การจะขำระตนเองให้สะอาด สว่าง สงบ ใช้วิธีการสงบยังไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้อง อย่างแน่นอน มองอย่างเป็นระบบ จะยกตัวอย่าง .. น้ำที่ขุ่น จากหนองบึง...
เธอไปว่าศาสดาของเธอเป็นผู้อวดรู้ด้วยสิใช่ไหม เพราะในเวลาที่ศาสดาของเธอแสดงธรรม ก็จะแสดงอวดรู้ เหมือนกันตามที่เธออ้าง...
ไม่กล้าอธิบาย? เพราะยังไม่เข้าใจ? ไปปฎิบัติให้เห็น มาร เป็น รูปธรรมก่อนเถอะ แล้วจึงจะเห็นความจริง แท้ อาจจะเกินความรู้จากตำรา...
..........เรา ก็เป็นเพียงองค์ประกอบของ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาน ที่เป็นอนิจจลักษณะ ทุกขัง และเป็นอนัตตา....... อะไรคือ รูป? อย่างไร?...
อะไร คือวิปัสนา อย่างไร?
การเรียน ก อ่านว่า กอ ไก่ เด็กๆไม่รู้ ก็จะไม่รู้ว่า อ่านว่าไง.. ยกเว้นว่า หาครู นอบน้อม ผู้รู้ ก็รู้ได้สบาย หาอยากจะรู้เอง เหมือนเข้าฌาน...
และการรู้ เกิดความรู้ ไม่ใช่่ ต้องมีฌาน อันใดเลย เข้าใจผิดแล้ว....
คนแบบนี้เรียกว่า คนไม่สำนึกคุณผู้ให้คุณ เรียกตรงๆ คือคน อกตัญญู ไม่รู้คุณผู้ให้คุณ
คนที่มีบาปอยู่ แม้นจะเข้าฌาน .. ความรู้ที่ได้ ก็ยังเจือด้วย ความหลงผิด...แล้วมาปั่นว่าฌานดี หากจะอ้างตำรา ต้องเรียงลำดับให้ดี หลังจาก...
มีใครไหมที่ไม่มีบาป บาปทำให้ผิดปกติ บาปทำให้ไม่ระงับ บาปทำให้สูญเสีย และไม่สบาย บาปมีทั้งมากระทำ และ มาเบียดเบียน ไม่รู้จักบาป .....
อารมณ์ ของฌาน เป็นอารมณ์ที่ปิดกั้นความจริง เพราะใช้เพียง 1 เป็นศูนย์รวม ทำมาก..อยู่แต่อารมณ์นั้น นานๆ ไม่มีความรู้ อะไร หมุนเวียน...
การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ยากเย็นนัก ส่วนใหญ่จะประกอบ ด้วยบาป บาปทำให้สั่นไหว ไม่สบาย แต่จะมีบางพวกบางกลุ่มกลับ แสวงหาความสงบ..แบบนี้เรียกว่า...
การตั้งสัจจะหมายถึง การทำสัญญาอย่างหนึ่ง แต่ต้องเดิมพันด้วย ความดี ความดี ไม่ได้ทำ ความดี ไม่เพียงพอ สัญญาไม่ครบ ความจริงไม่ปรากฎ...
แยกชื่อด้วยเครื่องหมายจุลภาค เช่น พลังจิต, พุทธศาสนา