พระคาถา สายหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย HS6GFT, 5 กรกฎาคม 2008.

  1. HS6GFT

    HS6GFT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +171
    พระคาถาพุทธ นะฤาชา
    ให้ตั้งนะโม 3จบ

    นะฤาชา กุติยะ ปัญจะลือ โสภะกัญจะ สะวะรัง วะรัง ฤามะหันตา นะมามิหัง
    กรีนิ อักขรานิ ชาตานิ อุณาโลนาถัง เพชรตังโหติ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโน
    พุทโธ. (จบ)
    พระคาถานี้ใช้ภาวนา เป็นเมตตามหานิยม ก็ได้ ใช้ทางคงกระพัน ก็ได้ กันภูติผีปีศาจก็ได้ เป็นทั้งมหาอำนาจ ก็ได้ ใช้ได้ 108 ประการ แล้วแต่อธิฐานเอา
    พระคาถานี้หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้ถ่ายทอดให้หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ซึ่งหลวงพ่อเป็นโอรส ของพระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตุอุดมศักดิ์ หรือเสด็จเตี่ย ซึ่งเป็นรู้จักและเคารพนับถือกันมานาน
    ข้าพเจ้าลูกศิษย์หลวงพ่อสำเนียง เห็นว่าเป็นประโยชน์แก่คนรุ่นหลัง ไว้ใช้ไว้ป้องกันตัว ยามคับขัน
    จึงขออนุญาตนำมาเผยแผ่ และให้ช่วยกันรักษาสืบต่อไป​


    พระคาถากันตัวกันกระทำย่ำยีจากคุณไสย์ทั้งปวง

    ตั้งนะโม 3 จบ

    พุทธังกันตัง ธัมมังกันไป สังฆังกันอยู่ ปิตตะระ ปิตตะรัง กันสัง กันเว กันอุดกันปิด
    กันนะ กันใน กันคุณ กันไสย์ กันเสน่ห์เล่ห์ลม กันผีทั้งกลม กันลมพระพาย กันคนฉิบหาย คนตายไม่ดี
    กูจะกันฝูงผี มายีมายา กันคุณกันยา อักขระอักษรสามสิบสองตัว อะระหัง สวัสดีมีชัย สิทธิสวาหะ..(จบ)​

    ใช้ภาวนากันตัวเองหรือ เสกข้าวกินเสกน้ำกินป้องกัน หรือภาวนาก่อนนอนเวลาต้องไปพักตามสถานที่ต่างๆ ป้องกันการรบกวนของวิญญาณร้าย หรือเสนียดจัญไร ป้องกันภูติผีปีศาจ และการกระทำทุกชนิด ทีใช้อำนาจอวิชา และวิญญาณร้ายมาทำร้ายเรา บ่ มิได้เลย​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2008
  2. pommaibike

    pommaibike เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +115
    หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ท่านอยู่วัดไหนหรือครับพี่ ช่วยแนะนำหน่อยครับ
     
  3. HS6GFT

    HS6GFT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +171
    ตอบ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร อยู่วัดไหน

    หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ท่านอยู่วัดเวฬุวนาราม ต.ลำพญา อ.บางเลน จ. นครปฐม แต่ท่าน มรณภาพไปแล้วครับ
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=550 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ใช้อะไรสยบ 5 เสือร้ายค่าหัวจับตาย</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width=540 align=center border=0><TBODY><TR><TD align=left>
    หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม

    ประวัติพอสังเขป - ท่านเป็นบุตรของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กับหม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะถือกำเหนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพรเป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่าขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ 2 เดือนเสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาถซึ่งท่านเป็นพระอาจรย์ของเสด็จเตี่ยโดยให้นายเอม อยู่สถาพรซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล ตัวหลวงพ่อสำเนียงจึงกลายเป็นลูก 3 พ่อซึ่งเสด็จเตี่ยคือพ่อผู้ให้กำเหนิด นายเอมเป็นพ่อเลี้ยงดูพร้อมกับหลวงปู่ศุขเป็นพ่อผู้ดูแลให้การศึกษาเล่าเรียน
    หลวงพ่อสำเนียงใช้นามสกุลของนายเอม คืออยู่สถาพร ในหนังสือไม่ได้ระบุสาเหตุ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร เมื่อเกิดมาแล้วก็ได้อยู่กับหลวงปู่ศุขจนเติบโต จึงได้มาศึกษาในก.ท.ม.ที่ร.ร.อัสัมชัญ จนจบมัธยมปลายจากนั้นไปศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จนจบจึงได้รับราชการทหารบกจวบได้รับยศร้อยเอกและเคยได้ร่วมสมรภูมิถึง 2 ครั้งคือสงครามอินโดจีนและสงครามมหาบูรพา พอกลับจากศึกสงครามถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำเอาถูกจองจำพร้อมกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม - หลวงเสรี - หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆในข้อหาอาชญากรสงคราม
    เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัด เบญจมบพิตร ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่วัดกัลยาณมิตรฝั่งธนบุรี ท่านตั้งใจบวชเพียง 15 วันแต่พอบวชได้ 3 วันก็มีเหตุการณ์เมืองขึ้นมาอีกจึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิงจอมพล ป. พิบูลสงครามได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก ทว่าท่านไม่ยอมสึกทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าจะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจนกระทั่งตาย

    พบนครร้างในนิมิต

    ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะมาบุกเบิกทุ่งร้างกลางป่าทึบให้มาเป็นวัดวาอารามอันพรั่งพร้อมไปด้วย โบสถ์ วิหาร ศาลา โรงธรรมที่สวยงามนั้น ท่านกล่าวว่า - ขณะที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในก.ท.ม.ท่านได้เกิดนิมิตขึ้นว่าได้เห็นปราศาทร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งการนิมิตเห็นนี้ไม่ได้หลับตาเห็น แต่เป็นแบบลืมตาเห็นภาพขึ้นมา เมืองร้างแห่งที่ท่านพบเห็นในนิมิตนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังอยู่มากมายมหาศาล คนเฝ้าสมบัติล้ำค่านี้บอกกับท่านว่า....ใครจะมาเอาสมบัติเหล่านี้ไปไม่ได้ คนที่จะมาเป็นเจ้าของจะต้องมาสร้างเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเหมือนเดิมเสียก่อน และคนที่จะมาอยู่เมืองนี้ได้จะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาความเจริญขึ้นมาไม่ได้นอกจากพินาศล่มจมเท่านั้น เพราะสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งเมืองธรรมานครอมรวดีศรีธานินทร์ มหินทรามหาเลิศลบภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์มาก่อน

    หลังจากหลวงพ่อสำเนียงได้นิมิตเห็นเมืองธรรมานครแล้วท่านเดินทางสู่เมืองร้างแห่งนี้โดยทางรถไฟไปลงสถานีงิ้วราย จากนั้นลงเรือต่อไปตลาดลำพญาต่อเรือไปอีก 3 ช.ม.จึงถึงตลาดลำพญาจากตลาดเดินเท้าอีก 4 ก.ม.โดยประมาณจึงถึงวัดแหลมชะอุย เป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าเหลือแต่ซากปรักหักพัง พอให้รู้ว่าสถานที่นั้นเคยเป็นวัดมาก่อนที่ๆแห่งนั้นเมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด ทำให้สถานที่นั้นร่มรื่นและเงียบสงัดวังเวงยิ่งนัก จึงมีสัตว์นาๆชนิด เช่นงูเห่า งูจงอางเป็นต้นเพราะปราศจากผู้คนสัญจรไปมา มีแต่บริเวณทุ่งกว้างที่ร้างซึ่งมีเด็กเลี้ยงควายอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น เด็กพวกนั้นปราศจากเสื้อผ้านุ่งห่มเพราะความแห้งแล้งทุรกันดารความยากจนของครอบครัว พ่อแม่เด็กเหล่านั้นหากินทางทุจริตลักลอบหาวัตถุโบราณในบริเวณวัดร้างแห่งนี้เพื่อนำเอาไปขาย

    เมื่อท่านไปถึงท่านได้เดินเข้าไปดูในโบสถ์ปรากฏว่าถูกปัดกวาดดูสะอาดสะอ้าน คล้ายกับมีคนมาอาศัยอยู่ ท่านจึงตัดสินใจที่จะอยู่ ณ. วัดร้างแห่งนี้ โดยท่านตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านในถิ่นนี้ให้เจริญ ท่านจึงได้ยึดเอาโบสถ์เป็นที่อยู่อาศัย แต่ท่านหารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ซ่องสุมของพวกโจรและเสือร้ายปล้นฆ่าชื่อดัง คือ เสือแคล้ว เสือสด เสือเลียง เสือสมหมาย เสือผาด ทั้ง 5 เสือดังกล่าวทางการได้หมายหัวเอาไว้แล้วว่าต้องจับตายลูกเดียว พวกนี้หาทรัพย์มาได้เท่าไหร่ก็จะนำมาแบ่งปันที่นี่ประจำเพราะเป็นจุดศุนย์กลางระหว่างจังหวัดนนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี มีอยู่วันหนึ่งเสือร้ายเหล่านั้นปล้นทรัพย์ได้มาก็นัดกันมาแบ่งสมบัติที่โบสถ์ร้างแห่งนี้ เมื่อเสือแคล้วมาแอบเห็นหลวงพ่อสำเนียงอยู่ในวัดก็สบถจะต้องฆ่าพระองค์นี้ให้ได้ เพราะกลัวท่านมารู้เห็นความลับ อีกหรือท่านปลอมมาเป็นพระเพื่อมาสืบจากทางราชการ เสือแคล้วจึงตกลงกับพวกอีก 4 เสือจะต้องฆ่าท่านคืนแรกเสือแคล้วมาคนเดียวก้าวเข้าไปยืนในโบสถ์เห็นเพียงแสงเทียนสลัวๆพอเห็นว่ามีพระนั่งสมาธิอยู่ เมื่อเพ่งเข้าไปหมายจะฆ่าหลวงพ่อปรากฏว่า คุณพระช่วยภาพที่เขามองเห็นไม่ได้มีพรอยู่องค์เดียวเหมือนที่เขาเห็นตอนกลางวันเสียแล้ว เพราะภายในโบสถ์เต็มไปด้วยพระสงฆ์ห่มสีกลักกำลังนั่งสมาธิเต็มไปหมด พระเหล่านั้นต่างนั่งสมาธิอย่างสงบโดยไม่สนใจกับภายนอกโบสถ์เลย เสือแคล้วนึกอยู่ในใจว่าพระมาจากไหนเยอะแยะก็ตอนกลางวันเห็นมีอยู่องค์เดียว ส่วนมือยังกำปืนแน่นอยู่ในลักษณะพร้อมยิงเสมอ ในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจ เพราะไม่ทราบว่าจะทำวิธีไหนที่จะฆ่าพระได้หมด หลังจากนั้นสหายอีก 4 เสือก็ผลัดกันมาทุกคืนโยผัดเปลี่ยนกันกับเพื่อนทุกคนในกลุ่ม ผลปรากฏว่าเหตุการณืเหมือนกันทุกครั้ง 4 วันเต็มๆ

    ผลสุดท้ายเขาและเพื่อนยอมแพ้ในอภินิหารที่ได้ประสพมาจึงไม่อาจฆ่าท่านได้ ซึ่งคงเป็นเพราะบารมีของท่านซึ่งปฏิบัติธรรมเคร่งครัดเสมอมานั่นเอง เช้าของวันที่ 5 พวกเสือร้าย 5 คนได้ปรึกษาหารือกันเข้าไปกราบหลวงพ่อสำเนียงในโบสถ์และเล่าความจริงให้ท่านฟัง พวกเขาแนะนำตัวเองหลวงพ่อจึงถามไปว่า โยมพากันมาทำไมที่นี่ เสือแคล้วและพวกจึงสารภาพว่าต้องการมากราบขอขมาหลวงพ่อ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินท่านไว้ขอให้ท่านอโหสิกรรมแก่พวกเขา

    หลวงพ่อท่านว่า เวรของผู้จองเวรย่อมไม่ระงับ แต่เวรของผู้ที่ไม่จองเวรย่อมระงับ อาตมาอโหสิให้ แต่กรรมโยมได้กระทำไปนั้นไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน กรรมนั้นย่อมตอบสนองในภายหลังไม่มีใครให้อภัยได้ ดังนั้นขอโยมจงหยุดการกระทำชั่วนั้นๆเสียแล้วให้เริ่มทำความดีต่อไป หมั่นรักษาศีลเพราะศีลจะทำให้ผู้ปฏิบัติให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในโภคทรัพย์ ทั้งในภพปัจจุบันนี้และจะนำสู่สุขคติและนิพพานในภพหน้า เมื่อได้รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เสือร้ายทั้ง 5 สำนึกผิดและซาบซึ้งในโอวาสของหลวงพ่อสำเนียง พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามจึงได้มอบตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมได้ปวาราณาตัวว่าจะเลิกทำชั่ว แล้วตั้งอยู่ในศีลธรรมต่อไป

    นี่แหล่ะคือสัจธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ให้ชาวโลกละความชั่ว ประพฤติแต่ความดีในที่สุดธรรมะย่อมชนะอธรรม สมดังที่พระองค์ตรัสไว้ทุกประการ สาธุ...

    ถ้าเรื่องราวนี้ได้มอบคติธรรมะแก่ท่านทั้งหลายดิฉันขออนุโมทนาบุญกุศลนี้แด่หลวงพ่อสำเนียง อยู่ถาวรด้วยค่ะสาธุ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>......................................................................................................................................... </TD></TR></TBODY></TABLE>............................................................................................................................................................... ขอเล่าเสริมต่อนะครับ จากผม ได้รับการบอกเล่าจากปากหลวงพ่อ.เองขณะที่บวชอยู่ครับ
    หลวงพ่อเล่าว่าหลวงปู่ศุขได้เสกน้ำมนต์ให้หม่อมแม่ได้กินขณะตั้งครรภ์ และลงอักขระให้ เมื่อหม่อมแม่ท่าน
    คลอดหลวงพ่อออกมาปรากฎว่า ตัวหลวงพ่อสำเนียงเอง มียันต์เต็มไปทั้งตัว และที่ศรีษะท่านมีอักขระยันต์จักพรรดิ์
    เรียกว่าพุทธนะฤาชา อยู่กลางกระหม่อม ปู่เอมก็เลยพาไปหาหลวงปู่ศุขหลวงปู่ศุขท่านก็เลยนั่งบริกรรม
    เป่าเสกสักครู่อักระเลขยันต์ในกายหลวงพ่อท่านก็หลบเข้าไปใต้ผิวหนังแล้วหายเข้าไปในตัว คงเหลือ
    ยันต์อักขระ ที่อยู่บนกลางกระหม่อม หลวงพ่อสำเนียง ก็คือ ยันต์พุทธนะฤาชา นั่นเอง ที่หลวงปู่ลงให้ไว้
    ที่ขณะหม่อมแม่หลวงพ่อ ตั้งพระครรภ์ ท่านบอกว่ายันต์ที่หลวงปู่ลงให้ละติดตัวมาตั้งแต่เกิด
    คือยันต์ นะจักพรรดิ์ หรือยันต์พุทธนะฤาชานั่นเอง และท่านเล่าต่ออีกว่า ขณะที่ท่านนอนในเปลมีงูใหญ่ มีหงอน มาเลื้อย
    รอบๆเปลท่าน หลายวันกว่าจะไป ..หลวงปู่ศุขท่านได้ตรวจดวงชะตาให้หลวงพ่อสำเนียง
    ว่าโอรสนี้เป็นผู้มีบุญมาเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ มาสร้างบุญสร้างบาระมี ท่านเล่าอีกว่าตอนสมัยหนุ่มๆ
    ท่านเล่นวิชาอาคมมาก ซึ่งหลังจากได้วิชาการมาจากปู่เอมอยู่สถาพร ซึ่งหลวงปู่ศุข
    ได้ยกตำราวิทยาคมต่างๆให้ปู่เอมเพื่อถ่ายทอดวิชาต่อให้หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ท่าก็เล่นวิชาจนเก่งหลายด้าน
    ท่านปราบนักเลงหัวไม้ จนราบคาบ ท่านเคยเล่าว่าท่านเอาดาบฟันนักเลงซึ่งเก่งอาคม
    ท่านฟันด้วยดาบเหวอะหวะหมดเลยแต่ไม่ให้ถึงตายและโดดลงสะพานลงแม่น้ำเจ้าพระยา ปากคาบดาบประจำตัว
    ของท่านแล้วไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ แล้วเดินมาดูนักเลงคนนั้นซึ่งสลบเหมือดและ
    ถูกคมดาบเล่นงานไปปางตาย..พูดเสร็จท่านก็หัวเราะ..ผมเองก็ฟังเพลินเลย..จดจำมาจนทุกวันนี้.ผมเองนับว่าโชคดี
    ที่รับใช้ใกล้ชิดท่าน และได้ปลงผมให้ท่านตลอด เก็บเส้นเกษาท่าน มากพอควรหลังจากปลงผม ก้ขออนุญาตท่านเก็บไว้บูชา
    ท่านก็อนุญาต และได้รับการถ่ายทอดวิชาทั้งหมดไว้ วิชาเด่นๆก็คือวิชารักษา พิษงู และขับไล่วิญญาณ
    และสิ่งชั่วร้าย พวกมนต์ดำต่างๆ ได้ผลดีอย่างยิ่ง..ซึ่งผมได้นำมาลงในเวปพลังจิตนี้แล้ว
    เพราะกลัวสูญหาย.จึงขออนุญาตลงไว้ที่นี้เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังๆ
    ได้มีสิ่งนี้ช่วยเหลือตนเอง ยามคับขันต่อไป.
    ขออำนาจกุศลผลบุุญนี้ จงถึงหลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร และเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพร เขตุอุดมศักดิ์
    และครูอาจารย์ที่สืบต่อกันมาได้รับพลังการโมทนาบุญด้วยเทอญ ..สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013
  4. HS6GFT

    HS6GFT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +171
    ตอบ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร อยู่วัดไหน

    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width=550 border=0><TBODY><TR><TD align=middle>หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ใช้อะไรสยบ 5 เสือร้ายค่าหัวจับตาย</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width=540 align=center border=0><TBODY><TR><TD align=left>
    หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม

    ประวัติพอสังเขป - ท่านเป็นบุตรของเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์กับหม่อมทองนุ่น เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ที่วังไชยา ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะถือกำเหนิดมาดูโลกนั้น นายเอม อยู่สถาพรเป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่าขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ 2 เดือนเสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาถซึ่งท่านเป็นพระอาจรย์ของเสด็จเตี่ยโดยให้นายเอม อยู่สถาพรซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล ตัวหลวงพ่อสำเนียงจึงกลายเป็นลูก 3 พ่อซึ่งเสด็จเตี่ยคือพ่อผู้ให้กำเหนิด นายเอมเป็นพ่อเลี้ยงดูพร้อมกับหลวงปู่ศุขเป็นพ่อผู้ดูแลให้การศึกษาเล่าเรียน
    หลวงพ่อสำเนียงใช้นามสกุลของนายเอม คืออยู่สถาพร ในหนังสือไม่ได้ระบุสาเหตุ หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร เมื่อเกิดมาแล้วก็ได้อยู่กับหลวงปู่ศุขจนเติบโต จึงได้มาศึกษาในก.ท.ม.ที่ร.ร.อัสัมชัญ จนจบมัธยมปลายจากนั้นไปศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จนจบจึงได้รับราชการทหารบกจวบได้รับยศร้อยเอกและเคยได้ร่วมสมรภูมิถึง 2 ครั้งคือสงครามอินโดจีนและสงครามมหาบูรพา พอกลับจากศึกสงครามถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำเอาถูกจองจำพร้อมกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม - หลวงเสรี - หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆในข้อหาอาชญากรสงคราม
    เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัด เบญจมบพิตร ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่วัดกัลยาณมิตรฝั่งธนบุรี ท่านตั้งใจบวชเพียง 15 วันแต่พอบวชได้ 3 วันก็มีเหตุการณ์เมืองขึ้นมาอีกจึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิงจอมพล ป. พิบูลสงครามได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก ทว่าท่านไม่ยอมสึกทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่าจะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจนกระทั่งตาย

    พบนครร้างในนิมิต

    ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะมาบุกเบิกทุ่งร้างกลางป่าทึบให้มาเป็นวัดวาอารามอันพรั่งพร้อมไปด้วย โบสถ์ วิหาร ศาลา โรงธรรมที่สวยงามนั้น ท่านกล่าวว่า - ขณะที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในก.ท.ม.ท่านได้เกิดนิมิตขึ้นว่าได้เห็นปราศาทร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งการนิมิตเห็นนี้ไม่ได้หลับตาเห็น แต่เป็นแบบลืมตาเห็นภาพขึ้นมา เมืองร้างแห่งที่ท่านพบเห็นในนิมิตนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังอยู่มากมายมหาศาล คนเฝ้าสมบัติล้ำค่านี้บอกกับท่านว่า....ใครจะมาเอาสมบัติเหล่านี้ไปไม่ได้ คนที่จะมาเป็นเจ้าของจะต้องมาสร้างเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเหมือนเดิมเสียก่อน และคนที่จะมาอยู่เมืองนี้ได้จะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาความเจริญขึ้นมาไม่ได้นอกจากพินาศล่มจมเท่านั้น เพราะสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งเมืองธรรมานครอมรวดีศรีธานินทร์ มหินทรามหาเลิศลบภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์มาก่อน

    หลังจากหลวงพ่อสำเนียงได้นิมิตเห็นเมืองธรรมานครแล้วท่านเดินทางสู่เมืองร้างแห่งนี้โดยทางรถไฟไปลงสถานีงิ้วราย จากนั้นลงเรือต่อไปตลาดลำพญาต่อเรือไปอีก 3 ช.ม.จึงถึงตลาดลำพญาจากตลาดเดินเท้าอีก 4 ก.ม.โดยประมาณจึงถึงวัดแหลมชะอุย เป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าเหลือแต่ซากปรักหักพัง พอให้รู้ว่าสถานที่นั้นเคยเป็นวัดมาก่อนที่ๆแห่งนั้นเมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด ทำให้สถานที่นั้นร่มรื่นและเงียบสงัดวังเวงยิ่งนัก จึงมีสัตว์นาๆชนิด เช่นงูเห่า งูจงอางเป็นต้นเพราะปราศจากผู้คนสัญจรไปมา มีแต่บริเวณทุ่งกว้างที่ร้างซึ่งมีเด็กเลี้ยงควายอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น เด็กพวกนั้นปราศจากเสื้อผ้านุ่งห่มเพราะความแห้งแล้งทุรกันดารความยากจนของครอบครัว พ่อแม่เด็กเหล่านั้นหากินทางทุจริตลักลอบหาวัตถุโบราณในบริเวณวัดร้างแห่งนี้เพื่อนำเอาไปขาย

    เมื่อท่านไปถึงท่านได้เดินเข้าไปดูในโบสถ์ปรากฏว่าถูกปัดกวาดดูสะอาดสะอ้าน คล้ายกับมีคนมาอาศัยอยู่ ท่านจึงตัดสินใจที่จะอยู่ ณ. วัดร้างแห่งนี้ โดยท่านตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านในถิ่นนี้ให้เจริญ ท่านจึงได้ยึดเอาโบสถ์เป็นที่อยู่อาศัย แต่ท่านหารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ซ่องสุมของพวกโจรและเสือร้ายปล้นฆ่าชื่อดัง คือ เสือแคล้ว เสือสด เสือเลียง เสือสมหมาย เสือผาด ทั้ง 5 เสือดังกล่าวทางการได้หมายหัวเอาไว้แล้วว่าต้องจับตายลูกเดียว พวกนี้หาทรัพย์มาได้เท่าไหร่ก็จะนำมาแบ่งปันที่นี่ประจำเพราะเป็นจุดศุนย์กลางระหว่างจังหวัดนนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี มีอยู่วันหนึ่งเสือร้ายเหล่านั้นปล้นทรัพย์ได้มาก็นัดกันมาแบ่งสมบัติที่โบสถ์ร้างแห่งนี้ เมื่อเสือแคล้วมาแอบเห็นหลวงพ่อสำเนียงอยู่ในวัดก็สบถจะต้องฆ่าพระองค์นี้ให้ได้ เพราะกลัวท่านมารู้เห็นความลับ อีกหรือท่านปลอมมาเป็นพระเพื่อมาสืบจากทางราชการ เสือแคล้วจึงตกลงกับพวกอีก 4 เสือจะต้องฆ่าท่านคืนแรกเสือแคล้วมาคนเดียวก้าวเข้าไปยืนในโบสถ์เห็นเพียงแสงเทียนสลัวๆพอเห็นว่ามีพระนั่งสมาธิอยู่ เมื่อเพ่งเข้าไปหมายจะฆ่าหลวงพ่อปรากฏว่า คุณพระช่วยภาพที่เขามองเห็นไม่ได้มีพรอยู่องค์เดียวเหมือนที่เขาเห็นตอนกลางวันเสียแล้ว เพราะภายในโบสถ์เต็มไปด้วยพระสงฆ์ห่มสีกลักกำลังนั่งสมาธิเต็มไปหมด พระเหล่านั้นต่างนั่งสมาธิอย่างสงบโดยไม่สนใจกับภายนอกโบสถ์เลย เสือแคล้วนึกอยู่ในใจว่าพระมาจากไหนเยอะแยะก็ตอนกลางวันเห็นมีอยู่องค์เดียว ส่วนมือยังกำปืนแน่นอยู่ในลักษณะพร้อมยิงเสมอ ในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจ เพราะไม่ทราบว่าจะทำวิธีไหนที่จะฆ่าพระได้หมด หลังจากนั้นสหายอีก 4 เสือก็ผลัดกันมาทุกคืนโยผัดเปลี่ยนกันกับเพื่อนทุกคนในกลุ่ม ผลปรากฏว่าเหตุการณืเหมือนกันทุกครั้ง 4 วันเต็มๆ

    ผลสุดท้ายเขาและเพื่อนยอมแพ้ในอภินิหารที่ได้ประสพมาจึงไม่อาจฆ่าท่านได้ ซึ่งคงเป็นเพราะบารมีของท่านซึ่งปฏิบัติธรรมเคร่งครัดเสมอมานั่นเอง เช้าของวันที่ 5 พวกเสือร้าย 5 คนได้ปรึกษาหารือกันเข้าไปกราบหลวงพ่อสำเนียงในโบสถ์และเล่าความจริงให้ท่านฟัง พวกเขาแนะนำตัวเองหลวงพ่อจึงถามไปว่า โยมพากันมาทำไมที่นี่ เสือแคล้วและพวกจึงสารภาพว่าต้องการมากราบขอขมาหลวงพ่อ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินท่านไว้ขอให้ท่านอโหสิกรรมแก่พวกเขา

    หลวงพ่อท่านว่า เวรของผู้จองเวรย่อมไม่ระงับ แต่เวรของผู้ที่ไม่จองเวรย่อมระงับ อาตมาอโหสิให้ แต่กรรมโยมได้กระทำไปนั้นไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน กรรมนั้นย่อมตอบสนองในภายหลังไม่มีใครให้อภัยได้ ดังนั้นขอโยมจงหยุดการกระทำชั่วนั้นๆเสียแล้วให้เริ่มทำความดีต่อไป หมั่นรักษาศีลเพราะศีลจะทำให้ผู้ปฏิบัติให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในโภคทรัพย์ ทั้งในภพปัจจุบันนี้และจะนำสู่สุขคติและนิพพานในภพหน้า เมื่อได้รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เสือร้ายทั้ง 5 สำนึกผิดและซาบซึ้งในโอวาสของหลวงพ่อสำเนียง พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามจึงได้มอบตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมได้ปวาราณาตัวว่าจะเลิกทำชั่ว แล้วตั้งอยู่ในศีลธรรมต่อไป

    นี่แหล่ะคือสัจธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ให้ชาวโลกละความชั่ว ประพฤติแต่ความดีในที่สุดธรรมะย่อมชนะอธรรม สมดังที่พระองค์ตรัสไว้ทุกประการ สาธุ...

    ถ้าเรื่องราวนี้ได้มอบคติธรรมะแก่ท่านทั้งหลายดิฉันขออนุโมทนาบุญกุศลนี้แด่หลวงพ่อสำเนียง อยู่ถาวรด้วยค่ะสาธุ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>............................................................................................................................................................................................................................................................ ขอเล่าเสริมต่อนะครับ จากผม ได้รับการบอกเล่าจากปากหลวงพ่อ.เองขณะที่บวชอยู่ครับ หลวงพ่อเล่าว่าหลวปู่ศุขได้เสกน้ำมนต์ให้หม่อมแม่ได้กินขณะตั้งครรภ์ และลงอักขระให้ เมื่อหม่อมแม่ท่านคลอดหลวงพ่อออกมาปรากฎว่า ตัวหลวงพ่อสำเนียงเอง มียันต์เต็มไปทั้งตัว และที่ศรีษะท่านมีอักขระยันต์จักพรรดิ์ เรียกว่าพุทธนะฤาชา อยู่กลางกระหม่อม ปู่เอมก็เลยพาไปหาหลวงปู่ศุขหลวงปู่ศุขท่านก็เลยนั่งบริกรรม เป่าเสกสักครู่อักระเลขยันต์ในกายท่านก็หลบเข้าไปใต้ผิวหนังแล้วหายเข้าไปในตัว คงเหลือ ยันต์อักขระ ที่อยู่บนกลางกระหม่อม หลวงพ่อสำเนียง ก็คือ ยันต์พุทธนะฤาชา นั่นเอง ที่หลวงปู่ลงให้ไว้ ที่ขณะหม่อมแม่หลวงพ่อ ตั้งพระครรภ์ ท่านบอกว่ายันต์ที่หลวงปู่ลงให้ละติดตัวมาตั้งแต่เกิด คือยันต์ นะจักพรรดิ์ หรือยันต์พุทธนะฤาชานั่นเอง และท่านเล่าต่ออีกว่า ขณะที่ท่านนอนในเปลมีงูใหญ่ มีหงอน มาเลื้อย รอบๆเปลท่าน หลายวันกว่าจะไป ..หลวงปู่ศุขท่านได้ตรวจดวงชะตาให้หลวงพ่อสำเนียง ว่าโอรสนี้เป็นผู้มีบุญมาเกิดเป็นพระโพธิสัตว์ มาสร้างบุญสร้างบาระมี ท่านเล่าอีกว่าตอนสมัยหนุ่มๆ ท่านเล่นวิชาอาคมมาก ซึ่งหลังจากได้วิชาการมาจากปู่เอมอยู่สถาพร ซึ่งหลวงปู่ศุข ได้ยกตำราวิทยาคมต่างๆให้ปู่เอมเพื่อถ่ายทอดวิชาต่อให้หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร ท่าก็เล่นวิชาจนเก่งหลายด้าน ท่านปราบนักเลงหัวไม้ จนราบคาบ ท่านเคยเล่าว่าท่านเอาดาบฟันนักเลงซึ่งเก่งอาคม ท่านฟันด้วยดาบเหวอะหวะหมดเลยแต่ไม่ให้ถึงตายและโดดลงสะพานลงแม่น้ำเจ้าพระยา ปากคาบดาบประจำตัว ของท่านแล้วไปเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวใหม่ แล้วเดินมาดูนักเลงคนนั้นซึ่งสลบเหมือดและ ถูกคมดาบเล่นงานไปปางตาย..พูดเสร็จท่านก็หัวเราะ..ผมเองก็ฟังเพลินเลย..จดจำมาจนทุกวันนี้.ผมเองนับว่าโชคดีที่รับใช้ใกล้ชิดท่าน และได้ปลงผมให้ท่านตลอด เก็บเส้นเกษาท่าน มากพอควรหลังจากปลงผม ก้ขออนุญาตท่านเก็บไว้บูชา ท่านก็อนุญาต และได้รับการถ่ายทอดวิชาทั้งหมดไว้ วิชาเด่นๆก็คือวิชารักษา พิษงู และขับไล่วิญญาณ และสิ่งชั่วร้าย พวกมนต์ดำต่างๆ ได้ผลดีอย่างยิ่ง..ซึ่งผมได้นำมาลงในเวปพลังจิตนี้แล้ว เพราะกลัวสูญหาย.จึงขออนุญาตลงไว้ที่นี้เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังๆ ได้มีสิ่งนี้ช่วยเหลือตนเอง ยามคับขันต่อไป. ขออำนาจกุศลผลบุุญนี้ จงถึงหลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร และเสด็จพ่อกรมหลวงชุมพร เขตุอุดมศักดิ์ และครูอาจารย์ที่สืบต่อกันมาได้รับพลังการโมทนาบุญด้วยเทอญ ..สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 มีนาคม 2013
  5. ปิยธรรมโม

    ปิยธรรมโม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +349
    อนุโมทนาครับท่านเจ้าของกระทู้ ละเอียดดี-มีประโยชน์ครับ สาธุ..
     
  6. dirtyfinger

    dirtyfinger เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +170
    คาถานะฤาชาพิมพ์ผิดครับ รบกวนเจ้าของกระทู้แก้ไขให้ถูกด้วยครับ เดี๋ยวใครเอาไปใช้แล้วจะไม่เกิดผล
     
  7. HS6GFT

    HS6GFT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +171
    ตอบ.ครับ พระคาถาพุทธนะลือชาผิดตรงไหนครับ..บอกหน่อย ครับ

    เท่าทีผมเรียนจากหลวงพ่อ สำเนียง อยู่สถาพร วัดเวฬุวนาราม ต.ลำพญา
    อ.บางเลน จ. นครปฐม ท่านยกให้ทั้งเล่ม เรียนกับท่านมา 7 พรรษา ใช้ตัวนี้มาตลอด และท่านให้ผมทำการรักษาคนแทนท่าน รักษาคนมาเยอะมากครับก็ใช้มาตลอด และตำรานี้ก็ยังคัดสำเนาจากลายมือหลวงพ่อมาเลย..ทั้งเล่ม
    ทั้งเขียนด้วยลายมือท่านเองเลย..ถ้าผิด กรุณาบอกด้วยครับว่าตรงไหน
    เผื่อจะได้เอามาตรวจสอบครับ.เผื่อใครได้ต้นตำรามาจากที่อื่น.จะได้มาแบ่งปันกันครับ. และคาถานี้ได้ใช้มามากแล้วได้ผล 100%
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กรกฎาคม 2008
  8. slowpork

    slowpork สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +23
    คาถานะฤาชา
    นะฤาชา กุติยะปัญจะฤา โสภะกัญจะ สะวะรัง วะรัง ฤามะหันตา มามามิหัง ตรีนิอักขะรานิ ชาตานิ อุนาโลมานาถัง เพชชะตังโหติ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโนพุทโธ

    ก๊อปจากเวปอื่นมา เห็นไม่ตรงไม่ทราบตำราไหนถูกครับ
     
  9. HS6GIN

    HS6GIN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +98
    เรื่องแบบนี้สำคัญที่จิตมากกว่า จิตบริสุทธิ์ที่มุ่งมั่น และแน่วแน่ นิ่งสงบ จนเป็นความว่างเปล่า มันมีพลังมากเหนือธรรมชาติ พลังจิตเป็นพลังธรรมชาติที่อยู่เหนือทุกอย่าง
     
  10. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    มีอีกมั้ยครับอยากอ่านอีกครับ
     
  11. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้

    ขอปฎิญาณตนเป็นคนดี ละเว้นการกระทำชั่ว ถือศิล มีธรรมะประจำใจ มีพระนิพพานเป็นอารมณ์ จะขอมีสติทุกลมหายใจเข้า-ออก ระลึกถึงความตายไว้เสมอทุกลมหายใจเข้า-ออก ละลึกเสมอว่าตัวเรามิใช้ของเรา กายเราก็มิใช่ของเรา เคารพในครูบาอาจารย์ หมั่นปฎิบัติมิให้ขาด ตั่งจิตตั้งใจจะไม่เกิดใหม่อีก ขอให้ถึงพระนิพพานในชาตินี้

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้น
    เทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
    และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ
    และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า
    .........ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ .........

    พร้อมกันนี้ ขออนุโมทนา บุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
    นายชุติเดช วรรณสุวงค์
    _/l\_ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ๛อาภากร๛

    ๛อาภากร๛ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    907
    ค่าพลัง:
    +3,602
  13. แก้วทิพย์

    แก้วทิพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    450
    ค่าพลัง:
    +2,435
    แวะมาดันกระทู้นี้ ยิ่งตามลิงก์ เข้าไป ยิ่งเข้มข้นมีสาระน่ารู้มาก ขอบารมีเสด็จเตี่ย คุ้มครองราชอาณาจักรไทยให้พ้นภัยจากผู้คิดไม่ซื่อด้วยค่ะ
     
  14. ศรีคเณศ

    ศรีคเณศ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1

แชร์หน้านี้

Loading...