อีกครั้งกับเมืองลับแล2

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย singhatonai, 6 กุมภาพันธ์ 2005.

  1. singhatonai

    singhatonai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2005
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +24
    อายุของคนเมืองลับแล
    สำหรับเรื่องของอายุคนเมืองลับแลนั้นถูกกำหนดด้วยกรรมที่เกิดเป็นรายบุคคล ซึ่งมีอายุกรรมไม่เท่ากัน แล้วแต่เป็นกรณีไป ขึ้นต่ำสุดคือ 10 ปีมนุษย์ ถึง 100 ปีและ 500 ปีก็มี โดยนับเวลาตาม สวรรค์ชั้น จาตุมหาราชิกา ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นที่ 1 ของภูมิเทวดา ฉะนั้นเวลาของเมืองลับแล 1 วันเท่ากับของเมืองมนุษย์ 50 วัน
    ตัวอย่างการกระทำความผิดของเทวดา เมื่อเป็นผู้มีฤทธิ์แล้วไปดลใจมนุษย์ให้ทำผิดศีลก็โดนค่อนข้างหนักตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขั้นต่ำคือ 100 ปีมนุษย์หรือเทวดาดลใจมนุษย์แล้วไปก่อเหตุร้ายแรง จะเจตนาหรือไม่ก็ตาม ถ้ามีความวุ่นวายเกิดขึ้นในหมู่มนุษย์อาจโดน 300-500ปีมนุษย์ ถ้ามีการตายเกิดขึ้นโดยสาเหตุจากเทวดาก็จะต้องลงไปเกิดทันที โดยลงโลกมนุษย์หรือไปตามกรรมชั่วเก่าที่ทำมาก่อนส่วนบุญนั้นเก็บไว้ก่อน หรือถ้าบุญมากก็ไปเกิดเป็น มาร ยักษ์ หรือ พญานาค ใน ป่าหิมพานต์
    สถานะหรือสภาพของชาวเมืองลับแลดังได้กล่าวว่า เมื่อจะมาเกิดยังลับแลจะกลับสภาพร่างกายตอนเป็นมนุษย์ก่อนเป็นเทวดา ดังนั้นถ้าตายตอนวัยไหน อายุเท่าไหร่ เมื่อมาเกิดเป็นคนเมืองลับแลก็จะคงอยู่อย่างนั้นตลอดอายุของอยู่ในเมืองลับแล ตายตอนแก่ก็เกิดมาเป็นคนแก่ แต่ทารกไม่มีเพราะการเกิดเป็นทารกยังไม่ได้ทำกรรมอะไรเลย ฉะนั้นไม่มีทารกในเมืองลับแล
    ดังนั้นการอยู่ในเมืองลับแล เป้นการได้แก้ตัวให้ประพฤติดี ประพฤติชอบ อยู่ในกรอบของศีลธรรม อยู่ในสภาวะของกายทิพย์ อยู่ในสภาวะแวดล้อมที่บริสุทธิ์ อยู่ในพี้นที่ที่จำกัดและมีโอกาสสร้างบุญบารมีเพิ่มชึ้น แต่ก็ยังมีโอกาสผิดพลาดได้ เพราะเมืองล้บแลอยู่ใกล้กับโลกมนุษย์ แต่ใครล่ะจะชอบความลำบากยากเข็ญในเมืองมนุษย์ ฉะนั้นชาวเมืองลับแลจึงไม่ค่อยจะเข้าใกล้มนุษย์สักเท่าไหร่ เพราะมนุษย์จะมีความไม่ดีติดตัวรวมถึงกลิ่นเหม็นสาบเหมือนซากศพ ซึ่งอาจทำให้ชาวเมืองลับแลเสื่อมถอยจากศีลธรรมได้มาก

    การดับของเมืองลับแล ก็เป็นเช่นเดียวกับการเกิด คือจิตเปลี่ยนสภาพไปเฉย ๆ ด้วยบุญ การมาก็ด้วยบุญ การกลับก็ด้วยบุญ เมื่อถึงวาระแห่งการหมดกรรม จะรู้ได้ด้วยตนเอง คือ ปีติจะเกิดกับผู้ที่หมดกรรมหรือหมดวาระจากเมืองลับแลและเขาเหล่านั้นจะได้สู่ภพภูมิที่ตัวเองมา คือไปเป็นเทวดาเพื่อเสวยบุญต่อ ณ จุดที่ลงมา คือลงมาจากจุดไหนก็กลับคืนสู่จุดนั้น

    ในเรื่องของทรัพย์สมบัติของชาวเมืองลับแลนั้น เป็นด้ววยฤทธิ์ที่ติดตัวไปจากการเป็นเทวดา จะเกิดด้วยการเนรมิตอย่างหนึ่ง จะเกิดด้วยการรู้ที่ซ่อนขุมสมบัติอย่างหนึ่ง เพียงสองอย่างนี้ถ้ารู้ว่าควรให้ใครได้ก็สามารถให้ได้ เมื่อรู้ว่ามีทรัพย์อยู่ เช่น ดจรได้ปล้นเศรษฐีนำทรัพย์สมบัติมาซ่อนไว้ในถ้ำ ชาวเมืองลับแลรู้ที่ซ่อน เมือเศรษฐีนั้นเกิดที่ใดสมบัตินั้นก็ยังเป็นสิทธิ์ของเศรษฐะคนเดิมอย่างสุจริต เทวดาใด ๆ ก็สามารถมอบสมบัติคืนเจ้าของ หรือชาวเมืองลับแลย้ายไปไม่ให้คนชั่วหรือคนทั่วไปพบก็สามารถทำได้ แต่การที่จะทำอะไรสักอย่างต้องมีเหตุให้พึงกระทำตามความเหมาะสม มิใช่เป็นเบียดบังทรัพย์เพื่อตน อาจทำได้เพื่อเกิดประโยชน์ส่วนรวม แต่ยังไม่พบเหตุการณ์ที่ต้องกระทำเช่นนั้น แต่สมบัติของชาวเมืองลับแลมีแน่นอน แต่การมีไว้ซึ่งเพื่อเอาไว้บูชาพระถวายเป็นของส่วนรวมเก็บไว้เมื่อถึงคราวจำเป็นในการช่วยสร้างชาติ สร้างศาสนาให้เกิดความร่มเย็น

    เมื่อคราวถึงวันพระ ชาวเมืองลับแลจะมีโอกาสได้เข้าวัดทำบุญฟังเทศน์ถือศีลสวดมนต์ภาวนา คนเมืองลับแลจึงมักชอบพระมาก โอกาสสัมผัสเมืองลับแลกับพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจึงเกิดขึ้นบ่อย ยิ่งเมื่อถึงวันพระจิตใจของมนุษย์หรือกิจกรรมในเมืองมนุษย์จักอบอวลด้วยบุญทานที่เกิดขึ้น ทำให้จิตมนุษยืกับจิตของคนเมืองลับแลสื่อกันได้ง่าย เพราะมนุษย์ก็มักรักษาศีลอุโบสถกันทุกๆ วันพระ นี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่การสื่อสารของมนุษย์และชาวเมืองลับแลสื่อสารกันได้ง่ายในวันพระ ซึ่งเป็นเรื่องที่มนุษย์ไม่ได้คาดคิดหรือตั้งใจไว้ก่อน และพิธีกรรมที่เกิดขึ้นในวันพระของชาวเมืองลับแลนั้น เป็นเพราะว่า สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ได้เปิดให้ชาวเมืองลับแลได้ขึ้นไปทำบุญแระกอบพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น การเวียนเทียน ในวันสำคัญทางศาสนา เพราะสวรรค์ชั้นดาวดึงส์นั้นมีวัดอยู่ และทางเบื้องบนยังเล็งเห็นว่า ชาวเมืองชับแลนั้นยังมีสถานะความเป็นเทวดาอยู่ จึงสมควรได้รับความอนุเคราะห์ตรงส่วนนี้ เพราะในเมืองลับแลนั้นไม่มีวัดไม่มีพระ
    ซึ่งการขึ้นไปสู่วัดนั้น(ขอละสรรพนาม)ได้ตามดู เห็นชาวเมืองลับแลเดินกันไปสู่ภูเขาลูกหนึ่ง ที่เชิงเขามีบันไดเวียนไปทางขวาเพื่อขึ้นเขา บันได้นั้นเป็นบันไดแก้วเลื่อมพรายระยับตาดังสวรรค์เนรมิต ความกว้างยาวของบันไดเดินขึ้นได้พอดีความสูงพอประมาณตามขึ้นไม่ต่ำกว่าร้อย การเดินเวียนขวาไปเรื่อย ๆ (ขอละสรรพนาม)ต้องขออนุญาตเทพพรหมทั้งหลายเพื่อขอให้วัตถุประสงค์สำเร็จตามที่ได้อธิษฐานไว้แต่ต้น เพราะกลัวว่าการข้ามเขตเลยจากที่ขอไว้แต่ต้นของชาวเมืองลับแล และตอนนี้จะก้าวล่วงสู่สวรรค์นั้นก็เกรงว่าจะเป็นการก้าวล่วงสู่ที่สูง แต่ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ สาเหตุที่(ขอละสรรพนาม)ขึ้นไปคงรู้ดี แต่ขอละไว้ในที่นี้ เพื่อจะสานเรื่องเมืองลับให้จบ
    บันไดที่ขึ้นไปสู่วัดแห่งนี้ช่างสวยงามวิจิตรตระการตาย่งเป็นลักษณะแก้วผลึกใส สีรุ้งเจิดจรัสเงาระยังเช่นเดียวกับประกายของเลื่อมเพชรประดับฉันนั้น
    และเมื่อขึ้นสู่ยอดเขา มองไปลักษณะเหมือนเมฆสีขาวนวล ซึ่งสบายตายิ่งนักชาวเมืองลับแลแต่งกายงามล้ำกว่าปกติทุกวัน นุ่งใส่เสื้อผ้าใหม่ ๆ สีสันสวยงดงามตา เครื่องประดับก็พอมีบ้างตามวิสัยชาวบ้าน บริเวณวัดงดงามเจริญหูเจิรญตาไม่มีที่ใดเหมือน โบสถ์หรือวิหารสุดตระการตา องค์พระปฏิมาล้วนแล้วเป็นทองทั้งองค์ ซุ้มประตูประดับประดาด้วยเพชรนิลแต่รัศมีที่เจิดจรัสนั้นแตกต่างกันกับโลกมนุษย์อย่างสิ้นเชิง หรือที่เรียกว่า นพรัตน์ ซึ่งยากที่จะมีสิ่งใดเปรียบได้
    คนเมืองลับแลมีสิ่งของมาสักการะ เป็นดอกไม้ และอาหารทิพย์ เพียงเล็กน้อย ไม่มีข้าวของรุงรังเหมือนมนุษย์เราแต่ทุกคนมีความสุขเต็มเปี่ยมมีความยิ้มแย้มแจ่มใสเบิกบานดีและความงามดั่งนางฟ้าและเทพบุตรราวกับว่าสภาพจิตของเขาทั้งหลายเปลี่ยนเข้าสู่สภาพเดิมจากภพภูมิที่พวกเขาจากมา

    ไว้พบกันใหม่นะคับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • pratudong3.jpg
      pratudong3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.5 KB
      เปิดดู:
      4,189
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กุมภาพันธ์ 2005
  2. NiNe

    NiNe เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,792
    ค่าพลัง:
    +7,482
    ผมคิดว่าชาวลับแล ... น่าจะมีอยู่จริง
     
  3. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    มีจริงนะผมว่าตามปู่
     
  4. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +2,010
  5. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +2,010
    วันก่อนฝันว่าไปเที่ยวเมืองลับแลน่ะ คนที่นั่นจะต้องไปวัดไปอนุโมทนาบุญเป็นประจำ และคู่ในเมืองลับแลบอกกระเจียวว่า จะไปกาญจนบุรี มีงานบุญที่นั่น ต้องไปโมทนาบุญ
     
  6. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    อยากไปมั่งจังแต่มะมีเพื่อน กระเจียวไปกับผมได้ไหมงับ^^
     
  7. กระเจียว!

    กระเจียว! Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +43
    คืนนี้ก็ลองอธิษฐานสิจ๊ะ
     
  8. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,105
    ค่าพลัง:
    +2,695
    เคยได้ยินแต่ย่าเล่าให้ฟังว่ามีอยู่ตรงไหนบ้างแบบบางทีก็ได้ยินเสียงของดนตรีไทยดังแว่วมาจากทุ่งซึ่งไม่ได้มีงานหรือว่าอะไรเลย และตอนเย็นๆย่าเล่าว่าเวลาเดินผ่านก็จะมีกลิ่นน้ำปลาพวกนี้น่ะเหมือนกับว่าพวกเขาทำกับข้าวกินกันอยู่น่ะ
     
  9. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    อธิฐานเฉยๆหรอคับT T
     
  10. ผู้ชายกับสายน้ำ

    ผู้ชายกับสายน้ำ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +15
    เขามีงานบุญแถวไหนครับคุณกระเจียวผมอยู่กาญจน์ ผมอยากไปร่วมบุญกับพวกเขาด้วยครับ
     
  11. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,074
    ค่าพลัง:
    +638
    แล้วไปยังไงล่ะ คาถาติดตัวไปก็ไม่มี
     
  12. Nind

    Nind บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    พ่อบอกว่ามีจริง เพราะมีญาติเคยเจอ
     
  13. ble2529

    ble2529 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +16
    เมืองลับแลอยู่ตรงไหนอ่ะ อยากรู้จะได้ไปมั่ง - -
     
  14. พรายแสง

    พรายแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    833
    ค่าพลัง:
    +371
    (eek) ผิดห้องแล้วม้างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
     
  15. pongsiri

    pongsiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2005
    โพสต์:
    1,074
    ค่าพลัง:
    +638
    555555 (อีกที)
     
  16. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +2,010
    ฝันน่ะ ไม่แน่ว่าเพ้อหรือนิมิตจริง แต่ฝันว่าไปเมืองนี้สามสี่คืนติดกัน เจอคนๆนึง ชื่อณัฐ อยู่ที่นั่น เหมือนจะเป็นคู่เรา เออเนาะ สงสัยเนื้อคู่อยู่เมืองลับแล ตอนนี้เลยนั่งรอด้วยความรู้สึกลึกลับง่ะ
     
  17. ผู้ชายกับสายน้ำ

    ผู้ชายกับสายน้ำ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +15
    คงไม่ใช่ผมนะกระเจียวเพราะชื่อจริงผมก็ณัฐ..... เหมือนกันอยู่กาญจน์เหมือนกันอีกด้วย
     
  18. กระเจียว

    กระเจียว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,354
    ค่าพลัง:
    +2,010
    ที่กาญจนบุรีตอนนี้มีงานบุญอะไรบ้างคะ


    ที่นั่นเค้าพูดถึงเมืองลับแลอย่างไรบ้างคะ

    คือฝันติดกันหลายคืนแล้วถึงเมืองลับแล และคนๆนึงชื่อ"ณัฐ" คนนี้จะนำเที่ยวตลอด ส่วนใหญ่จะพาไปดูว่าวันๆเค้าทำอะไรกัน (ส่วนใหญ่พากันไปตามวัดไปตามงานต่างๆแล้วโมทนาบุญกัน)
    ล่าสุดคนชื่อณัฐบอกว่า ต้องไปกาญจนบุรี ไปนานเลย อยากทราบว่าที่นั่นมีงานอะไรคะ
     
  19. ผู้ชายกับสายน้ำ

    ผู้ชายกับสายน้ำ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +15
    เรียนคุณกระเจียว ที่เมืองกาญจน์มีเมืองลับแลอยู่เมืองนึง คนเก่าคนแก่เค้าบอกต่อๆ กันมาปัจจุบันคนพื้นที่เรียกบริเวณนั้นว่าเมืองลับแล ไม่รู้ว่าใช่ที่เดียวกันรึเปล่า ส่วนงานบุญในเมืองกาญจน์มีอยู่เสมอและมีวัดอยู่มาก ว่างๆกระเจียวก็มาเที่ยวดูนะ มีอยู่หลายวัดที่เหมาะต่อการปฏิบัติ ถ้ามาก็บอกผมก่อนได้ยินดีพาทัวร์ครับ เออ..ขอถามหน่อย คนชื่อณัฐคนนั้นลักษณะเป็นยังไงอยากรู้เหมือนผมหรือเปล่า..ขอบคุณครับ
     
  20. undeath13

    undeath13 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    1,480
    ค่าพลัง:
    +1,830
    ตกลงไปไงอ่ะเมืองนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...