ผิดสัจจะกับตัวเอง จะแก้ไขอย่างไรดีครับ

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย krissanawat101, 9 ธันวาคม 2016.

  1. krissanawat101

    krissanawat101 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2016
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ผมเคยตั้งเป้าหมายที่จะทำอะไรหลายอย่างแล้วทำไม่เสร็จ ล้มเลิกตลอด
    เข้าใจว่าผลจากการที่เราผิดสัจจะกับตัวเองบ่อยๆ
    ทำให้เป็นคนขี้กลัว
    จะกลับมาตั้งสัจจะใหม่ ก็เหมือนการย้อนแย้ง กลับไม่เชื่อตัวเอง
    ควรทำยังไงให้กลับมาเชื่อมั่นในตัวเองได้อีกครั้งครับ
     
  2. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ตามความเข้าใจนะคะ ถ้าตั่งสัจจะต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย อันนี้จะให้ผลอย่างมาก และไม่ควรจะผิดไปจากที่ตั่งสัจจะไว้ค่ะ
    แต่ถ้าตั่งสัจจะกับตนเอง ว่าเราจะไม่ทำนั่นรึจะทำนี่ มันจะคล้ายๆดังว่าเรานึกคิดว่าจะทำ รึ ไม่ทำซึ่งอาจมีแปรผันเพราะกำลังใจผิดกับข้อแรก และมันมักจะมีเหตุผลมารองรับกับการผิดสัจจะรึความตั่งใจของเราค่ะ ยิ่งเรื่องไม่สำคัญรึเรื่องเล็กๆด้วยแล้วยิ่งผิดสัจจะง่าย
    แต่เหนือสิ่งอื่นใด ขอให้เรารู้ว่า เราผิดสัจจะแต่เรสไม่ผิดศีลและไม่ผิดกับคนอื่นก็พอค่ะ แต่ถ้าตั่งสัจจะแล้วไม่ผิดเลยนี่น่าจะได้บารมีมากค่ะ

    กรณีถ้าผิดสัจจะจากที่เราเคยลั่นต่อหน้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ก็น่าจะนำดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมากรรมและ ขออโหสิกรรม ต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์และคู่กรรม(ถ้ามี) แต่ถ้าแค่เสียความตั่งใจ สวดมนต์ไหว้พระแล้วขอขมา แผ่เมตตาก็น่าจะพอค่ะ รวมถึงพยามอย่าตั่งสัจจะบ่อยๆ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะปฎิบัติได้

    ปล.จากประสบการณ์ตัวเองค่ะ
     
  3. 2499

    2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    450
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +6,033
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. SMING

    SMING เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2008
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +430
    ....การตั้งสัจจะ....
    ๑. ผิดสัจจะ กลายเป็นคนไม่จริงจัง เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำอะไรมักไม่สำเร็จ ท้อแท้
    และหมดกำลังใจไปเองในที่สุด
    ๒. ไม่ผิดสัจจะ มักได้กำลังใจเพิ่ม มีความมั่นใจ รู้สึกดี เกิดความกล้าหาญขึ้น (ฮึด)
    ...ธรรมดาการที่เราตั้งสัจจะ ว่าจะทำอะไรซักอย่างไม่ว่าเรื่องใด ๆ ก็ตาม เพียงแค่เริ่ม
    ก็มักจะมีบททดสอบเสมอ เหมือนกับที่ท่านว่า " มารไม่มี บารมีไม่เกิด" เหมือนเป็น
    การมาทดสอบกำลังใจของเรา ไม่ว่าสิ่งที่เราตั้งสัจจะไว้ จะยากหรือง่ายเพียงใดก็ตาม
    เพราะฉะนั้นแล้ว เราก็ควรตะหนักรู้อยู่แก่ใจตนเองเสมอว่า เป็นสิ่งที่เราต้องฝ่าฝันต่อ
    สู้ไป เพื่อทำให้สำเร็จตามที่เราตั้งสัจจะเอาไว้...
    แนะนำ...การตั้งสัจจะในการที่เราจะทำอะไรซักอย่างหนึ่ง เมื่อเราไม่ผ่าน (ไม่ต้องท้อ) เราก็ควรคิดว่าเราทำดีที่สุดแล้ว และเราต้องตั้งสัจจะต่อไปทดสอบว่าเราสามารถทำ ได้ดีกว่านี้ไหมและดีกว่าขนาดไหน ดีที่สุดขนาดไหน เราต้องทำให้ถึงที่สุดนั่นแระ
    บางทีที่สุดของเรา อาจไม่มีใครทำได้เลย หรือไม่มีใครคิดจะทำเลยก็เป็นได้ สิ่งดีดี
    ข้างต้นย่อมเกิดกับเราแน่ ๆ ...อนุโมทนาบุญครับ
     
  5. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,324
    ค่าพลัง:
    +4,774
    ผมก็เคยเป็นมาก่อนนะ ผิดสัจจะ เกลือกกลิ้งเป็น อาจิณ ช่วงนึงของชีวิต มันเกิด Effect ประหลาดๆขึ้นกับตัวเอง เช่น โดนตัดรอนให้สับสนท้อแท้ ไม่มีใครเชื่อใจ ทุกอย่างตาลปัต แทบบ้า เพึ่งจะมาดีเมื่อไม่นานมานี้ เอง พยายามเข้าครับสู้ๆ
     
  6. VisionPower

    VisionPower เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,178
    ค่าพลัง:
    +493
    เริ่มจากง่ายๆ ครับ. ง่ายแบบไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ
    เช่น จะอาบน้ำกี่โมง. จะกราบพระ 3 ที สวดมนต์ ... อย่ามองข้ามเรื่องเล็กๆ ครับ
    (สำคัญคือ เริ่มแรกอย่าใช้กับเรื่องที่ต้องใช้ความคิดเยอะ)


    ส่วนถ้าเป็นเรื่องเป็นราว เช่น การศึกษางานอดิเรก อะไรแบบนั้น
    จะขึ้นกับหลายปัจจัย. ทั้งสติปัญญาในการเห็นแนวทาง, การแก้ปัญหา, กำลังทรัพย์
    , เวลาที่มี, การหาครู, การหาเพื่อนร่วมกิจกรรม
    แต่ถ้ามีเรื่องสัจจะ งานมันก็พอเดินไปได้คับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2016
  7. จิตปราโมทย์

    จิตปราโมทย์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2017
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +103
    หลวงพ่ฤาษีลิงดำบอกว่า พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า "บารมี แปลว่า ทำให้เต็ม"
     
  8. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    วิธีนี้เป็นวิธีของผมคนเดียวนะ ซึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ผลกับท่าน แต่ ผมเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องสัจจะกับตัวเองเหมือนกัน เลยอยากแชร์ดู

    ผมเป็นคนที่ไม่ค่อยจะมีสัจจะกับตัวเองนัก แล้วก็ ล้มเหลวมาตลอด สาเหตุที่ทำให้เราผิดสัจจะกับตัวเองมันต้องมีครับหาดี ๆ ถ้าเจอแล้วจะแก้ได้

    ซึ่งสิ่งที่ทำให้คุณผิดสัจจะกับตัวเองอาจะเป็นคนละสาเหตุกันกับของผม

    อย่างผมนี่ คือ ไม่เข้าใจว่า เราเกิดมาเพื่ออะไร
    ต้องทำดีเพื่ออะไรในเมื่อชาวโลกเขาทำไม่ดีต่อกันทั้งหมด
    ไม่เข้าในสิ่งที่ศาสดาสอนเพราะบางธรรมเป็นธรรมที่เข้าถึงยาก
    ทำให้ไม่เชือไม่ศรัทธา ไม่มีกำลังใจจะอยู่บนโลก พ่อแม่ไม่เข้าใจ เราไม่เข้าใจพ่อแม่ ยิ่งอยู่ยิ่งเกิดปัญหา อยากตาย ก็ต้องอยู่ไปเรื่อย ๆ ....... โดยที่ชีวิตไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรเลย
    มีแต่เรื่องไม่ดีเข้ามาในชีวิต และชีวิตก็ไม่เคยมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้น
    หลัก ๆ ก็คือไม่มีความเข้าใจอะไรบางอย่าง เลยเป็นทุกข์ ไม่มีกำลังใจจะทำอะไร เลยไม่รู้จะทำสัจจะไปเพื่ออะไร

    วิธีแก้ของผมก็คือ แก้ความไม่เข้าใจด้วยความเข้าใจครับ
    คำถาม แล้วเราจะทำให้ตัวเองเข้าใจได้อย่างไร
    คำตอบที่ผมได้จากการถามตัวเองก็คือ ต้องรู้ว่าตัวเองไม่เข้าใจเรื่องอะไรบ้าง
    และศึกษาเพื่อแก้สิ่งที่ไม่เข้าใจเป็นเรื่อง ๆ ไป มันก็ไม่ค่อยจะต่างอะไรกับนักวิทยาศาสตร์พยายามหาคำตอบของสิ่งที่ไม่รู้จักมากสักเท่าไรน่ะนะ

    โชคดีที่ นิสัยแย่ ๆ ที่ทำให้ผมผิดสัจจะบ่อย ๆ มันมีประโยชน์กับผมบ้าง คือ เป็นคนชอบหมกมุ่นอยู่กับความคิด ผมก็เลยมีเวลาทั้งวันที่จะพยายามทำความเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ
    มากมายมหาศาล และโชคดีอีกที่ผมรู้ว่า ผมไม่ต้องพยายามทำความเข้าใจสิ่งที่เป็นปัญหาของผมเองทั้งหมด เพราะสิ่งที่ผมไม่เข้าใจส่วนใหญ่ ก็มีอยู่แล้วใน คำสอนของพระพุทธเจ้า

    ที่ผมทำคือ ผมตรวจสอบคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ โดยเฉพาะข้อที่เราไม่เชื่อ ตรวจสอบคำสอนท่านแล้วพิจารณาตามเสีย เริ่มจากคำสอนที่เรียบง่าย ที่ไม่ต้องอาศัยญาณใด ๆ ไปทำความเข้าใจหรือรู้ตาม ไปหาคำสอนที่ซับซ้อนขึ้น ถ้าเรายังไม่เข้าใจอีก ก็แสดงว่าบารมีเรามีน้อย
    ก็อาจจะต้องศึกษาธรรมะข้ออื่นเยอะหน่อย อาจต้องศึกษาตั้งแต่ต้น และต้องมีครูที่ดีคอยชี้แนะสักหน่อย แต่ผมใช้วิธีศึกษาเองเสียส่วนใหญ่ หลงตะพึดตะพือเลยครับ แต่ก็ไม่ใช่ไม่เกิดผลนะ ผมเข้าใจธรรมดาตอนอายุ 29 และเข้าใจพระธรรมมากขึ้นตอนอายุ 31 ตอนนี้ก็อายุ 32 คือ ถ้าคุณเข้าใจธรรมดาแล้ว มันจะเปิดโลกทัศน์ของคุณได้มากทีเดียว ผมรู้สึกว่า ตั้งแต่เข้าใจธรรมดามานี่ ผมฉลาดขึ้นจนตัวเองยังกลัวนะบางที กลัวว่าบางทีเราเข้าใจอะไรเร็วไปจนเรากลัวว่าเราจะหลงอย่างที่เคยหลงหรือเปล่า *.*

    ก็ศึกษาพระธรรมไปไปให้เข้าใจธรรมดาแหละครับ ถ้าเข้าใจธรรมดาแล้ว ก็จะสามารถปล่อยวางความทุกข์ที่เกิดจากการผิดสัจจะได้เอง และสามารถตั้งสัจจะใหม่ได้ คราวนี้ทำตามสัจจะได้ง่ายกว่าเดิมแน่นอน

    สรุปนะครับ วิธีส่วนตัวของผมที่ผมใช้เองคือ
    ถ้ายังแก้ไขความทุกข์ของตัวเองเรื่องตั้งสัจจะไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งไปตั้งสัจจะใหม่ครับ
    การตั้งสัจจะแบบนี้ ใช้ได้ผลกับคนส่วนใหญ่ที่มีศรัทธาจริต กับวิริยะจริต ครับ คือเชื่อแล้วทำแล้วสิ่งที่เขาทำนั้นบังเกิดผล เขาก็จะมีกำลังใจไป
    ส่วนของผม แม้ทำสำเร็จผมก็ไม่ดีใจ เพราะไม่รู้จะทำเพื่อใคร หรือ จะทำเพื่อตัวเราเองไปทำไม ในเมื่อเราไม่รู้ ไม่เชื่อว่ามันจะส่งผลดีกับตัวเองในภายภาคหน้า
    ผมจึงต้องรู้เสียก่อนว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้ผมไม่มีสัจจะต่อตัวเองคืออะไร ไม่มีความสุขในชีวิตคืออะไร ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับผมทั้งหมดทั้งมวล ก็คือไม่เข้าใจโลก ไม่เข้าใจความซับซ้อนของมนุษย์ เมื่อผมรู้แล้วผมก็แก้ตรงนั้นครับ
    คือไปศึกษาพระธรรมเสีย
    ไม่ใช่แก้ที่ความทุกข์ โดยพยายามลืมความทุกข์ ที่เกิดจากการผิดสัจจะ เพราะความทุกข์นั้นคือผลที่เกิดจากโทษตัวเองเพราะรักษาสัจจะไม่ได้ซึ่งเป็นปลายเหตุ
    หรือการหมั่นตั้งสัจจะขึ้นมาใหม่แล้วทำ ทำไปทำไปเราก็ทำไม่สำเร็จเหมือนเดิม ยิ่งซ้ำเติมความทุกข์ให้เราเข้าไปอีก
    และผมก็ไม่ได้แก้ด้วยการตั้งหน้าตั้งตาทำไปโดยไม่รู้เรื่องอะไร/ไม่มีจุดมุ่งหมายอะไรเลย เพราะ ถึงผมจะทำสำเร็จ ผมก็ไม่มีความสุขที่ได้ทำ เมื่อไม่มีความสุข กำลังใจมันก็ไม่เกิด สิ่งที่ทำคนอื่นอาจเห็น แต่มันไม่มีค่าอะไรกับเรา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2017

แชร์หน้านี้

Loading...