ช่วงเวลากรรมให้ผลกรรมส่งผล ท้อกันมั่งรึเปล่าครับ และผ่านช่วงนั้นมายังไงครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย สุโขสุขี, 15 มีนาคม 2013.

  1. ปิญญ์

    ปิญญ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +385
    เห็นหัวข้อแล้วอยากแชร์บ้าง

    เคยทุกข์หนัก ก้มลงไหว้พระแล้วน้ำตาไหลนองหน้า สะอื้นฮักๆ โอ...ชีวิต ช่างเหนื่อยเหลือเกิน ช่างหนักเหลือเกิน ช่างท้อเหลือเกิน ทำอย่างไรจะผ่านไปได้ อยากหนีให้พ้นๆ

    วิธีที่ใช้ ก็สวดมนต์ไหว้พระ แล้วนั่งสมาธิ นั่งแรกๆ สับสนคิดไปนู่นนี่นั่น จนร้องไห้ออกมา หลายวันเข้า เริ่มสนใจแต่บทสวด คำแปล แปลแล้วกินใจก็ร้องไห้อีก ทั้งร้องทั้งสวดไปเรื่อยๆ สวดปลงสังขาร ร่างกายเราก็แค่นี้ ชีวิตเราก็แค่นี้ อะไรจะเกิด เกิดเสียให้พอ นั่งสมาธิหลายวันเข้า ก็เริ่มนิ่ง ถ้าทุกข์มาก็ร้อง ถ้าไม่มา ก็ตั้งสมาธิ ทำเรื่อยๆ สุดท้ายก็ว่างเปล่า

    แล้ววันนึง ก็เห็นผล(ไม่นานอย่างที่คิด) ทุกข์ ปัญหา หนัก เหนื่อย อยู่ที่เดิม เหมือนเดิม หนักกว่าเดิม แต่....ใจเรา กินบุญอยู่ ใจเย็นมาก ร่ม สบาย เบา อย่างที่เหมือนคนกำลังมีสุข ปัญหา ทุกข์มันก็อยู่ที่เดิมของมัน แต่ใจเราสุข สุขแบบไม่น่าเชื่อเลย

    คราวนี้ ลองซิ เห็นสามีคู่ทุกข์ ทุกข์กับปัญหาที่ครอบครัวเราเจอ เลยลอง ภาวนาแล้วอุทิศบุญทั้งหมดให้เค้า แบ่งเบาให้เค้าพ้นทุกข์บ้าง ปรากฎว่า สามีพูดออกมาเองว่า เหตุใด ทุกข์ ปัญหา เยอะแยะ ทำไมพี่ใจเย็น เย็นใจ ร่มใจ เบาสบาย เหมือนไม่มีทุกข์ ทำไมเป็นเช่นนั้น เขากินบุญรับบุญจากการภาวนาของเรา

    จึงรู้ว่า ทุกข์ทั้งหลาย คือ เวรกรรมทางโลกที่เราต้องเจอ เวรกรรมทำอะไรเราไม่ได้ ถ้าเรามีพระพุทธองค์ในใจ เราสามารถหลบหลีก ขอโทษ ขออโหสิ และเดินหนีได้ ลบล้างกันได้ เมื่อเราภาวนาขอโทษ อุทิศบุญให้เขาเป็นสุข

    เรื่องนี้เป็นวิทยาศาสตร์โดยแท้ ลองทำแล้วบันทึกสถิติ ครั้งแล้วครั้งเล่า พิสูจน์ แล้วจะรู้ว่า ใครก็ทำได้ ขอให้ตั้งมั่น

    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนผ่านทุกขเวทนา เวรกรรมทั้งหลายได้โดยศีล สมาธิและปัญญา

    อ้อ ข้อดีของทุกข์คือ ทำให้เราพบทางสว่างได้ เมื่อไม่มีทุกข์เราก็ไม่พบทางสว่าง เมื่อใดมีทุกข์ ธรรมะเจริญรุ่งเรือง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2013
  2. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825




    ก็อยากทำแบบนั้นนะคะ แต่มันยังทำไม่ได้ค่ะ

    วันนี้หมูเหลือ 46 ไม้ ก้ยังขายไม่หมด เฮอ สรุปว่าขายของ2วันได้เงิน 423บ.
    ทุนก็ยังได้ไม่ครบ กำไรก็ยังไม่มี จะทำไปทำไมกัน ชีวิต


    "คนเราบางช่วงเวลา แม้แต่เงินบาทนึง มองหาในกระเป๋ายังหาไม่เจอ บางช่วงไม่
    ได้ต้องการก็มีคนเอามาให้" ว่าจะไม่ท้อไม่ร้องไห้แล้วเชียว แต่ก็ทำไม่ได้

    ในเวลานี้ ใจเรามีแต่คำถามว่า ทำไมๆๆๆ ๆๆๆๆๆๆๆ และก็ ทำไม???????
    ชีวิต ตูถึงต้องเป็นแบบนี้ ทำกินอะไรก็ไม่เคยจะประสบผลสำเร็จเลย มันจะกรรมเวรอะไร
    กันนักหนา ทำไมไม่มาเอาชีวิตของเราไปเลยมันจะได้จบๆกันไป ทุกข์ใจเหลือเกิน
    พยามทำความเข้าใจ พยามวาง อุเบกขา และ ขันติ แล้ว แต่คงยังทำได้ไม่ดีพอ
    เริ่มเบื่อชีวิตอีกแล้ว เป็นคนดีนี่มันช่างลำบากซะเหลือเกิน ทำไมบางคนบุญก็ไม่ทำ
    เมื่อเห็นเราทำบุญ หรือสวดมนต์ ก็ว่าเราว่าบ้า ตกเย็นมาก็เห้นกินเหล้ากันมีความสุข
    เช้ามาไปขายของก็หมดกลับบ้าน ส่วนเรา วันๆนึงขายได้ สองร้อยกว่าบาท


    ทำไม??? เปลี่ยนสิ่งที่ขายก็แล้ว ลองหยุดขายแล้วกลับไปขายใหม่ ก็ยัง
    ไม่เคยได้กำไรเลย ขนาดทุนยังไม่ค่อยจะได้คืนเลย จนบางครั้งแฟนไม่เข้าใจว่าทำไมถึง
    ขายไม่ได้(แฟนเป็นคนออกทุนให้) น้อยใจชีวิตมากเลย 3,4ปีแล้วที่เป็นมา ไม่เคยได้
    หลับเป็นสุขเลย เพราะรู้ดีว่าพรุ่งนี้ก็ต้องเจอแต่เรื่องเดิมๆ ขอขมากรรมก็แล้ว, อุทิศบุญ
    ก็แล้ว, ทำหลายๆวิธีที่จะทำได้ ก็ยังเหมือนเดิม จะให้ทำยังไงอีก จะเอายังไงกับเรา


    หลังจากได้คำแนะนำจากเพื่อนๆไป เราก็พยามปฏิบัติ อย่างมีสติ แต่วันนี้
    เรายอมรับว่า สติแตกแล้ว ท้อเหลือเกินแล้ว กลับมาทุกข์ใจเหมือนเดิม เล่าให้ใครฟังก็
    ไม่ได้(มีแต่คนสมน้ำหน้า) "แฟนก็ไม่เข้าใจเราเลย คิดแต่ว่าเราขายของก็ต้องมีเงิน
    ก็ในเมื่อมันขายไม่ได้แล้วจะมีได้ยังไง ใช่ของมันยังเหลือก็จริงถ้ามันยังขายไม่ได้อีก มันไม่
    ต้องเน่า ต้องเสียรึไง แล้วจะให้ตูทำยังไงมันต้องกินต้องใช้ทุกวัน พออยู่เฉยๆไม่ทำอะ
    ไรมีน้อยใช้น้อย ก็โดนว่าอีก ว่าเธอจะอยู่เฉยๆไม่ได้นะต้องหาอะไรทำบ้าง แล้วจะให้ตูทำ
    ยังไง ทำกินก็ขาดทุนไม่ทำกินก็เหมือนเรามาเกาะเขากินอีก" โอ้ยชีวิต อะไรกันนักหนา


    แล้วจะให้ทำยังไง กรรมชั่วมันยังสงผลไม่เต็มที่อีกเหรอ มื่อไหร่กรรมดีจะ
    ส่งผลซะที ชีวิตมีแต่ทางตัน กินน้ำตาแทนข้าวได้มั้ย หลายปีแล้วนะที่จมอยู่กับความทุกข์
    เสียใจ ยังไม่พออีกหรือท่านเจ้ากรรมนายเวร ถ้าเรารู้ว่าสิ่งที่เราทำมันบาป มันไม่ดี เราก็
    คงไม่ทำหรอก ทุกวันก็สำนึกอยู่ในบาปที่ทำ(ที่พึงระลึกได้ และก็ไม่ทำอีก) แต่คงยังทำ
    ได้ไม่เพียงพอ ไม่ดีพอ การอยู่ตัวคนเดียวไม่มีใครก็แย่พอแล้ว ยิ่งมาเจอกรรมส่งผลแบบ
    นี้ เราจะต้องทำยังไง ปัญหามันไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่มันอยู่ที่ว่าราจะดำรงค์ชีพอยู่ได้
    อย่างไรเมื่อในทุกๆวันนี้ หนทางยังมืดมน เมื่อไหร่จะได้เจอแสงสว่างซักที
     
  3. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    ลองคิดในอีกมุมดูมั้ยครับ เช่น ขายหมูปิ้งแล้วเหลือมันเสีย ก็ขายของที่เสียยากกว่าเดิม เช่น รับน้ำขวดมาขาย หรือ ทำน้ำขายเอง ตัวอย่างก็ น้ำลำไย น้ำกระเจี๊ยบ เป็นของที่ทำง่าย กำไรสูง และการเก็บรักษาก็ง่ายด้วย เพียงแต่จะหนักหน่อยตรงคู่แข่งในทำเลเดียวกัน เพราะความที่ของมันขายง่ายนี่แหละครับ

    อีกเรื่องให้ลองคิดดูว่า เรามาขายหมูปิ้งเพราะอะไร เพราะเราเคยอ่านเจอ ได้ยินคนอื่นบอก บอกว่าขายแล้วรวยนะ กำไรดี เงินเหลือหรือเปล่า แต่ถึงจะเป็นจริง นั่นมันก็เป็นเรื่องของคนบอกครับ ไม่ใช่เรา เค้าขายดีไม่ได้แปลว่าเราจะขายแล้วได้ดีเหมือนเค้าครับ ผมบอกอย่างนึงว่า แต่ละคนมีทางชีวิตที่เป็นจุดเด่นของตัวเองอยู่ อยู่ที่ว่าจะเจอหรือไม่ บางคนเจอเร็วหน่อยก็รวยไว บางคนทั้งชีวิตยังไงก็ไม่เจอ ผมจบการตลาด เคยไปขายของกินแต่เจ๊ง แต่มาทำเกี่ยวกับคอมแล้วรุ่งขึ้นมา (หน่อย) มันดูแปลกมั้ยครับ ไม่น่าเกี่ยวกันได้เลย
     
  4. luck-luck

    luck-luck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +568
    ลองคิดว่าตัวเองตายไปแล้ว ด้วยการไปบวชที่วัดซักเจ็ดวันหรือสิบห้าวันดูบ้างหรือยังคะ ในเมื่อทำอะไรก็ไม่ดี ไม่ขึ้น ก็ทิ้งไปเลย สัก15 วัน สู้ไปก็แพ้ หลบไปอาศัยบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หลบเอาแรงสักพักดีกว่าแล้วค่อยออกมาสู้ใหม่ เรื่องของตัวเองว่าแย่แล้ว เจอเรื่องของคุณ น่าเห็นใจกว่าค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ
     
  5. luck-luck

    luck-luck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +568
    ที่ขาดทุนไปก็เพราะไปอ่านเจอ แล้วก็ได้ยินคนอื่นบอกว่าทำแล้วรวย ประจวบกับกรรมส่งผลด้วย เลยทำให้ใจมันอยาก แล้วก็ตัดสินใจทำแบบคาดหวังสูงด้วย ก็เลยเจ็บตัว ตอนนี้ก็ต้องหลบเลียแผล เพื่อออกไปสู้กันใหม่
     
  6. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    "ขอโทษนะคะเพื่อนๆสมาชิกทุกๆท่าน" คือว่าวันนี้มันเกินกำลังจะทนไหวแล้ว น้ำตามัน
    ไหลออกมาเอง ก็ยังยืนยัน ว่า ไม่ได้ ท้อ ในการทำบุญ หรือปฏิบัติธรรม


    แต่ ท้อ ในการดำรงค์ชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะทำอะไรก็ไม่เคยได้ดีเลยจริงๆ

    เหนื่อยใจมากค่ะ เวลาสวดมนต์นั่งสมาธิ เราก็อธิษฐานจิตขอบารมีจากองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เพื่อขอ หนทางแห่งการดับทุกข์ ให้ทุกข์ที่มีมลายไป รู้ค่ะว่าต้องกำจัดทุกข์ที่มีอยู่ด้วยตัวเอง
    และมีวิธีใดบ้าง แต่เรายังทำไม่ได้เลย หรือเป็นช่วงที่ ธรรมมะกำลังทดสอบอยู่ แล้วเราจะผ่านมัน
    ไปได้ยังไง ในเมื่อวันนี้ อ่อนล้าเหลือเกิน คนอื่นไม่เข้าใจเราๆก็ไม่ว่าอะไร แต่คนใก้ลตัวเรานี่ซิ ทำ
    ไมถึงไม่เข้าใจเรา แล้วอย่างนี้เราจะมีกำลังแรงใจ ลุกขึ้นสู้ต่อไปยังไง


    "หันไปมองรูป พ่อ,แม่ แล้วก็ยิ่งร้องไห้ใหญ่ ทำไมท่านถึงทิ้งเราไว้ให้อยู่คนเดียว
    ไม่พาเราไปอยู่กับท่านด้วย ท่านจะรู้มั้ยว่า ลูกคนนี้ ทุกข์ใจเหลือเกินแล้ว และกำลังได้รับผลกรรมอยู่
    ลูกจะทำยังไง ต่อไปดี จะไปทางไหนดี พ่อกับแม่ช่วยลูกด้วย"
     
  7. luck-luck

    luck-luck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +568
    รู้ัจักวัดอัมพวัน จ.สิงห์บุรีมั้ยคะ หลวงพ่อท่านให้อยู่ฟรีกินฟรีค่ะ ลองไปขอพึ่งบารมีท่านดูนะคะ
     
  8. ราคุเรียวซาย

    ราคุเรียวซาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    2,940
    ค่าพลัง:
    +8,515
    คุณทุกข์ใจ ระลึกถึงคุณพ่อแก้วแม่แก้ว
    ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ไว้ ในยามคับขันนี่ล่ะค่ะ
    ช่วยเราได้จริงๆ

    ที่คับขันลำบากจะรอดมาได้
    ถึงไม่รอดลำบากอยู่ก็ไม่น่าถึงตาย
    ถึงตายก็ไม่น่าตกนรก

    คุณคิดอย่างนี้นะคะ คุณทรรศมาลี(ชื่อคุณไพเราะมาก)
     
  9. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    ขอบคุณ ทุกๆคำแนะนำ และกำลังใจ วันนี้คืนนี้จะขอร้องไห้ซะให้พอใจ

    แล้วจะสู้ใหม่วันพรุ่งนี้ค่ะ เริ่มคิดเรื่องการไปบวชอีกครั้งแล้วค่ะ เมื่อไม่นานมานี้ก็ไปบวชมาได้ 5 วัน

    วัดอัมพวันเคยไปค่ะ แต่ไปกราบนมัสการหลวงพ่อ จรัญ เพียงอย่างเดียวค่ะ แต่ถ้ามีโอกาสก็อยาก
    ไปลองปฏิบัติ สติปัฎฐาน 4 ดู ซักครั้ง


    ขอให้เพื่อนๆ สมาชิกทุกๆท่าน จงเจริญทั้งในทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ

    "ตื้นตันใจ และ ซาบซึ้งใจ ในความมีน้ำจิตน้ำใจของ กัลยาณมิตรทุกๆท่าน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มีนาคม 2013
  10. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,135
    โมทนาสาธุค่ะ ..วัดอัมพวัน คือสติปัฏฐาน 4 เป็นวิปัสสนากรรมฐานที่ทำให้เกิดปัญญา มีสติรู้ตัวทั่วพร้อม ขอแนะนำให้ไปสัก 1 สัปดาห์คือรับศีลในวันโกนและไปลาศีลอีกวันพระนึงค่ะ ขอบอกว่าที่นั่นได้ช่วยขัดเกลากิเลสได้มากจริง ๆมีแต่ความสงบและจิตใจที่ร่มเย็น ชอบมากๆค่ะ เพราะก่อนหน้าที่จะไปค่อนข้างใจร้อน เรื่องท้าทีท้าต่อย ไม่เคยเกรง ได้อะไรมากมายค่ะ ขนาดปฎิบัติแบบเคร่งมากนะคะ แต่ก็ยังมีแำก๊งค์เพื่อนธรรมที่นั่นมาอีก 6-7 คนเลยค่ะ เราก็ชอบคุยเรื่องธรรมะ หลายคนที่นั่นก็ชอบฟัง เพราะบางท่านมาจากที่แตกต่างกัน บางคนไม่ลึกซึ้งในเรื่องของธรรม บุญบาป และไม่เข้าใจในเรื่องของทาน ศีล ภาวนา การอุทิศบุญ ดิฉันเลยชวนคุยเรื่องธรรม เรื่องปฎิบัติ เรื่องการกำหนดจิตให้มีสติ บางคนนะคะมาถือศีลมาวิปัสสนากรรมฐานตั้ง 1 อาทิตย์ แต่ก่อนที่จะมาโกรธแม่ ไม่พูดกับแม่ ทะเลาะกับแม่ ถามว่าเพื่อนใหม่ของดิฉันคนนั้นจะได้อะไรจากการมาปฎิบัติในครั้งนี้ ดิฉันเลยให้ข้อคิดและเตือนสติ บางคนนะคะตบยุงเป็นว่าเล่นเลย แต่ถือศีล 8 ฮ่าฮ่า5 ก็หัวเราะกันนะคะทั้งๆที่ นั่นมันศีลด่างแล้วเธอเอ๊ย คุณ tassumalee คะดิฉันแนะนำให้ไปให้ได้เพื่อปฎิบัติ อย่าลองค่ะทำเลย สำหรับดิฉันเอง ทุกข์ใจเรื่องคุณพ่อป่วยมาก ๆ ที่ทางแพทย์ปัจจุบันไม่รักษาแล้ว ดิฉันคิดว่าไม่มียาใด ๆ ที่จะทำให้ชีวิตของคุณพ่อของดิฉันดีไปกว่าการที่ดิฉันไปปฏิบัติและส่งบุญนั้นให้คุณพ่อ เพื่อเป็นเสบียงบุญให้มากที่สุด ก่อนที่ท่านจะเปลี่ยนภพภูมิหนะค่ะ อานิสงส์แรงด้วยค่ะ เพราะสังขารอาจจะแย่เพราะอาการเวทนาเหล่านั้นที่ต้องชดใช้วิบากกรรม แต่จิตและใจของท่านนั้น ไม่ทุรนทุกรายเหมือนเมื่อก่อนแล้วหละค่ะ อธิษฐานจิตถึงหลวงพ่อจรัญ นะคะขอให้ได้ไปปฎิบัติค่ะ คุณจะได้ไปจริง ๆ ค่ะ สู้ สู้นะคะ :cool: เด๋วดิฉันจะช่วยดูว่า นอกจากหมูปิ้งแล้ว จะมีอะไรน่าจะขายได้อีกค่ะ สำหรับที่เมืองกาญฯ

     
  11. Thrinai

    Thrinai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +555
    ขอตอบเป็นข้อๆนะจะได้เข้าใจง่ายๆ
    1.ตรวจสอบสิ่งที่จะขายนะ ของผิดศีลป่าว ผิดธรรมมั๊ย อันนี้ว่ากันในรายละเอียดลึก แบบขายหวยขายล๊อตเตอรี่ไม่เอานะ ขายเหล้าขายบุหรี่อันนี้ก็พาล่มจม
    2.ทำเล เหมาะกับที่จะทำมั๊ย
    3.มีคนให้ความรู้ดีๆรึป่าว (รู้จักคบคน "อะเสวะนา จะ พาลานัง ปัณฑิตานัญจะ เสวะนา")
    4.คุณไม่เชื่อในบุญ เพราะเมื่อบุญไม่ส่งผลคุณก็คร่ำครวญ อันแสดงถึงการไม่เคารพในบุญหรือเชื่อในบุญ ผู้เชื่อในบุญจะไม่โอดครวญต่อบุญที่ยังไม่ส่งผล อ่าน "หลวงพ่อดีเนาะ" แล้วเวลาขายได้ ก็ให้รู้สึกดีด้วยว่า วันนี้ขายได้ตั้ง xxx ไม้แหนะ วันนี้ได้เงินตั้ง xxx บาท
    5.จินตนาการทุกเช้าว่าวันนี้ขายดีมากจนไม่พอจะขาย และให้รู้สึกดีด้วย
    6.เจริญอิทธิบาท 4 ให้มั่น
    7.มั่นทำบุญ+ปฏิบัติธรรมให้เข้าใจกฏไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกสิ่งทุกอย่างมีขึ้นมีลง

    7 ข้อข้างบนคือการสร้างเหตุ เมื่อคุณไม่ลงมือปลูกต้นไม้ ไม่ใส่ปุ๋ยให้ดี ต้นไม้จะงอกงามได้ดีได้อย่างไร อดทนไว้ 4-6 เดือนถ้าทำอย่างเคร่งครัดเห็นผล
    7 ข้อนี้ไม่ได้เกิดด้วยบุญของคุณเองก็ไม่รู้ว่าจะได้มาจากที่ไหน

    ขอขมาขออโหสิกรรมสำหรับบางถ้อยคำที่ทำให้ขัดเคืองใจ
     
  12. tassumalee

    tassumalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    1,579
    ค่าพลัง:
    +8,825
    นอนไม่หลับค่ะ เมื่อก่อนขายข้าวเกรียบปากหม้อค่ะ พึ่งจะหยุดขายได้ไม่กี่วันเอง(ขายไม่ดีค่ะ
    เหมือนเดิม) ก็เลยคิดว่าลองเปลี่ยนมาขายหมูปิ้งดูดีกว่าเพราะมันกินง่ายใครๆก็กินกัน แต่ก็ยังขายไม่
    ได้เหมือนเดิมค่ะ


    ก่อนหน้าที่จะขายปากหม้อ ก็ขายน้ำ,น้ำปั่นมาก่อนค่ะ (ต่อให้อยู่ในที่ชุมชน ก็ขายไใดี)

    และก่อนที่จะขาย น้ำปั่น ก็ทำขนม บัวลอย วุ้นกะทิ ขายมาก่อน (ทำใส่ถุง แพ็คใส่กล่อง ปั่น
    จักรยานไปขายตามหมู่บ้าน)


    ก่อนหน้านั้น ก็ขายมันเผา ขายลาบ ต้มแซ่บ น้ำตก (เช่าที่ในแถวหลัง
    ห้าง ก็ขายไม่ค่อยดี หนำซ้ำรถก็ยังมาจอดบังหน้าร้าน ทำให้คนมองไม่เห็นอีก)

    เคยไปเป็นลูกจ้างช่วยเขา ขายของ ได้วันล่ะ200 เริ่ม8โมงเช้า กว่าจะเสร็จเก็บ
    ของมาล้าง กว่าจะได้กลับบ้านเกือบ2ทุ่ม (แฟนไม่ให้ทำค่ะ ให้มาหาขายของดีกว่า)

    อาจเป็นเพราะทำเลด้วยมั่งคะ แต่ทำไมร้านอื่นเขาก็ขายกันได้ มีแต่ร้านเราร้าน
    เดียว (เป็นรถเข็นค่ะ จะใช่เชือกมัดท้ายมอไซค์ลากออกไปขาย) บางทีไปเจอที่ดีๆก็จะ
    มีการหวงที่บ้าง เราก็จะไม่ไป แต่ตรงที่ๆเราไปขายทุกวัน ก็เป็นที่ชุมชน รถผ่านไปมาเยอะ
    ค่ะ


    ส่วน เรื่อง ปฏิบัติธรรม วัดอัมพวัน ขอเตรียมความพร้อมก่อนนะคะ เราไปแน่ค่ะ
    วันนี้ไม่ได้สวดมนต์(มัวแต่ร้องไห้อยู่) จะหมั่นอธิษฐานจิตค่ะ ระลึกถึงองค์หลวงพ่อ ตามคำแนะนำ
    ของ คุณ สีลสิกขา


    พรุ่งนี้ก็จะพยามขายหมูให้ได้หมด จะได้กลับมาขายข้าวเกรียบปากหม้อเหมือนเดิม
     
  13. ปลาแมว

    ปลาแมว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +797
    เห็นท้อแท้แบบนี้ ท่าทางจะหนัก เข้าใจความรู้สึกดีมาก ๆ เพราะช่วงชีวิตนึงที่ผมเจอปัญหาตอนทำธุรกิจครั้งแรกเจ๊ง ผมก็มองว่าโลกแม่งหม่นเทาดำป่นปี๊ ไอ้โน่นไอ้นี่แม่งก็เลวไปหมด จริง ๆ แล้ว ตัวผมเองแหละที่เลวคิดลบไม่หยุดไม่หย่อนเองในตอนนั้น ขาดทุนนิดหน่อยก็กลัว มันเลยเจ๊งเลย เป็นไงล่ะ 55

    ผมจะเล่าประวัติคน ๆ นึงให้ฟัง คนนี้เป็นเพื่อนแม่ผมเอง สมัยก่อนเค้าเป็นข้าราชการครูจน ๆ คนนึง ความเป็นอยู่ยากจนลำบาก เค้าก็พยายามขายหลายอย่างไม่ลงตัวซักอย่าง จนมาวันนึง เค้าค้นพบว่าเมื่อเค้าลองขายสลัด มันขายดีกว่าอย่างอื่น แต่มันก็เหนื่อยเพราะผักเน่าเสียง่าย และตัวเค้าก็ต้องตื่นแต่เช้า ซื้อผัก ทำสลัด ปั่นจักรยานเอาไปส่งตามร้าน เสร็จแลว้ก็ต้องไปทำงานปกติต่อ ตกเย็นก็เตรียมของทำน้ำสลัด ชีวิตก็วนเป็นวงแบบนี้เรื่อยไป

    มาวันนึง เค้าค้นพบว่าที่สลัดเค้าขายดี เป็นเพราะน้ำสลัดที่เค้าทำเองนั้นอร่อย ไม่เหมือนใคร ท้ายสุดเค้าเลยมาโฟกัสที่น้ำสลัด

    รายละเอียดมันเยอะ แต่เอาเป็นว่า สุดท้ายแล้วเค้าก็คือ เจ้าของน้ำสลัดครูสรรเสริญนั่นเอง (ปัจจุบันขายแบรนด์ให้กับบริษัทยักษ์แห่งหนึ่งแล้ว แต่ยังคงผลิตต่อภายใต้สูตรเดิม)

    ผมถึงได้บอกว่า คุณอาจต้องเหนื่อยหน่อย ลองบ่อย ลองแล้วพลาด แต่ว่าถ้าไม่ลองคุณไม่มีวันรู้ว่า อะไรคือสิ่งที่เหมาะกับคุณมากที่สุด ทำให้คุณสบายขึ้นได้ อย่างตัวอย่างของครูสรรเสริญ ถ้าเค้าไม่พบสลัด บางทีทางเดินของเค้าตอนนี้ก็อาจจะไม่ต่างกับข้าราชการครูทั่ว ๆ ไปก็ได้ครับ ถ้าคุณอยากพบทางเดินของคุณเอง คุณต้องสู้ครับ

    เผื่อไว้นะครับ การตายมันง่าย แต่มันไม่ใช่ความกล้าหาญ มันคือการหนีปัญหา และถ้าคุณตายเพราะปัจจัยตัวนี้บีบ คุณก็จะเจอบททดสอบที่บีบหนักมากขึ้นไปอีกในการเกิดครั้งต่อไป จะบีบจนแทบไม่อยากมีชีวิต แต่การอยู่เผชิญหน้าปัญหาแล้วชนะมันได้ คือสิ่งที่ยากกว่ามาก และพิสูจน์ว่าการเกิดมาเป็นคนนั้น มันคุ้มค่าครับ
     
  14. Thrinai

    Thrinai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    200
    ค่าพลัง:
    +555
    ยังไงก่อนจะไปขายข้าวเกรียบปากหม้อเหมือนเดิม ขอให้วิเคราะห์ก่อนว่า เมื่อก่อนขายไม่ดีเพราะอะไร อร่อยสู้เจ้าอื่นได้มั๊ย? มีอะไรแปลกใหม่ที่คนสนใจจะกินรึป่าว? มีคู่แข่งเยอะมั๊ย? นี่คือรายละเอียดที่จะต้องวิเคราะห์ครับ ซึ่งจะต้องมีกัลยาณมิตรมาช่วยวิเคราะห์ และพัฒนาสูตรการทำ ตรงนี้ล่ะครับคือเหตุ
    มีผู้รู้กล่าวไว้ว่า "ทำเหตุให้ดีผลยกไว้" เปรียบได้กับการปลูกต้นไม้ บุญคือปุ๋ย คุณไม่ปลูกต้นไม้ให้ดี ไม่คอยถอนหญ้า ไม่คอยไล่นกไล่แมลงศัตรูพืช ไม่ให้น้ำ ผลก็ออกมาไม่ดี ถ้าคุณทำสิ่งนี้ไว้ดีครบแล้ว ใครก็มาห้ามผลไม่ได้ครับ

    ส่วนปัญหาอุปสรรคนั้น ผู้รู้สอนให้มองเป็นความท้าทาย เป็นการสร้างบารมี เป็นตัววัดผลว่าสิ่งที่ทำมาดีหรือไม่ เหมือนเป็นครู ที่ห่วงศิษย์อยากให้เป็นคนเก่งอย่างแท้จริง จึงส่งปัญหาอุปสรรคเข้ามาพัฒนาศิษย์ (อันนี้สอนผู้พิมพ์ด้วย 555+)
    พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้หนีปัญหานะครับ ท่านสอนให้เราสู้กับปัญหาด้วยปัญญา ถ้าเราหนีปัญหาก็เท่ากับว่าเราไม่ให้ความเคารพต่อคำสอนของท่านนะครับ แล้วที่เราคอยสวดมนต์ "พุทธัง ภะคะวันตัง อภิวาเทมิ" หรือ "ธัมมังนะมัสสามิ" ก็เท่ากับพูดแค่ลมปากเท่านั้นไม่มีค่าอะไรเลย

    ขอให้เข้มแข็งและอดทนต่อปัญหานะครับ (ผมเองก็ด้วย 555+ เพราะผมเองก็ต้องพัฒนาตัวเองไปอีก 1 ขั้นเหมือนกัน )
     
  15. luck-luck

    luck-luck เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +568
    เห็นด้วยค่ะ เพราะส่วนมากเราก็คิดถึงผลที่จะได้ซะมากกว่า ทำให้เกิดการรอคอย ยิ่งทราบอานิสงค์ของการทำบุญแต่ละอย่างด้วยแล้วยิ่งแทบจะชะเง้อคอคอยแล้วพอไม่ได้ก็ผิดหวังพาลจะไม่อยากทำบุญแบบนั้นๆไปเลย

    แต่หากเราตั้งคิดแบบคุณ Thrinai "ทำเหตุให้ดีผลยกไว้" เราก็จะมีกำลังใจทำ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยอ่านอานิสงค์ของการทำบุญเท่าไรแล้ว (มันจะทำให้ใจอยากแล้วก็เกิดการคาดหวังและรอคอย) คนอื่นอาจจะไม่เป็นก็ได้นะแต่ตัวเองเป็นเลยต้องหาวิธีในการทำเหตุให้ถึงพร้อมซึ่งก็กำลังศึกษาอยู่เช่นกันค่ะ
     
  16. สุโขสุขี

    สุโขสุขี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    912
    ค่าพลัง:
    +1,469
    เห็นด้วยกับคุณluck ครับ
    ลองไปบวชที่วัดดูก็ดีนะ ครับ
    บางทีผลบุญในการบวชอาจช่วงในเรื่องที่เราติดขัด เรื่องที่เป็นปัญหาให้คลี่คลายลง หรืออาจจะะเห็นลู่ทางทำมากินอื่นที่เหมาะกับเรากว่าตอนนี้ก็ได้ ครับ
    ผมจะเป็นกำลังใจให้คุณtassumalee นะ ครับ สู้ๆ
     
  17. sitmatrix

    sitmatrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,365
    อย่างแรกเลยนะ คุณ ทำกรรม อะไร ที่ว่าบอกว่า ผิดพลาดประการใด
    ขอให้ ย้อนไปดู ที่ผมบอก แล้วรีบไปแก้ไข ทำบุญเสริมดวงชะตา กรรมจะได้เบาลง
    ถ้าเงินไม่ค่อยมี ก็ไปล้างห้องน้ำที่วัดเลย 4 ครั้ง กลับมาจะโชคดี จุดประทัด หน้าบ้าน 100 นัด ประทัดไม่แพงครับ 100 นัด ไม่เกิน 20

    ทำบุญแล้วทุกครั้ง เวลากรวดน้ำ อย่าเอานิ้วรอง อุทิศให้ เทวดาประจำราศีเกิด เกิดวันอะไร ก็ อุทิศให้ท่านนั้น วันพฤหัส ก็ พระพฤหัสเทวา แล้วก็ อุทิศ ให้แก่ เจ้ากรรมนายเวรของ ข้าพเจ้า ถ้าเคยฆ่าสัตว์ ก็ อุทิศให้ สรรพสัตว์น้อยใหญ่ ที่ข้าพเจ้า เคยฆ่า ที่เคยทำผิดพลาดประการใด ก็ ขออภัย อโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้า ด้วยเถิด

    ถ้าทุกข์มากๆ ก็ กินมังสวิรัช เลย ก็ ทุกวันเกิด เช่น เกิด วันพฤหัส ก็ กิน ทุกวันพฤหัส

    ต่อมา ถ้าเกิดปีนักษัตร ตามนี้ คือ ปีกุน ปีระกา ก็ให้ หยุดกินเนื้อสัตว์ ที่ตรงกับปี นักษัตร ของเรา กินไปแล้ว มันจะไม่ดี เท่ากับ กินตัวเอง

    ทำแล้วจะลื่น จะคล่อง เห็นผลได้ จริง เพราะทำมาแล้ว คนที่ดูรายการพลังชีวิต ก็ นำคำแนะนำ แบบนี้ ไปทำ เขาก็เห็นผลกัน เพราะ ส่วนใหญ่ คนก็ทำแท้ง กันเยอะ ฆ่าสัตว์ ก็เยอะ

    แล้วยิ่งคุณบอกว่า ขายลาบ น้ำตก มี เนื้อวัว ด้วย มันไม่ดีมากๆ เลย ทำให้ สะดุด ติดขัด
    ถ้า หยุดกินเนื้อวัวได้ เลิกไป จะดีมากๆ

    หรือถ้า อยากจะขอบารมี พระอวโลกิเตศวรมหาโพธิสัตว์ พระแม่กวนอิม หรือ องค์เสด็จพ่อท้าวเวสสุวรรณ ก็สามารถขอบารมี องค์เทพ มาช่วย โดยคุณสามารถ ทำบุญถวาย หรือ กินมังสวิรัชถวาย กี่วัน ก็ว่าไป เห็นผลมากันหลายๆ คนแล้ว ไปสัมภาษณ์งาน ก็ ขอกินมังสวิรัช ถวายองค์ ปู่เวสสุวรรณ ก็ ผ่าน ได้งาน เพื่อนอาจารย์สมศักดิ์ เขาเล่าให้อาจารย์ ฟัง

    ขายของกิน ขายได้ ก็ อธิฐานบอก สรรพสัตว์น้อยใหญ่ ที่เราขายว่า ถ้าได้กำไร เราก็จะทำบุญ กรวดน้ำ อุทิศให้

    ความจริงอย่างหนึ่งคือ ร้านอื่นๆ ที่เขาขายดี เขาก็ บูชา ของ วัตถุมงคล กันทั้งนั้น หละครับ
    ไม่เชื่อผม ก็ไปลองหลอกถามได้ เขามีกันทุกร้านหละ ใส่ในเกะ เก็บเงิน ไม่ว่าจะเป็น สาริกา หรือ ผ้ายันต์ ท้าวเวสสุวรรณ พญาเต่าเรือน เจ้าเงาะ กุมารทอง หรือ เขาตั้งของไหว้ ใส่ถ้วยเล็กๆ วางไว้ หน้ารถเข็น หน้าร้าน ให้ ผี เร่ร่อน ได้ มากิน แล้วก็ขอให้
    ช่วยให้ เรียกลูกค้าเข้าร้าน ถ้าบอกว่า ขายอาหาร มันไม่ดี ผิดศีล แต่ อ.สมศักดิ์ ท่าน ก็ยัง เปิดร้าน ก๊วยเตี๋ยวไก่มะระ เลย ล่าสุด นี่เอง พระแม่กวนอิมมาบอกให้ อาจารย์ ทำ
    คือ ถ้าเราไม่สั่งฆ่า มันไม่บาป เหมือน ฆ่า มาขาย ครับ ต้องดูเป็นกรณีไป แล้วก็ ไม่ใช่เนื้อวัว เนื้อวัว นี่ห้ามไปเลย เพราะ คุณ ก็ต้องชิม ใช่ไหมรสชาติ อย่างไร ก็ แปลว่า
    กินเนื้อวัว เศษกรรม มันติดตามมาส่งผล ถ้าเชื่อ ก็ลองทำ นะครับ ส่วนเรื่องการให้ทาน ที่ผม โพสไว้ นั่น พระแม่กวนอิม มาสอนนะครับ ไม่ใช่ผมสอนเอง อาจารย์สมศักดิ์ ท่านผ่านญาณพระอวโลกิเตศวร เพื่อโปรดสัตว์โลก นั้น ก็ดูเอา ว่า ทำไม คนจบ ป.6 ถึงรวยได้ ทำงานทุกอย่าง ตัดเศษขี้ด้าย ได้เงินวันละ 20 บาท ของเราจบสูงกว่า อีก
    คนเรา ถ้า ขยัน อดทน ๆ ๆ จะผ่านไปได้

    ท่านเจ้าที่ บอกผมว่า เจ้ากรรมนายเวรไม่ปล่อยให้เราตายหรอก เขาก็ ทำให้เราลำบาก
    แล้วก็ดูว่า เราจะผ่านไปได้ หรือปล่าว ไม่ต้องไปซีเรียสหรอก หมั่นสวดมนต์ ทำบุญ ตามอัธภาพ

    ห้ามบอกว่า ฉันจน ฉันลำบาก ต้องบอกว่า ฉันดี ฉันเฮง ฉัน Work!!!

    พูดดี มันก็ดีตามปาก พูดไม่ดี มันก็ไม่ดี ตามปาก
     
  18. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,940
    ท่านสุขีฯตั้งกระทู้ถูกกาล จึงมีเพื่อนร่วมทุกข์มากมายมาร่วมแสดงทัศนะและประสบการณ์ นับว่ามีประโยชน์มากจริงๆ... นี่ถ้าท่าน"ชั่งหัวมัน"(ตามรูป)คาดการณ์ถูกในเรื่องธุรกิจการทำมาหากินได้เหมือนการตั้งกระทู้แล้ว ท่านอาจจะไม่มีเวลาเข้ามาในนี้เลย หรือมาอีกทีก็ในฐานะสมาชิกพิเศษผู้บริจาคเงินค่อนล้านสนับสนุนเว็บพลังจิต...แต่เอาละ เวลานี้อาจยังเป็น common memberอยู่ แต่ใครจะรู้ว่า อีกไม่ช้านาน ท่านจะเป็นpremium member ก็ได้...

    ความทุกข์ที่เกิดเพราะ พลัดพรากจากของรักบ้าง ไม่สมหวังในสิ่งปรารถนา เสื่อมลาภ ยศ ถูกนินทาฯลฯ ส่วนหนึ่งมาจาก บาปเก่า แต่ไม่ใช่ทั้งหมดเสียทีเดียว เพราะไม่มีอะไรเกิดได้ด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งเพียงเดียวในโลกนี้ ยังมีปัจจัยอื่นมาร่วมด้วยช่วยกัน ที่จะผลักดันให้ดีขึ้นหรือซ้ำเติมให้เลวลง หรือคงที่จะไปดีก็ไม่ใช่ จะไปร้ายก็ไม่เชิง เป็นต้น...


    มาดูกันว่าปัจจัยที่ห้ามกรรมดีมิให้ส่งผลได้ มีอะไรบ้าง...


    วิบัติ 4-- ข้อเสีย, จุดอ่อน, ความบกพร่องแห่งองค์ประกอบต่างๆ ซึ่งไม่อำนวยแก่การให้ผลของกรรมดี แต่เปิดช่องให้กรรมชั่วแสดงผล, ส่วนประกอบบกพร่อง เปิดช่องให้กรรมชั่ว

    1. คติวิบัติ (วิบัติแห่งคติ, คติเสีย; )ในช่วงยาวหมายถึง เกิดในกำเนิดต่ำทราม หรือที่เกิดอันไร้ความเจริญ
    ในช่วงสั้นหมายถึงที่อยู่ ที่ไป ทางดำเนินไม่ดี หรือทำไม่ถูกเรื่องไม่ถูกที่ คือ กรณีนั้น สภาพแวดล้อมนั้น สถานการณ์นั้น ถิ่นนั้น ตลอดถึงแนวทางดำเนินชีวิตขณะนั้น ไม่เอื้ออำนวยแก่การกระทำความดีหรือการเจริญงอกงามของความดี แต่กลับเปิดทางให้แก่ความชั่วและผลร้าย

    2. อุปธิวิบัติ (วิบัติแห่งร่างกาย, รูปกายเสีย) ในช่วงยาวหมายถึงร่างกายวิกล วิการ ไม่งดงาม บุคลิกภาพไม่ดี ในช่วงสั้นหมายถึงสุขภาพไม่ดี เจ็บป่วย มีโรคมาก

    3. กาลวิบัติ (วิบัติแห่งกาล, กาลเสีย) ในช่วงยาวหมายถึง เกิดอยู่ในสมัยที่โลกไม่มีความเจริญ หรือบ้านเมืองมีแต่ภัยพิบัติ ผู้ปกครองไม่ดี สังคมเสื่อมจากศีลธรรม มีการกดขี่เบียดเบียนกันมาก ยกย่องคนชั่ว บีบคั้นคนดี ในช่วงสั้นหมายถึงทำผิดกาลผิดเวลา

    4. ปโยควิบัติ (วิบัติแห่งการประกอบ, กิจการเสีย) ในช่วงยาวหมายถึงฝักใฝ่ในทางที่ผิด ประกอบกิจการงานที่ผิด หรือมีปกติชอบกระทำแต่ความชั่ว ในช่วงสั้นหมายถึงเมื่อกระทำกรรมดี ก็ไม่ทำให้ถึงขนาด ไม่ครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ ทำจับจด ใช้วิธีการไม่เหมาะกับเรื่อง หรือเมื่อประกอบความดีต่อเนื่องมา แต่กลับทำความชั่ว หักล้างเสียในระหว่าง


    วิบัติ 4 นี้ เป็นสิ่งที่จะต้องนำมาประกอบการพิจารณาในเรื่องการให้ผลของกรรม เพราะการปรากฏของวิบาก นอกจากอาศัยเหตุคือกรรมแล้ว ยังต้องอาศัยฐานคือ คติ อุปธิ กาละ และปโยคะ เป็นปัจจัยประกอบด้วย กล่าวคือ จะต้องพิจารณา กรรมนิยาม โดยสัมพันธ์กับปัจจัยทั้งหลายที่เป็นไปตามนิยามอื่นๆ ด้วย เพราะนิยาม หรือกฎธรรมชาตินั้นมีหลายอย่าง มิใช่มีแต่กรรมนิยามอย่างเดียว..


    ที่มา..http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=176

    ข้างบนเป็นทัศน์ทางธรรม เป็นหลักการที่เป็นจริงไม่เป็นอื่นไม่ว่าเวลาใหน..เป็นสิ่งที่ต้องรู้เพื่อความเข้าใจและแก้ไขทุกข์ของตนๆ..

    ต่อไปนี้ เป็นวิทยาทานทางโลก เพื่อความเจริญ รุ่งเรืองในธุรกิจการงาน ซึ่งมีผู้แสดงไว้ เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ จึงใคร่แนะนำท่านผู้สนใจอ่านได้ที่นี่..

    ก้าวแรกกับการค้าขาย [บทที่ 1] การเริ่มต้น - Pantip

    ขอเป็นกำลังใจแก่ผู้ร่วมทุกข์ทุกท่าน ขอให้มีความสุขความสำเร็จในกุศลปรารถนาปละบริบูรณ์ด้วยโภคะและปัญญาตลอดกาลครับ

    บุญใดเกิดจากวิทยาทานที่ยกlinkมา บุญนั้นทั้งหมดพึงสำเร็จแก่ท่านผู้แสดงวิทยาทาน เทอญ..


    ป.ล. ข้าพเจ้าเองตกงานมาระยะหนึ่ง เพิ่งได้งานใหม่ที่ดีกว่าเดิมเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา..เข้าใจดีว่าในยามทุกข์ เวลาช่างช้านานราวอสงไขยกัปป์ ท่านทั้งหลาย แม้จะยาวนานเช่นนั้น วันเวลาที่ดีๆจะมีมาแน่นอน โปรดอดทน และตั้งมั่นในธรรมอันดีที่พระพุทธองค์ตรัสไว้ดีแล้ว เพราะนี่คือที่พึ่งที่แท้จริง ทั้งในยามสุข และทุกข์...
     
  19. sitmatrix

    sitmatrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    675
    ค่าพลัง:
    +1,365
    ก็อย่าให้ ที่ผมมาเล่า มาบอก เสียของ เพราะผมก็จะรับ กรรมจาก คนที่ได้ แนวทางแก้ไข ไป 10% ตอนนี้ ผมก็เลย สะดุด ติดขัด อยู่ ก็ไม่เป็นไร รู้แล้วก็ อย่าปล่อยให้ เจ้ากรรมนายเวร มาขัด อย่าขี้เกียจ อย่าลบหลู่ ถ้าอันไหน มันดี เจ้ากรรมนายเวร ขัดตลอด แต่อันไหนมันไม่ดี ทำแล้ว บาป เจ้ากรรมนายเวรไม่เคยขัดเลย ปล่อยให้ทำเต็มที่ เขาถึงบอกว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด

    รายการพลังชีวิต ปี 2553 เอาไปดูว่า อาจารย์ท่าน แนะนำ แบบที่ผมเล่าไว้ จริงหรือไม่ ผมโกหก หรือปล่าว

    <object width="420" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube-nocookie.com/v/KaZC1gQrTz8?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube-nocookie.com/v/KaZC1gQrTz8?hl=en_US&amp;version=3&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="420" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>
     
  20. พูดทำไม

    พูดทำไม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +244

    สวัสดีคุณ ddman ถ้าไม่บอกว่าตกงานมาได้สักระยะหนึ่ง คงคิดว่าคุณเป็นพระหรือ นักบวชแน่ๆเลย ชอบแนวคิดของคุณ ddman มาก มีเหตุผลมีที่มาที่ไปตลอด พออ่านคอมเม้นท์แล้วทำให้เรารู้สึกหายจากข้อสงสัยตรงนั้น อธิบายไม่ถูก เหมือนใจมันเบาหน่ะ :cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...