ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ชาวอเมริกันเผชิญหิมะวันคริสต์มาสครั้งแรกในรอบหลายปี

    [​IMG]

    ในวันคริสต์มาสเมื่อวานนี้ ชาวอเมริกันในรัฐทางใต้ต้องเผชิญหิมะที่ปกคลุมขาวโพลนเต็มไปหมด ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนัก

    โดยที่รัฐแมรี่แลนด์ เวอร์จิเนีย และนอร์ทแคโรไลนา ทางการต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน หลังจากที่พายุหิมะที่พัดกระหน่ำพื้นที่ทางใต้ของสหรัฐฯทำให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวต้องตกอยู่ในสภาพไวท์ คริสต์มาส หรือคริสต์มาสสีขาว เป็นครั้งแรกหลายปี อย่างที่รัฐนอร์ท แคโรไลนา การเดินทางในช่วงเทศกาลคริสต์มาสได้รับผลกระทบอย่างหนัก ต้องยกเลิกเที่ยวบินหลายร้อยเที่ยว นับเป็นหิมะคริสต์มาสครั้งแรกในรอบ 21 ปี ของรัฐนอร์ท แคโรไลนา คาดว่าหิมะจะตกหนักที่สุดในช่วงคริสต์มาสเท่าที่บันทึกไว้นับตั้งแต่ปี 1969 หรือ 41 ปีก่อน ส่วนที่นครแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย เกิดหิมะช่วงคริสต์มาสครั้งแรกในรอบ 128 ปี

    รายงานระบุว่า ในวันบ็อกซ์ซิ่ง เดย์ วันนี้ หรือวันแกะกล่องของขวัญ จะเกิดพายุหิมะในพื้นที่ชายฝั่งทางตะวันออก โดยที่กรุงวอชิงตัน ดีซี.คาดว่าจะเกิดหิมะตกมากถึง 10 นิ้ว เช่นเดียวกับที่เมืองฟิลาเดลเฟีย นิวยอร์ก และบอสตัน จะเกิดหิมะตกหนาถึง 18 นิ้ว

    และในวันคริสต์มาสเมื่อวานนี้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯได้ใช้เวลาพักผ่อนส่วนตัวกับครอบครัวในวันหยุดยาวที่ฮาวาย แต่เมื่อค่ำวานนี้ประธานาธิบดีโอบามา และมิเชล สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้เดินทางมายังฐานทัพเพื่อร่วมรับประทานอาหารค่ำกับครอบครัวทหาร โดยทั้งคู่ใช้เวลาที่นั่นประมาณ 40 นาที

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2553

    แผ่นดินไหวที่นิวซีแลนด์

    [​IMG]

    ชาวนิวซีแลนด์ต้องพบกับความตื่นตระหนกในช่วงเทศกาลคริสต์มาส หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ขนาด 4.9 ริกเตอร์ ที่เมืองไคร้สต์เชิร์ช เคราะห์ดีไม่ใครเสียชีวิต หรือได้รับบาดเจ็บ

    เมืองไคร้สต์เชิร์ช ต้องเผชิญกับอาฟเตอร์ช็อคหลายครั้ง เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น.วันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใกล้กับเกาะวานูอาตู ที่วัดความแรงได้ถึง 7.3 ริคเตอร์ เมื่อวานนี้

    โดยครั้งที่รุนแรงที่สุดวัดได้ 4.9 ริคเตอร์ มีจุดศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดิน 12 กิโลเมตร เกิดขึ้นเวลาเมื่อวลา 10.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 04.30 น.ตามเวลาบ้านเรา มีตึกได้รับความเสียหาย 20 หลัง และยังสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ประชาชนแห่ไปจับจ่ายซื้อของลดราคาในวันแกะกล่องของขวัญ แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต นิวซีแลนด์และวานูอาตู ตั้งอยู่ในแนวเขตที่เรียกกันว่า "วงแหวนแห่งไฟ" ที่มักจะเกิดแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิด

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2553

    ออสเตรเลีย-น้ำท่วมรัฐควีนส์แลนด์

    [​IMG]

    พายุไซโคลน ทาช่า ทำให้เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมขึ้นในหลายเขตของรัฐควีนส์แลนด์ ทางตะวันออกของออสเตรเลีย ในวันคริสต์มาส

    สำนักอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติออสเตรเลีย พายุไซโคลน ทาช่า ระดับ 1 ขึ้นฝั่งเมื่อเช้าวานนี้ทางตอนใต้ของเมืองแคร์นส์ ก่อนจะอ่อนกำลังลง บรู๊ซ เกรดี้ เจ้าหน้าที่สำนักจัดการภัยพิบัติฉุกเฉินของรัฐควีนส์แลนด์ เปิดเผยว่า แม้พายุไซโคลนจะผ่านไปแล้ว แต่น้ำท่วมยังเป็นสิ่งที่น่ากังวล ถนนถูกตัดขาดในเมืองแคร์น ที่ได้รับฝนในปริมาณกว่า 100 มิลลิเมตร

    ภาพที่ถูกนำออกเผยแพร่ทางโทรทัศน์ท้องถิ่นของออสเตรเลีย แสดงให้เห็นรถยนต์คันหนึ่งถูกน้ำท่วมพัดพาไป และคนขับรถต้องปีนออกจากรถและว่ายน้ำหนีออกมาได้อย่างปลอดภัย ฝนตกหนักและน้ำท่วมยังคงเกิดขึ้นต่อไปจนถึงยามค่ำคืน ในหลายเขตริมชายฝั่งระหว่างเมืองอิงแฮม ทางตอนเหนือของเมืองทาวน์สวิลล์ และเมืองแกล็ดสโตน ไล่เรื่อยลงไปจนถึงชายฝั่งแคปริคอร์น

    พายุไซโคลนได้สร้างความเสียหายขึ้นบางส่วน บ้านหลังหนึ่งใกล้กับเมืองแม็คเคย์พังเสียหาย หน่วยฉุกเฉินของรัฐ หรือ SES ได้รับโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือกว่า 150 สาย นอกเหนือจาก 417 สายที่รัฐเมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นวันคริสต์มาสอีฟ และคำสั่งเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับน้ำท่วมเพิ่มเติม

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2553

    เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ปากีสถาน

    [​IMG]

    เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายในวันคริสต์มาสที่ปากีสถาน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บกว่าร้อยคน

    โศกนาฎกรรมวันคริสต์มาสที่ปากีสถานเกิดขึ้นที่เมืองคาร์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือใกล้พรมแดนอัฟกานิสถาน โดยมือระเบิดซึ่งเป็นผู้หญิงและสวมเครื่องแต่งกายคลุมเท้าแบบมุสลิมได้เดินเข้าไปในกลุ่มคนที่กำลังเข้าคิวรอรับแสตมป์อาหารที่ศูนย์แจกจ่ายอาหารของโครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ ก่อนที่จะปาระเบิดมือ 2 ลูกเข้าใส่ฝูงชน จากนั้นก็จุดชนวนระเบิดที่ลำตัว ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีอย่างน้อย 41 คน บาดเจ็บราว 60 คน แต่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากผู้บาดเจ็บจำนวนมากมีอาการสาหัส นับเป็นปฎิบัติการโจมตีด้วยมือระเบิดผู้หญิงครั้งแรกในปากีสถาน และแสดงให้เห็นว่ามาตรการกวาดล้างครั้งใหญ่ของทางการปากีสถานไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มติดอาวุธมากนัก

    หลังเกิดเหตุนายกรัฐมนตรีซายเอ็ด ซูยูฟ ราซา กิลานี่ออกมาประนามเหตุโจมตีและประกาศจะเดินหน้ากวาดล้างกลุ่มติดอาวุธต่อเนื่อง ทั้งนี้กลุ่มชาวบ้านที่เสียชีวิตเป็นชนกลุ่มน้อยซาลาร์ซาอีส ที่ต่อต้านกลุ่มตาลีบันและให้ความร่วมมือกับทหารให้การกวาดล้างกลุ่มติดอาวุธ

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1293359794.jpg
      1293359794.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.6 KB
      เปิดดู:
      2,161
    • 1293354159.jpg
      1293354159.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.6 KB
      เปิดดู:
      2,340
    • 1293350210.jpg
      1293350210.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.1 KB
      เปิดดู:
      2,187
    • 1293274486.jpg
      1293274486.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.5 KB
      เปิดดู:
      2,170
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พระโอวาทท้าวสักกะเทวราช
    กัณฑ์ปลุกชาวโลก

    [​IMG]

    มหันตภัยอันน่ากลัวใกล้ตัวแค่นัยน์ตา
    มารทั้งห้ามากวาดล้างโลกดุร้ายยิ่ง
    ทุกคนจัดแจงรีบป้องกันแต่เนิ่นเนิ่น
    ถึงเวลาเกิดเหตุเสียใจภายหลัง

    กัณฑ์ปลุกชาวโลก อธิบายชัดเจน ณ เวลานี้จงเร่งรีบบำเพ็ญคุณธรรม พิบัติภัยใกล้ตัว ร้ายแรงนัก บัญชีหนี้กรรมหมื่นปีต้องชำระ เหล่าทวยเทพอริยะ ได้จัดเตรียมทำบัญชีไว้ก่อน ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต มีหนี้ต้องชดใช้ หนี้ชีวิตหนี้ในบัญชีหนีไม่พ้น

    เหล่าอสูรร้ายได้รับคำสั่งให้ลงสู่โลกมนุษย์ โลกสีแสงสุรานารี พร้อมกันอึกทึกครึกโครมเอ็ดอึงพาให้เสีย ก่อเกิดฆ่าฟันทั่วทุกหนทุกแห่งทั่วโลกา พาให้โลกวุ่นวาย คนทุกประเภทอยู่อย่างไม่เป็นสุข โจรผู้ร้ายชุกชุมทั่วทุกหัวระแหง ทุกคนต่างแสดงตนเป็นวีรบุรุษผู้กล้า บ้างแย่งชิงบ้างหลอกลวง บ้างจับตัวเรียกค่าไถ่ โจรขโมยก่อความวุ่นวาย ทหารออกมาปรากฏทุกคนถูกบีบบังคับจนอยู่ไม่ได้ บ้างถูกปืนยิงตาย บ้างถูกมีดฟันตายไปเมืองผี บ้างถูกไฟเผาตายบ้างกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทั้งหมดล้วนเกิดจากเหตุปัจจัยที่ก่อไว้ในอดีตชาติ

    ชาติก่อนก่อกรรมไว้ชาตินี้มาชดใช้ อดีตชาติทำกรรมไว้ชาตินี้มาชดใช้ กรรมสนองกรรมในชาตินี้ ตามสนองในชาตินี้ไม่ผิดพลาด คนมีบาปเทพเทวารู้ ทุกคนล้วนมีธงปักอยู่บนศีรษะเป็นสัญลักษณ์ ไม่จำตัวบุคคล จะดูสัญลักษณ์จากธงเป็นเครื่องหมายในการตอบสนองตามจริง ปักธงเขียว ถูกยิง ถูกระเบิด ปักธงแดง ถูกไฟเผา ปักธงดำ จมน้ำตาย ปักธงขาว ต้องคมหอกคมดาบ มีแต่ผู้สั่งสมคุณงามความดี ทำบุญทำทาน ถูกปักธงเหลือง เทพเทวาคุ้มครอง

    คนทำความดีได้รับบุญวาสนาอยู่สุขสบายเทพเทวาคุ้มครอง ไม่สู้บำเพ็ญธรรมจึงรอดพ้นภัยได้ มนุษย์โลกควรเร่งรีบเสาะหามหาธรรม ไม่แสวงหามหาธรรมจะไม่รอดพ้นภัย ภัยพิบัติครั้งนี้ หาขอบเขตไม่ได้ เลือดนองเหมือนสายน้ำ กระดูกกองเป็นภูเขา ผู้บำเพ็ญธรรมพ้นจากภัย คนที่ไม่มีธรรมะ ยากที่จะหลุดรอดได้

    เหล่าเทพเทวาลอยสถิตกลางนภา นำบัญชีมาชำระสะสาง ใครถูกเรียก ใครเป็นหนี้ ใครมีหนี้คนนั้นจะต้องชำระ ใครชาติก่อนทำความชั่วไว้ ใครชาติก่อนทำกรรมดีไว้ หักลบกลบหนี้ มาดูว่าชั่วมากกว่าหรือดีมากกว่าหากมีความดี เทพเทวาคุ้มครอง เทพเทวาปกปักรักษามักอยู่เย็นเป็นสุข ชั่วมากกว่าเทพเทวาลงทัณฑ์ เทพเทวาลงทัณฑ์ประสบภัยมาร วุ่นวายทุกหัวระแหง เพิ่มภัยแล้ง นักเลงอันธพาลโรคภัยไข้เจ็บระบาดทั้งในและนอก ทนอดอยากเผชิญความวุ่นวาย ไม่แน่ว่าการขู่กรรโชกจะทำให้เสียชีวิตได้ คิดคิดดูน่าตกใจ วันข้างหน้าจะมีคนตายมากมาย สิบส่วนตายเก้าส่วน เหลือเพียงหนึ่งส่วนคือเทพเซียน คิดคำนวณ ไม่ผิดพลาดแม้แต่น้อย

    หนี้ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต เป็นหนี้ในที่สุดต้องชำระ คนในโลกนี้ควรมองให้ทะลุปรุโปร่งเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งโดยตลอด เร่งรีบกินเจสวดมนต์ รักษาศีลสวดพระคัมภีร์ช่วยปลดเปลื้อง บาปกรรมหมื่นพัน หนี้ชีวิตไม่ต้องชดใช้ด้วยชีวิต ติดหนี้ไม่ต้องชดใช้

    โลกโลกีย์อย่าห่วงอาลัยรัก หลงรักอาลัยยากที่จะตัด โลกสีแสงสุรานารี ถึงแม้ดูดี หลงอาลัยรักสุดท้ายมิเหลืออะไรแม้แต่น้อย ละโมบบริโภค กินเนื้อสัตว์ล้วนแต่สร้างหนี้กรรม กินเขาสี่ตำลึง ชดใช้ครึ่งชั่ง ไม่มีใครยอมเสียเปรียบ บริโภคมาก ก่อบาปเวรมาก ก่อบาปกรรมมากจึงอยู่ไม่ได้ เมื่อหมดอายุขัยต้องตายจาก พญายมออกหมายเรียก ส่งยมทูตมาตามตัว ถือโซ่ตรวนล่ามตัวพาไป ล่ามเที่ยงคืนตายเที่ยงคืน ไม่มีใครที่จะมีลมหายใจอยู่ได้ต่อไปอีก ไม่ว่าจะว่างหรือไม่ว่าง ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ ต้องทิ้งทั้งหมด เมื่อสิ้นลมต่อให้ลืมตาก็มองไม่เห็น ทรัพย์สินเงินทองเอาไปไม่ได้ เหลือแค่สองมือว่างเปล่าน่าสงสาร

    ไปถึงยมโลกถูกยมทูตโบยตีกลิ้งไปมา ถูกโบยตี ไม่มีที่จะหลบซ่อน ยังต้องพาตัวไปพบพญายม ฝูงสุนัขดุขวางไว้รุมกัด ถูกกัดจนเลือดไหลท่วมตัว หมู่บ้านผีตายโหงโกลาหล ฝูงผีฉุดลากเรียกเอาเงิน กลัวจนขวัญหนีดีฝ่อ ฟันหมาป่ามากมายดั่งเทือกเขาตามทำร้าย เข็มปักกองเท่าภูเขา ทั้งหมดถูกทับอยู่บนตัวกลิ้งไปมา เลือดไหลเลอะเทอะเต็มตัว เนื้อหนังแหลกเหลว ยมทูตลากไปรายงานตัว

    ขุมนรกขุมที่ 5 น่าเกรงขาม ยมทูตหัววัว ยมทูตหน้าม้า ยืนเรียงสองข้าง พญายมประทับตรงกลาง ผู้พิพากษาถือสมุดบัญชี หากทำดี หากทำชั่ว แม้ว่าทั้งตัวเต็มไปด้วยปากยังแก้ต่างไม่ตก หากทำบุญสุนทานได้เป็นขุนนาง บุญกุศลครบสามพันได้เป็นเทพเป็นเซียน หากไม่มีบุญกุศลคงจะลำบาก มีแต่ลงนรกร้องไห้กับฟ้า ลงกระทะทองแดง ปีนภูเขามีด ถูกครกตำ ใช้โม่เหล็กบด ถึงตอนนั้นเสียใจก็สายไปแล้ว

    วันนี้รีบเร่งบำเพ็ญปฏิบัติ พูดถึงการบำเพ็ญปฏิบัติไม่ยากเลย ขอเพียงมีจิตศรัทธา ตั้งความมุ่งมั่น งดเว้นอาหารคาวเพื่อตัดกรรม รักษาพุทธระเบียบ ตั้งโต๊ะบูชา ถวายธูปวันละสามครั้ง หมั่นสวดมนต์ ไม่ขี้เกียจ หนี้กรรมในอดีตชาติจะถูกลบล้างหมดไป หนี้กรรมในอดีตชาติ หากถูกลบล้างหมดไป จากนี้ไปจะไม่ประสบภัยตกทุกข์ได้ยากต่อไปอีก กราบไหว้พระวิสุทธิอาจารย์ เปิดประตูญาณสามารถเป็นเทพเซียนบนสวรรค์ ขึ้นสวรรค์เป็นเทพเซียน ไม่เสียแรงที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ฉุดช่วยบรรพบุรุษเจ็ดชั้น ลูกหลานอีกเก้าระดับ ช่วยบิดามารดาได้ไปอยู่แดนพุทธเกษตร ได้รับการยกย่องเป็นลูกกตัญญู ยกย่องเป็นอริยะ ได้รับการยกย่องเป็นทั้งอริยะและกตัญญูพร้อมกัน ขึ้นไปเฝ้าพระแม่องค์ธรรม พบเหล่าเทพเซียน อิสรเสรีสุขสำราญ

    กล่าวถึงตรงนี้ ขอจบแล้ว ขอให้ทุกคนสำรวจและพิจารณาตรวจสอบละเอียดรอบคอบ จะหนีให้พ้นจากภัยพิบัติ ต้องเร่งรีบศึกษากัณฑ์ปลุกชาวโลกนี้

    กัณฑ์ปลุกชาวโลกเสมือนเรือฉุดช่วย พบใครก็ตักเตือนบอกต่อ กลับคืนสู่พุทธบรรพต กราบพระอนุตตรธรรมมารดา ตนเองบรรลุ พาให้คนอื่นบรรลุด้วย บุญกุศลนับไม่ถ้วน หากใครไม่ศึกษากัณฑ์ปลุกชาวโลกนี้ ขณะมีชีวิตอยู่ประสบเคราะห์ร้าย ตายไปถูกลงโทษด้วย ฝากคำพูดง่ายๆ ไว้เตือนชาวโลก รีบไปฉุดช่วยคนให้พ้นจากความทุกข์ เพื่อเก็บงานให้สมบูรณ์

    ขอเตือนสาธุชนชายหญิง รีบบำเพ็ญตนเพื่อคุ้มครองชีวิตตนเอง อย่าได้เห็นเป็นเรื่องล้อเล่น ฉวยโอกาสขณะได้เกิดเป็นคนที่มีความอิสระและสะดวกในการปฏิบัติ รีบขึ้นเรือธรรม ได้รับมหาธรรม

     
  3. losociety

    losociety สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +8
    เตรียมกาลอย่างไรครับ

    อยากรู้ละเอียดครับว่าควรทำไง
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สาส์นจากปู่ใหญ่ (หลวงปู่เทพโลกอุดร)

    ผ่านทางทิพย์นิมิต พระอาจารย์เพลิน นนทโก ให้แจ้งต่อผู้ศรัทธาในปู่ใหญ่ หลวงปุ่เทพโลกอุดร ว่าในอนาคตข้างหน้านี้ จักเกิดภัยพิบัติอันใหญ่หลวงต่อมวลมนุษยชาติทั่วโลก ขอให้ลูกหลานทุกคนจงพากันเตรียมตัว ร้บสถานการณ์ให้ดี โดยให้มีสติอันมั่นคงอย่าวิตกกังวล จงพากันเร่งบำเพ็ญภาวนาทำสมาธิฝึกฝนพลังจิตให้เข้มแข็ง และให้พากันหาสถานที่อันสงบในป่าเขาแหล่งที่ห่างไกลความเจริญ ​

    ปลูกต้นไม้ให้มาก ๆ ล้อมรอบที่พักอาศัย แล้วบำเพ็ญภาวนา เก็บกักตุนเสบียงไว้ใช้ในยามขัดสน อันมีปัจจัยสี่ เช่น เครื่อง นุ่งห่ม อาหารแห้ง ยารักษาโรค หากผู้ใดมีเงินขอให้เปลี่ยน เป็นของมีค่าอย่างอื่น เช่น ทองคำเป็นต้น อย่าฝากธนาคาร อย่าซื้อหุ้น ให้ฝังดินไว้ทำแผนที่ลายแทงไว้ในพื้นที่ที่ห่างไกล กรุงเทพฯ เชื้อเพลิงให้พากันกักตุนแบตเตอรี่แห้งเป็นต้น อย่าห่วงทรัพย์ในเมืองหลวง จงพากันไปหาที่ปลูกสร้างที่พักไว้ ตามวัดป่า วัดเขาในชนบท ตามถ้ำต่าง ๆ จึงจะพากันรอด จากภัยพิบัติ จงเร่งบำเพ็ญภาวนา​

    ผ่านกระแส เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2539 ณ ธรรมสถานวงษ์จิต บ้านนาคำน้อย หมู่ 7 ตำบลบ้านก้อง อาเภอนายูง จ้งหวัดอุดรธานี 41380​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2010
  5. GUYTHUM

    GUYTHUM เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    1,358
    ค่าพลัง:
    +1,088
    อ่านให้ดีๆแล้วทำความเข้าใจให้กระจ่าง....4444
     
  6. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เชื้อเพลิง(พลังงาน)ให้พากันกักตุนแบตเตอรี่แห้งเป็นต้น

    [​IMG]
    แผงโซล่าเซลล์สำหรับเครื่องปั๊มน้ำ

    พอดีผมไปอ่านเจอเรื่องพลังงานโซล่าเซลล์ ที่สามารถนำมาให้พลังงานไฟฟ้าโดยการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นพลังงานไฟฟ้าประจุเก็บเอาไว้ในแบตเตอรี่ เพื่อใช้ในกรณีที่ต้องไปอยู่ตามถ้ำ หรือตามป่าเขาในชนบท ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้ ผมเห็นว่าน่าสนใจดีเลยนำมาให้ได้อ่านกันเป็นความรู้ครับ

    อ้างถึง : sayan

    ต้องใช้เงินเท่าไร? เพื่อซื้อแผงโซล่าเซลล์ ที่ให้พลังงานสำหรับหลอดไฟใช้ในบ้าน 2 หลอด ทีวี 1 เครื่องและปั๊มดูดน้ำขนาดเล็ก 1 ตัว? ช่วยตอบด้วยครับเพราะบ้านอยู่ในป่าลึก

    แผงโซล่าเซลล์ที่ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าตามสภาพที่คุณว่ามา ผมแนะนำให้ใช้แผงขนาด 120 วัตต์ เลยครับ สามารถใช้ได้ทั้งไฟฟ้า แสงสว่าง ทีวี เครื่องเสียง และปั้มน้ำได้เลยครับ ราคาแยกให้ดังนี้ครับ แผง 120 วัตต์ มือ1 ราคา 29,500 บาท / มือสอง ราคา 14.500 บาท ชุดควบคุมการประจุไฟฟ้า และชาร์จไฟ มือ1 ราคา 6,800 บาท / มือสอง ราคา 1,250 บาท แบตเตอรี่ แนะนำใช้ของใหม่เลย เป็น ขนาด 125 แอมป์ ราคา 6,500 บาท ปั้มนำ dc 12 โวลล์ แรงดันนำสูง 17-25 เมตร ราคา 7,500 บาท ชุดส่องสว่าง หลอดพร้อมรางหลอดอิเลคทรอนิคส์ 450 บาท/ชุด ตกของมือ1 จะอยู่ที่ ราคา 51,200 บาท มือสอง อยู่ที่ ราคา30,650 ราคาที่เสนอยังไม่รวมค่าติดตั้ง เรารับประกันงานอีก 6 เดือน ซ่อม/เปลี่ยน ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ตามงาน 100 % ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ เอส.เจ โซล่าโฮมซีสเต็ม 038-412117 080-6343419 คุณชุมพร

    เครื่องแปลงไฟ (INVERTER)

    [​IMG]

    เครื่องแปลงไฟ (INVERTER) ใช้แปลงไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์ 12 V ให้เป็นไฟฟ้า 220 V นำเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆไปใช้งานได้ทุกที่

    INVERTER เครื่องแปลงไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์(12 VDC ) เป็นไฟบ้าน(220VAC) ขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา ระบบสวิทชิ่ง ​

    ขนาด 180 วัตต์ราคา 1,100 บาท
    ขนาด 300 วัตต์ ราคา 2,200 บาท
    ขนาด 500 วัตต์ ราคา 2,900 บาท ​

    ชนาดของรุ่น 180 วัตต์ กว้าง 8.9 ซม. ยาว 12.3 ซม. สูง 4.3 ซม. หนัก 380 กรัม
    ขนาดของรุ่น 300 วัตต์ กว้าง 12.3 ซม. ยาว 16.6 ซม. สูง 5.4 ซม. หนัก 930 กรัม
    ขนาดรุ่น 500 วัตต์กว้าง 12.3 ซม. ยาว 16.6 ซม. สูง 5.4 ซม. หนัก 1,100 กรัม ​

    รุ่น 180 วัตต์ มีสายต่ออกมาจากตัวเครื่องเป็นปลั๊กจุดบุหรี่ เวลาใช้งานนำไปเสียบในช่องจุดบุหรี่รถยนต์ได้ทันที ใช้งานง่ายสะดวก มีพัดลมระบายความร้อนใช้งานได้ต่อเนื่อง ไม่ร้อน มีวงจรตรวจสอบแรงดันแบตเแบตเตอรี่รถยนต์ ถ้าแรงดันต่ำกว่า 10.5 โวล์ทเครื่องจะตัดการทำงานทันที ซึ่งยังสามารถสตาร์ทรถยนต์ได้ไม่ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมด ​

    สามารถใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ดังนี้

    - คอมพิวเตอร์โน้ตบุคส์ทุกรุ่น พร้อมปริ้นเตอร์หรือสแกนเนอร์ต่อใช้งานร่วมกัน
    - คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ(DeskTop)ที่ใช้จอ LCD (ถ้าเป็นจอCRTขนาด 14 หรือ 15 นิ้วต้องลองเปิดจอดูก่อนว่าจอติดไหม ถ้าจอติดแล้วค่อยเปิดสวิทช์ที่ตัว Case CPU ถ้าเครื่องตัดการทำงานแสดงว่าใช้ไม่ได้ )
    - เครื่องชาร์ทแบตเตอรี่ กล้องดิจิตอล กล้องวีดีโอ โทรศัพท์มือถือ PocketPC สามารถชาร์ทพร้อมกันได้หลายเครื่อง โดยนำปลั๊กสามตามาต่อพ่วง
    - โทรทัศน์สีขนาด 14 นิ้ว ทั้งจอแบน หรือจอโค้ง ( โทรทัศน์สีขนาด 20 และ 21 นิ้วบางรุ่น ที่ใช้กำลังไฟไม่เกิน 180 วัตต์ )
    - เครื่องเล่น DVD , VCD และ เครื่องเล่นเกมส์ ทุกชนิด
    - ลำโพงคอมพิวเตอร์ทุกรุ่น
    - พัดลมทุกชนิด
    - หลดไฟส่องสว่าง
    รุ่น 300 วัตต์ มีขั้วให้นำสายไฟมาต่อ โดยให้ใช้สายไฟขนาดตั้งแต่ 4 มม. ขึ้นไป ที่ต่อโดยตรงจากแบตเตอรี่( ในรุ่น 300 วัตต์ และ 500 วัตต์ มีสายไฟพร้อมปากคีบมาให้ ) ตัวเครื่องมีพัดลมระบายความร้อนสามารถใช้งานได้ต่อเนื่องไม่ร้อน มีเสียงร้องเตือนเวลาแบตเตอรี่แรงดันต่ำและเครื่องจะตัดการทำงานเอง
    สามารถใช้งานได้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าเหมือนรุ่น 180 วัตต์ ที่ใช้งานได้มากกว่าเช่น
    - คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่ใช้จอCRT ขนาด 14,15,17 นิ้วพร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงเช่น พริ้นเตอร์ สแกนเนอร์
    - โทรทัศน์สีขนาด 21,25,29 นิ้วพร้อมชุดโฮมเทียร์เตอร์
    ในรุ่น 300 วัตต์และ 500 วัตต์สามารถใช้งานได้หลากหลายตามที่ท่านจะประยุกต์ใช้งาน โดยสามารถใช้งานได้พร้อมกันหลายอย่าง สินค้าทั้งสองรุ่นมีระบบแยกground(Isolate) ไม่มีไฟรั่วที่ตัวเครื่อง และขั้วไฟอินพุท มีความปลอดภัยสูง ทุกรุ่นใช้งานได้ต่อเนื่องเครื่องไม่ร้อน รับประกันสินค้าทุกรุ่น 1 ปี ต่างจังหวัดส่งทาง พกง. ไม่คิดค่าส่ง ในกรุงเทพ นัดเจอแล้วรับสินค้าลองได้ครับติดต่อ 086-3585922 หรือ Email: inverterman@gmail.com

    หมายเหตุ

    ที่ผมได้นำเรื่องการใช้ประโยชน์จากแบตเตอรี่รถยนต์มาโพสต์ในกระทู้นี้ ก็เพื่อให้ท่านที่จะเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ ได้เรียนรู้วิธีที่จะใช้ประโยชน์จากไฟในแบตเตอรี่รถยนต์ ว่าสามารถนำมาดัดแปลงใช้ให้เกิดประโยชน์ในยามคับขันได้ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ที่จะมาโฆษณาขายสินค้าให้ใครแต่อย่างใดนะครับ เพียงแต่อยากให้ท่านที่พอมีกำลังทรัพย์เหลือเก็บอยู่ในตอนนี้ ควรซื้อหาเก็บเอาไว้บ้าง ก็อาจจะเป็นประโยชน์กับตัวของท่านเองในอนาคต อย่างที่ท่านอาจจะคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้ครับ​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2010
  7. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,189
    ค่าพลัง:
    +20,861

    อนุโมทนา...สาธุ กับข้อความนี้ครับ :cool:

    เพราะที่ได้ยินมาก็เหมือนกันอย่างไม่ผิดเพี้ยน
    สาธุชนทุกท่านทราบแล้ว ก็พิจารณาหาหนทางกัน นะครับ
     
  8. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    *** ใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท ****

    เรื่องเวลา ไม่มีอะไรแน่นอน....ขึ้นอยู่กับจิตใจคนเรา
    ถ้าเราเชื่อมั่นว่าอีก 6 ปี ...ก็เหมือนเราตายใจ ใจก็เป็นประมาท เพราะยังเหลือเวลาอีก 6 ปี
    แต่ถ้าเราคิดว่า อาจจะเกิดวันนี้พรุ่งนี้ ....เราก็จะใช้ชีวิตด้วยความไม่ประมาท
    จะใช้ชีวิตแบบไหน ก็ต้องเลือกเอาเอง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  9. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    ๑ คืบอรหันต์ เท่ากับ ๖ ปี

    *** ศึกประลัยกัลป์ ****

    เมื่อ...ต้นปี พ.ศ.๒๕๔๙
    ศึก-ประ-ลัย-ยา-กัล ใกล้ตัว....เหลือเพียง ๑ คืบ อรหันต์

    ๑ คืบ ของอรหันต์...เท่ากับ ๖ ปี
    เพราะฉะนั้น จะมาถึงตัว ในปี พ.ศ.๒๕๕๕
    ตอนนี้ จึงเหลือเวลาไม่มาก
    ผู้รอดพ้น...คือ ผู้มีสัจจะ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->

    http://palungjit.org/threads/ใครเป็นผู้ตั้ง-พุทธศักราช.245843/<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,551
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,876
    ปี 2013 ระบบสุริยะวิปริต อวสานโลก ?

    [​IMG]


    2013 ระบบสุริยะวิปริต อวสานโลก ? (ไทยโพสต์)

    ตามปฏิทินของชนเผ่ามายาที่ทำไว้เมื่อ 2,000 ปีก่อนคริสตกาล ออกคำทำนายไว้ว่า ปี พ.ศ.2555 หรือ ค.ศ.2012 จะเป็นวันอวสานโลก ถึงขนาดทำเป็นหนังฉายให้คนทั้งโลกได้ดูสุดยอดมหาภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น เมื่อถึงปี 2012 ผลจากความแปรปรวนของสุริยะจักรวาลและความผิดปกติของแสงอาทิตย์

    ด้านนักวิทยาศาสตร์ก็มีการศึกษาค้นคว้าเรื่องจักรวาลและอวกาศ ได้ค้นพบความวิปริตของระบบสุริยะจักรวาลที่ส่งผลต่อทั้งโลก ทั้งพายุฝน น้ำท่วม น้ำแล้ง แผ่นดินไหว สึนามิ มีผู้สังเวยชีวิตมหาศาล แล้วตอนนี้ที่หิมะและอากาศเย็นยะเยือกกระหน่ำยุโรป ก็คาดเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก

    ปี 2012 จะเป็นวันอวสานโลกจริงตามคำทำนายที่ชนเผ่ามายาระบุไว้หรือไม่....ไม่มีใครรู้

    แต่ ดร.ก้องภพ อยู่เย็น ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมการออกแบบเครื่องตรวจจับคลื่น ไมโครเวฟอินฟาเรด องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือองค์การนาซา เจ้าของรางวัลวิศวกรดีเด่นจากนาซา ในฐานะผู้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในระบบตรวจจับพลังงานคลื่นไมโครเวฟจากนอกโลก เป็นนักวิทยาศาสตร์ไทยอีกคนที่ออกมาเตือนให้ทุกคนทราบถึงความปั่นป่วนของ ระบบสุริยะจักรวาลที่จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อโลกโดยตรง และที่งานสัมมนาเชิงวิชาการเรื่อง "เจาะลึกภัยพิบัติ...พลิกวิกฤติให้เป็นทางรอด"

    เขาบอกว่า จากการศึกษาไม่ใช่ ปี 2012 แต่เป็นปี 2013 ที่โลกจะเผชิญหายนะสูงสุด แม้จะไม่ตรงกับวันสิ้นโลกในปฏิทินของชาวมายา แต่ก็ได้ความว่า อีก 3 ปี พวกเราไม่รอดแน่ เป็นข้อมูลที่น่าตกใจ

    ดร.ก้องภพ ให้ดูภาพเกี่ยวกับโลก ทางช้างเผือก ระบบสุริยะ และกาแล็กซี่ของโลก พร้อมระบุสิ่งที่จะพูดต่อจากนี้เป็นความเห็นส่วนตัวจากการศึกษาและรวบรวม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ไม่เกี่ยวข้องกับองค์การนาซาที่กำลังทำงานอยู่ และ เขาบอกว่า ปี 2556 หรือ ค.ศ.2013 เป็นปีที่จะเกิดโนวาการระเบิดที่มีพลังงานมากที่สุด มันจะปลดปล่อยพลังงาน มหาศาล เพราะมีแนวโน้มว่าปฏิกิริยาพระอาทิตย์จะขึ้นสูงสุดในต้นปี 2013 นี้ และเกิดการพลิกกลับขั้วของแกนแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดทั้งความร้อนสูงและการหดตัวของระบบสุริยะ

    ช่วงนั้นดวงอาทิตย์โคจร ตัดผ่านทางช้างเผือกในทุก ๆ 33-35 ล้านปีพอดี ซึ่งทางช้างเผือกมีมวลของดาว 2,000-4,000 ล้านดวง หากเกิดการบีบหดตัว ดวง ดาวและอุกกาบาตบางส่วนจะกระเด็นเข้ามาในระบบสุริยะ ซึ่งเมื่อ 35 ล้านปีที่ แล้วเป็นช่วงที่มีอุกกาบาตเข้ามาเยอะ แต่ความเสี่ยงจะมากกว่า 10 เท่า ในปี 2013

    "ตลอดระยะเวลา 10-20 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียทำงานองค์การอวกาศรัสเซียเทียบเท่านาซา สำรวจระบบสุริยะ พบมีการเปลี่ยนแปลงขอบด้านนอกสุดของระบบสุริยะ โดยวัดปริมาณความสว่างสูง ขึ้น 1,000% มีอะไรบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น เชื่อว่ามีพลังงานบางอย่างเข้ามาในระบบสุริยะ นาซาเองก็พบการเปลี่ยนแปลง เช่นกัน ภาพถ่ายจากดาวเทียม Imax ที่โคจรรอบโลก ปรากฏพลังงานที่เล็ดลอดเข้ามาในะบบสุริยะ เดินทางด้วยความเร็วสูง แนวที่มี พลังงานรั่วใกล้กับทางช้างเผือก แล้วยังค้นพบว่า เมื่อวัดแกนพลังงานนี้มี การเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาในระยะ 6 เดือน ไม่ใช่ลักษณะค่อยเป็นค่อยไป นี่เป็นสิ่งที่นอกเหนือการคาดการณ์ของนักวิทยาศาสตร์"

    ดร.ก้องภพ ให้ข้อมูลอีกว่า นอกจากรายงานของนาซายืนยัน การบินอวกาศยุโรปยังมีภาพแบบร่างพลังงานสนามแม่เหล็กขนาดใหญ่และความร้อนสูง มากเคลื่อนตัวเข้าหาดวงอาทิตย์ แล้วยังมีข่าวอย่างเป็นทางการระบุการบีบอัดของชั้นขอบนอกระบบสุริยะ จะทำให้พลังงานรังสีคอสมิกเข้ามาในระบบสุริยะมากเป็นพิเศษ ส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศบนโลก

    นอกจากนี้ มีหลักฐานแสดงให้เห็นดวงอาทิตย์มีปฏิกริยาสูงสุดในรอบ 8,000 ปี และการที่นาซาส่งดาวเทียมโคจรที่ขอบด้านนอกเพื่อวัดความดันลมสุริยะช่วงปี 2547-2551 พบว่า ความเร็วลมสุริยะลดลงมาก ผลจากพลังงานบางอย่างเข้ามาบีบอัดลมสุริยะให้ลดลง สอดรับกับข่าวล่าสุดยืน ยันมีการเปลี่ยนแปลงด้านนอกสุดของระบบสุริยะ ส่งผลให้ความเร็วลมสุริยะลดลง 20 กิโลเมตรต่อวินาที ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2550 เป็นต้นมา และในตอนนี้ดาวเทียมวัดความเร็วลมสุริยะพบว่าลดลงถึง 0 แล้ว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ถึง 4 ปี

    "ดวงอาทิตย์มีวัฏจักร ทุก ๆ 11 ปี จะมีการพลิกกลับขั้วของสนามแม่เหล็กและเป็นช่วงที่เกราะป้องกันดวงอาทิตย์ ต่ำสุด คาดการณ์ว่าจะเกิดปี 2013 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ส่งผลให้เกิดภัยพิบัติรุนแรง จากการสำรวจของดาวเทียม ช่วงที่ดวงอาทิตย์มีปฏิกิริยาสูงสุด ทั้งฝุ่นละอองและอุกกาบาตเข้ามามากเป็นพิเศษ มีผลกระทบต่อดาวเคราะห์ทุกดวง" วิศวกรอาวุโสไทยองค์การนาซา กล่าว

    เขายังให้ภาพความปั่นป่วนและเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับดาวเคราะห์ในระบบ สุริยะถ้วนหน้า ตั้งแต่ดาวพลูโต ที่พบความกดอากาศเพิ่มขึ้น 300 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่อยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุด ภาพดาวเนปจูนแสดงให้เห็นความสว่างจ้าของชั้นบรรยากาศเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ ดาวยูเรนัสก็เช่นเดียวกัน ความสว่างเพิ่มขึ้น กลุ่มเมฆมาก และมีการพลิกกับขั้วของสนามแม่เหล็ก ดาวเสาร์มีการเปลี่ยนแปลงในแนวเส้นศูนย์สูตรและเกิดปรากฏการณ์ออโรรา คือ มีแสงบนท้องฟ้าตอนกลางคืน แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กอย่างมาก ดาวพฤหัสก็สว่างขึ้นถึง 200 เปอร์เซ็นต์ และร้อนจัดขึ้น

    ส่วนดาวอังคารเกิดสภาวะโลกร้อน น้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำ มีพายุ มีการก่อตัวของเมฆในชั้นบรรยากาศดาวอังคาร ดาววีนัสสว่างขึ้น 2,500 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 30 ปี แม้แต่ดาวพุธก็ค้นพบสนามแม่เหล็กสูงมาก และเกิดน้ำแข็ง มีฝุ่นละอองที่พัดออกมา ส่วนหนึ่งมาจากความดันลมสุริยะลดลง

    สำหรับ ดาวเคราะห์โลกที่มนุษย์อาศัยก็เปลี่ยนแปลงมาก วิศวกรอาวุโสไทยจากองค์การนาซา เปิดเผยว่า จากการวัดปริมาณรังสีคอสมิกมีสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ เมื่อ 50 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ปริมาณจะลดลง แต่ปรากฏว่าไม่เป็นเช่นนั้น

    "รังสีคอสมิกถ้ารับปริมาณมาก สิ่งมีชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ รวมถึงเกิดการกลายพันธุ์ เป็นโรคมะเร็ง แต่ไม่ต้องกังวลมาก การเปลี่ยนแปลงดีเอ็นเอเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นในอดีต นอกจากนี้ ตั้งแต่ปี 2540 เป็นต้นมา ปริมาณฝุ่นละอองที่เข้ามาในโลกมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะสูงขึ้นอีก 13 เท่าตัว ในปี 2556 ปริมาณอุกกาบาตที่วัดได้มีสูงมากในปี 2541 อาจเพราะมีเทคโนโลยีตรวจจับวัตถุหรือมีอุกกาบาตเข้ามาเยอะขึ้น ฝนดาวตกก็เพิ่มขึ้น ยืนยันปรากฏการณ์นี้แสดงว่ามีวิกฤติเข้ามาในโลกมากขึ้น"

    ดร.ก้องภพ กล่าวต่อว่า อีกความผิดปกติที่เกิดขึ้นคือ การเปลี่ยนแปลงความดันอากาศรอบนอก ธรรมดาเกิดขึ้นทุก 11 ปี แต่เมื่อวัดครั้งสุดท้ายผิดไปจากเดิม 28 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ชั้นบรรยากาศลดต่ำลง ส่งผลให้โลกของเราไวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศนอกโลก เช่นเดียวกับภาพจากดาวเทียมวัดสนามแม่เหล็กรอบนอกแสดงให้เห็นรูรั่ว ที่มี อนุภาคและพลังงานหลุดลอดเข้ามาส่งผลต่อสภาพอากาศโลก ขั้วโลกเหนือน้ำแข็งละลาย ขั้วโลกใต้หิมะน้ำแข็งเพิ่มขึ้น

    เวลานี้มีรายงานวิจัยมากขึ้น ชี้สนามแม่เหล็กโลกส่งผลกระทบต่อรังสีคอสมิกที่เข้ามาในชั้นบรรยากาศ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพเมฆและก่อตัวของเมฆ นี่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นและหลีกเลี่ยงไม่ได้ รวมถึงความถี่ในการ เกิดแผ่นดินไหวส่งผลกระทบต่อโลกมากเป็นประวัติการณ์ ปี 2553 ทำสถิติสูงสุดในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ เราเห็นความสัมพันธ์ระหว่างปรากฏการณ์ความร้อนที่เกิดขึ้นบนโลก ทั้งอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น ความสว่างของดวงอาทิตย์ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ในทางเดียวกัน ทั้งยังมีข้อมูลสถิติปี 2552-2553 ระบุความสูญเสียจากภัยพิบัติเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า

    ปี 2556 ที่ ดร.ก้องภพ คาดการณ์ว่าดวงอาทิตย์จะมีปฏิกิริยาสูงสุด จะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อดาวเทียม อุกกาบาตหรือหินนอกโลกอาจทำให้ดาวเทียมเสียหาย มนุษย์มีความเสี่ยงจากการเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะว่าจะได้รับรังสีแกมมา และคอสมิกปริมาณมาก รวมถึงเครื่องบินตก มีข้อมูลว่า 2-3 ปีมานี้ ปริมาณการส่งดาวเทียมไปนอกโลกจากทั่วโลกลดลง ก็ขึ้นกับการตี ความ ปี 2553 เป็นเพียงเริ่มต้นปฏิกิริยาสูงสุดของดวงอาทิตย์ อีก 3 ปีข้างหน้าจะรุนแรงขึ้น

    ย้อนไปเมื่อวันที่ 2 กันยายน ปี 2402 มีผู้บันทึกไว้ว่าเกิดปฏิกิริยาพระอาทิตย์ครั้งใหญ่ ปีนั้นแสงอาทิตย์สว่างจ้า ระบบโทรเลขทำงานโดยอัตโนมัติ คนใช้โทรเลขถูกไฟฟ้าช็อตจากพลังงานที่เข้ามา ปัจจุบันผลกระทบจะสูงกว่าครั้งนั้น อาจ เกิดไฟฟ้าดับทั่วโลกหรืออุปกรณ์อิเล็กโทรนิกใช้การไม่ได้ ระบบหม้อแปลงไป จนถึงสายส่งเสียหาย สภาพอากาศแปรปรวน พายุถล่ม น้ำท่วม รวมถึงแผ่นดินไหว ต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์และหาวิธีอยู่รอด

    "พื้นที่เสี่ยงกับปฏิกิริยานี้ คือ ขั้วโลก สหรัฐ แคนาดา ประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตรเสี่ยงน้อยกว่าแต่ไม่ใช่ไม่เกิดขึ้น ไม่อยากให้ ประมาท พม่าย้ายเมืองหลวงไม่มีเหตุผล เนเธอร์แลนด์สร้างบ้านลอยน้ำ เมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐ สร้างเมืองตัวอย่างลอยน้ำ คาดว่าแล้วเสร็จปี 2013 หรือปี 2555 ทางการนอร์เวย์ย้ายศูนย์บัญชาการทหารลงใต้ดินเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา รัสเซียสร้างที่หลบภัยใต้ดิน 5,000 จุด เสร็จในปี 2012 นี่คือสิ่งที่แต่ละประเทศเตรียมการไว้ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด" ดร.ก้องภพ กล่าวโดยไม่สรุปใด ๆ เพราะต้องการทำหน้าที่ให้ความรู้จากข้อมูล วิทยาศาสตร์ที่ได้ศึกษาเพื่อสร้างความตระหนักในเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ส่วนจะเชื่อหรือไม่ขึ้นกับวิจารณญานของแต่ละบุคคล

    อย่างไรก็ตาม ดร.ก้องภพ ฝากทิ้งท้ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการรับมือภัยพิบัติที่จะมีขนาด ความรุนแรงแตกต่างกัน นโยบายของภาครัฐควรเน้นการป้องกันเพื่อลดการสูญเสีย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อประชาชนเดือดร้อนมาก อยากให้แก้ที่ต้นเหตุ และใช้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพตรวจจับสิ่งผิดปกติ มีกระบวนการแจ้งเตือนล่วงหน้า รวมถึงสร้างสถานที่หลบภัย ซ้อมอพยพบนเส้นทางหนีภัย อีกมาตรการหนึ่งที่สำคัญ เป็นการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจกับประชาชนทั่วไปกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

    ส่วนคนทั่วไปต้องเรียนรู้พึ่งพาตัวเอง นอกจากหวังพึ่งรัฐที่อาจช่วยเหลือได้ไม่ทันท่วงที เช่น สร้างคลังอาหารสำรองในพื้นที่ ปลูกพืชผักสวนครัว รวมถึงสำรองอาหารและอุปกรณ์ยังชีพที่จะใช้เอาตัวรอดในเหตุฉุกเฉิน 3-5 วัน ระยะยาวเห็นว่าทำตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางที่เหมาะสมและเกิด ประโยชน์ที่สุด




    ขอขอบคุณข้อมูลจาก

    [​IMG]

    www.kapook.com
     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อยุธยา-ตะลึง..พบฝ่าพระบาทพระพุทธเจ้าทะลุโลงให้คนกราบไหว้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตะลึง..ฝ่าพระบาทพระพุทธเจ้าหลุดโผล่ออกนอกโลง ให้พระสาวกและชาวบ้านได้กราบไหว้หลังปรินิพพาน กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานหนึ่งเดียวในโลก ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อน

    อันซีนไทยแลนด์อีกแห่ง พบพระบาทพระพุทธเจ้าโผล่ยื่นออกจากนอกโลงที่วัดกลาง หมู่ที่ 4 ตำบลนครหลวง อำเภอนครหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งฝาผนังภายในมณฑปเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเล่าเรื่องราวพุทธประวัติ ตอนพระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน กลางมณฑปมีพระแท่นยกสูงบนลวดลายบัวคว่ำบัวหงาย มีบันไดเดินขึ้นได้ทั้งสี่ทิศ บนแท่นมีโลงลวดลายทองพื้นสีแดง ขนาดความกว้าง 70 ซม. ยาว 2 เมตร ส่วนตัวโลงศพมีความสูง 1 เมตร มีฐานชุกชีรองรับ ที่พิเศษคือตรงปลายโลงด้านทิศตะวันตก มีฝ่าพระบาทของพระพุทธเจ้ายื่นโผล่พ้นโลงทองออกมาทั้ง 2 พระบาท พระบาทแต่ละข้างกว้างประมาณ 20 ซม. ยาว 40 ซม. กลางพระบาทมีรูปตรากงจักร และลายก้นหอยสวยงาม ที่ปลายพระบาทมีพระกัสสัปปะยืนไหว้พระบาทอยู่

    พระครูโสภิตวิหารคุณ หรือ พระอาจารย์ชู เจ้าอาวาส กล่าวว่า วัดกลางสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.2330 ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำป่าสัก โบราณสถานสำคัญคือมณฑปหรือวิหาร ซึ่งเชื่อว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 ลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ก่ออิฐถือปูน หลังคามุงกระเบื้อง ข้างในบนฐานสูงกลางมณฑปได้จำลองพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้า แบบเป็นสามมิติเสมือนจริง และมีจิตรกรรมฝาผนังรอบฝาผนังทั้ง 4 ทิศ เป็นเรื่องราวของสาวกพระพุทธเจ้า ที่มาร่วมในถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้า

    สำหรับมณฑปดังกล่าวเป็นการแสดงประติมากรรมเหตุการณ์ในพุทธประวัติหลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธ์ปรินิพพานแล้ว ปรากฏอยู่ในมหาปรินิพพานสูตร ทีฆนิกายมหาวรรค ว่าเมื่อจะทำการถวายพระเพลิงพระบรมศพนั้นไฟไม่ยอมลุกไหม้ จนกระทั่งพระกัสสัปปะอันเป็นอัครสาวกองค์หนึ่งมาถึง จึงเข้ามาถวายบังคมปรากฏว่าฝ่าพระบาทของพระพุทธเจ้าได้โผล่อื่นออกมาให้พระกัสสัปปะผู้มีศรัทธาเดินทางมาได้กราบพระบรมศพที่พระบาททั้งสอง จากนั้นก็เป็นที่อัศจรรย์ ไฟก็ติดขึ้นเองไหม้พระสรีระของพระพุทธองค์จนหมด

    สำหรับ มณฑปแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยงานช่างพื้นบ้านโดยมีอิทธิพลจากงานประเพณีนิยมที่ผสมผสานกับอิทธิพลจากตะวันตกด้วย โดยรูปแบบของซุ้มประตูแบบวงโค้ง เป็นแบบที่เริ่มนิยมในมัยรัชกาลที่ 3 แต่ปรากฎรูปแบบที่แพร่หลายมากขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 4-5 เป็นอย่างช้า

    อย่างไรก็ดี การสร้างมณฑปที่พบในภาคกลางทั่วไปมักมีคติเพื่อจำลองมณฑปพระพุทธบาทสระบุรี และด้วยวัดกลางตั้งอยู่ริมแม่น้ำป่าสักอันเป็นเส้นทางสัญจรไปยังพระพุทธบาทสระบุรีมาแต่โบราณ จึงค่อนข้างแน่นอนว่าเป็นการจำลองคตินิยมจากมณฑปพระพุทธบาทสระบุรีด้วย ซึ่งรูปแบบดังกล่าวอาจทำให้สามารถกำหนดอายุของมณฑปวัดกลางให้อยู่ในสมัยรัตนโกสินทร์ ช่วงไม่เกินรัชกาลที่ 4 ขึ้นไป ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนไว้เป็นโบราณสถานทำการอนุรักษ์เก็บร่องรอยประวัติศาสร์ให้คนรุ่นหลังได้ศึกษา

    สำหรับวัดกลางเป็นวัดที่ติดแม่น้ำป่าสักล่าสุดในปี 53 ถูกน้ำท่วมนานนับเดือน และท่วมพื้นที่วัดทั้งหมด ทั้งรอบพระอุโบสถ และมณฑปถูกท่วมทั้งหมด แต่โชคดีที่ตั้งจำลองพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธเจ้านั้นอยู่สูงบนแท่น จึงไม่ถูกน้ำท่วม แต่ในพื้นมณฑปถูกน้ำท่วมสูง 1 เมตรเศษทั้งหมด ภาพจิตกรรมฝาผนังที่อยู่สูงไม่เกิน 1 เมตรถูกน้ำท่วม ส่วนที่สูงกว่าดูดความชื้นขึ้นไปเสียหายไปด้วยเช่นกัน แจ้งไปยังกรมศิลปากรแล้วเช่นกัน เพราะวัดนี้เป็นวัดที่ห่างไกลไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม ถึงจะมีความแปลกในสถาปัตยกรรมและเป็นสิ่งที่แปลกไม่มีใครเหมือนและไม่เคยเห็นที่ไหนก่อน


    แต่ญาติโยมที่เข้ามาทำบุญกราบไหว้จะเป็นเพียงคนในชุมชนเท่านั้น คนภายนอกไม่ทราบ ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวนคนมากราบไหว้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี และเป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนา เมื่อหลายปีก่อนมีโจรเข้ามาขุดตรงโลงทองไปแล้ว พบว่าในโลงทองไม่มีอะไรนอกจากปูนตัน เท่านั้น ไม่ได้มีการบรรจุพระเครื่องหรือทรัพย์สินใด ๆ ไว้ในโลงทองแต่อย่างใดคนร้ายไม่ต้องหวังอะไรในโลง ” พระครูโสภิตวิหารคุณ เจ้าอาวาสกล่าว

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    ขอนแก่น-ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว 26 อำเภอ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    จ.ขอนแก่น ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติภัยหนาว ทั้ง 26 อำเภอ พร้อมอนุมัติงบฯ ฉุกเฉินสำรองช่วยเหลือ หลังประชาชนขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาวกว่า 200,000 คน

    สภาพอากาศหนาวเริ่มปกคลุมทั่วภาคอีสานติดต่อกันมาหลายวันแล้ว ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ตามชนบท โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่ใกล้กับภูเขาได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นชาวบ้านที่ยากจน ต้องอาศัยก่อไฟผิงในเวลากลางคืน และรอรับแสงแดดในช่วงเช้าเพื่อให้ความอบอุ่นกับร่างกาย

    นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ได้ประกาศให้พื้นที่ ทั้ง 26 อำเภอทั่วทั้งจังหวัด เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหนาว หลังพบทุกพื้นที่ประชาชนเริ่มประสบปัญหาจากลมหนาวพัดเข้ามาครอบคลุมในพื้นที่ ตลอดทั้งช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และมีทีท่าที่จะทวีคูณความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอำเภอภูผาม่าน โคกโพธิ์ไชย เวียงเก่า ภูเวียง ชุมแพ และหนองนาคำ ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับภูเขา และยากต่อการให้ความช่วยเหลือ

    ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น บอกว่า มีประชาชนกว่า 200,000 คน ยังคงขาดแคลนเครื่องนุ่งห่มกันหนาว ซึ่งทางจังหวัดได้อนุมัติงบประมาณฉุกเฉินสำรอง และขอรับบริจาคเครื่องนุ่งห่มกันหนาว เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยอย่างครอบคลุม

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    ภาคเหนือเย็นลง เกิดแม่คะนิ้งบนยอดหญ้า

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาคเหนือเข้าสู่ช่วงหนาวจัดของปีแล้ว มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จะทำให้หนาวเย็นลงอีก 2-4 องศา ขณะที่เช้านี้ยอดดอยอินทนนท์ และอ่างขางต่ำกว่า 3 องศา มีแม่คะนิ้งให้เห็นติดต่อกัน 2 วันแล้ว

    หลายพื้นที่ของภาคเหนือเช้านี้มีอากาศหนาวเย็นลงอีก หลายจังหวัดต่ำกว่า 15 องศา ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ แจ้งว่าสภาพอากาศที่หนาวเย็นลงต่อเนื่อง เป็นผลมาจากบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังแรงจากประเทศจีน แผ่เสริมเข้ามาปกคลุมภาคเหนือของไทยอย่างเต็มตัวแล้ว ส่งผลให้หลายพื้นที่หนาวเย็นลงได้อีก อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา และหนาวระลอกนี้จะหนาวยาวนานต่อเนื่องไปจนถึงช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

    สำหรับเช้านี้ภาคเหนือทั่วไปจะมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดกับมีหมอกหนา อุณหภูมิต่ำสุดพื้นราบอยู่ระหว่าง 12-15 องศาเซลเซียส ต่ำสุดเช้านี้วัดได้ 12.1 องศาที่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่วนที่จังหวัดเชียงใหม่ 13.9 องศา เชียงราย พะเยา ลำพูน 13 องศา ลำปาง แพร่ น่าน 14-15 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศอยู่ในเกณฑ์หนาวจัดต่อเนื่องมา 3 วันติดต่อกันแล้ว อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 2-8 องศาเท่านั้น ต่ำสุดเช้านี้มีรายงานมาจากสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อากาศหนาวจัดวัดได้ 3.0 องศา ขณะที่ยอดดอยอินทนนท์ หนาวจัดวัดได้ 8.4 องศา ซึ่งทั้ง 2 ยอดดอยเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็ง หรือแม่คะนิ้งขาวโพลนตามยอดหญ้าสองข้างทางขึ้นสู่ยอดดอย

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันอาทิตย์ที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2553

    นครสวรรค์-ฝูงปลาสร้อยนับแสนตัวอพยพหนีหนาว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ฝูงปลาสร้อยในบึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์ นับแสนตัวอพยพหนีหนาว ต่างเวียนว่ายลอยคอหาพื้นที่บริเวณน้ำอุ่น

    เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์ เผยเป็นธรรมชาติของปลาสร้อยแต่ในช่วงหนาวนี้มามากกว่าปกติ ที่บึงบอระเพ็ด อ.เมือง จังหวัดนครสวรรค์ จากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอุณหภูมิลดลง ไม่ใช่นกอพยพเท่านั้น ที่จะมีให้เห็นในบึงบอระเพ็ด แต่ยังมีฝูงปลาสร้อยนับแสนตัว ต่างเวียนว่ายลอยคอหาพื้นที่กระแสน้ำอุ่นเป็นที่อยู่อาศัยแทนชั่วคราว ส่งผลให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงแอบซ้อนปลาเพื่อนำไปประกอบอาหารกันเป็นจำนวนมาก

    ทางเจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดนครสวรรค์เผยเป็นปกติของทุกปีในช่วงฤดูหนาว ในเดือน ธันวาคม-มกราคม ที่ฝูงปลาสร้อย จะอพยพหนีหนาวมาหาพื้นที่น้ำอุ่นบริเวณใกล้ฝั่ง และพอเมื่ออุณหภูมิกลับเข้าสู่ปกติฝูงปลาสร้อยก็จะกลับไปที่อยู่อาศัยตามเดิม

    สำหรับในปีนี้ฝูงปลาสร้อยมามากกว่าปกติซึ่งสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ฯได้เก็บตัวอย่างของปลาสร้อย เพื่อนำมาตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะทราบผลภายในอาทิตย์หน้า

    ข่าวทีวีช่อง 3 วันจันทร์ ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.krobkruakao.com

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 05.jpg
      05.jpg
      ขนาดไฟล์:
      54 KB
      เปิดดู:
      4,001
    • 04.jpg
      04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.5 KB
      เปิดดู:
      3,972
    • 06.jpg
      06.jpg
      ขนาดไฟล์:
      55.4 KB
      เปิดดู:
      3,934
    • 1293422664.jpg
      1293422664.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.1 KB
      เปิดดู:
      1,738
    • 6.jpg
      6.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.4 KB
      เปิดดู:
      1,648
    • 7.jpg
      7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      46.6 KB
      เปิดดู:
      1,622
    • 13.jpg
      13.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.5 KB
      เปิดดู:
      1,708
    • 104.jpg
      104.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.6 KB
      เปิดดู:
      1,647
    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.3 KB
      เปิดดู:
      1,635
    • 005.jpg
      005.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.6 KB
      เปิดดู:
      1,647
    • 002.jpg
      002.jpg
      ขนาดไฟล์:
      64.7 KB
      เปิดดู:
      1,609
    • 006.jpg
      006.jpg
      ขนาดไฟล์:
      71.7 KB
      เปิดดู:
      1,687
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ข้อมูลและคู่มือเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ สำหรับการส่งต่อและแจกจ่าย

    <HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->karan20<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4196562", true); </SCRIPT> สมาชิก

    ผมได้รวบรวมข้อมูลซึ่งส่วนใหญ่จากในเว็บไซต์พลังจิตแห่งนี้ และเรียบเรียงจัดทำเป็นเอกสารและซีดีเพื่อแจกจ่ายคนในครอบครัวและคนใกล้ชิด ซึ่งช่วยให้สะดวกเพราะไม่จำเป็นต้องพูดมาก ไม่ต้องพูดซ้ำบ่อยๆ เพียงแต่ยื่นเอกสารหรือซีดีให้และพูดอีกนิดหน่อย ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง ขออนุญาตนำมาเผยแพร่ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้

    คู่มือเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติและพุทธทำนาย พ.ศ. 2555-2560
    รายละเอียดตามไฟล์ที่แนบมานี้...

    <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>คู่มือรับภัยพิบัติ 2555-2560.pdf (642.3 KB, 79 views)</TD></TR></TBODY></TABLE>

    ไฟล์อัพโหลดเพิ่มเติมครับ

    เตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ พ.ศ. 2555 - 2560 ชุดที่ 1 ภัยจากภัยพายุสุริยะและอิทธิพลจากภายนอกโลก<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --> ไฟล์ส่วนนี้อาจจะเล่นไม่ได้ในเครื่องเล่น DVD แต่ผมใส่ลงไปด้วย สำหรับคนที่เปิดในคอมพิวเตอร์ก็จะสามารถอ่านได้และเข้าใจมากยิ่งขึ้น<!-- google_ad_section_end -->

    <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>[​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG]


    </FIELDSET> <FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>พระอาจารย์รัตน์ โลกเปลี่ยนขั้ว.pdf (86.1 KB, 11 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>พระอาจารย์รัตน์ องค์ความรู้.doc (279.5 KB, 8 views)</TD></TR><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>พระอาจารย์รัตน์ วิธีปฏิบัติ.doc (594.5 KB, 8 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>

    ดาวน์โหลดไฟล์เพิ่มเติมได้อีกมาก ได้ที่ลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

    http://palungjit.org/threads/ข้อมูลและคู่มือเตรียมพร้อมรับภัยพิบัติ-สำหรับการส่งต่อและแจกจ่าย.273399/
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2010
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    [​IMG]

    หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ วันอังคารที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2553

    นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม-โหร เห็นสอดคล้อง ปีหน้าไทยยากพ้นภัยพิบัติจากธรรมชาติ เหตุกระทบจากปรากฏการณ์ลานินญ่า ส่งให้เจอหนักจากภัยน้ำ ทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง โดยเฉพาะเมืองหลวง "กทม." เสี่ยงจมใต้บาดาล ขณะเดียวกัน ก็ไม่ควรประมาท "ภัยจากแผ่นดินไหว-สึนามิ" มีแนวโน้มเกิดได้อีก โดยเฉพาะฝั่งทะเลอันดามัน จี้รัฐบาลเร่งหาทางรับมือแต่เนิ่นๆ ทั้งให้ความรู้ประชาชนและซักซ้อมหนีภัย ไม่ใช่ห่วงแต่การท่องเที่ยว จนละเลยความปลอดภัย ด้านซินแส-โหราดังชี้ปีหน้าถึงเศรษฐกิจจะใสสด แต่ยังต้องระวังอัคคีภัยเผาผลาญ อากาศแปรปรวนหนาวจัดร้อนจัด ขณะที่ไตรมาสสองของปี อาจมีอุบัติเหตุการเมือง ส่งผลบ้านเมืองวุ่นวายหนักกว่าปี 53

    หลังจากเกิดข้อถกเถียงกันอย่างหนักถึงภัยพิบัติจากธรรมชาติที่ประเทศไทยอาจต้องเจอในอนาคต ไม่ว่าจะแผ่นดินไหว พายุถล่ม น้ำท่วมหนัก รวมถึงที่สร้างความหวาดวิตกให้กับคนที่อยู่อาศัยตามแนวชายฝั่งทะเลคือ การเกิดคลื่นยักษ์สึนามิเข้าถาโถมถล่มชายฝั่งเหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับแนวชายฝั่งทะเลอันดามันของไทยเมื่อ 6 ปีก่อนนั้น

    ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. หลังได้รับการเปิดเผยจาก ดร.พิจิตต รัตตกุล ผอ.บริหารองค์กรเตรียมความพร้อมภัยพิบัติแห่งเอเชีย กล่าวถึงภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2554 ว่า ขณะนี้ไทยกำลังได้รับผลกระทบจากปรากฏการณ์ลานินญ่า ที่เริ่มจากปีที่แล้วไปจนถึงต้นปี 2554 ส่งผลให้ปีใหม่นี้ปริมาณน้ำจะไม่น้อยไปกว่ารอบครึ่งปีแรกของปี 2553 ฉะนั้นการเก็บน้ำในเขื่อนต้องเตรียมการให้ดี มิฉะนั้นจะเกิดภัย เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนกลางปีอาจจะเกิดน้ำท่วมเสียหายใน 51 จังหวัด 546 อำเภอเช่นเดียวกับปี 2553 ส่วน กทม. ต้องเตรียมรับมือน้ำขนาดปริมาณ 4,000-4,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จากภาคเหนือที่จะโถมเข้าสู่ กทม. เหมือนปี 2553 ซึ่งปกติ กทม.จะรับน้ำได้เพียง 3,200 ลูกบาศก์เมตร/วินาที จะทำอย่างไรไม่ให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และสมุทรปราการ ได้รับความเดือดร้อนน้อยลงกว่าปีที่แล้ว

    ดร.พิจิตตกล่าวถึงภัยจากดินถล่มด้วยว่า ช่วง 20 ปีที่ผ่านมา มีจำนวนพื้นที่เสี่ยงมากถึง 2,700 แห่ง ในปีกระต่ายภาคเหนือ โดยเฉพาะที่ลาดเชิงเขามีโอกาสเสี่ยงมาก ฉะนั้นต้องให้ความรู้แก่ประชาชนในพื้นที่เพื่อเตรียมรับมืออย่างจริงจัง ภัยจากแผ่นดินไหวคลื่นยักษ์นั้นเมืองไทยอยู่รายล้อมด้วยเพื่อนบ้านที่มีรอยเลื่อนของแผ่นดินทั้งสิ้น โดยเฉพาะพม่าและอินโดนีเซีย มีการเคลื่อนของรอยเลื่อนรุนแรงกว่า 10 ครั้ง ในรอบ 5-6 ปี และส่งผลถึงบ้านเรา จะต้องจับตารอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ ที่ห่างจาก กทม.ประมาณ 300 กม. เพราะหากเกิดแรงสั่นสะเทือนจะส่งผลถึง กทม.ได้ และต้องเฝ้าระวังเขื่อนในจังหวัดกาญจนบุรี ที่อาจจะได้รับความเสียหายและเกิดน้ำทะลักไหลเข้าท่วมกาญจนบุรี นครปฐม นนทบุรี และ กทม.

    ผอ.บริหารองค์กรเตรียมความพร้อมภัยพิบัติแห่งเอเชียกล่าวอีกว่า ส่วนภัยจากคลื่นยักษ์สึนามิในบ้านเรานั้น ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้ ต้องอาศัยประวัติความถี่ของการเกิดแผ่นดินไหวในบริเวณหมู่เกาะสุมาตรา อินโดนีเซีย และระบบเตือนภัยหลังแผ่นดินไหวในห้วงเวลาที่คลื่นยักษ์เดินทางเท่านั้น ส่วนฝั่งแปซิฟิกนั้น แม้ฟิลิปปินส์ที่มีการเคลื่อนตัวของชั้นดินบ่อยครั้งและมีภูเขาไฟอาจจะส่งผลคลื่นยักษ์เข้าสู่อ่าวไทยได้เช่นกัน แต่เนื่องจากความตื้นของน้ำละแวกนี้จะทำให้อานุภาพของคลื่นยักษ์น้อยกว่าเมื่อเทียบกับคลื่นยักษ์ฝั่งอันดามัน สำหรับพื้นที่เสี่ยงภัยจากสึนามิ ยังคงเป็นชายฝั่งอันดามันตั้งแต่ระนอง กระบี่ พังงา ภูเก็ต ตรัง สตูล การให้ความรู้และซักซ้อมการหนีภัย จึงต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกับภัยจากพายุ ที่นับวันจะมีความถี่ความรุนแรงมากขึ้น และอาจมีปัญหาเรื่องทิศทางที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ ดังนั้น เดือน ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย.ของปี 2554 เป็นเดือนที่ต้องจับตาดูพายุที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยอย่างใกล้ชิด

    "โดยสรุปในปี 2554 เหตุการณ์ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้น ขอกำหนดค่าความเสี่ยงโดยสูงสุดมีตัวเลข 10 จะขอคาดการณ์ว่า น้ำจะท่วมมีอัตราความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 8 ความแห้งแล้งมีความเสี่ยงระดับ 5 ดินถล่มมีอัตราความเสี่ยงสูงระดับ 5 แผ่นดินไหวคลื่นยักษ์ระดับ 6 เช่นเดียวกับความรุนแรงของพายุความเสี่ยงระดับ 6 ขอสนับสนุนให้เตรียมรับมือแต่เนิ่นๆ" ดร.พิจิตตกล่าว

    ด้าน รศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์ ผจก.ใหญ่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวว่า ต้นปีที่ผ่านมายังเป็นผลจากปรากฏการณ์เอลนิโญ่อย่างรุนแรง ทำให้อากาศร้อน แต่ปลายปีกลับเป็นลานินญ่า ผลที่เกิดทำให้ฝนตกมากและมีน้ำในเขื่อนต่างๆมีมาก ทำให้ปี 2554 จะไม่มีความแห้งแล้งเกิดขึ้นเพราะมีน้ำในเขื่อนพอเพียง หากประหยัด ประกอบกับปีหน้าทั้งปีคาดการณ์ว่า ปรากฏการณ์ ลานินญ่ายังคงอยู่ แต่เป็นระดับปานกลาง ทำให้มีความชื้น อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงมากทางฝั่งตะวันตกของมหาสมุทร แปซิฟิก คือประเทศไทย ทำให้ภาคใต้จะไม่ขาดแคลนน้ำฝนและฝนไม่ตกหนัก ส่วนภาคเหนือและอีสานฝนก็จะตกตามปกติ สรุปปีหน้าสถานการณ์ภูมิอากาศเรื่องฝนแล้ง จะเป็นปกติ ส่วนแผ่นดินไหวและสึนามินั้น ไม่มีใครบอกล่วงหน้าได้ สิ่งที่ทำได้ถ้าเกิดเหตุขึ้นเราสามารถประเมินความรุนแรงได้ เพราะเรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว เช่น หากเกิดสึนามิในแปซิฟิก คลื่นจะมาถึงอ่าวไทย ที่ จ.ปัตตานี ประมาณ 4 ชั่วโมง เราสามารถคาดการณ์ได้ว่า คลื่นจะสูง 2 เมตร สิ่งปลูกสร้างต่างๆ หรือคนที่อยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล 3 เมตร จะมีอันตราย คือหากอยู่สูงกว่า 3 เมตร จะปลอดภัย เป็นต้น ส่วนฝั่งอันดามันคลื่นจะสูงมาก ฉะนั้นต้องเฝ้าระวัง เพราะเวลาที่คลื่นเดินทางมาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ฉะนั้นต้องให้ความรู้แก่ประชาชน อย่าคิดว่าเป็นการทำลายการท่องเที่ยว รัฐมีหน้าที่จะให้ข้อเท็จจริงแก่ประชาชน

    ผจก.ใหญ่อุทยานสิ่งแวดล้อมนานาชาติสิรินธร กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีเกิดแผ่นดินไหวบนบก เช่น ที่พม่า ตอนนี้พม่าได้ย้ายเมืองหลวงจากย่างกุ้งไปที่อื่นแล้ว เพราะย่างกุ้งถูกระบุเป็น 1 ใน 9 เมืองที่ต้องถูกน้ำทะเลท่วม พม่าได้เตรียมการพร้อมแล้ว แต่พม่าหลีกไม่พ้นเรื่องแผ่นดินไหวเพราะมีรอยเลื่อนสะแกงผ่ากลางประเทศทำให้เกิดแผ่นดินไหวประมาณปีละ 200 ครั้ง เฉลี่ย5-6 ริกเตอร์ เขื่อนที่เมืองกาญจน์ห่างประมาณ 300 กม. ปัญหาคือหากเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ขึ้นมา เมืองกาญจน์จะเกิดอะไรขึ้น มีมาตรการรับมืออย่างไรบ้าง รัฐต้องให้ความรู้แก่ประชาชน อย่าถือว่าเป็นการสร้างความตื่นตระหนกแก่ประชาชนอย่างจริงจัง มิฉะนั้นก็จะเกิดข่าวลือต่างๆ แล้วชาวบ้านก็จะไปเชื่อพวกหมอดูเลยไปกันใหญ่ ส่วนเรื่องพายุขนาดใหญ่ที่จะพัดเข้าไทยนั้น เนื่องจากยังอยู่ในช่วงลานินญ่า ทำให้ปีหน้านี้บ้านเราจะปลอดภัยจากพายุ ฉะนั้นปีหน้านี้เป็นปีที่รัฐควรทบทวนบนเรียนและหามาตรการในการบริหารจัดการเรื่องภัยพิบัติ คือ ต้องเตรียมพร้อมรับภัย การจัดการในภาวะฉุกเฉิน การช่วยเหลือหลังเกิดภัย และการเตรียมการป้องกันและลดผลกระทบ

    ขณะที่ในมุมมองของนักโหราศาสตร์ อาทิ นายมาศ เคหาสน์ธรรม ซินแสชื่อดังเจ้าของฉายา "ซินแสไฮเทค" ได้พยากรณ์เหตุการณ์ปี 54 ว่า จะเป็นปี "กระต่ายโศกศัลย์" โลกโคจรเข้าสู่ยุคที่ 8 เริ่มปี 2547-2567 เป็นเวลา 20 ปี เป็นพลังที่มีชื่อว่า "ข่วยกึ่ง" สัญลักษณ์ของพลังงานเป็นธาตุดินภูเขาที่โผล่เหนือน้ำ โดยจะพบความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา เกิดวิบัติภัยธรรมชาติมากขึ้น ไม่เป็นภูเขาไฟระเบิด คลื่นสึนามิ แผ่นดินไหว ไฟป่ารุนแรง โรคระบาดร้ายแรง และภัยธรรมชาติ และพลังดังกล่าวยังส่งผลในปีกระต่าย เพราะปีนี้ดาวร้าย 7 (พั๊วคุง) เข้าครองอำนาจและแสดงอิทธิพลต่อโลก ในเดือน ก.พ. มีโอกาสเกิดอัคคีภัยขนาดใหญ่ในคลังน้ำมันและสถานที่ราชการ เกิดปัญหาเกี่ยวกับพลังงาน ทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม และระบบการคมนาคม โรคภัยทางอากาศจะกลับมาระบาด ด้านการเงินและตลาดหุ้นจะรุ่งโรจน์ อนาคตสดใส เศรษฐกิจที่ฟูเฟื่องจะช่วยพลิกผันอุตสาหกรรมที่กำลังเสื่อมโทรมให้กลับขึ้นมาได้

    นายมาศพยากรณ์อีกว่า ในเดือน มี.ค. บุคคลสำคัญที่เกิดปีเถาะและปีระกาจะพบเภทภัยครั้งใหญ่ มีโอกาสเกิดพายุในอ่าวไทยฝั่งทะเลตะวันออกและอีสานตอนล่าง เดือน เม.ย. จะเกิดความแห้งแล้งให้เห็นชัดเจนและจะรุนแรงสาหัส ภูมิอากาศจะร้อนอบอ้าว ความแห้งแล้งแผ่ขยายไปทั่ว พอฝนตกจะรุนแรง มีดินถล่ม น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะทางใต้ ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ในต่างประเทศจะมีพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่และอุทกภัยในทวีปอเมริกาฝั่งตะวันออกด้านมหาสมุทรแอตแลนติก ก่อให้เกิดความเสียหายขนาดใหญ่ ในเดือน ส.ค. จะเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์ในประเทศเกิดใหม่ เกิดโรคระบาดในสัตว์ในทวีปเอเชียและแอฟริกา เกิดอากาศหนาวเย็นเฉียบพลันในยุโรปตอนกลางและเอเชีย และช่วงเดือน พ.ย. ตึกสูงในกรุงเทพฯ มีโอกาสเกิดไฟไหม้หรือตึกที่กำลังก่อสร้างอาจถล่มลงมา ในต่างจังหวัดจะเกิดน้ำท่วมสูงมากผิดปกติ

    ด้านนายโสรัจจะ นวลอยู่ นักพยากรณ์ชื่อดังเจ้าของฉายา "นอสตราดามุสเมืองไทย" ได้พยากรณ์ว่า ในปี 54 การเดินทางของดวงดาววิปริตผิดอาเพศกว่าปีที่ผ่านมาอย่างใหญ่หลวง ดาวสีเลือดได้รับแสงจากดาวมฤตยูในช่วงเดือน มี.ค. เป็นดาวปฏิวัตินองเลือดในมุมร่วมธาตุ ย่อมเกิดสภาพการเดือดพลุ่งพล่านไม่สงบ เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า เกิดศึกสงครามทั้งภายในภายนอก เกิดความยุ่งยากทางการเมืองขนาดหนัก แต่การเมืองที่ว่าหนักหนาสาหัส ยังน้อยกว่ามหันตภัยที่ใหญ่กว่าหลายร้อยเท่าตัว นั่นก็คือ จะเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติสุดมหาหฤโหดไปทั่วโลก ฤดูกาลจะผิดเพี้ยน อุณหภูมิโลกจะสูงขึ้นในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์โลก ธารน้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น เมืองใหญ่ๆ ชายฝั่งทั่วโลกจมอยู่ใต้น้ำ ประเทศไทยน้ำจะท่วมกรุงเทพฯ บางส่วนจะเป็นนครใต้บาดาลในอนาคต กรุงเทพฯและทั่วทุกภาคทุกจังหวัดจะถูกน้ำทะเลทะลักเข้าท่วม เกิดอุทกภัยหลายครั้งจนต้องอพยพผู้คนหนีน้ำขึ้นเหนือ

    นายโสรัจจะพยากรณ์ด้วยว่า เมื่อพระราหูจะเคลื่อนย้ายจากราศีธนูเข้าราศิพิจิกเป็นมรณะกับดวงเมือง เดือน พ.ค. จะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทางตะวันตกของเกาะสุมาตรา จะเกิดคลื่นยักษ์สึนามิครั้งใหญ่ที่สุด ความสูญเสียจะมากกว่าปี 2547 หลายเท่า จังหวัดภูเก็ต พังงา กระบี่ ระนอง ตรัง และสตูล จะได้รับผลกระทบหนัก และในเดือน ธ.ค. พระเสาร์จะย้ายเข้าเล็งดวงเมือง จะร้อนจัดและหนาวจัดในเดือนเดียวกัน สุดวิกฤติในรอบ 1 พันปี กรุงเทพฯ จะมีหิมะตก สำหรับรัฐบาลจะเผชิญวิกฤตการณ์รุนแรงที่สุด ตั้งแต่ต้นปีดาวพฤหัสบดีอยู่ในภพวินาศ ปัญหาคอรัปชันมีแนวโน้มรุนแรง เมื่อดาวพฤหัสย้ายเข้าทับลัคนาเมืองในเดือน พ.ค. จะมีความวุ่นวาย เหตุการณ์ของประเทศจะพลิกผันอย่างที่ไม่เคยเห็น ผู้เป็นใหญ่และคนสำคัญจักร่วงหล่นมาก เมื่อดาวอังคารสีเลือดย้ายเข้าราศีมีนเล็งดาวพระเสาร์เดือน มี.ค. และ เม.ย. จะมีลางร้ายบอกเหตุล่วงหน้า การเมืองจะรุนแรง ตามท้องถนนจะมีคนออกมาชุมนุมเรือนแสน เหตุร้ายจะหนักกว่าปี 2553 จะเกิดสงครามกลางเมือง นำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารครั้งใหญ่อีกครั้ง

    อย่างไรก็ดี เมื่อสอบถามไปยังนายต่อศักดิ์ วานิชขจร อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ถึงสภาพอากาศของประเทศในช่วงปีหน้า ก็ได้รับคำตอบว่า สภาพอากาศในปีหน้า ภาคเหนือและอีสานจะเริ่มอุ่นขึ้นปลายเดือน ก.พ. เข้าเดือน มี.ค. จะเริ่มเข้าฤดูร้อน เม.ย.-พ.ค. จะเริ่มมีฝนเข้ามาทางภาคใต้ฝั่งตะวันตก กลางเดือน พ.ค. จะเข้าสู่ฤดูฝน จากนั้นฝนจะทิ้งช่วงในเดือน ก.ค. จากนั้นเดือน ส.ค.-ก.ย. จะเริ่มมีพายุดีเปรสชันเข้ามาทางภาคเหนือ อีสาน หลังจากนั้นร่องมรสุมจะเคลื่อนกลับลงมาทางใต้ ช่วงนี้จะมีฝนฟ้าคะนองจนกระทั่งปลาย ก.ย.-ต.ค. พายุโซนร้อนต่างๆจะเริ่มเข้าสู่ประเทศไทย ส่วนร่องมรสุมจะเคลื่อนตัวลงใต้อีกในช่วงเดือน พ.ย. จะอยู่ในอ่าวไทย อาจจะเกิดพายุหมุนในอ่าวไทยได้ มีโอกาสจะเกิดพายุดีเปรสชันและโซนร้อนเข้ามาในอ่าวไทยได้ จากนั้น ภาคกลาง เหนือ อีสาน จะหมดฤดูฝน ส่วนภาคใต้ฝั่งตะวันออก หรืออ่าวไทย จะมีฝนมากขึ้นจนสิ้นปี ส่วนปริมาณน้ำนั้น ทางอีสาน เหนือ ที่อยู่นอกเขตชลประทาน ต้องระวังเรื่องน้ำขาดแคลนในการเพาะปลูก

    ส่วนกรณีที่นักวิชาการและนักโหราศาสตร์พยากรณ์ ว่าจะเกิดเหตุสึนามินั้น อธิบดีกรมอุตุฯ กล่าวว่า ในโลกนี้ไม่มีใครจะพยากรณ์ได้ แต่ตนมั่นใจว่าหากเกิดสึนามิขึ้นมา กรมอุตุฯมีเครื่องมือที่สามารถตรวจจับได้ภายใน 5 นาที เพื่อที่จะเตือนภัยให้ประชาชนอพยพได้ ส่วนหมอดูที่ออกมาทำนายการเกิดสึนามินั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่า สมัยโบราณนั้นจะใช้ไสยศาสตร์ หรือโหราศาสตร์ เพื่อปลุกขวัญกำลังใจประชาชนและทหารที่จะไปออกรบ แต่เหตุใดขณะนี้กลับใช้สิ่งเหล่านี้มาทำลายขวัญกำลังใจประชาชน ถูกต้องแล้วหรือไม่

    ที่มา http://www.thairath.co.th/today/view/137449
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 28122010150.jpg
      28122010150.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.3 KB
      เปิดดู:
      1,095
  14. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    28 ธ.ค. 53


    รู้เขารู้เรา

    หลังจากได้รับสัญญาณเมฆสีแดงแล้วซึ่งข้อมูลไปตรงกับดาวนิบิรุ เมื่อคืนผม
    ได้เรียนถามหน่วยเหนือต่อถึงเรื่องความรุนแรงของดาวนิบิรุที่จะมีต่อโลกใน
    อนาคตและเรื่องของสัญญาณปลายักษ์ตัวที่สาม(ภัยจากทางน้ำครั้งที่สาม)
    ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่? ถ้าไม่ใช่ปลายักษ์ตัวที่สามจะมาเมื่อไรและ
    จะเกิดจากอะไรเป็นสาเหตุ?

    คำตอบที่ได้รับถูกแยกออกเป็นสองภาพคือ ภาพแรกเป็นภาพที่กล่าวถึงผมว่า
    ไปรับธรรมะจากสถานธรรมที่หนึ่งมาแล้วแต่ต้องไปรับซ้ำอีกซึ่งความเป็นจริง
    จะรับได้แค่ครั้งเดียวรับซ้ำไม่ได้
    ความหมายก็คือท่านได้แจ้งให้เห็นในภาพเกี่ยวกับความรุนแรงของดาวนิบิรุแล้ว
    ซึ่งจะมี เกิดเพลิงไหม้ อากาศยานจะได้รับความเสียหายและเกิดแผ่นดินไหว ให้
    ผมไปทบทวนภาพอีกครั้ง

    ภาพที่สองคือ เป็นภาพที่ผมเคยเรียนภาษาจีนกลางมาก่อนผมจบแค่เล่มสาม
    แต่ผมกลับไปหยิบเอาเล่มที่ห้ามาอ่านซึ่งครูยังไม่ได้สอนอ่านเลยทำให้ผมอ่าน
    ไม่ออก
    ภาพนี้จะมีความหมายว่า เรื่องที่ยังมาไม่ถึงก็ยังไม่เปิดเผยให้รับรู้




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ความสุขแท้...แก้ที่ใจ

    [​IMG]
    พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ

    พวกเราตั้ง "ปุจฉา" กับชีวิตไว้จนฟุ้ง บ้างถามเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน ความสุขอยู่หนใด ...ณ เวลานี้ เราจะได้ "วิสัจนา" กับพระอาจารย์ฝรั่งวัย 74 พรรษา ผู้มีใบหน้าเปี่ยมล้นด้วยเมตตาพร้อมไขปริศนาธรรม...

    นับตั้งแต่พระฝรั่งท่านนี้ เริ่มเผยแพร่แนวทางธรรมผ่านตัวอักษร เอ บี ซี มาตลอดระยะเวลากว่าสองทศวรรษ พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ หนึ่งในศิษย์ของหลวงพ่อชา สุภทฺโท ได้รับการกล่าวขานว่ามีลูกศิษย์ลูกหาชาวไทย คอยติดตามไปทุกหนแห่งเพื่อหวังจะได้ฟังข้อคิดหลักธรรมอยู่เนื่องๆ

    บุคลิกของท่าน มักไม่ค่อยชอบเผยตัวสักเท่าไร นานๆ ครั้ง ท่านจะสละความสันโดษ และสงบเงียบที่ถ้ำสองตา สถานที่พำนักประจำในเขตพื้นที่เขาใหญ่ ทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือออกมาบรรยายธรรมและพูดคุยวิถีการเจริญสติ เพื่อจะเป็นแนวทางบำบัดฟื้นฟูจิตใจ ให้เกิดความรื่นรมย์ และผ่องแผ้วรับปีกระต่ายเริงร่า

    โอกาสดีๆ ส่งท้ายปีเสือเช่นนี้ บรรดาผู้มีจิตศรัทธาต่างก็พูดว่า อย่าปล่อยให้คำว่า "ธรรมะเป็นเรื่องของพระ" แต่ให้เปิดประตูใจใช้ธรรมนำหนทางไปสู่ความดับทุกข์ปุถุชน เพื่อก้าวสู่ปี 2554 อย่างเปี่ยมสุข

    "การเข้าถึงธรรมไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่พวกเราจะจริงจังตั้งใจกับมันแค่ไหนเท่านั้น อย่างอาตมาเอง หลังจบการศึกษาด้านกฎหมายและออกมาประกอบกิจการส่วนตัวด้านการค้าขายอสังหาริมทรัพย์ เคยใช้ชีวิตที่สุขสบาย เป็นเศรษฐีชิคาโก มีทุกสิ่ง ได้ทุกอย่าง แต่วันหนึ่ง นั่งเฉยๆ แล้วคิดว่าทำไมไม่มีความสุขเลย จะเรียกว่า อกหักกับชีวิตก็ได้นะ (หัวเราะ) นั่นแหละจุดเริ่มต้นการเดินทางเส้นใหม่ของอาตมา"

    ก่อนที่ท่านจะสละทิ้งวัตถุแห่งกิเลสทั้งหลายในวัยหนุ่ม (35 ปี) แล้วเลือกศึกษาวิถีพุทธในประเทศอังกฤษในช่วงแรกนั้น ท่านเคยเป็นฆราวาสที่โปรดปรานหนังสือเกี่ยวกับภาวะทางจิต สมาธิ และการปรับปรุงตัวเองอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามที่ค้างคาใจมาตลอดได้ว่า "ทำอย่างไรจึงจะมีความสุขที่แท้จริง?"

    ครั้นพอได้แสวงหาคำตอบจากหลายๆ นิกาย ลองมาใช้ชีวิตผู้ปฏิบัติธรรมเคร่งครัด และถูกบททดสอบอันหนักหน่วงจากครูอุปัชฌาย์อาจารย์

    จากความไม่เชื่อ แต่สนใจใคร่รู้ จนได้ลองรักษาศีลแล้วเห็นว่ามีประโยชน์จริง ที่สุดแล้ว ธรรมะ นั่นเองที่เป็นคำตอบของชีวิต และความสุขที่แท้จริงนั้นมาจากการปล่อยวาง ท่านจึงทำให้มันเป็น "เข็มทิศนำทาง" แล้วยึดถือไว้กว่า 30 ปีแล้ว

    จากนั้นได้ตกลงปลงใจเดินทางมาบวชที่วัดหนองป่าพง อ. วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี เพื่อหันเหสู่เส้นทางจิตวิญญาณ หวังจะศึกษาธรรมใต้ร่มกาสาวพัตร์ให้แตกฉานและขั้นสูงขึ้นไปอีก

    ภารกิจระหว่างเดินทางเพื่อไปสู่จุดสูงสุดนั้น พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ บอกว่า จะเดินขึ้นเขา เราต้องรดน้ำต้นไม้ข้างๆ ทางให้งดงามด้วย นั่นแปลว่าต้องเผยแพร่สิ่งที่รู้ ไปสู่สาธารณชนคนที่ใจยังมืดบอดอยู่

    ผลงานหนังสือของท่านมีทั้งที่เขียนขึ้นเอง อย่าง Questions from the city, Answer from the Forest ; Monk in the Mountain ซึ่งได้รับการแปลเป็นไทยในชื่อ ธรรมะจากพระภูเขา หรือ The Brightened Mind มีชื่อไทยว่า จิตที่สว่างไสว กับผลงานแปลจากเทศนาธรรมของพระอาจารย์ธุดงค์ผู้ยิ่งใหญ่ อย่าง พระอาจารย์ชา พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี และพระอาจารย์พุธ ฐานิโย เป็นต้น

    ล่าสุด กับหนังสือ พบลิงที่ครึ่งทาง ( Meeting The Monkey Halfway) ซึ่งเน้นวิธีการพัฒนาจิตด้วยตนเอง พร้อมจะนำจิตวิญญาณไปสู่อิสรภาพเหนือการพึ่งพาสิ่งอื่นใด ทำ "ใจ" ไม่ให้ "สุดโต่ง"

    คำสอนอันงดงามและมีคุณค่าให้สังคม ย่อมเหมาะกับช่วงเวลาที่ทุกคนกำลังค้นหาคำตอบให้กับชีวิตในขณะนี้ แต่คำสอนที่ว่านั้น ต้องทะลุเข้าไปในใจ และตอบคำถามได้ตรงจุด ด้วยภาษาที่เรียบง่าย คมคาย แต่ลึกซึ้ง

    พระที่เคร่งในพระวินัยอย่างแรงกล้า เล่าถึงเหตุผลที่เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาว่า ได้ตระหนักถึงกลไกการทำงานอันร้ายกาจของจิตที่ซนเหมือนลิง มีลักษณะไม่อยู่นิ่ง ไม่เชื่อฟัง ผันแปร และเปลี่ยนแปลงได้ง่าย เป็นความสับสนวุ่นวายในจิตใจ ที่คอยแต่จะสร้างความสับสนวุ่นวายให้กับชีวิตทุกครั้งที่มีโอกาส มันจะจู่โจมเราโดยไม่รู้ตัว

    ครั้นจะคุมตัวเข้ากรงขังไว้เสีย หรือปล่อยให้มันเป็นไปตามยถากรรมเช่นนั้น ก็ใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้ รังแต่จะเพิ่มความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม ฉะนั้นเราต้องทำให้มันอยู่บนทางสายกลาง หรือครึ่งทาง แล้วนำมาเป็นอุบายอันชาญฉลาดในการบริหารจิต ที่ไม่ตึง แข็งกระด้าง หรือหย่อนยานจนเกินไป ตั้งอยู่บนหลักการของความสมดุลเป็นกลาง

    ทั้งนี้ เราจะเห็นหัวใจของเรา และพบทางที่อยู่ตรงกลางได้ ก็ต่อเมื่อเรามีความอุตสาหะที่จะบรรลุเป้าหมายในการทำจิต ซึ่งเป็นสิ่งที่สงบได้ยาก ให้เกิดความตั้งมั่นและเป็นกลาง และด้วยความพยายามมุ่งมั่น ประกอบกับความพากเพียร ซื่อตรงและปัญญา ก็จะทำให้เข้าถึงการเจริญในธรรมที่นำไปสู่หนทางอันถูกต้อง

    หลังจากรู้หลักการและที่มาของปัญหานานาในโลกใบนี้ว่า ทุกปัญหาล้วนเกิดจาก "จิตฟุ้งซ่าน" ของมนุษย์

    ขณะเดียวกันเหล่าสัตว์ประเสริฐทั้งหลายกลับไม่รู้จักการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ไม่เคยพอใจสิ่งใดๆ ไม่เคยเติมเต็มตัวเองสักที แล้วก็หาความสุขจากภายนอก วนเวียนอยู่ในความยึดมั่นสรรพสิ่งทั้งปวง หรือ ขันธ์ 5 (รูปขันธ์ เวทนาขันธ์ สัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ วิญญาณขันธ์) และการรับรู้และตอบสนอง หรือ อาตยนะ 6 ทั้งภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และ ใจ และภายนอก ได้แก่ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ และ ธัมมารมณ์

    "วงจรชีวิตเดินตามครรลองของมันอยู่แล้ว แต่บางคนพยายามหาความสุขที่มากกว่าทั่วไป บ้างเที่ยว หรือทำงานเพื่อเอาเงินมาซื้อความสุขทางวัตถุอื่นๆ มันเป็นภาพลวงตาของความสุข เพราะเราจะตั้งความหวังใหม่ไปเรื่อยๆ" พระอาจารย์ยกตัวอย่าง และอธิบายในอีกมุมหนึ่งว่า

    หรือบางคนก็รู้หลักหลุดพ้นจากการยึดมั่นและรับรู้ แต่เลือกวิธีปฏิบัติสุดโต่ง ฝืนธรรมชาติของชีวิต เราจึงไม่พ้นทางดับทุกข์ ไม่สามารถควานหาความสุขที่จริงแท้ได้สักที และที่สำคัญที่สุดคือ พวกเราไม่เคยวกกลับตามหาความสุขที่อยู่ในใจเลยสักครั้ง

    ค้นพบแล้ว สละทิ้ง

    พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ จึงเผยแนวทางการปฏิบัติเริ่มแรกให้ใช้วิธี "B-ME" ทั้งที่แปลว่า จงเป็นตัวของตัวเอง และเป็นตัวย่อของให้เข้าใจถึงความเป็นจริงของทุกสรรพสิ่ง คือ Begin (มีจุดเริ่มต้น) , Middle (ดำเนินมาได้ครึ่งทาง) และ End (แล้วเดี๋ยวก็จบ) ว่ามันจะหมุนเวียนกันไปอย่างนี้ไม่มีสิ้นสุด

    ท่านยังเพิ่มเติมข้อธรรมหลากหลายอันงดงาม และมีคุณค่าเปี่ยมด้วยพลังแห่งการให้กำเนิดชีวิตใหม่ เพื่อให้เราหันกลับมาดูตัวเอง แก้ไขตัวตนให้สมบูรณ์ และเมื่อเราเป็นสัตว์สังคม เราก็จำเป็นต้องปฏิบัติต่อผู้อื่นให้ถูกต้อง อย่างการให้อภัย ซึ่งเป็นปัญญาธรรมว่าด้วยความรัก เมตตา ซึ่งพวกเราหลงลืมและละเลยไปแล้วในยุคสมัยนี้

    ส่วนอีกหลักธรรมคำสอนที่ถือว่าเป็นจุดไคลแมกซ์ นั่นคือ วิธีการเจริญภาวนาที่พระอาจารย์เรียกว่า การคลายออก ซึ่งตรงข้ามกับการสั่งสม เป็นการปล่อยวาง อันจะนำไปสู่ความสุขสงบที่มนุษย์เราต่างแสวงหามาตลอดชีวิต

    พระอาจารย์สุมโน ภิกขุ อธิบายต่อว่า เราต้องมีศีลเป็นพื้นฐานเพื่อให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แบบเสียก่อน แล้วใช้สมาธิเพื่อทำให้เกิดพลัง จากนั้นให้มองความสุขที่แท้จากการมองไปรอบๆ จะเห็นความงามของดอกไม้เป็นสิ่งชั่วคราว ประเดี๋ยวก็จะเห็นความเสื่อม แล้วจะพบว่าที่ใจเราทุกข์เพราะเรายึดติดกับกาย ความจริงแล้วธรรมชาติมันเป็นอย่างนั้นของมันอยู่แล้ว

    "เราต่างหากที่ประดิษฐ์จิต สมมุติมันขึ้นมา เราต้องมีสติ สนใจปัจจุบัน และรู้ว่าทุกสิ่ง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วจะผ่านไป เราต้องมองความเป็นจริง ว่าทุกอย่างมักเป็นอย่างนี้ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา"

    พระอาจารย์นักเขียน สรุปให้ฟังว่า ฝึกการเจริญภาวนานั้นให้เจริญสติเสมอว่า เดี๋ยวก็ดับไป ระลึกไว้ทุกขณะ อาจเริ่มทำเช้า-เย็นก่อนก็ได้ หรือระหว่างเดินจงกลม ไม่นานเราก็จะไม่ยึดติด

    การนำเสนอทัศนคติตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าทรงมีต่อโลกนี้ เป็นการสอนวิธีเยียวยาจิตในลักษณะเดียวกับการบำบัดรักษาความเจ็บป่วยและทุพพลภาพของร่างกาย มันจึงเป็นหนทางเพื่อการเจริญเติบโตแห่งจิตวิญญาณ และเป็นเครื่องมือฟื้นฟูจิตใจให้เกิดความรื่นรมย์ ผ่องแผ้ว ส่องประกายด้วยความสงบสุข เป็นสภาวะที่จิตใจได้กลับคืนสู่บ้านที่แท้จริง

    ท่านทิ้งท้ายสำหรับผู้มีกิเลสหนา กลัวว่าจะทำไม่สำเร็จไว้ว่า แค่คิดว่าอยากจะพ้นทุกข์ ยิ่งมากขึ้นเท่าไร ก็จะยิ่งเกิดพลังมากขึ้นเท่านั้น คุณภาพชีวิตคนเราอยู่ที่ปัญญาของเรา ต้องเจริญในทางปัญญา ซึ่งจำเป็นต้องฝึกฝน เพราะการสร้างปฏิบัติธรรมก็เหมือนการปลูกต้นไม้ สภาวะเกิดปัญญาได้รวดเร็วต้องมีปัจจัยที่ดี และต้องโน้มน้าวจิตเราไปในทางธรรมเสมอ แล้วแสงสว่างแห่งความสุขก็จะเปล่งประกายออกมา รับชีวิตใหม่ที่พ้นห้วงทุกข์อย่างแท้จริง

    นำเสนอโดย : ชฎาพร นาวัลย์

    บทความจากหนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ วันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/health/20101227/369093/ความสุขแท้...แก้ที่ใจ.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 ธันวาคม 2010
  16. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>เหนือ-อีสาน อากาศยังหนาวเย็น อุณหภูมิต่ำสุด12องศา กทม.เย็นสุด19องศา</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศประจำวันที่ 29 ธันวาคม 2553 ดังนี้

    ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนยังคงแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศหนาวเย็นและมีหมอกในตอนเช้า สำหรับคลื่นลมในอ่าวไทยตอนล่างมีกำลังปานกลาง ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะนี้

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ อากาศหนาว และมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา
    สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด กับมีน้ำค้างแข็งได้ในบางพื้นที่
    อุณหภูมิต่ำสุด 3-8 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาว และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศา
    สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 17-19 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้าทางตอนบนของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 18-23 องศา
    สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 13-14 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่
    ส่วนมากตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป
    อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    อ่าวไทยตอนล่างทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัด ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศา
    ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า
    อุณหภูมิต่ำสุด 19-21 องศา
    ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ภูหินร่องกล้าเย็นยะเยือกเกิดแม่คะนิ้ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>วันที่ 28 ธ.ค. ที่ จ.พิษณุโลก อากาศหนาวทำให้เกิดปรากฎการณ์แม่คะนิ้ง หรือ น้ำค้างแข็ง เป็นครั้งแรกในรอบปี

    ที่บ้านร่องกล้า ม.10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ที่ตั้งอยู่ใจกลางอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า บนระดับความสูง 1,400 เมตร
    แม่คะนิ้งลักษณะเป็นเกล็ดและเป็นแท่งน้ำแข็ง เกาะอยู่ตามยอดหญ้า ใบผักกะหล่ำปลี บนหลังคามุงจากบ้านชาวเขา จนขาวโพลนไปหมด อุณหภูมิที่วัดได้ระหว่างเวลา 06.00 น.อยู่ที่ติดลบ 1 องศาเซนเซียส และเกิดแม่คะนิ้งระหว่างเวลา 06.00-07.30 น.จนเมื่อดวงอาทิตย์โผล่พ้นทิวเขาขึ้นมาน้ำค้างแข็งก็ละลายกลายเป็นน้ำ

    นายพุฒิพงศ์ จูสนิท หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เปิดเผยว่า

    อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากของจังหวัดพิษณุโลกบนระดับความสูงตั้งแต่ 1,200-1,700 เมตร มีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามทั้งลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง และมีแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่เป็นฐานที่มั่นของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย


    ในช่วงฤดูหนาวทุกปี อุณหภูมิบริเวณบ้านร่องกล้า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 10 กิโลเมตรจะต่ำมาก โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 0-4 องศาเซนเซียส

    และเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปสัมผัสความหนาวเย็น ปรากฏการณ์แม่คะนิ้งมักจะเกิดทุกปีช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม ปีนี้เกิดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 28 ธันวาคม 2553 จึงอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยว ขึ้นมาสัมผัสความหนาวเย็นและความงดงามของธรรมชาติได้ทุกวัน อุทยานฯมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งลานกางเต้นท์และห้องน้ำ ห้องสุขาครบครัน


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    *** เราจะพัง ก็ด้วยตัวทะยานอยาก ****

    เราจะทำอย่างไร กับตัวทะยานอยาก...

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    *** ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ****

    เราถือสัจจะ...ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================


    29 ธ.ค. 53


    2011 ปีแห่งการเตรียมความพร้อม

    ผมเคยเขียนเตือนไปแล้วเกี่ยวกับการเตรียมความพร้อมในปีหน้าแต่คนส่วนใหญ่
    ก็ยังใช้ชีวิตอยู่บนความประมาทคิดว่าจะไม่เกิดหรือจะยังไม่เกิดจะเฝ้าดูจนกว่าจะ
    เห็นจริงแล้วจึงจะเตรียมการ เมื่อเวลานั้นมาถึงท่านจะเตรียมการได้ทันอย่างไร?
    ต่างคนต่างแย่งชิงกันซื้อ แย่งชิงกันหนี มีเงินแต่หาซื้อไม่ได้จะมีประโยชน์อะไร?

    ตามสัญญาณของผมช่วงระยะสามปีกว่ามานี้ ได้ฟันธงไปเรียบร้อยแล้วว่าจะ
    เกิดแน่นอน เพียงแต่รอเวลาให้ทุกกลุ่มเตรียมความพร้อมให้เรียบร้อย จัดคนที่
    สมควรจะอยู่ไปอยู่ในที่ๆจัดไว้ให้ ให้เรียบร้อยเสียก่อน



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นบางส่วนค่ะ
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น1
    ภาพความคืบหน้าฐานผาแบ่น2
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"







    ---------------------------------------------------------------------
    หลงทางเสียเวลา แต่ไหนแต่ไรมา พระพุทธเจ้าท่านสอนแต่เรื่องทุกข์ และการพ้นทุกข์เท่านั้น<!-- google_ad_section_end -->
     
  20. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    ภาพประกอบข่าว
    ชาวบ้าน พนง.เกาะพีพี ผวา! อพยพขึ้นที่สูง หลังคำทำนาย จะเกิดสึนามิ
    รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวบ้านรวมทั้งพนักงานโรงแรมชาวไทย บริเวณเกาะพีพี ต่างอพยพเก็บทรัพย์สินไปอยู่ที่สูงและที่ที่ปลอดภัยบริเวณเชิงเขา รวมทั้งพนักงานโรงแรมต่างขอลาหยุดเป็นจำนวนมากตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา เนื่องกลัวเหตุการณ์จะเกิดขึ้นจริง หลังมีคำทำนายสึนามิจะเกิดในวันที่ 30 ธันวาคม ทำให้สถานประกอบการต่างๆขาดแคนพนักงาน บางสถานที่เหลือเพียงผู้จัดการเพียงคนเดียว
    แต่อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางมาเที่ยวกันตามปกติ ยกเว้นชาวเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ได้เลื่อนเวลาเดินทางออกไปหลังปีใหม่แทน
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    [​IMG]
    พนิช วีระ และพวก อีก 7 คน ถูกเขมรจับกุมตัว ขณะลงพื้นที่สำรวจ
    รายงานข่าวแจ้งว่า นายพนิช วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ และนายวีระ สมความคิด พร้อมกับพวกรวมเป็น 7 คน ถูกเขมรจับบริเวณ ชายแดนฝั่ง จ.สระแก้ว ระหว่างลงพื้นที่ปราสาทพระวิหาร สำรวจพื้นที่ทับซ้อน โดยได้เข้าไปในพื้นที่ฝั่งกัมพูชา
    โดยขณะนี้ ทางการไทยได้ประสานเจรจาให้ปล่อยตัวแล้ว ทั้งนี้ นายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศ กล่าวยืนยันว่า ทั้งหมดถูกเขมรจับตัวไปจริง เบื้องต้น ได้รายงานให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี รับทราบแล้ว
    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...