เซ็งเป็ด พระธาตุปลอม

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย winterball, 3 มีนาคม 2008.

  1. winterball

    winterball เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +307
    วันนี้กำลังจะเอาคุกกี้ให้แมวกิน เจอถุงซิลิกาอยู่ใต้ก้นกล่องคุกกี้ ใจก็แว๊ป..เอ๊ะ.. ทำไมมันเหมือนพระธาตุที่ผมเพิ่งได้รับมาเลย ก็เลยเอาซิลิกามาแช่น้ำดู ปรากฏว่าแตกดังแป๊ะๆ...
    แล้วก็คิด..
    อืม...แล้วพระธาตุชุดใหม่ที่เราเพิ่งได้มาที่มีรูปพรรณสัณฐานเหมือนกันมาก จะเป็นซิลิกาหรือเปล่า...
    ใจนึงก็กลัวบาป ใจนึงก็สงสัย.. แต่ตัวหลังมากกว่า...เลยไปเอามาทดสอบดูแต่ก็อฐิษฐานว่า ลูกไม่ได้มีเจตนาปรามาส หรืออย่างไรลูกก็ขอคมา ...ลูกคงบุญน้อยจริงๆ
    พอเอาลงมาแช่น้ำก็แตกแป๊ะๆเหมือนซิลิกาในกล่องคุกกี้เลยอ่ะ
    เซ็งเลย!!!!!!

    คนส่งให้เขาก็คงไม่มีเจตนาจะหลอกหรอกนะ เพราะเขาส่งให้เราฟรีๆ และเขาก็อาจจะไม่รู้หรือโดยหลอกมาอีกที...

    แต่ไอ้คนต้นคิดที่เอาซิลิกามาทำพระธาตุเนี่ย มันได้อะไร... หลอกพวกเราทำไม หลอกให้เราอนุโมทนาเหรอ...

    ท่านผู้อ่านจะด่าว่าผมยังไงก็ได้นะครับ ผมก็ไม่ทราบว่าสมควรหรือไม่ที่มาระบายแบบนี้ แต่ว่าเถอะนะ... ไอ้ซิลิกาเนี่ยมันก็สอนธรรมะเป็นเหมือนกัน ไม่ให้เชื่อแบบไร้เหตุผล .... ให้รู้ว่าไม่มีอะไรแน่นอน ไม่มีอะไรเที่ยง..

    ของจริงอยู่ในใจเรานี่เองครับ....

    เฮ้อ...แต่คงจิตตกไปสักสองสามวันอ่ะครับ ฮือๆๆ
     
  2. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    พี่ๆๆใจเย็น

    อยากทราบเรื่องพระธาตุถามผมได้นะจะไม่ได้
    โดยหลอก
     
  3. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    การที่มีพระธาตุจริงหรือปลอมไม่ได้สำคัญอะไรเลยเพราะเป็นสมมติบัญญัติ

    ให้เราระลึกถึงพระรัตนตรัยพระผู้รู้ที่ท่านมีความบำเพ็ญเพียรการที่เรามีไว้เพื่อสักการะก็เช่นกันให้เราระลึกถึงความดี

    เหมือนพระพุทธรูปไม่มีพระพุทธรูปใดตอนนี้ที่สร้างทันพระพุทธเจ้า
    ไม่มีใครเห็นพระพุทธเจ้าจริงๆด้วยตาเเละกายเนื้อเเต่เราอาศัยพระพุทธรูปเป็นการเคารพถึงพระคุณที่ท่านมีอุปการะต่อโลก

    ไม่มีวัตถุมงคลที่ทันพระพุทธเจ้าเเต่เราก็เคารพสุดหัวใจ
    ไม่มีสิ่งใดเเทนพระพุทธเจ้านอกจากธรรมอันเป็นพระสัจธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีเเล้ว


    ทำอย่างไรละเมื่อจะไปกราบพระธาตุเเล้วจะได้ไม่กราบได้เพียงก้อนหินเเต่ท่านจะได้กราบพระอันยิ่งใหญ่นั่นคือคุณธรรมภายในหรือก็คือพระเเห่งปฏิปทาที่ท่านพาดำเนินให้ทำ

    คิดให้ดีคิดให้ออกท่านจะได้อะไรมากกว่าการกราบเเละเเสวงหาพระธาตุที่ผ่านมาเมื่อท่านคิดออกท่านจะได้อะไรมากกว่าการกราบก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้นเอง

    ท่านจะได้มีกำลังใจสร้างบารมีสมกับเป็นศิษย์
    ตถาคตพระผู้เลิศเเล้วในโลก



    ไม่ต้องจิตตกนะครับให้กำลังใจหาพระในใจให้เจอก็เเล้วกัน
    ให้กำลังใจครับ
     
  4. numkitti

    numkitti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2008
    โพสต์:
    343
    ค่าพลัง:
    +844
    ขออนุโมทนาบุญ กับข้อความดี ๆ ของคุณคนวังหน้าครับ
    สุดยอดจริง ๆ ลึกซึ้งถึงแก่นแท้เลยครับ
     
  5. lanna22

    lanna22 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +63
    ถูกของหมอฟอร์ดเค้าครับ......มีเหตุผล มีเหตุผล...
     
  6. MaHaNaKaRaT

    MaHaNaKaRaT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2008
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +288
    อย่าเสียกำลังใจนะครับ
    คนแบบนี้ผมว่าคนจริง อย่างน้อยก็ทำให้ได้สติ
     
  7. เอกวัฒน์

    เอกวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +2,431
    พวกชอบของฟรี ไม่เห็นต้องบ่นเลย
    ไม่ได้เสียหายอะไร
     
  8. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ถูกตามที่หมอพูดถ้าเราอฐิธานและปฏิบัติดี พระธาตุท่านอาจจะเสด็จมาเองก็ได้
     
  9. Stradale

    Stradale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2007
    โพสต์:
    445
    ค่าพลัง:
    +4,379
    มีอีกแบบนึงครับ มักจะมีผู้แอบอ้างว่าเป็นพระบรมฯ วรรณะสีทอง
    แต่จริงๆ เป็นเม็ดๆ สีทองที่ใส่ในเครื่องกรองน้ำ ไม่รู้เค้าเรียกว่าเรซิ่นหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เครื่องกรองน้ำที่บ้านก็มีแบบนี้แหละ เคยเห็นแว็ปๆแถวท่าพระจันทร์ ใส่ขวดเล็กๆขาย ขวดละ 900!!!! ยังงัยพิจารณาให้รอบคอบนะครับ
    ควรสอบถามจากผู้รู้ และแหล่งที่น่าเชื่อถือ - -" ไม่งั้นอาจมาเซ็งเป็ดกันอีกหลายคน
     
  10. รากแห่งธรรม

    รากแห่งธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    667
    ค่าพลัง:
    +3,173
    อ่ะนะครับเรื่องพระธาตุแบบนี้มีการถกเถียงกันมาก แต่มีอยู่อย่างที่ผู้รักษาพระธาตุทุกคนรู้และปฏิบัติกันคือ ถ้าไม่มั่นใจว่าใช้พระธาตุจะไม่รับมาบูชาเลยเพราะ
    พระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุถือเป็นเจดีย์ในพระพุทธศาสนา
    และสิง่ที่เลียนขึ้นมาให้เหมือนพระธาตุและมีคนกราบไหว้บูชาสิ้งนั้นก็เป็นเจดีย์ในพระศานา การที่เราได้พระธาตุเทียมมาก็ถือว่าเราได้บูชาเจดีย์อย่างหนึ่งในพระศาสนาเหมือนกัน ได้บุญเหมือนกัน ถ้าเราไม่มั่นใจ กลัวจิตตก เราก็ไม่ควรรับพระธาตุที่ไม่รู้แหล่งที่มา หรือไปเช้าพระธาตุตามแผงพระครับ
     
  11. สายครูบา

    สายครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    4,229
    ค่าพลัง:
    +22,130
    คืนนี้ขอลงความเห็น ข้อแนะนำส่วนตัวซักนิดนะคัฟ....(อาจจะไม่ค่อยไปถูกหูใครบ้าง อ่านแล้วอาจจะ งง ซักหน่อย และผิดพลาดประการใด ก็ขออภัยด้วยนะคัฟ เพราะนี่ก็คือความคิดของเด็กตัวเล็กๆคนนึงเท่านั้นคัฟ)

    [​IMG]

    พุทธะ...


    คือผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน...สารูปเจ้า(พระพุทธรูป)ทั้งหลาย ร้อยแปดพันองค์ หมื่นปาง ล้านลักษณะท่าทาง ประดิษฐานตั้งอยู่ ณ เมืองนาคก็ดี เมืองเทวดาก็ดี เมืองพรหมก็ดี ในชมพูทวีปก็ดี ลังกาทวีปก็ดี ในสุวรรณภูมินี้ก็ดี หรือแม้แต่ในบ้านท่านๆก็ดี รวมแล้วก็คือหนึ่งเดียว หนึ่งเดียวนั้นก็คือ "พุทธะ" เป็นสิ่งที่สร้างสมมติขึ้นมาแทนอริยบทต่างๆของพระตถาคต เพื่อไว้เป็นที่สัการะบูชา รำรึกนึกถึงพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิ์คุณ และพระมหากรุณาธิคุณ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รวมถึงพระแก้วเจ้าทั้งสามประการ พระบรมสารีริกธาตุ ทั้งองค์จริง และองค์สมมติก็เช่นเดียวกัน รวมไปถึง เจติยะ เจติยัง พระธาตุเจ้าเจดีย์ทั้งหลาย และไม้สะหลี๋มหาโพธิ์

    เมื่อเราไปกราบ ไปไหว้ ไปปฏิบัติแล้ว นอกจากจะได้ความอิ่มเอิบใจในบุญนั้น เราควรนำข้อคิดที่ซ่อนเร้นบางอย่างที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไป ในสิ่งเหล่านี้มาคิด พิจารณาต่อ...

    นั่นคือ "ธรรมะ" ธรรมที่พุทธองค์ทรงตรัสไว้นั้นประเสริฐยิ่งแล้ว นำข้อคิด ข้อปฏิบัติจากธรรมที่พุทธองค์ได้ตรัสรู้นั้นน้อมนำมาใส่ตัว ใส่เศียรเกล้า เพราะพระองค์ได้สั่งสอนมาดีแล้วชอบแล้ว ให้ลองนำมาคิด ตีธรรมให้แตก ให้เข้าใจ ให้เข้าถึง "พุทธปรัชญา" คิดให้เป็นปรัชญา หรือ ปัญญา ให้เห็นให้รู้แท้ซึ่งวิชชา อย่าให้ได้แต่อวิชชา คือความไม่รู้ไป

    ถ้าเราเข้าถึง "พุทธะ" ที่แท้จริงแล้ว รู้ซึ่งพุทธปรัชญาแล้ว เราก็จะได้ชื่อว่าชาวพุทธที่แท้จริง เป็นชาวพุทธที่เป็นแก่น ไม่ใช่ชาวพุทธที่เป็นเปลือก ถ้านึกตรึกตรองได้ดังนี้ เวลาเราไปไหว้พระพุทธรูปก็ดี พระบรมสารีริกธาตุก็ดี พระอรหันตธาตุอริยสาวะกะสังฆเจ้าก็ดี เราก็จะได้ข้อคิดที่แอบแฝงซ่อนเร้นในสิ่งต่างๆเหล่านั้นอีกมากมาย ที่คนส่วนใหญ่ แงะดูไม่ถึง...คิดดูเอาเทอดท่านเฮย

    "ผู้ใดเห็นพระธรรม ก็ย่อมเห็นพระตถาคต"
    "ธรรม จะเป็นศาสดาต่อจากเรา(ตถาคต)"



    โดย...สายครูบา
    04/03/2551
     
  12. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญจากการให้ธรรมทานของท่านผู้ตั้งกระทู้
    และอนุโมทนาบุญจากการร่วมสนทนาธรรมของทุกๆท่านนะครับ
    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธุ
     
  13. เด็กวัดป่า

    เด็กวัดป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    381
    ค่าพลัง:
    +727
    อนุโมทนากับทุกท่าน ทุกความเห็น เรียกจิตและสติได้ดีครับ สาธุ
     
  14. สุทธิดา

    สุทธิดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    363
    ค่าพลัง:
    +1,155
    น๊า...น่ะ อย่าคิดมากคะ

    พระแท้อยู่ที่ใจ ...............................................

    มั่นคงในการทำดีแล้วสิ่ง ดี - ดี จะมาหาเราเอง

    ใจเย็นๆๆ เดี๋ยวท่านก็เสด็จมาโปรดถึงบ้าน...สาธุ
     
  15. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,121
    ค่าพลัง:
    +22,228
    พระที่ขึ้นพระธาตุหรือพระธาตุ ผมไม่กล้านำติดตัว เพราะยังเลวอยู่มาก ศีล 5 ยังพร่องอยู่บ่อยๆ ได้แต่อธิษฐานบูชาครับ
     
  16. กัมมสัทธา

    กัมมสัทธา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +383
    (cry)
    เสียนะ เสียใจนึกว่าดี ถึงจะเป็นของฟรีแต่ก็เสียใจ
     
  17. helloartdy

    helloartdy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +504
    โอ๋ โอ๋ ม่ายต้องร้องค่ะ ... มองโลกในแง่ดีเข้าไว้จะว่าไป พระธาตุซิลิกา ก็ดีจริงๆนะค่ะ สอนให้เรารู้ว่า ทุกสิ่งในโลกล้วนอนิจจัง เสด็จมาแล้วก็เสด็จไปเหมือนพระธาตุของแท้เลย โอ๋ โอ๋ แต่ช้าแต่ม่ายร้อง ม่ายร้อง ^-^ ^-^
     
  18. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    พระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกลืม
    ก่อนที่จะให้ทุกคนเดากันไปหลายคนอาจจะเดาเป็นพระสงฆ์หลวงปู่องค์ดังๆที่สร้างพระเครื่องนิรันตรายบ้างที่สร้างพระเมตตามหานิยมบ้าง บางคนอาจจะเดาว่าเป็นพระพุทธรูปที่เก่าเเก่ที่มีคนบนบานศาลกล่าวบ้าง เเต่ที่ผมจะพูดถึงนั่นคือพระในบ้าน

    พระในบ้านที่เเก่ๆที่คนหลายคนอาจลืมมัวเเต่ไปหาพระดังๆหลายคนไปอุปฐากพระสงฆ์ดังๆจนลืมพระพ่อพระเเม่ พระที่ศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวมานี้คงจะไม่เกินเลยไปนักเพราะพระพุทธเจ้าพระองค์ท่านสรรเสริญคนที่มีความกตัญญูด้วยเช่นกัน

    เเละให้เห็นภาพระยะเวลาใกล้ๆกว่านั้นคือการไหว้ห้าครั้งที่สมเด็จเมืองชลที่ท่านนำมาเผยเเพร่บอกศิษย์ของท่านก็มีการกราบระลึกถึงคุณของพ่อเเม่ไว้ด้วย

    บางคนไปทำสังฆทานกับพระบางคนไปปรณนิบัติกับพระสงฆ์อย่างดีเเต่พ่อเเม่ในบ้านนั่งอยู่อย่างเดียวดายไม่เคยเลยที่จะทำบุญกับพระในบ้าน

    ถ้าจะให้ดีให้เริ่มทำบุญกับพระในบ้านก่อนน่าจะดีไม่ใช่น้อย
    <!-- / message -->นั่งสมาธิไม่เห็นนิมิตอะไร..ทำอย่างไรดี?

    บางคนเคยกล่าวว่า นั่งสมาธิเเล้วไม่เห็นนิมิตอะไรเลย

    บางคนนั่งมาเป็นสิบปีไม่เห็นอะไรเลย
    บางคนนั่งเเล้วอยากจะเห็นอย่างเดียว
    บางคนนั่งเเล้วเห็นนิมิตกลับสงสัย
    บางคนนั่งเเล้วเห็นนิมิตเเต่กลับไม่ได้ข้อคิดอะไรหรือธรรมอะไรจากนิมิตเลย
    บางคนนั่งเเล้วเห็นนิมิตเเล้วยิ่งทำให้ตัวเองหลงตัวเอง
    จริงๆเเล้วการนั่งสมาธิจุดประสงค์เพื่อความสงบมากกว่าไม่จำเป็นต้องเห็นนิมิตอะไรเลย
    บางคนบอกว่านั่งสมาธิเเล้วจิตใส เเต่พอหลังออกจากสมาธิเเล้วก็กลับเป็นนิสัยเดิมๆ
    ฉะนั้นการทำสมาธิสามารถทำได้ไปเรื่อยๆอย่าอยากเห็นนิมิตอย่าอยากส่งจิตไปดูโน่นดูนี่พระโบราณจารณ์บอกว่าให้ดูกายดูจิตเรานี้เเล...

    ศิษย์วงใน.........ศิษย์วงนอก

    มีคำกล่าวคำว่าศิษย์วงใน ในหมู่ศิษย์เองที่สถาปนาตนเองที่มีโอกาสดีที่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์ของเขาเหล่านั้น ทำให้หลายคนเกิดความคิดในเรื่องเเบ่งชนชั้น ซึ่งใครๆหลายคนรับรองว่าคงอยากเป็นศิษย์วงในกันทั้งนั้นเพราะดูเหมือนคำๆนี้จะเป็นที่ถูกจริตกับบรรดาคนที่เป็นเเฟนพันธ์เเท้ของอาจารย์ตนเองทั้งหลาย เเละเกจิอาจารย์หลายท่านก็มีเลขาส่วนตัวซึ่งหน้าที่ปกติควรจะอำนวยความสะดวกให้กับคนที่ศรัทธาเสมอภาคกันเเต่หลายท่านกลับกีดกันกันท่าก็มี

    กลับมาถึงเรื่องสมัยพุทธกาลคงทราบดีว่าพระพุทธองค์มีพระเลขาคือพระอานนท์ซึ่งพระพุทธเจ้าเองทรงตรัสสรรเสริญว่าพระอานนท์เป็เลิศด้านการอุปฐากเเละรู้กาลเวลา

    เเต่สมัยนี้ทำไมเราถึงไม่ค่อยเห็นอย่างพุทธประวัติ

    หลวงพ่อทวดท่านเคยบอกกับบรรดาคนที่เคารพรักท่านว่าค่าไม่มีศิษย์วงในวงนอกหรอกทุกคนที่เชื่อฟังปฏิบัติตามธรรมที่ท่านสอนท่านบอกว่านั่นเเหละศิษย์ท่านเเละท่านยังบอกอีกว่า ท่านสอนให้เราเป็นครูคนไม่ได้สอนให้เราเป็นลูกน้อง หมายความว่าท่านอยากให้เราสามารถสอนสิ่งดีกับคนอื่นได้

    บางคนเเบ่งสายครูบาอาจารย์ ฉันสายหลวงพ่อ..ฉันสายหลวงปู่.. ฉันสาย...
    บางคนบอกว่าอาจารย์ฉันเก่งสุดเก่งกว่าใคร
    บางคนบอกฉันนี่เเหละสายตรง...ทางอื่นๆผิดหมด

    ท่านปัญญาชนทั้งหลายคงจะรู้คำตอบเเล้วโปรดทำในสิ่งที่ถูกต้องอย่าทำในสิ่งที่ถูกใจ
    ความอ่อนน้อมถ่อมตน
    (เอ็งเก่งข้าเก่ง......)

    ท่านเคยมีอาการนี้หรือไม่


    เห็นนิมิตเเล้วดีใจเเล้วคุยไปอีกสิบวันเเต่หลังจากนั้นไม่เห็นอีกเลย

    ชื่นชมครูบาอาจารย์อย่างมากเเล้วนำมาเปรียบกันว่าสายนี้ดีกว่าสายนั้นดีกว่า

    ท่านเคยหรือไม่
    ที่บอกว่าศิษย์เก่าศิษย์ในศิษย์ใกล้ชิด ส่วนเเกศิษย์ใหม่ศิษย์นอก
    ส่วนฉันศิษย์เอก ศิษย์..............เเต่จะมีใครรู้บ้างว่าหลวงพ่อทวดท่านบอกว่าเอ็งไม่ต้องเป็นศิษย์เอกศิษย์วงในใกล้ชิดข้าหรอกข้าสอนให้เอ็งเป็นอาจารย์คนสอนให้เป็นผู้นำไม่ได้สอนให้เอ็งเป็นลูกน้อง


    บางคนประมาทเนื่องจากสามารถจับพลังพระได้เเทนที่จะศรัทธาเเล้วปฏิบัติกับนำไปจับพลังพระเเบบไร้สาระเเห่งธรรมเเทนที่จะศรัทธาเเล้วเกิดวันหนึ่งจับพระเเล้วไม่มีพลังจะจิตตกหรือไม่หลวงพ่อดู่ท่านให้จับเพื่อเพิ่มศรัทธารู้เเล้วละวาง

    อย่าได้หยิ่งยโสหากท่านปฏิบัติไปเเล้วมีเจโตรู้ใจคนเพราะนั้นยังเป็นโลกียฌาณมีได้เสื่อมได้

    หากทำได้คุณวิเศษอะไรบางอย่างเเต่เที่ยวไปวิจารณ์เพ่งโทษคนอื่นอยู่โปรดได้สติเเล้วคิดว่าได้พิจารณากายเเละจิตตนเเล้วหรือยัง

    อย่าอวดดีจึงได้ดีจำไว้ให้เเม่น คนเก่งเเล้วอวดตนยกตนข่มท่าน คงไม่มีใครชอบหรอก

    เราต้องนอบน้อมครูบาอาจารย์

    อาจารย์ที่ดีของผมไม่ต้องเก่งเเต่ต้องเป็นคนดี
    คนฉลาดของหลวงปู่เเละเก่งที่น่านับถือ

    คนเก่งคือคนที่เห็นนิมิตเยอะจริงหรือ
    คนเก่งคือคนที่รู้ใจคนจริงหรือ

    คนเก่งคือคนที่มีวิชชาเยอะๆหรือ
    คนเก่งคือคนที่เหาะได้หรือ
    คนเก่งคือคนที่พูดเก่งเเละโน้มน้าวใจคนเก่งหรือ
    คนเก่งคือคนที่..........

    คนเก่งของหลวงปู่
    ท่านบอกว่า
    เมื่อไรที่เอ็งปฏิบัติธรรมเเล้วนำมาใช้ในชีวิตประจำวันเเก้ทุกข์ด้วยอริยสัจเเล้วปราศจากทุกข์ได้เมื่อนั้นเอ็งเก่งเเละปฏิบัติธรรมเป็น

    ส่วนคนฉลาดคือ.........<!-- / message -->
    <!-- / message -->
    พระที่ขลัง......เป็นอย่างไร

    บางคนคิดว่าพระขลังต้องมวลสารดี พิธีเด่น เกจิเเน่ในที่นี้ทุกคนคงคิดว่าพระจะขลังเป็นเเน่เเท้เเต่ผมว่าไม่เป็นเช่นนั้นเพราะเเม้มวลสาร การอธิษฐานจิตจากพระ...เเล้วคิดว่าสูงเเล้วเเต่พระที่สำคัญที่สุดหาใช่วัตถุดังกล่าวไม่เพราะพระสำคัญที่สุดคือพระจิตพระใจโดยมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณพระบิดาคุณพระมารดาเเละคุณครูอุปฌาอาจารย์ นี่ต่างหากที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้เเละสรรเสริญคนที่กตัญูเเละรู้คุณคนทำอย่างไรที่เราเสกตนให้เป็นพระทำอย่างไรให้ใจเราสูงเหมือนวัตถุมงคลที่เราได้รับที่เราใฝ่หาทำอย่างไรเราจะได้วิญญาที่มีจิตถึงพระรัตนตรัยคนที่เสกพระดีที่สุดคือคนห้อยหรือคนรับพระคนห้อยต้องเสกพระเองเสกทุกวันตลอดเวลานั่นคือเสกตนให้เป็นพระให้มีใจเป็นพระนั่นเอง

    ฝากไว้ให้คิดพิจารณา

    คนเราลางเนื้อชอบลางยา

    บางคนชอบทำสมาธิเเบบยุบหนอพองหนอ
    บางคนพุธโธ

    บางคนสัมมาอะระหัง
    บางคนก็เพ่งกสิน
    บางคนก็นึกองค์พระ
    บางคนตั้งจิตไว้ที่ฐาน

    บางคนบอกว่าตัวเองฝึกสมถะ
    บางคนบอกว่าตัวเองไม่ฝึกสมถะหรอกฝึก
    วิปัสสนาดีกว่า

    บางคนฝึกกายเบาจิตเบา
    บางคนฝึกเเบบความว่างเป็นอารมณ์

    บางคนเห็นนิมิตก็ว่าตนดี บางคนว่าไม่เห็นดีกว่า
    บางคนว่าเคยคุยกับพรหมกับเทวดา
    บางคนได้ท่องวิมานชั้นฟ้าเเละนรกอเวจี
    บางคนว่าอย่างโน้นอย่างนี้สารพัดจะพูดจะกล่าว


    สรุปเราปฏิบัติเเล้วเราได้อะไรจากการปฏิบัติ
    มีความสุขมีความพอดีหรือไม่
    อย่าไปพูดกันถึงนิพพานเลย(สำหรับผม)ให้ดูว่านำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันหรือเปล่าถ้าปฏิบัติได้ดีจริงชีวิตของฆราวาสวิสัยย่อมเป็นสุขเเละเเก้ไขปัญหาชีวิตด้วยปัญญาจากการปฏิบัติ

    รอยเท้าหลวงปู่.........

    อันว่ารอยเท้าของครูบาอาจารย์นับว่าเป็นที่เคารพต่อมนุษย์เเละเทวดาทั้งหลายเเละเป็นที่ชื่นชม ชื่นใจ ปีติใจ เเก่คนทั้งหลาย


    เเต่หลายคนกับคลางเเคลงสงสัยในสิ่งที่อจินไตยเหล่านั้น
    อาทิรอยพระพุทธบาท...........

    สิ่งที่น่าคิดคือปัจจุบัน
    ไม่มีพระพุทธรูปใดที่ทันพระพุทธเจ้าเเต่เรากราบท่านได้สนิทใจ
    ไม่มีวัตถุมงคลที่ทันพระพุทธเจ้าเเต่เราก็เคารพสุดหัวใจ
    ไม่มีสิ่งใดเเทนพระพุทธเจ้านอกจากธรรมอันเป็นพระสัจธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสไว้ดีเเล้ว

    หลวงพ่อทวดเช่นกันไม่มีใครเคยเห็นทันตอนที่ท่านมีชีวิตอยู่เพราะท่านเกิดสมัยอยุธยา
    ............

    มีคนพยายามดั้นด้นไปกราบพระบาทของท่านเเต่
    กลับชื่นใจ
    มีหลายคนประสบความสำเร็จจากการที่มีปัญญาเห็นว่านอกจากรอยเท้าธรรมดาที่เกิดขึ้นเเล้วมีคติธรรมมากมายที่เกิดขึ้น

    เคยคิดกันบ้างหรือไม่ที่เรากราบรอยเท้าครูบาอาจารย์กราบได้เพราะอะไร
    เนื่องจากเท้าคืออวัยวะส่วนที่ต่ำที่สุดเเต่ที่เรายินดีเเละปีติใจที่กราบเท้าท่านเพราะท่านมีคุณธรรม

    ทำอย่างไรละเมื่อจะไปกราบรอยพระบาท
    จะได้ไม่กราบได้เพียงรอยเท้าบนก้อนหินเเต่ท่านจะได้กราบรอยเท้าอันยิ่งใหญ่นั่นคือคุณธรรมภายในหรือก็คือรอยเท้ารอยปฏิปทาที่ท่านพาดำเนินให้ทำ

    คิดให้ดีคิดให้ออกท่านจะได้อะไรมากกว่าการกราบพระบาทที่ผ่านมา

    ท่านจะได้มีกำลังใจสร้างบารมีสมกับเป็นศิษย์
    หลวงพ่อทวดพระผู้เป็นดวงใจ

    ปัญหาที่ข้าพเจ้าสังเกตว่าเกิดขึ้นในหมู่ชนที่เรียกตนเองว่าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม และพวกที่ใกล้ชิดครูบาอาจารย์มากจะมีปัญหาดังต่อไปนี้
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    1.ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของครูบาอาจารย์ ทำให้เกิดปัญหา<O[​IMG]</O[​IMG]

    -เกิดความคุ้นเคยและเกิดการล้อเล่นทำให้กลายเป็นปรามาศครูบาอาจารย์ไป<O[​IMG]</O[​IMG]
    -จัดการทุกอย่างที่เป็นตัวท่าน ไม่ว่าจะเป็นการ กันไม่ให้เข้าพบครูบาอาจารย์บ้างแม้จะเป็นความหวังดีต่อครูบาอาจารย์บ้าง ทำให้ผิดใจกับศิษย์คนอื่นๆ ทำให้ใจขุ่นมัวแทนที่รับใช้ท่านจะได้บุญบางทีเลยบาปไป
    <O[​IMG]</O[​IMG]
    2.ทำไมยิ่งปฏิบัติธรรมแล้วครอบครัวบางครัวทำให้เกิดความ แตก แยก <O[​IMG]</O[​IMG]
    -เกิดเนื่องจากการไม่เข้าใจกันของคนในครอบครัวและที่สำคัญบางครั้งอาจจะเป็นการปฏิบัติโดยตึงเกินไป<O[​IMG]</O[​IMG]
    -เชื่อแน่ว่าคนพวกที่ยิ่งทำบุญหรือยิ่งปฏิบัติ และทะเลาะกับครอบครัวคนพวกนี้จะไม่ก้าวหน้าในทางธรรมเพราะระหว่างปฏิบัติอดคิดอดเครียดเรื่องทางบ้านไม่ได้ฉะนั้นการปฏิบัติจึงไม่ก้าวหน้า เท่าที่ควรจะเป็น

    <O[​IMG]</O[​IMG]
    3.บางคนเข้าใจแต่ว่าการทำบุญนั้นใช้แต่เงินอย่างเดียวมีรายหนึ่งกู้เงินเพิ่งจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้พ่อ แม่ครูบาอาจารย์ แล้วตัวเองเป็นหนี้เกิดความทุกข์อย่างนี้แสดงว่าไม่พอดีจึงเกิดทุกข์อีกรายหนึ่งทำบุญในเนื้อนาบุญที่ดี แต่ทว่าญาติพี่น้องไม่เห็นด้วย ก็ยังจะทำ ส่วนพี่น้องตนก็ปรามาศครูบาอาจารย์ไปอย่างนี้ก็ใช้ไม่ได้ เราต้องอธิบายด้วยอรรถด้วยธรรมให้เขาเข้าใจเสียก่อน หรือว่าที่เขาเตือนเพราะกลัวเราหลงบุญ บ้าบุญ ทำเยอะๆได้บุญเยอะอย่างนี้มันก็ไม่ถูกสะทีเดียว การทำบุญใจเราต้องปีติด้วย<O[​IMG]</O[​IMG]
    4.เป็นอาการที่พบบ่อยมากที่สุดคือ เรียกตนเองว่า ปฏิบัติมาหลายปีถึงขั้นโน้นขั้นนี้<O[​IMG]</O[​IMG]
    แต่กิเลสยังไม่ได้ลดลงเลย ยกตัวอย่างเวลาหลับตาใจผ่องใสมากๆเย็นกายเย็นใจบอกคนอื่นว่าละโกรธได้แล้วแต่พอมีอารมณ์มากระทบก้อโกรธอีกเหมือนเดิมไม่ได้ลดน้อยลงเลย แสดงว่า ต้องกลับไปพิจารณาตนเองใหม่ว่าจิตเดิมนั้นเป็นอย่างไรแล้วค่อยๆขัดค่อยๆเกลาให้ประณีตขึ้น จน กว่าจะจิตละเอียด จิตมีสติตามรู้เท่าทันไม่ใช่ฝึกกันวันสองวัน ฝึกกันปีสองปีแล้วจะได้ต้องว่ากันหลายปีหลายภพหลายชาติแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับความพยายามของตนเองด้วยเป็นสำคัญ พยายามให้จิตอยู่แต่ในกายตนพิจารณาให้เห็นถึงสภาพสภาวะความเป็นจริงในขณะนั้น นั่นแหละสุดยอดของการฝึกจิตแล้วแหละ มองกาย มองจิตและ มีสติ แล้วพิจารณาให้เกิดปัญญาแก้ไขปัญหาไม่ว่าทางโลกทางธรรมได้หมด ไม่ใช่บอกว่าเก่งสมาธิแต่ยังแก้ปัญหาจากการงานไม่ได้ แสดงว่า ไม่ได้ใช้ปัญญาในการมาแก้ไขชีวิตประจำวันเลย <O[​IMG]</O[​IMG]
    สรุปแล้วถ้าอยากเป็น แบบคำพูดที่ว่า ปฏิบัติธรรมแล้วร่มเย็นครอบครัวอบอุ่น
    การงานดี จิตผ่องใส ลูกๆหลวงปู่ต้องดูหลวงปู่ท่านเป็นตัวอย่างท่านเดินสายกลางในชีวิตสมณเพศของท่านอย่าง แท้จริงอย่าให้ตึงหรือหย่อนไปเท่านั้นก็พอข้อสังเกตง่ายๆว่าเราทำสิ่งต่างๆแล้วพอดีหรือไม่ให้ดูว่าเราเป็นทุกข์หรือไม่ กังวลหรือไม่ ไม่สบายใจหรือไม่ ก้อต้องกลับมาพิจารณาและมาปรับว่า อันไหนน้อยไปให้ทำให้มากขึ้น อันไหนมากไปต้องทำให้ลดลง คือทำให้พอดีนั่นเองนั่นแหละทางสายกลางถ้าอยู่ในขอบเขตที่ดีงาม

    <O[​IMG]</O[​IMG]
    5.ทำงานช่วยวัดเป็นประจำแต่ทำไมใจยังขุ่นมัว <O[​IMG]</O[​IMG]
    เนื่องจากภาระที่เราเป็นหน้าที่นี่เองเปรียบเหมือนบ่วงหมือนกันคือหมายความว่าเมื่อทำงานให้วัดแล้วเหนื่อยกายเมื่อเหนื่อยกายแล้วก็พาลไปทะเลาะกับคนรอบข้างที่วัดพูดไม่เข้าหูบ้าง ความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แล้วก็ไม่มีเวลาปฏิบัติ แล้วถามท่านทั้งหลายหน่อยว่าท่านได้อะไรกลับมาสู่ใจท่านบ้างหลังจากไปวัด ฝากท่านทั้งหลายช่วยคิด

    ทำความดีเเล้ว...ท้อใจทำอย่างไรดี?

    หลายท่านเคยเป็นบ้างไหมที่ทำความดีเเล้วท้อใจ
    ท้อใจเพราะคิดว่า
    เราทำดีเเล้วทำไมความดีไม่ตอบเเทนเรา
    เราทำดีเเล้วทำไมคนอื่นถึงวิจารณ์ในทางเสียหาย
    เราทำดีเเล้วความดีถึงไม่ปรากฏ
    เราทำดีเเล้วทำไมถึงเป็นที่เพ่งเล็งเเละเป็นที่หมั่นไส้ของผู้อื่น
    เราทำดีเเล้วทำไม.........

    คำตอบคือ........

    วิธีเเก้ไขตอบง่ายเเต่ทำยากคือทำดีไปเรื่อยๆไม่ต้องคิดอะไรว่าผลจะดีหรือเป็นอย่างไรทำดีเเละไม่เดือดร้อนตนเองเเละผู้อื่นเป็นใช้ได้

    บทความนี้ข้าพเจ้าได้เเต่งเองเเล้วลงไว้ในหนังสือประวัติเเละหลักธรรมของหลวงพ่อทวด
    โดยศิษย์หลวงพ่อทวดพระผู้เป็นดวงใจ หรือ คนวังหน้า ลงไว้นานเป็นปีเเล้วจึงนำมาลงใหม่เพื่อให้อ่านกันเผื่อเกิดประโยชน์ไม่มากก็น้อย

    <!-- / message -->

    <!-- / message -->

    <O[​IMG]</O[​IMG]
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->


    <!-- / message -->
    <!-- / message -->

    <!-- / message -->

    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  19. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    หลวงปู่สอนธรรมะ...........คนวังหน้าบันทึก

    หลวงปู่ท่านสอนว่า

    คนเราให้มองกายมองจิตตน ท่านไม่นิยมในการที่เรามองกายมองจิตผู้อื่น


    ท่านบอกว่าจริงๆเเล้วหลักการพิจารณาธาตุสี่ในการสร้างพระเครื่องนั้นหากผู้มีปัญญาสามารถน้อมนำมาพิจารณากายพิจารณาจิตให้เกิดปัญญาในตนเอง


    ท่านบอกว่าคนเราเกิดเป็นคนต้องอดทนถ้าเราอยากได้ดีต้องมีขันติต้องทนในสิ่งที่ทนได้ยากเอ็งถึงจะเป็นยอดคน


    ท่านสอนว่าคนเราเกิดเป็นมนุษย์ต้องกตัญญูตอนท่านอธิษฐานเพื่อชาติบ้านเมืองท่านอธิษฐานพระคุณของเเม่เเละพ่อ


    ท่านสอนว่า การปฏิบัติธรรม ธรรมะเป็นอกาลิโกคือทำได้
    ตลอด เช่นการสวดมนต์ได้ทุกสถานที่ยิ่งดีเหมือนถ้าเรามีสติทุกที่ก็ยิ่งดีเป็นต้น


    หลวงปู่ท่านบอกว่าการสัมผัสพลังงานบางอย่างได้นั้นท่านให้เรารู้เเล้วละวางไม่ให้ยึดติด

    หลวงปู่ท่านไม่ได้สอนให้เราเป็นเทวดา ไม่ได้สอนให้เราเป็นพรหม อย่างเดียวเเต่สอนให้เราเป็นพุทธะคือพระในใจเรา


    หลวงปู่ท่านบอกว่าคนเรานั้นชีวิตนี้สั้นนักให้เราหมั่นทำความดีสร้างบารมีให้มากให้เรานึกถึงการทำดีเพื่อให้สังคมเเละบุญของเราจะตกอยู่ที่ตัวเรา
    ท่านบอกอีกว่าสิ่งที่ข้าสอนเอ็งตอนนี้พวกเอ็งไม่รู้ตอนนี้ เเต่จะไปรู้อีกทีตอนตายไปเเล้ว


    ข้าจะช่วยเอ็งต่อเมื่อเอ็งทำดีเเละไม่มีกรรมหนักจริงๆ
    เวลาหลวงปู่ท่านบอกอะไรทำไมถึงถูกทุกครั้งเพราะท่านมองอย่างฉลาดคือ
    ท่านมองกระเเสรวมของกรรมฉะนั้นไม่มีใครใหญ่เกินกรรม


    หากมีอะไรให้นึกถึงข้าข้าไปช่วยเอ็งทุกที่นั่นเเหละ
    ไม่มีใครหรอกที่เกิดมาไม่เคยลำบาก เอ็งต้องอดทน

    หลวงปู่ทวดท่านสอนว่า
    เมื่อเรารู้อะไรเเล้วสอนคนอื่น เป็นสิ่งที่ดีเพราะสิ่งที่เอ็งสอนไปนั่นเเหละจะเป็นธรรมที่สอนเอ็งเพื่อพัฒนาตนเองทำสิ่งดีๆเพื่อคนอื่นเเต่คนที่จะได้คือตัวเอ็งเองนั่นเเหละถ้าเอ็งเข้าใจในเหตุเเละปัจจัยเเล้วเอ็งจะเป็นสุขไม่มีทุกข์เพราะเข้าในในเหตุเเละผลของเหตุนานๆไปเอ็งจะเข้าใจในสิ่งที่ข้าพูด


    หลวงปู่ท่านสอนว่าเวลาทำความดีเราทำไปเรื่อยๆเเละไม่ต้องท้อเเท้เวลามีปัญหาในชีวิตใช้สิ่งที่เอ็งสอนคนอื่นนั่นเเหละมาเเก้ไขที่ตัวที่ตนเอ็งเเล้วเอ็งจะพ้นจากทุกข์นั้น บางคนเขาอธิษฐานถึงข้าเเล้วไม่สัมฤทธิ์ผลเเล้วหาว่าข้าไม่ช่วยจริงๆเเล้วข้าช่วยเขาเเล้วเเต่มันเป็นวาระกรรมของเขาพวกนี้เขาไม่เข้าใจเรื่องของกรรมใครจะใหญ่เหนือกรรม บางครั้งบางคนพอไม่สำเร็จถึงขั้นปรามาสพระรัตนตรัยเลยก็มี พวกเอ็งระวังให้ดี คนพวกนี้อีกหน่อยจะเยอะ


    หลวงปู่ท่านเคยให้คำกลอนสอนใจไว้ในหนังสือพระประวัติหลวงปู่เองทางนิมิตว่า
    ธรรมช่าววิสุทธิ์เเลผุดผ่อง
    ใช่จิตว่องส่งออกกายนอกเขา
    ให้เอาใจดูจิตที่ใจเรา
    ใช่ใจเขาช่างเทิดจิตนอกกาย


    หลวงปู่ท่านบอกว่าไม่มีใครจะอยู่เหนือกรรมไปได้เเละถ้าเอ็งเข้าใจในเหตุเเล้วเอ็งจะไม่ทุกข์จากผลอันนั้นเลย ตอนนี้ชาติบ้านเมืองกำลังเดือดร้อนถ้าอย่างไรเสียให้เอ็งเผยเเพร่คำสั่งสอนธรรมของพระพุทธเจ้าให้คนเข้ามีจิตใจที่ดีขึ้นด้วย

    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  20. mommaamgirl

    mommaamgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +823
    ขอโทษ ซิลิกา เป็นยังไงไม่เคยเห็นตจริง ๆ ค่ะ เอารูปลงให้หน่อยแล้วได้รับมาจากใครท่เว็บนี้หรือเปล่า

    เพราะขอพระธาตุจากเว็บนี้เหมือนกันค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...