นั่งสมาธิกลางแดดเป็นอย่างไร

นั่งสมาธิมาหลายปีพอสมควรค่ะ...นั่งมั่งไม่นั่งมั่ง แล้วแต่มีเวลามากน้อย
..เพิ่งมาเริ่มนั่งแบบว่าใช้ความร้อนคือหันหน้าเข้าแดด ตอนใกล้จะเย็นคือ ประมาณ 4 โมงเย็นหรือ 5 โมงเย็น (ที่บ้านหน้าบ้านหันหน้าเข้าตะวันตกเวลาที่ว่า แดดก็ยังแรงพอสมควร นั่งชั้นบนระเบียงของบ้าน)
1.เวลาที่นั่งแบบนี้(กลางแดด)รู้สึกว่าสงบมากๆค่ะไม่เคยได้รับแบบนี้ จิตใจแช่มชื่นมากค่ะ(รู้ได้ด้วยตัวเอง) รอ้นก็ร้อนแต่ว่าก็ทนได้ ไม่รู้สึกว่าร้อนทุรนทุราย เหมือนว่า ร้อนก็ร้อนไป
2.รอบๆตัวๆ นอกจากความร้อนแล้ว ก็จะมีเสียงรถวิ่งไปมาค่ะ เพราะว่าอยู่ติดถนนเลยบ้านหลังนี้ บางครั้งก็เสียงดังมากๆ แต่ว่า ก็ไม่รำคาญค่ะ นั่งได้น้อยสุดก็ประมาณ 40 นาที ไม่รำคาญเสียงรถเลย
3.เวลานั่งเหงื่อจะออกมากๆ บางทีตัวเปียกไปหมด แต่ว่าใช้ความรู้สึกนะค่ะ บางทีเหงื่อไหลผ่านตาผ่านหน้า ก็ทนได้ค่ะ
4.สรุปนะค่ะ ที่อยากรู้ว่าใครเคยทำแบบนี้บ้างหรือเปล่าค่ะ และผิดหรือถูกที่ทำแบบนี้
5.นั่งได้ไม่นานก็จะเงียบ เหมือนรอบตัวไม่มีเสียง แต่ว่าบางครั้งเสียงก็มีแว่วๆอยู่ ไม่ถึงกับไม่ได้ยิน หลับตาอยู่ แต่ว่าเห็นเหมือนลืมตา สว่างมากๆ และจากเคยแว่บไปแว่บมา ตอนนี้ก็เริ่มอยู่ได้นานค่ะ (อยุ่ได้นานคือ นิ่งอธิบายไม่ถูก)
6.ทำมาได้ไม่ถึงเดือน แต่ว่าก็ชอบแบบนี้ และจิตใจอยากจะนั่งสมาธิแบบนี้ บ่อยๆ เมื่อมีโอกาสได้ทำ (บางวันก็นั่ง สองรอบก็มีค่ะ คือก่อนเที่ยง และก็เย็น)

 

ถ้าชอบแล้วมันสงบก็ทำได้....แต่ถามว่าถ้าให้แนะนำ...ก็คงให้เอาแบบสบายๆดีกว่านะ.....เอาเราสบายทั้งกายและใจ....ตอนนี้แสงแดดก็อันตรายนะ....เดียวก็ได้มะเร็งเป็นของแถมหลอกหนู......พระธุดงค์ท่านยังไม่นั่งตากแดดเลย...

 

ไม่เคยยทำครับ คงเป็นจริตของคุณ คงเคยทำแบบนี้มาก่อนจึงชอบแบบนี้...
แต่ข้อ5 ก็เคยเป็นเหมือนกัน ก็แล้วแต่ตัวเราเองแล้วหละว่าจะเดินไปทางไหนต่อ

 

ขอบพระคุณสำหรับคำตอบของคุณ phanudet ค่ะ
ที่บอกว่าชอบ เพราะว่า เวลามีเรื่องกระทบจิตใจ ในทางโลก ก็รุ้สึกว่าตัวเองทนได้ค่ะ
และรู้สึกว่าเฉยๆ คือจิตใจไม่ร้อนรนไปตามทางโลกมากมายนัก มองแบบปลงๆ เพราะว่าปรกติแล้ว ตัวเองก็เป็นคนใจร้อนและไม่ค่อยยอมสักเท่าไร แต่ตอนนี้ใจเย็นและมองอะไรก็ช่างไป

สำหรับคำตอบของคุณ 2 ชาติบรรลุธรรม ที่ว่า
..ไม่เคยยทำครับ คงเป็นจริตของคุณ คงเคยทำแบบนี้มาก่อนจึงชอบแบบนี้...
แต่ข้อ5 ก็เคยเป็นเหมือนกัน ก็แล้วแต่ตัวเราเองแล้วหละว่าจะเดินไปทางไหนต่อ<!-- google_ad_section_end -->

แล้วจะไปทางไหนต่อล่ะค่ะ เพราะว่าบางครั้งทั้งเงียบทั้งนิ่ง อยู่นาน (กำลังพยายามหาอยู่ค่ะ ถ้าหากว่านานมากๆ ก็จะมาดูลมหายใจ)

 

ของคุณหนูนิด ผมคิดว่าคงจะเป็นของเก่า อุปนิสัยเดิม ติดตัวมา การสั่งสม การฝึกอบรมณ์ อุปนิสัย ของแต่คน มีมาไม่เหมือนกัน


ที่คุณนิดทำอยู่เป็นแนวทาง ของพวกฤษีชีไพร ฝึกแนวกำลังจิต

หรือทำไห้จิตมีพลัง มีอำนาจจิต มีพลังใจที่สงบ พวกนักพรต บำเบ็ญตบะแก่กล้า การบำเพ็ญเกี่ยวกับ ทุกข์กริยา หรืออาการ ทรมานกาย เพื่อ เพื่อดัด ฝึก ทรามานใจ ผลที่ได้รับก็คือ จิตสงบ เยือเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ อันนี้เป็นแนวฤษีครับ หนักกว่าคุณนิดก็มีนะ



และพวกฤษีที่ท่านได้ฌาณสมาบัติ มีอิทิฤทธิ์ทุกตน แต่ท่านเหล่านั้น ชอบปลีกวิเวก

ไม่ชอบหมู่คณะ พวกฤษี นักพรต เครื่องอยู่ของจิตใจท่าน ก็คือมีฌาณสมาบัติ

เป็นที่อาศัยของใจ ร่างกาย แตกดับไปแล้ว จิตท่านหรือตัวท่าน ก็ไปเกิดในแดนของพรหมโลก

มีความสุขก็จริงแหล่ แต่ยังไม่สิ้นทุกข์ ไม่พ้นทุกข์

มันเป็นอุปนิสัยเดิมของคุณนิด ของเก่า ติดตัวมาก็ว่าได้ ทำได้ไม่ผิดครับ ถ้าไม่เครียดจนเกินไป หมายถึงอาการทางกายนะ

ของอย่างนี้ ของใครของมันครับ ทำสามธิด้วย พิจรณาไตรลักษ์ด้วย

พิจราณา ความไม่เที่ยงแท้ของโลก ไม่มีอะไรจีรังยั่งยืน ละได้ วางได้

ไม่ยึดมั่น ถือมั่งใดๆ ในโลก ตามที่องสมเด็จบรมครู ได้สั่งสอนไว้

ผมว่าจะได้ผล ออกมาเป็นบวก เท่าทวีคูณ เลยนะครับ

อนูโมทนากับสิ่งที่คุณนิดทำอยู่ ถ้าทำแล้ว หมายถึง สมาธิ จิตเป็นสุข จิตสงบดิ่ง นั่นแหละไช่ ถูกต้องครับ อนุโมทนาคับ

 

สมัยก่อนไม่มีเรื่องที่จะมาทำให้จิตใจเราวุ่นวายเหมือนสมัยนี้ เห็นโน่นก็อยากได้ เห็นนี้ก็อยากได้ ..........เราก็มีจิตที่เป็นสมาธิแล้ว ก็ยกมันขึ้นมาพิจารณาดูว่า ไอ้ที่เราอยากได้มันมีอะไรบ้าง ....แล้วค่อย ๆ หาเหตุผลมาบรรเทากับสิ่งที่เราอยากได้นั้น ๆ เช่น สิ่งของเสื้อผ้า อยากได้เมื่อไร ปัญญามันมาทัน ก็บรรเทาทันทีว่า ได้มาเดี๋ยวก็เบื่อ หายอยากได้ ไม่กี่วัน อยากได้รถใหม่ รถเก่ามันก็พาเราไปไหนได้เหมือนกัน ไม่เห็นว่าจะต้องเปลี่ยนใหม่เลย คิดอย่างนี้ มันก็บรรเทาความอยากนั้นได้.....

สิ่งใด ๆ ที่เรา ได้สัมผัสกับมันแล้ว มันรู้สึกขุ่นข้อง ขัดเคืองใจกับมัน ทั้งทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เราก็พิจารณาดูเอากับมันว่า สิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้ฟัง ได้กลิ่น ได้ลิ้ม ได้สัมผัส ได้คิดไปในเรื่องอดีต อนาคต .....เหล่านี้ จะจัดการอย่างไรกับมัน เมื่อได้ ผัสสะ กับมัน เตรียมไว้ก่อน เหมือนคิดล่วงหน้าว่า ถ้าผ้สสะแล้ว จะจัดการกับมันอย่างไร ..........ฯลฯ

เมื่อเราได้หมั่นคิดพิจารณา ในขณะที่จิตเป็นสมาธิ มันก็คือการแก้ปัญหาทางใจ...และเตรียมแก้ไว้ก่อน จิตมันก็จะรู้จักคิด ไม่นิ่งเฉย สงบอย่างเดียว ต่อไป มันก็รู้หน้าที่ของมัน จิตจะแคล่วคล่อง ว่องไว ทันต่อสิ่งที่มากระทบ อย่างอัตโนมัติ เพราะเราฝึกมันมาแล้ว นั่นเอง เรียกว่า ปัญญามาทัน

ถ้าอยากจะฝึกจิตให้เก่งในด้านฤทธิ์ทางใจ ก็ต้องใช้กสิณ เช่น รูปวงกลมสีขาว สีแดง สีเขียว แล้วแต่ใจชอบ ศึกษาเอาต่อจากสมาธิแล้ว....ถ้าอาณาปาณสติ ก็คงได้สติปัญญา พาพ้นทุกข์ อย่างเดียว ...........ขออนุโมทนา.

 

....ใช้ เตโชกสิณ....ย่อมสามารถทำได้ทุกที่.....แม้ไม่มีแดด...

 

ฝึกกสิณไฟ ได้ ถ้าจริต แบบนี้

แล้วอย่าลืม เอากำลังแห่งสมาธิ มาถอดถอน เผาทำลายกิเลสในใจ ให้สิ้นไป

 

ขอขอบพระคุณสำหรับทุกคำตอบนะค่ะ และทุกๆท่านที่กรุณาให้คำตอบค่ะ
..กระทู้ตั้งแล้วก็จะถามในข้อที่สงสัยจะได้ไม่เปลืองกระทู้ค่ะ
..ในเดือนหน้าคือเมษายนนี้ ตัวเองได้สมัครจะเข้ากรรมฐานปิดวาจา 9 วัน ที่วัดมเหยงคณ์ เลยอยากทราบว่า การเข้ากรรมฐานปิดวาจา กับการไปถือศีล ธรรมดานั้นแตกต่างหรือเหมือนกันหรือไม่ค่ะ
..ที่อยากทราบเพราะว่าปรกติจะไปวัดมเหยงคณ์ในวันพระใหญ่ๆ และถือศีลเมื่อมีโอกาสอำนวยเท่านั้นค่ะ ไม่เคยเข้ากรรมฐานแบบนี้เลยค่ะ
..และอีกข้อคือ ทุกวันนี้เมื่อระลึกได้ไม่ว่าเวลาใดก็ตาม ก็จะกำหนดดูลมหายใจเข้าออกและเวลาที่เราโกรธหรือโมโห ก็จะดูลมหายใจ และกำหนดพุธโธแรงๆ บางทีก็คลายโกรธได้บ้างหายโมโหได้บ้างค่ะ แต่ตามดูลมหายใจเมื่อนึกได้ก็จะทำทันทีแลกๆก็ติดขัดบ้าง แต่ว่าตอนนี้ บางทีไม่ต้องภาวนาพุทโธ ก็จะเห็นลมหายใจตัวเอง โดยอัตโนมัติ อย่างนี้เรียกว่าสติตลอดเวลาหรือเปล่าค่ะ

 

ระรึกได้ไม่ว่าเวลาใด รวมถึงตอนนอนหลับด้วยหรือไม่ครับ เช่นหลับสนิทแล้วเกิดรู้สึกตัวตื่นแบบงัวเงียนี้ ภาวนาได้เองใหมครับ(ก็ยังเสื่อมได้นะ)

บางคนฝึกสติด้วยการดูอิริยาบทของกาย เวลานอนหลับแล้วพลิกตัว หรือขยับตัว หรือคันจะเกาก็มีสติรู้กายอยู่ก็มีนะ(ก็ยังเสื่อมได้นะ)

เรียกว่าสติอัตโนมัติหรือไม่นี้ไม่รู้ครับคงแล้วแต่ผู้ที่ตีความ แต่คงไม่ไช่สติตัวจริงที่เวลาเผลอแล้วสติมาเองหรอกมั๊ง เพราะเขาบอกมาแล้วว่าสติตัวจริงไม่มี:boo:

 

เมื่อวันมาฆบูชาที่ผ่านมา ไปวัดมเหยงคณ์มาค่ะ และได้ร่วมปฏิบัติ (เนสัชชิ ไม่รู้พิมพ์ถูกหรือเปล่าค่ะ) เคยปฏิบัติ เนสัชชิมาครั้งนี้ ครั้งที่ 3
ทุกๆครั้งนี่ ง่วงสุดๆ เรียกว่าทรมานกับความง่วงมากๆ เพราะว่าอดนอนไม่เก่งค่ะ พอเลิกเนสัชชิ ตอนเช้า เรียกว่าน๊อคไปสองสามวัน กว่าร่างกายจะฟื้นถ้าอดนอน
..และมาฆบูชาที่ผ่านมา ก็เตรียมตัวรับกับความง่วงไว้เหมือนกันค่ะ เตรียมสารพัดทั้งยาดม และสารพัดจะต่อสู้ แต่ผลคือ ไม่ง่วงเลยค่ะ รอว่าเมื่อไรจะง่วง ก็ไม่ง่วง กับสดชื่นและจิตใจเบิกบานอย่างมาก เพราะว่าตลอดทุกอิรยบทในคืนนั้น ภาวนาพุทโธตลอดเวลา สลับกับการดูความเคลื่อนไหว ของร่างกายตลอดทั้งคืน
...เลยถึงได้คำตอบว่า พุทโธอย่าให้หายนึกได้ให้ทำทันที (มีคนแนะนำมาค่ะ )ดีกว่าจิตใจไปคิดฟุ้งเรื่องอื่นๆค่ะ

 

ผมนั่งมาได้ สองวัน แล้วครับ รู้สึกสงบดีครับ และก็ นั่งทีแรกจะแสงสีแดง ต่อมาจะ เหลือง ต่อมาจะ ฟ้า แค่นั่งดู แต่ไม่ร้อน นะครับ ชอบยังไงไม่รุ็ครับ บางทีอาจเป้นจริตของผมเพราะอยู่ดีๆๆเดินไปนั่งซะงั่นครับ

 

ชอบอย่างนั้นก็ทำไปครับ
สมาธิตรงไหนก็ได้ ขอให้จิตสบายเป็นใช้ได้
อย่างผมชอบนั่งตรงซอกๆมุมๆ ชอบซุก

 

สำหรับผมขอบอกว่า คุรทำดีแล้วครับ ให้พอใจ ทำต่อ ทำให้คล่อง ทำให้มากครับ สาธุ

 

..จิตสงบ รู้สึกเชื่องๆ..หรือเหนื่อยไหมครับ..
ผมเคยจอดรถตากแดดไว้กลางถนน แล้วเข้านั่งขับกลับมาที่ทำงาน โดยไม่เปิดหน้าต่าง ไม่เปิดแอร์ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง จึงถึงที่ทำงาน"
..อาการแบบคุณนี่แหละครับ จิตมันโลดโผนต้องเล่นงานมัน ยังกับอาบน้ำมาเลยละครับ พอเริ่มมีคนถามมากเข้า..เพราะทำบ่อย (อันตรายเพราะหายใจไม่สะดวกขณะขับรถ)
พอถึงที่ทำงาน..ลงรถเปิดประตู สัมผัสลมนอกรถ ลมพัดมาโดน ยังกับขึ้นสวรรค์เลยครับ ความรู้สึกตอนนั้น
ข่าวลือว่าผมบ้าหรือไม่ก็เพี้ยนก็ตามมา..เวลาลงรถมีคนถามว่าแอร์เสียรึ พอบอกความจริงไป ผลคือคุณจะบ้ารึ ..ผมเลยหยุดทำ แต่สะใจจริงจริ๊ง..อิอิ
ความตั้งใจคุณดีมาก สูงมาก อย่าให้ขาดความเพียร อย่าห่างมากไม่นานจะพบความสงบเป็นพื้นฐานแล้วเปลี่ยนวิธีเป็น เปิดวิทยุฟังตอนนั่งสมาธิดูบ้าง ฟังเทศน์นะครับ ไม่เลวทีเดียว
หน้าหนาว..ผมเคยถอดเสื้อเดินจงกลม ประมาณ 1-2 ชั่วโมงต้องยอมแพ้ บนภูเขานะครับ ขณะที่คนอื่นใส่เสื้อหนาว2-3 ตัว พร้อมนอนในถุงนอน ..ผลก็เหมือนกับนั่งร้อนๆตกนรกในรถยนต์นั่นแหละครับ ..มันดีครับ
ศาสนาพุทธ..ทำอะไรต้อง ถาม-ตอบ ได้ว่าทำเพื่ออะไร ต้องใช้ปัญญาล้วนๆครับ อนุโมทนา

 

เจ้าของกระทู้ไม่รู้อยุ่ไหนแว้วว!!

จขกท โพสท์ไว้ ปี 2010

คุณมาตอบ 2013

โอ้ จะมาช้าไปหน่อยไหมครรฟผม

 

อ้าว..งั้นกำนันไปสืบเอาตัวมาหน่อย ทำผิดในพื้นที่กำนันต้อง สอบสวนครับ เดี๋ยวให้แหนบฝังเงิน อิอิ:'(

 

อ้าว หรอครับ ไม่รู้ เห็นกระทู้ขึ้นมาต้นๆ ลืมอ่านวันที่ โทษที

 

หึ!! คุณสับสน จะมาลดขั้น กำนันแหนบทองคำไม่ได้เชียวน้า

เงินกะทองคุณค่าไม่เท่ากัน ราคาต่างกัน

กำนันไม่ยอม ไห้ตายซิ!

 

ถ้าคุณชอบนั่งแบบนี้(กลางแดด)ก็จะสอนให้ เมื่อคุณจิตนิ่งดีแล้ว และแสงกระทบถูกตัวเรา ให้คุณนึกว่าแสงนั้นผ่านทะลุผิวหนังเรา เข้าไปในเนื้อผ่านเข้าไปกระทบเส้นเลือด ผ่านน้ำเลือด และสุดท้ายกระทบกระดูกเรา แสงความร้อนผ่านเข้าไปในกระดูกเรา ให้นึกแบบนี้ ...แต่ผมจะไม่บอกว่าจะเกิดผลกับร่างกายเราอย่างไรบ้าง เพราะถ้าผมบอกคุณๆจะเกิดแบบที่ผมบอก นั้นจะเป็นส่วนที่ไม่ดีเพราะไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เหมือนเข้าข้างตนเอง ทำตามที่ผมบอกล่ะกัน และผมจะบอกรายละเอียดต่างๆของการฝึกให้คุณในครั้งต่อๆไป ถ้าคุณสนใจฝึกต่อนะ เพราะสิ่งที่คุณทำมานั้นผมผ่านมาหมดแล้ว...หวัดดี