การนั่งสมาธิตัดกรรม

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย achiraya_99, 15 มีนาคม 2008.

  1. achiraya_99

    achiraya_99 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +13
    ดิฉันอยากทราบว่าการนั่งสมาธิตัดกรรม แตกต่างจากการนั่งสมาธิทั่วไปอย่างไร แล้วเหตุใดผู้ที่นั่งสมาธิตัดกรรม เมื่อนั่งไปซักพักโดยการกำหนดลมหายใจจากยาวๆเป็นถี่ขึ้นเรื่อยๆ จะต้องแสดงอาการเหมือนมีองค์ลงประทับ เป็นอิริยาบทต่างๆกันไป .... ซึ่งอาการเหล่านี้เป็นการอุปทาน หรือไม่ หรือ
    มีองค์เทพมาโปรดจริงๆ และเป็นการตัดกรรมจริงๆหรือไม่ ซึ่งในความเข้าใจของดิฉัน การนั่งสมาธิจะสามารถตัดกรรมได้จริงเหรอ เพราะกรรมของคนเราก็มีหนักเบาแตกต่างกันไป แต่แค่การนั่งสมาธิแล้วออกอาการ จะเป็นการตัดกรรมได้ง่ายดาย แล้วเจ้ากรรมนายเวร เค้าจะอภัยให้ง่ายดายขนาดนี้เลยหรือ ดิฉันเคยได้ยินว่าการตัดกรรมมีหลายวิธี แล้วจริงๆแล้วควรเลือกวิธีไหน ( สำหรับตัวดิฉันแล้ว การประพฤติตัวดี และไม่เบียดเบียนคนอื่น ก็เป็นวิธีการหลีกเลี่ยงไม่ให้มีกรรมเพิ่มมากขึ้น )... ขอสอบถามผู้รู้ ช่วยให้ความกระจ่าง เพื่อดิฉันจะได้เข้าใจอะไรมากขึ้น เพราะมีคนรู้จักเค้าปฏิบัติทางนี้ และชวนดิฉันไปปฏิบัติดิฉันได้เคยไปดูครั้งนึง จึงเกิดข้อสงสัยเหล่านี้ขึ้น ขอบคุณค่ะ ...

    ปล.ข้อสงสัยของดิฉันคงไม่ใช่เป็นการลบหลู่นะคะ เพราะดิฉันอยากทราบด้วยใจจริง จริงๆค่ะ
     
  2. Famnakub

    Famnakub เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    239
    ค่าพลัง:
    +1,677
    ไม่ใช่ผู้รู้นะคะ แต่เคยปฎิบัตินั่งสมาธิตัดกรรมนี่แหละค่ะ เล่าสู่กันฟังแบบพี่น้องนะคะ ส่วนความจริงเป็นอย่างไรคงต้องขอความรู้จากผู้รู้เช่นกันค่ะ
    ครั้งแรก ที่ปฎิบัติเพราะแปลกใจว่าทำไมเขาต้องมีอาการด้วย ถ้าเป็นการสะกดจิตหมู่ แต่ละคนทำไมอาการไม่เหมือนกัน ประกอบกับมีพระ / แม่ชี คอยดูแลใกล้ชิด ตัดสินใจลองเพราะเชื่อว่าตัวเองจิตแข็งพอสมควร มีเคลิ้มนิดหน่อย
    ครั้งที่ 2 วันเดียวกันในช่วงบ่าย บอกตัวเองว่าจะปฎิบัติตามคำบอกของพระผู้นำปฎิบัติ โดยไม่ขัดขืน ก็ออกอาการจริงๆเพราะเห็นตัวเองนั่งอยู่เชิงบันไดที่ทอดสูงลงมาจากเนินเขาสูง บนชั้นสูงสุดของบันไดมีพระสงฆ์อุ้มบาตรมองลงมา รู้ตัวว่ากำลังถวายบังคมอยู่ รู้ตัวจริงๆค่ะแต่บังคับไม่ได้ร้องไห้ไปด้วยน้ำตาไหลจริงๆ แบบดีใจน่ะค่ะ
    ครั้งที่3 ห่างจากครั้งแรกเป็นปี ขณะนั่งก็รู้ตัวอีกนั่นแหละปวดหลังมากๆ แม่ชีคงเห็นอาการท่านก็บอกว่าไม่เป็นไรใช้เขาเสียให้หมด เอาจิตถามซิว่าทำอะไรไว้ ก็เห็นตัวเองขี่รถทับไปบนหลังงู แบบขี่ทับแล้วก็เลยไปเลยเหมือนไม่ได้ตั้งใจน่ะค่ะ นี่เป็นประสบการณ์ที่เกิดกับตัวเองค่ะ ตั้งใจว่าถ้ามีโอกาสก็จะไปนั่งอีกเพราะหลังจากแผ่เมตตาแล้วรู้สึกดีค่ะ
     
  3. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    อาการที่ปรากฏขึ้นนั้นไม่ใช่การทรงเจ้าเข้าผี แต่เป็นธรรมะมาทรง เป็นธรรมะเปิดโลก เปิดให้เห็นเวรเห็นกรรม เห็นภพเห็นชาติ อาการที่แสดงออกนั้นจะเป็นทั้ง กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อาจแสดงออกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือ ทั้งสามก็ได้ ขึ้นอยู่กับสภาวะจิตของผู้ปฏิบัติ เมื่อออกกรรมเราจะรู้ถึงอาการเจ็บปวดทรมารต่างๆที่ทำกับเจ้ากรรมนายเวรไว้จริง เจ็บจริงปวดจริง นั้นคือเป็นการใช้กรรมให้แก่เขา แต่กรรมนั้นมีหลายประเภทบางประเภทเจ้ากรรมนายเวรก็ไม่ใช่ว่าจะยอมง่ายๆ ต้องออกกรรมเดิมๆซ้ำแล้วซ้ำอีก จนกว่าเขาจะอโหสิกรรมให้ เมื่อเราปฏิบัติเสร็จ ครูบาอาจารย์ก็จะนำกล่าวคำตัดเวรตัดกรรม นำมาซึ่งการตัดกรรมซึ่งกันและกัน "ของฟรีไม่มีในโลก"

    โดยวิชาธรรมะเปิดโลกนี้ หลวงพ่อคง จตฺตมโล วัดเขาสมโภขน์ จ.ลพบุรี เป็นผู้นำมาเผยแพร่ ท่านได้รับธรรมะนี้เมื่อคราวที่ท่านปฏิบัติทำความเพียรแบบอุกฤต ขั้นปรมัตถ์ ภายในถ้ำพระอรหันต์ ท่านจึงอธิษฐานจิตเพื่อตัดกระแสกรรมการเวียนว่ายตายเกิดเพื่อเข้าสู่ภูมิอรหันต์ จนท่านพบพระวิสุทธิเทพมาปรากฎกาย และประทานธรรมะเปิดโลกนี้ให้ท่าน เนื่องจากอาศัยบารมีที่หลวงพ่อเคยเป็นพระร่วง โรจนฤทธิ์ ผู้รจณาพระไตรปิฏก จึงได้รับธรรมะเปิดโลกนี้ และได้อนุญาติให้ท่านนำธรรมะเปิดโลกมาสอนแก่หมู่มวลมนุษย์ แต่กำลังของพระอรหันต์ไม่เท่ากำลังของพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งพระพุทธเจ้าเปิดโลก มนุษย์สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเนื้อ ด้วยเหตุนี้จึงมีกำลังกึ่งหนึ่ง โดยจะสามารถเห็นเวรเห็นกรรมเห็นภพชาติได้ก็ต้องอาศัยกำลังของพระกัมมัฏฐานและบารมีของหลวงพ่อคง เปิดให้เรา สายนี้เป็นสายที่โลดโพน เป็นสมถะที่ควบคู่กับวิปัสนาที่แรงและเร็วมาก คนที่ไม่เข้าใจจะคิดว่าเป็นการทรงเจ้าทรงผี แต่เมื่อมาปฏิบัติเองก็จะรู้เอง "ผู้ปฏิบัติจะพึ่งเห็นได้เอง" เมื่อเรารู้กรรมเห็นกรรม และฝึกฝนพัฒนา จิตจะยกเข้าสู้วิปัสสนาอย่างแจ่มแจ้งแทงตลอด เข้าใจพระไตรลักษณ์ ....

    ปรมัตธรรมของหลวงพ่อคง เป็นธรรมะที่อยู่เหนือสมมุติ อยู่เหนือภาษา อยู่เหนือโลก ต้องอ่านตัวให้ออก บอกตัวให้ได้ ใช้ตัวให้เป็น เห็นตัวให้ถูก

    "นับถือพระ อย่าเข้าใกล้พระ คนไหนเชื่อพระ คนนั้นไม่ใช่คน"

    นำปรมัตธรรมของหลวงพ่อนี้ไปตีเอานะครับ นำไปวิปัสนาก็ได้ ปัดให้ออก ปัดจนเราเห็นแจ้ง
    ดีใจที่ได้เผยแพร่ธรรมะของหลวงพ่อครับ

    เจริญในธรรมกันทุกท่านนะครับ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2008
  4. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    การตัดกรรม ก็คือทำให้กรรมที่จะรับผลปรากฏให้เห็นเร็วขึ้นใช้ไหม (ก็คือใครทำอะไรไว้ก็ต้องได้รับผลอย่างนั้น) สิ่งที่ตัดอาจตัดได้บ้างไม่ได้บ้าง (แล้วแต่เจ้ากรรมนายเวรจะอโหสิให้ใช้ไหม) เมื่อเรารู้กรรมเห็นกรรม และฝึกฝนพัฒนา จิตจะยกเข้าสู้วิปัสสนาอย่างแจ่มแจ้งแทงตลอด เข้าใจพระไตรลักษณ์.. แล้วเรียน วิปัสนา เลยไม่ได้เหรอ แล้วคนปกติทำกรรมอะไรก็ต้องได้รับผลอยู่แล้ว เมื่อเข้าใจในกฏแห่งกรรมก็น้อมรับ (แล้วใจก็นึกขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร) แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาสร้างแต่กรรมดี และไม่ก่อกรรมเพิ่ม วิปัสนาเรียนเลยก็ได้ไม่ต้องตัดกรรมก่อน ให้คิดในหลักเหตุและผลว่าที่ยกขึ้นมาแตกต่างกันไหม (เพราะกลัวว่าบางคนคิดว่าตัดกรรมได้แล้วไม่มีกรรมแล้วก็ไปก่อกรรมใหม่) กรรม คือการกระทำ ถ้าจะก่อกรรมใหม่ก็ขอให้เป็นกรรมดี <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ตัดกรรม เจรจากรรมกับเจ้ากรรมนายเวร เป็นไปได้อย่างไร....

    กรรมผูกที่ตัวเราแล้ว เจ้ากรรมไม่เกี่ยว เจ้ากรรมไปเกิดแล้ว....
    ใครจะรู้ ผมอาจจะเป็นเจ้ากรรมของคุณก็ได้จริงมั๊ย ประเภทเห็นปุ๊บ หมั่นไส้ปั๊บ
    หรือ เห็นปุ๊บ ก็ปิ๊งปั๊บ นั่นแสดงว่าจิตมันผูกเวรกันอยู่

    ในวิปัสสนา ครั้นปฎิบัติไปเรื่อยๆ กรรมจะออกมาเอง
    รู้เลยว่าเคยไปทำอะไรไว้ ถ้าไม่หนักมากก็ใช้กรรมกันตรงนั้นเลย
    ส่วนมากมาในรูปเวทนา
    เคยสังเกตมั๊ย พวกเป็นมะเร็ง หมอบอกไม่รอด
    แต่ไปนั่งวิปัสสนากลับหาย.....แต่ต้องนั่งให้ถึงจริงๆ

    ส่วนวิชาตัดเวรตัดกรรม ไม่ขอกล่าว เพราะไม่สุดทาง ไม่เป็นเพื่อรู้แจ้ง
     
  6. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    การตัดกรรม ก็คือทำให้กรรมที่จะรับผลปรากฏให้เห็นเร็วขึ้นใช้ไหม?
    -ใช่ครับ เมื่อเปิดให้เจ้ากรรมมา เราใช้กรรมนั้นจนเขาพอใจ และอโหสิกรรมให้ เขาก็รับบุญกัมมัฏฐานของเราไปด้วย แต่เราจะไม่ถึงขั้นบาดเจ็บหรือเสียชีวิตนะครับ เพราะธรรมะคุ้มครองปรกเกล้าเรา แต่กรรมหนักๆ เขาก็ไม่ยอมครับ

    แล้วเรียน วิปัสนา เลยไม่ได้เหรอ แล้วคนปกติทำกรรมอะไรก็ต้องได้รับผลอยู่แล้ว เมื่อเข้าใจในกฏแห่งกรรมก็น้อมรับ?
    - เรียนวิปัสนาเลยก็ได้ครับ แต่เราจะเข้าสู้วิปัสนาได้นั้น เราจะต้องมีสมถะเป็นฐานก่อนครับ แต่ที่ผมบอกว่า "เมื่อเรารู้กรรมเห็นกรรม และฝึกฝนพัฒนา จิตจะยกเข้าสู้วิปัสสนาอย่างแจ่มแจ้งแทงตลอด" นั้น เพราะนี้คือแนวทางการปฏิบัติในสายของธรรมะเปิดโลกครับ เมื่อเรารู้กรรมเห็นกรรมเห็นภพชาติ จิตเราจะเบื่อหน่ายการกระทำ การเกิด การตาย นั้นคือการเห็นพระไตรลักษณ์ครับ ส่วนสำนักอื่นๆ ก็จะมีแนวทางของแต่ละสำนักครับ และผมไม่ได้บอกว่าต้องตัดกรรมก่อนจึงจะเรียนวิป้สนาได้นะครับ

    โดยคนปกติทั่วไปจะไม่อยู่ดีๆแล้วจะทำแต่กรรมดีครับ แต่เมื่อมารู้กรรมเห็นกรรมก็จะช่วยให้เขาคิดได้ครับ และกรรมคนเรานั้นก็มีไม่รู้กี่บัญชีครับ การตัดกรรมไม่ใช่ว่ามานั่งตัดกรรมจนเราเข้านิพานได้เลยนะครับ ต้องตัดแล้วให้เกิดความรู้ด้วยครับ ดังนั้นการตัดกรรมก็เป็นเพียงเครื่องมือในการสอนของหลวงพ่อครับ ไม่ใช่ประเด็นหลักหรือความมุ่งหวังของหลวงพ่อคงในการสอนธรรมะ หลวงพ่อจะบอกกับลูกศิษย์เสมอว่าให้ยกจิตเข้าสู้วิปัสนาให้ได้นะ ปัดออกให้หมด ตัวตัณหา ตัวอวิชา ปัดออกให้หมด การตัดกรรมเป็นอำนาจพิเศษของธรรมะเปิดโลกเท่านั้น ซึ่งเจตณาก็เป็นเช่นเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าเปิดโลกเมื่อครั้งพุทธกาลครับ ซึ่งธรรมะแต่ละสำนักก็มีความสามารถและแนวทางเฉพาะตน เช่น ธรรมกาย และมโนของหลวงฤษีครับ แต่สุดท้ายทุกสายทุกสำนัก จะต้องมาลงที่ อนิจัง ทุกขัง อนัตตา หมดครับ ....


    ที่คุณ หลงเข้ามา บอกว่า "ส่วนวิชาตัดเวรตัดกรรม ไม่ขอกล่าว เพราะไม่สุดทาง ไม่เป็นเพื่อรู้แจ้ง"?
    -ครับ ไม่สุดทางอย่างที่คุณบอกแหระครับ เป็นแค่ทางเส้นหนึ่ง ไปสู่ทางสายใหญ่ ทางสายกลาง ธรรมะของพระพุทธเจ้ามีมากมายเหลือเกิน แล้วแต่ว่าคุณมาจากทางไหน เราไม่ว่ากันว่า ทางคุณดี ทางผมอ้อม ทางนั้นตรง ทางนี้ลาดยาง อยู่ที่จุดเริ่มของเรามากกว่า "ผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นได้เอง"

    อนุโมทนาสาธุในความคิดเห็นครับ
    การถกปัญหาธรรมะ ก็ถือว่าเป็นการวิปัสสนาไปในตัวครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 มีนาคม 2008
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สาธุ ครับ
    อย่าติดใจกันนะ
    ถ้าจะติด ก็ให้ติดทางธรรมกัน
     
  8. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เร่งกรรมไม่ใช่พุทธนะ
    ในอินเดียมี สาสนาหนึ่งเกิดในสมัยพุทธกาล ชื่อว่า เชน
    คือเชื่อเรื่องกรรมเหมือนกัน แต่ปฎิบัติต่างกัน
    โดย บำเพ็ญตนทรมานตนสุดคั่วเพื่อให้กรรมหมด

    คำถาม
    เร่งกรรมอย่างนี้ กรรมจะหมดไปจริงหรือ..
     
  9. ง้วนดิน

    ง้วนดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    2,362
    ค่าพลัง:
    +11,047
    สาธุ...อนุโมทนา...
    กับข้อความและข้อธรรมจาก "คุณ rux" นะคะ
     
  10. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    แม้แต่คิดยังเป็นบาปเลย(คิดไม่ดี)ท่านห้ามความคิดท่านได้ไหม ตราบใดที่จิตใจท่านไม่บริสุทธิ์ถึงที่สุดคงไม่มีวันหมดกรรมหลอก
     
  11. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    เร่งกรรมอย่างนี้ กรรมจะหมดไปจริงหรือ..?
    - "ผู้ปฏิบัติจะพึงเห็นได้เอง" พระพุทธเจ้าก็เคยแสดงให้รู้แล้วว่าการอโหสิกรรมทำได้จริง ส่วนจะจริงหรือไม่จริง ไม่ได้อยู่ผม อยู่ที่ผู้ปฏิบัติเองครับ


    เร่งกรรมไม่ใช่พุทธนะ?
    -ผมไม่เห็นด้วยครับ ก็มีแต่ศาสนาพุทธเท่านั้นที่สอนเรื่องเวรกรรม แล้วหลวงพ่อก็ไม่ได้ให้มานั่งเร่งกรรมอย่างที่คุณว่า หลวงพ่อให้พิจารนาในกรรม แล้วการตัดกรรมก็เป็นอำนาจพิเศษของธรรมะเปิดโลก และธรรมะมันก็ละเอียดกว่านั้นอีก การตัดกรรมยังไงก็ตัดไม่หมดผมก็ไม่ได้บอกว่ามานั่งตัดกรรมอย่างเดียวจนเข้านิพพานเลย ยังไงก็ต้องเข้าวิปัสสนา ขนาดหลวงพ่อคงเอง ยังตัดกรรมของหลวงพ่อไม่หมดเลย โดยกรรมหนักสุดท้ายของหลวงพ่อ คือเป็นกรรมกับ.......ในอดีตชาติชาติหนึ่ง ซึ่งเป็นกรรมที่เขาไม่ยอม แต่ผมคงไม่มาบอกในที่นี้นะครับ จนทำให้หลวงพ่อเป็นโรคเลือดชนิดหนึ่ง แล้วหลวงพ่อก็ละสังขารเพื่อเข้าสู่พระนิพพาน...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2008
  12. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ศาสนาเชนก็มีครับ
    เขาเชื่อว่า มนุษย์เกิดจากกรรม เกิดมาต้องใช้กรรม
    จึงมีแนวความคิดไม่ทำกรรมเพิ่มแต่จะเร่งกรรม โดยบำเพ็ญทุกข์กิริยา
    ยิ่งทุกข์ยิ่งดี กรรมออกไวไว
    อย่างนี้เรียกว่าเร่งกรรมรึเปล่า

    พุทธชี้ให้เห็นเหตุแห่งทุกข์และชี้ทางดับทุกข์ โดยเดินทางสายกลาง
    จึงไม่มีการเร่งกรรม ให้กรรมหมดไป เพราะมันเป็นไปไม่ได้ครับ

    เราอยู่เฉยๆไม่ทำกรรมเพิ่ม กรรมก็ไม่มี
    ถ้าคิดอย่างนี้ก็ประมาท
    ก็อย่างที่คุณผีเสื้อกล่าว
    เราห้ามจิตไม่ให้คิดได้ไหม ตราบใดที่เรายังหายใจ ยังมีการ กินเดิน นั่ง นอน
    กรรมย่อมเกิดเป็นธรรมดา
    ดังนั้นเร่งกรรมจึงไม่เป็นผล
     
  13. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    กรรมในที่นี้ เข้าใจกันว่าเป็นทุกข์ใช่มั๊ยครับ
    การเร่งกรรม คือการ เอาทุกข์ออกมาใช้หนี้เจ้ากรรม หรือหวังอโหสิกรรม ใช่ไหมครับ

    ถามว่าเห็นทุกข์หรือยัง
    แก้ถูกจุดหรือเปล่า
    มันตันหรือปลายเหตุ

    พุทธสอนให้เห็นทุกข์ เข้าใจทุกข์ หาวิธีดับ ถูกไหมครับ
    ไม่ได้แย้งนะครับ คุยกันให้เกิดปัญญา..
     
  14. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    ตัดต้นไม้ใหญ่ เขาจะตัดที่ปลายก่อน จากนั้นก็ที่โคนต้น แล้วก็ถอนราก...

    ก็เมื่อเรามาเห็นต้นไม้ก็ตอนที่มันสูงใหญ่โตแล้ว ถ้าเรามาเห็นตอนมันเพิ่งงอกออกมาจากเมล็ด เราก็แค่ดึงมันออกง่ายๆ แต่เรามาเห็นในตอนที่มันโตแล้ว เราก็ต้องหาวิธีโค่นลง ด้วยสติปัญญาหรือวิถีทางของแต่ละบุคคลนะครับ...


    ปล. "คุณหลงเข้ามา" กรุณาอย่าชี้หน้าผมเวลาคุยกับผม ผมไม่ชอบบบบบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มีนาคม 2008
  15. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    555++

    จะแบกไปใย

    ครับ จะตัดไม้ ก็ต้องรู้วิธีตัด วิธีถอนก่อน
    ไม้บางชนิดใช้ดึง
    บางชนิดใช้ตัด
    บางชนิดใช้หัก
    บางชนิดใช้เผา
    บางชนิด ไม่ต้องตัด ไม่ต้องเผา เดี๋ยวก็ผุไปเอง
     
  16. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    สวัสดี คุณ RUX

    ทำบุญกับคนทุศีล1000000000000000000++ ยังไม่เท่า ทำบุญกับพระอรหันต์ เพียง1คน

    องค์คุลีมารเป็นอรหันต์ กรรมใยเบาบาง

    กรรมนั้นมีอยู่ คนใช้กรรมนั้นมีอยู่
    หากคนใช้กรรมมีศีล มีสติ กรรมเบาบางได้ไหมหนอ
     
  17. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]
     
  18. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    การนั่งสมาธิตัดกรรมของแม่ชีพิมพา วัดกำแพงแถวๆยแกอะไรก็จำชื่อไม่ได้
    ที่มาจากแยกมไหสวรรค์จะมาปิ่นเกล้า

    ที่นั่งคราวละ 20 นาที เคยถามพระยายมราช ท่านบอกว่าตัดกรรมได้ทีละหลายเล่ม แล้วแต่จิตของผู้นั่ง

    ก็ไม่รู้ว่าตัดให้ เคลียร์ให้ยังไงขี้เกียจถามมาก
     
  19. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,199
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    [​IMG]
    ( ขอยืมหน้าคุณอิโต้หน่อย หุหุ )

    ถามเล่นๆ นรกเป็นอย่างไร...
     
  20. ขุนพล พลมณี

    ขุนพล พลมณี บุคคลทั่วไป

    ค่าพลัง:
    +0
    ตอบเล่นๆ แบบในฝันและฝันว่า

    นรกเดินไม่ทั่วหรอก ลงไปเฉพาะจิตพื้นเต็มไปด้วยโครงกระดูกไม่กล้าเหยียบ เขาบอกให้ไปดูเหมือนกันแต่ผมก็บอกเขาว่าไม่อยากดูเพราะไม่ต้องลงมาหรอก
    ตอนนั้นลอยอยู่ในท่ายืน เห็นสัตว์นรกผอมมากๆ แอบอยู่ในถ้ำตื้นๆข้างทางก็มี

    ครั้งที่แปลกที่สุดคือเขาเอาดวงจิตไป พอไปถึงท่านบอกว่า อ้าวนี่มันคนดิบ
    เขาเลยให้เดินเล่นอยู่แถวนั้น เจ้าหน้าที่เลยออกไปรับตัวคนที่ตายจริงๆมา ตอนนั้นยังไม่ลงไปนะเป็นแค่ที่พักรอ ตอนนั้นเข้าอรูปอยู่เจ้าหน้าที่ที่มารับจึงพาไปเพราะคิดว่าตายแล้ว

    ก็เลยเชื่อเรื่องพระที่ท่านโปรดนรกเพราะน่าสงสารมากๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...