วิธีทำให้แจ้งในพระนิพพานเป็นอย่างไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 7 มีนาคม 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    การกระทำให้แจ้งในนิพพาน



    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0>[​IMG]




    พระเจ้ามิลินท์ตรัสถามต่อไปว่า

    " ข้าแต่พระนาคเสน  พระผู้เป็นเจ้ากล่าวว่า  นิพพานไม่เป็นอดีต อนาคต ปัจจุบันไม่ใช่เกิดแล้ว ไม่ใช่ยังไม่เกิด ไม่ใช่จักว่าเกิดก็ผู้ที่ปฏิบัติชอบย่อมได้สำเร็จนิพพานมีอยู่ ผู้นั้นสำเร็จนิพพานที่เกิดแล้ว หรือว่าทำให้นิพพานเกิดแล้วจึงสำเร็จ? "


    พระนาคเสนตอบว่า

    " ขอถวายพระพร ไม่ใช่ว่าสำเร็จนิพพานที่เกิดแล้ว ไม่ใช่ว่าทำให้นิพพานเกิดแล้วจึงสำเร็จเป็นแต่ว่า นิพพานธาตุนั้นมีอยู่ ผู้ปฏิบัติชอบก็สำเร็จนิพพานธาตุนั้น "

    พระเจ้ามิลินท์ตรัสว่า

    " ข้าแต่พระนาคเสน ขอพระผู้เป็นเจ้าอย่าทำปัญหานี้ให้ปกปิดเลย จงแสดงออกให้แจ่มแจ้งเถิด สิ่งใดที่ผู้มีฉันทะอุตสาหะ ได้ศึกษาแล้วในเรื่องนิพพาน ขอจงบอกสิ่งนั้นทั้งสิ้นเพราะในเรื่องนิพพานนั้น ประชุมชนสงสัยกันอยู่มาก ขอจงทำลายความสงสัย อันเป็นเหมือนลูกศร ที่ฝังอยู่ในดวงใจของคนทั้งหลายเถิด พระผู้เป็นเจ้า



    สภาวะแดนนิพพาน


    " ขอถวายพระพร นิพพานธาตุ ธาตุคือนิพพานอันสงบ อันเป็นสุข อันประณีตนั้นมีอยู่ผู้ปฏิบัติชอบ เมื่อพิจารณาสังขารตามคำสอนของพระพุทธเจ้า ก็กระทำให้แจ้งนิพพานธาตุด้วยปัญญา เหมือนเป็นศิษย์กระทำให้แจ้งวิชา ตามคำสอนของอาจารย์ด้วยปัญญาฉะนั้น

    อันนิพพานนั้น บุคคลควรเห็นอย่างไร..ควรเห็นว่า เป็นของไม่มีเสนียดจัญไร ไม่มีอุปัทวะเป็นของสงบ ไม่มีภัย ปลอดภัย สุขสบาย น่ายินดี เป็นของประณีต เป็นของสะอาด เป็นของเย็น ขอถวายพระพร เรื่องนี้เปรียบเหมือนอะไร..เปรียบเหมือนบุรุษที่ถูกล้อมด้วยกองไฟใหญ่เบียดเบียน ก็พยายามหนีจากกองไฟไปอยู่ในที่ไม่มีภัย แล้วเขาก็ได้สุขยิ่งฉันใด
    ผู้ปฏิบัติชอบ เร่าร้อนด้วยไฟ ๓ กอง ก็หนีจากไฟ ๓ กอง ด้วยโยนิโสมนสิการ ( ทำจิตไว้ด้วยอุบายอันชอบธรรม )

    เข้าไปอยู่ในที่ไม่มีไฟ ๓ กอง แล้วเขาก็กระทำให้แจ้งนิพพาน อันเป็นเอกันตบรมสุขฉันนั้น "
    ควรเห็นไฟ ๓ กองเหมือนกับกองไฟใหญ่ ควรเห็นผู้ปฏิบัติชอบ เหมือนกับผู้หนีกองไฟใหญ่ ควรเห็นนิพพานเหมือนที่ไม่มีกองไฟใหญ่ฉะนั้น

    อีกประการหนึ่ง บุรุษผู้มีซากศพงู หรือซากสุนัข หรือซากมนุษย์ ผูกติดคอ แล้วพยายามสลัดซากศพนั้นไปสู่ที่ไม่มีซากศพแล้วเขาก็ได้เสวยความสุขอย่างยิ่งฉันใด ผู้ปฏิบัติชอบก็กระทำให้แจ้งนิพพาน อันเป็นบรมสุข อันไม่มีซากศพคือกิเลส ด้วยโยนิโสมนสิการฉันนั้น
    ควรเห็นกามคุณ ๕ เหมือนซากศพ ควรเห็นผู้ปฏิบัติชอบ เหมือนผู้พยายามหนีซากศพควรเห็นนิพพานเหมือนที่ไม่มีซากศพฉะนั้น

    อีกอย่างหนึ่ง บุรุษผู้กลัวภัย ย่อมพยายามหนีจากที่มีภัย ไปสู่ที่ไม่มีภัย แล้วเขาก็ได้ความสุขอย่างยิ่งฉันใด ผู้ปฏิบัติชอบก็กระทำให้แจ้งนิพพานอันเป็นบรมสุข อันไม่มีภัย ไม่มีความสะดุ้ง ด้วยโยนิโสมนสิการนั้น

    ควรเห็นภัยอันมีเรื่อยไป เพราะอาศัยความเกิด แก่ เจ็บ ตาย เหมือนกับภัย ควรเห็นผู้ปฏิบัติชอบเหมือนกับผู้กลัวภัย ควรเห็นนิพพานเหมือนที่ไม่มีภัยฉะนั้น
    อนึ่ง บุรุษผู้ตกเลนตกหล่ม ย่อมพยายามหนีจากเลนจากหล่ม ไปสู่ที่ไม่มีเลนไม่มีหล่มแล้วเขาก็ได้ความสุขยิ่งฉันใด ผู้ปฏิบัติชอบก็ได้สำเร็จนิพพานอันเป็นสุขยิ่ง อันไม่มีเลนไม่มีหล่มคือ กิเลส ด้วยโยนิโมนการฉันนั้น
    ควรเห็นลาภสักการะสรรเสริญ เหมือนเลนเหมือนผู้ปฏิบัติชอบเหมือนผู้พยายามหนีเลนหนีหล่ม นิพพานเหมือนที่ไม่มีเลนมีหล่มฉะนั้น



    วิธีกระทำให้แจ้งนิพพาน


    " ข้าแต่พระนาคเสน นิพพานนั้น บุคคลกระทำให้แจ้งว่าอย่างไร ? "

    " ขอถวายพระพร ผู้ใดปฏิบัติชอบ ผู้นั้นย่อมเห็นความเป็นไปแห่ง สังขารทั้งหลาย ผู้เห็นความเป็นไป แห่งสังขารทั้งหลาย ย่อมเห็นความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในสังขาร แล้วก็ไม่เห็นสิ่งใด ๆในสังขารว่าเป็นสุข ทั้งในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด ไม่เห็นอะไรในร่างกายที่จะควรยึดไว้

    เหมือนกับบุรุษที่ไม่เห็นสิ่งใดในเหล็กแดงที่ตนควรจะจับ ทั้งเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุดฉะนั้น
    เมื่อเห็นสังขารอันเป็นสิ่งที่ไม่ควรยึดถือ ความไม่ยินดีก็เกิดขึ้นในจิตใจ ความเร่าร้อนก็ย่างลงในกาย ผู้นั้นเมื่อเห็นว่า ไม่มีที่ต้านทาน ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่หลบหลีก ก็เบื่อหน่ายในภพทั้งหลาย
    เปรียบเหมือนบุรุษเข้าไปสู่กองไฟใหญ่ เห็นว่าไม่มีที่ต้านทาน ไม่มีที่พึ่ง ไม่มีที่อาศัย ก็เบื่อหน่ายกองไฟฉะนั้น

    ผู้ที่เห็นว่าน่ากลัวในสังขาร ก็คิดขึ้นได้ว่า สังขารที่เป็นไปนี้เป็นของเร่าร้อน แล้วก็เห็นความทุกข์มากความคับแค้นมาก ในภพทั้งหลาย เห็นความดับสังขารทั้งปวง ความสละกิเลสทั้งปวงความสิ้นตัณหา ความคลายตัณหา ความดับตัณหา นิพพาน คือความ ไม่มีตัณหา ว่าเป็นความสงบอย่างยิ่ง

    เมื่อเป็นอย่างนั้น จิตของผู้นั้นก็แล่นไปในความไม่เป็นไปแห่งสังขาร แล้วจิตใจก็ผ่องใสร่าเริง ยินดีว่าเราได้ที่พึ่งแล้ว เปรียบเหมือนบุรุษที่หลงทาง ไปพบทางเกวียนที่จะพาตนไปถึงที่ประสงค์ จิตก็แล่นไปในทางนั้น แล้วก็สบายใจว่า เราได้ทางแล้วฉะนั้น

    ผู้เล็งเห็นความไม่เป็นไปแห่งสังขารว่าเป็นของหมดทุกข์ทั้งสิ้น แล้วก็อบรมความรู้ความความเห็นนั้นให้แรงกล้าเต็มที่ แล้วก็ตั้งสติ วิริยะปิติ ไว้ในความไม่เป็นไปแห่งสังขาร จิตของผู้นั้นก็ล่วงเลยความเป็นไปแห่งสังขาร ไปถึงความไม่เป็นไปแห่งสังขาร

    ผู้ไปถึงความไม่เป็นไปแห่งสังขารแล้วเรียกว่า ผู้ปฏิบัติชอบ กระทำให้แจ้ง นิพพาน ดังนี้แหละ ขอถวายพระพร " " ถูกต้องดีแล้ว พระนาคเสน "



    <TBODY></TBODY></TABLE>​

    ที่มา http://larnbuddhism.net/milintapanha/milin08_index.html
     
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,612
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    พึงระลึกเสมอว่า ตายชาตินี้ "ขอไปพระนิพพานครับ"
    ขอให้สาวกภูมิสัมมาทิฎฐินิพพานกันถ้วนหน้าครับ
    ส่วนผมคงต้องขอ "เกิด" ต่อไป ไม่รู้ว่าตัวเอง "ฉลาด" หรือ "โง่" กันแน่

    ขออนุโมทนา
     
  3. คนไม่พิเศษ

    คนไม่พิเศษ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    476
    ค่าพลัง:
    +32
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

    ผู้ใดปฏิบัติชอบ ผู้นั้นย่อมเห็นความเป็นไปแห่ง สังขารทั้งหลาย ผู้เห็นความเป็นไป แห่งสังขารทั้งหลาย ย่อมเห็นความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ในสังขาร แล้วก็ไม่เห็นสิ่งใด ๆในสังขารว่าเป็นสุข ทั้งในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด ไม่เห็นอะไรในร่างกายที่จะควรยึดไว้
     
  4. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญให้ธรรมทานของท่านผู้ตั้งกระทู้ และบุญท่านที่อนุโมทนาบุญ ครับ
    สาาาาา...ธุ
    สาาาาา...ธ
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ
     
  6. Kasem_a

    Kasem_a เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2005
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +508
    ความเห็นส่วนตัวนะครับ
    ธรรมะต้องลงมือปฏิบัติถึงจะรู้แจ้งเห็นจริง ไม่สามารถรู้หรือเห็นได้ด้วยการดู การอ่านหรือฟังๆ กันมา
    ส่วนตัวผมเองผมไม่มีความรู้เลยว่านิพพานเป็นอย่างไร
    ผมว่านะครับ ถ้าถึงซึ่งพระโสดาบัน ก็คงจะเห็นเองละครับ
     
  7. ณรงค์ฤทธิ์1976

    ณรงค์ฤทธิ์1976 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +318
    เกิดขึ้น.. ตั้งอยู่.. ดับไป...
    แน่แท้ไม่แปรผัน.....


    อนุโมทนาครับ.....
     
  8. lasomchai

    lasomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +2,035
    ขออนุโมทนากับผู้ตั้งกระทู้และผู้ร่วมอนุโมทนาทุกท่านครับ

    นิพพานนัง ปรมัง สุขัง

    นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ
     
  9. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,673
    สวัสดีค่ะพี่เจ้าของกระทู้

    บังเอิญเห็นที่หน้าบอร์ดว่าวันนี้เป็นวันเกิดพี่ ขอให้เจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปนะคะ มีความสุขมากๆค่ะ

    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆด้วยค่ะ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...