นิมิตสมาธิ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มารสะท้าน, 31 ธันวาคม 2004.

  1. มารสะท้าน

    มารสะท้าน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    108
    ค่าพลัง:
    +97
    พระอนุรุทธาจารย์ ได้แสดงไว้ในคัมภีร์พระอภิธัมมัตถะสังคหะว่า "ตีณิ นิมิตฺตานิ" แปลว่าในพระสมถะกรรมฐานภาวนา ประกอบด้วยนิมิต ๓ ประการ คือ :-
    ๑. บริกรรมนิมิต
    ๒. อุคคหะนิมิต
    ๓. ปฏิภาคนิมิต
    นักปฏิบัติในพระพุทธศาสนานี้ โดยมากก็ถือเอาเป็นเครื่องรู้ เป็นเครื่องเล่น เป็นเครื่องพิจารณา แต่ผู้มุ่งโลกุตตรธรรมเป็นเครื่องอยู่อันแท้จริงแล้ว ย่อมไม่ติดข้องอยู่ในนิมิตทั้งหลายเหล่านี้ ฯ คือเมื่อเห็นแล้ว ก็แก้ไขให้หลุดพ้นผ่านไป ก้าวหน้าสู่โลกุตตรธรรมอย่างเดียว เรื่องนิมิต ที่ปรากฏเห็น หรือบังเกิดขึ้นนั้น มีนัยดังกล่าวต่อไปนี้คือ
    ๑. จิตในเวลานอนหลับ ก็บังเกิดนิมิตได้ เรียกว่า ฝัน
    ๒. จิตในเวลานั่งสมาธิ ก็บังเกิดนิมิต เรียกว่า นิมิตสมาธิ

    ในที่นี้มีประสงค์ จะอธิบายเฉพาะ แต่นิมิตสมาธิเท่านั้น เพื่อไม่ให้หลงไปตามนิมิต จะได้มีปัญญารู้เท่านิมิต และแก้นิมิตต่อไป

    ในเวลานั่งสมาธิภาวนาจิตตกลงสู่ภวังค์แล้ว เผลอสติ บังเกิดนิมิตเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้น ก็มี หรือไม่เผลอสติ จิตเป็นขณิกสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิ ย่อมมีนิมิตต่าง ๆ บังเกิดขึ้น ปรากฏเห็นชัด ในจักขุทวาร มโนทวาร

    นักปฏิบัติบางจำพวก กระทำปุพพภาค แห่งการปฏิบัติเบื้องต้น ไม่ถูกต้อง จะทำโลกุตตระให้แจ้ง ก็ทำไม่ได้ เมื่อนั่งสมาธิภาวนา ได้แต่เพียงนิมิตสมาธิ ภาวนา คือได้เห็นนิมิตต่าง ๆ มาปรากฎ ในจักขุทวาร มโนทวารเท่านั้น ก็ดีใจบังเกิดถือทิฏฐิมานะว่าตนได้รู้ได้เห็น และได้สำเร็จมรรค ผล ธรรมวิเศษชั้นนั้น ๆ ไม่รู้เลยว่าตนเป็นผู้หลงติดข้องอยู่ในชั้นโลกีย์ ไม่ใช่ชั้นโลกุตตระ

    นักปฏิบัติ ผู้ที่มีปุพพภาค แห่งการปฏิบัติเบื้องต้น ได้กระทำถูกต้องแล้ว เมื่อนั่งสมาธิภาวนาจิตตกลงสู่ภวังค์ บังเกิดมีนิมิตขึ้นก็ดี หรือจิตเป็นขณิกสมาธิ อุปจาระสมาธิ อัปปนาสมาธิอันใดอันหนึ่ง บังเกิดมีนิมิตปรากฏเห็นชัดในจักขุทวาร มโนทวาร ย่อมไม่ดีใจ เสียใจ คือ ไม่ยินดี ยินร้าย ในนิมิตนั้น ๆ ย่อมเป็นผู้มีสติทำจิตให้เป็นสมาธิตลอดไป

    นิมิตบางประการ เมื่อบังเกิดขึ้นแล้ว เป็นอุบายให้ได้สติ มีปัญญา พาให้จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิเรียบร้อยดีก็มี

    นิมิตบางประการ เป็นนิมิตตที่น่ากลัว กระทำให้จิตหวาดเสียวตกใจกลัวก็มี ผู้ไม่มีสติอาจฟุ้งซ่าน เสียสติอารมณ์ไปก็เป็นได้ จึงขอเตือนสติไว้ในที่นี้ว่า ท่านผู้ปฏิบัติใหม่ทั้งหลาย พึงเป็นผู้มีสติ กำหนดจิตไว้ให้ดีอย่าตกใจกลัว และอย่าประหม่า กระดาก เก้อเขิน คืออย่าเป็นผู้กล้าหรือผู้กลัวจนเกินไป ถ้ากล้าเกินไปก็ทำให้ใจฟุ้งซ่านได้ หรือกลัวเกินไป ก็ทำให้เสียสติ อารมณ์ท้อถอยจากความเพียร ไม่อาจนั่งสมาธิภาวนาอีกได้ เพราะหลงนิมิตเท่านั้น

    อนึ่ง นิมิตบางประการ แสดงเรื่องมนุษย์ บางประการแสดงเรื่องสวรรค์ บางประการแสดงเรื่องพระนิพพาน ฯ นักปฏิบัติบางจำพวก ชอบเล่นนิมิตเกินไปก็หลงเพลินไปเที่ยวเล่นในมนุษยโลก และเที่ยวเล่นในสวรรค์ตลอดเข้าสู่พระนิพพาน ตามอาการของนิมิตที่ปรากฏ จนสามารถพูดอวดได้ว่า ตนได้สำเร็จสวรรค์ สำเร็จพระนิพพานไปแล้ว ครั้นออกจากสมาธิแล้ว ก็เปล่า ๆ หาได้สำเร็จอะไรไม่ นี่แสดงว่านิมิตหลอกให้หลง ก็หลงตามจริง ๆ ด้วยความเข้าใจผิด เห็นผิดจากความจริง ทุกประการตลอดไป
    นักปฏิบัติ ในพระธรรมวินัยนี้ ที่มุ่งโลกุตตรธรรมจริง ๆ ย่อมเป็นผู้ไม่หลงไปตามอาการของนิมิต เมื่อนิมิตบังเกิดขึ้น ย่อมมีสติพิจารณาให้รู้แจ้งว่า นิมิตนี้บังเกิดขึ้นจากเหตุ แห่งคำบริกรรม เรียกว่าบริกรรมนิมิต และนิมิตนี้บังเกิดขึ้นเป็นอุบาย ให้มีสติ มีสมาธิยิ่ง ๆ ขึ้นไปเรียกว่า อุคคหะนิมิต ทั้งอีกนิมิตนี้บังเกิดขึ้นจากปฏิภาคในร่างกายตัวเรา หรือภายในร่างกายของคนอื่น เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต ย่อมรู้รอบคอบตลอดทุกประการ

    นิมิตที่ปรากฏ เห็นดวงเดือน ดวงดาว ดวงอาทิตย์ หรือเห็นแสงสว่างภายในดวงใจของเรา นับเข้าในพวกอุคคะนิมิต ไม่เป็นของที่น่ากลัว

    นิมิตที่ปรากฏ เห็นโครงกระดูกในร่างกายเราหรือเห็นตัวของเราตาย เป็นซากศพ นอนกลิ้งอยู่ต่อหน้า ตลอดเห็นซากศพมนุษย์ทั้งหลายตายเต็มโลก นับเข้าเป็นปฏิภาคนิมิต ผู้ไม่มีสติ ย่อมตกใจกลัว แต่ผู้มีสติ ย่อมไม่กลัว ยิ่งได้สติดีขึ้น คือได้ใช้เป็นอุบายพิจารณาอสุภกรรมฐานแยกส่วน แบ่งส่วนซากศพนั้นออกดูให้ตลอดก่อนแล้ว น้อมเข้ามาพิจารณาในร่างกาย จนเห็นแจ้งประจักษ์แล้ว พิจารณาร่างกายของบุคคลผู้อื่น ก็แลเห็นแจ้งแทงตลอดทุกประการ บังเกิดมีนิพพิทาญาณ เหนื่อยหน่ายสังเวชสลดใจ น้ำใจสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิ แน่วแน่ดี สติก็มีกำลังดียิ่งขึ้น เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต
     
  2. cwyp

    cwyp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +529
    สาธุ ถูกต้องแล้วครับ ผู้ที่เห็นภัยในนิมิตย่อมพิจารณานิมิตนั้นเป็นไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง ต้องปรุงแต่ง ไม่เป็นของเรา
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,002
    ขอบคุณครับ เห็นเเล้วก็วางมันลง ตั้งใจปฏิบัติต่อไป ซักวันก็ไปถึงเอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...