เปลี่ยนร่าง กันพลาด....ความเมตตาของหลวงปู่ดู่

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย leo_tn, 17 มีนาคม 2009.

  1. jaroenthai

    jaroenthai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    913
    ค่าพลัง:
    +3,962
    คุณของพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้ คุณของพระธรรมหาประมาณมิได้ คุณของพระสงฆ์หาประมาณมิได้ สาธุ สาธุ ..
     
  2. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,673
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ

    อนุโมทนากับทุกท่านด้วยคะ

    สาธุ สาธุ
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,349
    ผมขอนำสิ่งที่ผมได้รับรู้มาเล่าให้ฟัง ไม่ได้มีเจตนาปรามาสแต่ประการใดครับ

    ในเรื่องที่มีคนหลายคนเชื่อว่า หลวงปู่ดู่ เป็นพระอรหันต์นั้น ในสมัยที่ท่านยังทรงธาตุขันธ์อยู่มีคนคิดแบบนี้เยอะมากๆ เพราะท่านเป็นพระที่ปล่อยวาง ละวางได้หมดแล้ว ซึ่งความจริงเป็นกริยาของ พระโพธิสัตว์บารมีเต็ม ที่แม้ไม่ได้ตัดกิเลศไปซะทีเดียว แต่มีกำลังใจเทียบเท่าพระอรหันต์ คือมีกำลังในการกดกิเลศไม่ให้เกิดได้ครับ คนทั่วไปจึงมองว่าท่านเป็นพระอรหันต์

    ในเรื่องที่ หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านเคยบอกไว้ในหนังสือว่า หลวงปู่ดู่ คือพระอรหันต์ ... อันนี้ขอให้ผู้อ่านคิดกันตามกันเองนะครับ ไม่ได้คิดปรามาศ แต่ผมเคยเรียนถาม หลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ ท่านตอบผมว่า

    "คนที่มีบารมีน้อยกว่า มองคนที่บารมีมากกว่าไม่ออกหรอก"

    ในที่นี้ หลวงพ่อฤาษี ท่านเป็นพระอรหันต์ ก็จริงกำลังเทียบกันไม่ได้กับพระโพธิสัตว์บารมีเต็ม ซึ่งเรื่องนี้หลวงพ่อฤาษีก็เคยพูดไว้ครับ ว่า พระอรหันต์ กับ พระโพธิสัตว์ นั้น พระโพธิสัตว์ กำลังใจสูงกว่าพระอรหันต์มาก เพราะหวังสูง ปราถนาเป็นพระพุทธเจ้า กำลังใจจึงเข้มข้นกว่าพระอรหันต์ครับ

    แล้วยิ่งหลวงปู่ดู่ ท่านคือพระโพธิสัตว์บารมีเต็มแน่นอนแล้ว ซึ่งท่านยังบอกเองว่า

    'ข้าปิดมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว'

    แค่นี้คงยืนยันได้นะครับ
     
  4. มิกกิ

    มิกกิ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +52
    เลื่อมใสหลวงปู่เป็นอย่างมากค่ะ ดิฉันรู้จักหลวงปู่จากเวปถ้ำเมืองนะค่ะ หลวงปู่ท่านมรณภาพไปแล้ว ได้แต่อ่านคำสอนและข้อปฏิบัติของท่านและความเมตตาที่ท่านมีแก่ลูกศิษย์ ทำให้ดิฉันนับถือท่านหมดใจ และนำบทสวดมนต์ของท่านที่เรียกว่า บทจักรพรรดิ์มาท่องค่ะ รวมถึงบทขอเบิกบุญเก่ามาใช้
    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ สิ่งที่ดิฉันขอให้ท่านช่วย ท่านก็ได้ช่วยดิฉันจริงๆ ทำให้ดิฉันยิ่งซาบซึ้งในความเมตตา กรุณาของท่านมาก เพราะดิฉันไม่เคยพบเคยเจอตัวจริงของท่าน ท่านมรณภาพไปแล้ว แต่ความเมตตาของท่านช่างมากมายมหาศาล ดิฉันยังรู้สึกเสียดายที่รู้จักท่านช้าไป
    หลวงปู่ท่านกล่าวกับบรรดาศิษย์ ของท่าน แกคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงแก
    แกไม่คิดถึงข้า ข้าก็ยังคิดถึงแก สำหรับผู้ที่เป็นศิษย์ท่านและผู้ใกล้ชิดท่าน
    หรือได้กราบนมัสการท่าน นับว่าทุก ๆท่านเป็นผู้ที่มีบุญจริง ๆ ค่ะ
     
  5. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
  6. มุ่งเต็มใจ

    มุ่งเต็มใจ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2006
    โพสต์:
    7,755
    ค่าพลัง:
    +23,467
    อนุโมทนาสาธุกับบุญกุศลเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา ด้วยครับ ขอให้พระพุทธศาสนาดำรงมั่นอยู่ตราบสิ้นกาลนาน

    อานิสงส์บุญกุศลใดจักพึงบังเกิด ขออุทิศให้แก่มารดาบิดา ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โลก ผู้มีพระคุณ ญาติมิตร มนตรีบริวาร ในทุกภพทุกชาติ ตลอดจนถึงเทวดา เปรต สัตว์ในอบายทุคติ เจ้ากรรมนายเวร และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ขอจงได้รับรู้และอนุโมทนาโดยทั่วหน้ากัน ท่านที่มีทุกข์ ขอให้พ้นทุกข์ ท่านที่มีสุข ขอให้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยเทอญฯ พระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ

    <!--emo&:02:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo-->


    "พุทโธ โพเธยยัง มุตโต โมเจยยัง ติณโณ ตาเรยยัง"
    "เมื่อรู้แล้ว จักช่วยผู้อื่นรู้ด้วย เมื่อพ้นทุกข์แล้ว จักช่วยผู้อื่นพ้นทุกข์ด้วย เมื่อข้ามโอฆะแล้ว จักช่วยผู้อื่นข้ามโอฆะด้วย"
    "พระสัมมาสัมโพธิญาณ ปัจจโย โหตุ"
    "เมื่อได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จักช่วยให้ผู้อื่นได้พุทธภูมิ อภิเษกพระอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณด้วย"

    <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]
    <!--endemo-->
    <!--emo&:16:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:12:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:10:-->[​IMG]

    <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]<!--endemo--> <!--emo&:09:-->[​IMG]

    <!--endemo-->
    ;aa10<!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message -->
     
  7. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,159
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,349
    ท่านที่สนใจฝึกกรรมฐานสายหลวงปู่ดู่ หรือ "ภูติพระพุทธเจ้า"

    สามารถเข้าเวปนี้มาลองศึกษาดูได้ครับ

    http://www.watthummuangna.com
     
  8. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,443
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,663
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ

    ...............................
     
  9. orvet49

    orvet49 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +82
    [​IMG][​IMG][​IMG]อนุโมทนา สาธุ[​IMG][​IMG][​IMG]
     
  10. บุญบันดาล

    บุญบันดาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,000
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    นะโม โพธิสัตโต พรหมปัญโญ
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. Ream

    Ream เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +215
    อนุโมทนาด้วยครับ กราบหลวงปู่ด้วยความเคารพบูชาอย่างที่สุด
     
  12. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกันครับ ท้าวความถึงแต่ก่อน...
    ตอนเด็กๆ คุณพ่อกับคุณแม่ของผมเคยพาผมและพี่น้องไปวัดสะแก
    (ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา) เดิมทีคุณพ่อผมเป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยพื้นเพไปมาหาสู่และสักการะกับหลวงปู่ดู่อยู่เป็นประจำ ตั้งแต่ยังเล็กๆ จนกระทั่งคุณพ่อผมแต่งงานกับคุณแม่ผม จึงได้พาทั้งครอบครัวมายังที่วัดสะแก มาเป็นเวลานานมากแล้ว...(นานจนไม่รู้ว่ากี่ปี) ซึ่งแต่ก่อนที่วัดสะแกจะมีการสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่เป็นประจำ เท่าที่ทราบจากคุณพ่อและคุณแม่ของผม ได้บอกกับผมว่ามีการสร้างพระอยู่เป็นประจำ ทั้งแบบปูนปลาสเตอร์หลวงปู่ทวดก็ดี หลวงปู่ดู่ก็ดี ทั้งเนื้อชินและเนื้อว่าน รวมไปถึงแหวนพระ พระผงหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด เป็นต้น ในเวลาว่างๆ คุณพ่อผม ก็มักจะเล่าถึงเรื่องราวของหลวงปู่ดู่ และสมเด็จหลวงปู่ทวดให้ผมฟังอยู่เสมอ กับคำพูด คำสอนของทั้งสองท่านในเวลาเดียวกัน อยู่ตลอด รวมถึงคำภาวนา คาถาต่างๆ ที่เคยได้ยินมา รวมไปถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ และเรื่องราวทางจิต เกี่ยวกับพระอรหันต์เจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า สิ่งศักดิ์เบื้องสูง อยู่เสมอ และ ผงบัวที่หลวงปู่ดู่ได้ทำขึ้นมาจากบัวที่นำมาตากให้แห้ง ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมในการทำพระแต่ละองค์ ซึ่งตรงนี้ในส่วนตัวแล้วผมไม่สงสัยอะไรเลยกับการทำ การสร้างในแต่ละครั้ง รวมถึงข้าวสารเสกของหลวงปู่ดู่และสมเด็จหลวงปู่ทวดด้วย
    นอกจากนี้ยังได้รู้จักหลวงพี่ม้า(หลวงตาม้า) วัดถ้ำเมืองนะ ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ด้วย ซึ่งหลวงตาม้า ก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ เช่นกัน และคุณพ่อผมก็ไปมาหาสู่กับหลวงพี่ม้าเป็นเวลาสิบๆ ปี ตั้งแต่สมัยที่คุณพ่อผมรับราชการทหารที่กองพันสัตว์ต่าง จ.เชียงใหม่ ฝั้งแถบ อ.แม่ริมก่อนที่จะมีการจัดตั้งกรมป่าไม้ในปัจจุบัน ซึ่งในตอนนั้นหน่วนทหารบางหน่วยเพิ่งจะได้รับคำสั่งย้ายขึ้นมาจัดตั้งที่ อ.แม่ริม เช่น กรมรบพิเศษที่ 5 ราบ 7 ราบ 17 เป็นต้นและอีกหลายต่อหลายหน่วย ก็น่าจะหลายสิบปีมาก ๆ ก่อนที่จะมีการตัดถนน โดยการลาดยางมะตอยเสียอีก ซึ่งในสมัยนั้นยากลำบากมากในการเดินทาง เพราะพื้นที่โดยรอบจะมีแต่ป่าดิบชื้นอยู่เสียมาก พื้นที่บริเวณแถบนั้นสมัยก่อนจะเต็มไปด้วยฐานปฏิบัตการของคอมมิวนิสต์ทั้งนั้น ก่อนที่กองทัพบกจะเสริมกำลังจัดตั้งแต่ละกรมทหารในแต่ละพื้นที่จังหวัดนั้นๆ เสียอีก แต่คุณพ่อผมได้ใช้ยานพาหนะเพียง รถจักรยานยนต์รุ่น คาวาซากิ 100 ซีซี ในสมัยตอนนั้นเดินทางขึ้นลัดเลาะไปยังที่ถ้ำเมืองนะ ระยะทางก็ประมาณ 60-70 กิโลเมตรเห็นจะได้ ถ้าผมจำไม่ผิด ซึ่งที่ถ้ำเมืองนะนั้น อยู่ห่างจากชายเเดนไทย-พม่าประมาณ 2 กิโลเมตรกว่าๆ เห็นจะได้ ถ้าใครเคยไปจะพบว่าอยู่ใกล้ๆ กับกองกำลังผมเมืองซึ่งเป็นของทหารม้าอากาศ สังกัดกองทัพบกไทย ภูมิประเทศค่อนข้างสูงชัน และมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นมาก ในช่วงฤดูหนาว แต่ในหน้าร้อนจะเย็นสบายมาก หน้าฤดูฝนก็จะชุ่มฉ่ำ ฝนตกจะเกือบตลอดทั้งวัน แถบนั้นจะเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดของทั้งฝ่ายเราและฝ่ายพม่า ถ้าจะเรียกให้คุ้นก็ บริเวณนั้นจะเป็นที่รู้ๆ กันว่า หุบเขาหัวกระโหลก
    ซึ่งแนวทางของหลวงตาม้าก็จะเป็นสายหลวงปู่ดู่ และสมเด็จหลวงปู่ทวดด้วย
     
  13. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
  14. โชเต

    โชเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +331
    เคยได้ยินเรื่องนี้เหมือนกันครับ ท้าวความถึงแต่ก่อน...
    ตอนเด็กๆ คุณพ่อกับคุณแม่ของผมเคยพาผมและพี่น้องไปวัดสะแก
    (ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา) เดิมทีคุณพ่อผมเป็นคนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยพื้นเพไปมาหาสู่และสักการะกับหลวงปู่ดู่อยู่เป็นประจำ ตั้งแต่ยังเล็กๆ จนกระทั่งคุณพ่อผมแต่งงานกับคุณแม่ผม จึงได้พาทั้งครอบครัวมายังที่วัดสะแก มาเป็นเวลานานมากแล้ว...(นานจนไม่รู้ว่ากี่ปี) ซึ่งแต่ก่อนที่วัดสะแกจะมีการสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่เป็นประจำ เท่าที่ทราบจากคุณพ่อและคุณแม่ของผม ได้บอกกับผมว่ามีการสร้างพระอยู่เป็นประจำ ทั้งแบบปูนปลาสเตอร์หลวงปู่ทวดก็ดี หลวงปู่ดู่ก็ดี ทั้งเนื้อชินและเนื้อว่าน รวมไปถึงแหวนพระ พระผงหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ทวด เป็นต้น ในเวลาว่างๆ คุณพ่อผม ก็มักจะเล่าถึงเรื่องราวของหลวงปู่ดู่ และสมเด็จหลวงปู่ทวดให้ผมฟังอยู่เสมอ กับคำพูด คำสอนของทั้งสองท่านในเวลาเดียวกัน อยู่ตลอด รวมถึงคำภาวนา คาถาต่างๆ ที่เคยได้ยินมา รวมไปถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ และเรื่องราวทางจิต เกี่ยวกับพระอรหันต์เจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า สิ่งศักดิ์เบื้องสูง อยู่เสมอ และ ผงบัวที่หลวงปู่ดู่ได้ทำขึ้นมาจากบัวที่นำมาตากให้แห้ง ซึ่งใช้เป็นส่วนผสมในการทำพระแต่ละองค์ ซึ่งตรงนี้ในส่วนตัวแล้วผมไม่สงสัยอะไรเลยกับการทำ การสร้างในแต่ละครั้ง รวมถึงข้าวสารเสกของหลวงปู่ดู่และสมเด็จหลวงปู่ทวดด้วย
    นอกจากนี้ยังได้รู้จักหลวงพี่ม้า(หลวงตาม้า) วัดถ้ำเมืองนะ ที่ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ด้วย ซึ่งหลวงตาม้า ก็เป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดู่ เช่นกัน และคุณพ่อผมก็ไปมาหาสู่กับหลวงพี่ม้าเป็นเวลาสิบๆ ปี ตั้งแต่สมัยที่คุณพ่อผมรับราชการทหารที่กองพันสัตว์ต่าง จ.เชียงใหม่ ฝั้งแถบ อ.แม่ริมก่อนที่จะมีการจัดตั้งกรมป่าไม้ในปัจจุบัน ซึ่งในตอนนั้นหน่วนทหารบางหน่วยเพิ่งจะได้รับคำสั่งย้ายขึ้นมาจัดตั้งที่ อ.แม่ริม เช่น กรมรบพิเศษที่ 5 ราบ 7 ราบ 17 เป็นต้นและอีกหลายต่อหลายหน่วย ก็น่าจะหลายสิบปีมาก ๆ ก่อนที่จะมีการตัดถนน โดยการลาดยางมะตอยเสียอีก ซึ่งในสมัยนั้นยากลำบากมากในการเดินทาง เพราะพื้นที่โดยรอบจะมีแต่ป่าดิบชื้นอยู่เสียมาก พื้นที่บริเวณแถบนั้นสมัยก่อนจะเต็มไปด้วยฐานปฏิบัตการของคอมมิวนิสต์ทั้งนั้น ก่อนที่กองทัพบกจะเสริมกำลังจัดตั้งแต่ละกรมทหารในแต่ละพื้นที่จังหวัดนั้นๆ เสียอีก แต่คุณพ่อผมได้ใช้ยานพาหนะเพียง รถจักรยานยนต์รุ่น คาวาซากิ 100 ซีซี ในสมัยตอนนั้นเดินทางขึ้นลัดเลาะไปยังที่ถ้ำเมืองนะ ระยะทางก็ประมาณ 60-70 กิโลเมตรเห็นจะได้ ถ้าผมจำไม่ผิด ซึ่งที่ถ้ำเมืองนะนั้น อยู่ห่างจากชายเเดนไทย-พม่าประมาณ 2 กิโลเมตรกว่าๆ เห็นจะได้ ถ้าใครเคยไปจะพบว่าอยู่ใกล้ๆ กับกองกำลังผมเมืองซึ่งเป็นของทหารม้าอากาศ สังกัดกองทัพบกไทย ภูมิประเทศค่อนข้างสูงชัน และมีอากาศที่ค่อนข้างเย็นมาก ในช่วงฤดูหนาว แต่ในหน้าร้อนจะเย็นสบายมาก หน้าฤดูฝนก็จะชุ่มฉ่ำ ฝนตกจะเกือบตลอดทั้งวัน แถบนั้นจะเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดของทั้งฝ่ายเราและฝ่ายพม่า ถ้าจะเรียกให้คุ้นก็ บริเวณนั้นจะเป็นที่รู้ๆ กันว่า หุบเขาหัวกระโหลก
    ซึ่งแนวทางของหลวงตาม้าก็จะเป็นสายหลวงปู่ดู่ และสมเด็จหลวงปู่ทวดด้วย<!-- google_ad_section_end -->
     
  15. vera_p

    vera_p เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2009
    โพสต์:
    260
    ค่าพลัง:
    +588
    สาธุ ๆ ๆ พระอาจารย์ของผมก็พูดแบบนี้เหมือนกันครับ เพราะพระโพธิสัตว์ต้องเป็นพระพุทธเจ้าเท่านั้นทำนายพยากรณ์ได้ นอกนั้นบอกได้แค่คำว่า อนุโมทนาสาธุเท่านั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...