โลกร้อนสำแดงเดช จีนเหงื่อแตก-"จาการ์ตา"จม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 11 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    [​IMG] ผ่านพ้นการเปิดข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกมาได้หนึ่งสัปดาห์ ประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นหัวข้อถกเถียงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะกับจีน ชาติที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงที่สุดในโลก

    ปีที่ผ่านมา จีนเติบโตถึงร้อยละ 10.7 และคาดว่าในปีนี้การเติบโตจะดำเนินต่อไปในระดับที่ใกล้เคียงกัน

    การเติบโตดังกล่าวไม่เพียงนำความปลาบปลื้มมาเท่านั้น แต่ยังตามมาด้วยความวิตกกังวลด้วย

    เพราะในการผลิตภาคอุตสาหกรรม จีนจะต้องเผาผลาญพลังงานอีกมาก ซึ่งหมายถึงถ่านหินและพลังงานสกปรกอื่นๆ ที่จะปล่อยก๊าซที่ก่อภาวะเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศโลก

    ขณะที่จีนครองอันดับ 2 รองจากสหรัฐอเมริกา ชาติที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก

    และผลกระทบจากภาวะโลกร้อนเริ่มสำแดงให้จีนเห็นในสภาพการเปลี่ยนแปลงของอากาศในต้นปีนี้แล้ว



    เริ่มตั้งแต่กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงมีอากาศอุ่นที่สุดในช่วงฤดูหนาวในรอบร้อยปี

    น้ำแข็งในทะเลสาบละลาย จนทางการต้องประกาศห้ามการเล่นสเกตน้ำแข็งตามทะเลสาบ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรง

    นายกัว หู หัวหน้าศูนย์สังเกตสภาพอากาศเทศบาลกรุงปักกิ่ง กล่าวว่า ในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์นี้ ชาวจีนในกรุงปักกิ่งจะรู้สึกถึงอุณหภูมิที่สูงที่สุดในรอบ 167 ปี หลังจากเมื่อวันจันทร์ อุณหภูมิสูง 16 องศาเซลเซียส ซึ่งถือว่าอุ่นมากในฤดูหนาว
    <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    จากรายงานของไชน่าเดลี่ ต้นแม็กโนเลียเริ่มออกดอกแล้ว ทั้งที่ปกติ ดอกไม้จะผลิบานในเดือนเมษายน ช่วงฤดูใบไม้ผลิ

    ส่วนที่เจียงซู มณฑลทางฝั่งตะวันออกของจีน และซินเกียง มณฑลฝั่งตะวันตก ระยะทางห่างกัน 3,000 กิโลเมตร อุณหภูมิเฉลี่ยจากเดือนมกราคมถึงธันวาคมต่างสูงที่สุดในรอบ 56 ปี

    ที่มณฑลเฮย์หลงเจียง ทางตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิสูงสุดในรอบ 40 ปี และที่มณฑลส่านซี ประชากรอย่างน้อย 300,000 คน เริ่มขาดแคลนน้ำดื่ม ปริมาณน้ำฝนลดลงจากระดับเฉลี่ยถึงร้อยละ 90 ในเดือนมกราคม



    อย่างไรก็ตาม ในนาทีนี้ รัฐบาลจีนแจ้งว่าจะยังไม่มีแผนใดๆ ที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงานถ่านหินหรือพลังงานสกปรกอื่นๆ

    นางเจียง หยู โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า ชาติที่พัฒนาแล้วควรจะเป็นฝ่ายรับผิดชอบ หลังจากที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และอื่นๆ มานาน และในปริมาณมาก

    นายอัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐที่รณรงค์ต่อต้านภาวะโลกร้อน กล่าวว่า สิ่งที่จีนพูดนั้นไม่ผิด แต่จีนเองจะมีส่วนอย่างยิ่งต่อการลดภาวะโลกร้อน

    ด้านนายฉิน ต้าเหอ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรมอุตุนิยมวิทยาจีน กล่าวว่า จีนจะปรับปรุงการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซอื่นๆ ลงร้อยละ 20 ภายใน 5 ปีข้างหน้า <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>

    จากที่ขณะนี้พลังงานของจีนร้อยละ 70 มาจากการเผาถ่านหิน ในการผลิตที่เร่งตอบสนองความต้องการของประชาชน 1,300 ล้านคน

    ในปี 2548 จีนสร้างโรงงานพลังงานถ่านหินที่รัฐบาลอนุมัติถึง 117 แห่ง หรือคิดเป็นอัตราสร้างโรงงาน 1 แห่งใน 3 วัน

    ขณะที่จีนสั่งปิดโรงงานเผาถ่านหินที่ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์กว่า 5.4 ล้านตันไปแล้ว



    ไม่เพียงจีนเท่านั้นที่นักสิ่งแวดล้อมวิตกกังวลกับสถานการณ์แปรปรวนทางอากาศ

    อินโดนีเซีย ได้รับรายงานการศึกษาและพยากรณ์จากอีโว เดอ บัวร์ เจ้าหน้าที่ของอนุสัญญาว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของสหประชาชาติ (UNFCCC) ว่า ภาวะโลกร้อนจะทำให้เกาะของอินโดนีเซีย ซึ่งมีราว 18,000 เกาะ ส่วนใหญ่ไม่มีคนอาศัยอยู่ จะจมหายไปในทะเล 2,000 เกาะ ภายในปี 2573 เนื่องจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

    และในปี 2551 ที่จะถึงนี้ อินโดนีเซียยังจะต้องเผชิญภาวะขาดแคลนข้าว เพราะฝนไม่ตกตามฤดูกาล ทำให้ชาวนาปลูกข้าวไม่ได้

    หลังจากการเปิดข้อมูลดังกล่าวได้ไม่นาน กรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย ต้องเผชิญภาวะอุทกภัยครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 50 ราย

    พื้นที่ 75% ของเมืองหลวงจมอยู่ใต้บาดาล ประชาชน 500,000 คนในเมืองหลวงและจังหวัดใกล้เคียงต้องอพยพจากบ้านเรือน สร้างความเสียหายไปแล้วกว่า 16,233 ล้านบาท

    แม้ว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา น้ำจะเริ่มลดลง แต่ชาวอินโดนีเซียจะต้องฟื้นฟูบ้านเรือนที่ต้องใช้เวลาอีกนาน

    ขณะที่ไม่มีสัญญาณรับประกันว่า ในปีนี้อินโดนีเซียต้องเผชิญกับความแปรปรวนของอากาศอีกหรือไม่



    ด้านเวียดนาม ชาติที่มีเศรษฐกิจร้อนแรงรองจากจีน ได้รับคำเตือนจากภาวะโลกร้อนเช่นกัน

    เมื่อนายมาร์ก โลว์ค็อก ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพอากาศ กระทรวงพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษ กล่าวว่า เวียดนามจะเป็นอีกประเทศนอกเหนือไปจากบังกลาเทศ สำหรับชาติที่มีพื้นที่ต่ำที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

    เนื่องจากเวียดนามมีชายฝั่งทะเลเป็นแนวยาว 3,200 กิโลเมตร และเป็นพื้นที่ต่ำ ถ้าน้ำทะเลขึ้นสูง 1 เมตร เวียดนามจะสูญเสียพื้นที่ไปร้อยละ 12 และกลืนบ้านเรือนประชาชนกว่าร้อยละ 23 จากประชากร 84 ล้านคน

    ความแปรปรวนทางอากาศได้แสดงให้เห็นในปีที่แล้ว เมื่อเวียดนามเผชิญกับพายุไต้ฝุ่นกว่า 10 ลูก

    ขณะที่ภาวะโลกร้อนจะทำให้เกิดพายุไต้ฝุ่นถี่ขึ้นและแรงขึ้น

    คำเตือนนี้จึงไม่มีอะไรที่เกินจริง
     
  2. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,228
    ค่าพลัง:
    +10,593
    อ๋อ ข่าวอันนี้เองที่ตอนนั้นเห็นออกข่าวทีวีด้วย
     
  3. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,674
    ค่าพลัง:
    +51,948
    *** ข่าว จีนเหงื่อแตก ****

    หายจีน...ร้อนมาก....เหงื่อออกมาก
    ระวัง...เทือกเขาหิมาลัย
    น้ำแข็งจะละลายมาก
    น้ำจากเขา...จะไหลลงที่ต่ำ มากกว่าที่เคยจดบันทึกสถิติของมนุษย์ยุคนี้
    แม่น้ำโขง...น้ำจะมาก
    ระวัง...หายนะ ภัยทางน้ำ ที่รวดเร็ว พรวดเดียว กวาดไปเกือบครึ่งประเทศ
    เรือ ... เฮลิคอปเตอร์ เตรียมให้พร้อม
    หากคิดป้องกัน...ต้องเตรียม "ระเบิดสร้างทางน้ำโขง" ให้สะดวก...ที่เชียงแสน เชียงของ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     

แชร์หน้านี้

Loading...