อเมริกา กำลังจะล้มละลายภายใน 3 ปีนี้ี เพื่อชดใช้กรรมแล้ว (แต่การทหารยังคงแข็งแกร่ง)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Premsuda (May), 14 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. Premsuda (May)

    Premsuda (May) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +646
    ชำแหละฐานะการเงิน "มหาอำนาจ" บ่วงหนี้จะฉุด "สหรัฐอเมริกา" ล้มละลาย

    วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4141 ประชาชาติธุรกิจ
    ขอบคุณพี่ Jimmy Siri : ผู้แปลและเรียบเรียง

    [​IMG]

    อาจจะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ชาวอเมริกันกลุ่มหนึ่งในนาม "เอ็มพลอยเมนต์ โพลิซี อินสติติวต์" ออกรณรงค์อย่างครึกโครม
    เพื่อกระตุ้นเตือนให้รัฐบาลสหรัฐตระหนักถึงระดับหนี้ของประเทศที่กำลังพุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องผ่านสื่อทุกช่องทาง
    ทั้งเปิดเว็บไซต์และโฆษณาชุดทางทีวีให้ "สาร" ของพวกเขาอยู่ในสายตา และการรับรู้ของรัฐบาลและผู้นำประเทศ

    [​IMG]

    จากนั้นข้อมูลใหม่ของเวิรลด์อีโคโนมิกฟอรั่ม ซึ่งเผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์ก่อน ได้ตามมาช็อกความรู้สึกโดยได้จัดสหรัฐอยู่ใน
    กลุ่มประเทศที่มีความไร้เสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากที่สุด โดยอยู่อันดับ 93 จาก 133 ประเทศ
    (จากการพิจารณาเกณฑ์ด้านเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหภาค) โดยชี้จุดอ่อนไปที่การสร้างความไม่สมดุลของเศรษฐกิจ
    มหภาคขนาดใหญ่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การขาดดุล งบประมาณซ้ำซากจนทำให้ระดับหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย
    จนถึงหนี้ส่วนบุคคลที่พุ่งขึ้นสวนทางอัตราการออมที่อยู่ในระดับต่ำ

    [​IMG]

    "ประชาชาติธุรกิจ" ได้รวบรวมข้อมูลจากข่าว บทวิเคราะห์ และข้อมูลผลสำรวจจากสำนักข่าว หนังสือพิมพ์ และเว็บบล็อกต่างๆ
    อาทิ ฟอกซ์นิวส์ นิวยอร์ก ไทมส์ บลูมเบิร์ก และอื่นๆ เพื่อตรวจสอบฐานะการเงินของสหรัฐ

    [​IMG]

    โดยนับจากสิ้นปีงบประมาณ 2551 สิ้นสุดเมื่อ 30 กันยายนปีที่แล้ว ระดับหนี้ประเทศของสหรัฐยืนอยู่ที่ 9.6 ล้านล้านดอลลาร์
    ถือเป็นตัวเลขที่สูงกว่าระดับรายได้ต่อหัวโดยเฉลี่ยของชาวอเมริกันถึง 250 ล้านเท่า หรือแม้แต่นำสินทรัพย์
    ของมหาเศรษฐี 400 อันดับในทำเนียบฟอร์บสมารวมกันก็มีมูลค่าไม่ถึง 15% ของตัวเลขหนี้นี้ (Business, Economics, Culture, and More — The American, A Magazine of Ideas)

    [​IMG]

    เมื่อนำระดับหนี้ประเทศของสหรัฐมาเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) แล้ว พบว่ามีสัดส่วนประมาณ 60.8%
    ของจีดีพีอยู่ในระดับใกล้เคียงกับฝรั่งเศส และแคนาดา ซึ่งมีสัดส่วนหนี้ประเทศต่อจีดีพีอยู่ที่ 68.1% และ 63.8% ตามลำดับ
    ตรงข้ามกับอิตาลีที่มีระดับหนี้ประเทศมากกว่า 100% และญี่ปุ่น ที่มีระดับหนี้ประเทศมหาศาลถึง 173% ของจีดีพี

    [​IMG]

    ในเอเชียหากพิจารณาระดับหนี้ประเทศของเศรษฐกิจเกิดใหม่ดาวรุ่ง "จีน-อินเดีย" พบว่า อินเดียมีสัดส่วนหนี้ประเทศ
    สูงกว่าจีนมาก โดยอยู่ที่ 61.3% ขณะที่จีนมีสัดส่วนหนี้ประเทศต่อจีดีพี 16.2%

    [​IMG]

    เมื่อลงลึกในรายละเอียดหนี้ในสหรัฐพบว่า ณ สิ้นปีงบประมาณ 2551 ระดับหนี้สาธารณะของสหรัฐอยู่ที่ 41% ของจีดีพี
    หรือ 5.8 ล้านล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะเพิ่มเป็น 60% หลังปีงบประมาณ 2553 อันเป็นผลมาจากการขาดดุลงบ
    ประมาณที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นมากในปีงบประมาณ 2552 หรือ ประมาณ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์

    [​IMG]

    นับจากเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการในช่วงต้นปี 2552 บารัก โอบามา ได้จัดทำแผนต่างๆ
    ทั้งเพื่อนำพาเศรษฐกิจพ้นภาวะถดถอยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบมากกว่า 50 ปี และปฏิบัติตามคำมั่นสัญญา
    ในช่วงรณรงค์หาเสียง ซึ่งล้วนแต่จำเป็นจะต้องใช้จ่ายเงินจำนวนมาก อาทิ แผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 7.87 แสนล้านดอลลาร์
    แผนให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ ตลอดจนข้อเสนอปฏิรูประบบสวัสดิการดูแลสุขภาพที่
    ประเมินว่าต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์

    [​IMG]

    ปัจจุบันหนี้สาธารณะที่รัฐบาลเป็นผู้ก่อนั้น ส่วนใหญ่เป็นหนี้ที่อยู่ในมือของรัฐบาลต่างชาติ โดยนับถึงเดือนมกราคม 2552
    พบว่า จีนถือครองหนี้สหรัฐในรูปของพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้อื่นๆ เอาไว้ประมาณ 24.07% รองลงมาคือ
    ญี่ปุ่น 20.66% ที่เหลือกระจายอยู่ในมือของรัฐบาลอินเดีย เม็กซิโก สิงคโปร์ และโปแลนด์ ในสัดส่วนมากกว่า 1%
    ขณะที่สวิตเซอร์แลนด์ ฮ่องกง ไต้หวัน และลักเซมเบิร์ก อยู่ที่สัดส่วนมากกว่า 2% สำหรับประเทศที่ถือ
    ครองหนี้สหรัฐมากกว่า 3% ได้แก่ รัสเซีย 3.89% อังกฤษ 4.04% บราซิล 4.35% และอื่นๆ อีกเกือบ 12%

    นอกเหนือจากปัญหาหนี้สาธารณะแล้ว ระดับหนี้ส่วนบุคคลของชาวอเมริกันได้เพิ่มเป็นมากกว่า 13 ล้านล้านดอลลาร์
    หรือราว 124,000 ดอลลาร์ต่อครัวเรือน อันเนื่องมาจากใช้จ่ายส่วนบุคคลต่อหัวที่เพิ่มขึ้นในอัตราเฉลี่ย 25%
    ระหว่างปี 2546-2548 แบกหนี้กว่า 6 หมื่นดอลลาร์/คน

    เว็บไซต์ examiner.com ได้โฟกัสไปที่แนวโน้มปัญหาหนี้ โดยเฉพาะหนี้ประเทศ พบว่ามีแต่จะเพิ่มขึ้น โดยสำนักงบประมาณ
    ประจำรัฐสภาสหรัฐ คาดการณ์ว่าระดับหนี้ประเทศของสหรัฐมี แนวโน้มจะเพิ่มขึ้นไปที่ระดับระหว่าง 18-23 ล้านล้านดอลลาร์
    ในอีก 10 ปีข้างหน้า หรือภายในปี 2562

    ปัจจุบันสหรัฐมีประชากรราว 300 ล้านคน แนวโน้มของหนี้ 19 ล้านล้านดอลลาร์ในอีก 10 ปีข้างหน้า หมายความว่า
    ในอนาคต ชาวอเมริกันแต่ละคนจะแบกหนี้ไว้บนบ่าประมาณ 63,333 ดอลลาร์

    ที่น่าสนใจคือ นอกจากภาระหนี้ในอนาคตที่ต้องร่วมรับผิดชอบแล้ว ผู้เสียภาษีชาวอเมริกันยังต้องร่วมรับภาระดอกเบี้ยจากการ
    ก่อหนี้ประเทศเพิ่มขึ้น 19 ล้านล้านดอลลาร์ ใน 10 ปีข้างหน้าอีกประมาณปีละ 9.50 แสนล้านดอลลาร์

    หากรัฐบาลสหรัฐต้องการระดมเงินทุนมาเพื่อใช้หนี้ดังกล่าวจะต้องยอมจ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้น
    (จากระดับที่สามารถชำระได้ที่อัตรา 5%) ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าเฉพาะภาระใช้จ่ายในการชำระเฉพาะในส่วนดอกเบี้ย
    จะเพิ่มขึ้นเป็น 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี

    ความเสี่ยงประการหนึ่งของปัญหาหนี้ท่วมในสหรัฐ คือ มีโอกาสสูงที่สหรัฐจะถูกลดชั้นอันดับเครดิตประเทศ
    โดยก่อนหน้านี้บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินเคยขู่ที่จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินของ
    ตราสารหนี้สหรัฐ ทั้งนี้หากอันดับหนี้ของสหรัฐตกชั้นจากระดับปัจจุบันที่ AAA ก็จะก่อผลกระทบตามมา อาทิ
    การลดค่าอย่างรวดเร็วของดอลลาร์สหรัฐ และการถูกบีบให้จ่ายดอกเบี้ยแพงขึ้นเนื่องจากโอกาสเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้มีสูงขึ้น



    สู่วงจร "เงินต่อเงิน" แก้ปัญหา

    ผลพวงของการก่อหนี้อย่างมหาศาลของสหรัฐ นำมาซึ่งคำถามสำคัญว่า สหรัฐจะสามารถสะสางปัญหาอันมากมายนี้ได้อย่างไร

    ศาสตราจารย์นูเรียล รูบินี นักเศรษฐศาสตร์จากวิทยาลัยธุรกิจสเติร์น แห่งมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ตั้งข้อสังเกตว่า สหรัฐอยู่ใน
    วงจรของการกู้ยืมเพื่อใช้จ่ายและเพื่อชำระดอกเบี้ย ที่ได้ก่อหนี้เอาไว้

    รูบินีระบุว่า แม้แนวทางการกู้ยืมและใช้จ่ายของรัฐบาลสหรัฐจะเป็นสิ่งจำเป็น แต่ผลกระทบของการดำเนินนโยบายของรัฐบาลก็
    ก่อผลกระทบทางการคลังตามมาอย่างร้ายแรง โดยอธิบายว่า แม้การดำเนินนโยบายการคลังในลักษณะนี้จะเพื่อเป้าหมายของ
    การอยู่รอด แต่ก็เป็นการอยู่รอดที่มีต้นทุนเพราะทำให้หนี้สาธารณะต่อ จีดีพีของประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า ระหว่างปี 2551-2557
    โดยจะเพิ่มจาก 40% เป็น 80% หากพิจารณาหนี้สะสมที่จะเกิดขึ้นประมาณ 9 ล้านล้านดอลลาร์ ประกอบกับภาระในการ
    ชำระดอกเบี้ยอีกราว ปีละ 3-4 แสนล้านดอลลาร์ หมายความว่า รัฐบาลอาจจะต้องกู้ยืมเงินมากขึ้นเพื่อชำระดอกเบี้ยด้วย
    หากหนี้ก้อนแรกไม่ได้ลดลงเลย

    เขาเตือนว่า เมื่อใดก็ตามที่รัฐบาลเดินไปถึงจุดที่ต้องกู้ยืมเงินมาจ่ายดอกเบี้ยให้กับเงินที่ก่อหนี้มา หมายความว่า
    รัฐบาลกำลังเข้าใกล้การบริหาร "แชร์ลูกโซ่ของหนี้ประเทศ" ที่อันตราย ซึ่งที่ผ่านมาแชร์ลูกโซ่มักลงเอยด้วยความทุกข์เสมอ
    ดังนั้นหากรัฐบาลต้องการจะหลุดพ้นจากกับดักแชร์ลูกโซ่ ก็ต้องตัดสินใจเลือกดำเนินนโยบายการคลังทางใดทางหนึ่ง
    ได้แก่ ขึ้นภาษี หรือลดการใช้จ่าย หรือพิมพ์เงินออกมาเพื่อชำระหนี้ หรือทำทั้งสามทางเลือกพร้อมๆ กัน



    คำทำนายสหรัฐล่มสลาย

    ในขณะที่ยังไม่มีใครคาดเดาได้ว่า สหรัฐจะสามารถเลือกแนวทางใดในการสะสางปัญหาหนี้ รวมถึงจะเดินถึงทางตันของ
    การแก้ไขปัญหาหนี้ท่วมหรือไม่ มีนักเศรษฐศาสตร์รัสเซีย ซึ่งเป็นอดีตนักวิเคราะห์ของกลุ่มสายลับเคจีบี ชื่อ อิกอร์ ปานาริน
    ทำนายว่า เศรษฐกิจอันดับหนึ่งของโลกจะล่มสลายในอีก 2 เดือนข้างหน้า

    เขาทำนายเมื่อ 6 กันยายน ระหว่างเปิดตัวหนังสือ The Crash of America โดยระบุว่า ความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะหายไป
    ภายในเดือนกรกฎาคม 2553 มีมากกว่า 50% และ ที่สุดแล้วการล่มสลายของสหรัฐจะนำไปสู่การแบ่งแยกออกเป็น
    6 ดินแดนขนาดใหญ่

    ปานารินเคยทำนายอนาคตของสหรัฐมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยครั้งแรกมีขึ้นในเดือนกันยายน 2541 โดยครั้งนั้นทำนายว่า
    จะเกิดการล่มสลายทางเศรษฐกิจและศีลธรรมจนนำไปสู่สงครามกลางเมืองที่ทำให้ประเทศนี้เดินสู่จุดจบ




    ที่มา
    ---http://www.prachachat.net/view_news.php?newsid=02edi01170952&sectionid=0212&day=2009-09-17
    ---http://www.goldhips.com/board/viewtopic.php?t=1753&postdays=0&postorder=asc&start=255
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2010
  2. com16

    com16 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2005
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +1,182
    ไม่ล้มง่ายๆ หรอกครับ
    <iframe src="http://writer.dek-d.com/robokobo/writer/view.php?id=579675" style="display: none;">
    </iframe>
     
  3. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    622
    ค่าพลัง:
    +1,368
    เศรษฐกิจ พรรคแดงคอมมิวนิสต์ ก็ล่มสลายเพราะขัดต่อหลักธรรมชาติ
    เศรษฐกิจ แบบทุนนิยมก็ล่มสลาย เพราะทำลายสมดุลธรรมชาติ
    เศรษฐกิจ พอเพียงเท่านั้น ที่สามารถทำให้ทุกคนอยู่่รอดได้ แม้ไม่รวย สังคมก็จะประคับประคองไม่ให้ต้องลำบากมากเกิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2010
  4. fernezzo

    fernezzo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +616
    ถ้าอเมริกาล่มสลาย จะเกิดการควบรวม 3 ประเทศใหญ่ๆในอเมริกาคืออเมริา แคนาดา และ เม็กซิโก เกิดเป็น North American Union ครับ ถ้าอเมริกาล้มเมื่อไหร่ เตรียมตัวได้เลยครับ เพราะนั่นหมายถึง Project End Game ได้เริ่มขึ้นแล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ NWO หรือ New world order
     
  5. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    ผมเชื่อว่าไม่ล้มหลอก ตราบใดที่อเมกายังมีมนุษย์อยู่ในประเทศ
     
  6. Tossaporn K.

    Tossaporn K. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,568
    ค่าพลัง:
    +7,749
    ต้องเข้าใจในเรื่องระบบการเงินแบบตลาดหุ้นที่ถูกสร้างขึ้นมาจากกลุ่มชาวยิว มันเป็นการลงทุนแบบเงินต่อยอดเป็นเงินคล้ายๆการพนันนอย่างหนึ่งซึ่เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสมก็จะเกิดหนี้เสียในระบบหุ้นมากมายแล้วสุดท้ายก็จะต้องพังครืนลงมา มันก็เป็นธรรมชาติของการพนัน พระพุทธองค์เราก็สอนชัดเจนว่าการพนันเป็นอบายมุขเป็นหนทางลงสู่ความวิบัติ อย่าไปคิดมากครับมันก็เป็นธรรมชาติเช่นนั้นเอง
     
  7. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +4,562
    มี ดร.ชาวอินเดีย ทำงานที่นาซ่า เคยวิเคราะห์ลัทธิคอมมิวนิสต์จะล่ม แพ้ทุนนิยม ก็เป็นจริงมาแล้ว
    ครานี้แกวิเคราะห์ไว้นานแล้วว่าทุนนิยม จะล่มสลาย(ยังไม่เกิด)
    ผมวิเคราะห์ต่อว่า พอทุนนิยมล่มสลายแล้ว ทั้งโลกจะพากันใช้เศรษฐกิจพอเพียงเหมือนพี่ไทย และวันนั้น อเมริกาจะเรียกไทยว่า"พี่" ฮา
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    อเมริกาเขาแน่ แต่ปรปักษ์ของเขา ก็ไม่ได้ขี้ๆ นะครับ
    ของบนโลกล้วนอนิจจัง ทุกอย่างมี "คู่ปรับ" หยินหยางกัน



    ที่ว่าแน่ ก็ตายกันมามากแล้ว...
     
  9. หลวงจีน

    หลวงจีน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    861
    ค่าพลัง:
    +1,326
    อเมริกา เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์เอง คงไม่ง่ายนักที่จะล้มละลาย ต้องหาทางหนีทีไล่ไว้แล้ว
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746


    เหนือฟ้ายังมีฟ้า
    เหนืออเมริกายังมีขั้วโลก



    สรรพสิ่งมี "คู่ตรงข้าม" กันอยู่
    จะแน่แค่ไหน ก็ไม่พ้นอนิจจัง
     
  11. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    เหนืออเมริกาเป็นเเคนาดา อ่ะคะ
     
  12. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +1,919
    เป็นแผนไว้ end game หรือเปล่านะ ?

    คือเค้าจะใช้วันนี้เป็นวัน End Gameหรือปิดเกมส์หรือแผนการที่เค้าวางกันมาเป็น 100 ปีครับหรืออาจจะเป็นวันที่สงครามโลกครั้งที่ 3 เปิดฉากอย่างเป็นทางการครับอาจะเป็นวันที่มีการกดระเบิดของหลายๆ ประเทศพร้อมๆกันเพื่อทำลายล้างฝ่ายตรงข้ามครับแต่จะขอกลับมาที่ปัจจุบันก่อนที่จะไปถึงตรงนั้นครับเท่าที่ผมมีข้อมูลผมเรียงตารางเวลาหรือ Time Line ไว้จากวันนี้ไปจนถึงปี2012 คือเหตุการณ์หลักๆ ส่วนใหญ่เลยจะไปอยู่ที่ปลายปี 2011 ครับ ภายใน 2-3ปีข้างหน้า คุณจะเห็น.......


    1.ดอลล่าอินเด็กซ์หรือ USDX จะร่วงลงอย่างต่อเนื่องในลักษณะทรงและทรุด" เท่านั้น" จะมีการ Rally หรือดีดกลับบ้างเป็นช่วงๆแต่กระแสหลักคือทรงและทรุดเหมือนเดิมแต่ถ้ามีการฆ่าตัดตอนหรือการตัดเกมส์เร็ว ในปลายปีหน้าหรือปี 2010 นี้จะมีการประชุมในระดับโลก เช่น G20 หรือใหญ่กว่าเพื่อลงมติประกาศ Abandonหรือทิ้งดอลล่าอย่างอย่างเปิดเผยและเป็นทางการครับ หรือ


    2.ถ้าไม่มีการฆ่าตัดตอน เงินดอลล่าอาจจะเสื่อมและล่มสลายภายใน 2-3 ปี ไม่ใช่8-10 ปีอย่างที่ชาติเจ้าหนี้ต้องการดึงกันไว้ครับ คนอเมริกันจะหมดสภาพหรืออยู่ในสภาพที่ทำอะไรไม่ได้เลย ทั้งจนลง ขาดแคลนอาหารจากภาวะเงินเฟ้อยิ่งยวด หรือ Hyper Inflation และอีกสารพัดปัญหาไม่ต้องรอดูหรอกครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นแล้วครับเพียงแต่คุณรู้หรือไม่เท่านั้นเอง ลองออกไปดูข้างนอกสิครับเพราะมีหลายคนได้ไปดูและไปเห็นมาแล้วครับ

    3.ตลาดหุ้นสหรัฐ มี 2 ความเป็นไปได้คือ หนึ่ง "ถ้า" (มีสารพัดเหตุผลให้ต้องมี ทั้ง FDIC, การล้มของรัฐต่างๆ ในทางงบประมาณ,การล้มของภาคการเงินการธนาคารต่าง) มี Stimulus Package 2หรือการปั๊มและอัดเงินเข้าสู่กลุ่ม Wall Street เป็นระลอกที่ 2จะทำให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นต่อไปอย่างต่อเนื่อง จะให้เป็นเท่าไหร่ก็ได้"แต่ทั้งหมดเป็นกับดักครับ" หรือสอง ถ้าไม่มี Stimulus 2เราจะได้เห็นการล้มของตลาดหุ้นสหรัฐในอีกไม่นานครับและทรงกับทรุดไปเรื่อยๆ จนถึง 4,800-3,500-2,500-1,500 จุด ในที่สุดแต่ทางเลือกนี้ ไกเนอร์ออกมาปฏิเสธบ่อยมากก็คือเค้าเอาจะเลิกเร่งเกมส์ให้สั้นเข้ามา


    4.ราคาทองคำ เงิน น้ำมัน ทองแดง และโภคภัณฑ์ต่างๆจะพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเสื่อมค่าลงของระบบเงินกระดาษหรือPaper Currency พร้อมๆ กันทั่วโลก เราจะเห็นการทำ New High เหนือ New Highของสินค้าโภคภัณฑ์เหล่านี้เป็นเรื่องปกติไปเลย โดยเฉพาะทองคำและน้ำมันราคาจะพุ่งขึ้นในอัตราเร่งที่สูงมากครับเตรียมพร้อมไว้ได้เลย
     
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    โลกคือละคร แบ่งเป็นตอนๆ ตัวละครคือคนทุกคน
    ........ฉากสุดท้าย นั้นคือ "ความจริง"

    ....................................................


    <TABLE id=AutoNumber1 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD class=ms_menublack width="20%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD class=ms_menublack width="20%">เพลง </TD><TD class=ms_menublack>โลกนี้คือละคร</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE id=AutoNumber2 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD class=ms_menublack width="20%">ศิลปิน </TD><TD class=ms_menublack>สุเทพ วงศ์กำแหง</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE id=AutoNumber3 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#111111 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" border=0><TBODY><TR><TD class=ms_menublack width="20%">รหัสเพลง </TD><TD class=ms_menublack>09124</TD></TR></TBODY></TABLE>​


    โลกนี้คือละคร

    สุเทพ วงศ์กำแหง
    ....................................................


    ..โลกนี้นี่ดูยิ่งดูยอกย้อน เปรียบเหมือนละคร
    ถึงบทเมื่อตอน เร้า ใจ
    ...บทบาทลีลาแตกต่างกันไป
    ถึงสูงเพียงใด ต่างจบลงไป เหมือน กัน
    ...เกิดมาต้องตาย ร่างกายผุพัง
    ผู้คนเขาชัง คิดยิ่งระวัง ไหว หวั่น
    ...ต่างเกิดกันมาร่วมโลกเดียวกัน
    ถือผิวชังพรรณ บ้างเหยียดหยันกัน เหลือเกิน
    ...โลก นี้ คือละคร บทบาทบางตอน
    ชีวิตยอกย้อน ยับเยิน
    ...ชีวิตบางคนรุ่งเรืองจำเริญ แสน เพลิน
    เหมือนเดินอยู่บนหนทางวิมาน
    ...โลกนี้นี่ดู ยิ่งดูเศร้าใจ
    ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไป เหมือน ม่าน
    ...เปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ
    ครั้นแล้วไม่นาน ปิดม่านเป็น ความเศร้าใจ
    โลกนี้นี่ดู ยิ่งดูเศร้าใจ
    ชั่วชีวิตวัย หมุนเปลี่ยนผันไป เหมือน ม่าน
    ...ปิดฉากเรืองรองผุดผ่องตระการ
    ครั้นแล้วไม่นาน เปิดม่านเป็น ความเศร้าใจ


    http://music.forthai.com/music/lyric/?sid=9124
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,752
    ค่าพลัง:
    +1,746
    เพลง : ละครฉากสุดท้าย
    ศิลปิน : retrospect
    เนื้อเพลง :


    โลกคือละครแบ่งเป็นตอน ๆ ตัวละครคือคนทุกคน
    บทในละครอาจจะยอกย้อนยุ่งยาก

    ฉากแห่งความงดงาม ฉากแห่งความเสียใจ
    ต่างมีไว้ให้เราฝึกฝน

    เกิดมาเป็นคนยากดีมีจน ความเป็นคนเรามีเท่าไร
    อยู่ในละครอาจจะซับซ้อนหรือง่าย
    แต่จะเป็นเช่นไรจะเป็นตอนของใคร
    ฉากสุดท้ายนั้นคือความจริง

    *ไม่เว้นทั้งเลวและดี ทั้งมั่งมีหรือยากจน
    สิ่งเดียวที่เราทุกคนแน่ใจ
    คือฉากสุดท้าย
    ฉากสุดท้ายต้องตายทุกตัวละคร

    อยู่ในละครอาจจะซับซ้อนหรือง่าย
    แต่จะเป็นเช่นไรจะเป็นตอนของใคร
    ฉากสุดท้ายนั้นคือความจริง
    *

    ฉากสุดท้ายต้องตายทุกตัวละคร


    http://lyrics.ohozaa.com/?search=retrospect&search_song=ละครฉากสุดท้าย
     
  15. m@c

    m@c เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +2,435
    ฮา........ จริงด้วยค่ะ...เราอยู่แคนาดาน่ะ
    ถ้าพี่กันแกจ่ายหนี้ไม่ได้ เราก็แย่เหมือนกัน
    ดีหน่อยรัฐบาลของเราคอนเซอร์เวทีฟ
    คือเน้นการเก็บออมมาก ระบบธนาคารก็ปึก
    เพราะแต่เดิม ๆ แคนาเดียนคือพวกโรยัลลิส
    ที่มีความคิดแตกต่างจากพวกอเมริกัน
    แล้วย้ายถอยร่นขึ้นมาอยู่ทางเหนือ
    ฉะนั้นนโยบายสร้างชาติจึงเน้นการเก็บออม
    ตามสายเลือด อังกฤษ และ สกอตฯ (ไฮแลนเดอร์)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กุมภาพันธ์ 2010
  16. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,756
    ค่าพลัง:
    +1,919
    น่าจะซักประมาณ 30-40 % นะครับเพราะบางใบก็ดูไม่มีความหมายอะไร

    ส่วนมากก็จะรวมเหตุการณ์ที่น่าจะเป็นไปได้ในน่าจะเกิดในอนาคต กับพวกเทคโนโลยีต่างๆ

    ลองดูการ์ดเกือบทั้งหมดได้ที่
    Illuminati NWO card game - Windows Live

    หรือ

    Albums - Today Perhaps 2.0

    ใน youtube
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=uwd43LJJ_T0&feature=related"]YouTube - Illuminati Card Game(330 cards) 1/2 Dark Stars[/ame]

    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=Q_OrpXz5d0Y&feature=related"]YouTube - Illuminati Card Game(330 cards) 2/2 Dark Stars[/ame]
     
  17. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
    ดอลล่าอินเด็กซ์ (USDX)......Update
    Lyndon Larouche กับความจริงวันนี้


    ถ้าพูดถึงเบื้องหลังการเมืองในระดับโลกก็คือสหรัฐ แต่ถ้าพูดถึงเบื้องหลังการเมืองสหรัฐต้องท่านนี้ครับ Lyndon Larouche นักการเมืองอาวุโส วุฒิสมาชิก และเป็นอดีตผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธบดีสหรัฐ วีดีโอนี้เค้าออกมาพูดแบบฟันธง ตรงไปตรงมาครับ ว่าโอบาม่าเป็นเพียง "British Empire Agent" หรือตัวแทนของจักรวรรดิ์นิยมอังกฤษ ที่มาปกครองประเทศบาบิโลนหรือสหรัฐอยู่ ณ เวลานี้ "ชัดเจนครับ" และประเด็นที่ร้อนแรง ณ เวลานี้คือ การตอบโต้ของจีนต่อสหรัฐในกรณีการขายอาวุธใต้หวัน และการกำหนดที่จะพบกับดาไล ละมะของปธน.โอบาม่า เรื่องนี้เป็นการเมืองระหว่างประเทศและในระดับโลกครับ แต่อาจจะส่งผลกับตลาดทองคำและเศรษฐกิจโลกอย่างคาดไม่ถึง


    ประเด็นคือจีนเป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุดของสหรัฐและของโลก ถือครองทรัพย์สินในสกุลดอลล่าเป็นอันดับ 1 ของโลก เป็นชาติที่เข้าประมูลซื้อพันธบัตรสหรัฐมากที่สุดสืบเนื่องมาจากการเกินดุลย์การค้าอย่างมหาศาลที่มีต่อสหรัฐ ก็คือถ้้าเมื่อไหร่ที่จีนหยุดซื้อตราสารเหล่านี้จากสหรัฐ สหรัฐก็คงลำบากครับโดยเฉพาะถ้าจำได้ในโพสต์ที่เพิ่งผ่านไปสดๆ เกี่ยวกัีบการที่สหรัฐต้องหมุนเงินถึง 3.5 Trillion ภายในสิ้นปี 2010 นี้ แค่หยุดซื้อนะครับ

    แต่สถานการณ์พัฒนาไปไกลกว่านั้นคือ มีการพิจารณาการขายพันธบัตรที่อยู่ในมือรัฐบาลจีนออกมาครับ เพื่อเป็นการตอบโต้ในกรณีของการขายอาวุธให้ใต้หวัน เอาเคสนี้ก่อน กระแสข่าวออกมาแล้วครับ ตามสไตล์จีน คือตรงไปตรงมาและแรง แล้วถ้าโอบาม่ายังยืนยันจะพบกับดาไล ลามะอีก ซึ่งมีการกำหนดวันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งน่าจะีมีอะไรตามมาครับ ผมมองในเชิงวิเคราะห์ว่าหมากตัวนี้ของพวก NWO อาจจะพุ่งเป้าไปที่ "ดอลล่า" และบางอย่างที่ไกลกว่านั้นครับ


    จากการเข้าช๊อตดอลล่าในปริมาณมหาศาลหรือจะเรียกได้้ว่าเป็นประมาณที่สูงสุดในรอบ 5 ปี โดยกลุ่ม Fat Boy หรือขาใหญ่ ซึ่่งก็คือมือทำงานทางการเิงินของรัฐบาลสหรัฐ โดยการนำของโกลด์แมน แซค ประกอบกับความเคลื่อนไหวของทั้งฝ่ายสหรัฐและจีนในเรื่องนี้ ดูแล้วคงไ่ม่ใช่ความบังเอิญครับ แล้วถ้าทางการจีนเริ่มเทตราสารเหล่านี้ออกมาสู่ตลาด ไม่ต้องมากครับ แค่พอให้เป็นข่าว ดอลล่าก็คงร่วงระนาวแล้ว ทองคำก็คงมีการเคลื่อนไหวไปในทิศทางใดทิศทางนึงอย่างแน่นอน


    แล้วถ้าเป็นไปในทิศทางนี้ และมีการขยายผลเป็นการ "ดั๊มพ์" หรือ "ทิ้ง" ตราสารเหล่านี้ออกมา เศรษฐกิจสหรัฐและเงินดอลล่า คงจะถึงเวลาเช็คบิลซักทีครับ แต่ปัญหาคือปรากฏการณ์นี้จะทำให้คนอเมริกันและสังคมโลกบางส่วนมองว่า จีนเป็นฝ่ายทำลายเศรษฐกิจและระบบการเงินสหรัฐ โดยเฉพาะคนอเมริกันเอง การเผชิญหน้าในระยะยาวน่าจะก่อตัวขึ้นครับ


    ฉะนั้นสิ่งที่น่าคิดคือบาบิโลนก่อเรื่องนี้ขึ้นมาทำไม กำลังคิดวางแผนอะไรอยู่ และยังคงดำเนินการต่อเนื่องอย่างไม่ลดละทั้งที่จีนพยายามประท้วงในเรื่องนี้อย่างหนัก ถึงขั้นที่หยุดการแลกเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางทหารลงแบบฉับพลัน และสหรัฐทำในขณะที่ต้องอาศัยการกู้ยืมและเงินหมุนจำนวนมหาศาลจากทางการจีน อีกด้านนึงให้พวกขาใหญ่เข้า Short ดอลล่าในปริมาณมหาศาล เร่งปิดสัญญาฝั่ง Short และเพิ่มฝั่ง Long ในตลาดทองคำ Comex ( ดู COT 2-3 ตัวที่ผ่านมาประกอบ ) ซึ่งทุกอย่่างมุ่งไปในทิศทางเดียวกันครับ


    กล่าวคือหัวใจของเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ แท้จริงไม่ได้อยู่ในมือสหรัฐครับ เอาไว้เรารอเรื่องความชัดเจนในการพบกันของโอบาม่าและดาไล ลามะั เราคงได้คำตอบครับ และสุดท้ายท่านใดที่ตามอ่านกันมานานคงจะมองเห็นอะไรมากขึ้นอีกมากนะครับในกรณีนี้ ลองต่อภาพดูครับ คงจะมองเห็นทิศทางที่โลกเรากำลังดำเนินไป ซึ่งยังคงไปในทิศทางเดิมที่เราคุยกันมาตลอดครับ บอกแล้วไงว่าคุณจะได้อะไรจากบล๊อกนี้มากกว่าทองคำครับ!!!

    ................." The Gold War " by Jimmy Siri: ดอลล่าอินเด็กซ์ (USDX)......Update
     
  18. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันพฤหัสบดีที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

    Argentina Economic Collapse 2001

    [​IMG]

    โพสต์นี้เรามามองย้อนกลับไปในปี 2001 ครับ การล้มของประเทศของอาเจนติน่า ซึ่งโครงสร้างของปัญหามีความเหมือนหรือคล้ายกับของสหรัฐและอีกหลายๆ ประเทศในขณะนี้อย่างน่าตกใจครับ สาเหตุหลักก็คือการมีรัฐบาลที่ฉ้อฉล เล่นพรรคเล่นพวก บริหารงานผิดผลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยปราศจากวิสัยทัศน์ และความรู้เท่าทันชาติตะวันตกที่เข้ามาจู่โจมครับ เคสของอาเจนติน่าก็ไม่ต่างจากเราและเกาหลีใต้ ในช่วงทศวรรษที่ 90 คือขาดดุลย์การค้าอย่างต่อเนื่องและยาวนาน ทำให้ดุลย์การเงินและการคลังของประเทศเข้าจุดวิกฤติ และรัฐบาลซ้ำเติมปัญหาด้วยการกู้และก่อหนี้เพิ่มอย่างต่อเนื่องเพื่อนำมาใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจ จนทำให้หนี้ท่วมประเทศ เครดิตของประเทศล่มสลาย รัฐบาลไม่สามารถกู้ยืมต่อไปได้ผ่านตลาดพันธบัตรระหว่างประเทศ จนต้องเ้ข้าโปรแกรมเพื่อกู้ยืมเงินจากกองทุนการเิงินระหว่างประเทศหรือ IMF ครับ


    เมื่อ IMF เข้าไปแล้วก็ทำเหมือนที่ทำกับประเทศไทยครับ คือ "ให้ยาผิด" อีกเหมือนเิดิม และรัฐบาลของอาเจนติน่าในขณะนั้นก็ทำตัวเป็น "Good Boy" เหมือนกับที่เราเคยเป็น ปฏิบัติตามข้อเสนอของ IMF ทั้งหมดเพื่อให้ได้เงินมาต่อลมหายใจของประเทศ สถานการกลับทรุดหนักลง ธุรกิจล้มละลายหนักขึ้่นจนลามไปที่ภาคธนาคารซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ จนในที่สุดการล้มครั้งใหญ่ในปี 2001 ก็ตามมาครับ

    ประชาชนหมดความเชื่อมั่นในระบบการเงินและรัฐบาล เกิดการแห่ถอนเงิน ( Bank Run ) ซึ่งอาจจะส่งผลให้ธนาคารล้มลงทั้งระบบ รัฐบาลจึงสกัดด้วยการล๊อคระบบธนาคารและบัญชีทั้งหมดไม่ให้เบิกถอนได้ ประชาชนที่ไม่มีเงินสดสำรอง ก็เริ่มออกมาประท้วงตามท้องถนน ( Riot ) บุกเข้าไปตามสถานที่ต่างๆ ทั้งธนาคาร ซุปเปอร์มาเก็ต และทุกๆที่ เพื่อจะแย่งชิงเงิน ทรัพย์สิน หรืออาหารเพื่อประทังชีวิต และประท้วงรัฐบาลในทุกรูปแบบพร้อมกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองหลวงคือบูโนสไอเรส ชนทุกชั้นทุกอาชีพทุกเพศทุกวัย ออกมาเผชิญหน้ากับรัฐบาลเพื่อเรียกร้องให้รับผิดชอบด้วยการลาออก ไม่มีการตอบรับข้อเสนอใดๆครับ แต่กลับพยามเข้าควบคุมสถานการณ์ด้วยการส่งกำลังทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าปราบปรามประชาชน (Civil Unrest) ครับ





    สงครามกลางเมือง ( Civil War ) จึงอุบัติขึ้นครับ และสารคดีความยาว 12 ตอนชุดนี้ จะเปิดเผยถึงที่มาที่ไป ตั้งแต่ยุคที่รุ่งเรืองของอาเจนติน่า จนถึงการล่มสลายทางเศรษฐกิจอย่างถึงแก่น ซึ่งเป็นกรณีศึกษาที่ดีครับ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันนี้ หลายๆ ประเทศทั่วโลกกำลังประสบปัญหาการขาดดุลย์งบประมาณอย่างรุนแรง และเลือกที่จะให้ใช้วิธีกู้ ก่อหนี้ และพิมพ์เงินเพิ่มจากอากาศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และดูเหมือนว่าประเทศเหล่านั้นรวมทั้งประเทศไทย กำลังเลือกเดินไปในเส้นทางของอาเจนติน่าครับ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าการจะมีการเบี้่ยวหนี้ ( Default ) ในระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐ หรือบางชาติในกลุ่มยุโรป ซึ่งจะทำให้การกู้ยืมระหว่างประเทศเกิดการสะดุด ระบบการค้าระหว่างประเทศและอัตราแลกเปลี่ยนหยุดชะงัก เครดิตของประเทศล่มสลาย ประชาชนหมดความเชื่อมันในรัฐบาลและลามไปที่ระบบธนาคาร วงล้อการล้มตัวในลักษณะเดียวกันกับอาเจนตินก็น่าจะเริ่มขึ้นในที่สุดครับ

    ................." The Gold War " by Jimmy Siri: Argentina Economic Collapse 2001
     
  19. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
    Lloyd Blankfein ซีอีโอของโกลแมน แซคกับโบนัส $100 ล้านเหรียญ


    วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

    Lloyd Blankfein ซีอีโอของโกลแมน แซคกับโบนัส $100 ล้านเหรียญ [​IMG]




    ลอยด์ แบลงไฟน์ ซีอีโอ ของโกลด์แมน แซค ผู้ซึ่งคาดว่าจะได้รับโบนัสในปีนี้ประมาณ 100 ล้านเหรียญสหรัฐครับ หรือเป็นโบนัสก้อนที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทนี้เคยจ่ายให้กับผู้บริหาร จากผลงานการใ้ช้ข้อมูลภายในหรือ Insider ทุบสารพัดตลาดเพื่อทำกำไร บริหารจนบริษัทมีปัญหาทางการเงินขั้นรุนแรงจนต้องขอเงินสนับสนุนที่ไม่มีต้นทุน หรือ Bail Out จากรัฐบาล ปั่นกระดาษหรือ Derivatives ต่างๆ ให้มีมูลค่ามากขึ้นถึง 22,000 เท่า หรือปั่นจนมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก และธนาคารโกลด์แมนยังคาดว่าจะกลายเป็นวานิชธนกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกในไม่ช้าจากผลงานการปั่นข้างต้นครับ
    (ข้อมูลตัวเลขต่างๆ อยู่ในโพสต์เก่าๆ ที่เคยโพสต์ไปครับ)


    อุ๊ย....ข้างต้นทั้งหมดอย่านำไปใช้นะครับ มันเป็นเบื้องหลังครับ เบื้องหน้าคือในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้เค้ายังสามารถทำไรได้สูงสุดตั้งแต่ตั้งบริษัทมาครัับ และทิม ไกเนอร์ รัฐมนตรีคลังเองก็เคยอยู่ในบอร์ดบริหารระดับหัวของบริษัทนี้ซะด้วยสิ และอีกหลายคนที่ดูแลงานด้านการเงินการคลังในรัฐบาลชุดนี้ก็มาจากบริษัทนี้ครับ น่าสงสัยเนอะ!!!


    Link : Goldman Sachs and the $100 million question

    ................." The Gold War " by Jimmy Siri: Lloyd Blankfein ซีอีโอของโกลแมน แซคกับโบนัส $100 ล้านเหรียญ
     
  20. k.kwan

    k.kwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    15,912
    ค่าพลัง:
    +7,320
    วันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553
    ฤาจะถึงคราวสหภาพยุโรป???
    [​IMG]

    กราฟชุดนี้คือยอดหนี้ของประเทศต่างๆ 5 ประเทศครับ
    2 ประเทศด้านขวาที่เป็นสีแดงคือสหภาพโซเวียตเมื่อปี 1998 ที่ต้องถึงคราวล่มสลายเพราะหนี้ท่วมจนต้องประกาศชักดาบแล้วล่มสลายในที่สุด ซึ่งมียอดหนี้ในขณะนั้นอยู่ที่ 51 พันล้านยูโร และอีกรายคืออาเจนติน่าที่ล้มในลักษณะเดียวกันคือหนี้ท่วม ซึ่งในขณะนั้นมียอดหนี้อยู่ที่ 57.2 พันล้านยูโร ก็ล่มไปอีกหนึ่งครับ

    แต่ ณ วันนี้ มี 5 ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรปคือ PIIGS หรือ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลี กรีซ และสเปน ซึ่งทั้ง 5 ประเทศนี้ำกำลังประสบภาวะที่ไม่ต่างกับ 2 ประเทศข้างต้นครับ แต่จากตัวเลข ปัญหาการเงินหนักหนาสาหัสกว่ากันมากครับ และอะไรที่จะเกิดกับประเทศเหล่านี้ อีกไม่นานเราคงได้คำตอบครับ กับตัวเลขหนี้ 254 พันล้านยูโรของกรีซ 93 พันล้านยูโรของโปรตุเกส และ 75.5 พันล้านยูโรของไอร์แลนด์ ซึ่งทั้งหมดเกินจุด Breaking Point หรือจุดแตกหักไปแล้ว แต่เพราะการที่เป็นส่วนหนึ่งของสหภาพยุโรป จึงให้ได้รับสิทธิพิเศษต่างๆ เช่นเงินกู้ราคาถูก และความกังวลที่จะฉุดสหภาพยุโรปและเงินยูโรให้มีปัญหาตามไปด้วย


    [​IMG]

    ซึ่งในความเป็นจริง ประเทศสมาชิกที่อยู่ในกลุ่มสหภาพยุโรปจะมีหนี้ต่อจีดีพีได้ไม่เกิน 60% ครับ ตามสนธิสัญญาที่เซ็นกันไว้เมื่อแรกเริ่มก่อตั้งสหภาพยุโรปขึ้น แต่ปัญหาเกิดขื้นพร้อมกันหลายๆ ประเทศครับ ไม่ใช่ประเทศใดประเทศหนึ่ง โดยมีตัวเลขหนี้ต่อจีดีพี ณ สิ้นปี 2009 ดังต่อไปนี้ครับ

    โปรตุเกส 81.10%
    ไอร์แลนด์ 61.10%
    อิตาลี่ 116%
    กรีซ 98.40%
    สเปน 57.20%


    และประมาณการตัวเลขหนี้ต่อจีดีพีของปี 2010 ดังต่อไปนี้ครับ


    โปรตุเกส 89.30%
    ไอร์แลนด์ 57%
    อิตาลี่ 120.90%
    กรีซ 103.30%
    สเปน 74.80%

    Note : The European Union is composed of 27 sovereign Member States: Austria, Belgium, Bulgaria, Cyprus, the Czech Republic, Denmark, Estonia, Finland, France, Germany, Greece, Hungary, Ireland, Italy, Latvia, Lithuania, Luxembourg, Malta, the Netherlands, Poland, Portugal, Romania, Slovakia, Slovenia, Spain, Sweden, and the United Kingdom.[31]


    โดยสามารถเข้าไปดูยอดหนี้ของทุกประเทศทั่วโลกได้ที่ลิ๊งค์นี้เลยครับ GDC | Economist Conferences

    ................." The Gold War " by Jimmy Siri: ฤาจะถึงคราวสหภาพยุโรป???
     

แชร์หน้านี้

Loading...