ปฏิจจสมุปบาท ที่ควรพิจรณา?

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย YUT_KOP, 5 ธันวาคม 2016.

  1. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    การพิจารณา ปฏิจจสมุปบาท ฝั่งสมุทัย ในความเป็นจริง เวลาพิจารณา เราทำอารมณ์ วิเคราะห์การดับที่จุดเริ่มต้นตรงไหน ก็ได้ใช้ไหม แล้วใช้ ไตรลักษณ์ พิจารณาที่ละคู่ หรือ จำเป็นต้องตามลำดับ เพราะที่แท้จริงไม่ว่าตรงไหนจะดับก่อนมันก็จะพังทั้งหมดอยู่ดีใช่หรือไม่ แล้วการเกิดของสิ่งอื่นๆที่ไม่มีวิญญาณขันธ์ มันยังอยู่ใน ปฏิจจสมุปบาท หรือไม่
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    ใช้อะไร เปนวิหารธรรม ต้อง ปรารภด้วยครับ

    ยิงคำถามตรงด้วนๆ. ได้คำตอบ อาจจะ. งง จนต้องฉวยจนแน่น
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
  4. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024


    สมเด็จพระญาณสังวรฯ-ความเกิดดับแห่งปฏิจจสมุปบาท​
     
  5. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    พิจรณาด้วยสมาธิชอบ
     
  6. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024


    สมเด็จพระญาณสังวรฯ-อริยสัจ๔ ในปฏิจจสมุปบาท นัย ๑
     
  7. เสขะ บุคคล

    เสขะ บุคคล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,243
    กระทู้เรื่องเด่น:
    53
    ค่าพลัง:
    +4,024


    สมเด็จพระญาณสังวรฯ-อริยสัจ๔ ในปฏิจจสมุปบาท นัย ๒ ​
     
  8. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    ขึ้นอยู่กับว่า ญาณทัศนะ แจ้งแค่ไหน เพราะ ปฏจสมบ นี้เป็นมายาของจิต ถ้ามองเห็นจิตไม่ใช่กายและกายไม่ใช่จิต แล้วก็จะสามารถหาเหตุที่จิตได้ละเอียดยิ่งขึ้น การพิจารณาก็ใช้สติเห็นการเข้าไปติดรู้กับสภาวะใด สภาวะหนึ่ง นั่นแหละคือตัวภพ และต้องมีกำลังจิตที่พาตัวรู้ถอนออกจากสภาวะนั้น ก็จะค่อยๆเห็นสภาวะไม่ติด ไม่ข้อง ทำแบบนี้ได้จนคล่องเรียกว่า มรรคญาณ แล้วจึงจะเห็นสายของ ปฏจสมบ ได้ทันกาล
     
  9. ผ่านมาเฉยๆ

    ผ่านมาเฉยๆ ไรเซ็นมันพูดว่าอะไรหว่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    964
    ค่าพลัง:
    +1,221
    ถ้าไม่กลัวแล้วแม้แต่ความตาย
    ปฏิจจสมุปบาทฝ่ายดับก็เป็นอันจบสิ้น
    ทำให้ได้สิครับ
     
  10. ekkapon.ch

    ekkapon.ch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +257
    ชาติ (การเกาะกุมรุมรัดรวมตัวของสิ่งมีชิวิตที่เรียกว่า เซล์ล จนกลายเกิดเป็นชีวิตรูปขนาดใหญ่รูปหนึ่ง คือมนุษย์ สัตว์ สิ่งมีชีวิตรูปอื่นๆก็เช่นกัน โดยอิงอาศัยธาตุทั้ง ๔ ในการดำรงสภาพอยู่ เปรียบดังประเทศหนึ่งๆ ที่มีสิ่งมีชีวิต คน สัตว์มากมาย หลากหลายหมู่เหล่าหลากหลายเผ่าพันพันธุ์อันมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์กลางดวงใจและหลวมรวมคนในชาตินั้นเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แต่ทุกชีวิตในชาตินั้นต้องอาศัย แผ่ดิน ผืนน้ำ สายลม และแสงแห่งอาทิตย์เป็นไฟในการส่องนำทางในการักษาอุณหภูมิในร่างกายให้คงสภาพอยู่
     
  11. ekkapon.ch

    ekkapon.ch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +257
    ความลึกซึ้งในอรรถในธัม ต้องศึกษาและทำความเข้าใจความหมายแต่และอักขระอักษรตามบาทแห่งนิรุกติศาสตร์เพราะมีรากทางภาษาอยู่ภายในอย่างลึกซึ้ง เอาแต่ท่องจำนั้นไม่ได้
    ..........................................................................................................................
    เจริญในธรรม สาธุ
     
  12. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ทำเพื่อ.....?

    อะไรคือ วงจรสมุปกิจบาท ฝั่งสมุทัย....มันจะยังมีฝั่ง ทุกข์ ฝั่งนิโรธ ฝั่งมรรค อีกมั้ย....

    วิเคราะการดับที่จุดเริ่มต้น...ใครพาทำแบบนี้ครับ

    แล้วใช้ไตรลักษณ์ พิจารณาทีละคู่หรือ....เอามาจากไหน

    ดับตรงไหนก่อน ก็พังกันหมดไช่หรือไม่...นิวาณ์เคยพูด ตรงนี้

    การเกิดของสิ่งอื่น ที่ไม่มีวิญญาณขันธ์..มันจะยังถือว่าเป็นวงจรหรือไม่...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  13. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ต้องทำความเข้าใจ คำว่า...รู้รอบ รู้แจ้ง รู้ทวน รู้หมด รู้ครบ....ก่อนนะครับ

    คำว่าวงจร แปลว่า มันเกิดแล้วต้องมีครบ วงจร แปลว่า มีทุกตัว...การจะรู้แจ้งในวงจร ก็แปลว่า รู้ครบทุกตัวในวงจร เข้าใจทุกตัวในวงจร...เห็นการทำงานตามขั้นตอน ครบทั้งหมดทุกตัว ในวงจร ครับ

    ไม่ไช่ไปตัด ตัวใดตัวหนึ่ง...คือการดับวงจร...อันนี้ เข้าใจ ผิดถนัด...เลยครับ
    อวิชชา...คือ ความไม่รู้ครบในวงจร....
    วงจรแตกสลาย เพราะ เข้าใจความจริงทั้งหมดของวงจร ต่างหากครับ...ถึงจะถูก..

    สัจธรรมความจริง..มีให้ค้นหาความจริงครับ....เมื่อรู้ความจริง ความไม่รู้จึงหายไป...อวิชชาจึงหายไป...วิญญาณจึงหายไป....หายไปแปลว่า อนัตตาไป...แปลว่า เลิกยึดมั่นถือมั่น ที่ผิดๆ..นั่นเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  14. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    การค้นหาความจริง....มีวิธีการเดียว...คือ ชำระสิ่งที่ไม่จริงออกไป

    สิ่งที่ไม่จริง แปลว่า...สิ่งที่ตนไม่รู้ ไม่เข้าใจ ยังสงสัย
    สิ่งที่จริงคือ จริงของ ผัสสะอายตนะกายใจ ..ความคิด จิต...ขันธ์...ว่ามันจริงยังไง

    สติปัฏฐานคือ กาย เวทนา จิต ธรรม...คือการฝึกเพื่อให้เข้าไปทำความเข้าใจ โดยการเข้าไปรู้เห็น ความจริง...ของ กาย เวทนา จิต...จะได้รู้เห็นความจริงคือ คำตอบ คือปัญญา คือ ธรรม นั่นเอง

    ดังนั้น

    วงจรสมุปกิจบาท...คือวงจร การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป...(ว่าง)...เกิดขึ้นตั้งอยู่ ดับไป...(ว่าง)...

    การครบวงจรคือ รู้ ดู เห็น เข้าใจ ทั้งก่อนเกิดและหลังเกิด....ที่ว่า ว่าง นั่น...(ต้องรู้และเข้าใจด้วย.จึงเรียกว่า เห็นครบวงจร)

    แปลเป็น..ง่ายๆว่า...เกิด(รูปนาม)...มีชีวิต(ตั้งอยู่)...ตายลง(ดับไป)...เป็นจิตวิญญาณคือว่าง...ไปเกิด ...(ตั้งอยู่)...ดับไป...เป็นวิญญาณ(ว่าง)..

    ดังนั้น การรู้ครบรอบวงจร...คือ..รู้ตัวเองแม้ขณะตายไปไม่มีรูปกาย เหลือเพียงวิญญาณ...นั้น แล้ว ไปเกิดต่อ ได้ยังไง....เนี่ย...เขา เน้นกันตรงนี้

    ถ้ารู้ไม่ครบ แค่ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป(ผัสสะอายตนะ)...โลกธรรม...เท่านั้น

    รู้ครบ มันต้องรู้ โลกุตรธรรมคือ หลังตายไป เรื่อง อรูปธรรม เรื่องขันธ์ ด้วย

    ...
    จึงจะเรียกว่า เห็นพระไตรลักษณ์ครบ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  15. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    อีกอย่าง....เขาไม่มานั่ง พิจารณา หรอก วงจรสมุปกิจบาท ถ้า ยังไม่เข้าใจ ในพระไตรลักษณ์....ในสติปัฏฐานสี่...เพราะมันอันเดียวกัน.....แค่ วงจร มันมอง มิติเดียว...มันต้องเข้าใจในพระไตรลักษณ์ได้ก่อน...ถึงจะมา คุยเรื่องวงจร ได้..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2017
  16. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    การพิจารณา ปฏิจสมุปบาท คือ การพิจารณา ทุกข์ และ สมุทัย ตามความจริงที่เกิดขึ้น
    จึงต้องมีทุกข์ใจเกิดขึ้นก่อน เจ้าของสัมผัสทุกข์นั้นแล้ว ไม่พึงพอใจ ต้องการหลีกหนีทุกข์นั้น จึงยกทุกข์ในใจนั้นขึ้นพิจารณาว่า เหตุใดจึงติดข้องในทุกข์นั้น แล้วจึงไล่หาต้นสายปลายเหตุว่า อะไรเป็นเหตุ ทุกข์อยู่ตรงไหน จะวางลงได้อย่างไร เมื่อแรกเริ่มก็ไม่ต้องสนใจบัญญัติ เช่นว่า รู้สึกอึดอัด แน่น ทรมานใจ หงุดหงิด ร้อน อาการทั้งหลายเหล่านั้นแหละคือ สายปฏิจสมุปบาท เมื่อทราบว่า อาการเหล่านี้เกิดขึ้นกับตน ก็หาสาเหตุต่อไปว่า ทำอย่างไรจึงจะวางเฉยได้ แรกเริ่มก็วางที่ความคิด แล้วจึงปล่อยวางที่จิต แล้วจึงปล่อยวางที่กาย จนกายสงบระงับไปได้ อาการทุกข์ทั้งหลายย่อมดับไป การพิจารณาดับทุกข์จึงควรพิจารณาอย่างนี้ เมื่อชำนาญแล้วจึงจะสามารถสรุปเหตุเฉพาะตนหลายๆประการให้รวมลงเป็น หลักการตามบัญญัติหนึ่งเดียวกันได้ จึงจะเห็นสายแห่งปฏิจสมุปบาท
     
  17. พระประดับ

    พระประดับ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    104
    ค่าพลัง:
    +35
    ใจมันตาย ก็เห็นปฏิจจสมุปบาท
     
  18. วรณ์นิ

    วรณ์นิ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2016
    โพสต์:
    6,083
    ค่าพลัง:
    +3,024
    ใจไม่ตายหรอกท่าน...ใช้คำว่าตาย ไม่ถูก...ควรใช้คำว่า .เมื่อปล่อยวางใจ หรือ ..เมื่อถึงอนัตตาธรรม ของกายใจ..จะถูกกว่านะครับ
     
  19. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    :p ควรเริ่มต้นตรง อาตนะภายในทั้ง6 (จิต) ออกผัสสะ กับอารมณ์ภายนอกครับ..ภพ-ชาติ-ชรา เกิดทันที ปฏิจจะสมุปบาท แปลว่า อาศัยกันและกันเกิด..จิตส่งออกไปเกาะอารมณ์ภายนอก ภพ-ชาติ-ชราฯล เกิดทันที..
    :mad: การเกิดของสิ่งอื่นๆที่ไม่มีวิญาณขันธ์ เช่นอะไรครับ มีหลายภพ-ภูมิ..กรณีไม่มีวิญญาณขันธ์ การเกิดของภพ ย่อมไม่มี จิต-มโน-วิญญาณ ไม่มีที่เกาะ ก็นิพพานเท่านั้นครับ อีกทั้งวงจรปฏิจจะสมุปบาทนี้ มีเฉพาะ ในศาสนาพุทธเท่านั้นที่สอนนะคัรบ
     
  20. เราโตมาคนละแบบ

    เราโตมาคนละแบบ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2017
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +197
    คุณเข้าใจผิดครับ..การทำงานของวงจรปฏิจจะสมุปบาท จิตอยู่ที่กายหรือ มุ่งเดินอาณา-หรือกายคตา เพื่อไม่ให้จิตส่งออกตามอายตน 6 จนเกิดผัสสะครับ
    :mad: ถ้าจิตส่งออกไปเกาะอารมณ์ใดนั่นคือ ผัสสะเกิดแล้วครับ..เวทนาเกิดทันที เวทนามีสาม สุข-ทุกข์-เฉยๆ ไม่จำเป็นต้องเป็นทุกข์อย่างเดียว เขาใช้การเฝ้าดู ไม่ให้เกิดเวทนา..จิตส่งออก เวทนาเกิดทันทีด้วยความเร็วของจิต เกิด-ดับ-ตลอดเวลาวงจรปฏิจจะสมุปบาท เขาทำงานพรึบเดียวทั้ง 12 ห่วงโซ่นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...