ดูลมหายใจ แต่เห็นกาย..งง

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย หยากหลุดพ้น, 26 มกราคม 2008.

  1. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    พลาดโอกาสงามไปแล้ว

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมพิจารณากายนี้แล
    เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นไป เบื้องตำแต่ปลายผมลงมา
    มีหนังหุ้มอยู่โดยรอบ เต็มด้วยของไม่สะอาด
    มีประการต่างๆ ว่ามีอยู่ในกายนี้ คือ

    ผม ขน เล็บ ฟันหนัง เนื้อ เอ็น กระดูก เยื่อในกระดูก ม้าม หัวใจ ตับ ผังผืด ไต ปอด ใส้ใหญ่ ใส้น้อย อาหารใหม่ อาหารเก่า
    มันสมอง นำดี นำเสลด นำเหลือง นำเลือด นำเหงื่อ มันข้น นำตา มันเหลว นำลาย นำมูก ไขข้อ นำมูตร...
    ฉันนั้นนั่นแล ภิกษุยอมพิจารณากายนี้แล
    เบื้องบนแต่พื้นเท้าขึ้นไป เบื้องตำแต่ปลายผมลงมา
    มีหนังหุ้มอยู่โดยรอบ เต็มด้วยของไม่สะอาด มีประการต่างๆ ว่ามีอยู่ในกายนี้

    ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย เป็นภายในบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย เป็นภายนอกบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย ทั้งภายใน ภายนอกบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา คือ ความเกิดขึ้นในกายบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา คือ ความเสื่อมไปในกายบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา คือ ทั้งความเกิดขึ้นทั้งความเสื่อมไปในกายบ้าง
    ก็หรือสติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่
    แต่เพียงสักว่าเป็นที่รู้ แต่เพียงสักว่าเป็นที่อาศัยละลึก
    เธอเป็นผู้อันตัณหาแลทิฎฐิไม่อาศัยอยู่ด้วย ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆในโลกด้วย

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายเนืองๆอยู่อย่างนี้
    (good) (good) (good)
    ทำดีแล้ว แต่พลาดโอกาสงาม
    ให้ยึดหลัก มหาสติปัฎฐาน ให้เข้าฌานพอสมควร แล้วพิจารณา ตามหลัก มหาสติปัฎฐาน ตามลำดับไป
    โชคดี
    (ping) (ping) (ping)
     
  2. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,157
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +29,709
  3. หยากหลุดพ้น

    หยากหลุดพ้น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +359
    พยายามมากพอดูครับ ฝึกอันนู้น อันนี้ หลายอย่าง ทั้งยุบหนอ กสิณ อาหาเร เกือบทุกอย่าง แต่ก็ไม่สำเร็จสักกะอย่าง พอรู้สึกว่ามันไม่ใช่เปลี่ยนมา เพราะหาอ่านแล้วฝึกเอง
    ถอยฌาน ออกฌานก็ไม่เป็น... ไม่ค่อยรู้ตัวเอง

    แต่ทำไมไม่รู้ มองข้ามไอ้ 3 อย่างที่คุณบอกมาเลยเนี่ย

    ขอบพระคุณๆเล่าปังครับ ที่แนะทางสว่างผม
    เพราะผมเองก็รู้สึกอยู่ว่า ทำไม่มองสีแดงแล้วมันจะจำง่าย แต่ทำไม ไม่คิดอยากฝึกก็ไม่รู้เหมือนกัน
    อสุภะ กับกายคตาสติ ก็คือกัน
    คงเป็นเพราะ ...ผมเข้าใจว่าตัวเองไม่ใช้พวกโทสะจริต
    ผมเลยไม่ได้ฝึกสีแดง
    แล้วก็ไม่ได้เป็นพวกราคะ ก็เลยไม่ได้ฝึกอสุภะ (กลัวผี)
    กายคตาสติ นี่ก็ไม่คิด เพราะว่ามันมีอาการ32 จำไม่หมด
    ผมไม่ได้สนใจฝึกทั้งสามอย่างนี่เลย กสิณก็ฝึกสีอื่นๆ แต่เวลามองอสุภะพวกภาพถ่ายอุบัติเหตุ ตอนดูจะเฉยๆนะ ...แต่จำง่ายชะมัด หลับตาเห็นหมด (เพราะกลัวหรือเปล่า)


    บอกตรงๆ....คุณแนะผมอย่างนี้สงสัยผมต้องลองดูแล้วครับ แต่อสุภะนี่ไม่เอาแน่ กลัวมันหลอน

    ขอบพระคุณจริงๆครับ...[​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 มกราคม 2008
  4. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    นีแหละกู

    กูอยากได้ กูอยากมี กูอยากเป็น (evil) (evil) (evil)

    จิตแสดงให้เห็นกายในกายแล้ว กูไม่สน กูจะเอาสมาธิอย่างเดียว
    สมาธิเกิดแล้ว ตั้งอยู่ แปรปรวนไป
    กูก็ทุกข์ชิบหาย กูก็ฟุ้งซ่าน พล่านไป ไม่จบ ไม่สิ้น .....สมนำหน้า....
    เฮ้ย ไอ้กู ดูมันหน่อยซีวะ กายมันไม่สอาด มันไม่สวยงาม เต็มไปด้วยสิ่งสกปรก หุ้มอยู่แค่ผิวหนังบางๆ น่าเกลียดน่ากลัว มากไปด้วยทุกข์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วแปรเปลี่ยนไป มันเป็นทั้งกายกูและกายคนอื่น

    ไอ้สมาธินี่ก็เหมือนกัน กูก็หลงมันอยู่ได้ แต่มันก็เสื่อมไปจากกู กี่ครั้งแล้วเนี่ย..

    ก็เออ ช่างมัน ธรรมดา
    แต่เพียงสักว่าเป็นที่รู้ แต่เพียงสักว่าเป็นที่อาศัยละลึก

    เออ ค่อยยังชั่ว ต่อไปกูจะฝึกอันเดิมที่กูถนัด เอาให้ชำนาญไปเลย
    แล้วกูจะปล่อยวางมัน แหม กูก็ดันโง่อยู่ตั้งนาน
    (tm-love) (tm-love) (tm-love)
     
  5. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,801
    ค่าพลัง:
    +7,939
    คุณอธิปัญญา

    เรากล่าวว่าท่านฝึกมาแล้วชาติหนึ่ง สำเร็จแล้ว
    ชาตินี้ก็จะสำเร็จแล้วในวิชชานั้น ท่านจะฝึกอีก
    มันจะได้อะไรมากกว่านั้นหรือ

    ท่านต้องดูให้ดี ของที่สำเร็จแล้ว เรียนจบแล้ว
    แต่เอาไปใช้ทำสิ่งที่เป็นที่สุดไม่ได้ แล้วจะเรียน
    ซ้ำวิชชาเดิมอีกหรือ

    ท่านต้องดูให้ดี ว่าจิตท่านต้องการอะไร

    ถ้าท่านไม่แจ้งแก่จิต แก่ใจ ก็ให้ดูที่ชาตินี้

    ท่านสงสัย และยังเพียรทำไป ทำแล้วก็สงสัย

    ชาติหน้ามาเกิดอีก ก็ทำได้อีก แล้วก็สงสัยอีก
    หาคนตอบคำถามอีก ทำไมมันพึ่งตัวเองไม่ได้
    เสียที ท่านไม่สังเกตบ้างหรือ

    ท่านเคยเห็นคนที่ฝึกอภิญญาเก่งๆ โดยไม่
    ต้องมีครู มีบ้างไหม ทำไมฝึกอภิญญาต้อง
    คอยมีครูอยู่ร่ำไป

    พระพุทธองค์กล่าวว่า ทุกสิ่งล้วนเกิดแต่เหตุ
    หมดเหตุก็หมดทุกข์

    พระพุทธองค์ตรัสแก่เทวดาผู้คิดว่าตนบรรลุว่า

    เราไปถึงที่สุด เพราะไม่หยุดพัก และไม่เพียร

    เทวดาผู้บรรลุอรหันต์ ได้ยินแล้วก็สงสัย ว่า
    พระพุทธองค์ ทำไมตรัสเช่นนั้น คนอะไร
    ไม่หยุดพัก แต่ไม่เพียร จะถึงที่หมายได้ เหมือน
    กับคนที่ต้องการเดินทางไป ย่อมต้องไม่หยุด
    แต่ถ้าไม่เพียรเดิน จะถึงได้อย่างไร

    ท่านละสงสัยประโยคนี้ไหม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2008
  6. v.mut

    v.mut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +274
    อนุโมทนา ครับ ทำมาดีแล้ว ๆ ๆ

    ลองพิจารณาและทำความเข้าใจกับ " ทำละเอียด " จากอันที่ทำเดิมอยู่

    ลมกับกาย เป็นสิ่งเนื่องกันอยู่

    เมื่อ กายสังขารระงับ ไม่เกิดความยินดี ยินร้าย กายสักแต่เพียง เป็นเครื่อง ระลึกรู้ สักแต่ว่า เป็นที่อาศัยอาศัย อันตัณหา และ ทิฐิจึงมิอาจครอบงำได้
     
  7. v.mut

    v.mut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2006
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +274
    ไม่รู้ว่า คุณ nimitratulya ไม่เห็นด้วยตรงไหน เผื่อ ผมอาจจะมีอะไรเข้าใจผิดไป ยังไงก็แนะนำกันบ้างนะครับ
     
  8. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    ขออภัยคุณv.mut ผมกดพลาด มือมันเร็วไป สติยั้งไม่ทัน

    สติตอนนั้นมันจับแต่อารมณ์สมาธิ เอาแต่มั่น แล้วก็เฉย เกือบทั้งวัน

    พิจารณาเห็นทุกข์ของสมาธิ มีแต่มั่นแล้วเฉย ไม่เกิดความก้าวหน้า
    ไม่ออกทางปัญญา ... รู้แล้ว จิตจึงละวางพอสมควรแล้ว

    ที่คุณตอบมาชอบแล้ว ขออนุโมทนา

    แต่ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ยังไม่ถึงเวลาของเขา
    เราๆ ท่านๆ ก็แนะนำไว้ ยังเป็นประโยชน์ต่ออีกหลายคน
     
  9. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,091
    ไม่ว่าจะเป็น ดิน น้ำ ลม ไฟ ว่าง หรือ รู้ ก็เป็นธาตุที่เป็นกายของเรา

    เรานั่งพิจารณา ลม ก็เท่ากับ พิจารณา กาย ของเรา

    เราเห็นลม ก็เหมือนกับ เราเห็น กาย ของเรา

    เรียกว่า เห็น กาย ใน กาย

    ก็ลองค่อยๆ เอาอวัยๆ แต่ละชิ้น ออกมา กองๆ ดูว่า เป็นยังไง

    ทำบ่อยๆ แล้วจะรู้ และเห็นในสิ่งที่ทำได้ยากยิ่งกว่า คุณวิเศษ ใดๆ

    ที่ชาวโลกเขาตื่นเต้นกันนะครับ ชาตินี้มีโอกาสดีๆ ก็อย่าปล่อยไปล่ะครับ

    อนุโมทนาครับ
     
  10. วิมังสา

    วิมังสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +583
    เห็นด้วยกับคุณ nimitratulya ครับ พลาดโอกาสงามไปเสียแล้ว พลาดไปอย่างน่าเสียดายจริงๆ เพราะนิมิต(กายในกายที่มาแสดงธรรม)ในลักษณะนี้อาจมาปรากฏเพียงครั้งเดียวในอัตภาพร่างกายนี้ คือผ่านแล้วผ่านเลย ซึ่งน่าจะเป็นผลจากการบำเพ็ญอินทรีย์ 5 (ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา) ไม่บริบูรณ์ คือไม่เสมอกัน เนื่องจากกำลังของสติและสมาธินั้นถึงพร้อมแล้ว ที่จะเป็นฐานในการเจริญปัญญาให้เกิดขึ้น แต่ตัวปัญญากลับไม่มีกำลังเลย ไม่เช่นนั้นจิตจะยกตัวเองขึ้นพิจารณานิมิตที่ปรากฏอยู่ต่อหน้า แทนที่จะยังเกาะเกี่ยวอยู่กับอารมณ์ของสมาธิ ผลจึงได้เพียงกายเบาจิตเบาจากอำนาจของสมาธินั้น แต่เทียบไม่ได้เลยกับกายเบาจิตเบาอันเป็นผลจากปัญญาที่จะเกิดขึ้น

    ถ้านิมิตประเภทกายในกายปรากฏแสดงธรรมในลักษณะต่างๆ เกิดขึ้นอีก อย่าปล่อยโอกาสเพชร ให้พลาดไปอีกนะครับ

     

แชร์หน้านี้

Loading...