ขอถามท่านผู้เรื่อง วิปัสสนากับวิปัสสนึก ต่างกันอย่างไร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เทพคาถา, 29 เมษายน 2016.

  1. DR-NOTH

    DR-NOTH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    581
    ค่าพลัง:
    +1,276
    ^_^ ท่านผู้เข้าถึงวิปัสนาแท้จริง คือ มีดวงปัญญานำหน้าจิตสังขาร
    //แต่หากเป็นวิปัสสนึกนั้น มักจะถูกความรู้สึกนึกคิด(สังขารขันธ์) บดบังดวงปัญญาอยู่นั่นเอง
    สาธุ ครับ ...
     
  2. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,295
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    วิปัสนึกตอนที่มีความคิดปรุงแต่ง แม้จะเกี่ยวกับการปฏิบัติ
    วิปัสสนาตอนจิตเห็นสภาวะธรรมเกิดดับ.. เห็นแจ้งในไตรลักษณ์ จิตหมดข้อกังขา
     
  3. เทพคาถา

    เทพคาถา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +374
    ผมขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างสูง ที่กรุณามาให้ความรู้ ครับ และ ผมจะพยายามทำความเข้าใจเพื่อนำไปใช้นำไป
    ปฏิบัติตามครับ
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +20,320
    การเข้าไปรู้ความจริง มันต้องรู้จริง ถึงขั้นที่ว่า จิตตานุปัสสติ และธรรมานุปัสสติ มันเกิดอย่างไร

    ธรรมชาติของจิต ธรรมชาติของธรรมารมณ์ ที่กระทบจิต มันเป็นอย่างไร

    เมื่อเห็นธรรมชาติความจริงทั้งหมด สติ ปัญญา ย่อมแยกแยะจำเพาะนามธรรมเหล่านี้ได้หมด คือย่อมเห็นความจริงว่า

    จิตทั้งหลาย ก็เป็นธรรมดาอย่างนี้ ทำงานอย่างนี้ มีเจตสิกเกิดปรากฏให้เห็นจริงเช่นนี้เสมอ เมื่อมันเป็นอย่างนี้ สติปัญญาต้องมีกำลังเท่าทันการทำงานของจิต และเจตสิก รู้ให้ทันการเกิดของมันและดับลงปล่อยวางลงในทันทีเช่นกัน ก็มันทำงานของมันเป็นเช่นนี้ เรากำลังฝึกเพื่อรู้เท่าทันการทำงานของจิต เพื่อจะได้ปล่อยวางตัดวงจรของการเกิดทุกข์ นั่นเอง

    ในส่วนของธรรมารมณ์ก็เช่นกัน

    แท้จริงการดับทุกข์เมื่อท่านปฏิบัติมามาก มันเกิดความเข้าใจความจริงว่า ความดับคือดับความปรุงแต่งทั้งปวง อันมีสติปัะญญารู้เท่าทันทุกสภาวะ นั่นเอง เกิดเป็นสภาพจิตว่าง
    หรือจิตสันโดษ เอกคตาจิต รวมลงสู่จุดเดียวคือว่างเปล่าปล่อยวางไม่หลงเหลือสิ่งใด ครับสาธุ
     
  5. นิพพิชฌน์55

    นิพพิชฌน์55 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 เมษายน 2016
    โพสต์:
    185
    ค่าพลัง:
    +31
    เมื่อใครข้ามแม่น้ำได้จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะมาชี้ทางบอก ...
    และเมื่อชี้บอกทางข้ามให้ผู้อื่นแล้วการที่เขาจะเชื่อหรือไม่นั้นก็แล้วแต่เขา เพราะไม่เกี่ยวกับเราถึงอย่างไรเราก็ข้ามฝั่งได้แล้ว (อันนี้ยกข้อความมาจากที่ฟังเฉย ๆนะครับ อย่าเข้าใจเป็นว่าตัวผมเองนะ)
    ---> ปล่อยให้ผู้หลง หลงไปกับความคิดเห็นอันถูกต้องของเขานั่นแหล่ะครับ จึงดี <---

    หากมีกัลยาณมิตรที่เป็นสัตตบุรุษ (บัณฑิต)เพียงคนเดียว ดีกว่าการมีพวกอสัตตบุรุษเป็นร้อยเป็นพันคนเป็นไหน ๆ

    ขอบคุณในพระธรรมครับผม สาธุ (- -)
     
  6. นางสาวอยู่จ้ะ

    นางสาวอยู่จ้ะ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +3,865
    ขอตอบแต่แนวทางการทำวิปัสสนา

    หายใจเป็นแบคกราวน์(ทำไปเลยตลอดเวลา, บางคนเรียกปฐมฌานใช้งาน)
    แล้วดูไตรลักษณ์ที่เกิดขึ้นกับรูป-นาม
    - ดูรูปใช้ "ลม"
    - ดูนามใช้ "เวทนา, จิต, กระบวนการทำงานของจิต" เป็นต้น
    ดูสลับไปมาระหว่างสองส่วนนี้ ถ้าดูนามไม่ได้ก็ให้ดูรูปซึ่งจะง่ายกว่า

    ถอดถอนความเป็นเราให้ได้(เบื้องต้น) เบื้องปลายถอดถอนอุปาทาน
    ที่จิต ถึงตอนนั้นเชื้อเกิดจะไม่มี ขอให้ทำต่อไปเรื่อยๆ สู้ๆค่ะ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ถ้าดู ลม เพียงปฐมฌาณ

    เวทนา จะพิจารณาจาก การภาวนาที่ต้องเจตนาดูลม ถ้ามี
    เจตนาปั๊ป จัดว่าดูเวทนาอยู่แล้ว ทันที ไม่ต้องไปคิดว่าเปน
    เวทนาอิท่าไหน ถ้าตรึกว่าเปนเสทนาอิท่าไหน นั่นคือตก
    จากปฐมฌาณ วิตกวิจาร หายไปจากอานาปานสติ

    พอการดูอานาปานสติคล่องตัว มันภาวนาขิงมันเอง โดย
    ไม่ต้องตั้งจิตใส่ใจประครองรักษา นี่ก็จัดว่า เปนการภาวนา
    จืตในจิตแล้ว ไม่ต้องตรึกว่า เปนจิตในจิตอิท่าไหน

    และพอชำนาญอล้ว รับรู้ว่าจิตภาวนาอานาปานสติอยู่
    ของเขาเอง แล้ววันดีคืนดี จิตดระทบกิเลส อาสสวะ สาสวะ
    ภาวะสวะ แล้วต้องมานั่งตั้งใจดูอานาปานสติ นี่ธรรมในธรรม
    เกิดการสลัดกลับหลัง ไม่มีการสลัดคืนจิต นี่ก็เพียงพอแล้ว

    ที่จะมั่นใจได้ว่า ในลมหายใจสุดท้ายขิงชาตินี้
    จะปรินิพพานได้ แม้นระหว่างการภาวนา จะไม่ได้สามัญผลใดๆ
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    ถ้าจะภาวนาให้มีกำลัง มากกว่าปฐมฌาณ

    ตอนที่คล่องตัว ตอนภาวนา จิตในจิต

    ตรงนั้น จิตจะสัมผัสได้ถึงความสงัดจากอกุสล
    ให้นมสิการว่า จิตสงัดจากราคะสัญญาในรูป
    จะเหนสติว่ามีในสมัยของจิต ไม่มีการให้ค่า
    ไม่บัญญัติชื่อผัสสะที่กระทบจิต มีลหุสัญญา
    คือกายเบาจิตเบา ตรงนี้ใหแยบคายวางจิต
    เลื่อมใสในจิตที่สงักจากกาม เสพคุ้น สภาวะ
    ธรรมปฐมฌาณ พิจารณาคุณ และโทษของปฐมฌาณ

    ก้จะล่วงส่วนสลัดปฐมฌาณ ไปสู่ธรรมยิ่งกว่า ด้วยอำนาจวิปัสสนา เปนสมาธิที่เกิดโดยไม่สมุทัยเจือ ไปเรื่อยๆ จนโคจร
    ครบพวกรุปวจรจิต อรุปวจรจิต ตามแต่อำนาจวิปัสสนา ไม่ใช่
    เอาตัณหานำ ก้จะอ๋อ เราล่วงทุกขด้วยความเพียร ด้วย
    ปัญญา หนทางอื่นไม่มี
     
  9. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    965
    ค่าพลัง:
    +1,225
    วิปัสสนา รู้ตามความเป็นจริง
    วิปัสสนึก ฟุ้งซ่านไปตามอารมณ์และกิเลส
     
  10. เทพคาถา

    เทพคาถา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +374
    ขอบคุณครับ
    ทุกท่าน
     
  11. ไม่ได้อะไร

    ไม่ได้อะไร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2016
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +1
    วิปัสสนา รู้ตามความเป็นจริง รู้เห็นไม่เหมือนเดิม รู้นั้นรู้นี้ตลอด รู้ได้โดยไม่ต้องนึก พิจารณา
    จะพิจารณาเมื่อต้องการว่า ทำไมเรารู้อย่างนั้น ทำไมเราเห็นอย่างนั้น เปรียบเทียบความรู้กับครูอาจารย์ ว่าหลงทางไหม

    วิปัสนึก พิจารณาตามคำครู พิจารณาคิดเอง พยายามคิดหาเหตุผลด้วยปัญญาของตัวเอง

    วิปัสนา รู้เห็นง่าย ไม่มีขอบเขต รู้ได้เรื่อยๆ เมื่อเจอเมื่อได้พบกับเหตุ
    วิปัสนึก ยากลำบากต้องใช้ความคิดเยอะ
     
  12. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,055
    ค่าพลัง:
    +3,471
    แน่ใจหรือฮับว่า. ไม่ได้อะไร

    ลอง. หยิบจับวิปัสนึก ได้ โดยไม่ไหวเอนตามลมใดๆ มั่นคง ตั้งมั่น
    แล้ว แลอยู่จังซี่ พ้นการฟังจากใครนี่..................


    ...............
    ...............



    ..._/\_ _/\_ _/\_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2016
  13. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    จินตนาการ สำคัญ กว่าความรู้
    ของคุณครู ไอสไตน์ ท่านว่าไว้
    ทฤษฏี สัมพันธภาพ เห็นอย่างไร
    ทุกสิ่งไซร์ จะเชื่อมโยง เกี่ยวเนื่องกัน

    มันก็จริง ด้วยความรู้ เป็นส่วนผล
    ข้ามเส้นพ้น จิตนาการ จึงได้รู้
    พุทธศาสตร์ บอกไว้ ลองเพ่งดู
    จะพบครู รู้สงบ จบสูญยัง


    ...................................................................................
    ทฤษฎีสัมพันธภาพ (Theory of relativity) คือทฤษฎีที่บอกว่า
    "ภาพ" หมายถึงทุกสิ่งในจักรวาลที่ปรากฏ
    "สัมพันธ์" หมายถึง ความเกี่ยวเนื่อง เชื่อมโยง แบบต่อเนื่องเกาะเกี่ยวกัน
    "สัมพันธภาพ" จึงหมายถึงภาพ หรือ ทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาลนั้นล้วนมีความเชื่อมโยง เกาะเกี่ยว เนื่องด้วยกัน
    ........................................................................................

    Imaginative ideas are endless = ความคิดจินตนาการที่ไม่มีที่สิ้นสุด

    Knowledge is endless = ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด (วิญญาณัญตายตนะ)

    introspection = วิปัสนา (ความรู้ที่ได้จากความคิด จินตนาการที่พิสูจน์ได้ เป็นความจริงอันถึงที่สุด เสร็จสิ้นแล้ว)

    สรุป...
    epistemology = ญาณวิทยา (วิชาว่าด้วยความรู้ หรือ ทฤษฏีว่าด้วยความรู้) จะเขียนเป็นสูตรว่าอย่างไรดี?
     
  14. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ทฤษฎีสัมพันธภาพน่ะไม่มีหรอก มีแต่ทฤษฎีสัมพัทธภาพ

    อ่านว่า ทิด-สะ-ดี-สำ-พัด-ทะ-ภาพ

    คุณ"จริงนะ" สมควรต้องไปเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น"ไม่จริงเลย" หรือ"ไม่ถูกต้อง" หรือ" ผิดทั้งหมด" หรือ"มั่วทั้งเพ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2016
  15. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,171
    ค่าพลัง:
    +1,231
    จากการติดตามสังเกตมาหลายกระทู้จะพบว่า คุณ"จริงนะ"คนนี้
    เวลาจะตอบปัญหาอะไร จะใช้วิธียกพุทธศาสนสุภาษิต พร้อมคำแปลมาวางโปะข้างบนไว้ก่อน เพื่อสร้างภาพให้ดูน่าเชื่อถือว่า เป็นบุคคลผู้ทรงความรู้ในพระพุทธศาสนาจริงๆ แต่พออ่านที่คำตอบจะพบว่า"มั่ว"
    คำตอบไม่ตรงกับความรู้ที่มีอยู่ในพระพุทธศานา
     
  16. เงาเทวดา

    เงาเทวดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    397
    ค่าพลัง:
    +314
    โย นินฺทิยํ ปสํสติ ตํ วา นินฺทติ โย ปสํสิโย วิจินาติ มุเขน โส กลี กลินา เตน สุขํ น วินทติ

    ผู้ใดสรรเสริญคนที่ควรติ หรือติคนที่ควรสรรเสริญ ผู้นั้นย่อมเก็บโทษไว้ด้วยปากตน เขาย่อมไม่ได้รับความสุข เพราะเหตุนั้น

    ขอบคุณครับ ที่สอนสั่ง

    (ในความคิด... ไหนว่าไม่มีแล้วนี่ จุกอกล่ะซินะ 55555)
     
  17. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    เท


    ....คุณนิวรณ์ กับคุณวรณ์นิ คงเป็นคนละคนกันนะ ผมเคยแย้ง คุณนิวรณ์ละ เขาเห็นไม่เหมือนผม

    .....คือเท่าที่ผมศึกษ และลองปฏิบัติ ผมรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่า ถ้ามีจิตเป็นผู้รู้อย่างเดียว แล้วมันตอบโจทย์ ในคำสอนไม่ได้

    .....ผมเข้าใจอย่างนี้นะ ใน จิต เจตสิค รูป นิพพาน น้้น มีนามธรรมคือ จิต กับ นิพพาน เป็นตัวผู้รู้อยู่ แต่รู้ต่างกัน คือ จิต รู้แบบมีอารมณ์ เพราะตัองเกิดร่วมกับเจตสิค ส่วนนิพพาน รู้แบบ ไม่มีอารมณ์นั้นเอง

    ....การทำวิปัสสนาก็เหมือนกัน ถ้าคนหนึ่ง ปฏิบัติธรรม เพื่อบรรลุธรรม ก่อนเข้าสู่ขบวนการ ตามคำสอน จิต กับ นิพพานธาตุ ผูกโยงกันด้วยกิเลสสังโยชน์ เมื่อ ปฏิบัติธรรมสำเร็จ เส้นกิเลสสังโยชน์ ที่เชื่อมกันระหว่าง จิต กับ นิพพาน ตัดขาดกันไปมากน้อยเท่าใหร่ ถ้าถึงระดับพระอรหันต์ ก็ตัดหมดเลยทั้ง สิบเส้น และเมื่อพระอรหันต์ตาย ก็จิตดับแล้วไม่มีจิตเกิดอีก คงเหลือแต่นิพพานธาตุ

    ....การทำวิปัสสนาตามที่เคยฟังจากคนอีกกลุ่มหนึ่ง เข้าใจว่า มีตัวผู้รู้อยู่ตัวเดียวคือจิต เมื่อ ปฏิบัติธรรมสำเร็จ จิตก็จะกลายเป็นจิตที่ขจัดกิเลสได้หมดจด และกลายเป็นจิตเดิมแท้ ประมาณนั้น เมื่อ พระอรหันต์ตาย ทุกอย่างก็ดับสูญ


    ....พระพุทธเจ้า ตรัสว่า นิพพานสุขอย่างยิ่ง เมื่อพระอรหันต์ตาย สิ่งที่เหลือยังคงเป็นนิพพานธาตุ ซึ่งเป็นอสังขตธาตุ และยังมีการรับรู้ได้ แต่จะรับรู้อย่างไร เราไม่อาจสามารถ เข้าใจได้ และเป็นชีวิตอมตะนั้นเอง

    .....ขณะเรายังมีชีวิตอยู่ ขณะที่ทำสติปัฏฐานอยู่ ในสภาวะ สัมปชัญญะ ก็รู้สึก ว่าแววๆของนิพพาน ก็วิเศษเหลือเกินละครับ

    ....ขอบคุณนะที่คุณวรณ์นิ เพื่อให้รู้ว่ายังมีคนเข้าใจตรงกับเราบ้างสักคน
     
  18. Xtrem

    Xtrem เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +275
    จะวิปัสสนา หรือ วิปัสนึก ก็ล้วนต้องอาศัยสังขาร แต่วิปัสสนานั้น ต้องใช้การกำหนดรู้ การมุ่งหมาย การระลึกอยู่ การมีสติสัมปชัญญะ เพื่อให้เรารู้เท่าทันสภาวะต่างๆ ที่เกิดดับตามความเป็นจริง ถ้าวิปัสสนึกรู้อะไรขึ้นมานิดหนึ่ง ก็หลงปรุงแต่งไปตามอารมณ์ หาเหตุหาผลของมัน แต่จริงๆ วิปัสสนึก ก็เป็นสภาวะธรรมอันหนึ่งเท่านั้น ไม่พ้นความเป็นไตรลักษ์ไปได้ ถ้าไม่หลงเพลิดเพลินไปไกลจนกู่ไม่กลับ ก็จะฉุกคิดได้เองว่ามาผิดทางแล้ว ปฎิบัติใหม่ๆ ก็ต้องมาสดุดกันตรงวิปัสสนึก เพราะมันใกล้เคียงวิปัสสนา เหตุก็เพราะว่าไปแบกตำราหรือคำสอนเข้ามาด้วย รู้ ก่อนลงมือ ปฎิบัติ ได้เพียงทฤษฎี ยังไม่เข้าถึงสภาวะจริง ก็จะยังไม่หมดสงสัย ยังไม่หายความคับข้องใจในธรรมนั้นๆ เพราะยังไม่รู้แจ้งเห็นจริงในธรรมนั้นด้วยตนเอง คิดอยู่ในความสงบ กับ คิดฟุ้งซ่านนั้นต่างกัน แต่มันก็คิดเหมือนกันถ้าไม่พิจารณาจะแยกไม่ออกว่าอันไหนวิปัสนา อันไหนวิปัสนึก:cool:
     
  19. Prasit5000

    Prasit5000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +228
    - ถ้ายังไม่มีสัมมาทิฏฐิ ปฏิบัติให้ตาย ก็ได้แต่ แต่วิปัสสนูปกิเลส เผลอๆ กลายเป็นวิปาลาส (ผีบ้า )

    .....ยิ่งไม่นับถือพระไตรปิฏก ยิ่งเรียกว่า เป็นพวก นอกรีด พวกไม่มีอาจารย์ ยิ่งปฏิบัติยิ่งนอกลู่นอกทาง
    .....การปฏิบัติ ต้อง อ้างอิงพระสูตรเสมอ เหมือนเข็มทิศ นำทาง
    .....พระพุทธองค์ คือดวงตาแห่งโลก

    .....แม้แต่คนสมัยพระพุทธกาลก็ยังกล่าวว่าพระพุทธเจ้าคือจักษุของโลก

    ......" พวกเจ้ามัลละกับโอรส สุณิสาและปชาบดีได้
    สดับคำนี้ของท่านพระอานนท์แล้ว เป็นทุกข์เสียพระทัย เปี่ยมไปด้วยความทุกข์
    ใจ บางพวกสยายพระเกศา ประคองหัตถ์ทั้งสองคร่ำครวญอยู่ ล้มลงกลิ้งเกลือก
    ไปมา ดุจมีบาทอันขาดแล้ว ทรงรำพันว่า พระผู้มีพระภาคจักเสด็จปรินิพพาน
    เสียเร็วนัก พระสุคตจักเสด็จปรินิพพานเสียเร็วนัก พระองค์ผู้มีพระจักษุในโลก
    จักอันตรธานเสียเร็วนัก ฯ
     
  20. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    วิปัสนึกคือความคิดที่เรานำมาคิดนำมาพิจารณานี่แหระ เรียกว่าวิปัสนึก เมื่อพิจารณาไปจนจิตรู้แจ้งแล้วจะเป็นวิปัสสนา เหมือนวิมุติ ต้องสมมติก่อนจึงเป็นวิมุติ ต้องวิปัสนึกก่อนเมื่อชำนาญรู้แจ้งแล้วจะเป็นวิปัสนาครับ(อ่านจากคำครูบาอาจารย์ท่านสอน) ขออนุโมทนาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...