**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Lo_olLo, 12 พฤษภาคม 2016.

  1. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,126
    ค่าพลัง:
    +22,240
    รายการที่ 151
    ตะกรุดชนะจน รุ่นแรกหลวงปู่สำลี สุทธจิตโต วัดถ้ำคูหาวารี(ตะกรุดเงินแท้ๆ จารมือเต็มสูตร) ภายในบรรจุ พลอยเสก เกศาหลวงปู่สำลี จีวรหลวงปู่สำลี ข้าวสารหินมงคล อุดด้วยมวลสารมงคลต่างๆ

    หมดหรือยังครับ ขอจอง ๑ ชุด ...ถ้ามี
     
  2. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    รับทราบการจอง ขอบคุณครับ
     
  3. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    ต้องขออภัยด้วยนะครับ มีเพียงชุดเดียวครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ ขอบคุณครับ
     
  4. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    รายการที่ 152
    (เนื่องจากมีสมาชิกหลายท่านสอบถามเข้ามาอยากให้จัดชุดแบบเผยแพร่อีก จึงจัดอีก 1 ชุดครับ แต่เป็นชุดเล็กครับ)

    ตะกรุดชนะจน รุ่นแรกหลวงปู่สำลี สุทธจิตโต วัดถ้ำคูหาวารี(ตะกรุดเงินแท้ๆ จารมือเต็มสูตร) ภายในบรรจุ พลอยเสก เกศาหลวงปู่สำลี จีวรหลวงปู่สำลี ข้าวสารหินมงคล อุดด้วยมวลสารมงคลต่างๆ
    (ดอกเล็ก สร้างจากแผ่นเงินแท้ๆ)

    ?temp_hash=b0f8c716efa3f61112832d71aafb22b4.jpg


    ?temp_hash=b0f8c716efa3f61112832d71aafb22b4.jpg

    อุดมวลสารมงคลต่างๆ พลอยเสก เกศาหลวงปู่

    ?temp_hash=b0f8c716efa3f61112832d71aafb22b4.jpg
    ดอกเล็กในกล่องเดิมครับ

    temp_hash-c922f393827f84c9b5c71391d7c9ddae-jpg.jpg

    พิธีอธิษฐานจิต
    (เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2560 ที่ผ่านมาครับ)



    temp_hash-c922f393827f84c9b5c71391d7c9ddae-jpg.jpg

    temp_hash-c922f393827f84c9b5c71391d7c9ddae-jpg.jpg

    มาพร้อม

    รูปหล่อเนื้ออัลปาก้า รุ่นแรกหลวงปู่สำลี สุทธจิตโต พิธีอธิษฐานใหญ่มากครูบาอาจารย์หลายองค์ร่วมอธิษฐานจิต หลวงปู่สำลี เมตตาอธิษฐานจิต 21 วันก่อนออกให้บูชาครับ (เนื้อนี้สร้างเพียง 199 องค์)

    ?temp_hash=b0f8c716efa3f61112832d71aafb22b4.jpg

    มาพร้อม

    เหรียญหลวงปู่สำลี สุทธิจิตโต รุ่นพิเศษ เนื้อทองเหลืองสวยมากๆครับ.....พระใหม่มาแรก สร้างน้อย 1400 เหรียญ
    ?temp_hash=b0f8c716efa3f61112832d71aafb22b4.jpg

    1133874-3a801-jpg.jpg

    ทั้งหมด
    800
    (เป็นตะกรุดเงินดอกเล็กนะครับ ดอกใหญ่หมดแล้วครับ)

    (จัดชุดนี้ จุดประสงค์เพื่อให้ท่านที่ยังไม่มีบูชาพระรุ่นแรกๆของหลวงปู่ ได้บูชากันในราคาพิเศษๆครับ โดยเฉพาะตะกรุดเงินนี้ สร้างน้อยเพราะใช่แผ่นเงินแท้ๆ และหลวงปู่เมตตาจารมือครบสูตร ทุกแผ่น ออกให้บูชาทำบุญที่วัด 1000 บาทครับ แต่ชุดนี้ เป็นนชุดเผยแพร่ เพื่อท่านที่ยังไม่มีในรุ่นต่างๆครับมี ชุดเดียวราคาเดียวครับ หมดแล้ว หมดเลยครับ)

    ****ขออนุญาตให้เฉพาะ ท่านที่ยังไม่มีบูชาเท่านั้นครับ***

    จองแล้วครับ


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กรกฎาคม 2017
  5. bore

    bore เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +209
    ผมขอจอง1ชุดครับพี่ ขอเลขบัญชีการโอนเงินด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  6. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    รับทราบการจอง ขอบคุณครับ โอนแล้วแจ้ง ชื่อ-ที่อยู่ ให้ทราบด้วยนะครับ

    a.jpg
     
  7. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    ได้ทยอยส่งพระให้กับสมาชิกทุกๆท่านแล้วนะครับ
    (แต่ละท่านได้จำนวนพอสมควรนะครับ เผื่อแจกญาติพี่น้อง เพื่อความเป็นศิริมงคลเข้าพรรษาครับ เพราะพระชุดนี้มวลสาร พิธีอธิษฐานจิต ไม่ได้ทำกันง้ายๆบ่อยๆนะครับ)
     
  8. ChinTop

    ChinTop เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    1,022
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +659
    ตะกรุดหลวงปู่สำลีมีอีกไหมครับท่านอาจารย์
     
  9. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    หมดแล้วครับ มีแค่ 2 ชุดครับ ไว้โอกาสหน้านะครับ
     
  10. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,476
    ค่าพลัง:
    +7,306
    ได้รับพระที่อาจารย์แจกให้แล้วนะครับ
    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงเลยครับที่นึกถึงสมาชิกอยู่เสมอ
    และขอโมทนาสาธุกับการสร้างพระเเจกของอาจารย์ด้วยครับ
     
  11. songsakth

    songsakth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,964
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +2,661
    ได้รับพระผงจักรพรรดิ์ที่อาจารย์แจกให้แล้วครับ
    ขอขอบพระคุณอาจารย์เป็นอย่างมากครับ
    จะคอยติดตามร่วมบุญต่อๆไปครับ
     
  12. somsakasat

    somsakasat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    695
    ค่าพลัง:
    +1,898
    ได้รับพระที่อาจารย์แจกให้แล้วนะครับ
    ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูงและขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุ ....
     
  13. chai999999999

    chai999999999 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +52

    ได้รับพระผงจักรพรรดิ์ (ผงกรรมฐาน) แล้วครับ

    ขอบพระคุณ อาจารย์ ที่สร้าง และ เมตตา มอบมาให้ครับ
     
  14. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    ท่านครูบาเจ้าอภิชัย (ขาวปี)
    วัดพระพุทธบาทผาหนาม อำเภอลี้ จ.ลำพูน

    ?temp_hash=733397cd16a795ee85d1ce7813ec726e.jpg
    วันกำเนิด

    ในวันจันทร์* เดือน 7 เหนือ ปีกัดเป้า (ปีฉลู) ซึ่งตรงกับวันที่ 17 เดือนเมษายน 2431 อันเป็นวันมหาสงกรานต์ คำเมืองเรียกว่าวันปากปี ครอบครัวของ นายเม่า นางจันตา ก็มีโอกาสต้อนรับชีวิตเล็ก ๆ ชีวิตหนึ่งซึ่งลือตาขึ้นมาดูโลกในวันนี้ นับเป็นสายเลือดและพยานรักคนแรกและคนเดียวของพ่อเม่าแม่จันตา เพื่อให้เป็นมงคลตามวัน ทั้งสองจึงตั้งชื่อทารกน้อยนั้นว่า "จำปี"

    ฝากตัวเป็นศิษย์ครูบาศรีวิชัย
    สมัยนั้น (พ.ศ. 2447) ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ยังอยู่ที่วัดบ้านปาง วันหนึ่ง แม่เรียกเจ้าจำปีเข้ามาถาม
    "ลูกอยากบวชไหม"
    จำปีตอบว่า “อยากบวช แต่ยังห่วงแม่ เมื่อลูกบวชแล้วใครดูแล"
    แม่ตาตอบว่า "อยู่ได้ อย่าห่วงเลย อีกประการหนึ่ง การบวชนี้เป็นการช่วยพ่อแม่ที่ดีที่สุด เพราะเป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่อย่างแท้จริง เมื่อเห็นลูกนุ่งเหลือง ก็นับว่าเป็นความสุขชื่นใจอย่างเหลือเกิน"

    และจากคำแนะนำนี้ เด็กชายจำปีจึงถูกแม่พาไปฝากตัว
    เป็นลูกศิษย์ของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย และในทันทีที่นำไปฝาก เพียงท่านครูบาเห็นลักษณะเด็กชายจำปีท่านก็รับไว้ทันที เหมือนดั่งจะมีตาทิพย์มองเห็นว่าเด็กคนนี้ในอนาคตจะต้องยิ่งใหญ่

    ในฐานะนักบุญแทนท่าน และอีกไม่นานหลังจากร่ำเรียนสวดมนต์ อ่านเขียนอักขระทั้งภาษาไทยและพื้นเมืองจบแล้วท่านครูบาศรีวิชัย จึงให้บรรพชาเป็น
    สามเณร
    ?temp_hash=733397cd16a795ee85d1ce7813ec726e.jpg
    ครูบาเจ้าศรีวิชัยอุปสมบทให้
    ท่านดำเนินชีวิตทั้งในด้านการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐาน และด้านพัฒนาก่อสร้างควบคู่กันไป จวบจนอายุได้ 22 ปี (พ.ศ. 2453) เป็นสามเณรได้ 6 ปี ท่านครูบาศรีวิชัยจึงอุปสมบทให้ แต่เพราะเหตุที่ท่านมีชื่อเหมือนกับอาจารย์ เมื่อเป็นภิกษุ อาจารย์จึงได้เปลี่ยนฉายาให้ใหม่ว่า "อภิชัยภิกขุ"

    (หมายเหตุ: ในต้นฉบับเดิมท่านผู้เรียบเรียงได้เขียนถึงฉายาใหม่ของท่านว่า "อภิชัยขาวปี" ซึ่งน่าจะคลาดเคลื่อน เพราะคำว่า "ขาวปี" น่าจะเป็นฉายาของท่านเมื่อตอนนุ่งขาวห่มขาว ไม่ใช่ฉายาตอนเป็นพระภิกษุ - webmaster)

    ท่านอุปสมบทได้เพียง 2 พรรษา ท่านจึงกราบลาพระอาจารย์ เพื่อที่จะแยกไปมุ่งงานก่อสร้างต่อไป

    ผจญมาร
    พระอภิชัย เริ่มงานก่อสร้างในสถานที่ต่าง ๆ ตั้งแต่อายุ 24 จนถึงอายุ 35 ลางร้ายก็เริ่มอุบัติ สมัยนั้นใช้เงินตราปราสาททอง ตรารูปช้างสามหัว และเริ่มมีธนบัตรใช้ควบคู่กันไป ขณะที่กำลังก่อสร้างกุฏิวัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน แต่ยังไม่ทันเสร็จ

    ปลัดอำเภอลี้สมัยนั้นก็มาสอบถามถึงใบกองเกินการเกณฑ์ทหารจากท่าน แต่ท่านไม่มี ตำรวจจึงคุมตัวไปจังหวัดลำพูนและส่งตัวฟ้องศาล เมื่อถูกศาลไต่สวนถึงใบกองเกิน ว่าทำไมถึงไม่ได้รับ

    ท่านก็ให้การว่า ขณะที่เริ่มมีการเกณฑ์ทหารนั้น ได้ระบุว่าให้ขึ้นทะเบียนตั้งแต่อายุ 18 ปีบริบูรณ์ แต่ขณะนั้น อายุอาตมาได้ 25 ปี บัดนี้อายุของอาตมาได้ 35 ปีแล้ว จึงนับว่าพ้นการเกณฑ์แล้ว ศาลจึงพักเรื่องนี้ไว้ก่อน

    ?temp_hash=733397cd16a795ee85d1ce7813ec726e.jpg
    ถูกบังคับให้สึกและครองผ้าขาวครั้งที่สอง
    หลังจากนั้นอีกไม่นาน ท่านก็ต้องขึ้นศาลอีกและให้ท่านรับใบกองเกิน แต่ท่านก็ไม่ได้ไปแจ้งแก่ทางการให้มีการยกเว้นหรืออย่างไร

    ฉะนั้นท่านจึงมีความผิดให้จำคุก 6 เดือน แล้วให้จัดการสึกท่านออกจากการเป็นพระภิกษุก่อน แต่ท่านก็ยังยืนยันว่าท่านบริสุทธิ์

    ท่านเป็นพระทั้งกายและใจ ชีวิตนี้อุทิศให้กับศาสนาแล้ว ท่านไม่ยอมเปลื้องผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากกายของท่านด้วยมือของตัวเองเป็นอันขาด

    มื่อยืนยันอย่างนี้ ศาลจึงให้ตำรวจคุมตัวท่านไปหาเจ้าคณะจังหวัด ให้จัดการสึกตามระเบียบ แม้กระนั้น ท่านก็ยังยืนยันอย่างเด็ดเดี่ยว ที่จะไม่ยอมสึก

    และเมื่ออภิชัยภิกษุไม่ยอมสึก เจ้าคณะจังหวัดจึงต้องบังคับ โดยให้ตำรวจจับเปลื้องผ้าเหลืองออกจากตัวท่าน จากนั้นก็ตามระเบียบ เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีอำนาจล้นเหลือในสมัยนั้น ก็สวมกุญแจมือท่าน แล้วคุมตัวไปโรงพักเสียคืนหนึ่ง


    วันรุ่งขึ้นเวลาบ่าย 4 โมงเย็น ก็ถูกส่งเข้าจองจำในเรือนจำของจังหวัดลำพูนในสมัยนั้นต่อไป ซึ่งในนั้นท่านต้องได้รับทุกข์เวทนาแสนสาหัส

    ท่านเล่าถึงชีวิตในคุกตอนนั้นว่า คุกในสมัยนั้นสุดแสนสกปรก ยังเป็นคุกไม้ พื้นปูกระดาน เวลานอนก็นอนทั้ง ๆ ที่ล่ามโซ่ โดยสอดร้อยกับนักโทษคนอื่น

    คือข้อเท้าทั้งสอง ล่ามโซ่ตรวน มีโซ่เส้นใหญ่ สอดร้อยลอดตะขอพ่วงกับนักโทษคนอื่นอีกที

    เรื่องจะนอนหลับสบายนั้นไม่ต้องพูดถึงเพราะพอล้มตัวนอน ฝูงเรือดนับเป็นร้อย ๆ ตัวอ้วนปี๋เป็นต้องรุมกัดดูดเลือดกิน ให้ยุบยิบไปหมด

    จะถ่ายหนักถ่ายเบา ก็ว่ากันตรงช่องกระดานตรงที่ใครที่มัน เรื่องกลิ่นเหม็นไม่ต้องห่วง คลุ้งไปหมด ตลบอบอวลทั้งเรือนจำทีเดียว

    ชีวิตประจำวันในห้องขังก็คือ พอ 7 โมงเช้า เปิดประตูห้องขัง ทำงานไม่ทันไร ถึงเวลา 8 นาฬิกา ผู้คุมเป่านกหวีดเลิกงาน ทานข้าว ซึ่งข้าวนี่ก็อย่าหวังว่าจะกินให้อิ่มหมีพีมัน และเอร็ดอร่อย


    ไม่มีทาง ข้าวกระติกเล็ก ๆ แกงถ้วยหนึ่ง ต้องกินถึง 4 คน พอหรือไม่พอกิน ก็มีให้เท่านั้น ซึ่งแน่ละเวลากินก็ใช้ความว่องไว ขืนมัวทำสำอาง ค่อยเปิบค่อยกิน เป็นต้องอด คนอื่นที่เขาไว

    กินเรียบหมด และกับข้าวแต่ละวันนั้นเลือกไม่ได้ จะมีจำพวกผักเสียแหละเป็นส่วนมาก เช่น ยอดฟักทอง ผักตำลึงเป็นต้น แกงใส่ปลาร้า ค้างปี

    เหม็นหืน หาความอร่อยไม่มีเลย ถ้าเทให้หมูกินยังสงสัยอยู่ว่ามันจะกินหรือไม่ ข้าวนึ่งที่ใช้รับประทานก็เป็นข้าวเก่า แข็งเหมือนกินก้อนกรวด เป็นข้าวแดงใช้แรงนักโทษนั่นเองช่วยกันตำ จึงดีอยู่หน่อยที่มีวิตามิน กินแล้วแรงดี

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan00241.jpg
      scan00241.jpg
      ขนาดไฟล์:
      26.7 KB
      เปิดดู:
      36
    • krubasee017.jpg
      krubasee017.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48 KB
      เปิดดู:
      37
    • 19_920.jpg
      19_920.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.5 KB
      เปิดดู:
      44
  15. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    ?temp_hash=733397cd16a795ee85d1ce7813ec726e.jpg
    สร้างโรงพยาบาล
    ท่านอภิชัยขาวปีทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุกไม่นาน ก็ได้ไปเห็นโรงพยาบาลจังหวัดลำพูนในสมัยนั้นชำรุดทรุดโทรมเหลือเกิน ท่านจึงแจ้งให้กับผู้บัญชาการเรือนจำ ๆ ก็ไปหารือกับผู้ว่าราชการจังหวัด ๆ ก็กลัวว่าจะสร้างไม่ทันเสร็จ เพราะท่านอภิชัยขาวปีติดคุกอยู่แค่ 6 เดือนเท่านั้น จึงไม่อนุญาต

    ท่านจึงถามว่า "ถ้าสร้างเหมาโรงพยาบาลนี้จะใช้งบประมาณเท่าไร อนึ่งถ้าสร้างภายใน 6 เดือนไม่เสร็จ เมื่อถึงคราวฉลองเมื่อไรก็จะร่วม"

    ทางจังหวัดก็บอกว่าถ้ามีเงินถึง 1,600 บาทก็สร้างได้ (ในสมัยนั้นมีค่ามาก) ท่านจึงออกเงินส่วนตัวมอบให้ทางจังหวัดเพื่อเป็นทุนสร้างโรงพยาบาลต่อไป เป็นจำนวนเงิน 1,600 บาท ซึ่งหลังจากได้รับทุนแล้วก็ดำเนินการก่อสร้างทันที

    และผลแห่งความดีนั้น ทางจังหวัดก็ส่งให้ทางเรือนจำ ส่งท่านให้ไปพำนักอยู่ในโรงพยาบาลหลังเก่า เพื่อเป็นกำลังใจในการทำงานสร้างโรงพยาบาล พร้อมกันนั้นก็ให้นักโทษชาย 2 คน มาอยู่ด้วยเพื่อปรนนิบัติ ทั้งอาหารการกินก็ถูกกำชับให้ทำอย่างดีและสะอาดเป็นพิเศษกว่านักโทษทั้งหลาย ท่านก็เลยพ้นจากการทรมานเพราะถูกเรือดยุงกัด

    นับจากนั้นมา การก่อสร้างก็รุดหน้าไปอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากบรรดาประชาชนทั้งหลายที่เลื่อมใสในตัวท่าน เมื่อทราบข่าวว่าท่านมาเป็นประธานในการก่อสร้างโรงพยาบาล ก็พากันมาช่วยและทำบุญด้วยอย่างคับคั่งและเงินที่ได้จากการบริจาคครั้งนั้น ยังได้ถึง 2,000 กว่าบาท เกินกว่าที่กำหนดไว้ถึงสี่ร้อยบาท


    ?temp_hash=733397cd16a795ee85d1ce7813ec726e.jpg
    วันพ้นโทษ

    ครั้นถึงเดือน 9 เหนือ แรม 2 ค่ำ ก็เป็นวันที่ท่านพ้นโทษตามคำพิพากษาครบ 6 เดือนและโรงพยาบาลก็แล้วเสร็จก่อนถึง 10 วัน ในวันที่จะออกจากคุกนั้น ท่านก็ได้ให้ทานแก่พวกนักโทษทั้งหลายเป็นขนมส้มหวานทั้งอาหารทั้งหลายอย่างเหลือเฟือ

    จนพวกเขาอิ่มหมีพีมันไปตามๆ กัน เพราะเมื่อถึงตอนที่ท่านยังถูกจองจำอยู่ในคุกนั้น ระยะหลังพวกนักโทษทั้งหลายก็อยู่กินสบายจากของไทยทานที่ประชาชนผู้เลื่อมใสมาถวายถึงในคุกเป็นประจำทุกวันอย่างมากมาย รวมความว่าผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในเรือนจำทั้งหมด ล้วนแล้วแต่ได้รับความสบายในด้านอาหารการกินไปตาม ๆ กัน

    ดังนั้นเมื่อถึงกำหนดพ้นโทษ วันนั้น นักโทษทั้งหลายต่างพากันปริเวทนา บ่นพร่ำว่า เมื่อท่านอออภิชัยขาวปีพ้นโทษไปแล้ว พวกเราทั้งหลายยังจะได้อยู่กินอิ่มอย่างนี้อีกหรือ แล้วพากันร่ำไห้ ด้วยความอาลัยรักในตัวท่านเสียงระงม เป็นภาพที่สะเทือนใจยิ่งนัก แม้ตัวท่านเองก็แทบกลั้นน้ำไว้ไม่อยู่

    พวกเขาพากันมารอที่ประตูคุกเป็นการส่งท่านด้วยใบหน้าที่นองไปด้วยน้ำตา และจากปากประตูคุกจนถึงวัดพระธาตุหริภุญชัยมีประมาณระยะทาง 70 วา ก็มีประชาชนมายืนเรียงรายถวายทานกับท่าน ซึ่งก็ได้เป็นเงินถึง 300 บาท พอดีกับเงินที่ซื้อของถวายทานให้แก่นักโทษ เหมือนกับเป็นการยืนยันว่า การทำบุญสุนทานนั้นไม่หายไปไหน

    เมื่อท่านเดินทางไปถึงประตูวัดพระธาตุหริภุญชัย ก็มีพระสงฆ์ 10 รูป มาสวดมนต์เป็นการลดเคราะห์สะเดาะภัยให้ แล้วให้ศีลให้พรให้อยู่ดีมีสุขสืบไป จากนั้นพอถึงเดือน 9 เหนือ แรม 4 ค่ำก็ร่วมฉลองโรงพยาบาลเป็นเวลา 3 วัน

    อุปสมบทครั้งที่ 2

    ในวันที่แล้วเสร็จงานฉลองสมโภช ท่านก็เดินทางไปนมัสการท่านอาจารย์ครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่วัดพระสิงห์ เชียงใหม่ ในครานั้นท่านครูบาศรีวิชัยจึงอุปสมบทท่านเป็นภิกษุอีก โดยมีครูบาแห่งวัดนั้นเป็นอุปัชฌาย์ หลังจากได้กลับมาสู่ร่ม

    กาสาวพัสตร์แล้ว ท่านอยู่จำพรรษากับครูบาศรีวิชัยได้ 1 พรรษาก็ลาอาจารย์จาริกสร้างสถานที่ต่าง ๆ ต่อไปอีกหลายแห่งทั้งวัดและโรงเรียน

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • _5_557.jpg
      _5_557.jpg
      ขนาดไฟล์:
      24.8 KB
      เปิดดู:
      41
    • CASX0LWF.jpg
      CASX0LWF.jpg
      ขนาดไฟล์:
      25.2 KB
      เปิดดู:
      42
  16. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    ถูกบังคับให้สึกและครองผ้าขาวครั้งที่ 1

    ?temp_hash=edb220b2d5b57a1d47957e390fcfcfa4.jpg

    ที่แม่ระมาดนี่เอง ก็มีเรื่องน่าเศร้าใจเกิดขึ้นอีก กล่าวคือ เมื่อสร้างพระวิหารเพื่อประดิษฐานพระหินอ่อนนั้น เงินไม่พอ ยังขาดอยู่อีก 700 บาท เป็นค่าทองคำเปลว 400 บาท กับค่านายช่างอีก 300 บาท

    ท่านก็ปรึกษาเรี่ยไรเอาจากชาวบ้านจนครบด้วยความเต็มใจของชาวบ้าน แล้วช่วยกันสร้างต่อ จนแล้วเสร็จทันฉลอง

    เมื่อเรื่องการเรี่ยไรนี้ทราบถึงอำเภอ จึงเรียกกำนันไปสอบสวนว่า อภิชัยภิกษุ เรี่ยไรจริงหรือไม่ กำนันก็รับว่าจริงแต่ด้วยความเต็มใจของชาวบ้าน เพราะถ้าไม่ทำอย่างนั้นงานสร้างโบสถ์ก็หยุดชะงัก ทางอำเภอก็ว่าเต็มใจหรือไม่ก็ผิดเพราะเป็นพระเป็นเจ้าจะทำการเรี่ยไรไม่ได้ ผิดระเบียบคณะสงฆ์

    แล้วรายงานเรื่องนี้ไปยังเจ้าคณะจังหวัดๆ จึงตัดสินว่าให้สึกพระอภิชัยเสีย ท่านจึงจำยอมสึกจากภาวะความเป็นภิกษุ ท่ามกลางความสลดหดหู่ของผู้คนที่รู้เห็นเป็นอันมาก ที่ท่านครูบาของพวกเขาต้องมารับกรรมเพราะทำความดี อย่างไม่ยุติธรรม

    ท่านต้องเปลี่ยนมานุ่งห่มแบบชีปะขาวอยู่ที่ใต้ต้นประดู่แห้งที่ยืนต้นตายซากมานานเป็นแรมปี ซึ่ง ณ ที่นี้ เองจึงเกิดเรื่องที่น่าอัศจรรย์สมควรจะบันทึกไว้คือ พอท่านเปลี่ยนผ้ากาสาวพัสตร์ออกจากกายมาครองผ้าขาวเท่านั้น ต้นประดู่ที่แห้งโกร๋นปราศจากใบนั้น

    ก็ผลิตดอกออกใบขึ้นมาอีก ท่ามกลางความอัศจรรย์ใจของบรรดาประชาชนที่ร่วมชุมนุมอยู่เป็นอันมาก ต่างพากันหลั่งน้ำตา ล้มตัวก้มลงกราบโดยพร้อมเพรียงกัน นับเป็นปรากฏการณ์ที่จะไม่เห็นอีกในชีวิต

    มารตามรังควาน

    ไม่นานจากนั้น ท่านพร้อมกับผู้ติดตาม ก็มุ่งกลับสู่อำเภอลี้ โดยรอนแรมมาเป็นระยะเวลา 10 วัน 10 คืน ก็เดินทางมาถึง อ.ลี้ พักอยู่ที่กลางทุ่งนาบ้านป่าหก ได้ 4 คืน นายอำเภอลี้ จึงให้ตำรวจมาขับไล่ไม่ให้อยู่โดยไม่มีเหตุผล ด้วยความใจดำเป็นอย่างยิ่ง ท่านจึงมาพักอยู่กลางทุ่งนาบ้านแม่ตืน ณ ที่นี้ก็ถูกทางอำเภอกลั่นแกล้งอีก โดยรายงานไปทางจังหวัดว่า ปะขาวปีนำปืนเถื่อนมาจากแม่สอดมาถึง 1,000 กระบอก

    หลังจากรับรายงาน จึงมีบัญชาให้นายร้อยตำรวจ 2 คนกับพระครู 2 รูป ขึ้นมาทำการตรวจค้นไต่สวน ท่านว่า "ไม่เป็นความจริงหรอก อาตมาเดินทางผ่านมาตั้ง 2 จังหวัดแล้ว ยังไม่เห็นมีใครกล่าวหาเช่นนี้เลย ถ้าท่านไม่เชื่อก็เชิญค้นดูเองเถิด"

    ตำรวจทั้งสองก็ค้นสัมภาระของคณะติดตามดู ก็พบปืนแก๊ป 1 กระบอก แต่ปรากฏว่าเป็นปืนมีทะเบียนของชาวบ้านผู้ติดตามคนหนึ่ง จึงไม่ว่าอะไร จากนั้นก็ไปค้นจนทั่ว ลามปามเข้าค้นถึงในวัดแม่ตืน จนพระเณรแตกตื่นเป็นโกลาหล แต่ก็ไม่พบอะไรอีก จึงพากันเดินทางกลับด้วยความผิดหวัง

    ก่อนกลับก็ไปต่อว่าต่อขานทางอำเภอลี้เสียจนหน้าม้าน หาว่าหลอกให้เดินทางมาเสียเวลาเปล่า เหนื่อยแทบตาย (เพราะสมัยนั้นไม่มีรถยนต์แม้แต่คันเดียว) ทางนายอำเภอจึงจำเป็นต้องออกค่าเดินทาง พร้อมเสบียงอาหารให้คณะนายตำรวจ ดังกล่าวเดินทางกลับ

    เสร็จจากเรื่องที่กล่าวหานั้นแล้ว ท่านพร้อมกับคณะก็เดินทางจากแม่ตืนเพื่อจะไปหาท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย ที่วัดพระนอนปูคา บ้านแม่ปูคา อำเภอสันกำแพง เชียงใหม่ ระหว่างทาง พักที่วัดห้วยกานคืนหนึ่ง เมื่อเข้าเขตกิ่งบ้านโฮ่ง ชาวบ้านก็พาตำรวจมาดักจับอีก ด้วยข้อหาอะไรไม่แจ้ง แต่ตำรวจก็จับไม่ไหวเพราะคนตั้งมากมาย ก็เลยไม่รู้จะทำอย่างไรจึงล่าถอยไป ท่านจึงไปพักที่วัดดงฤๅษีคืนหนึ่ง แล้วมุ่งไปทางบ้านหนองล่อง ณ ที่นี้ก็ถูกคณะข้าหลวงดักจับอีก แต่ก็จับไม่ไหวอีกเช่นกัน


    แต่ด้วยวิญญาณของนักพัฒนา ท่านก็อยู่จำพรรษาที่พระบาทตะเมาะไม่นาน ขณะนั้นครูบาศรีวิชัยกำลังสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เชียงใหม่อยู่ ซึ่งครูบาศรีวิชัย ได้กำหนดฤกษ์ที่จะลงมือขุดจอบแรกสำหรับการสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477 ท่านจึงพากะเหรี่ยง 500 คน ขึ้นไปช่วยทำถนนขึ้นดอยสุเทพร่วมกับอาจารย์จนแล้วเสร็จ ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2478 จึงกลับลงมาพักกับอาจารย์ที่วัดพระสิงห์


    ช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ
    แต่ด้วยวิญญาณของนักพัฒนา ท่านก็อยู่จำพรรษาที่พระบาทตะเมาะไม่นาน ขณะนั้นครูบาศรีวิชัยกำลังสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ เชียงใหม่อยู่ ซึ่งครูบาศรีวิชัย ได้กำหนดฤกษ์ที่จะลงมือขุดจอบแรกสำหรับการสร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ ในวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2477 ท่านจึงพากะเหรี่ยง 500 คน ขึ้นไปช่วยทำถนนขึ้นดอยสุเทพร่วมกับอาจารย์จนแล้วเสร็จ ในวันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2478 จึงกลับลงมาพักกับอาจารย์ที่วัดพระสิงห์
    ?temp_hash=0ae6fdc0d16cacec4c15ff450261edb2.jpg
    ครูบาศรีวิชัย (นั่งด้านหลังรถ มีร่มกั้น) และเจ้าแก้วนวรัฐ (เสื้อขาวนั่งด้านหน้ารถ) ถ่ายที่หน้า
    บันไดนาคเมื่อครั้งเปิดใช้ถนนขึ้นพระธาตุดอยสุเทพเป็นปฐมฤกษ์ ๓๐ เมษายน ๒๔๗๘
    ครูบาขาวปี ยืนอยู่ด้านหน้ารถในชุดขาวถือพัดใบตาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2017
  17. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    ?temp_hash=a432ac624598e6f7772645bd020094db.jpg
    ครูบาขาวปี และ ครูบาศรีวิชัย

    อุปสมบทครั้งที่ 3

    ที่วัดพระสิงห์นี้ ท่านครูบาศรีวิชัยก็อุปสมบทให้ท่านเป็นภิกษุอีกเป็นครั้งที่ 3 แต่กระนั้นก็ตาม ดูเหมือนว่าท่านไม่มีบุญพอที่จะอยู่ในผ้าเหลืองได้นาน ๆ พอท่านครูบาศรีวิชัยก็เกิดคดีต่าง ๆ นานา ต้องเดินทางไปกรุงเทพฯ ในเดือน พฤศจิกายน พ.ศ. 2478 คงทิ้งให้ท่านอยู่รักษาวัดพระสิงห์แต่เพียงผู้เดียว



    ?temp_hash=a432ac624598e6f7772645bd020094db.jpg
    ครองผ้าขาวครั้งที่ 3
    ด้วยจิตใจที่เป็นห่วงในตัวอาจารย์ของท่านยิ่งนัก แล้วก็มีมารมาผจญอีกจนได้เมื่อ มหาสุดใจ วัดเกตุการามกับท่านพระครูวัดพันอ้นรูปหนึ่งมาหลอกให้ท่านสึกเสีย เพราะมิฉะนั้น ท่านจะเอาครูบาศรีวิชัยจำคุก ท่านจึงสึกเป็นชีปะขาวอีกครั้งหนึ่ง นับเป็นครั้งสุดท้าย แล้วออกจากวัดพระสิงห์กลับไปพักที่วัดบ้านปางด้วยความเหงาใจ แต่ท่านก็ไม่ละทิ้งงานก่อสร้าง จึงได้สร้างกุฏิที่วัดบ้านปางอีก 1 หลัง แล้วกลับไปอยู่ที่พระบาทตะเมาะตามเดิม


    ?temp_hash=a432ac624598e6f7772645bd020094db.jpg

    สูญเสียอาจารย์
    ชีวิตท่านช่วงนี้ คงมุ่งอยู่กับงานก่อสร้างไม่หยุดหย่อน จากที่นี่ย้ายไปที่นั่นไม่มีที่สิ้นสุด จนกระทั่งครูบาศรีวิชัยพ้นจากมลทินที่ถูกกล่าวหา ท่ามกลางความดีใจของสาธุชนทั้งหลาย แต่ความดีใจนั้นคงมีอยู่ได้ไม่นานท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยก็ได้อาพาธหนัก แล้วถึงแก่มรณภาพลงในที่สุด ในเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2481 ยังความโศกาอาดูรให้เกิดแก่มหาชนผู้เลื่อมใสโดยทั่วไป


    ลานนาไทยได้สูญเสียนักบุญผู้ยิ่งใหญ่ไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ หากจะเอาเสียงร่ำไห้มารวมกันแล้วไซร้เสียงแห่งความวิปโยคนี้คงได้ยินไปถึงสวรรค์ ท่านเองในฐานะที่เป็นลูกศิษย์ที่ท่านอาจารย์ได้พร่ำสอนตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ก็มีความเศร้าโศกเสียใจมิใช่น้อย แต่ก็ปลงได้ด้วยธรรมสังเวชโดยอารมณ์กัมมัฏฐาน แล้วทำทุกอย่างในฐานะศิษย์จะพึงมีต่ออาจารย์ด้วยกตเวทิตาธรรม

    ท่านจึงสร้างเมรุหลังหนึ่งกับปราสาทหลังหนึ่งพร้อมหีบบรรจุศพ เพื่อเก็บไว้รอการฌาปนกิจต่อไปที่วัดบ้านปาง ซึ่งได้มีการฌาปนกิจศพท่านครูบาศรีวิชัยอีก 8 ปีต่อมาหลังจากมรณภาพ ณ เมรุที่ได้สร้างขึ้นที่วัดจามเทวี จังหวัดลำพูน ในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2489


    ?temp_hash=a432ac624598e6f7772645bd020094db.jpg
    ครูบาดวงดี สุภัทฺโท

    หลังจากงานถวายเพลิงปลงศพท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยเสร็จแล้วในปี 2489 นั้น ท่านได้เชิญอัฐิธาตุของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยส่วนที่เป็นกะโหลกเท่าหัวแม่มือส่วนหนึ่งมาด้วย และครูบาดวงดี สุภัทฺโท ซึ่งขณะนั้นอายุได้ 32 ปีและได้ติดตามท่านมาตั้งแต่ครูบาเจ้าศรีวิชัยมรณภาพไป

    นำมาเก็บรักษาสักการบูชาจนถึงทุกวันนี้ จากนั้นท่านก็มาสร้างอนุสาวรีย์บรรจุอัฐิธาตุของท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยทั้งที่วัดสวนดอกและวัดหมื่นสาร โดยครูบาดวงดี สุภัทฺโทได้อยู่ช่วยท่านจนเสร็จงานดังกล่าว

    ในปัจฉิมวัย

    ?temp_hash=a432ac624598e6f7772645bd020094db.jpg
    นั้นเป็นวันที่ 2 มีนาคม 2520 ตอนนั้น ท่านเหนื่อยอ่อนมากแล้ว ท่านได้บอกผู้ใกล้ชิดว่าท่านอยากกลับอารามผาหนาม เหมือนดั่งจะรู้ตัวของท่านว่าไม่มีเวลาในการโปรดที่ไหนอีกต่อไปแล้ว แต่จะมีใครล่วงรู้ถึงข้อนี้ก็หาไม่ คงพาท่านมุ่งสู่สุโขทัยอีกต่อไป และเมื่อถึงวัดท่าต้นธงชัย ได้เพียงวันเดียว ในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2520 ซึ่งตรงกับเดือน 6 เหนือ แรม 14 ค่ำ เวลา 16.00 น. ท่านได้จากไปอย่างสงบ

    ข่าวการจากไปของท่านกระจายไปอย่างรวดเร็วทั่วประเทศ ทุกคนตกตะลึง ต่างพากันช็อกไปชั่วขณะมันเหมือนสายฟ้าที่ฟาดเปรี้ยงลงบนกลางใจของทุกคน ที่เลื่อมใสเคารพรักในตัวท่าน แล้วจากนั้น เสียงร่ำไห้ก็ระงมไปทุกมุมเมืองพวกเขาได้สูญเสียร่มโพธิ์แก้วอันร่มเย็นไพศาลไปแล้วอย่างไม่มีวันกลับ ตั้งแต่นี้จะหาครูบาเจ้าที่มีความเมตตาอันหาของเขตมิได้และยิ่งใหญ่ปานนี้


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.dharma-gateway.com/monk/monk_biography/kb-kaopee/kb-kaopee-hist-01.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. sa_nakorn

    sa_nakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +1,102
    ได้รับพระผงจักรพรรดิ์ (ผงกรรมฐาน) แล้วครับ

    ขอบพระคุณ อาจารย์ ที่มอบมาให้ครับ
     
  19. Lo_olLo

    Lo_olLo เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,728
    ค่าพลัง:
    +11,569
    รายการที่ 153
    (เนื่องจากมีสมาชิกหลายท่านสอบถามเข้ามาจำนวนมาก หลังจากที่เคยออกให้บูชาไปครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้เลยลงให้บูชาสำหรับท่านที่ยังไม่มีบูชาอรก 1 องค์ครับ)

    ?temp_hash=603618368a644d989a3a7b03420771f5.jpg

    รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เนื้อนวะลงดำ สภาพสวยมากๆ(สภาพเดิมจากวัดครับ) รุ่นนี้ถือเป็นรูปหล่อรุ่นแรกของท่าน ออกเมื่อปี 2517

    ?temp_hash=b495a9cd26d87ec6d832c4a85d0f771a.jpg
    โดยจัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ ณ วัดป่าโคมน โดยได้รับความเมตตา หลวงปู่ชอบ ฐานสโม เมตตาอธิษฐานจิตในพิธี และ หลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ จุดเทียนชัย พุทธาภิเษก ในงานนี้ครับ....

    ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่ปี พ.ศ. สร้างลึก และเป็นรุ่นแรกๆ ของท่านที่มีการอนุญาตให้จัดสร้าง และเป็นรุ่นที่มีประสบการณ์คือ เมื่อหลายปีก่อน สะพานแถวๆอำเภอวังสะพุงได้ ทรุดตัวลง ทำให้รถที่กำลังขับผ่านอยุ่นั้น ตกลงจากสะพานด้วย และถูกเศษปูนจากสะพานทับลงอีกที

    แต่เจ้าของรถ กลับไม่เป็นอะไรเลย แต่สภาพรถนั้นพังยับเยินเลยก็ว่าได้ ในก็คอก็มีรุ่นนี้ละครับ ที่ติดตัวอยู่ในเวลานั้น(อันนี้ลงข่าวเมืองเลยเมื่อหลายสิบปีก่อนครับ)

    ?temp_hash=ac7270a6b04f063184755853788fdd1c.jpg

    ใต้ฐานอุดกริ่ง องค์นี้ องค์จริงสภาพสวยระดับแช่มเลยครับรมดำเดิมๆผิดแทบไม่เปิด

    1200
    (จริงๆรุ่นนี้ในพื้นที่ถ้าสวยๆ กล่าวกันถึง 3000Up เลยนะครับหนังสือบางเล่มก็ลงราคานี้ครับ อันนี้ผมเก่าเก็บ และมาแบ่งปันให้ท่านสมาชิกที่ยังไม่มีได้บูชากันครับ)

    "รายการนี้ขออนุญาตสงวนให้เฉพาะท่านที่ยังไม่มี ได้บูชากันนะครับ ขอบคุณมากครับ"
    จอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กรกฎาคม 2017
  20. อาทิตย์03

    อาทิตย์03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2015
    โพสต์:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +771
    จองรายการ 153 ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...