เวลาสวดมนต์ แล้วเห็นเท้าคน มายืนข้าง ๆ ค่ะ

สวัสดีค่ะ

ตอนนี้เราอายุ 34 มีลูก 2 คนแล้ว...คุณแม่เรา สอนให้เรารู้จักการสวดมนต์ ตั้งแต่เด็ก ๆ ... พอ ม. 1 เราก็จดจำพระคาถาชินบัญชร ได้อย่างแม่นยำพร้อมคำแปล...เราเรียนที่สตรีวัดระฆัง...และได้อ่านประวัติของหลวงปู่โต ทำให้รักและเคารพ หลวงปู่โตมาก...

เข้าเรื่องเลย เวลาเราสวดมนต์ เรามักจะตั้งคำถามว่า เราสวดแค่นี้พอไหม ได้บุญไหม...คือหลังจากที่อาราธนา คุณพระศรีรัตนไตรแล้ว เราก็จะต่อด้วยบท พาหุง มหากา แล้วก็ต่อด้วย คาถา ชินบัญชร 9 จบ แล้วก็ต่อด้วย พระคาถาบูชา ท่านท้าวเวสสุวรรณอีก 9 จบ แล้วค่อยนั่งสมาธิ จากนั้นแผ่เมตตา

มีหลวงพี่ท่านหนึ่ง ที่เราเคารพ ท่านแนะนำว่า ต้องเสริม ธรรมจักร กับ ยอดพระกัณฑ์ ไตรปิฏก ด้วย...เราก็ทำตามนะ...แต่หล้ง ๆ มา ไม่ค่อยได้สวดแล้ว...เพราะมีนิสัย ชอบสวดบทที่จำได้มากกว่า สองบทนี้ต้องกางหนังสือ มันไม่มีสมาธิ...

ทุกทีเราจะสวดมนต์ บนที่นอน...แต่ตอนนี้ทำห้องพระแล้ว ก็เลยไปสวดที่ห้องพระแทน...ปรากฏว่า...มีความรู้สึก กลัวผีมาก...พอสวดแล้วรู้สึกว่า มีคนมานั่งข้างหลัง...แล้วตอนที่ก้มกราบพระ...หางตามันปรายไปเห็น เท้าคนยืนอยู่ข้าง ๆ หัวใจแทบวายเลย...

เลยไม่ได้สวดมนต์ที่ห้องพระอีก...มาสวดที่ห้องนอนเหมือนเดิม...

แล้วก็ปรากฏว่า เช้าวันเสาร์ มีเสียงเคาะประตูห้องนอนเรา แล้วพูดว่า "คุณ คุณ ตื่นได้แล้ว" เป็นเสียงผู้หญิง

ทั้ง ๆ ที่ทั้งบ้าน ก็มีกันแค่ 4 คน แล้วนอนรวมกันในห้องเดียวกัน...

สามีนั่งทำงาน จนตีสอง ได้ยินเสียงลงบันไดมาหยุดที่ขั้นสุดท้าย...แล้วตามด้วยเสียงผู้หญิงพูดว่า "ดึกแล้ว ทำไมยังไม่นอนคะ"

จังหวะสามีจะหันไปตอบ เพราะคิดว่าเป็นเรา "ยังไม่ง่วงเลย"

ก็เจอแต่ความว่างเปล่าที่บันได แต่เสียงนั้นกลับมาอยู่ข้างหูเค้าแทนว่า "แล้วทำไมยังไม่ง่วงคะ"

แต่สามีมีสติมาก...ค่อย ๆ ปิดคอม แล้วเดินขึ้นห้อง...ตอนเช้าก็เล่าให้เราฟัง แล้วเราก็จูงมือกันไป ทำบุญให้เค้าอย่างเงียบ ๆ ...

สุดท้าย ต้องตั้งชื่อให้เค้าว่า Miss Take Care หรือ คุณดูแล...เพราะเธอจะคอยห่วง คอยถามตลอด...เราก็ทำบุญให้เค้าตลอดเหมือนกัน...

วันนึง นิมนต์ หลวงพี่ที่นับถือ มาฉันท์เพล ที่บ้าน...พอท่านขึ้นรถ ท่านก็พูดว่า "คนเรานี้ ถ้าพุทโธ ได้ตลอดเวลาก็ดีสินะ"

เราก็ถามหลวงพี่ว่า "หลวงพี่ไม่ได้ พุทโธตลอดเวลาเหรอคะ"

ท่านบอกว่า "เปล่า ชั้นยังทำไม่ได้ขนาดนั้นเลย"

ตอนท่านฉันท์เพล...ก็เล่าเรื่อง miss take care ให้ท่านฟัง ท่านบอกชั้นไล่ผีไม่เป็นนะ...เราก็บอก หนูไม่ได้ให้ไล่ค่ะ แต่อยากรุ้ ว่าเค้ามาทำอะไรที่บ้านหนู...

หลวงพี่ท่านบอกว่า รู้ได้ไงว่าบ้านเรา อาจเป็นบ้านเค้ามาก่อนก็ได้ เค้าจะมายืนฟังเราสวดมนต์ มานั่งฟัง ก็เรื่องของเค้า...เค้ามีสิทธิ์

ถ้าจะยาว มีต่อนะคะ

จากคุณ : BOOTH_FON FriendFlock Bloggang
เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 17:22:53

 

ต่อค่ะ...

เราก็เถียงหลวงพี่ว่า "ก็หลวงพี่เป็นพระ เลยไม่กลัวผี"

ท่านบอก "กลัวสิ ทำไมจะไม่กลัว...ชั้นก็ยังเป็นคนนะ"

เราก็ "จริงดิ พระกลัวผีด้วยเหรอ" ท่านเล่าว่า ตอนท่านไปจำวัดที่ ศาลายา องค์เดียว ท่านกลัวมาก กลัวผี กลัวโจร มันสับสน ปรุงแต่งไปหมด

แต่สุดท้าย ท่านก็ทำสมาธิ หาคำตอบให้ ความกลัวของท่าน...ท่านไม่ได้ชนะความกลัวเดี๊ยวนั้น...แต่มันกลายเป็นความเคยชิน...จนท่านไม่กลัว

เราก็บอกว่า หนูก็รู้ ว่าหนูปรุงแต่งไปเอง เรื่องฝ่าเท้า เรื่องมีคนมานั่งข้างหลัง แม้กระทั่งขนหัวลุก หนูก็ปรุงแต่งไปเอง...มันลุกของมันขึ้นมาเอง

แต่มันเป็นมาร ทำให้หนูสวดมนต์ไม่ได้...ท่านบอก เมื่อเราปรุงแต่งเอง ก็แต่งให้จบ ปรุงแต่งได้...แต่งไปเรื่อย ๆ จนกระทั่ง...แต่งได้ว่า เมื่อพวกท่านมาฟัง ข้าพเจ้า สวดมนต์ ก็ขอให้พวกท่าน ร่วมอนุโมทนาบุญไปกับเราด้วย...อย่าทำให้เรารู้สึกกลัวเลย...

ท่านสอนว่า...บทสวดมนต์ จะกี่พระคาถา สุดท้าย ก็ต้องมาจบที่ "พุทโธ" เพราะทุกคาถา ก็ล้วนแต่สรรเสริญ องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ก็คือ "พุทโธ"...

เราก็บอกท่านว่า...หนูสวดมนต์ พวกบท ธรรมจักร ตามที่หลวงพี่สั่ง แต่มันยังจำไม่ได้...หนูต้องกางหนังสือ...มันไม่สำนึกเลย สวดเหมือนเสียงนกเสียงกา...

ท่านแย้งมาเบา ๆ ว่า "เสียงนก เสียงกา ยังดีกว่า ไม่มีเสียงเลย" (จุกเลย)

เราก็ยังไม่ยอม บอกท่านว่า "หนูไม่มีคำแปล บทคาถาพวกนี้ สวดไปจะได้บุญ ได้บารมีเหรอคะ"

ท่านก็โต้มาตามสายลมว่า "ไม่ได้ บุญ บารมี ก็ได้ อานิสงค์" (สาธุ)

ท่านบอกว่า อย่าหยุดทำ อย่าคิดว่าได้อะไร หรือไม่ได้อะไร ทำไปเรื่อย ๆ เหมือนเราต้องกินข้าวทุกวัน...อย่าไปคิดให้มันเยอะ...

เรียบ ๆ สั้น ๆ แต่สำหรับเรา เราได้คิดอะไรเยอะ...หลังจากนั้น ท่านก็พรมน้ำมนต์ให้ทั้งบ้าน...

ค่ำคืนนั้น เราก็เดินไปห้องพระอย่างองอาจ...ก่อนจะเริ่มสวดมนต์ก็บอกออกมาดัง ๆ เลยว่า "กำลังจะสวดมนต์แล้วนะคะ มานั่งฟังกันเงียบ ๆ นะคะ...ใครฟังไม่ได้ ออกไปรอนอกบ้านก่อน เสร็จแล้วค่อยเข้ามานะคะ" แล้วก็สวดมนต์ ทำสมาธิตามปกติ...ก็เงียบสงบดี มีปรุงแต่งบ้าง...แต่ก็พยายามดึงกลับมา...

Miss Take care เค้าก็มาบ้าง หายไปบ้าง มาเรียกชื่อเราบ้างตอนนอน...ก็ไม่เป็นไร

เสาร์ อาทิตย์นี้ เราจะไปบวช เนกขัมมะ ค่ะจะได้มีเวลาศึกษาธรรมะ อย่างสงบ ๆ หน่อย เพราะเวลา เราบวช เราจะไม่พูดกับใครเลย...

ที่เล่ามาทั้งหมดก็อยากจะแชร์ประสบการณ์ การสวดมนต์ธรรมดา ที่ไม่ธรรมดาให้รับฟังกันค่ะ ... ขอบคุณทุกท่านล่วงหน้านะคะ

จากคุณ : BOOTH_FON FriendFlock Bloggang
เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 55 17:52:34

 

ความคิดเห็นที่ 24
กรี๊ดดด เจอพวกเดียวกันแล้ว คุณ จขกท. คะ เราอยากบอกว่า "เราเจอแบบเดียวกะคุณ"

ทุกวันนนี้หยุดนั่งสมาธิ สวดมนต์น้อยลงกว่าเดิมครึ่งๆเลย เพราะเหล่า miss take care นี่แระค่ะ..

ของเราไม่ได้มาเป็นรูปร่าง แต่มาเป็นเสียง ทั้งปลุก ทั้งเรียกชื่อ ไม่พอ วันไหนเราไปงานจำเป็นต้องดื่มออลกฮอล รุ่งส่าง คุณเธอแอบทุบหน้าอกเบาๆ ประมาณเตือนเลย (ทุกวันนี้ขยาดออลกฮอลเลยล่ะ)

ตอนนี้ก็มีปัญหาแบบคุณ จขกท. ไม่กล้าสวดมนต์เราะปรุงแต่งไปเอง แบบคนมันเคยเจอ กลัวเลยอ่ะ..แต่ก็พอรู้ตัวนนะว่าเป็นเทวดาแน่ๆ เพราะ เวลาเรานึกอยากได้อะไร "ปิ๊ง และบังเอิญ เป็นดั่งใจหวังเสมอ"

แต่เดี๋ยวนี้ ไม่ค่อยได้นั่งสมาธิ สวดมนต์ทุกวันเหมือนแต่ก่อนแล้ว รู้สึกชีวิตเหมือนคนปกติดีจัง..แต่ยังไงเราก็ยังหมั่นฟังธรรม ปฏิติตัวตามแนวคำสั่งสอนเสมอๆในชีวิตประจำวันค่ะ

จากคุณ : clear_blue
เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 04:31:04

 

ความคิดเห็นที่ 27
^
ทั้ง2คนน่าตีเพียะๆ เป็นอย่างยิ่ง
เจอแบบนี้ ยิ่งต้องภาวนานะคะ เราเคยเจอขนาดว่า

คืนนั้น ตั้งใจจะทำความเพียรทั้งคืน ดันไม่สบาย ปวดสะบัก ง่วงมาก แล้วนอน
แต่คิดว่า จะพยายามลุกมาเดินจงกรม(เพราะปกติจงกรมในห้องนอน)
แต่ก็ไม่ลุกเสียที
เจอเลยคะ เหมือนโดนบางอย่างมากดไว้ทั้งตัว แน่นไปหมด
แล้วรู้สึก ว่าโดนลากจากจุดที่นอน ไปหน้าทีวี ปลายอีกซีกห้อง เสียงดังพรืดดดดดด
(มันไม่ใช่ฝันหรอกคะ ชัดออกหยังงั้น)
แต่ตื่นมา ยังนอนอยู่เหมือนเดิม ท่าเดิมเด๊ะ กับที่โดนลาก
(เรามีจุดสังเกตนะคะ เวลาเจอของจริง เวลาตื่นมา ท่านอนมันจะตรงกับในฝัน ความสว่าง รายละเอียดในห้อง จะตรงกับในฝันเด๊ะๆ)

ตอนแรกก็โกรธนะคะ กร๊อดดด..กล้าดียังไง นี่คนมีบุญนะ (ว๊ะฮ่าๆนิสัยไม่ดี แต่ขอเผาตัวเองหน่อย ชอบคิดว่าตัวเองมีบุญ ) ทำไมกล้ามาสั่งกันแบบนี้ ไม่ชอบนะ !!

นั่งกินข้าวในครัว นึกเรื่องนี้ ใจบอก คอยดูนะ จะฟ้องท้าวมหาราชทั้งสี่ ว่าบริวารท่านมาแกล้งเรา คิดแบบมีปฎิฆะด้วยนะคะ

คิดเสร็จ เสียงทุบโครมเบ่อเริ่มดังข้างตู้เย็น 2 ที โครมๆดังทันที
ดังฝั่งที่ติดกับเรานั่งด้วย
ดังให้เห็นๆว่าดังได้เอง ไม่ต้องมีอะไรมากระทบ เหอๆ ซื้อบ้านอยู่คนเดียวได้อีก จะมีใครละ
เรา ยกมือไหว้1ที บอกว่า อ่า..หนูไม่รู้ว่าจะได้ยินกันด้วยนี่คะ ขอโทษนะคะ (เสียงเจียมตัวสำนึกผิดขึ้นมาทันที) นั่งกินข้าวต่อเงียบๆ ไม่คิดเรื่อง เมื่อกี้แล้ว

ตั้งแต่นั้น ไม่กล้าคะ เวลาตั้งใจจะภาวนาต้องทำ
ทำไม่ไหว เพราะไม่สบาย ก็จะบอก ว่า วันนี้ไม่สบายเลยขอพัก
เพราะมีพี่คนหนึ่ง บอกไว้ ว่าเวลาทำเต็มที่แล้ว จะพัก ก็บอกท่าน(ไหนไม่รู้) ว่าจะพัก แล้วจะไม่โดน

นี่บ้านตัวเองนะคะ ไม่ต้องไปเจอถึงที่ไหนหรอก
พวกมีโค๊ชส่วนตัวเนี่ย ดีคะ ทำให้ไม่มีโอกาสไปทำอะไรเกเร
เจอแบบนี้ ต้องยิ่งเร่งทำความเพียร เพราะต่อไป จะเจอแต่เรื่องสนุกมากๆ เหมือนหนังนาเนีย รออยู่ ( จริงๆนะ)
ทั้งสองคนข้างบน ไปเร่งทำความเพียรนะคะ อย่าได้ลดลง เชื่อเรา พลีส!

จากคุณ : น้องต๋าว FriendFlock Bloggang
เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 55 19:04:07