คุยกับผีตัวที่ ๒๑ ท่านท้าวทศพักตร์พรหมพาเที่ยวพรหมโลก

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย JeTo2008, 12 สิงหาคม 2011.

  1. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    คุยกับผีตัวที่ ๒๑ ท่านท้าวทศพักตร์พรหมพาเที่ยวพรหมโลก

    เรื่องราวต่อไปนี้จะป็นเรื่องราวของการได้พบกับเทวดาในชั้นพรหม ก่อนที่จะเล่าเรื่องผู้เขียนขอฝากกำลังใจไปยัง ท่านนักปฏิบัติทั้งหลายที่สนใจปฏิบัติ ขออย่าได้ท้อแท้ในการปฏิบัติ ขอจงตั้งใจทำให้เต็มที่ในเวลาที่เข้าปฏิบัติ จงเป็นผู้เสียสละตัวเอง และเสียสละเวลาที่เหมือนจะมีค่าในโลกของตัวเอง แต่ถ้าเทียบกับความรู้ที่จะได้มาจากการปฏิบัติแล้ว เวลาที่ท่านคิดว่ามีค่าในโลกนั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับความรู้แจ้งเห็นจริงในจิต อย่ามัวแต่กล้ว ท้อแท้ หรือโทษตัวเอง แต่จงลงมือทำ ทำ มากบ้างน้อยบ้างอย่าไปกังวล ค่อยๆเก็บสะสม เวลายังเดินเป็นวินาที ที่เรารู้สึกว่าน้อยมาก แต่หลายวินาทีก็กลายเป็นนาที และหลายๆนาทีก็กลายเป็นชั่วโมงได้ กุศลจากการปฏิบัติ น้อยก็เป็นวินาที มากก็เป็นชั่วโมง เป็นวันขึ้นมาได้ แต่เพียงเสี้ยววินาทีที่ได้นั้นก็ทีคุณอนันต์มากเหลือคณานับ ผู้เขียนเคยแสดงความมากน้อยของบารมีที่เกิดขึ้นเป็นหลักคิด เป็นตัวอย่างของการเปรียบเทียบจากการทำความดีให้กับบรรดาที่สนใจประพฤติปฏิบัติ และที่ยังไม่อาจสละเวลามาปฏิบัติ ให้เห็นอานิสงส์ หรืออานุภาพ หรือประโยชน์ที่จะได้รับจากการปฏิบ้ติที่เราท่านมักเรียกกันว่าการเจริญสมาธิ การนั่งสมาธิ เอาไว้ แต่ก่อนอื่นต้องรู้จัก บุญกิริยาวัตถุ คือสิ่งที่กอปรแล้วทำแล้วเป็นบุญเป็นกุศลว่ามีอะไรบ้าง บุญกิริยาวัตถุ (อ่านว่า บุน-ยะ-กิ-ริ-ยา-วัด-ถุ) แปลว่า เหตุเป็นที่ตั้งแห่งการทำบุญ หมายถึงเหตุเกิดบุญ, วิธีการทำบุญ, วิธีที่เมื่อทำแล้วได้ชื่อว่าทำบุญและจะได้รับผลเป็นความสุข บุญกิริยาวัตถุกล่าวโดยพิสดาร มี ๑๐ ประการ คือ ๑.ทานมัย การให้ทาน ๒.ศีลมัย การักษาศีล ๓.ภาวนามัย การอบรมจิตใจ ๔.อปจายนมัย การอ่อนน้อมถ่อมตน ๕.เวยาวัจมัย การช่วยเหลือผู้อื่น ๖.ปัตติทานมัย การแผ่ส่วนบุญ ๗.ปัตตานุโมทนามัย การอนุโมทนาบุญ๘.ธัมมัสสวนมัย การฟังธรรม ๙.ธัมมเทสนามัย การแสดงธรรม ๑๐.ทิฏฐุชุกรรม การทำความเห็นให้ถูกต้อง,ดีงาม แต่ตอนนี้ผู้เขียนจะแสดงอานิสงส์โดยใช้บุญกิริยาวัตถุกล่าวโดยย่อมี ๓ ประการคือ ๑.ทานมัย การให้ทาน ๒.ศีลมัย การักษาศีล ๓.ภาวนามัย การอบรมจิตใจ ที่เรามักเรียกกันโดยทั่วไปว่า ทาน ศีล ภาวนา ผู้เขียนจะขอแสดงอานิสงส์เกี่ยวกับบุญทั้ง ๓ นี้ เจตนาเพียงเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ง่ายและชัดเจนขึ้น และยังอาจจะช่วยกระตุ้นการปฏิบิติในท่านผู้ปรารถนาบุญอันยิ่งขึ้นไปมีความเพียรมากขึ้นเท่านั้น. ผู้เขียนได้เปรียบไว้ดังนี้ ๑.บุญกิริยาที่เรียกว่า ทาน การทำบุญทำทาน ผู้เขียนเปรียบว่า เหมือนเราทุกคนมีเข่งคนละใบผูกติดหลัง การทำทานในแต่ละครั้งนั้นก็เหมือนการที่เรานั้นเก็บผลมะยมใส่ในเข่งที่อยู่ข้างหลังของตัวเอง เก็บไปเรื่อยๆกว่าจะเต็มก็ต้องใช้เวลา จะนานแค่ไหนก็อยู่ที่กำลังของแต่ละคน ๒.บุญกิริยาที่เรียกว่า ศีล การรักษาตนให้เป็นปกติ การรักษาศีล ผู้เขียนเปรียบว่า เหมือนเราทุกคนมีเข่งคนละใบผูกติดหลัง ในการรักษาศีล ก็เหมือนเราเก็บผลขนุนใส่ในเข่ง ท่านทั้งหลายคิดว่า ต้องใช้เวลาแค่ไหนในการเก็บจึงจะเต็มเข่ง ต่อไป๓.บุญกิริยาที่เรียกว่า ภาวนา การเจริญภาวนาหรือการเจริญสมาธิ การภาวนาทำให้เกิดสมาธิ สมาธิเป็นผลจากการภาวนา ผู้เขียนเปรียบว่า การภาวนาจนได้สมาธิ คือ จิตที่เป็นสมาธิจากการภาวนาตั้งอัปปนาสมาธิขึ้นไปนั้น แม้เพียงชั่วเวลาไม่นาน (ไม่กี่วินาที)ที่เป็นสมาธิจากภาวนาจริงๆ เปรียบเหมือนผู้เจริญได้สร้างเจดีย์ทองคำ ๙ ยอดเอาไว้ นั่นเป็นการแสดงอานิสงส์เพื่อให้เห็นชัดเจนมากขึ้นสำหรับนักปฏิบัติที่คาดหวังผลแต่ยังมัวย่อท้ออยู่ อาจจะมีหลายท่านสงสัยว่าไม่กี่วินาที ก็ได้อานิสงส์อย่างนี้มันยังไง มีผู้รู้ได้เปรียบเปรย เวลาของสมาธิแม้สั้นๆไว้ว่า ชั่วเวลาที่เท่ากับ นกกระพือปีก ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น สมาธิแม้เพียงเท่านั้นก็มีอานิสงส์มากมีอานุภาพมาก ลองคิดกันดูถ้าเรายิ่งหมั่นทำให้ได้มากขึ้นนานขึ้น มันจะเป็นอย่างไร มันก็มีผล เป็นสมาธิ เป็นปัญญา เป็นฌาณ เป็นญาณ ซึ่งมีค่ามากกว่าเจดีย์ทองคำ ๙ ยอดขึ้นไปอีกนะสิ รู้อย่างนี้แล้วอย่ามัวแต่รีรอ อ่อแต่ บุญกิริยาตัวอื่นต้องทำด้วยนะ เพราะบุญแต่ละตัวถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ทานก็ให้มีกินมีใช้ ศีลก็ให้ความสวยความงาม ภาวนาก็ให้ความฉลาดหลักแหลม บุญตัวอื่นก็ให้อานิสงส์แตกต่างกันไปครับ ทำให้ได้ทุกตัวก็สมบูรณ์เลย ได้ครบถ้วน อ้าวนี่นอกเรื่องไปซะไกลเชียวกลับมาที่เดิมดีกว่า เดี๋ยวจะไม่ได้เที่ยวพรหมโลก ต่อเลย ก็ขณะที่ผู้เขียนกำลังพิจารณาทางเข้าทางออกของสมาธิจิตอยู่เพลินๆนั้น ก็พลันได้ยินเสียงๆหนึ่งดังแว่วๆมาไกลๆจากเบื้องบนและเสียงนั้นค่อยใกล้เข้ามาๆ จนมาหยุดอยู่ ณ ที่หนึ่งเป็นระยะที่ไม่ห่างจากผู้เขียน แต่เป็นระยะพอสมควรแก่การสนทนากัน เสียงนั้นที่ดังมาแต่ไกลจนเข้ามาใกล้ได้กล่าวว่า “กำลังพิจารณาเรื่อง รูปพรหมและ อรูปพรหม อยู่หรือ อยากที่เข้าใจอย่างชัดเจนมากขึ้นหรือเปล่า ว่าพวกพรหมและพวกอรูปพรหมที่อยู่กันสูงๆนั้นเขาอยู่กันอย่างไร” ผู้เขียนได้ยินดังนั้นก็ถามออกไปว่า “ท่านคือผู้ใดกันที่กล่าวอย่างนี้ เราปฏิบัติอย่างตั้งใจ มีใจแน่วแน่เพราะต้องการให้เกิดความรู้ความเข้าใจ ที่ท่านกล่าวนั้นหมายความว่าอย่างไร” เสียงนั้นตอบมาว่า “ท่านจงดูเราเถิด เราคือท้าวทศพักตร์พรหมผู้เป็นใหญ่ในพรหมโลก” ผู้เขียนมองไปตามที่มาของเสียงนั้น รูปที่ปรากฏให้ผู้เขียนเห็นนั้นสว่างไสวเจิดจ้า รัศมีแห่งรูปกายนั้นแผ่ซ่านไป ประดุจสายฟ้าแลบ เป็นประกายแดงอมม่วง เปล่งออกเป็นวงกว้าง ผิวกายกายงดงามหมดจด ผ่องใส ประดับประดาไปด้วยสร้อยเพชร แลสังวาลย์ ทรงผ้านุ่งสีระยับเป็นประกาย มีปรากฏนั้นมี ๒ แขน แต่ที่เศียรนี่สิน่าสนใจ เศียรนั้นปรากฏมี ๑๐ หน้า เรียงกันขึ้นไปเป็นชั้นนับได้ ๓ ชั้น ชั้นที่ ๑ ปรากฏ ๔ หน้า ชั้นที่ ๒ ปรากฏ ๔ หน้า และชั้นที่ ๓ ปรากฏ อีก ๒ หน้า รวม ๑๐ หน้า แต่ละหน้าทรงชฎาด้านหน้าและทรงมงกุฎที่ยอด “ท่านว่าท่านคือท่านท้าวทศพักตร์พรหมหรือ หลายปีมาแล้วเราเคยรู้จักท่านท้าวมหาพรหม ผู้มีหน้า ๔ หน้า ซึ่งเป็นผู้มีรัศมีกายเป็นสีแดงสดสว่างไสว งดงามหาที่เปรียบไม่ได้ แต่เมื่อเทียบกับท่านแล้ว ท่านกลับมีความสว่างไสวกว่า” “ถูกแล้ว เราย่อมสว่างไสวกว่าอย่างแน่นอน ท่าวมหาพรหมนั้นอาศัยอยู่พรหมโลกหรือสวรรค์ชั้นที่ ๙ ซึ่งเรียกว่า ชั้นมหาพรหมา ส่วนเราอยู่ในพรหมโลกหรือสวรรค์ชั้นที่ ๑๒ และชั้นที่เราอยู่เรียกว่า ชั้นอาภัสสราพรหม แต่ก็ล้วนเป็นรูปพรหมด้วยกันทั้งนั้น ส่วนรูปกายทิพย์ที่ท่านเห็นว่าแตกต่างกันนั้นเกิดจากความต้องการที่แตกต่างกันของจิตพรหมแต่ละดวง ว่าจะบันดาลรูปของตนนั้นให้ปรากฏอย่างไร บ้างก็ ๑ หน้า ๒ หน้า ๓ หน้า ๔ หน้า ๕ หน้า หรือเหมือนเรา ๑๐ หน้า หรือมากกว่า ก็มี หรือไม่มีหน้าเลยก็มี ส่วนแขน ก็ ๒ , ๓ , ๔ , ไปจน ๘ หรือ ๑๐ หรือมากกว่าก็มี ส่วนกายบ้างก็มีกาย บ้างก็มีแต่เศียรคือมีแต่หัวก็มี หรือไม่มีรูปอย่างที่เห็น คือไม่มีหัว ไม่มีกาย ไม่มีหน้า ไม่มีแขนก็มี คือเป็นอัธยาศัยความต้องการจากพวกจิตพรหมทั้งสิ้น ที่เรามาปรากฏต่อหน้าท่านก็เพราะ ต้องการช่วยให้ท่านเข้าใจพวกพรหมมากยิ่งขึ้น และเป็นท่านในฐานะผู้รู้จึงเป็นหน้าที่ของเหล่าเทพพรหมทั้งหลายที่ต้องคอยให้ความรู้แก่ผู้รู้ให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง” “ท่านก็เลยจะพาเราไปยังพรหมโลกหรือ” ผู้เขียนถาม “ใช่แล้ว ถึงเวลาที่ท่านต้องได้รู้เห็นพรหมโลกด้วยตัวท่านเองอย่างชัดเจน เพื่อประโยชน์ในการถ่ายทอดความรู้อันเป็นสัจจะ คือความจริงที่เป็นไปในโลกทั้ง ๓ คือ มารโลก เทวโลก และพรหมโลก ท่านพร้อมจะไปหรือยัง” “ถ้าเป็นความต้องการของฟ้าดิน และเทพพรหมทั้งหลาย ที่ต้องการเปิดเผยแก่เรา และเห็นประโยชน์จากการที่เรารู้ ว่าจะช่วยสรรพชีวิตทั้งหลายในกาลต่อไปได้ เราก็คงต้องไป ขอท่านจงนำเราไปเถิด” แล้วผู้เขียนก็ไปกับท่านท้าวทศพักตร์พรหม สูงขึ้นไปเรื่อยๆ เคลื่อนผ่านเทวตาภูมิ แต่ละชั้นขึ้นไปจนเข้าเขตพรหมโลก จนมาถึงดินแดนอันเป็นที่อยู่ของท่านท้าวทศพักตร์พรหมคือพรหมโลกชั้นที่ ๖ หรือสวรรค์ชั้นที่ ๑๒ เรียกว่า อาภัสราพรหม “มาถึงแล้ว ที่นี่แหละ คือ อาภัสราพรหม” ท้าวเธอประกาศออกมา ผู้เขียนพยักหน้ารับคำ บรรยากาศโดยทั่วไปรอบๆตัวผู้เขียนนั้น มันเงียบสงัดมาก แทบจะไม่มีเสียงอะไรมากระทบโสตให้ได้ยินเลยแม้แต่น้อย “เงียบมาก” ผู้เขียนพูดออกมาเบาๆ “ท่านพูดเบาๆหน่อย ท่านพูดดังมาก” มีเสียงเตือนแว่วมาไกลๆ “ท่านท้าวทศพักตร์พรหม ท่านพูดกับกระผมหรือเมื่อครู่” “เปล่า ไม่ใช่เสียงเรา เป็นเสียงของพวกพรหมท่านอื่นที่มีอยู่มากมายเป็นจำนวนโกฏิ กำลังตั้งใจบำเพ็ญเพียรกันอยู่” “แต่กระผมพูดเบาๆเอง” “ที่นี่ เป็นแดนทิพย์ พรหมทั้งหลายล้วนแต่มี ทิพยโสต(หูทิพย์)ทั้งสิ้น เสียงที่คิดในจิตเบาๆพวกเขายังได้ยิน นับประสาอะไรก็เสียงที่เปล่งออกมาเบาๆมันจึงดังมากสำหรับพวกเขา เอาเป็นว่าท่านดูบรรยากาศโดยรอบไปอย่างเงียบๆแล้วกัน ถ้าสงสัยจริงค่อยถามในใจแล้วเราจะตอบท่านเอง” ผู้เขียนรับคำและขอเดินไปชมทั่วบริเวณเท่าที่จะเข้าไปถึงได้ โดยมีท่านท้าวทศพักตร์พรหมตามไปด้วยห่างๆ งานนี้มีแต่ความเงียบ เงียบจริงๆก็คงต้องเป็นการบรรยายสิ่งที่ได้เห็น บรรยากาศส่วนใหญ่เป็นธรรมชาติ มีต้นไม้ ภูเขา โขดหิน ลำธาร น้ำตก ไม่มีสิงสาราสัตว์ใดๆเลย หรือแม้แต่พรหมทั้งหลายที่ท่านท้าวทศพักตร์พรหมบอกว่ามีอยู่เป็นจำนวนมากก็ไม่เห็นเลยแม้แต่ท่านเดียว “พวกเขาอยู่ตรงไหนกันหนอ”ผู้เขียนตั้งคำถามในใจด้วยความสงสัย “เราอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่นี่ เราอยู่ที่นี่ๆๆๆ...ฯ” เสียงที่ได้ยินนี้มาจากทุกทิศทุกทางทั้งใกล้ตัวและไกลตัว โดยรอบของผู้เขียน ผู้เขียนจึงถามในใจขึ้นอีกว่า “ที่ไหนกันแน่ มันเยอะแยะไปหมด ขอท่านใดก็ได้ช่วยอธิบายทีว่ามันคืออะไร” “ก็เป็นอย่างที่ได้ยินนั่นแหละ พวกเรามีอยู่กันอย่างมากมายในทุกอณูของทุกสรรพสิ่งที่ท่านเห็น ในขณะที่ท่านคิดเราต่างก็ได้ยิน ในขณะที่ท่านถามเราต่างก็ตอบคำถามมันจึงมากมายอย่างนี้เอง” เสียงนั้นตอบ “แล้วท่านที่ตอบเราเป็นใคร” “ก็เราเองท้าวทศพักตร์พรหมที่เดินอยู่กับท่านนี่แหละ” “ท่านก็ได้ยินความคิดกระผมด้วยหรือ” ผู้เขียนถาม “ก็บอกแล้วทิพยโสตเป็นสิ่งที่พรหมทั้งหลายมีเป็นสมบัติของตน”ท้าวทศพักตร์พรหมตอบผู้เขียน “แล้วทำไมกระผมถึงไม่เห็นเหล่าพรหมทั้งหลายที่มีอยู่อย่างมากมายเลยแม้แต่ท่านเดียว นอกจากท่าน” [/COLOR]“นั่นเพราะเราปรารถนาให้ท่านเห็น แต่พวกพรหมทั้งหลายไม่ได้ปรารถนาให้ท่านเห็น” “แล้วถ้ากระผมอยากเห็น ท่านเหล่านั้นจะให้กระผมเห็นหรือเปล่า” ผู้เขียนถามในใจต่อ “ท่านก็ลองขอให้ท่านเหล่านั้นปรากฏให้เห็นสิจะได้รู้ ว่าเป็นอย่างไร” ท่านท้าวทศพักตร์แนะนำ ผู้เขียนจึงตั้งจิต และกล่าวในใจว่า “พรหมผู้สูงส่งเหล่าใดก็ดีที่สถิตย์อยู่ทั่วบริเวณนี้ปรารถนาจะให้เราได้เห็นได้รู้ความจริง ท่านจงเมตตาปรากฏให้เรารู้ให้เราเห็น แม้ท่านใดไม่ปรารถนาให้เห็นก็เป็นแต่เพียงนิมิตให้รู้ว่าท่านอยู่ ณ ที่นั้น เพื่อยังประโยชน์แก่เราผู้ยังแสวงหาความจริงอันประเสริฐ” สิ้นคำอธิษฐานก็ปรากฏรูปแห่งพรหมทั้งหลาย มากมายค่อยผุดขึ้นแลหายไปสลับกันไปทั่วทั้งบริเวณมากมายสุดคณานับ แม้สุดลูกหูลูกตา ก็ปรากฏ ประดุจเลื่อมสลับลายระยิบระยับไปทั่ว ส่วนพวกที่ไม่ปรารถนาให้เห็นรูปก็ปรากฏเพียงนิมิต ตามตำแหน่งอากาศ แก่งหิน ก้อนหิน ในน้ำลำธาร ตามต้นไม้ รูปร่างแห่งพรหมทั้งหลายนั้นแตกต่างกันไปมีมากมาย จนไม่อาจจะสรุปได้ว่าแท้จริงแล้ว พรหมมีรูปร่างอย่างไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆทั้งหมดนั้นเป็นรูปพรหมทั้งสิ้น แต่ถ้าจะให้ผู้เขียนบรรยายรูปแห่งพรหม ผู้เขียนคงจนปัญญา ที่จะเขียนเพราะไม่รู้ว่ามีรูปลักษณ์เฉพาะตนแตกต่างไปมากมายเพียงใด แต่ที่แน่ๆความเชื่อในพระพรหมองค์เดียวหรือมีองค์เดียวคือท้าวมหาพรหมนั้นไม่ใช่แน่นอน และความเชื่อที่ว่าพระพรหมสร้างโลกก็ไม่ใช่ เพราะพรหมส่วนใหญ่คือผู้บำเพ็ญเพื่อหมดกิเลส คงไม่ปรารถนาสร้างโลกเป็นแน่แท้ “ต้องขอขอบคุณในความเมตตาและขออภัยในท่านทั้งหลาย ที่กระผมมาอาจเป็นการรบกวนการบำเพ็ญของท่านทั้งหลาย โปรดอโหสิแก่กระผมผู้ยังเป็นมนุษย์ต่ำต้อยคนนี้ด้วยเถิด” “อย่ากล่าวอย่างนั้น มนุษย์มิได้ต่ำต้อย พวกเราทั้งหมดล้วนต้องมาจากความเป็นมนุษย์ทั้งสิ้น ต้องเป็นมนุษย์ที่บำเพ็ญเพียรจนได้ฌาน เมื่อสิ้นใจก็จะมาอุบัติในพรหมโลกตามแต่กำลังของฌานที่บำเพ็ญได้ ท่านเองก็เฉกเช่นกันมีพรหมโลกเป็นที่หวังได้หากปรารถนา จงอย่าดูถูกตัวเองเลย” ผู้เขียนรับคำ “อีกอย่างเมื่อท่านท้าวทศพักตร์พรหมเลือกที่นำพาท่านมาที่นี่นั่นย่อมแสดงให้เห็นแล้วว่า ท่านมีคุณสมบัติที่คู่ควรกับพรหมโลกในชั้นนี้ จึงได้นำท่านมารู้จัก ความเป็นอยู่และสภาพทั่วไปแห่งพรหมโลกชั้นนี้ แต่มันยังไม่สิ้นสุดที่นี่เป็นแน่หากท่านยังปรารถนาที่จะไปให้สูงกว่านี้ เพราะท่านยังมีโอกาสบำเพ็ญต่อไปอีกจนกว่าจะหมดอายุขัยในโลกมนุษย์ ถึงเวลานั้นก็จะรู้เองว่าจะไปสถิต ณ ที่ใด ซึ่งอาจหมายความว่าที่สุดแห่งการบำเพ็ญในชาตินี้ของท่านอาจจะไปได้สูงกว่าพวกเราก็ได้ แล้วอย่างนี้เรียกว่าท่านเป็นผู้ต่ำต้อยได้อย่างไร” พระพรหมที่มีเฉพาะใบหน้าสถิตที่ก้อนหินขนาดใหญ่กล่าวกับผู้เขียน มันทำให้ผู้เขียนรู้สึกซาบซ่านไปทั่วทั้งตัว มันเหมือนกับว่ามีกำลังใจที่จะบำเพ็ญต่อไป แต่ตรงนี้ถ้าจะอธิบายให้ผู้อ่านได้เห็นภาพก็คือ ก้อนหินพูดได้นั่นเอง แต่นั่นคือพรหมที่มีรูปเป็นก้อนหิน “พอเข้าใจรูปพรหมหรือยัง” ท่านท้าวทศพักตร์พรหมถามผู้เขียน “มันเกินคำบรรยาย และเกินความคาดหมายเป็นอย่างมาก มันไม่ใช่อย่างที่คิด ถึงจะคิดได้ก็คงไม่ได้อย่างนี้ นับเป็นความรู้อีกอย่างที่ยอดเยี่ยมมาก ต้องขอขอบคุณท่านท้าวทศพักตร์พรหมมาก ที่ได้นำพามาให้รู้เรื่องราวแห่งพรหมโลกถึงแม้จะเป็นแค่ ๑ ใน ๒๐ ชั้นพรหมโลกก็ตาม” “แล้วยังอยากจะรู้อะไรอีก ถามได้” ท่านท้าวทศพักตร์พรหมถามขึ้น “ถ้ากระผมจักไปต่อในชั้นแห่งพรหมโลกที่สูงขึ้นผมจะไปได้หรือเปล่า ไหนๆก็มาถึงนี่แล้ว” ผู้เขียนถาม “นั่นไง ว่าแล้ว ว่าท่านต้องถามเรื่องไปต่อไม่หยุดที่พรหมโลกชั้นนี้แน่นอน ได้สิด้วยกำลังของท่าน ท่านสามารถไปได้ทั้งพรหมชั้นอรูปพรหม อาจจะต่อไปยังโลกธาตุอื่นได้ด้วยก็ได้ อันนี้ท่านต้องลองดู” ท่านท้าวทศพักตร์พรหมตอบ “งั้นถ้ากระผมจะไปต่อท่านคงไม่ว่า” “ไม่ มันเป็นฐานะของท่านอยู่แล้ว” “งั้นกระผมคงต้องขอขอบคุณท่านท้าวทศพักตร์พรหมและเหล่าพระพรหมทั้งหลาย และขอลาไปยังดินแดนแห่งพรหมที่สูงขึ้นไปกว่านี้เพื่อเป็นประสบการณ์และความรู้ กระผมขอลาตรงนี้เลย” “ไปเถอะ ขอท่านจงเดินทางโดยสวัสดิภาพ และขอความเป็นที่สุดจงมีแด่ท่าน” ท่านท้าวทศพักตร์พรหมและเหล่าพระพรหมทั้งหลายอำนวยพร เมื่อผู้เขียนได้ลาจากท่านท้าวมหาพรหมแล้วก็ตั้งจิตเดินทางไปยังพรหมโลกที่สูงขึ้นไป ส่วนเรื่องราวที่ผู้เขียนได้ไปต่อนั้นจะเป็นอย่างไร ผู้เขียนจะเขียนเล่าให้ฟังใน คุยกับผีตัวต่อๆไปแล้วกันสำหรับ เรื่องนี้ขอจบเพียงเท่านี้
     
  2. Sunthorn2493

    Sunthorn2493 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    124
    ค่าพลัง:
    +181
    นานเหลือเกินที่เฝ้ารออ่านเรื่องของท่าน เจโต ..
    ที่ติดตามอ่านเรื่องราวต่างๆ ที่นำมาลงก็มีของ 2 ท่าน มีท่าน เจโต คนหนึ่ง และอีกท่านหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ไม่เห็นมาโพสลงเลย หรืออาจจะเปลี่ยนชื่อแล้วกระมัง..(ท่านได้ไปถึงชั้น อกนิฏฐพรหม หรือเปล่าครับ ) รออ่านเรื่องต่อไปของท่าน เจโต อยู่นะครับ..
    ขอบคุณมากครับ..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2011
  3. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    อ่านบทความย้อนหลังทั้งหมดของเจโตทั้งหมดที่ PaLungJit.com - ผลการค้นหา
    ขออนุโมทนากับผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านที่ร่วมปูพื้นแกรนิตภายในและโดยรอบพระอุโบสถ ตอนนี้ก็ใกล้จะแล้วเสร็จ จึงเอารูปถ่ายมาให้ดูกัน และแถมด้วยบรรยากาศงานบุญแจกทานข้าวสารที่ อาศรม แห่งธรรม ในวันที่ ๒๙/๐๗/๕๔ ที่ผ่านมา มาให้ดูกัน
    สำหรับงานบุญแจกทานข้าวสารครั้งต่อไปครั้งที่ ๑๕ จะจัดขึ้นในวันที่ ๒๗/๐๘/๕๔ และจัดอบรมกรรมฐานในวันที่ ๒๖-๒๘/๐๘/๕๔ สนใจร่วมกิจกรรม เชิญที่ อาศรม แห่งธรรม ชลบุรี
    ส่วนงานบุญวัดสุวรรณณารัญญิกกาวาส ก็ขอเชิญชวนท่านผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกันถวายปัจจัยสมทบทุนซื้อทองคำเปลว ๑๐๐% เพื่อปิดทององค์พระประธาน และพระอัครสาวก ในพระอุโบสถ รายละเอียด โทร.๐๘๖-๕๔๒๒๔๘๖ เจโต หรือ โทร.๐๘๑-๖๕๐๗๓๙๗ พระอาจารย์มหาศุภจิตต์ ธฺมมาโภ เจ้าอาวาส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 100_1122.JPG
      100_1122.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      214
    • 100_1124.JPG
      100_1124.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      246
    • 100_1133.JPG
      100_1133.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.8 MB
      เปิดดู:
      189
    • 100_1125.JPG
      100_1125.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.7 MB
      เปิดดู:
      157
    • 100_1136.JPG
      100_1136.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.4 MB
      เปิดดู:
      235
    • 100_1501.JPG
      100_1501.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.8 MB
      เปิดดู:
      111
    • 100_1506.JPG
      100_1506.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.2 MB
      เปิดดู:
      150
    • สาธุ.jpg
      สาธุ.jpg
      ขนาดไฟล์:
      233.3 KB
      เปิดดู:
      129
    • 100_1522.JPG
      100_1522.JPG
      ขนาดไฟล์:
      2.3 MB
      เปิดดู:
      132
  4. แม่หมูอ้วน

    แม่หมูอ้วน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +6,061
    สาธุ อนุโมทามิ พื้นหินแกรนิตงามมากเลยค่ะ คงได้ใช้ในการทำกิจของสงฆ์ได้แล้วนะคะ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    อนุโมทนาสาธุครับ..ขอบคุณคำแนะำนำดีๆด้วยนะครับ..
    ทำให้รู้สึกกระจ่างในใจได้หลายอย่าง..และผมก็จะรอ.
    ติดตามผลงานเรื่องต่อไปด้วยนะครับ..
    เกือบลืมขอบคุณเรื่อง แนวทางกรรมฐานที่แนะนำไว้สมัยนานมาแล้วนะครับ..
    ขอบคุณครับ..
     
  6. nongyao

    nongyao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    321
    ค่าพลัง:
    +346
    คิดว่าจะได้ร่วมทำบุญในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ และได้จดเบอร์โทรไว้ในครั้งที่แล้ว แต่ครั้งที่แล้วลงเบอร์โทรไว้เป็น ๐๘๖-๕๔๒๒๔๘๔ จึงทำให้ไม่แน่ใจว่า เบอร์ไหนเป็นเบอร์ที่ไม่ถูกต้อง ขอความกรุณา บอกอีกครั้ง
     
  7. umatevie

    umatevie เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2007
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +410
    ขอบคุณสำหรับเรื่อง-ท่านท้าวทศพักตร์พรหม- น่าอ่านเช่นเคย. รวมทั้งการใช้เวลาในทางโลก ขอบคุณค่ะ ...ท่านเจโต , ดิฉันได้โทรไปถามท่านเจ้าอาวาสเกี่ยวกับเงินที่ส่งไป ปรากฎว่าท่านเจ้าอาวาสยังไม่ได้รับ จดหมายและเอกสารที่จะแจ้งไปรับเงินเลยค่ะ สงสัยตอนส่ง ไม่ได้ลง ต.วัดสุวรรณ ไม่ทราบว่าแถวชลบุรี มีชื่อ "วัดสุวรรณารัญญิกาวาส"หลายแห่งหรือเปล่า? ขอโทษด้วยจ้า ขอความกรุณาช่วยติดตามด้วยค่ะ... และคิดว่าเงินที่ส่งไปแล้ว(60ยูโร)ขอเป็นปัจัยในการซื้อทองคำเปลว100%สำหรับองค์พระประธานและองค์พระอัครสาวกนะค่ะ....(ลงด้วยในเวปคุยกับพระเทวทัต ลำดับ39.) และรูปปูพื้นแกรนิตสวยงามดูทุกคนมีความสุข อิอิ.. ขออุโมทนาบุญด้วยค่ะ .คราวหน้าจะทำบุญอีกค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 สิงหาคม 2011
  8. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    มีย่อหน้า ก็จะดีมากครับ จะอ่านง่ายขึ้นเยอะ
     
  9. infinityboon

    infinityboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +188
    ขอบคุณครับ สำหรับเรื่องราวดีๆ
     
  10. PITINATTH73

    PITINATTH73 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    2,991
    ค่าพลัง:
    +9,624
    ผมขออนุโมทนาสาธุ ในบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมาทั้งหมดทั้งปวงด้วยครับ
     
  11. ประเสริฐ2522

    ประเสริฐ2522 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    658
    ค่าพลัง:
    +409
    ขอบคุณสำหรับ เนื้อหาดีๆครับ อ่านแล้วมีกำลังใจที่จะทำต่อไปครับ
     
  12. Kasmos

    Kasmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +55
    อนุโมทนา สาธุครับ ติดตามผลงานมาโดยตลอด ทุกเรื่องได้อรรถรสและสอดแทรกข้อธรรม ดีมาก อยากให้มีรวมเล่มไว้ด้วยครับ
     
  13. Vatairat

    Vatairat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2010
    โพสต์:
    1,676
    ค่าพลัง:
    +2,294
    ขอบคุณสำหรับบทความค่ะคุณเจโต
     
  14. ธรรมมนุษย์

    ธรรมมนุษย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +1,908
    สนุกมากครับ
    ติดตามอ่านทุกตอนเลยครับ
     
  15. nichaojung

    nichaojung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    392
    ค่าพลัง:
    +8,247
    หลังจากผีตัวที่ ยี่สิบ ก็เฝ้ารอคุณเจโตมา เล่าต่อ ขอบคุณมากๆครับ คุ้มค่าที่รอคอย
     
  16. teeratoy2002

    teeratoy2002 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +417


    แต่อ่านจากพระไตรปิฏก ผู้เป็นใหญ่ในพรหมโลกไม่ใช่ท่านท้าวผกาพรหมหรือครับ
     
  17. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +1,174
    อนุโมทนาที่เล่าสู่กันฟัง เขียนซะยาวเลยนะครับ
    เมื่อไรจะรวบรวมเป็นหนังสือ บ้างล่ะครับเอาไว้แจกคนไปทำบุญ
    หรือให้ผู้สนใจนำไปแจกวัดตัวเองให้คนทั่วไป เข้าใจโลกแห่งวิญญาณมากขึ้น

    ตกลงแล้วคุณ jeto2008 เป็นฤาษี เหรอครับ
     
  18. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,666
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,210
    น่าอ่านมาก ๆ ครับ
    ชอบ ๆ เรื่องแนว ๆ นี้
     
  19. naron

    naron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2,515
    ค่าพลัง:
    +3,573
    อนุโมทนาสาธูบุญกับท่านเจโตและทุกๆท่านทุกๆกองบุญกองกุศลครับผม สาธุ
     
  20. สมพิศเปรม

    สมพิศเปรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +361
    ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน อนุโมทนาสาธุค่ะ อยากไปอย่างท่านบ้างจัง แต่ปัญญามีน้อยนิด ซ้ำร้ายขี้เกียจอีกต่างหาก
     

แชร์หน้านี้

Loading...