติ.....ของคณะสงฆ์...จากหนองป่าพงจริง......แสดงว่ามีมูล.......

    อย่างไรไม่ตั้งใจว่าจะปรามาสพระสงฆ์......พุทธศาสนิกชนมีหน้าที่สอดส่อง.....จะหลับหูหลับตาตลอดมันก็ไม่ควร.....พระสมัยนี้.....นอกจากพระธรรมวินัยแล้ว.....ยังต้องยึดถือระเบียบคณะสงฆ์และกฏหมายอีก.....๓ ขั้น.....อย่างไรถ้าดูไม่ผิดจากพระธรรมวินัย....ก็ต้องดูว่าผิดคณะสงฆ์ใหม....ส่วนใหญ่ไม่ต้องไปดูกฏหมายเพราะ ๒ อันแรกครอบคลุม.....

    ถ้าทำถูกต้องตามพระธรรมวินัยว่าไว้....ก็ไม่ผิด....แต่ถ้าไม่ถูกต้องตามคณะสงฆ์นั้นก็ไม่ควร.....

    แต่ถ้าตามที่ข่าวลง....บวชอย่างนั้น...คาดว่าจะผิดจากพระธรรมวินัยได้โดยตรง....เพราะพิธีการบวชน่าจะผิดแล้ว......อย่างไรก็ให้ผู้ที่รู้พระวินัยปิฏกช่วยเกลาแล้วกันครับ(ผมอาจจะผิดก็ได้)......ผู้ที่รู้พระไตรจริงๆสมัยนี้มีน้อย....แม้สงฆ์เองก็มีน้อย.....ช่วยกันครับ.....

    ไม่ได้กีดกันไม่ให้มีภิกษุณี....แต่ถ้าถูกต้องตามพระธรรมวินัย....ก็พร้อมที่จะสนับสนุนครับ....
     
  12. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    [​IMG]


    เมืองไทยก็บวชสามเณรี....ปีนี้รอบ ๓ แล้วนะครับ......

    มส. ก็ยังไม่ทำอะไร....ไม่สอดส่องไม่ไปดูแลสักนิด....ว่าถูกไม่ถูกตามพระธรรมวินัย...มัวแต่กีดกัน....อีกหน่อยอาจมากกว่าสามเณรี...แล้วพอถึงตอนนั้นก็โวยวายอย่างนู่นอย่างนี้...อันนี้ก็จะมาว่ากันก็ยากอีกนะครับ.....
     
  13. toomdoi

    toomdoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +839
    พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะบวชภิกษุณีได้
    ท่านไม่อนุญาตให้พระสงฆ์บวชภิกษุณี

    ความเสื่อมของพระพุทธศานา มาเยือนแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 25 ธันวาคม 2009
  14. centuar

    centuar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    151
    ค่าพลัง:
    +178
    เรื่องนี้น่าจะกิจของสงฆ์ของแท้ๆ
     
  15. smile072

    smile072 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +461
    ได้รับรู้ ได้รับฟังแล้วรู้สึกเศร้าใจ หดหู่ใจ เพราะเห็นความเสื่อมลงของพระศาสนา แล้วเราจะเรียกขานกลุ่มคนเรานี้ว่าอะไรเพราะว่าไม่มีบัญญัติในพระไตรปิฎก การที่จะอ้างเอาว่าพระพุทธองค์ได้ทรงบัญญัติไว้ว่าให้ละเว้นอธิกรณ์บ้างข้อได้แต่คงมิใช่หมายถึงข้อที่เป็นหลักใหญ่อย่างเช่นการบวชแน่ แล้วการเลียนแบบการบวชแบบนี้ทำพิธีการเหมือนกันแต่ไม่ถูกต้องตามหลักวินัยของสงฆ์แล้วเราจะจัดกลุ่มคนเหล่านี้เป็นภิกษุณีได้หรือแล้วพระสงฆ์ที่ทำสังฆกรรมด้วยในพิธีจะต้องอาบัติข้อใดบ้างหรือนี้คือพุทธทำนายถึงความเสื่อมของพระพุทธองค์
     
  16. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    การบวชภิกษุณีนั้นต้องบวชจากสงฆ์สองฝ่าย คือ บวชจากฝ่ายนางภิกษีณีก่อน แล้วจึงนำนางที่บวชจากนางภิกษุณีนั้นมาบวชในฝ่ายภิกษุอีกครั้งนึง กรรมนั้นจึงจะสำเร็จ ผู้ถือบวชนั้นจึงจะนับได้ว่าเป็นภิกษีณีโดยสมบูรณ์

    แต่ภิกษุณีในฝ่ายเถรวาทนั้นได้หายสาบสูญไปหมดสิ้นไปนานนับพันปีแล้ว
    จึงไม่มีภิกษีณีสงฆ์สืบทอดต่อมา การให้อุปสมบทแก่นางภิกษุณีในปัจจุบันของฝ่ายเถรวาท จึงไม่สมบูรณ์ ความไม่สมบูรณ์นั้นก็นับว่ายังไม่สามารถเป็นภิกษุณีได้

    แม้จะอ้างอย่างไรก็ตาม หลักฐานที่ปรากฎก็ชัดอยู่แล้วว่า ภิกษุณ๊สงฆ์ฝ่ายเถรวาทไม่มีการสืบต่อเชื้อสายมานับพันๆปีแล้ว ใยต้องฝืนให้เหนื่อยเปล่า

    หากเชื่อเรื่องการฝึกจิตการพ้นจากอำนาจของกิเลสได้จึงจะนับว่าเป็นพระแท้ ใยต้องขวัญขวายที่จะลื้อฝื้นสิ่งที่ไร้เชื้อไร้วงค์ขึ้นมาอีก

    หรือที่แท้แค่อยากดูยิ่งใหญ่ในสายตาคนทั้งโลก ว่าข้านี่แหละคือภิกษุณี

    ในเมื่อกล่าวว่ารักธรรมก็จงปฏิบัติธรรม ธรรมย่อมไม่นำคนผู้ปฏิบัติให้มักใหญ่ใฝ่สูง ให้ทะเยอทะยานอยาก ธรรมย่อมนำให้สุขสงบเย็น แม้จะนุ่งผ้าขาวผ้าเหลืองผ้าลาย หากหมดกิเลสก็ตายอย่างสงบเย็น สาธุ ขออนุโมทนา


    แต่ เมื่อศิษย์ผิด ก็อย่ากล่าวโยงใยไปถึงผู้เป็นอาจารย์ในด้านเสีย หากกล่าวโยงใยโจมต่ถึงอาจารย์ทั้งๆที่ท่านไม่ได้รู้เรื่องอันใดด้วยเลยแล้ว กรรมจะตามทันความวุ่นวายจะมากขึ้นอีก

    พระเทวทัตบวชกับใครหรือ ยังชั่วได้ ยังผิดศีลผิดวินัยผิดธรรมได้ หากศิษย์ผิดแล้วอาจารย์และหมู่คณะต้องผิดตามดังข่าวที่กล่าวมาเชิงลบหลู่นั้นแล้ว

    แม้พระพทธองค์ก็คงผิดตามไปด้วยกระมัง

    กรรมที่ทำนั้นผู้ใดทำผู้นั้นได้รับผล หาใช่ผู้อื่นเลย โปรดระวังการแสดงความคิดเห็นเสียให้มาก อย่าพูดพล่อยๆให้เสียตนเองเลย สาธุ
     
  17. ผู้พันจุ่น

    ผู้พันจุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,397
    ค่าพลัง:
    +2,985
    เป็นพระก็ไม่ใช่ที่เครื่องแบบที่นุ่งห่ม แต่โลกเขาที่ไม่เข้าใจก็มี.......อย่างน้อย ให้สตรีมีที่ยืนอย่างมีศักดิ์ศรีในสังคมบ้าง ยังดีกว่าไม่มีที่ไป หรือไปอยู่ในที่แคบ ๆ ห้องทีบ ๆ สังคมไม่เห็นคุณค่า..............

    อีกอย่างจะให้แก้กฎหมาย หรือให้ ชี มีโอกาสที่จะบิณฑบาตรเลี้ยงชีพได้อย่างสงฆ์ เราก็ไม่ต้องเจอปัญหานี้......สันติอโศก เขาก็นุ่งห่มสีคล้ายพระสงฆ์ ไม่เห็นมีใครดำเนินคดีได้

    ปล่อยให้เป็นเรื่องของสงฆ์ ก็ดูอย่างวัดโสธรวราราม...........ถ้ากรมศาสนาเข้ามาจัดระเบียบรายได้เข้าคลังหลวงทั้งหมด รับรองได้เลย ไม่มีการวิ่งเข้ามาแย่งกันเป็นเจ้าหรอก เชื่อไหม.?.............เห็นปัญหากันอยู่ปล่อยให้เป็นเรื่องของสงฆ์ พวกเราก็อาจไม่ได้เห็นพระอริยะสงฆ์อีกต่อไปในอนาคต กลายเป็นนักบวชคืออาชีพหนึ่งในอนาคต แล้วเวลานั้นจะมาตะโกนอย่างไร ก็ไม่มีใครฟัง.........เป็นผลประโยชน์หมดแล้ว...... ฆราวาสอย่ายุ่ง ...............อย่าเสื.....นี้เป็นเรื่องของสงฆ์ เดี๋ยวก็สาปลงนรกซะหรอก ........

    ดูเดี๋ยวนี้ก็ได้ เงินหลวงพ่อเจือหายไป 2,000,000 บาท ตอนป่วย แล้วขณะนี้ปิดประตูห้ามเข้า จะตรวจสอบยอดกันอีก ....................เท่าไหร่ เจ้าข้าเอ๊ย....ปล่อยวางกันเข้าเถอะ............ทุกวันนี้หาพระกราบไหว้เหลืออีกสักกี่รูป อยากรู้ไหม....?
     

แชร์หน้านี้

Loading...