ทำไม นั่งสมาธิ แล้วได้บุญ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย george, 22 ตุลาคม 2004.

  1. george

    george บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ก็แค่นั่งเฉยๆ ทำใจให้สงบ แล้วจะได้บุญจริงเหรอ

    แล้วได้บุญ จะได้มากกว่า การบริจาคหรือ


    (b-love2u)
     
  2. cwyp

    cwyp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    272
    ค่าพลัง:
    +529
    การทำสมาธิไม่ใช่การนั่งเฉยนะครับ

    การนั่งสมาธิเป็นการทำสาวะจิตให้เด็ดเดี่ยวไม่ฟุ้งซ่าน ใจจดใจจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อเป็นการบ่มนิสัยให้เป็นคนเยือกเย็นสุขุม เป็นการข่มกิเลสไว้ชั่วคราว ซึ่งเรียกว่าสมถกรรมฐาน ส่วนวิปัสสนากรรมฐานนั้นจะเป็นการทำสมาธิโดยการเพ่งอารมณ์ที่เป็นปรมัตถ์เป็นหลักและกำหนดรู้ซึ่งทุกข์และกิเลสต่าง ๆ มากมาย เพื่อให้เกิดปั__าในการดับทุกข์ ซึ่งการทำสมาธินั้นย่อมได้บุ_เสมอหากใครคนนั้นปฏิบัติจริง ลองเปรียบเทียบดูสิครับอารมณ์ตอนที่เราได้ช่วยเหลือใครซักคนให้เขาพ้นทุกข์บางอย่าง อย่างจริงใจ การทำความดีต่าง ๆ การให้ทาน มันมีลักษณะอารมณ์ที่ถูกเสวยเหมือนกันมั้ยครับ อารมณ์นั้นเป็นอารมณ์ปรมัตถ์ที่มีลักษณะอิ่มเอิบใจ สิ่งนั้นแหละครับเรียกว่า
    <b> บุ_</b> แล้วที่ถามว่าการให้ทานบริจาคสิ่งของกับการทำสมาธิอันไหนจะได้บุ_มากกว่าคำตอบนั้นก็คือ การทำสมาธิย่อมมากกว่าครับ ดูง่าย ๆ หากทำสมาธิจนยกระดับจิตใจให้สูงขึ้นได้มันก็เหมือนได้เสวยของทิพย์คืออิ่มเอิบใจตลอดเวลา เมื่อตายไปแล้วย่อมจะมีบุพกรรมเป็นบุ_นำพาไปเกิดบนสวรรค์ก่อนครับ แต่ถ้าหากตอนที่จะตายได้ทำกรรมฐานแล้วเข้าฌาณตาย ย่อมได้ไกดในพรหมโลกครับ ซึ่งพรหมโลกจะที่ที่สงบกว่า ส่วนการให้ทานนั้นอย่างมากที่สุดจะให้ผลบุ_นำพาไปเกิดในสวรรค์ครับ แต่หากจะทำอะไรแล้วผมว่าทำควบคู่กันทั้งสองอย่างจะได้อานิสงค์ติดตัวมากกว่าครับ เพราะได้ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยแล้วเมื่อเกิดใหม่แล้วทานย่อมส่งผลให้คนที่เราได้ทำทานให้เขากลับมาเกี่ยวข้องช่วยเหลือเราไม่ให้ลำบากครับ ความคิดของผมก็มีเพียงเท่านี้แหละครับ
     
  3. santosos

    santosos เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,166
    ค่าพลัง:
    +3,212
    โทรมาหาพี่นะ

    โทรมาหาพี่นะ
    025792201
    ช่วง บ่ายๆ-22.00
    พี่หนุ่ม
    เวลาโทรบอกว่าคุยเล่นนะ
     
  4. PalmPlamnaraks

    PalmPlamnaraks เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2005
    โพสต์:
    766
    ค่าพลัง:
    +5,790
  5. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    เมื่อว่าโดยกรรมบท : ทางของการกระทำ คือ บุญกริยาวัตถุ ๑๐ ได้แก่
    ๑. ทานมัย การให้สิ่งที่เป็นประโยชน์สุขแก่ผู้รับ
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้

    ๑) เป็นที่มาของทรัพย์สมบัติทั้งหลาย
    ๒) เป็นที่ตั้งของโภคทรัพย์ทั้งปวง
    ๓) ผู้ให้ย่อมได้รับความสุข
    ๔) ผู้ให้ย่อมเป็นที่รักของคนหมู่มาก
    ๕) ผู้ให้ย่อมผูกไมตรีผู้อื่นไว้ได้
    ๖) ทำให้เป็นผู้มีเสน่ห์น่านับถือ
    ๗) ทำให้เป็นที่น่าคบหาของคนดี
    ๘) ทำให้เข้ากับสังคมอื่นได้คล่องแคล่ว
    ๙) มีบุคลิกองอาจ สง่าผ่าเผย
    ๑๐) ทำให้มีชื่อเสียงเกียรติคุณดี
    ๑๑) ตายแล้วเกิดในสุคติภูมิ

    ๒. สีลมัย บุญที่สำเร็จได้ด้วยการรักษาศีล
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้


    ๑) ทำให้มีความสุขกาย สุขใจ
    ๒) ทำให้เกิดโภคทรัพย์ได้
    ๓) ทำให้สามารถใช้สอยทรัพย์นั้นได้เต็มอิ่ม โดยไม่หวาดระแวง
    ๔) ทำให้ไม่ต้องหวาดระแวงว่าจะมีใครมาทวงทรัพย์คืน
    ๕) ทำให้เกียรติคุณฟุ้งขจรไป ทำให้ผู้อื่นเกิดความเชื่อถือ
    ๖) ทำให้ชีวิตนั้นแกล้วกล้าองอาจท่ามกลางชุมชน
    ๗) ทำให้ไม่เป็นคนหลงลืมสติ
    ๘) ตายแล้วไปเกิดในสุคตภูมิ

    ๓. ภาวนามัย บุญที่สำเร็จได้ด้วยการเจริญสมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์

    ๑) มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม
    ๒) มีผิวพรรณผ่องใส
    ๓) มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง
    ๔) มีความจำดี และกำลังปัญญาว่องไว
    ๕) เป็นคนใจคอเยือกเย็น
    ๖) เป็นที่ชื่นชอบของผู้พบเห็น
    ๗) มีบุคลิกอันน่าศรัทธา
    ๘) เกิดในตระกูลดี
    ๙) มีบุคลิกสง่างาม
    ๑๐) มีมิตรสหายมาก
    ๑๑) เป็นที่เคารพยำเกรงของคนทั่วไป
    ๑๒) เป็นที่ชื่นชอบของบัณฑิต
    ๑๓) สมบูรณ์ด้วยปัจจัย ๔
    ๑๔) ปราศจากอกุศลทั้งปวง
    ๑๕) ปลอดภัยจากศาสตราวุธ
    ๑๖) มีอายุยืน
    ๑๗) ตายแล้วเกิดในสุคติภูมิ

    ๔. อปจายนะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตน ต่อผู้ที่ควรเคารพนบนอบ (คุณวุฒิ วัยวุฒิ ชาติวุฒิ)
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้

    ๑) เกิดในตระกูลสูง
    ๒) มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
    ๓) มีมิตรสหายดี
    ๔) ได้รับคำชมเชยอยู่เสมอ
    ๕) มีความสมบูรณ์ในทรัพย์
    ๖) ได้พบเห็นแต่สิ่งที่ตนปรารถนา


    ๕. เวยยาวัจจะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการช่วยเหลือกิจการงานที่ชอบ
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้


    ๑) มีความเป็นอยู่ดี สุขกายสุขใจ
    ๒) มีมิตรสหายมาก
    ๓) มีไหวพริบความจำดี
    ๔) มีตำแหน่งหน้าที่การงานสูง

    ๖. ปัตติทานะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้อื่น (การแผ่เมตตา)
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้

    ๑) ไม่มีความอดอยาก ยากจน
    ๒) ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน
    ๓) มีบริวารดี
    ๔) เป็นที่รักของผู้พบเห็น
    ๕) มีรูปร่างหน้าตาสวยงาม
    ๖) มีอายุยืน

    ๗. ปัตตานุโมทนา บุญที่สำเร็จได้ด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้

    ๑) มีสุขภาพสมบูรณ์
    ๒) มีฐานะดี
    ๓) มากไปด้วยลาภสักการะ
    ๔) พบเห็นแต่สิ่งที่ทำให้เกิดความสบายใจ

    ๘. ธัมมสวนะ บุญที่สำเร็จได้ด้วยการฟังธรรม
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้

    ๑) เกิดในตระกูลสูง
    ๒) มีสติปัญญาดี
    ๓) มีมิตรสหายดี
    ๔) มีความเชื่อมั่นในตนเอง

    ๙. ธัมมเทสนา บูญที่สำเร็จได้ด้วยการแสดงธรรม
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้

    ๑) ไม่มีกลิ่นปาก
    ๒) มีฟันขาวเรียบ
    ๓) บุตรบริวารมีความเชื่อฟัง
    ๔) มีบุคลิกสง่างาม
    ๕) มีความจำดี
    ๖) เป็นที่ไว้วางใจแก่ผุ้พบเห็น

    ๑๐.ทิฏฐุชุกรรม บุญที่สำเร็จได้ด้วยการทำความเห็นให้ถูกต้องตรงตามความเป็นจริง
    ย่อมต้องได้รับอานิสงส์ ดังนี้


    ๑) มีปัญญาดี
    ๒) ไม่อดอยาก
    ๓) ไม่ยากจน
    ๔) มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
    ๕) มีบุคลิกสง่างาม
    ๖) พบเห็นแต่สิ่งที่ทำให้เกิดความสบายใจ
    ๗) มีฐานะความเป็นอยู่ดี
    ๘) มีบริวารมาก
    ๙) มีความเชื่อมั่นในตนเอง ไม่มีชีวิตเนื่องด้วยผู้อื่น

    บุญกริยาวัตถุ ๑๐ เมื่อสงเคราะห์ลงในทาน ศีล ภาวนา ได้ดังนี้คือ

    ทาน ปัตติทานะ ปัตตานุโมทนา สงเคราะห์ใน ทาน

    ศีล อปจายะ เวยยาวัจจะ สงเคราะห์ใน ศีล

    ภาวนา ธัมมสวนะ ธัมมเทสนา ทิฏฐุชุกรรม สงเคราะห์ใน ภาวนา


    ภาวนามัย อานิสงค์ 17 ข้อดังกล่าว จะสรุปได้ว่า บุญที่สำเร็จได้ด้วยการเจริญสมถภาวนา และวิปัสสนาภาวนา ได้บุญ เพราะจิต ได้ ข่ม ลด ละ เลิก ตัด กิเลส เป็น ชั้นๆ จนถึงที่สุดแห่งทุกข์ คือ พระนิพพาน

    ในจำนวน 10 ข้อ ภาวนามัย จึงสำคัญ ที่ สุด เพราะเป็น ปฏิบัติบูชา
     
  6. พรายแสง

    พรายแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    833
    ค่าพลัง:
    +371
    ได้บุญซิ เพราะช่วงที่เราปฏิบัติสมาธินั้น จิตใจเรามีความนิ่งสงบ เป็นใจที่ใส ๆ ชุ่มเย็นควรแก่การปฏิบัติธรรม ตั้งมั่นในอารมณ์ของผู้ให้ จิตใจไม่คิดอาฆาตพยาบาทใคร เอื้อเฟื้อนึกแต่อยากจะให้สรรพสัตว์มีแต่ความสุข พ้นจากความทุกข์ยากอย่างไม่มีประมาณ บุญที่เห็นทันตาเลยคือความสุขของใจงัย (เอมเขียนคำพระไม่เป็นหรอก แต่เขียนออกมาจากความรู้สึกค่ะ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...