ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สนทนากับสมเด็จองค์ปฐม เรื่องภัยพิบัติ

    [​IMG]

    19-07-2009, 08:35 PM

    วันนี้ฝนมาดีค่ะ ไม่เล่น ไม่ซน สมเด็จองค์ปฐมท่านเรียกฝนไป เพราะฝนขาดความเข้าใจเรื่องภัยพิบัติที่ท่านว่าจะเกิดขึ้น

    สมเด็จ - พ่อมีเรื่องจะคุยกับลูก เรื่องภัยพิบัตินั่นเเหล่ะ พ่อเห็นว่าจิตเจ้าไม่สะทกสะท้านเหมือนคนอื่นเค้า เพราะเจ้าไม่เข้าใจว่าจะให้เจ้าช่วยอะไร ยังไง พ่อจะเล่าให้เจ้าฟังว่าเรื่องมันใหญ่กว่าที่เจ้าคิด

    สมเด็จ - เรื่องนี้พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอัครสาวก พระอรหันต์สาวกที่ได้ญานการรู้ล่วงหน้าเเห่งเหตุของอนาคตนั้น ท่านรู้เรื่องนี้ทุกองค์ พ่อจะยกตัวอย่างให้เจ้าดูถึงเกาะฮาวาย เจ้าเห็นภาพคลื่นที่สูงท่วมตึกระฟ้าไหม คลื่นสูงขนาดนี้นะลูก ภัยพิบัติไม่ได้เกิดพร้อมกันทั้งโลกในเวลาเดียวกัน มันเกิดทีละจุดๆ เเต่ละจุดก็จะมีเรื่องราวที่ไม่เหมือนกัน เเต่รวมๆกันหลายๆจุดมันก็เกือบทั้งโลก

    สมเด็จ - พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอัครสาวก เเละพระอรหันต์สาวก พรหม เทวดาทั้งหลายท่านได้เตรียมการรับมือไว้ โดยการเตรียมคนที่ได้อภิญญามาเเล้วในอดีตชาติ เลือกคนที่เก่งเลยล่ะ เเละต้องมีคุณธรรมควบคู่กันไป เพื่อมาช่วยตรงส่วนนี้ ปัญหามันเกิดเยอะนะลูก ยิ่งคนเยอะก็จะช่วยเเบ่งเบาภาระไปได้เยอะ

    สมเด็จ - คนที่ยังไม่ได้อภิญญาเค้าก็ช่วยกันทางอื่นได้ เช่น สวดมนต์ นั่งสมาธิ อีกอย่างเราไม่ได้ช่วยเฉพาะคนที่นับถือศาสนาพุทธนะลูก คนที่ปฏิบัติดีในศาสนาอื่นเราก็ช่วย ไม่ใช่ว่าพระพุทธเจ้าเป็นคนของศาสนาพุทธก็ช่วยเหลือเเต่คนในประเทศที่นับถือศาสนาพุทธ ภารกิจนี้เราช่วยเหลือคนทั่วโลกตามจุดต่างๆที่เค้ามีปัญหา เช่น ยังมีคนดีๆที่นับถือศาสนาคริสต์เข้าโบสถ์สวดมนต์ คนเเบบนี้เราถือว่าเค้าเป็นคนดี เราก็ต้องช่วยเค้า

    สมเด็จ - ประเทศไทยยังมีจำนวนคนที่ยังปฏิบัติดีอยู่เยอะ ดังนั้นเราควรจะช่วยเหลือลูกหลานของเราให้รอดจากภัยพิบัตินี้ เพื่อให้ฟื้นตัวอย่างไม่ลำบากนักหลังจากที่เรื่องราวเหล่านี้ผ่านพ้นไป

    สมเด็จ - หน้าที่ของคนที่ได้อภิญญาก็คือ เมื่อมีเหตุภัยเกิดขึ้นเค้าจะมองเห็นล่วงหน้าทำให้สามารถป้องกันความเลวร้ายของเหตุการณ์ได้ในระดับหนึ่ง คนที่มีความสามารถพิเศษ เช่น เห็นว่าสถานที่นี้มีความขาดเเคลนน้ำเค้าก็สามารถอธิษฐานให้ดินกลายเป็นบ่อน้ำให้คนได้กินได้ใช้ดื่มได้

    สมเด็จ - คนที่จะรอดจากเรื่องภัยพิบัตินี้ก็เป็นคนดี เเต่ไม่ใช่ว่าคนไม่ดีจะตายกันทั้งหมด คนพวกนี้ก็ยังเหลือนะลูกเพราะกรรมเค้ายังไม่หมด ยมบาลยังไม่รับไปลงโทษ เเต่บทบาทหน้าที่เค้าจะลดลง พ่อไม่อยากให้ใครต้องตระหนกตกใจ กับสิ่งที่ยังมาไม่ถึง ตั้งใจบำเพ็ญเพียรในวันนี้ให้ดีที่สุด เรื่องราวภัยพิบัติครั้งนี้ก็เป็นเหมือนกระชอนกรองคนดีออกจากคนไม่ดี คนดีเทวดาย่อมคุ้มครอง เข้าใจใช่ไหมลูก

    ฝน - ค่ะ

    ป.ล. ฝนไม่ได้พิมพ์เพื่อเอาหน้า เสนอหน้า หรือโอ้อวดความรู้ที่ตัวเองมีเเต่อย่างใด ฝนเป็นเพียงผู้ถ่ายทอดบทความเท่านั้น อย่ามาถือเอาความกับฝนนะคะ ขอบคุณค่ะ

    <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->cookieberry<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2276997", true); </SCRIPT> สมาชิก

    [​IMG]

    วันที่สมัคร: Apr 2009
    ข้อความ: 288
    พลังการให้คะแนน: 198 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]

    ที่มา http://palungjit.org/threads/สนทนากับสมเด็จองค์ปฐม-เรื่องภัยพิบัติ.197593/
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เมื่อถึงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ พระอภิญญาในป่าท่านจะมาช่วยอีกเป็นจำนวนมาก

    [​IMG]

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kananun [​IMG]

    สำหรับข่าวสาร จากการปฏิบัตินั้น ช่วงนี้หลายๆท่านเริ่มก้าวหน้าในการปฏิบัติกันสูงๆหลายต่อหลายท่านครับ ต้องยกให้เป็นความดีของท่านที่ตั้งใจทำสมาธิธรรมเพื่อหวังนำอภิญญาที่ได้มารับใช้ส่วนรวมมีชาติ ศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ครับ

    ประกอบกับขั้นตอนและกำลังใจที่ท่านทำได้กันก็คือ ฝึกจนครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นกายทิพย์ท่านเมตตามาสอนซึ่งขั้นนี้จะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วขึ้น ครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นพระอภิญญาท่านเมตตารับเอาไว้เป็นศิษย์ พระอาจารย์ที่ท่านเป็นสายพระอภิญญาสายพระอาจารย์ในดงท่านได้ ยืนยันให้แล้ว ว่า "..................."

    และท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า ไม่นานนี้ก็มีเกณฑ์จะโดนภัยพิบัติครั้งใหญ่ แต่ช่วยกันหลายต่อหลายฝ่ายจนบรรเทาลงมาเก็บเล็กๆ หลักสิบหลักร้อย ตามวาระ ตามเหตุ ตามกรรมร่วมกัน อย่างที่ปรากฏ เป็นข่าว และที่เก็บเงียบๆอย่างภัยหนาวสองสามวันนี้ คนสูงอายุเสียชีวิตอีกนับร้อยรายครับ

    ส่วนภัยใหญ่ กำลังใกล้เข้ามา รวมทั้งสงครามใหญ่เริ่มก่อตัวแล้ว และเมื่อถึงเวลาที่เกิดภัยพิบัติ พระอภิญญาในป่าท่านจะมาช่วยอีกเป็นจำนวนมาก

    ส่วนพวกที่เป็นเกณฑ์อภิญญาใหญ่ ก็จะได้อภิญญารวมตัวกันตอนเริ่มเกิดภัยพิบัติ มีบางท่านต้องเข้าไปฝึกวิชชาในป่า ตามวาระแตกต่างกันไป ก่อนออกมาช่วยส่วนรวมครับ ตรงนี้ขออนุญาตให้คิดว่าเป็นนิทานครับ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    อ้างอิงมาจากหนังสือกระโถนข้างธรรมาสน์

    ถาม : แล้วอย่างเดวิด คอปเปอร์ฟิลล์ อย่างไร ?

    ตอบ : อันนั้นอภิญญาไม่ใช่มายากล อันนั้นอภิญญาจริง ๆ เขาเองเขาก็บอกตามประวัติเขาไปฝึกกับพระแต่เป็นพระจีน ทางนิกายมหายาน คราวนี้ พื้นฐานเก่าเขามีเยอะ พอฝึกสมาธิใจสงบ อภิญญามันคืนมา แรก ๆแกก็แปลกใจ แต่พอใช้ไปใช้มา ความเคยชินอดีตเคยใช้ได้ ปัจุบันนึกอย่างไงเป็นอย่างนั้น แป๊บเดียวมันก็คล่องแล้ว เปิดหลังทีวีหิ้วตัวละครออกมาดูเล่นข้างนอกได้ คนทั่ว ๆ ไปทำได้มั้ยเล่ามายากล ประเทศไหนมันทำได้ ?

    ประเภทตำรวจไล่ยิงผู้ร้ายอยู่ในจอ มันเปิดหลังทีวีหิ้วผู้ร้ายออกมา ตำรวจยืนงง ในจอมันหายไปแล้วนี่ (หัวเราะ) สนุกดี เครื่องบินโบอิ้งทั้งคัน เขาสามารถทำำให้หายได้ใช่ไหม เอาผ้าคลุมอยู่สองฝั่งของกำแพงเมืองจีน เดินมุดผ้าคลุมไปหายไปทะลุอีกฝั่งหนึ่ง นั่นจริง ๆ ก็คือ กำลังของกสิณ อธิษฐานให้มันมีช่องว่าง แล้วก็เดินผ่านไปแค่นั้น

    อาตมาเองไม่ได้อย่างเขายังเดินทะลุประตูฝั่งพม่า มาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่นี่นา มันเปิดตีสี่ครึ่ง แต่เราไปตั้งแต่ตีสี่ เรื่องอะไรจะยืนให้ยุงกิน ก็เข้าไปสวดมนต์ข้างใน ที่หลวงพ่อพระมหามุนีที่เขาทำพิธีสรงพระพักตร์ล้างหน้ากันนั่นแหละ เราก็เข้าไปสวดมนต์ข้างในก่้อน ก็เล่นอิติปิโส ๓ ห้อง ล่อไป ๗ จบ พอตีสี่ครึ่งเขาก็เปิดประตู ทั้งพระทั้งโยมก็กรูกันเข้ามา ครูบาน้อยเขาตามหลังมา เขาถามหลวงพี่เข้ามาอย่างไรครับ ? บอกวิธีเดิม รายนั้นเขาเห็นบ่อยเขาไม่แปลกใจหรอก คนอื่นไปแล้วมันติดกุญแจ เราไปนี่กุญแจมันไม่ติด เราก็เข้าไปเรื่อยนะ

    เว็บบอร์ด พลังจิต ดอทคอม

    ****************************************************
    [​IMG]

    จะเห็นได้ว่า พวกเราได้เข้ามาสู่ยุคอภิญญาสาธารณะแล้วจริงๆ ครับ นอกจากเดวิด คอปเปอร์ฟิลล์ แล้วก็ยังมีอีกหลายท่านที่ได้อภิญญาแล้ว นำมาแสดงให้เห็นในที่สาธารณะกัน เช่น คริส แองเจิ้ล,คีริว ทาคายาม่า เป็นต้น และมีอีกหลายท่านที่ได้อภิญญากันแล้วปกปิดเอาไว้ ยังไม่นำออกมาใช้

    หลายๆ ท่านที่ได้เคยอ่านสถานที่หลบภัยที่ผมได้แนะนำเอาไว้ คงจะสงสัยว่าบางสถานที่ก็อยู่ใกล้กรุงเทพ และเป็นที่ลุ่มต่ำ ไม่น่าจะหนีภัยน้ำท่วมไปได้ แต่ทำไมผมจึงได้แนะนำเอาไว้ อันนี้ผมขออธิบายดังนี้ครับ

    สถานที่ส่วนใหญ่ที่ผมได้แนะนำเอาไว้ให้เป็นที่หลบภัยนั้น จะเป็นที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่นมีรอยพระพุทธบาท หรือเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า สถานที่เหล่านี้เทวดาเขาจะคุ้มครองรักษา พระและฆราวาสที่ได้อภิญญาขาว ตามแนวทางของพระพุทธศาสนา ก็มีหน้าที่ ที่จะต้องมาช่วยกันดูแลรักษาเอาไว้ด้วยครับ

    เมื่อเกิดภัยพิบัติที่รุนแรง ท่านที่ได้อภิญญาเหล่านี้สามารถที่จะเคลื่อนย้าย ทั้งคนและสิ่งก่อสร้างทั้งหมด เอาไปไว้ในอีกมิติหนึ่ง ซึ่งอยู่ต่างที่ต่างเวลากันได้ครับ เรื่องนี้ทางกลุ่มเขากะลาเขาก็เตรียมฝึกซ้อมกันอยู่อย่างจริงจัง เพื่อเตรียมเคลื่อนย้ายคนและวัตถุเอาไปไว้ในที่ปลอดภัย เมื่อยามเกิดภัยพิบัติครับ

    ถ้าใครที่เคยดูการแสดงอภิญญา ของเดวิด คอปเปอร์ฟิลล์,คริส แองเจิ้ล,คีริว ทาคายาม่า จะเห็นได้ว่าพวกเขาสามารถเคลื่อนย้าย คน วัตถุ สิ่งของ ไปไว้ในอีกมิติหนึ่ง ได้ในเวลาพริบตาเดียว ทำให้ผู้ชมเห็นการหายวับไปกับตาของสิ่งต่างๆ เหล่านั้น เช่น เดวิด คอปเปอร์ฟิลล์ สามารถทำให้เทพีแห่งเสรีภาพ ซึ่งมีขนาดใหญ่โต หายไปต่อหน้าต่อตาผู้คนนับพันที่มาชมการแสดงของเขาได้ครับ -เกษม-


    **********************************************​
     
  3. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    677
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    แต่ว่ามีการเปิดเผยกลของของเดวิด คอปเปอร์ฟิลล์กันเยอะแยะแล้วนี่ครับ

    เขาได้อภิญญาจริงหรือครับ แล้วคนที่ได้จริงๆเขาเอามาโชว์เล่นกันแบบนี้หรือครับ

    สงสัย
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น...


    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR vAlign=top><TD style="PADDING-RIGHT: 20px"><TABLE class=ProductPictureBorder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width=150 height=150><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

    </TD><TD>VCD สุดยอดนักมายากลระดับโลก คนชอบกล กลมหัศจรรย์ ชุดที่ 1-11



    รหัสสินค้า: 001090


    ราคาชุดละ 25.00 บาท



    รายละเอียด: VCD สุดยอดนักมายากลระดับโลก คนชอบกล กลมหัศจรรย์ ชุดที่ 1​


    น้ำหนัก : 35 กรัม​



    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    ที่มา http://tonpalm.tarad.com/product-th-653369-VCD+สารคดึ+มายากล.html
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2011
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    มายากลก็คือมายากล อภิญญาก็คืออภิญญา แม้พวกเขาจะสามารถแสดงได้คล้ายกันแต่ก็ไม่เหมือนกัน ไปซื้อ VCD ของพวกเขามาดูแล้วจะเข้าใจได้เองครับ แต่อภิญญามีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายชั่ว คนที่ได้อภิญญาจึงไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องเป็นคนดีเสมอไป พระเทวทัตได้อภิญญายังต้องตกนรกอเวจี เพราะฉะนั้นคนที่ได้อภิญญาก็ยังต้องอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมครับ
     
  6. Nat_usp

    Nat_usp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    677
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,394
    ขอบคุณ คุณเกษมครับผม
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ภาคเหนือ-อิสาน-กลางและตอ.มีฝนฟ้าคะนอง-กทม.มีฝน30%ของพื้นที่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 4 มีนาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน และทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณดังกล่าวมีอากาศร้อนอบอ้าวในตอนกลางวัน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลฟาง และภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกบางพื้นที่ในระยะนี้ไว้ด้วย

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัด พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศา ลมอ่อน ความเร็ว 6-12 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองและมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศา ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ระยอง ชลบุรี จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]
    เครื่องบินรบทิ้งบอมบ์ใส่ผู้ต่อต้านกัดดาฟี ล่าสุดยังปะทะกันต่อเนื่อง
    3 มี.ค. รายงานข่าวจากเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นแจ้งว่า เครื่องบินรบของลิเบีย ได้ทิ้งระเบิดในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศเมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า เห็นเครื่องบินทหารทิ้งระเบิด 3 ลูก ใกล้กับเมืองอัล เบรก้า ที่เป็นแหล่งขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญของประเทศ โดยมีประชาชนผู้ต่อต้านประธานาธิบดี โมอัมมาร์ กัดดาฟี เคลื่อนไหวอยู่
    ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประท้วงที่อยู่บนพื้นดินพยายามยิง และใช้ทุกอย่างที่หาได้ ขว้างใส่เครื่องบินก่อนจะวิ่งหนีไป ส่วนการสู้รบทางภาคพื้นดินภายในเมืองอัล เบรก้าเป็นไปอย่างดุเดือด ทหารของ กัดดาฟี พยายามเข้ายึดมหาวิทยาลัยภายในเมือง แต่กลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านไว้ได้
    ด้านกลุ่มวัยรุ่นในเมืองอัจดาบิยา ได้รวมตัวกันและมุ่งหน้าไปช่วยสู้รบกับกองกำลังฝ่ายรัฐบาลเพื่อปกป้องเมือง ที่ฝ่ายต่อต้านยึดมาได้ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ซึ่งฐานทัพบางแห่งในพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศ ได้ตกอยู่ในมือของฝ่ายต่อต้านแล้วเช่นกันเนื่องจากมีทหารที่แปรพักตร์ไปเข้าร่วมกับฝ่ายต่อต้านเพิ่มมากขึ้น

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ประท้วงได้ตั้งกองกำลังติดอาวุธอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีการประกาศรับสมัครผู้เข้าร่วม และมีการฝึกสอนการใช้อาวุธที่ยึดมาจากคลังของกองทัพโดยกลุ่มทหารแปรพักตร์


    เรียบเรียงข่าวโดยMthainews
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ขอบคุณภาพจากreuters

    [​IMG]
    [​IMG]

    <OBJECT id=TelegraphPlayer-8357480 codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=560 height=315>
























    <embedid="TelegraphPlayer-8357480" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" src="http://www.telegraph.co.uk/telegraph/template/utils/ooyala/telegraph_player.swf" quality="high" name="TelegraphPlayer-8357480" flashvars="embedCode=xzZXZhMjofgRRp1bVUS8ffjMakUknJjd&autoplay=1&offSite=true&showTD=true&thruParamDartEnterprise=site%3Dnews%26section%3Dnews/newstopics/howaboutthat/ufo%26pt%3Dvid%26pg%3D/news/newstopics/howaboutthat/ufo/8357480/UFO-spotted-in-Sao-Paulo.html%26spaceid%3Dvid%26ls%3Df%26transactionID%3D1103030648250654%26psize%3D620x415%26view%3Dviral" bgcolor="#000000" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" wmode="window" scale="noscale" salign="LT"></embed></OBJECT></P>3 มี.ค. 54 เทเลกราฟฟ์สื่อมีชื่อของอังกฤษ ได้เผยภาพภาพหนึ่งที่เชื่อว่าเป็นยูเอฟโอ ได้ปรากฎบนท้องฟ้าในนครเซาเปาโล ประเทศบราซิล
    โดยผู้ที่บันทึกภาพได้อ้างว่า ขณะที่เขากำลังขับรถยนต์อยู่นั้นเขาได้เห็นเงาประหลาดโผล่ออกมาจากก้อนเมฆคล้ายกับยานอวกาศ เขาจึงตัดสินใจลงจากรถและเก็บภาพดังกล่าวด้วยกล้องมือถือที่มีอยู่ ก่อนที่มันจะระเบิดและหายวับไป
    อย่างไรก็ตามทางธรณีวิทยาสหรัฐ เผยว่าในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้ปรากฎหลักฐานว่ามีคลื่นแปลกปลอมจากนอกโลก และการระเบิดของแสงในพื้นที่แต่อย่างใด
    ขณะที่นาย ฟิลิปส์ คาวารา ผู้เชี่ยวชาญด้านการตัดต่อเผยว่า ภาพยูเอฟโอดังกล่าวถือว่าถ่ายได้ดี แต่เมื่อหยุดภาพไว้นานๆ คุณก็จะเห็นรอยตัดต่อที่ไม่สามารถเห็นด้วยตาเปล่าชัดเจนขึ้น และเชื่อว่าภาพดังกล่าวเป็นการทำขึ้นมาอย่างแน่นอน

    เรียบเรียงข่าวโดย Mthai News

    <LI class=news_src_item>[​IMG]

    [​IMG]
    ชาวประมงจีนอึ้ง เจอฉลามยักษ์ฺ หนักถึง 4 ตัน
    ชาวประมงจีน ถึงกับตะลึงเมื่อเจ้าฉลามยักษ์ตัวหนึ่ง ติดแหจับปลาของชาวประมงอย่างบังเอิญ โดยสื่อของจีนรายงานว่า ขนาดของมันมีความยาวประมาณ 7 เมตร หนักถึง 4 ตัน
    [​IMG]
    โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ชาวประมงลำดังกล่าว กำลังออกเรือหาปลาในเมืองไถโจว มณฑลเจ้อเจียง ก็พบกับปลาฉลามยักษ์ติดมาในแห เสียดายที่มันตายไปแล้ว ชาวบ้านจึงช่วยกันนำร่างขึ้นมาที่ท่าเรือ
    [​IMG]
    โดย Mthai news
    <LI class=news_src_item>[​IMG]

     
  8. tawansongsaeng

    tawansongsaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +423
    กลของนักมายากลนั้นเขาแสดงขึ้น
    โดยใช้การตบตาและเครื่องมือต่างๆ ภายหลังก็นำเทคโนโลยี่
    เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เข้าร่วมด้วย
    ถ้าจะนับว่าเป็นอภิญญาก็คงจะได้ แต่ไม่ใช่อภิญญาทางจิต
    ไม่ว่าจะเป็นเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์ คริส เองเจิล ฯลฯ
    ต่างก็คือนักมายากล

    อย่าเพิ่งเชื่ออะไรง่ายๆ และอย่าเชื่อเพราะเราเห็นครับ

    อภิญญาจริงๆ ก็มี แต่ท่านไม่เอามาแสดงเล่นๆ เพื่อมอมเมากิเลส
     
  9. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,729
    ค่าพลัง:
    +77,793
    <table class="tbis" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="840"><tbody><tr class="tbis1" bgcolor="#336699"><td width="20%" nowrap="nowrap">วัน-เวลา *ประเทศไทย</td> <td align="center" width="10%" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td align="center" width="10%" nowrap="nowrap">Latitude</td> <td align="center" width="7%" nowrap="nowrap">Longitude</td> <td align="center" width="13%" nowrap="nowrap">Phase</td> <td width="" nowrap="nowrap">บริเวณที่เกิด</td> </tr> <tr class="tbis3"> <td valign="top">2554-03-04 08:06:10</td> <td align="center" valign="top">2.3</td> <td align="center" valign="top">14.84</td> <td align="center" valign="top">99.13</td> <td align="center" valign="top">7</td> <td valign="top">บ้านนาสวน อำเภอศรีสวัสติ์ </td></tr></tbody></table>


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2011
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE width="98%"><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=middle><OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=9,0,28,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=450 height=330>
























    <embed width="450" height="330" src="./animation/earthquake.swf?ver=2011-03-04" quality="high" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" FlashVars="file=.%2Fanimation%2FEQ_query.php%3Fid%3D1783%26d%3D2011-03-04" type="application/x-shockwave-flash" ></embed></OBJECT></TD></TR><TR><TD height=35 vAlign=center width="100%" align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width=450><TBODY><TR><TD bgColor=#abcdef height=1 colSpan=2 align=middle></TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff height=1 colSpan=2 align=middle></TD></TR><TR><TD bgColor=#abcdef height=25 colSpan=2 align=middle>แผ่นดินไหวที่ MINDANAO, PHILIPPINES </TD></TR><TR><TD>ขนาด</TD><TD>: 5.4 ริกเตอร์ </TD></TR><TR><TD>จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว</TD><TD>: MINDANAO, PHILIPPINES </TD></TR><TR><TD>วันที่</TD><TD>: 03 มีนาคม 2554 22:12 น. </TD></TR><TR><TD>ละติจูด</TD><TD>: 9° 25' 12'' เหนือ </TD></TR><TR><TD>ลองจิจูด</TD><TD>: 126° 01' 12'' ตะวันออก </TD></TR><TR><TD>ความลึกจากระดับผิวดิน</TD><TD>: 60 กิโลเมตร </TD></TR><TR><TD>เพิ่มเติม</TD><TD>: </TD></TR><TR><TD bgColor=#abcdef height=1 colSpan=2 align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD class=subtitle colSpan=8>รายงานแผ่นดินไหวในรอบ 15 วัน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=1 cellSpacing=0 borderColor=#d9d9d9 borderColorLight=#d9d9d9 borderColorDark=#ffffff cellPadding=3 width="100%"><TBODY><TR class=RH><TD>วันที่</TD><TD>เวลา</TD><TD>จุดศูนย์กลาง</TD><TD>ละติจูด</TD><TD>ลองจิจูด</TD><TD>ขนาด</TD><TD>ลึกจากพื้นดิน</TD><TD>หมายเหตุ</TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>03 มี.ค. 54</TD><TD>22:12</TD><TD align=left>MINDANAO, PHILIPPINES</TD><TD>9° 25' 12'' N</TD><TD>126° 01' 12'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>03 มี.ค. 54</TD><TD>16:53</TD><TD align=left>KEP. MENTAWAI REGION, INDONESIA</TD><TD>3° 01' 48'' S</TD><TD>100° 01' 12'' E</TD><TD>4.3 </TD><TD>16 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>03 มี.ค. 54</TD><TD>16:09</TD><TD align=left>MINDANAO, PHILIPPINES</TD><TD>9° 37' 48'' N</TD><TD>126° 24' 36'' E</TD><TD>4.7 </TD><TD>10 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>03 มี.ค. 54</TD><TD>11:30</TD><TD align=left>SOUTHERN SUMATRA, INDONESIA</TD><TD>4° 29' 24'' S</TD><TD>101° 01' 48'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>15 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>02 มี.ค. 54</TD><TD>06:26</TD><TD align=left>SOUTHWESTERN RYUKYU ISL., JAPAN</TD><TD>24° 46' 48'' N</TD><TD>125° 15' 00'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>20 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>01 มี.ค. 54</TD><TD>06:10</TD><TD align=left>NORTHERN SUMATRA, INDONESIA</TD><TD>4° 05' 24'' N</TD><TD>95° 48' 36'' E</TD><TD>4.9 </TD><TD>35 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>26 ก.พ. 54</TD><TD>05:08</TD><TD align=left>KEP. MENTAWAI REGION, INDONESIA</TD><TD>3° 00' 00'' S</TD><TD>100° 57' 00'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>24 ก.พ. 54</TD><TD>15:27</TD><TD align=left>MYANMAR</TD><TD>18° 13' 12'' N</TD><TD>95° 12' 00'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>10 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>23 ก.พ. 54</TD><TD>22:53</TD><TD align=left>LAOS</TD><TD>18° 55' 12'' N</TD><TD>101° 27' 00'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>22 ก.พ. 54</TD><TD>12:28</TD><TD align=left>RYUKYU ISLANDS, JAPAN</TD><TD>26° 40' 12'' N</TD><TD>128° 39' 00'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>35 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>22 ก.พ. 54</TD><TD>11:56</TD><TD align=left>RYUKYU ISLANDS, JAPAN</TD><TD>26° 30' 00'' N</TD><TD>128° 43' 48'' E</TD><TD>5.3 </TD><TD>20 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>20 ก.พ. 54</TD><TD>21:32</TD><TD align=left>NIAS REGION, INDONESIA</TD><TD>1° 20' 24'' N</TD><TD>97° 09' 36'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>20 ก.พ. 54</TD><TD>16:51</TD><TD align=left>MOLUCCA SEA</TD><TD>1° 20' 24'' N</TD><TD>126° 27' 00'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>58 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>19 ก.พ. 54</TD><TD>10:12</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3° 23' 24'' N</TD><TD>126° 39' 36'' E</TD><TD>4.9 </TD><TD>47 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>19 ก.พ. 54</TD><TD>10:12</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3° 22' 48'' N</TD><TD>126° 45' 36'' E</TD><TD>4.9 </TD><TD>57 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>19 ก.พ. 54</TD><TD>07:09</TD><TD align=left>LUZON, PHILIPPINES</TD><TD>14° 15' 00'' N</TD><TD>120° 23' 24'' E</TD><TD>4.7 </TD><TD>33 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>19 ก.พ. 54</TD><TD>06:12</TD><TD align=left>NIAS REGION, INDONESIA</TD><TD>1° 57' 00'' N</TD><TD>97° 54' 36'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>19 ก.พ. 54</TD><TD>06:12</TD><TD align=left>NIAS REGION, INDONESIA</TD><TD>1° 57' 36'' N</TD><TD>97° 54' 00'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>18 ก.พ. 54</TD><TD>15:10</TD><TD align=left>BURU, INDONESIA</TD><TD>3° 32' 24'' S</TD><TD>126° 39' 36'' E</TD><TD>4.5 </TD><TD>42 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>18 ก.พ. 54</TD><TD>05:54</TD><TD align=left>CERAM SEA, INDONESIA</TD><TD>2° 52' 12'' S</TD><TD>128° 14' 24'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>49 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>17 ก.พ. 54</TD><TD>06:45</TD><TD align=left>RYUKYU ISLANDS, JAPAN</TD><TD>25° 53' 24'' N</TD><TD>128° 25' 48'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>33 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>16 ก.พ. 54</TD><TD>23:39</TD><TD align=left>SULAWESI, INDONESIA</TD><TD>2° 27' 00'' S</TD><TD>121° 38' 24'' E</TD><TD>4.5 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>16 ก.พ. 54</TD><TD>17:55</TD><TD align=left>ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION</TD><TD>10° 27' 00'' N</TD><TD>91° 39' 00'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>16 ก.พ. 54</TD><TD>01:14</TD><TD align=left>SOUTHWEST OF SUMATRA, INDONESIA</TD><TD>6° 37' 12'' S</TD><TD>103° 51' 00'' E</TD><TD>4.5 </TD><TD>55 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>16 ก.พ. 54</TD><TD>00:23</TD><TD align=left>RYUKYU ISLANDS, JAPAN</TD><TD>26° 04' 48'' N</TD><TD>128° 30' 00'' E</TD><TD>4.6 </TD><TD>30 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>15 ก.พ. 54</TD><TD>21:12</TD><TD align=left>RYUKYU ISLANDS, JAPAN</TD><TD>25° 58' 12'' N</TD><TD>128° 29' 24'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>10 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>15 ก.พ. 54</TD><TD>20:33</TD><TD align=left>SULAWESI, INDONESIA</TD><TD>2° 19' 48'' S</TD><TD>121° 34' 48'' E</TD><TD>6.1 </TD><TD>20 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>15 ก.พ. 54</TD><TD>14:18</TD><TD align=left>TAIWAN REGION</TD><TD>21° 06' 36'' N</TD><TD>121° 16' 12'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>51 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>15 ก.พ. 54</TD><TD>06:44</TD><TD align=left>MYANMAR</TD><TD>26° 18' 36'' N</TD><TD>96° 38' 24'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>14 ก.พ. 54</TD><TD>14:26</TD><TD align=left>LUZON, PHILIPPINES</TD><TD>14° 58' 48'' N</TD><TD>119° 51' 36'' E</TD><TD>4.7 </TD><TD>20 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>13 ก.พ. 54</TD><TD>07:12</TD><TD align=left>ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION</TD><TD>13° 45' 00'' N</TD><TD>93° 00' 00'' E</TD><TD>4.7 </TD><TD>35 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>13 ก.พ. 54</TD><TD>00:14</TD><TD align=left>KEP. MENTAWAI REGION, INDONESIA</TD><TD>3° 51' 00'' S</TD><TD>100° 01' 12'' E</TD><TD>4.5 </TD><TD>10 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 54</TD><TD>23:09</TD><TD align=left>SOUTHWEST OF SUMATRA, INDONESIA</TD><TD>6° 59' 24'' S</TD><TD>101° 48' 36'' E</TD><TD>4.7 </TD><TD>31 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 54</TD><TD>18:55</TD><TD align=left>MOLUCCA SEA</TD><TD>2° 02' 24'' N</TD><TD>126° 54' 00'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>50 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 54</TD><TD>12:44</TD><TD align=left>SICHUAN-YUNNAN-GUIZHOU RG, CHINA</TD><TD>27° 18' 36'' N</TD><TD>103° 00' 36'' E</TD><TD>4.9 </TD><TD>46 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 54</TD><TD>12:44</TD><TD align=left>EASTERN SICHUAN, CHINA</TD><TD>27° 20' 24'' N</TD><TD>102° 59' 24'' E</TD><TD>4.9 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 54</TD><TD>12:44</TD><TD align=left>EASTERN SICHUAN, CHINA</TD><TD>27° 28' 12'' N</TD><TD>102° 54' 36'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>10 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>11 ก.พ. 54</TD><TD>12:42</TD><TD align=left>NIAS REGION, INDONESIA</TD><TD>1° 17' 24'' N</TD><TD>97° 03' 36'' E</TD><TD>4.3 </TD><TD>19 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>08 ก.พ. 54</TD><TD>11:08</TD><TD align=left>PHILIPPINE ISLANDS REGION</TD><TD>10° 55' 48'' N</TD><TD>126° 36' 00'' E</TD><TD>4.9 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>07 ก.พ. 54</TD><TD>12:55</TD><TD align=left>TAIWAN</TD><TD>24° 05' 24'' N</TD><TD>121° 43' 48'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>8 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>06 ก.พ. 54</TD><TD>18:21</TD><TD align=left>SOUTHWEST OF SUMATRA, INDONESIA</TD><TD>8° 13' 48'' S</TD><TD>104° 02' 24'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>10 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>06 ก.พ. 54</TD><TD>12:37</TD><TD align=left>SOUTHEAST OF TAIWAN</TD><TD>22° 17' 24'' N</TD><TD>125° 20' 24'' E</TD><TD>4.8 </TD><TD>10 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>03 ก.พ. 54</TD><TD>12:39</TD><TD align=left>OFF W COAST OF NORTHERN SUMATRA</TD><TD>3° 28' 48'' N</TD><TD>95° 45' 36'' E</TD><TD>4.9 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>02 ก.พ. 54</TD><TD>20:11</TD><TD align=left>ANDAMAN ISLANDS, INDIA REGION</TD><TD>14° 01' 12'' N</TD><TD>92° 55' 48'' E</TD><TD>4.3 </TD><TD>31 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RF><TD> </TD><TD>เวลาไทย</TD><TD> </TD><TD> </TD><TD> </TD><TD>ริกเตอร์</TD><TD>กิโลเมตร</TD><TD> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></P>
     
  11. jaaee

    jaaee สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2010
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +19
    เมื่อคืนที่มีนบุรีฝนตกหนักมาก เห็นว่ามีลูกเห็บตกด้วยนะ
     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พิษณุโลก-ประกาศให้ 9 อำเภอพิบัติภัยแล้ง

    [​IMG]

    แม่น้ำยมที่ไหลผ่านจังหวัดพิษณุโลกแห้งขอดเป็นช่วงๆ บางแห่งมีทรายกลางเกาะขาวโผลนสามารถเดินข้ามไปได้ ขณะที่ จ.พิษณุโลก ประกาศให้ 9 อำเภอ เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ง

    ในหลายพื้นที่ของจังหวัดพิษณุโลกกำลังประสบปัญหาภัยแล้ง แหล่งน้ำทางธรรมชาติแห้งขอดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแม่น้ำยมที่ขณะนี้เริ่มแห้งขอดจนเห็นทรายก้นแม่น้ำ บางจุดประชาชนสามารถเดินข้ามแม่น้ำยมได้ โดยเฉพาะที่บริเวณบ้านวังเป็ด หมู่ 2 ต.บางระกำ อ.บางระกำ ที่แม่น้ำยมแห้งขอดมาตั้งแต่ต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา จนเห็นทรายแม่น้ำขาวโผลน บางจุดมีแต่กาบหอยตายจำนวนมาก นอกจากนี้ยังส่งผลให้ชาวนาในพื้นที่เดือดร้อนไม่มีน้ำทางการเกษตร ข้าวขาดน้ำจำนวนหลายร้อยไร่

    สำหรับจังหวัดพิษณุโลก ได้มีการประกาศให้ทั้ง 9 อำเภอเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้งแล้ว พร้อมเตรียมนำงบประมาณมาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเป็นการเบื้องต้น

    สำหรับแม่น้ำยม เป็นแม่น้ำที่มีต้นกำเนิดอยู่ในป่าดงดิบสูงชันสลับซับซ้อนบนเทือกเขาผัปันน้ำ และเทือกเขาแดนลาว ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดเชียงราย พะเยา และแพร่ มีความยาวประมาณ 700 กิโลเมตร กระแสน้ำไหลผ่านที่ราบสูงของจังหวัดแพร่สุโขทัย พิษณุโลก และพิจิตร ไปบรรจบกับแม่น้ำน่าน ที่อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ก่อนแม่น้ำน่านจะไปรวมกับแม่น้ำปิง ที่ปากน้ำโพ อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรค์ เกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำสายสำคัญของพื้นที่ราบลุ่มภาคกลางของไทย

    วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

    ลำปาง-พายุถล่ม 3 หมู่บ้าน อ.ห้างฉัตร

    [​IMG]

    พายุพัดถล่ม 3 หมู่บ้าน ต.เวียงตาล อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง กลางดึกที่ผ่านมา วัด 2 แห่ง และ บ้านเรือนกว่า 70 หลัง ได้รับความเสียหาย กระเบื้องปลิวแตกว่า 1,000 แผ่น

    เมือกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุฝนและลมกรรโชกแรงพัดถล่มในเขตพื้นที่ ตำบลเวียงตาล อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง มีวัดและบ้านเรือนประชาชนเสียหายเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่ วัดดอยน้อย หมู่ 1 ต.เวียงตาล มีหัวพญานาคเป็นไม้เก่าแก่ที่ตั้งอยู่บนยอดวิหารหลุดหล่นลงมากองกับพื้นพังเสียหาย 2 ตัว และยังมีต้านตาลเก่าแก่ อายุกว่า 100 ปีที่อยู่ข้างวัดล้มลงมาทั้งต้น หักเสียหาย 3 ท่อน แต่ถือโชคดีที่ไม่มีผู้ไดรับบาดเจ็บ ด้านพระครูเขต เจ้าอาวาสวัดดอยน้อย เปิดเผยว่า เพดานในกุฎิหลุดลงมาเสียหลายอีกหลายแผ่น

    ส่วนที่ วัดบ้านยางอ้อย หมู่ 4 ต.เวียงตาล กระเบื้องมุงหลังคา ที่บริเวณห้องเก็บของถูกลมพายุพัดทำกระเบื้องหล่นลงมาแตกเสียหายมากกว่า 100 แผ่น ส่วนบ้านเรือนประชาชนโดยเฉพาะบ้านของ นางนีย์ ชาวบ้านที่บ้านเหล่า หมู่ 2 มีลมแรงพัดกระเบื้องหลังคาและอิฐบล็อคตกลงมาในห้องนอน หวิดถูกศีรษะขณะที่นอนอยู่ในห้อง

    ล่าสุด นาย น้อย จันทร์ป๊อก นายก อบต.เวียงตาล กำลังออกสำรวจความเสียหาย ซึ่งเบื้องต้น มีบ้านเรือนชาวบ้าน มากกว่า 70 หลังคา ได้รับผลกระทบจากพายุฝน กระเบื้องแตกเสียหาย มากว่า 1,000 แผ่น สังกะสีหลุดปลิวไปกับพายุนับร้อยแผ่น วันนี้ชาวบ้านกำลังเร่งตัดต้นไม้ และเก็บกวาดเศษกระเบื้องที่หล่นปลิวกระจายทั่วทั้งหมู่บ้านแล้ว

    วันศุกร์ ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2554

    ตาก-พายุถล่มบ้านพัง สวนผลไม้เสียหายจำนวนมาก

    [​IMG]

    พายุฤดูร้อนพัดถล่มอำเภอสามเงา จังหวัดตาก แรงพายุทำให้บ้านเรือนกว่า 100 หลัง สวนผลไม้ประกอบกล้วยไข่ ลำใย ฝรั่ง และข้าวโพดเสียหายกว่า 500 ไร่

    ที่จังหวัดตากผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 24.30 น.วันที่ 2 มี.ค.2554 ได้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้นที่ หมู่ 2 ต.ยกกระบัตร อ.สามเงา จ.ตาก แรงพายุทำให้เกิดมีลมกรรโชกแรง มีฝนและลูกเห็บตกหนัก โดยแรงพายุได้โหมกระหน่ำนานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสงบ ฤทธิ์พายุส่งผลให้บ้านเรือนราษฎรเสียหายกว่า 100 หลัง สวนผลไม้ประกอบ กล้วยไข่ ลำไย ฝรั่ง และข้าวโพด เสียหายกว่า 500 ไร่

    หลังเกิดเหตุ ทางองค์การบริหารส่วนตพบลยกกระบัตร ได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจความเสียหายและหาทางช่วยเหลือในเบื้องต้น

    วันพุธ ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2554

    ตาก-สถานการณ์ไฟป่าส่อเค้ารุนแรงมากขึ้น

    [​IMG]

    หน่วยควบคุมไฟป่า เผยพบจุด HOTSPOT จากจอเรดาร์ 4 จุดเสี่ยงเกิดไฟป่ารุนแรงในพื้นที่ จ.ตาก ระบุหากฝนไม่ตกลงมาช่วงเดือนเม.ย.สถานการณ์ไฟป่าจะวิกฤตและเกิดหลายจุด ช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนเกิดไฟไหม้ป่าไปแล้วเกือบ 200 ไร่

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทางสายตาก- แม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ว่าขณะนี้นอกจากจะเกิดภัยแล้งในหลายพื้นที่แล้ว สถานการณ์ไฟป่าเริ่มมาเร็ว และทวีความรุนแรงขึ้น เพราะอากาศร้อนและแล้งมาก หากฝนไม่ตกลงมาในช่วงเดือนเมษายนนี้ สถานการณ์จะวิกฤตและจะเกิดไฟป่าหลายจุด โดยในช่วงเริ่มต้นฤดูร้อนได้เกิดไฟไหม้ป่าไปแล้วประมาณเกือบ 200 ไร่ บริเวณถนนสายตาก-แม่สอด และ แม่สอด-อุ้มผาง ส่งผลให้รถุที่วิ่งสัญจรไปมาได้รับความเดือดร้อนเพราะหมอกควันปกคลุมหนาทืบ

    นอกจากนี้ หน่วยควบคุมไฟป่า เปิดเผยว่าพบจุด HOTSPOT จากจอเรด้าห์ จำนวน 4 จุด ประกอบด้วย บริเวณเขตป่าอนุรักษ์ขุนเขาพะวอ 2 จุด ป่าอนุรักษ์ตากสิน 1 จุด และอุทยานแห่งชาติพาเจริญ 1 จุด ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้าไปสกัดกั้นไฟป่าในจุดดังกล่าวเพื่อไม่ให้ลุกลามไปพื้นที่อื่น ซึ่งปีนี้ความร้อนและแห้งแล้งจะเป็นเรื่องที่น่ากลัว และน่าห่วงมาก ทางศูนย์ปฏิบัติการไฟป่าตากได้รับแจ้งเหตุ โดยใช้โปรแกรม Google Earth ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ใช้ในการดูภาพถ่ายของทุกมุมโลก จากดาวเทียม Google Earth เป็นโปรแกรมที่ได้พัฒนาขึ้นมาจากการนำภาพถ่ายดาวเทียมซึ่งเป็นข้อมูลดิจิตอลมาประยุกต์ใช้

    ทำให้สามารถค้นหาและชี้เป้าสถานที่เกิดไฟป่าได้ทันที จากนั้นทางศูนย์ได้แจ้งให้หน่วยไฟป่าที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงที่สุด นำเจ้าหน้าที่เข้าไปดับไฟโดยทันที ทำให้ไฟป่าที่เกิดใน 4 แห่ง ลุกลามเพียง 30กว่าไร่เท่านั้น แม้ว่าบางจุดเกิดในหุบเขา จนท.ก็เข้าไปได้อย่างรวดเร็ว คงทิ้งไว้เพียงเถ้าถ่านที่ยังไม่ดับสนิท รวมทั้งหมอกควันไฟป่าที่ยังฟุ้งตลอดทางสายตาก-แม่สอด

    วันศุกร์ ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

    ตาก-น้ำตกทีลอซูแห้งขอดเหลือแต่หน้าผา

    [​IMG]

    น้ำตกทีลอซู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย กำลังแห้งขอดเหลือเพียงหน้าผาลาดชัน ชาวบ้านเชื่อเกิดจากการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ และขาดการดูแลจัดการจากเจ้าหน้าที่

    ผู้สื่อข่าวรายงานจากเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ว่า ยังคงมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปท่องเที่ยวกันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณน้ำตกทีลอซู ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่วันนี้มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเที่ยวชมแล้วบ่นผิดหวัง เพราะความสวยงามของน้ำตกทีลอซูอันยิ่งใหญ่ กำลังแห้งขอดเหลือเพียงหน้าผาลาดชัน มีน้ำน้อยแทบมองไม่ออกว่านี้คือน้ำตกที่ยิ่งใหญ่ของจังหวัดตาก ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ เชื่อว่าเกิดจากที่ผ่านมามีการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำเป็นบริเวณกว้าง และไม่มีเจ้าหน้าที่หน่วยไหนเข้ามาตรวจสอบดูแล คาดว่าไม่เกิน 10 ปี น้ำตกทีลอซู เหลือเพียงชื่อเท่านั้น

    ด้านนายพนัส ทัศนียานนท์ สมาชิกวุฒิสภาจังหวัดตาก กล่าวขณะเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่บริเวณน้ำตกทีลอซูว่าปีนี้น้ำน้อยกว่าปีที่ผ่านมา และลดลงเร็วมากปกติ ขณะนี้พบว่ามีน้ำน้อยมาก และมีน้ำตกลงมาเพียงช่องเดียว เชื่อว่าสาเหตุส่วนใหญ่นอกจากภัยแล้งในช่วงฤดูแล้งแล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เขตพื้นที่อนุรักษ์ต้นน้ำ เพื่อการเกษตรกรรมโดยเฉพาะการเพาะปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น การทำไร่ข้าวโพด

    ซึ่งพบว่ามีการปลูกมากในพื้นที่อุ้มผาง เพราะปีนี้พืชผลการเกษตรราคาดี เกษตรกรจึงขยายแหล่งปลูกใหม่ๆเพิ่มขึ้น จึงทำให้มีการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำเพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันจากการใช้สารเคมีต่างๆทั้งยาฆ่าแมลง รวมทั้งยาฆ่าหญ้า ซึ่งต่อไปจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศต่างๆในพื้นที่ของน้ำตกทีลอซู ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกัน หน่วยงานทางราชการที่ดูแลในเรื่องนี้จะต้องเข้ามาดูแลกันอย่างจริงจัง และมีการบูรณาการทุกภาคส่วน เข้าไปแนะนำชาวบ้านในพื้นที่เพื่อจำกัด และป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำ รวมทั้งควบคุมเนื้อที่ปลูกพืชผลการเกษตร

    สำหรับน้ำตกทีลอซู ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก ห่างจากที่ทำการเขตฯ 3 กิโลเมตร ทีลอซู เป็นภาษากะเหรี่ยงแปลว่า น้ำตกดำ มีลักษณะเป็นน้ำตกภูเขาหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร เกิดจากลำห้วยกล้อท้อ ลำน้ำทั้งสายตกลงสู่หน้าผาสูงชัน มีน้ำไหลแรงตลอดปี ความกว้างของตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร ไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ มีความสูงประมาณ 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของเอเชีย

    วันพฤหัสบดี ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2554

    ที่มา http://www.krobkruakao.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1299052848.jpg
      1299052848.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36 KB
      เปิดดู:
      2,636
    • 1299210793.jpg
      1299210793.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.4 KB
      เปิดดู:
      2,658
    • 1299147315.jpg
      1299147315.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.3 KB
      เปิดดู:
      2,565
    • 1299211207.jpg
      1299211207.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.5 KB
      เปิดดู:
      2,669
    • 1298606805.jpg
      1298606805.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.9 KB
      เปิดดู:
      2,674
  13. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ปชช.ร่วมเคลื่อนสรีระสังขาร“หลวงตาบัว”</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ฟ้าหญิงเสด็จเป็นองค์ประธานพิธีเคลื่อนหีบสรีระสังขาร “หลวงตามหาบัว” ปชช.ร่วมแห่ทะลักวัด
    ปักหลักค้างแรมแน่นวัด

    เมื่อวันที่ 4 มี.ค. ผู้สื่อข่าว รายงานบรรยากาศ บริเวณวัดป่าบ้านตาด (วัดเกษรศีลคุณ) อ.เมือง จ.อุดรธานี ตั้งแต่ช่วงเช้ามืด บรรยากาศคร่าคร่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ ส่วนหนึ่งปักหลักค้างแรมอยู่รอบบริเวณวัดซึ่งได้จัดเตรียมสถานที่รองรับเอาไว้เป็นจำนวนมากเกือบทุกจุดเต็มไปด้วยเต็นท์เรียงรายที่พุทธศาสนิกชนมานอนปักหลักเพื่อร่วมงานพิธีอันยิ่งใหญ่ นอกจากมีการจัดเตรียมสถานที่ให้พักแรมแลว้ว ยังมีการเตรียมรถสุขาเคลื่อนที่มาบริการทุกจุด รถสุขาบางส่วนมาจากกทม.และหลายจังหวัดในภาคอีสาน ส่วนเรื่องอาหารการกิน ผลไม้ น้ำดื่ม ชา กาแฟ ฯลฯ มีเต็นท์โรงทานมาตั้งบริการฟรีทุกจุดเช่นเดียวกัน

    พระ 4300 รูปประชุมฟังปาฏิโมกข์

    ประมาณเวลา 04.00 น. พระสงฆ์ประมาณ 4300 รูปได้ร่วมทำพิธีปาฏิโมกข์รอบๆศาลาการเปรียญซึ่งเป็นที่โกศสรีระสังขาร เนื่องจากวันนี้ตรงกับวันพระ ตามปกติทุกเดือนที่วัดป่าบ้านตาดจะมีพิธีสวดปาฏิโมกข์เดือนละ 2 ครั้งอยู่แล้ว แต่วันนี้จะมีมากกว่าปกติเนื่องจากจะมีพระจากทั่วประเทศมาร่วมสวดด้วย นอกจากนี้บางส่วนได้ออกบิณบาตรญาติโยมบริเวณรอบๆวัด

    ชุดเก็บกู้ระเบิดตชด.ตรวจเข้ม

    ขณะเดียวกันได้มีเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิดของ ตชด.23 สกลนครและ ตชด. 24 อุดรธานี นำกำลังตรวจความปลอดภัยรอบ ๆ ศาลาเรือนประทับ และบริเวณรอบๆพื้นที่เมรุ (จิตกาธาน)อย่างเข้มงวดเสร็จแล้วได้นำลวดหนามหีบเพลง มาวางเป็นแนวกั้นรอบๆพื้นที่เพื่อให้ประชาชนนั่งเป็นจุดๆ จากนั้นช่วงสายเส้นทางการจราจรเริ่มหนาแน่น ถนนที่มุ่งหน้าเข้าสู่วัดป่าบ้านตาด ทางจังหวัดอุดรธานี ต้องระดมกำลังตำรวจ ทหารบก ทหารอากาศ รวมไปถึงบรรดาอาสาสมัครกู้ภัยฯ ฯลฯ มาคอยเฝ้าประจำจุดพร้อมกำหนดเส้นทางเดินรถเป็นแบบวันเวย์เพื่อป้องกันการจราจรติดขัด ประชาชนที่มีโอกาสมาร่วมงาน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่น่าเชื่อจะมีเต็นท์โรงทานมากมายก่ายกองขนาดนี้ ซึ่งเป็นโรงทานทั้งของภาครัฐ เอกชน และวัดนับพันๆเต็นท์ ทำให้ช่วงเช้าทั้งประชาชนและพระภิกษุสงฆ์ที่นอนพักค้างแรมก็สามารถใช้บริการได้ทันที

    คลื่นมหาชนไม่ต่ำกว่า 5 แสน

    ด้านนายคมสัน เอกชัย ผวจ.อุดรธานี ให้สัมภาษณ์ว่า คาดการณ์ว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานไม่ต่ำกว่า 5 แสนคน ขณะนี้ทางจังหวัดมีความเตรียมพร้อมเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องการจราจรที่หลายคนเป็นห่วงก็เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว ทั้งเส้นทางเดินรถและสถานที่จอดรถ จัดเตรียมเอาไว้รอบๆพื้นที่บริเวณวัดป่าบ้านตาด มากว่า 20 แห่ง ทุกจุดตามเส้นทางถนนจะมีป้ายแจ้งบอกทางเอาไว้ชัดเจนทำให้การดินทางค่อนข้างสะดวก โดยเกือบทุกจุดที่ให้จอดรถจะมีเนื้อที่กว้างขวาง รวมทั้งจะมีรถบริการเข้ามาในงาน มีเป็นรถรางขบวนยาว รถสองแถวและรถตู้ตำรวจภูธร จากพื้นที่ บช.ภ.4 คอยรับส่งตลอดจึงไม่จำเป็นจะต้องขับรถเข้ามาในอาณาบริเวณวัด

    ขอขมาต่อสรีระสังขาร

    จากนั้นช่วงสายที่บริเวณศาลาการเปรียญพระสงฆ์ได้ร่วมกันประกอบพิธีขอขมาต่อสรีระสังขารพระเดชพระคุณหลวงตามหาบัว ท่ามกลางพุทธศาสนิกชนจำนวนมากมานั่งรายล้อมรอบๆศาลาการเปรียญ หลังฉันภัตตาหารเสร็จ ไม่อนุญาตให้พุทธศาสนิกชนขึ้นกราบสรีระสังขารของหลวงตาเหมือนกับทุกวันที่ผ่านมาเนื่องจากต้องปรับสถานที่เพื่ออัญเชิญโกศสรีระสังขารหลวงตามหาบัวไปตั้ง ณ จิตกาธาน เปิดโอกาสให้พระภิกษุสงฆ์ได้ขึ้นกราบสรีระหลวงตา

    พิธีเคลื่อนสรีระสังขาร

    เมื่อเวลา 09.00 น.สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเป็นองค์ประธาน ในพิธีเคลื่อนหีบสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ลงจากศาลาการเปรียญไปยังเมรุ (จิตกาธาน )ด้วยการตั้งแถว โดยมีพระอุดมญาณโมลี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 8 และเจ้าอาวาสวัดโพธิสมภรณ์ อ.เมืองอุดรธานี พร้อมพระสงฆ์ที่มีพรรษาตั้งแต่ 40 พรรษาขึ้นไปเดินนำหน้าขบวน จากนั้นเป็นตำรวจ ตชด. จากกก.ตชด.24 อุดรธานี จำนวน 40 นายแต่งชุดขาว แบกหีบสรีระสังขารหลวงตามหาบัว ขึ้นไปตั้งบนเมรุ (จิตกาธาน) โดยมีบริวารและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เดินติดตามขบวน ทั้งตลอดเส้นทางที่ขบวนเคลื่อนผ่านมีพระภิกษุสงฆ์และประชาชนต่างพนมมือไหว้ส่งเสียงสาธุดังสนั่นไปทั้งวัด.





    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กลุ่มผู้ประท้วงทางภาคตะวันออกของลิเบียประกาศกร้าวว่า พวกตนจะไม่ยอมเจรจากับรัฐบาลอย่างเด็ดขาด ตราบใดที่ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ยังคงไม่ยอมลาออก และลี้ภัยไปยังต่างประเทศ

    ขณะที่สภาประชาชนแห่งชาติในเมืองเบงกาซี เรียกร้องต่อนานาชาติให้เข้าทำการแทรกแซง หลังรัฐบาลใช้กำลังทางอากาศเพื่อต่อต้านกลุ่มกบฏ ขณะเดียวกันศาลอาญาระหว่างประเทศ เตรียมที่จะดำเนินการสอบสวนพ.อ.กัดดาฟี และบุตรชายของเขาบางคน ในข้อหากระทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

    นายมุสตาฟา อับเดล-จาลิล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานสภาประชาชน กล่าวยืนยันว่า "การเจรจาจะเกิดขึ้นโดยเงื่อนไขเดียวเท่านั้น คือนายกัดดาฟีจะต้องก้าวลงจากตำแหน่งหรือเดินทางออกจากประเทศ เพื่อรักษาชีวิตของประชาชนไว้ ไม่มีเรื่องอื่นใดที่ต้องเจรจาอีก"

    ในกรุงทริโปลีซึ่งล้อมรอบด้วยกองทหาร ประชาชนได้รับการเรียกร้องให้ออกมาร่วมชุมนุมในวันนี้ (4 มี.ค.) หลังจากการร่วมพิธีสวดมนต์ประจำสัปดาห์ ขณะที่ยังคงมีรายงานว่า กองกำลังทหารของนายกัดดาฟียังคงทำการกวาดล้างผู้ต่อต้านรัฐบาลอย่างหนัก

    ขณะที่กองกำลังฝ่ายต่อต้าน และกลุ่มหนุนกัดดาฟี ยังคงสู้รบกันในเมืองเบรก้าซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญอันดับสองของประเทศ โดยรัฐบาลยังส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดในเมืองดังกล่าวเพิ่มอีกวานนี้ ใกล้กับโรงกลั่นน้ำมันแต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บ

    กองกำลังฝ่ายต่อต้านกัดดาฟี อ้างว่าสามารถจับตัวนักรบที่ภักดีต่อกัดดาฟีไว้ได้ราว 100 คน ขณะพยายามปกป้องเมืองไม่ให้ถูกฝ่ายหนุนกัดดาฟีแย่งคืนไปได้ โดยกลุ่มผู้ภักดีต่อกัดดาฟีบางส่วนได้ถอยร่นไปยังเมืองท่าราส ลานูฟ ทางทิศตะวันตก ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่าพ.อ.กัดดาฟี ได้จ้างทหารต่างชาติจำนวนหลายร้อยนายจากประเทศมาลี

    <TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 bgColor=#e2e2e2 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ecfae0>ช็อก"ไอวอรี่ โคสต์ โหด"ยิงผู้หญิงตาย 6 ศพขณะตั้งม็อบขับไล่ประธานาธิบดีโกงเลือกตั้ง</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=5 borderColor=#728dac cellPadding=0 width=725 align=center><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff><TABLE class=A14 border=0 cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" align=center><TBODY><TR bgColor=#cccccc><TD vAlign=center> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width="95%"><TBODY><TR><TD vAlign=top>สำนักต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ทหารกองทัพไอวอรี่ โคสต์ ของประธานาธิบดีโลรองค์ เก๊บแบ๊กโบ ซึ่งถูกกล่าวหาว่า พ่ายแพ้และโกงการเลือกตั้งผู้นำประเทศซต่อนายอลาสแซน อิวแอตต้า ปฎิบัติการอย่างเหี้ยมโหด ยิงกระสุนปืนใส่กลุ่มผู้หญิงที่ออกมาชุมนุมประท้วงเพื่อเรียกร้องให้ประธานาธิบดีเก็บแบ๊กโบ ลาออกจากตำแหน่ง


    โดยมีผู้หญิงเสียชีวิต 7 ราย ในการประท้วงครั้งประวัติศาสตร์ที่ประชาชนได้ใช้วิธีการสุดท้ายในการกดดันนายเก็บแบ๊กโบด้วยการใช้กลุ่มผู้หญิงออกมาประท้วงขับไล่ผู้นำไอวอรี่ โคสต์ รายนี้

    เหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้แก่สหรัฐทันที โดยโฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า นายเก็บแบ็กโบ้ ได้พิสูจน์แล้วว่าเขาล้มละลายด้านจริยธรรม จากเหตุการณ์กองกำลังความมั่นของเขา ได้สังหารผู้หญิง ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาาติ ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงนิวยอร์ก แสดงความรู้สึกวิตกยิ่ง ต่อสถานการณ์ความรุนแรงในไอวอรี่ โคสต์ ที่บานปลาย และอาจนำไปสู่สงครามกลางเมืองได้

    รายงานระบุว่า ที่ผ่านมาประเมินกองกำลังความมั่นคงของนายเก็บแบ๊กโบได้สังหารประชาชน เกือบ 400 คนจำนวนนี้ รวมทั้งราย 32 ราย ในช่วง 24 ชม.ที่ผ่านมา โดยทุกรายเป็นผู้ใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งให้นายอลาสแซน อิวแอตต้า ซึ่งชนะการเลือกตั้ง แต่ถูกกักบริเวณให้อยู่ในบ้านพัก ขณะที่วิกฤตรุนแรงส่งผลให้ประชาชนในเขตอโบโบ 2 แสนคนหนีตายออกจากเขตดังกล่าวซึ่งมีการยิงปืนใหญ่ใส่ประชาชน

    ที่ผ่านมา หลายฝ่ายได้เรียกร้องให้นายเก็บแบ๊กโบ ยอมรับผลแพ้เลือกตั้งและก้าวลงจากตำแหน่ง แต่เจ้าต้วได้ปฎิเสธข้อเสนอต่าง ๆ รวมทั้งข้อเสนอนิรโทษกรรมความผิด รวมทั้งข้อเสนอจากสหรัฐให้เขาลี้่ภัยและทำงานเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยบอสตัน



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2011
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    การเดินทางข้ามกาลเวลา

    [​IMG]

    ตอนที่ 13: การท่องกาลเวลา

    การท่องกาลเวลาได้เคยเกิดขึ้นแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทั้งแบบเดินทางไปสู่อนาคตและแบบย้อนกลับไปสู่อดีต แม้ว่าบางคน จะเพียงแค่ผ่านเข้าไปในมายาการของกาลเวลาอื่นเพียงชั่วคราวด้วยความบังเอิญเท่านั้นก็ตาม มีน้อยคนมากที่เดินทางข้ามกาลเวลาไปแบบถาวร

    พลเรือเอก Byrd ก็เคยมองเห็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นในยุคสมัยอื่นมาแล้วชั่วแว๊บหนึ่ง ในขณะที่เขากำลังบินผ่านบริเวณขั้วโลก ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ว่า มีเครื่องบินหลายลำบินหายไปในบริเวณสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้านั้น มันไม่ใช่การข้ามผ่านกาลเวลาแบบถาวรแต่อย่างใด และแม้ว่าจะมีการบิดเบี้ยวของกาลเวลาเกิดขึ้นจริงๆ แต่เครื่องบินเหล่านั้น ก็ไม่ได้หายไปเต็มตัวในกาลเวลาอื่นแต่อย่างใด

    มันเป็นเพราะการทำงานผิดปกติของเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง ที่ทำให้การนำวิถีผิดพลาดไป และเป็นเพราะวิทยุใช้การไม่ได้ ดังนั้นการหายสาบสูญไปของพวกมัน จึงเกิดจากการตกลงไปในทะเลเท่านั้นเอง รัฐบาลของพวกคุณบางประเทศกำลังร่วมมือกับองค์กรลับบางองค์กร เพื่อทำโครงการลับเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ และพวกเขาก็ได้พัฒนาวิธีการ และเครื่องมือสำหรับท่องกาลเวลาแบบหยาบๆขึ้นมาได้สำเร็จแล้ว

    แต่ว่าวิธีการและเครื่องมือเหล่านี้ ยังไม่สามารถควบคุมได้ดีเท่าที่ควร และความตึงเครียดที่เกิดขึ้น จากการ Tempornaut ของมนุษย์ ก็ค่อนข้างสูง นั่นคือมันทำให้ร่างกายของมนุษย์แก่ขึ้นไปอีก 7 – 10 ปี ต่อการเดินทางข้ามกาลเวลาเพียง 1 ครั้ง ปัจจุบันนี้พวกเขาจึงสามารถเดินทางไปในอนาคตได้เพียงแค่ไม่เกิน 20 ปีเท่านั้นเอง และพวกเขายังไม่สามารถเดินทางย้อนกลับไปยังอดีตได้

    สักวันหนึ่ง เมื่อใดที่พวกเขาเปลี่ยนมาใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสมกว่า คือเปลี่ยนจากสนามพลังแม่เหล็ก มาเป็นสนามพลังคริสตัลไลน์ไบโอพลาสมิกแทน (Crystalline Bioplasmic Field) เทคโนโลยีของพวกเขาก็จะก้าวไกลไปได้มากกว่านี้ แล้วเมื่อนั้น การเดินทางท่องกาลเวลา ก็จะสามารถเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจได้ ไม่ใช่เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญแบบทุกวันนี้

    การท่องกาลเวลาที่เหมาะสม จะเกิดขึ้นในเมอคาน่า (Mer-Ka-Na) (อันนี้ก็เป็นอะไรที่เกี่ยวกับจิตด้วยนะครับ ถ้าเราเรียกว่า “จิต” เฉยๆ ก็พอจะทำให้อ่านรู้เรื่องเหมือนกันนะ – ผู้แปล) ผ่านทางจิตสำนึกที่บริสุทธิ์ของ Bioplasmic field โดยใช้เครื่องมือที่เป็นผลึกคริสตัล ช่วยในการกำหนดเป้าหมายของกาลเวลาที่จะไป และมันก็จะต้องอาศัยพลังจิตของผู้เดินทางเองด้วย ในการควบคุมมัน

    พวกคุณหลายคน ก็เคยเดินทางข้ามกาลเวลามาแล้วบ่อยๆ ผ่านทางความฝัน ซึ่งกุญแจสำคัญที่จะทำให้ได้ดีก็คือ การพัฒนาความมีสติสัมปชัญญะ จริงๆแล้ว มันมีกฎทางฟิสิกส์อยู่หลายข้อที่เกี่ยวข้องกับการท่องกาลเวลาและอวกาศ ซึ่งในที่สุดแล้วมนุษย์ก็จะค้นพบกฎเหล่านี้เอง และเมื่อถึงวันนั้น มนุษย์ก็จะมีความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นขอบเขตที่แบ่งกั้นระหว่างอดีต ปัจจุบัน และอนาคตอยู่อย่างหนาแน่นนี้มากขึ้น

    และพวกคุณจะรู้ว่ามันเป็นเพียงมายาการที่ถูกสร้างขึ้นมา จากข้อจำกัดในการับรู้ด้านมิติของพวกคุณเองเท่านั้น เพราะว่าพวกคุณกำลังเป็นมนุษย์ที่อยู่ในโลกทางกายภาพแห่งความเป็นทวิภาวะนั่นเอง จริงๆแล้วมันเป็นแค่เลนส์ๆเดียวที่ฉายภาพมายาแห่งกาลเวลาแบบเป็นเส้นตรงขึ้นมา และนี่เองคือต้นตอของสาเหตุที่ทำให้มนุษย์มีความเชื่อว่าเมื่อชั่วขณะหนึ่งได้เกิดขึ้นและได้ผ่านไปแล้ว มันจะผ่านไปตลอดกาล แล้วจากนั้นชั่วขณะถัดไปก็จะผ่านเข้ามา แล้วมันก็จะผ่านเลยไป และหายสาบสูญไปกับความลึกลับของอดีตเฉกเช่นกัน

    พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่-เป็นอยู่ในโลกทั้งมวลนี้ (Omni-Earth) จริงๆแล้ว รวมถึงที่มีอยู่-เป็นอยู่ในอนันตจักรวาลนี้ด้วยซ้ำไป พวกมันมีอยู่-เป็นอยู่พร้อมๆกันหมด ในเวลาเดียวกัน อดีต,ปัจจุบัน และอนาคต จะปรากฏแก่ผู้ที่อยู่ในมิติที่ 3 เท่านั้น และโปรแกรมต่างๆ ที่ทำหน้าที่แบ่งแยก “ไฟล์กาลเวลา” ยุคต่างๆ ที่อยู่ภายในโลกทั้งมวลนี้ออกจากกัน เราก็สามารถเข้าไปดูมันได้ด้วย

    ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพเมตาตรอน Archangel Metatron (มนุษย์ต่างดาว) วันที่: 18 ตุลาคม 2010 ผู้รับการสื่อสาร: นาย Tyberonn เรื่อง: จิตสำนึกแห่งควอนตัม – ธรรมชาติของการเวลา (Quantum Consciousness: The Nature of Time) แปลและเรียบเรียงโดยคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Chayutt<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4023126", true); </SCRIPT>

    ที่มา: http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ยนแปลงแก้ไขอดีต-และธรรมชาติของกาลเวลา.266549/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  15. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    GT200 หลบไป!! นักวิทย์คิดค้น พืชตรวจหาระเบิด
    Mthai news: นักวิทยาศาสตร์กำลังให้ดูพืชที่อ้างว่า สามารถตรวจหาวัตถุระเบิดได้ ซึ่งต่อไปนี้มันไม่เพียงแต่ใช้สำหรับรับประทานเท่านั้น แต่พวกเขาได้พัฒนาให้สามารถ เป็นเครื่องมีในการต่อต้านการก่อการรร้ายได้
    ทั้งนี้กระบวนการทำงานนั้น ใช้โปรตีนเป็นตัวรับสัญญาณในดีเอ็นเอของพืช แล้วตอบสนองอย่างเป็นธรรมชาติต่อตัวกระตุ้นที่เป็นภัยคุกคาม อาทิ วัตถุระเบิด ด้วยการปล่อยสารเคมีที่ชื่อว่า “เทอร์พีนอยด์” ที่ทำให้เปลือกชั้นนอกของต้นไม้หนาขึ้นและเปลี่ยนสี
    “พืชดังกล่าวไม่สามารถหนีหรือซ่อนตัวจากภัยคุกคามได้” ศาสตราจารย์จูน เมดฟอร์ด นักชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยโคโรลาโดกล่าว ดังนั้น มันจึงพัฒนากลไกอันซับซ้อนเพื่อตรวจหาและรับมือสภาพแวดล้อมได้
    โดยการทำงานนี้ จะนำโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาช่วยดัดแปลงกลไกการป้องกันตัวตามธรรมชาติของต้นไม้ ทำให้ตัวรับสัญญาณของต้นไม้ตอบสนองในแบบเดียวกันต่อสารเคมีที่พบในวัตถุระเบิด รวมทั้งในมลพิษทางน้ำและอากาศด้วย
    [​IMG]

    เมดฟอร์ด กล่าวว่า ต้นไม้อัจฉริยะนี้ จะตรวจหาสารและเปิดใช้งานสัญญาณภายใน ที่ทำให้สีเขียวในตัวจางลงจนกลายเป็นสีขาวในที่สุด


    อย่างไรก็ตาม กลไกของพืชชนิดนี้ จะแสดงผลที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งบรรดานักวิจัยกล่าวว่า อาจจะดีกว่าความสามารถของสุนัขเลยทีเดียว
    <OBJECT codeBase="http://download.macromedia.com/pub/shockwave/cabs/flash/swflash.cab#version=6,0,40,0" classid=clsid:d27cdb6e-ae6d-11cf-96b8-444553540000 width=567 height=346>
























    <embedtype="application/x-shockwave-flash" width="567" height="346" src="http://www.youtube-nocookie.com/v/kObTt_dR7IM?fs=1&hl=en_US" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></OBJECT></P>โดย Mthai news
     
  16. GoonS

    GoonS เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    811
    ค่าพลัง:
    +2,682
    จะมีใครสนใจมั้ยน้าหุๆ วันนี้ขอโม้ให้เต็มที่หน่อยละกัน
    เมื่อคืนอาจารย์ผมพูดเพิ่มขึ้นมาอีก

    17 กรกฎาคม 2555 ที่เคยพูดว่าคนไทยทั้งประเทศจะต้องร้องไห้
    เพิ่มขึ้นมาอีกคือ ตอนนั้น(17กค.55)ไฟจะไหม้เป็นหย่อมๆ เเต่ละพ.ท.ของประเทศ
    เด็กวัยรุ่นช่วงประมาณ15-20กว่าๆ อยู่ดีๆก็จะเพี้ยนจะบ้าขึ้นมา
    อยู่ดีๆอยากจะเผาบ้านเผาเมือง อยากยิงใครก็ยิง พอตำรวจจับก็บอกว่าอยากยิง
    สาเหตุไม่มีเเค่อยาก เเล้วจะมีเด็กพวกนี้อยู่หลายเเสนด้วย อาจารบอกว่านรกส่งมา
    ให้มาปั่นป่วนประเทศไทย เด็กวัยรุ่นพวกนี้ตายไปก็ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะอายุไข36-38ปี
    เกิดมาเพื่อปั่นป่วนประเทศไทยโดยเฉพาะ ประเทศไทยจะต้องเจอเรื่องเเบบนี้อยู่ 5 ปี

    คำทำนายจาก...นักพลังจิตอันดับ1ของเมืองไทย...อันดับ8ของโลก
    ไม่เปิดเผยชื่อหุๆ เเต่ไม่ตอเเหลเเน่คับ เเต่เป็นสายโลกียนะ

    เเล้วก็มารอลุ้นกันอีกปีกว่าๆกันเอง ไม่นานเกินรอ

    เห็นพูดเรื่องอภิญญาก็ขอเเจมด้วยคน ถึงจะช้าไปหน่อย ขอเล่าถึงอาจารผมหน่อยนะครับ
    ตอนนี้อาจารท่านสอนอภิญญาอยู่ เคยสอน ซีโล่เอ็น อะไรไม่รู้อยู่อริสโซน่า10กว่าปี

    เคยสอนลูกศิษย์มาหลายรุ่นทั้งดีทั้งชั่ว ทั้งช่วยเหลือคน ดูหมอหาตัง หมอฮวงจุ้ย
    หรือด้านลบที่เป็นพระก็..ผู้หญิงจับศึก ทั้งมั่วผู้หญิงเเล้วลบความจำ
    ทั้งการพนัน อภิญญามีหมดเเล้วเเต่อยากจะใช้ เเต่ค่อยไปรับกรรมเอาทีหลัง

    มีคนเคยถามว่าที่ทำชั่วเเล้วอภิญญาไม่เสื่อมหรอ
    อาจารท่านก็บอกว่ามันฝึกของมันทุกวัน มันเลยไม่เสื่อม
     
  17. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    6มี.ค.54
    พรุ่งนี้มีนัดกับสมาชิกอ.วังสะพุงจ.เลยที่หน้าสถานีรถไฟดอนเมืองฝั่งขาเข้า(ฝั่งติดกับถนนวิภาวดี)ท่านใดสนใจฐานผาแบ่นก็ไปร่วมพูดคุยได้เวลา5-6โมงเย็น
    ช่วงนี้เข้ามาน้อยเพราะต้องไปช่วยลูกสาวคนโตดูแลร้านขายเครื่องไฟฟ้าแถวบ้านและต้องนอนค้างประมาณสามเดือนตัวเองคิดว่าจะย้ายคอมฯไปด้วยเพื่อสะดวกในการเข้ามาที่ต้องไปช่วยเพราะลูกสาวจะช่วยค่าขนส่งค่าแรงและค่าอาหารในช่วงที่จะย้ายบ้านน็อคดาว์นขึ้นไปประกอบที่ฐานฯ
    ต้องขออภัยที่พิมพ์ตัวหนังสือติดกันเพราะตัวเคาะไม่ทำงาน

    องค์อินทร์๙๗
    ทำการแทน
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    หวั่นสองชาติเมืองแขกถล่มระเบิดปรมาณู
    เกิดเป็น "ฤดูหนาวนิวเคลียร์"

    [​IMG]

    นักวิทยาศาสตร์ทำการวิจัยถึงผลเสียหายพบว่าอาจจะก่อให้เกิดภูเขามลพิษซึ่งเป็นเศษซากและ ควันจำนวนมหาศาลขึ้น ในบรรยากาศ บดบังแดดไปชั่วนาตาปีหลายสิบปีและเกิดเป็น "ฤดูหนาวนิวเคลียร์"...

    รายงานการศึกษาร่วมของคณะกรรมการการลดอาวุธและการแพร่กระจายของอาวุธนิวเคลียร์เปิดเผยให้ทราบว่า หากอินเดียกับปากีสถาน ใช้ระเบิดปรมาณูเข้าถล่มกัน มันอาจจะก่อให้เกิดปรากฏการณ์ "สภาพลมฟ้าอากาศเย็นยะเยือก" ซึ่งจะยังความเสียหายอย่างร้ายแรงให้กับเกษตรกรรมทั่วโลก

    แค่เพียงสงครามปรมาณูในภูมิภาคอย่างจำกัด อย่างเช่น ศึกระหว่างอินเดียกับปากีสถาน ต่างฝ่ายต่างใช้ระเบิดปรมาณูขนาดแรงต่ำ ถล่มเมืองใหญ่ๆของกันและกันสัก 50 ลูก จะทำให้พ่นห่าขี้เขม่าขึ้นฟ้าขึ้นไปค้างอยู่บนชั้นบรรยากาศสูงจากโลกระหว่าง 15-50 กม. อยู่เป็นเวลานาน ก่อให้เกิดสภาพลมฟ้าอากาศเย็นยะเยือกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน สร้างความเสียหายอย่างหนักให้กับการเกษตรทั่วโลก

    รายงานได้เปิดเผยว่า นักวิทยาศาสตร์ได้เคยทำการวิจัยถึงผลเสียหายของสงครามนิวเคลียร์ ที่มีกับสภาพลมฟ้าอากาศและพบว่าอาจจะก่อให้เกิดภูเขามลพิษซึ่งเป็นเศษซากและควันจำนวนมหาศาลขึ้น ในบรรยากาศ บดบังแดดไปชั่วนาตาปีหลายสิบปีและเกิดเป็น "ฤดูหนาวนิวเคลียร์" ขึ้นในที่สุด

    ปรากฏการณ์เนื่องจากนิเวศวิทยาแปรปรวนอย่างหนักเช่นนั้น จะทำให้พืชและสัตว์ล้มตายลงเป็นอันมาก นำไปสู่ทุพภิกขภัย พลอยทำให้ชุมชนอื่นๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงล่มสลายไปด้วย.

    ไทยรัฐออนไลน์ 12 กุมภาพันธ์ 2553, 10:00 น.

    ที่มา http://www.thairath.co.th<!-- google_ad_section_end -->

    "ฤดูหนาวนิวเคลียร์"

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]


    สวัสดีค่ะ ท่านผู้อ่านไทยรัฐ ซันเดย์ สเปเชียล โดยทีมงานต่วย'ตูน ทุกท่าน อากาศช่วงนี้แปรปรวนอยู่พอสมควรนะคะ เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน ไม่รู้ว่าตกลงจะเข้าหน้าหนาวเมื่อไหร่กันแน่ เรียกได้ว่า อากาศแปรปรวนกันไปทั้งโลกทีเดียวค่ะ จนผู้เชี่ยวชาญบางท่านออกมาบอกว่า อีกไม่นานต่อจากนี้ เราอาจจะได้เห็น "หิมะ" ตกในประเทศไทยก็เป็นไปได้ ถ้าอย่างนั้น ก็เตรียมตัว "หนาว" กันได้เลย ทั้งหนาวกายและหนาวใจ เพราะหากเกิดขึ้นจริง แสดงว่า "โลก" ของเรากำลังย่ำแย่แล้วล่ะค่ะ

    แต่ที่น่ากลัวกว่านั้น และไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลย คือความหนาวอีกประเภทหนึ่ง ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์เรียกว่า "หนาวนิวเคลียร์" อันว่า หนาวนิวเคลียร์นี้เป็นอย่างไร จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกันเดี๋ยวนี้แหละค่ะ

    คำว่าหนาวนิวเคลียร์นี้ เป็นคำศัพท์กลางเก่ากลางใหม่ ที่เหล่านักวิทยาศาสตร์เริ่มพูดกันมาราวๆ 30 ปีแล้ว หลังจากได้เห็นผลกระทบที่ชัดเจนจากระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรกของโลกที่สหรัฐอเมริกาถล่มเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 และหลังจากนั้น ก็เกิดสงครามเย็น ที่ประเทศมหาอำนาจพากันสะสมอาวุธปรมาณู ทำให้เกิดการวิตกกังวลกันว่าหากเกิดสงครามครั้งใหม่ แล้วใช้นิวเคลียร์ถล่มกันแบบเต็มที่จริงๆ โลกเราอาจจะเข้าไปสู่จุดที่ใกล้คำว่าอวสาน

    มีการวิเคราะห์กันในช่วงแรกๆว่า หากเกิดสงครามนิวเคลียร์ครั้งใหญ่ขึ้น ผลของระเบิดจะก่อให้เกิดควัน เขม่า ฝุ่น และกัมมันตภาพรังสี ที่ฟุ้งขึ้นไปสู่บรรยากาศชั้นสูงของโลก ก่อให้เกิดการบดบังแสงอาทิตย์ แหล่งพลังงานสำคัญของโลก จนปิดกั้นไม่ให้รังสีสุริยาผ่านสิ่งสกปรกเหล่านี้เข้ามาได้ ดังนั้นความอบอุ่นที่เคยมีก็จะหายไป เหลือไว้เพียงความเย็นยะเยือกของโลกที่ปราศจากแสงสุรีย์ กลายเป็นโลกแห่งความหนาว ที่ถูกเรียกขานกันว่า "หนาวนิวเคลียร์"

    หนาวนิวเคลียร์นั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ความหนาวแต่เพียงอย่างเดียว แต่การที่ไม่มีแสงอาทิตย์ ยังส่งผลต่อเนื่องให้ไม่สามารถเพาะปลูก นั่นหมายถึงการไร้ซึ่งพืชอาหาร ในขณะที่กัมมันตภาพรังสีที่ตกค้างจากระเบิดนิวเคลียร์ ก็จะส่งผลกระทบกับสุขภาพมนุษย์ ที่ทั้งหนาวและทั้งไม่มีจะกินอยู่แล้ว ให้ป่วยหนักกันมากขึ้น หนาวนิวเคลียร์จึงเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการล่มสลายของเผ่าพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือสรรพสิ่งต่างๆบนโลก

    เมื่อ 3 ปีก่อน บรรดานักวิทยาศาสตร์ชั้นแนวหน้าของโลกได้รวมตัวกันในการประชุมสหภาพนักธรณีฟิสิกส์ และได้มีการเปิดเผยผลการวิจัยที่ชัดเจนขึ้นว่า ไม่ต้องก้าวไปถึงสงครามระดับสงครามโลกหรอก แค่สงครามในภูมิภาคระหว่าง 2-3 ประเทศ ก็อาจจะก่อให้เกิดหนาวนิวเคลียร์ไปทั่วโลกแล้ว

    ผลการวิจัยแจ้งชัดว่า หากมีการใช้ระเบิดนิวเคลียร์ขนาดประมาณ 50 เท่าของระเบิดลูกแรกที่ฮิโรชิมา ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น "ทันที" คือ ผู้คนล้มตายยิ่งกว่าใบไม้ร่วง ประมาณ 3-17 ล้านคนแล้ว แต่ว่าสงครามจะอุบัติขึ้นตรงไหน หลังจากนั้น ฝุ่น เขม่า จำนวน 5 ล้านตันจะพุ่งขึ้นไปถึงความสูงประมาณ 50 ไมล์ เลยชั้นบรรยากาศสตาร์โตสเฟียร์ไปอีก เป็นการปิดกั้นแสงสว่างและความอบอุ่น

    และอย่าหวังเลยว่า ฝุ่นผงนี้จะถูกน้ำฝนชะล้างให้หายไปได้ในระยะเวลาสั้นๆ เพราะ ณ ชั้นบรรยากาศที่สูงขนาดนั้น ไม่มีการก่อกำเนิดฝน ดังนั้น ฝุ่นจะคงอยู่นานนับปี หรืออาจจะนับทศวรรษ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่า ใน 3 ปีแรกของสถานการณ์หนาวนิวเคลียร์นี้ อุณหภูมิโดยรวมของโลกจะลดลงประมาณ 2 องศาฟาเรนไฮต์ และลดต่อเนื่องไปเรื่อยๆ อีกนับสิบปี และไม่ต้องพูดถึงพืชพรรณธัญญาหาร เพราะไม่มีอะไรงอกงามได้แน่ เมื่อปราศจากความเมตตาของพระสุริยา ถือเป็นหายนะยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งที่น้ำมือของคนเราจะก่อให้เกิดขึ้นได้

    นอกจากนี้ จากการวิจัยเพิ่มเมื่อปีที่แล้ว ก็มีการประเมินว่า นอกจากการปิดกั้นความอบอุ่นแล้ว ฝุ่นที่จะฟุ้งขึ้นไปอยู่ "ข้างบนโน้น" ยังจะไปเจอแก๊ส เกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ที่ทำให้ชั้นโอโซนที่เราหวงกันหนักหนา กลายเป็นรูโหว่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆกลายเป็นว่า ในขณะที่ฝุ่นผงปิดกั้นแสง แต่กลับจะมีการเปิดช่องให้รังสีแสงอัลตราไวโอเลตเข้มข้นที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์หลุดรอดเข้ามา "ฆ่า" คนที่เหลือรอดมาได้ต่อไปอีก

    บางคนอาจจะบอกว่า โอ๊ย...ตอนนี้ไม่ต้องวิตกกังวลกับหนาวนิวเคลียร์แล้ว เพราะภาวะสงครามเย็นของบรรดามหาอำนาจไม่มีอีกแล้ว แต่คงต้องบอกว่า อย่าเพิ่งชะล่าใจไป แม้สงครามใหญ่ๆจะไม่เกิด แต่สงครามเล็กๆก็ส่งผลที่น่ากลัวเหมือนกัน เช่น ตอนที่อิรักบุกคูเวตเมื่อปี ค.ศ.1990 และเผาบ่อน้ำมันของคูเวตไปประมาณ 700 บ่อ แม้จะไม่ใช่เป็นการถล่มกันด้วยระเบิดนิวเคลียร์อย่างที่มีการกลัวกัน แต่ควันจากการเผาบ่อน้ำมัน ก็ทำให้เกิดสิ่งที่อาจจะเรียกได้ว่า เป็นการ "ซ้อมย่อย" ของฤดูหนาวนิวเคลียร์เหมือนกัน

    เพราะตอนนั้น บรรยากาศของคูเวตถูกปกคลุมไปด้วยควัน กลางวันพลันมืดมิด และบริเวณอ่าวเปอร์เซียก็ได้รับผลกระทบในวงกว้าง ทำให้อุณหภูมิลดลงประมาณ 4-6 องศาเซลเซียสไประยะหนึ่ง นับเป็นการซ้อมย่อยที่เห็นภาพได้ชัดเจนทีเดียวว่า หากเกิดสงครามใหญ่ และเกิดควัน หรือฝุ่นที่มากกว่านี้ หนาวนิวเคลียร์ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้

    อกจากภาวะหนาวนิวเคลียร์จะเกิดจากสงคราม หรือระเบิดนิวเคลียร์ตรงตามชื่อของมันแล้ว สถานการณ์แบบเดียวกับหนาวนิวเคลียร์ ยังอาจจะเกิดขึ้นได้จากสาเหตุอื่นอีก เช่น การพุ่งชนของอุกกาบาต หรือดาวเคราะห์น้อย ที่จะส่งผลให้เกิดฝุ่นฟุ้งขึ้นไปบนชั้นบรรยากาศเหมือนกัน และโลกเราก็เคยมี "ประสบการณ์" มาแล้ว จากกรณีที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ไปเมื่อ 65 ล้านปีก่อน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องกันแล้วว่า เกิดขึ้นเพราะอุกกาบาตขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนโลกอย่างจัง และเกิดฝุ่นจำนวนมหาศาลปกคลุมโลกให้มืดมิดไปนานปี

    นอกจากสิ่งที่จะมาเยือนจากนอกโลกแล้ว ภาวะในโลกเองก็อาจจะก่อให้เกิดหนาวนิวเคลียร์ได้เหมือนกัน นั่นคือ หากเกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ และพ่นฝุ่นผงออกมาจำนวนมาก เถ้าถ่านภูเขาไฟและกรดกำมะถันจากใต้พื้นโลก ก็จะไปปิดกั้นแสงแดดเหมือนกัน ก่อให้เกิดภาวะหนาวนิวเคลียร์ได้อีกเหมือนกัน และนี่ก็เป็นอีกกรณีที่โลกเราเคยมีประสบการณ์ซ้อมย่อยในเรื่องนี้เมื่อเกิดภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ที่การากาตั้วใน ค.ศ.1883 ซึ่งตอนนั้น บรรยากาศมืดมิดไปนาน และเกิดภาวะหนาวผิดปกติไปราวๆ 4 ปี

    อีกตัวอย่างหนึ่งคือในปี ค.ศ.1783 ซึ่งตอนนั้น แม้จะเป็นฤดูร้อน แต่อากาศในสหรัฐอเมริกาก็เกิดเย็นผิดปกติ จนเบนจามิน แฟลงคลิน นักวิทยาศาสตร์นามอุโฆษได้ออกมาอธิบายเรื่องนี้ว่าน่าจะเกิดจากฝุ่นภูเขาไฟลาคิ ที่ระเบิดในไอซ์แลนด์ เกิดทั้งฝุ่นและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์จำนวนมากขึ้นไปปกคลุมน่านฟ้า ซึ่งตอนนั้น พืชพรรณต่างๆพากันล้มตาย เช่นเดียวกับปศุสัตว์จำนวนมาก ก่อให้เกิดความอดอยากครั้งใหญ่ในไอซ์แลนด์ ประชากรมากถึง 1 ใน 4 ของประเทศล้มตายลง ในขณะที่ซีกโลกด้านบน เช่น ยุโรป อเมริกาเหนือ มีอุณหภูมิลดลงอย่างเห็นได้ชัดในรอบ 1 ปี

    หรือที่ใกล้เข้ามาอีก ก็ในปี ค.ศ.1991 เมื่อภูเขาไฟพินาตูโบในฟิลิปปินส์เกิดพิโรธ พ่นฝุ่นออกมาจำนวนมาก ส่งผลให้อุณหภูมิทั่วโลกก็ลดลงราวๆ 2-3 ปี รวมๆแล้ว มีเหตุผลหลายเรื่องที่อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์หนาวนิวเคลียร์ขึ้นมาได้ และหากเกิดขึ้นจริง ชีวิตมนุษย์ก็จะเป็น "ตัวประกัน" สำคัญของฤดูหนาวที่ยาวนานนี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์หลายท่านเชื่อว่า หากวาระสุดท้ายของโลกจะมาถึงจริงๆก็น่าจะเกิดเพราะเจ้าหนาวนิวเคลียร์นี่เองแหละ

    แล้วจะว่าไป ระยะหลังนี้ อาจจะเป็นเพราะความเป็นห่วงโลกอันเป็นที่รักของเรา ทำให้มีคนออกมาพูดหรือทำนายถึงจุดจบของโลกกันบ่อยๆนัยว่าเป็นการเตือนเพื่อให้ช่วยป้องกันไว้รวมถึงนวนิยายเรื่องหนึ่ง จากปลายปากกาของคอร์แม็ค แม็คคาร์ธี คือ เรื่อง "The Road" ซึ่งบรรยายถึงโลกอันมืดหม่น กับมนุษย์จำนวนน้อยนิดที่เหลืออยู่ หลังจากประชากรส่วนใหญ่ล้มตาย

    ซึ่งแม้ในนวนิยายจะไม่ได้บอกสาเหตุที่แน่ชัดในการล่มสลายของโลก แต่ก็พอจะอนุมานได้ว่า เกิดภาวะหนาวนิวเคลียร์ขึ้น ทำให้คนที่เหลืออยู่ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก และต้องใช้ความรักเป็นเครื่องเยียวยาให้อยู่รอดต่อไปได้ และนวนิยายเรื่องเอกนี้ก็ได้รับเลือกให้ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ สาขาวรรณกรรมในปี ค.ศ.2007 ในขณะที่ผู้สร้างภาพยนตร์ชื่อดังของฮอลลีวูดก็ไม่รอช้า รีบขอซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างเป็นหนังจอเงินทันที

    เป็นอีกหนึ่งในตัวอย่างอันดีที่จะทำให้เราๆท่านๆ ได้คิดพิจารณาว่า หนาวนิวเคลียร์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แต่ฤดูหนาวอันยะเยือกไปทั้งกายและใจนี้ อาจจะพอหาทางป้องกันได้ ด้วยความร่วมมือจากพลโลกทุกคน ให้สามัคคีและรักษาสิ่งแวดล้อม ก่อนที่ฤดูหนาวอันยาวนานจะมาเยือนโดยไม่รู้ตัว.

    ไทยรัฐออนไลน์ วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ.2552



     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2011
  19. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    ชักยังไง พักนี้มีสัญญาณว่ากล้วยแขก 2 สูตรนี่ จะถล่มกันหรือยังไง สื่อออกมาตีข่าวแบบนี้มันน่าสงสัย


    [​IMG]
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,710
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    "เตาผิงมือถือ"ตัวอย่างอุปกรณ์สร้างความอบอุ่นในฤดูหนาวนิวเคลียร์?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ความหนาวเย็นเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนตัวน้อย ๆ เมื่อโรงเรียนไม่มีระบบปรับอุณหภูมิในห้องให้อบอุ่น บรรดานักเรียนจึงต้องนำประดิษฐกรรม “เตาผิงมือถือ” มาช่วยสร้างความอบอุ่น

    เสียงเตือนจากพยากรณ์อากาศต้นปีกระต่าย บอกให้รู้ว่าความหนาวเหน็บเยี่ยมกรายแผ่นดินจีนแล้ว แม้บางพื้นที่จะเริงรื่นกับประติมากรรมน้ำแข็งอันตระการตา แต่ทว่าบางแห่งมีผู้คน ได้รับทุกข์ทรมานจากภัยหนาวอย่างสาหัส

    แถบชานเมืองชาผิง ในเขตอำเภอปกครองตนเอง ซินห่วงต้ง มณฑลหูหนาน เป็นอีกพื้นที่ที่ความหนาวเย็น เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้ของเด็กนักเรียนตัวน้อย ๆ เมื่อโรงเรียนไม่มีระบบปรับอุณหภูมิในห้องให้อบอุ่น บรรดานักเรียนจึงต้องนำประดิษฐกรรม “เตาผิงมือถือ” มาช่วยสร้างความอบอุ่น

    “เตาผิงมือถือ” ประยุกต์จากวัสดุที่หาได้ในท้องถิ่น อาทิ ถังน้ำอลูมีเนียม อ่างล้างหน้าโลหะ ฯ โดยสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก นักเรียนจะวางไว้ใต้เก้าอี้ เพื่อให้ความอบอุ่นในเวลาเรียน และอยู่ใกล้ ๆ เวลารับประทานอาหาร “เตาผิงมือถือ” ไล่ความเหน็บหนาวได้เป็นอย่างดี

    เวลาเรียน เด็กนักเรียนวางเตาผิงใต้เก้าอี้ ช่วยให้อุ่นจากล่างขึ้นบน เรียนหนังสือได้สบาย ๆ เย็นกลับบ้าน ก็หิ้ว “เตาผิงมือถือ” กลับไปใช้ต่อที่บ้านได้

    ที่มา http://www.manager.co.th/China/ViewNews
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1_display 1.jpg
      1_display 1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.2 KB
      เปิดดู:
      5,912
    • 1_display 2.jpg
      1_display 2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.3 KB
      เปิดดู:
      4,331
    • 1_display 4.jpg
      1_display 4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.8 KB
      เปิดดู:
      4,364
    • 1_display.jpg
      1_display.jpg
      ขนาดไฟล์:
      28.6 KB
      เปิดดู:
      48
    • 1_display 3.jpg
      1_display 3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      45.5 KB
      เปิดดู:
      50
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 มีนาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...