เรื่องเด่น วิธีถอดกายทิพย์ที่คุณก็ทำได้

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย ปฐมฌาณ, 21 กรกฎาคม 2012.

  1. Miss Brown

    Miss Brown เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    1,779
    ค่าพลัง:
    +19,376
    เพิ่งผ่านมาเจอค่ะ ขอบคุณที่แชร์ประสบการณ์และขออนุโมทนาบุญในการฝึกสมาธิด้วยค่ะ
    เป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ฝึกใหม่อย่างเรามาก ๆ ค่ะ


    ตามความเห็นส่วนตัว การถอดกายทิพย์จะถอดได้ก็ต้องได้ฌานสี่ก่อนค่ะ
    เราเคยฝึกมโนมยิทธิมาก่อน และอาศัยอาณาปานสติกรรมฐานในการทำสมาธิ
    ฝึก ๆ ไปนี่ไล่ฌานไม่เป็น ไม่รู้ฌานไหนเป็นฌานไหน ตามประสานักเรียนหน้าใหม่
    วันนึงเกิดอยากรู้ค่ะว่า เรานั้นถึงฌานสี่หรือยัง? ก็เลยอาศัยตั้งจิตอธิษฐานขอทราบ
    คืนนั้นก็เลยได้เรื่อง หลังจากนอนหลับไปสักพัก
    เห็นตัวเองนอนอยู่ที่เตียงแต่เป็นกายหยาบ
    มองดูตัวเองเสร็จก็เดินทะลุกำแพงห้องนอนออกไปเลย แปลกใจแกมประหลาดใจ
    แล้วก็ร้องอ๋อ ความรู้สึกของการเดินทะลุกำแพงเป็นอย่างนี้นี่เอง
    ไม่รู้ว่าออกมาได้อย่างไร เสร็จแล้วก็เหาะขึ้นไปยืนอยู่บนหลังคาบ้าน แล้วมองดูรอบ ๆ อย่างพิศวงงงวย
    ได้ยินเสียง ๆ หนึ่งบอกว่า "ก็อยากรู้ไม่ใช่เหรอว่าได้ฌานสี่หรือยัง? แล้วทีนี้เข้าใจไหม?"
    อื้ม...เข้าใจมั้งคะ...แล้วก็เข้าใจความรู้สึกของการเป็น "วิญญาณ" จริง ๆ
    ว่ามันโดดเดี่ยวเดียวดาย ไร้ผู้ปกป้อง คุ้มครอง ไร้อำนาจมันเป็นอย่างไร
    พอเสียงนั้นพูดเสร็จก็ตื่นขึ้นมาพอดี
    เป็นความรู้สึกกึ่งประหลาดใจ แกมสงสัยตามธรรมดาของคนที่ยังมีกิเลสค่ะ...


    แชร์ประสบการณ์ให้ฟังนะคะ
    หลัง ๆ ก็ออกไปแบบมีสติมากขึ้นค่ะ แต่ก็ยังควบคุมไม่ได้ ๑๐๐% ค่ะ
    มีคนบอกว่าถ้ากลัวจะออกไปแบบไร้ทิศไร้ทางก็ให้อธิษฐานกันก่อน
    ถ้าไม่รู้จะไปไหนก็ให้ไปพระนิพพานโลด ว่างั้น พูดง่ายแต่ทำยากอ่ะนะคะ แหะ ๆ
     
  2. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    ขอถามขั้นตอนการทำสมาธิของคุณปฐมฌาน กำหนดจุดไว้ที่ตรงเหนือสะดือแล้ว ทราบอากาสมาธิได้อย่างไรครับ ว่าจะถอดกายทิพย์ แล้วระหว่างตั้งสมาธิอยู่ตอนนั้น เห็นนิมิตอะไรเกิดขึ้นตรงฐานที่ตั้งของใจตรงนั้นหรือเปล่า
     
  3. panadon69

    panadon69 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +3
    คุณครับ ช่วยชี้ทางสว่างให้ผมที 0843682672
     
  4. ความตาย-1

    ความตาย-1 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +44
    สงสัยนอนหลับ(ฝัน) ว่าตนเองถอดกายทิพย์ได้
     
  5. camrymax

    camrymax นายองครักษ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    469
    ค่าพลัง:
    +1,257
    ขอขอบคุณทั้งท่านเจ้าขอวกระทู้และท่านอื่นๆอีกหลายท่านทั่มาแชร์ประสบการณ์
    ให้ทราบเพื่อเป็นแนวทางของนักปฏิบััติท่านอื่นๆอีกต่อไป..สาธุๆอนุโมทนาด้วยนะครับ.
     
  6. ศีเลนะ

    ศีเลนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +101
    เชิญเจ้าของกระทู้มาเล่าประสบการณ์ต่อครับ...มีหลายคนติดตามอยู่ครับ
     
  7. คน-ไทย

    คน-ไทย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2013
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +44
    ขอคำชี้แนะ

    ข้าน้อย บุญน้อยด้อยวาสนา
    ภาวนาก็ยังไม่เป็นช่วยเมตตาแนะนำ ให้รู้เห็นบ้างเถิดครับ
    ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 ธันวาคม 2013
  8. คน-ไทย

    คน-ไทย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2013
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +44
    ผมเองก็อยากปฏิบัติเช่นเดียวกับพวก
    ท่านทั้งหลายที่แชร์กันในนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2013
  9. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    สิ่งที่เป็นอุปสรรค...และทำให้เข้าใจผิดว่า..ตัวเองได้ถอดกายทิพย์...ก็คือ

    จิตหยั่งรู้.....ที่เรียกรู้อดีตอนาคต

    แต่การรู้เหล่านั้นอาศัยนิมิต...ถึงรู้ได้..

    แต่การถอดกายทิพย์คือไปเจอสถานที่จริง....ทุกอย่างจริงหมด...เพียงแต่อยู่อีกมิติหนึ่ง...

    ระยะเวลาการเกิดกายทิพย์ท่องเที่ยว....กับการใช้จิตหยั่งรู้แตกต่างกันลิบลับ

    การใช้จิตหยั่งรู้สามารถกระทำได้รวดเร็วมากแค่...แค่ชั่วเวลาไก่บินตก...จิตนั้นสามารถไปประมวลเหตุการณ์แสดงภาพ...ให้เรารับรู้ได้แล้ว

    นิมิตแห่งการหยั่งรู้จะตั้งอยู่ได้นานหรือไม่...ขึ้นกับคำถามที่ถาม...เมื่อจิตตรวจสอบเสร็จ...สมาธิก็จะถอน....ถ้าอยากรู้เรื่องอื่นก็ถามอีก...อุปปมาเหมือนฉายภาพภยนต์

    แต่การท่องเที่ยวของกายทิพย์..ไม่มีลิมิต....ไปได้เรื่อยๆ...หลายนาที.
    ..เว้นแต่มีเรื่องตกใจจิตก็จะกลับเข้าร่าง...บางท่านไป 15 ชั่วโมง ไป 2-3 วัน
    ที่เราเรียกว่า...ตายแล้วฟื้น....เพราะไปนานเกินไป

    การเกิดกายทิพย์หรือถอดกายทิพย์..สำหรับตัวของเกล้าฯเองนะ...เกิดได้ 4 ประการ

    1.เกิดจากการหลับฝัน....เมื่อกายเนื้อเหนื่อยล้า....แต่กายทิพย์หรือดวงจิตยังมีกิเลส
    ดวงจิตนั้นย่อมออกท่องเที่ยวไปไม่ยอมพักเหมือนกายเนื้อ
    2.ตั้งใจทำให้เกิด...เพื่อไปติดตามดวงวิญญาณบางดวง...หรือดวงจิตบางดวงให้
    กลับคืนเข้าร่าง.....
    3.มีวิญญาณดวงอื่น...มาสื่อ....ขณะกำลังจะเคลิ้มหลับ
    4.ถูกเทวดาแกล้ง...คือมีครั้งหนึ่ง...จิตเกิดสงสัยว่า..ที่เราสวดมนต์เชิญเทวดามาฟังทุกวัน...จะมีผู้มาฟังอยู่หรือ...คืนนั้น..ก็ได้ลอยอยู่กลางอากาศ...ตกใจแทบตาย
     
  10. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    เกล้าฯ..ขอแนะนำให้อ่านหนังสือ..มโนมยิทธิของฉัน.ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    กับหนังสือประวัติหลวงพ่อปาน....

    ทางสว่างย่อมหาได้จาก..ท่านครูอาจารย์...เกล้าฯเองยังไม่เก่ง...เพียงแต่บอกเล่าประสบการณ์....แชร์ประสบการณ์...ขอรับ

    แต่มีข้อแนะนำอย่างหนึ่งคือ...ถ้าทำแล้วมัวแต่คอยสังเกตว่า...เมื่อไหร่กายทิพย์จะออกจากร่าง....ไม่เป็นหรอก..จะเป็นฟุ้งซ่านแทน
    ต้องวางจิตวางใจ..............

    ที่เกล้าฯ..เอาสติไว้ที่สะดือนั้นเพราะกลัวผี...

    ไม่ได้คิดจะถอดร่าง...แต่เป็นเอง..เนื่องจากกายวิเวก...จิตวิเวก

    แต่ที่สังเกตเห็นการถอดร่างทุกขณะจิต..นั้นเป็นเพราะจิตตื่น...จิตกับสติ..ทันกัน..เป็นมหาสติ..ไม่ใช่สติธรรมดาทั่วไป

    .ซึ่งเกิดจากการอยู่ในสถานที่..ที่จิตบอกว่าอันตราย..


    ..ถ้าจิตไม่ตื่น...รับรอง...สติตามจิตไม่ทัน...เพราะจิตเกิดขึ้น...เร็วกว่าเสียง..จะว่าเหนือเสียงก็ใช่

    ด้วยเหตุนี้แหละ...ครูบาอาจารย์ทั้งหลายจึง...ทรมานฝึกฝนตนเอง...ด้วยการไปอยู่ป่าช้า..ป่าชัฎ.ที่จิตคิดว่าอันตราย..เพื่อฝึกสติ...ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,916
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,494
    บอร์ดนี่แหละ เคยมี ดญ.คนหนึ่งตั้งกระทู้...ว่าตนนั่งกรรมอยู่ในห้องนอนตัวเองนะ นั่งๆไปสักพักหนึ่ง โน่นเลยสวรรค์ ไปพบเห็นหลวงปู่ดู่บนสวรรค์โน่น ตนเองก็ทำกรรมฐานอยู่บนโน่น ว่าเป็นของจริงไหม ที่เด็กเห็นและรู้สึกว่าไปเดินอยู่บนโน่น หรือเป็นมายาของจิต ถูกความ (จิต) คิดมันหลอกเอา
     
  12. อนาคินร์

    อนาคินร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2013
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +1,437
    เป้นกะทู้ที่น่าติดตามและน่าสนจัยอยู่ไม่น้อยเลยนะคับ...ฟังจากที่เจ้าของบ้านที่เล่ามาแล้ว โดยส่วนตัวคิดว่าน่าจะทำได้จริง..เพราะลักษณะการเดินทางออกจากร่าง..และขั้นตอนต่างๆเหมือนเป้นสิ่งที่ทำเองแล้วได้ผลจริง..รู้เองเป็นปัจจัตตัง! .. เหตุผลสอดรับกันอย่างลงตัวทุกอย่าง..ซึ่งไม่เหมือนคนที่จำมาจากตำราแล้วนำมาเล่าแต่อย่างใด...ผมเองก้ใช่ว่าจะทำได้เหมือนคุณเจ้าของบ้าน..หากก้แต่ศึกษาเรื่องกายทิพย์นี้มานานพอสมควร..เข้าทำนองรู้หลักการแต่..ทำไม่ได้ว่างั้นไป*-* ... สุดท้ายแล้วจะจริงหรือเท็จล้วนแล้วแต่ขึ้นอยู่กับวิจารณะญาณของคนที่เข้ามาอ่าน..*-* ผมเองโดยความรู้สึกเชื่อว่าคุณเจ้าบ้านทำได้จริง"ไม่ได้เกิดจากจิตอุปทาน..และหรือโดนจิตหลอกแต่อย่างใด" อันนี้เป้นความรู้สึกของตัวผมเองล้วนๆนะคับซึ้งอาจจะไม่ตรงกับท่านอื่นๆ..*-*
    ยังงัยก้ขอเป้นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนนะคับ..จะจริงหรือจะเท็จ..คนอ่านทุกคนผมคิดว่าเค้าคิดกันเป้นและพิจรณาได้...เข้ามาบอกเล่าอีกนะคับ..คิดเสียว่าเป็นเรื่องจริงอิงนิทานเล่าสู่กันฟัง..เพราะผมเองก้ยังงูงูปลาปลา..จะได้ขอคำแนะนำจากคุณเจ้าบ้านด้วย...*-*
     
  13. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    เกล้ากระผมเองก็ฟิชๆสะเน็คๆ..เช่นกันขอรับ....ผู้ชำนาญการทั้งหลาย...ไม่ยอมมาเฉลย..ซะทีว่าทำอย่างไร....ถึงจะไปได้เร็วปรืดๆ...ชนิดไม่หืดจับ.ที่เกล้าฯทำตั้ง.สามชั่วโมง..นั้นมันผิดวิธี...และไม่ทันกิน..

    เกล้าฯ..พึ่งรู้มาเมื่อ.สามสี่วันเองครับ.ทดลองทำมาแล้ว..2..ครั้ง.
    .ว่าถ้าจะไปได้ไว..
    อันดับแรกให้อฐิษฐานจิต

    .ต้องยกจิตขึ้นสู่ตติยฌาน..เป็นปฐม
    พอจิตขึ้นสู่..ตติยฌาน...ได้..จิตก็จะเลื่อนขึ้นสู่จตุถฌาน..อย่างรวดเร็ว
    แป๊บเดียว...ก็จะถึง..สถานที่ที่เราต้องการ..ขอรับ
    งงไหม..ขอรับ...ถ้างงขออนุญาติอธิบายแบบบ้านๆ...

    ...การยกจิตขึ้นสู่ตติยฌาณ..ของเกล้าฯ..ก็เพียง...สูดลมหายใจแรงๆ...ลึกๆ..2 ครั้ง
    ..ครั้งแรก..สูดลมหายใจแรงๆ..ช้าๆ..ลึกๆ....แล้วก็ปล่อย...

    ครั้งที่สอง....แรงๆ....ช้าๆ....ลึกๆ...ค่อยๆ..ปล่อย....แต่สังเกต..พอสูดลมหายใจครั้งที่สองจะรู้สึกมีพลังงานอะไรสักอย่างก็ไม่รู้..หนักอึ้งเลยที่หัว
    .
    .ถ้ากายสะบาย...จิตสะบายก็จะเลื่อน..ขึ้นฌานสี่อย่างรวดเร็ว...
    ไม่นานท่านก็จะไปปรากฏ..สถานที่ท่านต้องการไป..ขอรับ

    ล่าสุดเกล้าฯคืนวาน...ไปเที่ยวสถานที่ทำงานของตัวเองมา......เพราะมีกิเลสบางอย่าง..จึงอยากไปเที่ยว....ไปที่ทำงานสถานที่จำได้หมดขอรับ..เพราะเราไปประจำทุกวัน...แต่เราไปอีกมิติหนึ่ง...ก็จะได้เจอ..ผู้อาศัยในที่ทำงาน..แต่อยู่ในมิตินั้น..มาทักทาย..อย่างดี...เพราะเขาเหล่านั้น..คุ้นเคยเห็นหน้าเราทุกวันอยู่แล้ว....

    ตติยฌาน..เป็นฌานกล้าตาย..ถ้าทรงฌานนี้นั่งสมาธิ..หนึ่งชั่วโมง..จะรู้สึกเหมือน..5..นาที..ขอรับ...อย่าทรงอารมณ์นาน..ขอรับ..พอรู้ว่าจิตได้เข้าสู่ระดับนี้แล้ว.ก็วางจิตให้เป็นอุเบกขาเสีย...ต่อจากนั้นจิตจะเป็น..เอกัคคตารมณ์...เอาเข้าใจง่ายๆคือเหลือ..อารมณ์เดียว


    ฌาน ๔ โดยจตุกกนัย

    ปฐมฌาน มีองค์ ๕ คือ
    1.วิตก ความตรึก .
    2.วิจาร ความตรอง
    3. ปีติ ความอิ่มใจ
    4.สุข ความสบายใจ
    5 .เอกัคคตา จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งเดียว

    ทุติยฌาน มีองค์๓ คือ ละวิตก วิจาร คงเหลือ ปีติ ๑ สุข เอกัคคตา ๑

    ตติยฌาณ มีองค์ ๒ คือ สุข ๑ เอกัคคตา ๑

    จตุถฌาน มีองค์ ๒ ละสุข กลายเป็นอุเบกขา ๑ เอกัคคตา ๑

    แต่พอทำจริงมันไม่ได้มาคิดหรอก..มันเป็นของมันเองขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  14. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ครั้งแรกที่จับทางได้ว่า..กายทิพย์จะออกจากร่างได้ไวจิตต้องทรงฌานสี่..เกิดจากมีคืนหนึ่งในเดือนนี้แหละราวตี3..หรือตี4ไม่แน่ใจ..เกล้าฯนั่งสมาธิเสร็จ...ก็เลยทรงฌานเล่น..พอทรงฌานปุ๊บ...ก็ไปเห็นพระภิกษุรูปหนึ่ง..มานอนอยู่ข้างๆ..ที่นอนของเกล้าฯ..
    เกล้าฯรู้สึกตกใจ....รีบลุกไปเปิดสวิทช์ไฟอย่างรวดเร็ว....เปิดอย่างไร...ไฟก็ไม่ติด...เพราะกายทิพย์ไม่สามารถ....พระภิกษุรูปนั้นก็ตกใจเหมือนกันไม่นึกว่าเกล้าฯจะสามารถเชื่อมไปอยู่มิติเดียวกับท่านได้.......

    วรรค......

    เกล้าฯ...เก็บความสงสัยอย่างยิ่งว่าพระภิกษุรูปนั้นเป็นใครหนอ....
    สองวันต่อมา....เกล้าฯโทร..ไปคุยกับคุณพ่อกับคุณแม่ตามปกติ....


    ..คุณพ่อเล่าว่ามีวิญญาณพระภิกษุรูปหนึ่งมาจากภูเขาควายประเทศลาว...อยากได้หนังสือธรรมมะไปสร้างบารมี....ก็เลยบอกร่างทรงที่บ้านชุมภูทอง....ในเขตจังหวัดบึงกาฬ...มาขอหนังสือธรรมมะ....ที่ห้องหนังสือธรรมมะที่บ้านของเกล้าฯ...

    ....คุณพ่อเคยฝันเห็นพระภิกษุรูปนั้น...2..ครั้ง.มาบ้าน..ท่านมาดูบ้านก็ชอบใจ...ในหนังสือธรรมมะ....ได้บอกร่างทรงว่า...จะไปเยี่ยมคนสร้าง..ห้องสมุดหน่อย...ว่าหน้าตาเป็น....อย่างไร ทำไมถึงใจบุญขนาดนั้น

    คุณพ่อท่านบอกว่าท่านไม่ได้สร้างลูกชายเป็นคนสร้าง.....ท่านก็เลยมาที่ห้องเกล้าฯ.ที่กรุงเทพฯ....ก็เลยเจอกับเกล้าฯ....ในวันทรงฌาน...ขอรับ
    ท่านก็เก่งอยู่เหมือนกัน..หาทางมาได้โดยไม่มีคนบอกทาง..รู้เพียงว่า..อยู่กรุงเทพฯ

    พระภิกษุรูปนั้น..มีชื่อว่าหลวงปู่วิษณุ..อายุประมาณ..70ปี..ผิวพรรณผ่องใส...ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2014
  15. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    การถอดกายทิพย์...ที่พิสดารที่สุด.....หฤโหด..น่าหวาดเสียวที่สุด...ตั้งแต่เกิดมา..ก็พึ่งได้เจอ..คราวกลับจากถอดกายทิพย์...ไปที่ทำงาน....
    วันนั้นราวตี 5 เกล้าฯกำลัง...ตรึกในสิ่งที่ตนเองไปพบเจอมาอยู่.

    ..กับแสงของกายทิพย์..ที่เปล่งประกายได้..มีรัศมี...จนต้องถามเจ้าภูมิในที่ทำงาน..ว่าแสงอะไร...ปกติไม่เคยมีไม่เคยเกิด...24.ปี.มาแล้วที่รู้ว่า
    กายทิพย์ชอบหลุดบ่อยๆ.แม้ตอนถอดไปเอง..ก็ไม่เคยเป็นแบบนี้...รู้สึกชอบใจ

    กำลังเพลิน....กำลังภูมิใจ...จู่ๆเกิดมีพลังอำนาจ....บางอย่าง....มาบังคับดวงจิตของเกล้าฯ..ให้ออกจากร่าง....สติตอนนั้นก็ยังดีอยู่...แต่ร่างของเกล้าฯได้หลุดออกมา....หมุนอยู่ภายในห้อง.....

    ...เกล้าฯ..รู้เลยว่า..เป็นอาการ...ถูกลงโทษ...จากผู้มีอำนาจเหนือกว่า.....
    เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน...หลังจากนั่งสมาธิ..ก็เคยเป็น...
    วันนั้นนั่งเสร็จ..ขี้เกียจสวดมนต์..พอจะหลับก็ถูกบังคับ....เกล้าฯก็สู้สวดมนต์ไล่..ในจิต
    ...ก็ไม่กลัว...ก็ยิ่งถูกทรมานมากขึ้น....
    ก็เลยตื่นลุกขึ้นมาสวดมนต์..เสียงดังๆ..สวดขับไล่..แล้วก็นอน
    ก็มาบังคับอีกแล้ว.....จนกายทิพย์หลุดจับของในห้องฟาดใส่...ตกใจตื่นอีก

    ที่นี้ซักสงสัยว่าเป็นวิญญานอะไร...เพราะไม่สามารถมองเห็นได้...แม้แต่เป็นกายทิพย์ก็ไม่เห็น....

    ก็เลยจะใช้จิตหยั่งรู้ตรวจดู...ว่าเป็นใคร..มาจากไหน...โอ้ย..ท่านพอจิตเริ่มจะตรวจ..ฝ่ายที่รออยู่ก็เล่นงานทันที..เหมือนเราเปิดประตู..ฝ่ายโน้นก็เอาไม้ฟาดประมาณนั้น....จนกายทิพย์หลุดอีกรอบ....
    จนรู้สึกกลัวห้องตัวเองไปพักหนึ่ง.....คืนนี้ก็เอาอีกแล้ว....เกล้าฯรู้ว่าสู้ไม่ได้ก็ไม่สู้ไม่สวดอะไรทั้งนั้น...แต่กล่าวว่า..ผมขอโทษครับ..ขอขมาถ้าผมทำอะไรผิด..พอกล่าวจบ..กายทิพย์เกล้าฯได้พุ่งออกไปทางหน้าต่าง..............ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า.เหมือนจะไปสุดขอบจักวาลก็ว่าได้.....ขาขึ้นไม่หวาดเสียวเท่าใหร่...แต่ขา

    ลงเหมืนพวกดิ่งพสุธา..เพราะมองเห็นก้อนเมฆเป็นชั้นๆ....ร่วงไปอยู่ในกุฏิวัดหลังหนึ่ง..ที่ลอยอยู่ในอากาศ...มันเป็นภพที่แปลกมาก...เพราะมองลงด้านล่าง..

    .เห็นนายนิรบาลหลายท่าน..ถือหอกวิ่งไล่ฆ่าสัตว์นรก..เป็นภาพที่น่าเวทนาอย่างยิ่ง...
    ...สักพักมีพระภิกษุ...รูปหนึ่งผิวพรรณผ่องใส..เดินออกมา..เกล้าฯเลยกราบเรียนถามท่านว่า.....หลวงพ่อได้ปิดกุฏีดีไหมครับ......ท่านก็ไปตรวจดู..พร้อมบอกว่าปิดดีทุกอย่าง...ท่านเลยถามเกล้าฯว่า....มาได้อย่างไร

    เกล้าฯ..กราบเรียนท่านว่ามาโดยสมาธิ.ขอรับ...ท่านถามต่อว่า..จะกลับอย่างไร
    ..พอท่านถามว่า..จะกลับอย่างไร....เกล้าฯก็รู้สึกตกใจ...อย่างยิ่งเพราะไม่รู้วิธีกลับ...

    พอตกใจ..จิตก็กลับเข้าร่าง....ขอรับ
     
  16. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    สิ่งที่ท่านทั้งหลายสงสัย...แต่ยังไม่ได้ถาม...ในการที่กายทิพย์ของเกล้าฯ...ออกจากร่าง..ด้วยถูกพลังอำนาจ..ของผู้มีทิพยอำนาจ..บังคับ..คือ....

    กายทิพย์เกิดพลังแห่งสมาธิ..ตอนไหน...เพราะเท่าที่อ่านจากโพสที่ผ่านมา...เห็นเกล้าฯ...กราบเรียน..ต่อพระคุณเจ้าผู้ทรงศีล..ว่ามาวิหารทิพย์โดยสมาธิ....จะมิเป็นการกล่าวคำมุสาวาท..ดอกหรือ.....

    โดยความเคารพครับ...จิตได้เกิดพลังแห่งอำนาจสมาธิ...ตอนก้มกราบขอขมา..ผู้คอยควบคุมความประพฤติ..ของเกล้าฯ..ตอนสิ้นคำเอ่ยว่า..ผมขอโทษ...นั้นแหละจิตของเกล้าฯ..ได้สงบอยู่ชั่วหนึ่งขณะจิต..แล้วจึงพุ่งทะยานออกนอกหน้าต่างอพาทเม้น...
    ถามต่อว่าทำไม..ต้องหนี...ก็จะไม่ให้หนีได้อย่างไร..เพราะหนก่อนก็..โดนลงโทษตั้งสามรอบ...ที่หนีเพราะจิตแห่งสามัญสำนึกเกิดความกลัว...ขอรับ ...ตอนที่กายทิพย์ทะยานขึ้นท้องฟ้า...ปกติตอนตี 5..กว่าๆ..ท้องฟ้าของกรุงเทพฯ.หรือชั้นบรรยากาศ..ยังคงมีความมืดอยู่นะขอรับ.....เพราะเป็นฤดูหนาว..แต่กายทิพย์ของเกล้าฯได้ผ่านชั้นบรรยากาศ..และเห็นความสว่างของท้องฟ้า...เห็นเมฆรวมกลุ่มกัน..ลดหลั่นเป็นชั้นๆ..อย่างสวยงาม...ด้วยเหตุนี้แหละเกล้าฯถึงเอ่ยว่า..ได้เดินทางไปไกลมาก...ไกลสุดกู่เลยหละขอรับ.....

    ปกติกายทิพย์ไม่สามารถปรุ่งแต่งเรื่องราวได้เหมือนฝัน...เจออย่างไร...สิ่งนั้นย่อมไปเจอจริง...สถานที่มีอยู่จริง....ขอรับ
     
  17. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    .คิดเสียว่าเป็นเรื่องจริงอิงนิทานเล่าสู่กันฟัง..ท่านอนาคินร์..กล่าวเช่นนั้นขอรับ...เกล้าฯเอง..ก็ชอบใจมาก..เมื่อท่านรู้สึกเช่นนั้น..เกล้าฯก็สะบายใจ..ขอรับ

    .....ฤทธิ์ อภิญญา เป็นกีฬาของฤาษี...

    วันนี้เกล้าฯได้โทร...ไปสอบถามความเป็นมา...ของหลวงปู่วิษณุ...จากร่างทรงเป็ด...หรือคุณสุริยา..คนเดียวกัน อายุ 30 ปี เป็นนักปฏิบัติธรรม ถึงขั้นเคยนั่งสมาธิถอดกายทิพย์ไปเที่ยวเมืองบาดาล เลยหละขอรับ
    คุณสุริยาเล่าความเป็นมาของหลวงปู่วิษณุว่า...ชาติที่มรณะภาพท่านเกิดในสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช.....ส่วนที่ให้ไปขอหนังสือที่บ้านเกล้าฯไปสร้างบารมีเพิ่ม...เพราะด้วยเหตุเกล้าฯเอง..เคยเกิดเป็นหลานชายของท่าน.... กล่าวคือ ในสมัยอดีตชาติเกล้าฯเองได้เคยออกบวชปฏิบัติกัมมัฏฐาน...อยู่กับหลวงปู่วิษณุ...ที่ภูเขาคิชกูฎ....

    คุณสริยา.ทราบเรื่อง..ก็รั้งรอ..ไม่กล้ามาขอและไม่กล้าเล่า...ให้พ่อของเกล้าฯฟัง...ว่าเกล้าฯเคยเป็นหลาน..หลวงปู่..กลัวพ่อเกล้าฯไม่เชื่อ..จนเวลาล่วงเลยไปครึ่งปี..ขอรับ
    เรื่องอดีตเคยบวชปฏิบัติธรรมจะจริงเท็จ..อย่างไร...ไม่รู้นะขอรับ...แต่เกล้าฯสัมผัสรู้ได้..พอคุณสุริยา..เล่าถึงความผูกพันในอดีต..กระแสจิต..ของหลวงปู่วิษณุ..สื่อมาถึงเกล้าฯแรงมาก....โดยส่วนตัวของเกล้าฯก็เคยระลึกชาติได้...ว่าชาติก่อนนั้นเป็นวิญญาณ...ชาติถัดที่เป็นวิญญาณ..เป็นพระธุดงค์...ชาติถัดจากพระธุดงค์...ชื่อนายมายเนอร์ เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านกฏหมาย ที่วอซิงตันดีซี...หลายๆชาติถัดจากนั้น..แสดงภาพให้ปรากฏเฉยๆ...เหมือนดูวิดีโอ

    ชาตินี้เกล้าฯเอง..ก็คือปุถุชนผู้มีเลส...ที่เกล้าฯเองสามารถเล่นกีฬาของฤาษีได้บ้้างเพราะบุญเก่าแต่หนหลัง.....ด้วยเหตุนี้บุญจึงเป็นมิตรของบุคคลที่ยังต้องเดินทางไกลในสังสารวัฏ..ขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  18. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    .คิดเสียว่าเป็นเรื่องจริงอิงนิทานเล่าสู่กันฟัง..ท่านอนาคินร์..กล่าวเช่นนั้นขอรับ.....ครั้งที่ 2

    .....เรื่องที่จะเล่าคือผีกัดอย่ากัดตอบ....แต่ถ้าผีปอบจะกัดหละ.(จะทำฉันใด)

    วรรค........................คืนหลอนสุดขีด....หวีดสุดๆ

    ..มีเหตุการณ์หนึ่งที่กายทิพย์ของเกล้าฯ..หลุดออกจากร่าง..อย่างช๊อคซีนีม่า...แม้จะเกิดมานานแล้ว...แต่ก็ไม่เคยลืม.

    เมื่อราว 20 กว่าปีล่วงมาแล้ว..เกล้าฯเองเป็นเด็กวัดในต่างจังหวัดถิ่นอีสาน..ห้องของเกล้าฯเป็นห้อง..เล็กๆอาศัยอยู่คนเดียว..สามเณรอยู่ชั้นบน..เป็นกุฏิไม้ยกพื้นสูง.เกล้าฯ..มีเตียงนอน..ที่ทำมาจากโลงศพทั้งหมด..สังเกตจากกระดาษเงินกระดาษทอง..ที่ยังถูกประดับประดาอย่างสวยงาม...เป็นพื่อนคู่ทุกข์คู่ยาก...เป็นมรดกตกทอดมาจากสามเณรที่เคยอยู่ก่อน

    เรื่องกายทิพย์เกล้าฯไม่เคยมีความรู้มาก่อน.......แต่มีคืนหนึ่งเกล้าฯเกิดฝันประหลาด..ฝันเห็นตาปะขาวผู้ทรงศีลมาบอกว่า..หลานชายเอ่ยดวงเองกำลังตกให้รีบหาพระมาแขวนคอซะ....

    หลังจากตาปะขาวได้จากไป...กายทิพย์ของเกล้าฯก็ออกท่องเที่ยว..โดยปีนกำแพงวัดกระโดดลงอีกฟากหนึ่งของถนน....วิ่งไปตามข้างกำแพงวัดทางทิศเหนือ...พอวิ่งมาบรรจบทางสามแพร่ง...ได้ปรากฏหมาดำขนาดใหญ่คล้ายหมาพันธุ์อัลเซเซียล 4 ตัว ยืนขวางทาง นัยน์ตาของมันจดจ้องมองเกล้าฯอย่างปองร้าย....แค่นั้นยังไม่พอ..ช่วงที่กายทิพย์ของเกล้าฯ..กำลังตกตะลึงพรึงพืด..ทำอะไรไม่ถูก...เจ้าของหมาเป็นชายแก่ได้ปรากฏกายขึ้น.ลักษณะใส่เสื้อผ้าเก่าๆ....พร้อมกระโดดใส่เกล้าฯ...จนผวาตกใจตื่น..

    รุ่งสางวันใหม่....เกล้าฯเฝ้าครุ่นคิด..เรื่องฝันร้าย..มาย่ำเตือนตลอด...ไปเรียนหนังสือก็ยังไม่คลายวิตก...กับเรื่องตาปะขาวมากล่าวทัก...ว่าหลานชายดวงกำลังตก..ให้รีบหาพระมาแขวนคอ...แต่จะด้วยอำนาจแห่งกรรมเก่ามาบังก็ไม่ได้นำมาแขวน

    เหตุการณ์จะเป็นอย่างไร....รอก่อนนะขอรับ..วันนี้ดึกสงัด..ไม่อยากไปแต่ก็ต้องจร(16/03/2014)

    วันนี้..20/03/2014



    วันนี้ได้ฤกษ์..มาเล่า...แต่ก่อนเล่าขอแสดงอาบัติ..อยู่อย่างหนึ่ง..ที่ผู้ควบคุมหรือจะเรียกครูผู้ปกครองทางโลกทิพย์..ท่านลงโทษเกล้าฯ..ในวันที่กายทิพย์ถอดแบบพิสดารนั้น...สาเหตุเกิดจาก....เกล้าฯถอดจิต..หรือส่งจิตของเกล้าฯ..ไปคุยกับจิตคนอื่นในเวลาเขานอนหลับ...ซึ่งมันเป็นการรบกวน...คนอื่น..ขอรับ...วันแรกได้คุย....วันที่สองไปอีก..ไปผิดจังหวะเขาตื่นกลางดึกเข้าห้องน้ำ..จิตหรือกายทิพย์ก็เลยเดินทางกลับ......ครูผู้ปกครอง..ท่านก็เลย..มาลงโทษ..ได้หมุน 360 องศากลางห้อง..ขอรับ

    ผีปอบ..คือวิญญาณหมาดำ...ที่เกล้าฯเอ่ยในโพสแรกว่า..กำแพงวัดป่าหนองเขียน..แม้จะสูงขนาดไหน..แต่อดีตเจ้าอาวาส..ท่านยังเห็นหมาดำกระโจนข้าม.ตอนกลางคืนดึกๆ...เกล้าฯเพียงสื่อให้ท่านทั้งหลายได้รู้ว่า...วัดที่เกล้าฯไปปฏิบัติธรรม...เป็นเส้นทางคมนาคม.ของพวกผีปอบสัญจร..ขอรับ.


    เอาหละ 5 4 3 2 1 เริ่มเลยขอรับ.....เช้า..สาย..บ่ายไป..อาทิตย์จร.จันทร์แอร่ม...แจ่มกระจ่าง...วันนั้นไม่มั่นใจว่าเป็นวันพระหรือเปล่า...เกล้าฯรีบเข้านอนแต่หัวค่ำ..เอนกายลงนอน..แต่จิตไม่ยอมนอน..จิตได้เที่ยวไป..ไปป่าช้าที่เคยไปตอนเด็กๆ

    ..แต่คืนนั้นถูกผีไล่ตกใจจึงวิ่งหนี.ยิ่งวิ่งหนีผียิ่งไล่..ผวา..สดุ้งตื่นกลางดึก....
    แล้วเริ่มนอนใหม่ครั้งที่สอง...นอนแต่กาย..แต่ดวงจิตออกท่องเที่ยว..ครั้งนี้ไปเที่ยวเมืองผีถูกผีเรียกกินข้าวกินน้ำ...ก็ดีใจสักพักผีเหล่านั้นได้สำแดงเดชให้เห็นเป็นภาพอันน่าสะยดสยอง...เกล้าฯก็ผวากลางดึก..อีกครั้ง

    การหลับๆตื่นๆ..แม้จะนอนเยอะก็เหมือนไม่ได้นอน..รู้สึกอ่อนเพลีย..กำลังจะนอน..พลันแว่วได้ยินเสียงดังมาจากนอกกุฏี..เสียงเหมือนคนเดินลากฝีเท้า...เดินรอบกุฏิ..หนึ่งรอบ.....เสียงเดินดังแรงมาก..เกล้าฯเองยังสติดี..รู้ชัดเลยตัวเองกำลังมีภัย..จึงภาวนาสู้...ภาวนา..พุทโธ.ได้สองสามคำ...คำภาวนาก็ขาดห้วง....เพราะจิตเหนื่อยล้า...พอจิตไม่ภาวนา...ท่านผู้มาเยือน..ก็เดินทะลุประตูเป็นเงาดำทะมึน..เกล้าฯเห็นชัดแต่ทำอะไรไม่ได้เหมือนโดนสะกด..


    แค่นั้นยังไม่พอ..ขณะที่เกล้าฯดิ้นไปมา..จะลุกหนี..มือของเกล้าฯได้ไปเอื้อมจับเอาหัวคน..มีเฉพาะหัว..ห่อผ้า..ยิ่งทำให้เกล้าฯ.มีอาการช๊อคสุดขีด..หวีดสุดขั้ว...คำภาวนาตอนนี้..ไม่ต้องถามถึง..จิตไม่สามารถ..สติแตก..จนกายทิพย์หลุดจากร่าง..ไปเอื่อมหาจานพระในห้อง..ก็ไม่พบเจอแต่หัวผี 4 หัว..

    .จิตไม่สามารถทานทนกับสภาพที่เป็น..วิ่งเตลิดออกจากห้อง..เจ้าผีร้ายก็ยังตามไปบีบคอ...และบอกว่ามันเองเป็นผีปอบ...ต้องการกินเกล้าฯ...พอเขาบอกวัตถุประสงค์แห่งการมา...ใครหละจะไม่รักตัวกลัวตาย...ช่วงที่ผีกดบีบคอ..กายทิพย์ของเกล้าฯได้..รวบรวมกำลังเฮืกสุดท้ายผลักสุดแรงเกิด....
    จิตก็เข้าร่าง..ท่านั่งเหยียดขา..แล้วลุกเปิดไฟอย่างรวดเร็ว...

    ....เกล้าฯพิจารณาแล้ว...เมื่อวานมันคือความฝัน....
    .....แต่วันนี้...คืนนี้มันคือของจริง...
    .....แล้วถ้าเกิดเรานอน..มันมาอีกหละ..
    ......ไอ้หย่า.า.
    คิดได้แค่นี้มือก็คว้าผ้าห่มได้หนึ่งผืน...วิ่งขึ้นกุฏิพระที่อยู่ใกล้เคียงอีกกุฏิหนึ่ง...เคาะปังๆ...ด้วยมืออันสั่นเทา..เพราะยังรู้สึกเสียวสันหลังอยู่ขอรับ...เหตุเกิดราวตอนตีสาม.กว่าๆ...

    วรรค.....เพื่อพิทักษ์...เพื่อสันติ...


    .....เมื่อคืนดวงจิตหรือกายทิพย์..ของเกล้าฯ..ก็ออกท่องเที่ยว..มีสาวโฉมงามนางหนึ่ง..ซึ่งงามระดับเทพีบ้านป่า...ผ่านมาเห็น..มานพหนุ่มผู้รูปงามเช่นเกล้าฯ(มีใครบ้างหละจะบอกว่าตัวเองอัปลักษณ์โคตะระ..โคตร..ขอรับ)....ก็มีจิตปฏิพัทธ์.

    ........ลอยพุ่งทะยานเข้ามาสวมกอด..เกล้าฯรู้สึกตกใจอยู่ชั่วหนึ่งขณะจิต..แม้เธอจะสานสายตาสื่อไมตรี...อีกด้วยกริยาก็นั่งพับเพียบเรียบร้อย..โอบกอดที่ขาข้างซ้ายคล้ายจะวิงวอน...มันเป็นภาพที่สะเทือนอารมณ์อย่างยิ่ง..

    ......เกล้าฯไม่มีเจตนาจะขับไล่ไสส่ง..เธอแต่อย่างใดนะ...................
    แต่จิตที่เคยฝึกมา...จิตนั้นย่อมภาวนาขึ้นเองโดยอัตโนมัติ..

    .เพราะว่ากลัวที่รู้ว่าเธอ...คือผี........ซึ่งทำให้เธอผิดคาด...เพราะคาดไม่ถึง.
    ..พลันหายวับไปกับความมืดอย่างวังเวง....

    เกล้าฯเอง.เมื่อนึกถึงเรื่องของเธอทีไรก็รู้สึกสงสารอยู่นะ.......แต่ทำไงได้..เธอเล่นผลุบและโผล่ใกล้ๆ...ใครหละจะไม่ตกใจ...อันที่จริงเธออาจไม่ได้เสน่หาอะไร..ในตัวเกล้าฯก็ได้...เธออาจเพียงต้องการทักแบบขำๆ

    .....ด้วยประการฉะนี้แล....จิตมีเพียงบุญเก่าไม่ชำนาญในจิตภาวนา....จะมีสภาพดังเกล้าฯในช่วงวัยเยาว์...ดังเล่ามาพอเป็นสังเขป...ขอรับ

    วันที่29/03/2014
    วรรค...ฌาน ๕ โดยปัญจกนัย

    ปฐมฌานมีองค์ 5 คือ วิตก วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา

    ทุติยฌาน มีองค์4 คือ วิจาร ปิติ สุข เอกัคคตา

    ตติยฌาน มีองค์3 คือ ปีติ สุข เอกัคคตา

    จตุตถฌาน มีองค์ 2 คือ สุข เอกัคคตา

    ปัญจมฌาน มีองค์ 2 คือ เอกัคคตา อุเบกขา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มีนาคม 2014
  19. tOR™

    tOR™ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2014
    โพสต์:
    145
    ค่าพลัง:
    +328
    ถอดกายทิพย์มันเกี่ยวอะไรกับโหราศาสตร์ที่วัดราชนัดดาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 เมษายน 2014
  20. ปฐมฌาณ

    ปฐมฌาณ เป็นและตาย..อยู่ใกล้กัน..เพียงลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    486
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,870
    ก่อนอื่นเกล้าฯ...ต้องขอกราบอภัยท่านtoRผู้เป็นเพื่อนสหธรรมิกด้วย..

    เกล้าฯไปโพสหลาย..ห้อง..และช่วงนี้มันก็คล้ายช่วงโปโมชั่น..มีหลายคนส่งข้อความ..มาถามแต่เรื่องดวง..เกล้าฯก็งง...คิดว่าท่าน..toR....จะมาขอเรียนเกี่ยวกับโหราศาสตร์...เมื่อรู้ว่าท่าน..ต้องการเจริญพระกัมมัฏฐานก็มีจิต..อนุโมทนา...สาธุการขอรับ

    ในถ้อยคำหนึ่ง.ของ.สมอลล์เลตเตอร์.(จดหมายน้อย.).ได้อ้างเอ่ยถึงมหาเทพท่านหนึ่ง...คือบรมครูแห่งศาสตร์หลายอย่าง..คือองค์พ่อแก่บรมครู

    เรื่องพ่อแก่บรมครู.........วันนี้ก็จะเล่าการได้พบพ่อแก่บรมครู

    ..ในคืนหนึ่ง..เมื่อไม่นานนี้เอง..ภาพยังติดตา..เหตุการณ์ยังตราตรึง.

    ท่านมาปรากฏให้เกล้าฯเห็น...
    .สองร่าง...ร่างแรกเป็นชายแก่อายุราว ุุ60 กว่าปี..มีหนวดเครา...อยู่ในชุดขาวนักบวชของศาสนาพรามณ์ฮินดู..

    ท่านเอ่ยถามเกล้าฯ..ด้วยเสียงอันดังและเคร่งขรึมดุดัน..ท่านกล่าวว่า.

    ..เป็นไงหละ.ลูก.ไปเห็นกรรมตัวเองมา...

    คือตอนที่ท่านมาปรากฏนี้..ถัดจากจิตเกล้าฯไปหยั่งรู้...ว่าตัวเองมีกรรม..ติดหนี้สงฆ์อยู่หนึ่งพันตำลึง....

    ในส่วนของหนี้สงฆ์ครั้งนี้เกล้าฯได้เสวยวิบากแห่งกรรมแล้ว..

    พอท่านทัก..เกล้าฯก็งง...ไม่รู้ว่าชายในร่างของพรามณ์นั้นเป็นใคร...ท่านก็เลยแสดงร่างของบรมครูที่แท้จริงให้ปรากฏ...มีเฉพราะเศียรไม่มีร่าง..เป็นใบหน้าของชายหนุ่มอายุไม่น่าเกิน 25 ปีหน้าตาเกลี้ยงเกลา..รูปงาม...รัศมีบนใบหน้าสีเปลือกมังคุด.คือสีม่วง....มาพร้อมบริวาร..เยอะมาก...

    ท่านได้เอ่ยว่า..ลูก...พ่อขอให้เจ้าประพฤติพรหรมจรรย์..ตลอดชีวิต......

    เกล้าฯเอง...ก็ไม่ได้เอ่ย.ตกปากรับคำ..เพียงแต่น้อมกาย...พร้อมก้มกราบท่าน.และกล่าว.ว่าลูกขอสวดมนต์แทนทุกวันจะได้ไหม...
    องค์ท่านพ่อแก่..ท่านยิ้ม...ไม่ได้กล่าวอะไรอีก...ก่อนจะจากไปพร้อมบริวาร
    พอจิตถอนจากภวังค์....ก็ได้แต่ทึ้ง...อึ้งกิมกี่...นึกอุทาน...ปาดๆ..เป็นไปได้จังใด๋...รู้สึกตื้นตัน..ขอบคุณ..ในการมาของท่าน....เป็นปีติอย่างยิ่ง..ได้แต่ก้มลงกราบท่านอีกครั้ง...และสวดมนต์ถวายท่าน.ขอรับ.

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 เมษายน 2014

แชร์หน้านี้

Loading...