แปลกใจกับ บ้านบุญบวงสรวง ลาดพร้าว ซ. 31

เพื่อนชาวพลังจิตท่านใดเคยไป บ้านบุญบวงสรวง ลาดพร้าว ซ. 31 มาบ้างคะ

ตอนนี้ เรารู้สึกแปลกใจกับสถานที่แห่งนี้มาก เนื่องจากเรารู้สึกว่าดูเป็นพุทธพาณิชย์ มากๆ
ที่เราไปเนื่อจากสนใจได้ข่าวว่ามีจัดงานเกี่ยวกับพญานาค เราสนใจมากเลยไปดู แต่ไม่รู้สิ ความรู้สึกมันแปลกๆ ว่ามันไม่ใช่ มันดูพาณิชย์มากไป เลยต้องมาถามเพื่อนชาวพลังจิต ว่าท่านใดเคยไปมาบ้างและรู้สึกอย่างไร ช่วยไขข้อข้องใจให้ด้วยคะ

หากบ้านบุญบวงสรวง จัดพิธีถูกต้องถูกประการ ก็กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ ด้วย

 

เค้าไม่ได้เก็บค่าเข้าชมนี่ค่ะ ส่วนเพชรพญานาค หรือรูปปั้นที่ให้เช่าซื้อ ก็ไม่ได้บังคับว่าคนที่มาชมต้องซื้อ?? เราก็ไปมาแล้วก็เดินดูๆๆๆ แล้วก็กลับ

 

ความรู้สึกอาจบอกอะไร มากมายนะ

 

ผมว่าความรู้สึกคุณน่าจะถูกต้องครับ

 

แล้วแต่มุมมองของแต่ละคนครับ อย่าคิดมากครับ ถ้าเค้าทำไม่ดีเด๋วเค้าก็ได้รับผลกรรมนั้นไป

 

ต้องมีทั้งจริง ไม่จริงกันมั่งหล่ะน่า

 

นึกว่ารู้สึกแบบนี้อยู่คนเดียวซะอีก

 

อย่าละเลยสัญชาตญาณของตัวเอง

ฟังเสียงข้างในใจของท่าน

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตเดียวที่ปฏิเสธสัญชาตญาณของตัวเองด้วยคำว่า ไม่เป็นไรหรอกมั้ง คิดมากไปเอง

ทั้งๆที่สัตว์อื่นๆ จะวิ่งร้อยเมตรไปตั้งแต่วินาทีแรกแล้ว

 

ต้องลองเข้าไปดูบ้างแล้ว ^^

 

เค้าเป็นร้านค้า หรือว่าสถานธรรมล่ะ

 

เคยไปมาครั้งนึง จัดนิทรรศการ แสดงสิ่งต่าง ๆ ได้สวยงามดีครับ ของสวย ๆ งาม ๆ มีเยอะ ก้ไปฝึกเจริญสติกัน ใครทนต่อแรงโลภะในจิตใจได้มาก ก็เป็นกุศล เค้าไม่ได้ห้ามให้เราเดินชม ให้เราสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะนั่งปฏิบัติในนั้นก็ได้ ส่วนของซื้อของขายที่เค้าตั้งไว้บริการ เราเป็นเจ้าของเงิน หากเราไม่พอใจในของสิ่งนั้น หรือไม่พอใจที่จะซื้อของสิ่งนั้น เราก็ไม่ต้องซื้อครับ ง่าย ๆ ดีแล้ว ที่ยังมีผู้คิดจัดรวบรวมสถานที่แบบนี้ขึ้นมา จะได้เป็นประโยชน์ในการศึกษา และให้ผู้ที่ยังไม่เคยเคยโน่นนี่นั่น ไปสัมผัสด้วยตา ส่วนวัตุประสงค์อื่น จะแอบแฝง ไม่แอบแฝงอย่างไร เป็นเรื่องของเขา ไม่ใช่เรื่องของเรา...

 

ปล่อยวางความรู้สึกได้แล้ว

ขอบคุณคุณสิงหนวัติ และ เพื่อนๆทุกคนที่เข้ามาแชรความรู้สึกนะคะ อ่านความรู้สึกแชร์จากเพื่อนๆทุกท่านที่เม้นมาแล้ว
นาว่า ตอนนี้ นาปล่อยวางไม่คิดอะไรแล้วคะ ใครคิดดีทำดี ก็จะให้ผลดีกับคนนั้น ก็ถูกเนอะ ไปดูของสวยๆงามๆ ก็เพลินตาดี ไม่คิดมากดีกว่าเนอะ

 

แต่ก่อนนี้ ผมก็คล้าย ๆ คุณนา นะครับ คือเห็นอะไรไม่พอใจ ไม่ถูกใจ มักจะเอาเรื่องนั้น ๆ มาคิด อารมณ์แบบว่า อยากทำให้ถูกต้อง พอนาน ๆ เข้า เราก็จะเริ่มทราบถึงความเป็นไป ใครทำอะไรไว้ เดี๋ยวสิ่งเหล่านั้น เค้าจะประสบกับเค้าเอง ทำดีก็เป็นกุศล ทำชั่วก็เป็นอกุศล ดูแลจิตของเราไว้ดีกว่า อย่าให้ไปมัวหมองกับเรื่องของคนอื่นเลย

 

อย่าไปคิดมาก สิ่งใหนดีก็เก็บมา สิ่งใหนไม่เหมาะกับเราก็ละไว้

ต่างคนต่างคิด ต่างจิตต่างใจ คิดยังไงก็ไม่มีใครผิดหรอก

 

ขอบคุณคะ นาไม่คิดมาก ไม่สนใจแล้วคะ ตอนนี้ คิดแค่ว่า หากอยากไปดูนิทรรศการ รวมหลายๆอย่างก็จะไปดูไปชม แต่ จะไม่เก็บไม่ยึดติดอะไรแล้วคะ

 

เว็บ บ้านบุญบวงสรวงหายไป

จะติดต่อบ้านบุญบวงสรวงผ่านเว็บไม่รู้หายไปไหน

 

อะไรที่ทำให้รู้สึกไม่ดีก็ถอยออกมาครับ
ความเขื่อของคนเรามีหลายระดับ แต่ที่สำคัญคือเราต้องมีสติ คิดให้ละเอียด
เราก็จะไม่ตกเป็นเหยื่อของใครง่ายๆครับ

 

พุทธาธุรกิจครับ ธุรกิจที่เอาความเชื่อมาบังหน้า เอาชื่อพุทธมาแอบอ้างแต่ไร้ซึ่งประสบการณ์ คิดถึงเม็ดเงินสิครับมหาศาลขนาดไหน อันที่จรีงคุณท่านเกษมจองเผาแกก็ด่าถูกเหมือนกัน นี่แหละครับพุทธบ้านเรามันเลยมีแต่ตกต่ำลงเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เรามักเรียกคนตะวันตกว่าวัตถุนิยม แต่ฝรั้งตาน้ำข้าวเดี๋ยวนี้รู้แก่นแท้ของพุทธศาสนาดีกว่าคนบ้านเราส่วนใหญ่เสียอีก ขนาดพึ่งเข้าไปได้ไม่ถึงร้อยกว่าปี แค่เห็นคนไทยฟังเทศน์แล้วอัดเทปกับจดไหมครับ ฝรั้งทำนะครับ คือเค้าเห็นว่าเป็นของดีตอบโจทย์ความทุกข์เขาได้ เขาเลยอยากศึกษา อายเค้าไหมนั้น

 

**๕๕๕ มุขนี้มีอีกแล้ว ข้าเห็น ละวางละวาง แล้วมาบริจาคทรัพย์เถอะ อย่าไปติดว่าของๆเรา แทบจักหมดตัว กัน เสียทุกที ๕๕๕ ใช้ หลักคิด อย่างง่ายหนา ลูกหลานเอย

คิด วิเคราะห์ แยกแยะ(ห้ามเขียนเป็นตัวย่อหนา)

มิ เช่น นั้น เอ็งนั้นแหละ จักเป็นตัวทำลาย ศาสนจักร ทางอ้อม

 

ฝากเป็นแง่คิดนำครับ ว่า พระพุทธเจ้าประกาศศาสนาไว้เพื่อให้เราปฏิบัติ แล้วจะเห็นผล ไม่ได้ให้กราบไหว้ เพราะมันไม่ใช่ปฏิบัติบูชา การบูชาอื่นใด เป็นความสมัครใจของเราเอง จะอ้างเป็นพุทธก็คงไม่ถูกต้องนัก หลังพระองค์ปรินิพพาน แล้ว ตัวแทนคือคำสอนที่ให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ (ไม่ใช่ชอบที่จะปฏิบัติตามใจตัวแล้วทึกทักว่าใช่ นั้นไม่ถูกนัก) เมื่อเพียรธรรมอย่างถูกต้องก็จะเห็นเอง ดังพุทธดำรัสสุดท้ายที่ว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นตถาคต" พอจำได้นะครับ

ส่วนพุทธพาณิชย์ มันเป็นยุคสมัยนี้ที่เรามีไว้เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวนะครับ ส่วนเรื่องมูลค่าเป็นเรื่องของการตลาดไม่เกี่ยวกับพุทธศาสนาเลย แยกให้ถูก และอื่นใดหากเป็นพิธีกรรมนอกจากนี้แล้ว น่าจะเอาทางลัทธิพราหมณ์เข้ามาในชีวิตคนไทยซะมากกว่า เพียงแต่เราเข้าใจผิดกันไปเองว่า เป็นส่วนหนึ่งของพุทธ ซึ่งไม่ใช่ ดังนั้น หากเราแยกแยะได้ถูกต้องก็จะเข้าใจได้ไม่ยาก เพียงแต่เรายินดีที่จะทำตามหรือไม่คงไม่มีกติกาผิดอย่างใด ดังนั้น ศาสนาเราจะเสื่อมหรือไม่ คิดว่าไม่ใช่ของพูทธตัวเองหรอกครับ เป็นเพราะพุทธบริษัทที่มีหน้าที่อันประกอบด้วย ภิกษุ ภิกษณี(ปัจจุบันนี้ เถรวาทไม่มีแล้ว) อุบาสก อุบาสิกา นั่นแหละ เป็นผู้ที่ทำให้เสื่อมก็คือตัวผู้ดูแลนั่นแหละเสื่อม เพราะไม่ถือปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระวินัยทั้งในส่วนสมนะ และฆารวาส นั่นแหละครับ ตัวองค์พุทธ องค์ธรรมไม่มีเสื่อมอย่างแน่นอน เนืองเพราะเป็นธรรมชาติที่รอให้มนุษย์เข้าไปศึกษาด้วยปัญญา ค้นหาจนกว่าจะแจ่มแจ้งในธรรม
คิดว่าอธิบายพอสมควร ตามที่ตัวเองเข้าใจนะครับ