พระ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่หวั่น..มิตรภาพไร้พรมแดนศาสนา

ภาพอันน่าสลดสังเวชใจเมื่อพระภิกษุและ เด็กวัดสองคนใน วัดพรหมประสิทธิ์ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ถูก "คนไร้ศาสนา" เข่นฆ่าอย่างโหดเหี้ยม แม้จะเป็นการลงมือเพื่อหวัง "ตอกลิ่ม" ความหวาดระแวง ให้เกิดขึ้นระหว่าง คนไทยพุทธกับไทยมุสลิม แต่ด้วยมิตรภาพระหว่าง คนสองศาสนา ที่ฝังรากลึกมาช้านาน ในดินแดนด้านขวานทอง กลอุบายอันหยาบช้านั้นหาได้ทำให้ ความผูกพันระหว่างกันลดลงแต่ประการใด

ในทางตรงกันข้ามมันกลับทำให้พวกเขารักกันยิ่งขึ้น เพราะรู้ดีว่า หากหลงกลไปตก "หลุมพราง" ที่คนใจทมิฬขุดล่อไว้ แผ่นดินสามจังหวัดชายแดนใต้จะไม่มีวันสงบสุขได้โดยเด็ดขาด

ท่วงทำนองความสัมพันธ์แบบ "ถ้อยทีถ้อยอาศัย" ดังกล่าว ถูกถ่ายทอดผ่าน พระจุลเดช จุลนาโค พระวัดถ้ำคูหาภิมุข ที่เคยถูกคนร้ายฟันบาดเจ็บขณะออกบิณฑบาต สมัยที่ยังจำวัดอยู่ที่วัดลำใหม่ อ.เมือง จ.ยะลา แต่ด้วยกำลังใจจากชาวบ้าน ทั้งไทยพุทธและไทยมุสลิมในครั้งนั้น ยังตราตรึงใจท่านไม่รู้ลืม
พระจุลเดช ย้อนเหตุการณ์ในวันนั้นว่า โจรชั่วได้ก่อเหตุทำร้ายพระภิกษุสามเณรถึงสามรูปคือ สามเณรเขตศักดิ์ หนูสังข์ สามเณรวัดเวฬุวัน อ.เมือง จ.ยะลา และ พระวิชัย ปราณบุญ พระลูกวัดถ้ำคูหาภิมุข อ.เมือง จ.ยะลา จนทั้งสองมรณภาพ ส่วนหลวงพี่จุลเดช โชคดีที่หนีได้ทัน แต่ก็ถูกคนร้ายใช้มีดฟันบาดเจ็บไม่น้อย

เช้าตรู่วันนั้น พระจุลเดชพร้อมพระลูกวัด อีกสองรูปออกบิณฑบาต ซึ่งเป็นกิจของสงฆ์ตามปกติ โดยหนึ่งในนั้นมีพระที่เคยเป็นตำรวจและเพิ่งออกบวชไม่นานร่วมบิณฑบาตด้วย เมื่อเดินบิณฑบาตห่างจากวัดไปประมาณ 200 เมตร ก็มีกลุ่มวัยรุ่นสี่คนขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านมา จังหวะนั้นพลันมีเสียงตะโกนจากพระลูกวัดดังขึ้นอย่างเร่งร้อน "อย่าหันหลังกลับมา...วิ่งไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด"

 

ครับต้องอย่าหลงกลให้กับ "พวกไร้ศาสนาพวกนั้น"

 

ท่านคอยดูเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้
กรรมครั้งนี้จะสนองตอบอย่างสาสม เพราะนี่เป็นกฏของธรรมชาติ

 

ขอให้สันติสุข มาเยือนพี่น้อง 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ โดยเร็ว สาธุ...