ข่าวด่วนวันนี้ กรรมใช่สิ่งลึกลับหรือไม่> และแล้วเกษมก็โดนศาลตัดสินจำคุก2ปี

ศาลสั่งจำคุกพระเกษม 2ปี คดีเหยียบ-ตบหน้าพระพุทธรูป






ขณะที่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2ปี ปรับ 2หมื่นบาท
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (13มี.ค.) ที่ศาลศาลจังหวัดหล่มสัก ผู้พิพากษา และคณะออกนั่งบัลลังก์อ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ ในคดีที่อัยการจังหวัดหล่มสัก เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพระเกษม อาจิณณฺสีโล หรือนายดวงแพง ดวงมาก ในข้อหาดูหมิ่นพระพุทธศาสนา กรณีจำเลยเหยียบฐานพระพุทธชินราชจำลอง และใช้ฝ่ามือด้านขวาตบไปที่พระพักตร์ เหตุเกิดเมื่อ 27 พ.ย.2551 ที่ศาลาสำนักสงฆ์วัดป่าสามแยก ตำบลวังกวาง อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
โดยศาลอุทธรณ์เห็นพ้องกับคำตัดสินของศาลชั้นต้น ที่ว่า พระเกษมมีความผิดตามมาตรา 91 และ 206 จึงลงโทษให้จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท ส่วนโทษจำให้รอลงอาญา 2 ปี เนื่องจากไม่เคยก่อความผิดมาก่อน
ด้านพระเกษม ได้กล่าวภายหลังฟังคำพิพากษา ระบุว่า ยอมรับในคำตัดสินแต่จะต้องสู้ไปให้ถึงที่สุด ยอมรับว่าเมื่อศาลอุทธรณ์ตัดสินออกมาเช่นนี้ก็ผิดวินัยแน่นอน ชาวพุทธตัดสินอย่างนี้ ฉะนั้นต้องไปฏีกาเพื่อให้ลูกหลานได้เรียนต่อ ส่วนฝ่ายสงฆ์ถ้าเป็นไปตามพระวินัยก็ไม่มีอะไรเลย มีแต่ฝ่ายที่ร้องอาตมาต้องไปแก้โทษกันเอาเอง

 

สาเหตุ ที่ทำไห้โล้นเกษม ถูกศาลพิพากษาจำคุกสองปี

 

กรรมเวรมีจริง บาปบุญคุณโทษมีจริง

ใครทำกรรมอะนใดไว้ ต้อได้รับโทษกรรมเวรที่ตนเองได้

กระทำไว้

 

ใครที่ยังลบหรู่และทำลายรูปพระศาสดา ก็ดูเอาไว้ครับ
กรรมในชาตินี้ก็รับไปก่อน ตายแล้วก็ไปรับกรรมเป็นเปรตอีก

 

ผมไม่พูดมากละ แต่ให้ ศ.ศิวรักษ์ เป็นคนพูดแทนแล้วกัน เพราะคำพูดที่เอ๋ยออกไปตั้งแต่ปีที่แล้วตรงกับ ศ.ศิวรักษ์

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=gmRkz8Kp0Z0]พุทธแท้ต้องปฏิเสธไสยศาสตร์ 1/2 - YouTube[/ame]

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=0ccqDLScUCM&feature=related]พุทธแท้ต้องปฏิเสธไสยศาสตร์ 2/2 - YouTube[/ame]

 

ถ้าเราเอารูปพระเกษมไปวางไว้ต่อหน้าพระเกษมแล้วกระทืบๆๆและบอกว่านี่ไม่ใช่ พระเกษมเป็นเพียงรูปภาพคุณว่าพระเกษมจะเอารองเท้าแตะปากระบาลเรามั้ยแล้วไล่ เราออกไปจากที่ตรงนั้นมั้ยมันเป็นกรรมที่เราทำเราสมควรได้รับจากพระเกษมใช่ หรือไม่ คำตอบ ใช่ ผลที่ออกมามันก็คือกัน

 

โมทนาสาธุคะ ท่าน ศ.ศิวรักษ์ อนุโมนาบุญด้วยคะ กัมมุนา วัตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมสาธุคะ

 

ทิดเกษมสมควรไดรับผมกรรมที่ตัวเองได้กระทำไว้

นี่และกฏของกรรม ไห้ผลเที่ยงตรงสุดๆ ดุดดัง กงกรรม กงเกวียน

ย่อมหมุนกลับมาทับลอยเดิม ฉันใด ฉันนั้นเลยล่ะ

ตายไปก็มีไฟนรกเผาผลาญ ชั่วกัปร์ ชั่วกัลป์

 

อันสืบเนื่องมาจาก ทิดเกษมเป็นนักตำรา อะไรก็พระไตรปิฏก ติดตำรา

อ้างตำรา มาตรานั้น วรรคนั้น บรรทัดที่นี้ พระไตรปิฏกว่าไว้

ธรรมะจริงๆ อยู่ที่การเข้าถึง ของจิตใจ ของตัวคนนั้นๆ

ไห้ท่านรู้พระไตรครบหมดทั้ง45เล่ม แต่ยังด่าพ่อ ด่าแม่ชาวบ้าน

แสดงว่าท่านไม่ได้อะไรจากพระไตรเลย

ท่านได้แต่ฐิทิมานะ ข้ารู้ ข้าแน่ ข้าทรงภูมิรู้มีแต่เพิ่มพูนกิเลสทั้งนั้น

ธรรมะของพระพุทธเจ้า เป็นไปเพื่อละ เพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อความคลายกำหนัดเท่านั้น

 

การกระทำของทิดเกษมศาลบอกว่า เท่ากับดูถูกเหยียบหย่ำจิตใจชาวพุทธ

ศาลสั่งคุก 2 ปี พระเกษม หมิ่นพุทธศาสนา
(13 มี.ค.) ที่ศาลจังหวัดหล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ มีการอ่านคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ระหว่างอัยการจังหวัดหล่มสัก เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พระเกษม อาจิณณฺสีโล เจ้าสำนักสงฆ์ป่าสามแยก อ.น้ำหนาว ฐานทำความผิดเกี่ยวกับศาสนา เหยียบฐานพระพุทธชินราชจำลอง และใช้ฝ่ามือขวาตบเข้าไปพระพักตร์พระพุทธรูป ก่อนจะนำแผ่นป้ายข้อความระบุว่า "ทองเหลืองหล่อนี้ไม่ใช่พระพุทธเจ้า อย่าไปกราบไหว้มัน" มาติดไว้ ซึ่งมีการบันทึกวิดีโอไว้อย่างชัดเจนเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2551

ในเวลาต่อมา ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้เข้าร้องทุกข์แจ้งความให้ดำเนินคดีกับพระเกษม ในข้อหาดูหมิ่นพระพุทธศาสนา โดยศาลชั้นต้นได้ทำการพิพากษา ยกฟ้องในคดีดังกล่าว เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2552

จนกระทั่งมาในวันนี้ ศาลได้ตัดสินพิพากษาให้ พระเกษม มีความผิดตามมาตรา 91 และ 206 มีโทษให้จำคุก 2 ปี ปรับ 20,000 บาท อย่างไรก็ตามโทษจำคุกให้รอลงอาญาไว้ก่อน 2 ปี เนื่องจากไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน ศาลได้ให้ความเห็นว่าการกระทำของพระเกษมได้เหยียบหย่ำจิตใจชาวพุทธมามะกะ

ด้าน พระเกษม หลังได้รับทราบคำพิพากษาก็น้อมรับแต่โดยดี แต่ถึงอย่างไรก็จะยังยืนหยัดต่อสู้จนถึงที่สุดในชั้นศาลฎีกาต่อไป

 

ถ้าพูดถึงกรรม ยกตัว อย่างนอกเรื่องดีกว่าเช่น

จำได้ไหมครับ เพื่อนๆ ที่เมื่อหลายปีมาแล้ว ที่อัฟกัน ที่ทำลายพระพุทธรูปบามียัน ที่เขา วันนั้นผมยังจำได้ เลยว่า ไม่อยากจะคิดว่า จะเกิดไรขี้นกับประเทศนี้

แล้วกรรมก็ติดจรวด สรุปตอนนี้อัฟกันโดนไอ้กัน ยึดประเทศสิ้นชาติเรียบร้อย

ฉันใดก็ฉันนั้น

 

เท่าที่อ่าน ก็รอลงอาญานิครับ ท่านก็ไม่ได้ติดซะหน่อย
อีกอย่าง ท่านก็ไม่ได้เปรียนความคิดเรื่องมอง พระพุทธรูป
เป็นพระพุทธองค์ และผมว่าท่านก็ยังทำลายเหมือนเดิมแหละ
แต่คงไม่ได้ทำออกสือ
สำหรับพวกท่านที่มองว่าหลวงพ่อเกษม หมิ่น พระพุทธเจ้า
ท่านลองคิดดิ ว่าถ้าหลวงพ่อท่านจะหมิ่น ท่านจะมาบวชทำไม
เงินก็ไม่ได้ จะมาสั่งสอนผู้คน โดยใช้ พระไครปิฏกทำไม
ใช่ป่าวหละ จริงๆแล้วทุกคนก็รู้ดีว่าหลวงพ่อท่านก็รักและเค้ารพพระพุทธองค์
เพียงแต่ความคิดของท่าน มันขัดกับความคิดคนส่วนใหญ่ แค่นั้นเอง
กาลเวลาเปลี่ยนศาสนา ท่านก็คงอยากจะเอาแบบ Original แต่ความเป็นจริงแล้ว
มันเป็นไปไม่ได้ เพราะทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ก็ไหว้และเค้ารพพระพุทธรูป
แต่ก็อย่างว่าแหละ ชาวบ้านบางคนไหว้พระพุทธรูป เพราะมองเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ไหวแต่ละทีขอหวยขอเลข ทุกวันนี้ส่วนน้อยครับ ที่มองว่าเป็นตัวแทนพระพุทธองค์
เพราะคนส่วนใหญ่โดนปลูกฝั่งให้ไหว้พระตั้งแต่เด็ก แต่น้อยมากที่จะมาอธิบายอย่างจริงจัง
ลองไปถามเด็กดูสิครับ ว่าพระพุทธรูป คืออะไร ส่วนใหญ่จะตอบว่า
สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะมีซักกี่คนจะตอบว่า ตัวแทนพระพุทธองค์

ปล.ผมอาจไม่สามารถเอาความรู้ทางพระไตรปิฏกมาพูดได้ เพราะผมยังศึกษาน้อยจริงๆ
แต่ผมก็อธิบายในมุมมองบ้านๆสมองอันไร้ความรู้แบบผมนี้แหละก็แล้วแต่พวกท่านจะมอง
ว่าข้อความผมไร้สาระหรือว่าผิดถูกประการใดก็แล้วแต่ครับ

 

เค้าทำลายเพราะเค้ามองว่าเป็น สัญลักศาสดาของพุทธครับ
เลยต้องรับกรรม มันไม่เหมือนกันที่มุมมอง
หลวงพ่อเกษม มองแค่เป็นเหล็กหินและปูน @-@

 

ถามคุณsurer
ยังกราบพระแบบนี้ลงอีกเหรอคะถ้าคุณเป็นชาวพุทธ

 

สาธุ ครับพี่ยม เห็นด้วยกับอ.สิวลักษ์ เราเมาศาสนาจนลืมอะไรหลายๆอย่างไปมากจนมองผิดเป็นถูกไปก็หลายข้อหลายอย่าง

 

ถ้าอ้างว่ามองเป็นเพียงวัตถุ เช่นนั้นผมจะนิยามคำนี้ให้ชัดเจนว่า
รูปพระศาสดา แม้เป็นภาพเขียน ภาพถ่ายจากสิ่งพิมพ์หรือแม้แต่
สสารวัตถุต่างๆ นั่นคือศาสดาสมมติ ยกตัวอย่างให้ชัดก็คือ อนุสารีบรรพกษัตริ
แม้สิ้นไปแล้วก็ยังมีสัญลักษณ์ทดแทนให้เราได้สักการะบูชาในพระคุณ

 

ส. ผู้ที่ได้กวีซีไล์. น่าจะเป็นซีอิ้วเหมาะกว่า
ประวัติเคยนอนขวางทางค้านเรื่องท่อกาสแต่พอเงินถึง อุดมการณ์ที่วางไว้หายไปเลย
พอเกิดเรื่องเสื้อเหลืองเสื้อแดง ก็เขียนเรื่ิองใสร้ายคนเสื้อแดงว่าเล่นละครหมิ่นที่สนามกีฬา
พอเรื่องแตกก็โบ้ยไปให้คนอื่น. นี่หรือคนที่น่าเชื่อถือ

เรื่องรูปพระศาสดา อยู่ที่จิตศรัทธาส่วนบุคคลซึ่งมีมากน้อยต่างกัน
ใยเล่าต้องให้ใครคนใดมาสอนสั่งว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เราไม่มีศรัทธา
ของตนเองหรอกหรือ ถึงได้ต้องมีอะไรอ้างอิงถึงสิ่งที่เราศรัทธา

 

พระเกษม ระบุว่า จะสู้คดีในศาลชั้นฎีกาต่อไป
บางทีสิ่งที่เห็นอาจจะไม่เป็นในอย่างที่คิดที่จะเข้าใจหรอกนะ น่าจะรอดูต่อไป
ดูท่าคงมีการเอาหลักฐานคำสอนในพระไตรปิฏกมาเปรียบเทียบและเปิดเผยให้คนที่ไม่รับรู้ ไม่เข้าใจ ไม่ว่าจะเป็นพวกที่ทำตามๆกันมาเป็นประเพณี พวกที่ชอบอ้างเพื่อนั้นเพื่อนี่ ได้รับรู้และเข้าใจ

 

ลองเเล้วหรือ

ลองดูเเล้วหรือครับ

หรือว่า คิดเอง เออเองไปตามเรื่อง

 

ถึง ส

เเล้วทําไมไม่จับเอาประเด็น ที่ มันถูก มันควร ของท่าน ส เขาขึ้นมาเสพล่ะ

ไปยกเอาเเต่ ด้าน ที่ไม่สวยขึ้นมาดู ผล มันก็ต้องไม่สวยตามนั้นเป็นธรรมดา

เพ่งเเต่โทษ จนลืม คุณ มันก็จะทําให้เห้นอะไรได้เพียงด้านเดียว มุมเดียว