ธรรมใดเป็นปฏิเวธ ธรรมใดเป็นสัญญา

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 12 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    นักปฏิบัติทั้งหลาย พระศาสดาประทานมหาสติปัฎฐานข้อที่ 4 กล่าวถึงธัมมนุปัสสนา เอาไว้ ให้ สาวกได้สำรวจตนเอง การเจริญสติ ไม่มีอะไรพ้นไปจากดูตนเอง เมื่อสำรวจตนเอง ตั้งแต่ กายานุปัสสนา เวทนานุปัสนา จิตตานุปัสสนา เมื่อ เราระลึกรู้สิ่งที่ปรากฎกับตัวเรา 3 เรื่องนี้อย่างถูกต้องแล้ว จะปรากฎปัญญามองเห็น สัจธรรมด้วยตนเอง สัจธรรมนั้นแหละ จะปรากฎขึ้น โดยที่เราไม่ต้องไปจดไปจำมา เปรียบเหมือน การมองเห็นวัตถุสิ่งของทั่วไป แม้ไม่ต้องจำ เมื่อเห็นวัตถุนั้นก็คือ เห็น
    ดังนั้น เราจะเห็นข้อธรรม ที่เกิดขึ้นเช่น เห็นนิวรณ์ที่มีอยู่ในตน เห็นขันธ์ต่างๆแปรปรวน เห็นความไม่แน่ไม่นอน ชัดเจนในจิตในใจตน นั่นแหละ เราเห็นเองรู้เอง เป็นปัจจัตตัง โดยไม่ต้องไปจดไปจำว่า นั่นญาณนั้นญาณนี้เรียกชื่อว่าอะไร อุปมาว่า เวลาเราดูหนังเศร้า เสียใจ มันเกิดกับตัวเรา ไม่ต้องไปแยกมันว่าอารมณ์นั้นเรียกว่าอะไร ความรู้สึกใดมาก่อนมาหลัง มันเกิดติดๆกันไปนั่นแหละ ทีนี้ ธรรมก็เช่นเดียวกัน ญาณก็เช่นเดียวกัน เกิดติดกันไปให้เรารับรู้ที่จิตใจ นี่เรียกว่า ปฏิเวธธรรม

    เรามาดูว่า แล้ว หากว่าเราไม่เห็นเอง เราก็จดจำเอา ว่า ธรรมนั้นมีกี่หมวดกี่หมู่ โพชฌงค์จะต้องมี เท่าไร ธัมมานุปัสสนามีเท่าไร ญาณมีเท่าไร ครั้นพอไปปฏิบัติเรายังแยกองค์ธรรมไม่ออก เราก็คิดไปว่าไม่เห็นตรงเลย แท้จริงแล้วเราไม่สังเกตุตน แต่ไปสังเกตุอาการแล้วเทียบเอา บางคนพอเข้าใจแล้ว นึกว่าตนเห็น ซึ่งคนละอย่าง เหมือนคนบอกว่าช้างตัวใหญ่ คนเข้าใจได้ แต่ไม่เคยเห็น พอไปเจออะไรใหญ่ๆก็บอกว่าช้างไปหมด
    คนที่หลงสัญญา จึงเข้าใจว่าตนรู้ธรรม เมื่อหลงไปแล้ว เวลาเอามาสอนคนอื่นก็เป็นคนที่ไม่เคยเห็นธรรม แต่นึกเอาจำเอาในสิ่งที่ตนเรียนมา เราจึงมักจะเห็นว่า ข้อธรรมของคนหลงสัญญา จึงมักจะเป็นเรื่องลอยๆ เป็นเรื่องที่ ไม่ใช่เป็นไปการฝึกคน แต่เป็นเรื่องบอกเล่า

    อย่างไรก็ตาม ธรรมที่มาจากการปฏิบัติ ก็อาจจะเป็นการปฏิบัติที่ผิดได้ การฟังแต่ปฏิเวธธรรมอย่างเดียว เราจึงไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ถูกหรือไม่ พระศาสดาได้ให้หลักการว่า พระธรรมและพระวินัยที่เราตรัสไว้ดีแล้วจะเป็นศาสดาของพวกเธอแทนเราตถาคต นั่นแหละ เวลาเราปฏิบัติไป อย่างมีสติ เราก็คอยเทียบเคียงกับ พระสูตร และพระวินัย ว่าเรามีใจที่ตรง ศีล สมาธิ ปัญญา ขึ้นมากน้อยเพียงใด อย่างไม่เข้าข้างตนเอง แต่ให้มองอย่างจับผิดตน ก็จะเป็นการจับผิดกิเลสในตน
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    ปัญญาจากปฏิเวธ ลึกซึ้งกว่าปัญญาแบบสัญญาหลายขุม....

    ปัญญาจากปฏิเวธมีจบ ปัญญาแบบสัญญาไม่มีจบ....
     
  3. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    เวลาหลวงปู่มั่นท่านสอนศิษย์ หลวงตามหาบัวท่านสอนศิษย์ เห็นไหมว่าท่านไม่มาสอนว่า โพชฌงค์มีเท่านั้นเท่านี้ื หรือ ญาณมีเท่านั้นเท่านี้ แม้ใครเป็นถึงมหา ท่านก็ให้ กวาดพื้น ไม่ขี้เกียจ ทำวัตร ดัดนิสัย ละเอียดทุกอย่าง ดังปรากฎในประวัติหลวงตามหาบัว
    เพราะตัวพื้นฐานนี่แหละเป็นตัวเริ่ม นิสัยสันดานพื้นฐานยังเอาดีไม่ได้ จะไปเอาธรรมขั้นสูงอย่างไร
    สำหรับพวกอวดดี สอนไม่ได้ฝึกไม่ได้ ท่านไม่เอาไว้ซักคน ท่านรู้ว่าพวกนี้เอามาทำลายหมู่คณะให้วุ่นวาย
    พระอาจารย์ท่านก้าวไปจนถึงรู้เหตุรู้ปัจจัยพ้นโลกแล้ว เช่น รู้กิริยาจิตของคน รู้ว่าต้องดัดตรงไหน รู้ว่ากรรมที่ติดข้องอยู่กับคนนั้นคนนี้เป็นอย่างไร แต่คนที่ยังไม่พ้นโลกมันไม่รู้ไม่เห็นเท่าท่านหรอก อากัปกิริยา อาการที่แสดงออกแบบนั้นแบบนี้มีเหตุปัจจัยอะไร ท่านรู้หมด รู้ไปจนถึงว่าจะมีเวรมีกรรมอย่างไรต่อไป
    ดังนั้น ใครยังไปไม่ถึงไหน ก็รีบไปหาครูบาอาจารย์ซะ ท่านจะสอนจะสั่งเราได้
     
  4. huayhik

    huayhik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2010
    โพสต์:
    181
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,131

    สาธุ..โมทนาในธรรมทั้งปวง
     
  5. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    ลุงขันธ์ให้เหตุผลดีครับ "จะหายหลง..!"
     
  6. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ธรรมะ ที่ดี ควรเป็น ธรรมะที่เปิดกว้าง ไม่มีกีดกัน เพศ วรรณะ อายุ หรือแม้แต่
    ความรู้ ความด้อย ย่อมไม่ใช่ข้ออ้างสำหรับผู้มีปัญญา

    ธรรมะที่ลามก จะมีแต่การพูดจากแก่งแย่ง แบ่งฝ่าย เอา สัญญา ข้อความ คำพูด
    ขึ้นเป็นประเด็นชี้วัด แทนที่จะ ไปรู้ชัดที่กันที่กริยาเป็นใหญ่ เอาจิตเป็นใหญ่ เอาธรรม
    เป็นใหญ่เป็นประธาน ไม่ใช่ มานั่ง ฟาดฟันกีดกันเพียงเพราะ ข้อความ

    หาก ธรรมะ เหมาะสมเฉพาะกับ พวกขุดรู อยู่แต่ในถ้ำ พูดจาภาษาถ้ำ ภาษาป่า
    ภาษาเถื่อน ก็ให้ไป ขุดถ้ำแล้วอยู่เสียแต่ลำพัง อย่าได้มาพูดจาก กลบภาษา
    ที่มีวัฒนธรรม หรือ พุทธวัจนะ เพื่อกลบสัทธรรมให้หาย !!

    อย่าได้ มาทำปากสว่าง ขยันสร้างสิ่งที่บดบังสัทธรรม เพียงเพราะต้องการ
    ยกตน อย่างคนลำพอง อย่างพวกลามก

    สำหรับพวกอวดดี หากยังทำให้เขาบิณฑบาทไม่ได้ ไม่ศรัทธา ก็จง ยืนตายตรง
    นั้นซะ อย่าได้อ้างว่าเป็น สาวกพระพุทธองค์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  7. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    ธรรมไม่ใช่ ประชาธิปไตย จะได้เปิดให้กิเลสเข้ามาร่วมวงด้วย
     
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    การแยกให้ออกว่า นี่กิเลส นี่ธรรม นั่นแหละถูกต้องแล้ว จะให้รวมกันไปอย่างไร
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471

    เฮ้ย อ้ายชาติจั่ว จอมลามก ผู้มากด้วยความอกตัญญู

    หากไม่อยากอยู่ร่วมกับกิเลสแล้ว นู้น ช่วยไปอ้อนโอบาม่า
    ขอให้เขาช่วยผูกหางคุณไว้กับกระสวยอวกาศ แล้วจัดส่ง
    ไปนอกโลกโน้น

    อย่ามานั่งๆนอนๆ เป็นฆารวาสโสโครกไม่รู้จักคุณ ของข้าว ที่ชาวนาเขาอาบ
    เหงือต่างน้ำ จมกิเลสรอให้คนกตัญญูสักคนมาช่วยให้เขาพ้น
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,927
    ค่าพลัง:
    +9,209
    อ้าว เอ็งกระโดดไปโน่นได้ไง นี่ข้าไม่ได้ไป ตัดคน นี่ข้าตัดกิเลส แยกกิเลส ให้ดู นี่แหละช่วยคน
     
  11. Lanna141

    Lanna141 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +62
    ธรรมะที่ลามก จะมีแต่การพูดจากแก่งแย่ง แบ่งฝ่าย เอา สัญญา ข้อความ คำพูด
    ขึ้นเป็นประเด็นชี้วัด แทนที่จะ ไปรู้ชัดที่กันที่กริยาเป็นใหญ่ เอาจิตเป็นใหญ่ เอาธรรม
    เป็นใหญ่เป็นประธาน ไม่ใช่ มานั่ง ฟาดฟันกีดกันเพียงเพราะ ข้อความ

    หาก ธรรมะ เหมาะสมเฉพาะกับ พวกขุดรู อยู่แต่ในถ้ำ พูดจาภาษาถ้ำ ภาษาป่า
    ภาษาเถื่อน ก็ให้ไป ขุดถ้ำแล้วอยู่เสียแต่ลำพัง อย่าได้มาพูดจาก กลบภาษา
    ที่มีวัฒนธรรม หรือ พุทธวัจนะ เพื่อกลบสัทธรรมให้หาย !!

    อย่าได้ มาทำปากสว่าง ขยันสร้างสิ่งที่บดบังสัทธรรม เพียงเพราะต้องการ
    ยกตน อย่างคนลำพอง อย่างพวกลามก

    สำหรับพวกอวดดี หากยังทำให้เขาบิณฑบาทไม่ได้ ไม่ศรัทธา ก็จง ยืนตายตรง
    นั้นซะ อย่าได้อ้างว่าเป็น สาวกพระพุทธองค์<!-- google_ad_section_end -->
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    กูว่าแล้ว เดี๋ยวต้องมีพวก แอ็ดมึน เข้ามาเกิดใหม่ พร้อมการกำบังตัวในกะละมัง

    แล้วสำคัญผิดว่า สิ่งที่ผมแสดง คือ ธรรมะ

    พอสำคัญผิดว่า ผมกำลงแสดง ธรรมะ มันก็จะ ถามย้อน หรือ ไม่ก็เอา คำพูด
    ผมมาย้อน

    ซึ่ง โง่ ทันทีเลย

    คุณจะมาย้อนใส่ผมทำไม คนที่เขาฉลาดๆ เนี่ยะ เขาเห็น ป๊าป เขาก็รู้
    แล้วว่า สิ่งที่ผมแสดงอยู่ ไม่ใช่ธรรมะ มันเป็นเรื่องอะไรที่แปรปรวนฯ มากๆ

    แต่ ก็นะ มีคนโง่ สายตาสั้น ดันเห็นว่า ผมแสดงธรรมะ

    แล้ว ก็มาย้อนถาม ย้อนศร อะไรก็ตามแต่ จะวิปลาสกันไป
     
  13. ไมยราพ

    ไมยราพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2009
    โพสต์:
    495
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +201
    คุณ คีย์บอร์ด

    ธรรมะไม่ใช่ประชาธิไตย น่ะถูกแล้ว ประชาธิไตยอาศัยเสียงข้างมาก ไม่รู้ผิดถูก

    ว่าไปแล้วประชาธิไตยของคนมีกิเลส ก็คือ โลกาธิปไตย เลวๆ นั่นเอง

    เป็นไปเพื่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ กิน กาม เกียรติ เพื่อพวกพ้อง
    แล้วก็อาศัยกิเลสอ้างเล่ห์ ว่าไม่ได้เป็นไปเพื่อ ลาภ ยศ สรรเสริญ กิน กาม เกียรติ
    แต่แท้จริงแล้ว ตรงกันข้าม เห็นไหมล่ะ ความทุจริตฉ้อฉล ที่เกิดขึ้น

    ต่างจากหลักของธรรมะ โดย ธรรมาธิปไตย มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี อาศัยสติสัมปชัญญะ
    ไม่จำกัดกาล เป็นสันทิฏฐิโก โอปนยิโก ปัจจัตตัง กับผู้ที่ปฏิบัติ โดยถือธรรมเป็นใหญ่

    หรือจะอีกมุมหนึ่ง หากธรรมะเป็นประชาธิไตยแล้ว ศาสนาพุทธ คงถูกกลืนกิน โดยพวกมากลากไป
    ที่อาศัยแฝงเล่ห์ มาในคราบธรรมะ เอามาเป็นเครื่องมือบังหน้า อย่างโลกทำกัน นรกเอาอยู่..!

    ว่าแต่ ศิริวัง นั่นไม่เกี่ยวกันเน้อ เอื๊อกก..!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  14. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +4,065
    เดี๋ยวผมว่า พี่เกิดต้องเข้ามาสาธุธรรมท่านขันธ์ครับ แน่เลย..!
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ทีนี้ น้องๆหนู เข้ามาเอ้ ทำไมผมถึงแล่นไปในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรมหละ

    ในเมื่อ ดูหัวกระทู้ ก็น่าจะเป็น ธรรมอยู่ แล้ว อธรรมเข้ามาได้ไง

    ก็ข เท้าความไว้ก่อนว่า

    พระเดชพระคุณลุนช่องหลวงตามหาขันธ์ อะไรนี่ เขาไปเจอ บทความ
    บทหนึ่งเขียนโดย พระอาจารย์ทูล ขิปปปัญโญ

    พอแกอ่านแล้ว แกก็บอกว่า นี่เป็น สัญญาล้วนๆ เขียนจากสัญญาล้วนๆ ไม่ใช่ธรรม

    เป็นการเขียนแบบบอกเล่า ไม่ใช่การเขียนให้ไป ฝึกตน แต่อย่างใด (อันนี้
    กล่าวโดย ประเด็นที่ จขกท เขาชี้ ว่า ดูยังไง จำแนกยังไง )

    ก็เลยเป็นที่มาที่ไปว่า ทำไม จขกท เขาจึงมาจั่วว่า อย่างไรเป็นธรรม อย่างไร
    เป็นสัญญา

    พูดง่ายๆว่า หาเรื่องสร้างหลักฐาน เพื่อให้ดูเหมือนมีความชอบธรรมในการ
    ด่าพระ ว่า ตนได้กระทำถูกต้อง

    แล้ว นี่ยังไม่รวมเรื่อง หลักประชาธิปไตย ที่แกบอกว่า ไม่สามารถใช้กับศาสนา
    ได้ ดังนั้น ท่านก็ค่อยๆ ฟังไปว่า เขาจะพูดถึงหลักอะไร

    ที่แน่ๆ ผมขอออกเสียงก่อนว่า คำสอนของหลวงพ่อทูล ท่านก็กล่าวให้คนฝึกตน
    ทำดี ได้ดี ทำบุญ ทำกุศล ภาวนา แน่นอน ท่านไม่ได้ พูดชักชวนให้หยุดการภาวนา
    ดังนั้น ผมมองยังไงก็เป็นเรื่องการสอน การฝึกตน !

    เมื่อผมได้ออกเสียงไปแล้ว และเพราะว่า ประชาธิปไตยใช้ไม่ได้ ก็ต้องดูว่า
    เขาจะใช้ หลักธรรมใด มากล่าวกลบว่า นั่นไม่ใช่การสอนเรื่องการฝึกตน แต่
    ถ้าเขาไม่กระทำให้แจ้ง แต่ประสงค์จะฟันธงดุ่ยๆ เหมือนเป็น สัจจวาจา เมื่อ
    พูดออกไปแล้วไม่ขอคืนคำ ก็กลายเป็นว่า จขกท เขาชูตนเป็น.....เหมือนกับ
    ที่ชู พ่อแมวแอ้ว เป็น ผู้อยู่ที่หัว

    แต่ถ้าธรรมก็ไม่แสดงเหตและผล สัจจวาจาพูดแล้วก็กลืนไปเหมือนว่าไม่ได้พูด
    เป็นอดีตไปแล้วไม่ใช่ปัจจุบัน คำตัวเองยกได้ คำพระอื่นห้าม ก็เท่ากับว่า เหลือ
    ระบบการปกครองเดียวในใจ จขกท แล้วหละ เรียกเล่นๆว่า "ขนมยายธิปไตย"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  16. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +4,065
    สาธุธรรมท่านขันธ์ครับ..พี่เกิดมาจริงๆด้วย
    พี่นิวรณ์ เมื่อวาน ลุงหมานด่าพี่ที่หน้า 20 กระทู้สัมมาทิฏฐิ ของท่านขันธ์ พี่ไปจัดการรึยัง เกณฑ์พระมาทำสงครามครบรึยังครับ..
    จากผู้หวังดี แต่ประสงค์ร้าย เอาข่าวมาแจ้งครับ
     
  17. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    เอาละจุยส์ เอาละจุยส์

    หวยไม่ยักกะออกข้าง กู้โลก 'หลง
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ยังๆ หาก ผมพาพระทำสงครามได้นะ โอย มันส์หยด

    พระท่านจะไม่ต้องเสียเวลาบริหาร จัดการ ทรัพย์สิน และ ธุรการใดๆ
    ให้รัฐเลย

    เวลาท่านจะว่างมาก จนสามารถ ก่อสงครามกับ...... ได้

    นี่ยังไม่รวม กฏอัยการศึก ห้ามฆารวาสชุมนุมเกิดหนึ่งคนเพื่อด่าพระอีกนะ

    ถ้ามีกฏข้อนี้ โอย คราวนี้ พระยุ่งเลย ต้องขวนขวายก่อสงครามกับ....
    อย่างเดียวเลย ไม่งั้น ไม่มีอะไรกินแน่นอน ตายหมด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กุมภาพันธ์ 2012
  19. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    43
    ค่าพลัง:
    +4,065
    อ้าว..เห็นเดี๋ยวเป็นหนึ่งเสมอ เดี๋ยวสงครามพระ..ฝึกกสิญปลุกม็อบพระรึปล่าวผมสงสัย ยังไงแน่:mad:
     
  20. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    มะรู้ๆ เดี๋ยวรอครบรอบวันเกิดก่อน ถ้า ธรณีไม่สูบไปเสียก่อนละก้อ

    ฮิวววววส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...