ตามพระใหม่ไปเรียนธรรม ตลิกเลย ^^ ตามพระใหม่ไปเรียนธรรม - ธรรมบรรยาย
สัญญาไง ธรรมในอดีต คล้ายๆจิตตินนท์พิจารณาธรรมมาขณะนั้นเรียกว่าตรงธรรมในขณะนั้น ทีนี้เอามากล่าวเป็นของที่ผ่านมาแล้ว ก็เป็นเรื่องสัญญา...
ให้หลักอย่างนี้นะ เวทนาเป็น ยินดี พอใจ สุข หรือเฉย แล้วติดข้อง สังขาร เป็น มีความเห็นผิด แสดงทิฏฐิ มานะ ออกมา...
ดีแล้วจิตตินนท์ ^^ ก็เป็นบทขยาย และ ทัศนะ ในขณะนั้น สภาวะธรรมของใครของมัน รู้ได้เฉพาะตน การสังเกตุ ใส่ใจ พิจารณาสภาวะธรรมตน และผู้อื่น...
เอานะ กระผมจะขอลาบวชแล้ว ให้เหตุผลดังนี้ พิจารณาอยู่หลายปี มองไม่เห็นประโยชน์ในชีวิตฆารวาส ^^ และเชื่อว่า ขณะนี้พระธรรมยังอุดมดีอยู่...
ไม่มีนายหลงแล้วหรอ ก็กลายเป็นเพ่งบุคคล ไม่ได้เพ่งธรรมไป ^^ ใครอกุศมา ก็ไม่จำเป็นต้องอกุศลกลับ ถูกไหม กรรมนั้นเที่ยงอยู่แล้ว แม้ใครร้อนมา...
ขณะนั้น เวทนาเป็นโสมนัส เกิดขึ้นพร้อมกับความยินดี พอใจ ถูกไหม ทิฏฐิสัมปยุต หมายความว่า เกิดขึ้นประกอบด้วยมิฉาทิฏฐิ ก็ต้องขยายต่อว่า...
หมายถึง บทความอภิธรรมนำมาใช้ประโยชน์อย่างไรการปฏิบัติ ถูกไหมครับ พึงทราบว่าอภิธรรม บรรยายสภาวะปรมัตถ์ธรรมล้วนๆ เป็นองค์ธรรมที่ใช้พิจารณา...
ไม่เอาสิลุง เราไม่กล่าวหาใครลอยๆ รู้ได้ไงว่าผู้นี้ ผู้นั้นจิตเป็นอกุศลจิตไม่เป็นอกุศล ^^ การพูดพล่อย กล่าวพล่อย ไม่พิจาณาแล้วกล่าว...
ดีแล้วจิตตินนท์ ^^ อยากตอบอะไรก็ตอบไป หงุดหงิด มานะ ทิฏฐิ มันเป็นไง ก็แสดงมันออกไป ^^
ดีแล้วจิตตินนท์ ^^ นึก คิด พูด ทำ อะไร ก็แสดงมันออกไป ^^
ดีแล้วจิตตินนท์ ^^ ใจรู้สึกอย่างไร ก็แสดงออกไป ^^
ดีแล้วจิตตินนท์ ^^
ใสใจตรงตาเห็น ไม่เพ่ง ไม่จ้อง ไม่หาความหมาย ไม่สำคัญว่าเราเห็น เรากำลังเห็น มีแต่รู้และถูกรู้ ขณะนั้นมี ภาพหรือสี ปรากฏที่ตาให้เกิดเห็นอยู่ขณะนี้...
ก็คงต้องไล่กันตั้งแต่ตาเห็น ความหมายมันเกิดทันที เนื้อหาไม่ได้อยู่ที่ความหมาย แต่อยู่ที่ความหมายเกิด ^^
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา