อยากทราบวิธีเจริญอานาปานสติ(ภาคปฏิบัติ)ครับ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย วิทย์, 3 มีนาคม 2008.

  1. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    คือท่านใดพอจะมีประสบการณ์การฝึกอานาปานสติ ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม จะกำหนดแบบไหนก็ได้ช่วยกรุณาแนะนำทีครับ อยากทราบวิธีกำหนดดูลมหายใจทั้งตอนที่นั่งสมาธิ หรือตอนเคลื่อนไหวร่างกาย ว่าแต่ละท่านมีวิธีหรือเทคนิคอย่างไรบ้าง พอดีกะว่าจะลองฝึกดูน่ะครับ
     
  2. เด็กชายพชร

    เด็กชายพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +98
    อะไร เป็นสาเหตุให้คุณ wit สนใจหลักอานาปานสติ และอยากลองปฏิบัติคะ
     
  3. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    เหมือนกระแสพาไปมีอะไรมาดลใจน่ะครับ อยู่ดีๆก็เกิดความรู้สึกอยากจะลองฝึกดู คิดว่ากรรมฐานนี้คงมีอะไรดีๆซ่อนอยู่ ไม่อย่างนั้นคงไม่เป็นกรรมฐานหลักมาหลายพันปีแล้วน่ะครับ เพียงแต่อยากจะขอรวบรวมข้อมูลประสบการณ์จริงๆของผู้ที่เคยฝึกมาก่อนน่ะครับ(จะกำหนดแบบไหนก็ได้ครับ) ^ ^
     
  4. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    คือแบบไม่จำเป็นต้องตรงกับตำราก็ได้นะครับ ขอเพียงแค่เป็นประสบการณ์จริงๆของผู้ที่เคยปฏิบัติมาแล้ว จะเล่าประสบการณ์ก็ได้นะครับว่าฝึกแล้วได้ผลดีอย่างไร อยากทราบวิธีกำหนดทั้งตอนนั่งกับตอนเคลื่อนไหวร่างกายน่ะครับ ว่าจะมีวิธีฝึกและประสานสอดคล้องกันอย่างไร

    ความจริงตัวผมเองก็พอมีข้อมูลกับประสบการณ์อยู่บ้างเล็กๆน้อยๆ แต่อยากจะหาข้อมูลเพิ่มอีกสักหน่อยน่ะครับ
     
  5. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    คิดว่าเป็นธรรมทานเถิดนะครับ ถ้าท่านใดมีประสบการณ์รู้เห็นอะไรจากการเจริญอานาปานสติจริงๆ(ไม่ได้เป็นการคิดขึ้นมาเอง) การบอกเล่าประสบการณ์ของท่านออกมา จะเป็นประโยชน์กับผมมากเลยครับ อย่าคิดว่าเป็นการอวดหรืออะไรเลยครับ ถ้าท่านไม่เล่าไม่บอกกล่าวออกมา คนอื่นก็ไม่มีโอกาสได้รู้อะไรดีๆเลยนะครับ Please.......(*_*)/
     
  6. siratsapon

    siratsapon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +641
    ขออนุโมทนาในกุศลจิตของคุณ Wit ครับ

    ผมขอตอบคุณ Wit เพื่อเป็นธรรมทาน แบ่งปันกัน ขอให้ตั้งใจอ่านให้ดี ผมจะกล่าวดังต่อไปนี้ครับ

    สิ่งที่ผมจะเล่า โปรดอย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ เพราะว่าคุณต้องฝึกเองเสียก่อนถึงจะได้รู้ว่าสิ่งที่ผมเล่าไปนั้นเป็นจริงหรือไม่ และเหตุผลที่ลงต่อไปนี้ ก็ไม่ใช่เพื่อจะโอ้อวด เพราะผมเองก็ไม่มีอะไรจะอวด เพียงแต่เห็นว่านำมาลง คงจะช่วยตอบคำถามของคุณได้ และเป็นธรรมทาน แบ่งปันแลกเปลี่ยนประสบการณ์การฝึกที่เคยผ่านมากับผู้อื่นได้เรียนรู้ และอาจจะนำไปเทียบเคียงกับการปฏิบัติของตนได้ด้วยครับ ให้คิดเสียว่าเล่าสู่กันฟังก่อนนะครับ ไม่รู้ว่าจะเป็นการนำมะพร้าวมาขายสวนหรือเปล่าครับ?...

    ประสบการณ์ต่อไปนี้ เกิดขึ้นนานแล้ว เคยมีคนถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมเองได้เคยตอบไป ดังนั้นสำนวนจะไม่สละสลวยเท่าไรนะครับ...

    เมื่อก่อนผมฝึกปฏิบัติอยู่ที่บ้านเกิด จังหวัดราชบุรี บ้านของผมอยู่ใกล้กับวัด และอยู่ใกล้แม่น้ำ ซึ่งเป็นสถานที่เงียบสงบ สมควรแก่การปฏิบัติธรรม ตอนนั้นผมยังมิได้ไปสมัครในสำนักใด ไม่ได้รู้จักพระไตรปิฏกแต่อย่างไร เพียงแค่รู้จักการฝึกสมาธิ คือ การภาวนาด้วย "พุท-โธ" จากหนังสือใบ้หวยมุมธรรมะ ของแม่ผม...

    ผมเริ่มฝึกด้วยคำภาวนานี้ในทุกวันเช้าและเย็นช่วงละครึ่งชั่วโมง ซึ่งด้วยความรู้ที่มีเพียงน้อยนิด พร้อมด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ คิดแต่เพียงว่าให้จิตใจของผมสงบ ใช้เรียนหนังสือได้ดีเท่านั้น ไม่ได้รู้ว่าอะไร คือ รูปฌาน อรูปฌาน มรรคผลนิพพาน หรืออยากบรรลุอรหันต์เลย รู้เพียงแค่ว่าเมื่อลมหายใจเข้าบริกรรมว่า "พุท" เมื่อลมหายใจออกบริกรรมว่า "โธ" ...

    ผมฝึกอยู่ได้อย่างนี้ประมาณ 2 เดือนเห็นจะได้ สมาธิของผมเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่รู้ว่าดีขึ้นด้วยอาการว่าเบาสบาย ลมหายใจของผมปรากฏชัด และยาวขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งผมหายใจยาวยึ่งรู้สึกว่าสบาย ผมคงสภาพอย่างนี้ไป ระยะหนึ่งเกิดมีแสงสว่างขึ้นทั่วภายในตาของผมคล้ายสีขาว ดั่งว่ามีผ้าขาวมาอยู่ตรงหน้าผม เพียงชั่วเดียวแสงสว่างนั้นได้จางลง ในขณะที่เกิดแสงสว่างขึ้นนั้น ผมไม่ได้สนใจเป็นพิเศษแต่ประการใด ผมยังคงกำหนดอยู่ที่คำภาวนาของผมอย่างเดิมต่อไป....

    ผมกำหนดภาวนาต่อไปเรื่อยๆ ปรากฏว่าขนของผมลุกไปทั่วร่าง ห้ามอย่างไรก็ห้ามไม่อยู่ แต่การขนลุกทำให้ผมรู้สึกดีมากขึ้น ผมจึงปล่อยให้อาการขนลุกเป็นไป จากนั้นอาการขนลุกของผมก็หายไปเอง...

    อาการต่อไปที่ปรากฏขึ้นแก่ผม มีอยู่ว่า ตัวของผมเบาหวิวบ้าง หนักอื้งบ้าง ตัวบวมบ้าง ตัวเล็กบ้าง ภายในการหลับตามีแสงสว่างปรากฏขึ้น เป็นดวงสีขาวนวลๆ ตอนนั้นผมรู้สึกสุขใจมาก จิตใจของผมมันแช่มชื่นอย่างที่สุด มีความรู้สึกอยากนั่งไปตลอดไม่อยากเลิกฝึกเสีย...(ซึ่งบางวันนั่งตอนหัวค่ำ มารู้สึกตัวอีกทีตอนเลิกฝึกว่าเช้าแล้วหรือนี่ เหมือนเรานั่งเพียงแป๊บเดียวเอง)
    จากนั้นสักพักหนึ่ง คำภาวนา "พุท-โธ" ของผมได้หายไป ผมเองก็รู้ว่าคำภาวนานั้นได้หายไป ผมพยายามนำกลับมาแต่ว่าสักพักก็ได้หายไปเสียอีก ผมจึงปล่อยให้มันเป็นไป คำภาวนาของผมหายไปก็ช่าง ต่อจากนั้นผมจึงรู้ด้วยใจในสมาธิของผมว่าที่จริงแม้คำภาวนานั้นจะหายไป แต่ก็เหมือนกับว่าคำภาวนาของผมนั้นยังคงอยู่ เพราะรู้สึกได้ว่ายังอยู่ แต่ผมเพียงไม่ได้ยินเสียงที่พูดขึ้นในใจเท่านั้น....

    ผมกำหนดรู้อยู่อย่างนั้นๆ เรื่อยเป็นเวลานานเท่าใดไม่ทราบได้ ลมหายใจของผมรู้สึกแผ่วเบาลง มันเบามากจนผมคิดว่าสมาธิของผมไม่ดีเสียแล้ว ผมจึงพยายามกำหนดรู้ลมหายใจมากยิ่ง แต่ยิ่งกำหนดรู้ลมหายใจมากยิ่งขึ้น กลับกลายเป็นว่าลมหายใจของผมได้หายไป....

    จากนั้นเพียงชั่วครู่เท่านั้น ได้เกิดสิ่งที่ผมไม่เคยประสบมาก่อนในชีวิต ได้แก่ ขณะที่ผมรู้ว่าลมหายใจของผมหายไป ผมยังรู้ด้วยตนเองว่า ขณะนั้นหูของผมไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ผมพยายามไปฟังเสียงภายนอกอย่างไรก็ไม่ได้ยิน...

    จากนั้นนิดเดียวขณะกำลังพยายามฟังเสียงต่างๆ อยู่นั้น เพียงชั่วครู่เท่านั้น ผมก็ได้ยินเสียงรถยนต์ที่อยู่ปากซอยห่างจากบ้านไปไกลพอสมควรประมาณ 400 เมตร มันดังชัดมากเหมือนอยู่ไกล้ๆ หู ผมจึงพยายามฟังเสียงอย่างอื่นอีก แล้วก็ได้ยินเสียงในห้องที่ผมได้ล็อคประตูไว้อย่างดี หน้าต่างที่มีลูกกรงกั้นไว้ บ้านซึ่งวันนั้นมีผมอยู่เพียงคนเดียว

    ผมได้ยินเสียงฝีเท้าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คล้ายกับเสียงการเดินของคน กำลังเดินผ่านประตูเข้ามาในห้อง แล้วเสียงเท้านั้นก็มาหยุดตรงหน้าผม จากนั้นผมรู้สึกว่ามีลมวูบหนึ่ง ผ่านที่จมูกของผมไปอย่างชัดเจน...

    แล้วสักพักหนึ่ง สิ่งที่ผมรู้สึกพบเจอนั้น ได้ค่อยๆ เดินจากไปทางประตูหลังห้องที่ถูกล็อคไว้ จากนั้น ผมจึงออกจากสมาธิ แล้วรีบสวดมนต์ แผ่เมตตา และรีบนอน..

    จากประสบการณ์ครั้งนั้นผมได้ไปเล่าให้กับเพื่อนของผมฟังแต่ก็ไม่มีใครเชื่อ เพื่อนของผมคิดว่าผมโกหก ผมก็สงสัยว่าเป็นอะไรกันแน่จนต่อมาได้รู้จักพระไตรปิฏก และได้ศึกษา ปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้น จึงเข้าใจว่าสิ่งที่ผมพบเจอนั้นเป็นอาการหนึ่งของผู้ที่ได้จตุถฌาน และเป็นอาการของผู้ที่พยายามฝึกโสตทิพย์ (หูทิพย์) เสียงฝีเท้าที่ผมได้ยิน สิ่งที่เข้ามาใกล้กับหน้าผม คือ เสียงทิพย์จากฝีเท้า และใบหน้าของกุมาร ในบ้านของผมที่พ่อผมได้เลี้ยงเอาไว้บนหิ้งพระ นอกห้องนั่นเอง...

    ที่ผมเล่าไปนี้ เป็นประสบการณ์ และความคิดเห็นส่วนบุคคลนะครับ เป็นสิ่งที่ผมสรุปเอง เทียบเคียงเอง โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วย ผมขอเล่าเท่านี้แหละครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์บ้างไม่มากก็น้อย ส่วนฌานอื่นๆ และความรู้ที่ลึกซึ้งกว่านี้คงต้องให้ผู้รู้ท่านอื่นตอบแล้วกันครับ

    ขอให้คุณ wit เกิดปัญญาเห็นธรรม
     
  7. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    สาธุ....ขออนุโมทนาและขอขอบพระคุณคุณ siratsapon สำหรับการเสียสละเล่าประสบการณ์การปฏิบัติธรรมเพื่อเป็นธรรมทานในครั้งนี้ ถ้าคุณไม่เล่าประสบการณ์นี้ออกมาผมคงพลาดจากสิ่งดีๆไปอย่างหนึ่งแล้วล่ะครับ ข้อมูลของคุณในครั้งนี้เป็นประโยชน์สำหรับผมมากเลยครับ
     
  8. golf135

    golf135 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +652
    ผมก็ฝึกมาได้ไม่เท่าไหร่อ่ะนะคับ ... ถือว่าเล่านิทานก็แล้วกันนะคับ

    อันผมเลือกอานาปาเพราะคิดว่าตนเองมีวิตกจริต คือชอบคิดโน่นนี่ไม่หยุด ตามที่ได้ศึกษาของหลวงพ่อฤษีดูเห็นว่าอานาปาน่าจะช่วยให้จริตนี้เบาๆลงได้บ้าง เลยตั้งต้นฝึก

    ก็เริ่มทั่วๆไปก่อนคับ เหมือนหลายๆท่าน .... พุธ-โธ ..ไปเรื่อยๆ... ยังไม่ทันเรื่อยมากก็เอาแล้ว คิดโน่นคิดนี่อีกแล้ว...ไม่พอนะคับ... โอเค จิตนึงจับคำภาวนาอยู่ เหมือนมีอีกจิตนึงคิดเรื่องอื่น แล้วก็เหมือนมีจิตที่สามคิดอีกเรื่อง ว่นวายไปหมด ก็เลยพยายามหางานให้จิตทำ... คือทำแบบจับลมสามฐาน(ปาก-อก-เหนือสะดือ) พร้อมจับภาพพระ(องค์ปฐมสีทอง เอารูปจากในเวปนี่แหละคับ) แล้วก็พุธ-โธ ไปด้วยกัน... ได้ผลดีคับ สามารถที่จะไม่คิดอะไรมากได้...

    ต่อมาพออารมณ์ฟุ้งหายๆเบาๆไป ก็ลดงานของจิตลง เหลือพุธ-โธและจับลมที่อกอย่างเดียว... จะเรียกว่าพักก็ได้นะคับ ทำอันนี้ก็ทำบ่อยๆเท่าที่จะทำได้.. เวลาพาคุณแม่ไปเดินออกกำลังกาย เวลานั่งส้วม เวลาล้างจาน บางทีดูทีวีอยู่ ถ้านึกได้ก็ทำ...

    ผ่านมาสักไม่กี่สัปดาห์... ผมเริ่มเห็นแสงสีขาวเวลาหลับตาคับ แต่ไม่ได้สนใจอะไร แสงมันไม่ได้เป็นรูปร่างอะไร วูบวาบๆ อยู่อย่างนั้น... แต่ใจก็ปล่อยมัน ภาวนาไปเรื่อย

    เวลาคำภาวนาหาย ผมไม่รู้ว่ามันหายเพราะเราเผลอหรือเพราะจิตเป็นสมาธิขึ้น เลยพยายามจะเกาะคำภาวนาใหม่... ก็เลยไม่ก้าวหน้าสักที...

    มีอีกอย่างนะคับ ผมชอบนอนภาวนาไปจนหลับ มีหลายครั้ง รู้ตัวว่าหลับตาอยู่ ยังไม่หลับ สติมีอยู่ แต่สามารถมองทะลุเปลือกตาออกไปได้ เห็นตู้เสื้อผ้าที่ปลายเตียง บางทีนอนหันข้าง ก็เห็นฝาผนัง... อันนี้ไม่ทราบว่ามันเป็นอาการอะไรเหมือนกัน ใครทราบช่วยอธิบายทีนะคับ

    มีอีก..บางคืนที่นอนภาวนา รู้สึกตัว รู้ว่าไม่ได้ฝัน ลืมตาขึ้นมา รู้สึกแปลกๆบอกไม่ถูก พอยกแขนขึ้นมา ปรากฏว่าแขนเป็นแก้วใส ....ตกใจมาก นึกว่าตาย.. พยายามความหาแขนที่เป็นเนื้อซึ่งตอนนั้นรู้สึกว่าอยู่ใต้ผ้าห่ม ...รู้สึกได้ว่ามือที่ใสๆนั้นสัมผัสแขนเนื้อของเรา แล้วก็สะดุ้งขึ้นมา(ไม่ใช่สะดุ้งตื่นนะ) แบบว่าไม่รู้เกิดอะไร ตกใจอ่ะคับ

    มีอีกวัน นอนกลางวัน ภาวนาไป ไม่ได้คิดอะไร หลับไป.. มารู้สึกตัว รู้ว่าตื่นแล้วแต่เหมือนลืมตาได้ไม่เต็มที่ ... รู้สึกแปลกๆเหมือนตอนเห็นแขนใสๆ ก็คิดว่าถ้ามันจะออกจากร่างก็จะลองดู ... แต่ไม่รู้อีท่าไหน ออกทางข้างล่างคับ คือไถออกไปทางปลายเท้า หัวของกายทิพย์มาอยู่ตรงสะโพกกายเนื้อ เห็นปลายเท้าอยู่ข้างหน้า แต่ว่ารู้สึกเหมือนมีอะไรหนืดมากๆรั้งกายทิพย์ไว้ เหมือนเป็นแรงดึงดูด ก็พยายามรั้งผ้าปูที่นอน (เอากายทิพย์รั้ง) พยายามดึงอยากออกไปให้ได้ แต่สู้ไม่ไหว เด้งกลับ ลืมตาขึ้นมาเจ็บใจตัวเอง...

    อาการแปลกๆต่างๆที่ผมเล่ามานี้ตัวผมเองก็ไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้ยังไง และก็ไม่ทราบว่ามันคืออะไรแน่ ...จะอุปาทานหรืออะไรก็ไม่ทราบได้ แต่ผมรู้แค่ว่าผมตื่นและมีสติตลอด...

    เอาเป็นว่าผมก็ฝึกอานาปามีจุดประสงค์คือกำจัดจิตฟุ้งเท่านั้น และถ้าตัวผมเองเห็นว่าเมื่ออารมร์ฟุ้งเราสามารถควบคุมได้แล้วก็จะลองย้ายไปฝึกอย่างอื่นคับ

    อ่านเรื่องของผมก็คิดซะว่าเอาสนุก อย่าเอาสาระ... แต่ถ้ามีท่านใดพอจะอธิบายอาการแปลกๆที่เกิดกับผมได้ว่าคืออะไร จะขอขอบพระคุณมากและอนุโมทนาคับ
     
  9. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666


    ขออนุโมทนา นะค่ะ


    การที่ คำภาวนา หายไป ..

    แสดงว่า ผ่านจุดเริ่มต้นแล้ว

    การ เริ่มต้น ด้วย คำสวดภาวนา ไม่ว่า จะ อะไรก้อตาม
    เป็นการเริ่มต้น ..จริงๆ


    ขอเจริญธรรมกับความสำเร็จ ผ่านไป อีกขั่น
    แต่ ..อย่าหยุด ..พอหยุด แล้วมีแต่จะถ้อย และเสื่อม ..
     
  10. แคท

    แคท เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2005
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +1,666

    ขออนุโมทนาค่ะ

    ตอนแรก คิดว่า เออ ทำไม คุณ ..คนใหม่ หรือคนเก่า
    อิๆๆ
    เพราะว่า คนคุ้นเคย
    แต่ จะหัน มาฝึก สายนี้ ..

    เลยต้องย้อน อ่านอีกรอบ ...

    ดิฉันปฏิบัติ สลับ กับ ..เฝ้าดูจิต ตามคำสอนของปู่ดุลย์
    เพราะ ครูบาอาจารย์ สอนทางนี้..

    ขึ้นอยู่กับ สภาพ ..จิตของตนเอง

    เฝ้าดู ลมหายใจ
    เฝ้าดู จิต

    รวมทั่ง ..จิต กับสติ ควบคู่กัน ..

    จัดแบ่ง ทุกข์ ต่างๆ ไว้ในห้อง วางเฉย ..

    หากจะมาเล่า โอ้โห้ ..ฝึกมา สี่ห้าปี
    จะให้เล่า สั่น ..อืมม์
    กว่าจะผ่านขั่นตอน..ไม่ใช่เรือง ง่ายๆ นะค่ะ

    ขอโมทนาบุญ
     
  11. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815


    ตอนนั้น มีสติตามดูตลอดทุกอิริยาบท เหมือนมีอีกคนในตัวเราเฝ้าดู เฝ้ารู้ตลอด แม้ยามหลับ ยามฝัน ยามตื่นก็รู้ ตื่นมาว่าหายใจเข้าก่อนหรือออกก่อน และเมื่อมีคำถามก็จะมีคำตอบโผล่งออกมาเอง ทั้งคำตอบนั้นเราก็ไม่เคยรู้มาก่อน มันรู้ขึ้นมาเองไม่มีเหตุผล และยังเห็นอนาคตอันใกล้(ประมาณว่า คนที่เราจะเจอ หรือสถานที่ๆเราจะไป ทั้งๆที่ไม่ได้ ไม่เคยเจอ ไม่เคยไป ที่นั้นๆมาก่อน) และท่านผู้อยู่ภพภูมิอื่นก็มาสงเคราะห์ เราจึงไม่สงสัยเรื่องภพภูมิอื่น ชาตินี้ชาติหน้าอีกเลย และก็เห็นตัวเลขแบบไม่ต้องกลับ(แงๆๆ ไม่ได้ซื้ออ่ะ) และที่สำคัญ ครูบาร์อาจารย์ท่านก็มาสงเคราะห์เป็นครั้งคราวจ๊ะ เช่นมีครั้งหนึ่ง เราก็ได้ยินเสียง"อย่าไปคิดถึงอดีต ให้อยู่กับปัจจุบันซิ"(คงจะหมายถึงให้เจริญสติให้มากๆ) หรือ บางทีก็มาดแสดงปริศนาธรรมในนิมิต แล้วแต่ท่านจะสงเคราะห์จ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2008
  12. โอม อุดมชัย

    โอม อุดมชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    512
    ค่าพลัง:
    +2,527
    เป็นบุญที่ได้อ่านข้อความของ คุณ golf135 และคุณ siratsapon และขอขอบคุณกับคำถาม คุณ wit สำหรับผมกำล้งตั้งใจทำอยู่
     
  13. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    เมื่อก่อนเคยสงสัย ว่ายืนเดินนั่ง เนี่ย จิตจะรวมได้อย่างไรหากไม่นั่งนิ่งๆ แต่ตอนที่เราอดบุหรี่ เราภวนาทุกอิริยาบท สู้กับมัน จะยืนเดินนั่งนอน ดูทีวี กิน ดื่มฯลฯ เราภวนาตลอด จนเข้าวันที่สาม จิตรวมเลย ในขณะที่ดูทีวีอยู่เนี่ยแหละ และ ก็อดบุหรี่ได้ด้วยจ๊ะ เป็นประสบการณืที่ได้มาแบบไม่ได้คาดไว้เลยจ๊ะ
     
  14. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอขอบคุณทุกๆท่านมากครับ คือจริตผมเองชอบและสนใจกรรมฐานหลายๆอย่างน่ะครับ อยากจะฝึกให้ได้หมดทุกอย่างเลย อานาปานสตินี้ก็เคยฝึกแบบ ทำๆหยุดๆ ไม่ติดต่อน่ะครับ เนื่องจากยังไม่มีแรงบันดาลใจหรือแรงจูงใจพอแล้วก็มีหลากหลายวิธีกำหนด ก็กะว่าจะลองมาฝึกใหม่จริงๆจังๆดู เลยมาสอบถามประสบการณ์และอานิสงส์ของแต่ละท่านดูเป็นข้อมูลก่อนน่ะครับ จะได้เลือกเอาวิธีที่น่าจะถูกใจที่สุดและพออ่านเจออานิสงส์ประสบการณ์ของแต่ละท่านแล้ว ผมจะได้มีกำลังใจในการฝึกอานาปานสติได้ตลอดต่อเนื่องน่ะครับ

    เพราะเรื่องอย่างนี้ต้องอาศัยประสบการณ์น่ะครับ ผมอยากทราบว่าทำไมอานาปานสติกรรมฐานจึงได้รับการยกย่องจากพระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายมากมายเหลือเกิน แสดงว่าต้องมีอะไรไม่ธรรมดาน่ะครับ ขอขอบพระคุณทุกๆท่านอีกทีนะครับที่อุตส่าห์เล่าประสบการณ์ให้ฟัง _/l\_
     
  15. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    ตอนที่ทำความเพียรหนักๆ มีเทคนิคนิดหนึ่งจ๊ะ คือระหว่างวัน ให้รู้สึกถึงลมหายใจที่มากระทบกับริมฝีปากไว้ ให้จับความรู้สึกไว้ที่ริมฝีปากไว้ ถ้าเผลอก็เริ่มต้นใหม่ แล้วพอตอนเย็นรามานั่งสมาธิแล้ว จะเข้าสมาธิได้เร็วขึ้นจ๊ะ หรือ ถ้าจับไม่ได้ ก็ให้นึกถึงคำว่าพุทธโธเลยในมโนทวารเลยก็ได้จ๊ะ อันนี้เป็นวิธีที่ส่วนตัวเคยใช้จ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2008
  16. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอขอบคุณคุณ iofeast มากๆเลยครับ (^ ^)
     
  17. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขออนุโมทนาสาธุครับ การฝึกสมาธิได้ผลพลอยได้ที่ดีติดมาด้วยครับ (||)
     
  18. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    ขอบคุณครับ ผมกะว่าจะลองดูลมโดยเอาสติมากำหนดดูที่เหนือริมฝีปากตรงช่องปลายจมูกดูตามที่แนะนำน่ะครับ แต่จะลองตามดูลมอย่างเดียวแบบไม่ภาวนาดูน่ะครับ เพราะทดลองกำหนดดูแล้ววิธีนี้รู้สึกคล่องตัวดีครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  19. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,199
    ค่าพลัง:
    +7,815
    อีกนิดนะครับ อย่าหาว่าพูดมากเลยครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับผู้ปฎิบัติใหม่ครับ
    ทำให้ต่อเนื่องส่ำเสมอ พยายามรักษาอารมณ์กรรมฐานไว้ครับ ทีวี ก็พยายามจำกัดไว้ นั่งสมาธิเสร็จก็เข้านอน(ภวนาต่อจนหลับ)เลย ตื่นนอนก่อนจะลุกก็พุทโธๆๆๆๆไปสักพัก กินข้าวก็ค่อยๆกินค่อยๆเคี่ยวพิจรณาอาหารไปด้วย(รักษาอารมณ์กรรมฐานไปด้วย) ตอนเย็นก็อย่ากินพวกอาหารรสจัดจำพวกพริก เป็นต้น ไม่นานก็จะเห็นผลเองครับ
     
  20. วิทย์

    วิทย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    2,036
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,439
    เมื่อกี๊ลองตามดูลมที่ปลายจมูกดูสักครู่แล้วครับ รู้สึกสบายปลอดโปร่งดีมากเลยครับ รู้สึกเบากายเบาใจหัวสมองก็โล่งเย็นๆดีครับ จะพยายามปฏิบัติต่อเนื่องครับ ^ ^
     

แชร์หน้านี้

Loading...