การมาของบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่จะช่วยค้ำพระพุทธศาสนา

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Rama bodhisattva, 15 ตุลาคม 2017.

  1. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    ในบทที่ ๑๐ วิธีสร้างทิพยอำนาจ ทิพพจักขุ ตาทิพย์ ได้กล่าวถึง ทิพพจักขุ การเห็นอนาคต เช่น ทิพพจักขุญาณของ พระมหาโมคคัลลีบุตรติสสเถระ และคำทำนายโบราณอนาคตของพุทธศาสนา ได้คัดลอกบางส่วน มาด้านล่าง



    คำทำนายโบราณชิ้นหนึ่งได้เป็นที่ตื่นเต้นสนใจกัน เมื่อประมาณ ๑๐ กว่าปีมานี้มีว่า เมื่อพระพุทธศาสนาถึงกึ่ง ๕,๐๐๐ ปีนับแต่พุทธปรินิพพานมา พระพุทธศาสนาจะกลับเจริญรุ่งเรืองถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล

    พระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภิสมภาร มีอิทธาภินิ-หาร เชี่ยวชาญทางอภิญญาในสุวรรณภูมิ จะได้เป็นประธานาธิบดีสงฆ์ ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปยังนานาประเทศ เริ่มต้นที่อินเดีย ไปยุโรปและอเมริกา

    ประชาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนามากมาย คนทั้งหลายจะนิยมในการฝึกฝนอบรมจิตใจในทางพระพุทธศาสนา ประเทศชาติบ้านเมืองก็จะร่มเย็นเป็นสุข ด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนาดังนี้



    บัดนี้ก็จวนจะถึงสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาแล้ว เงาเจริญแห่งพระพุทธศาสนาเริ่มปรากฏแล้ว ชาวอัศดงคตประเทศกำลังหันมาสนใจในพระพุทธศาสนามากขึ้น แต่ใครเป็นตัวการตามทำนายนั้น ยังมิได้เป็นที่ปรากฏแก่วงการพระพุทธศาสนา ขอให้คอยดูต่อไปว่าจะจริงเท็จแค่ไหน ถ้าคำทำนายเป็นจริงขึ้นก็แปลว่า ชาวพุทธผู้ให้คำทำนายไว้นั้นมีทิพพจักขุวิเศษที่สุดได้แน่ๆ ทีเดียว และตัวการในคำทำนายนั้น จะเป็นบุคคลที่น่าอัศจรรย์ที่สุดของโลกสมัยใหม่ด้วย.

    (คัดลอกมาอีกส่วนหนึ่ง)

    เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) เมื่อไปสร้างวัดเขาพระงาม ที่จังหวัดลพบุรี สร้างพระพุทธรูปไว้บนไหล่เขา ให้นามพระว่ากึ่งยุค คือ ท่านคิดว่าในสมัยกึ่งพระพุทธศาสนานั้น พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองคล้ายกับสมัยพุทธกาล

    ท่านพิจารณาดูชีวิตของท่านจะไม่ได้อยู่เห็นสมัยนั้น แต่คิดอยากทำอะไรไว้เป็นที่ระลึกสำหรับกึ่งยุคบ้าง จึงคิดคำนวณนับแต่วันตรัสรู้มาจนถึงเวลาที่ท่านสร้างพระพุทธรูปใหญ่นั้นครบ ๒,๕๐๐ ปีพอดี จึงได้จัดการฉลองและขนานพระนามพระพุทธรูปนั้นว่า พระกึ่งยุค ในคราวมีงานฉลองวัดและพระพุทธรูปใหญ่นั้น มีผู้ต่อว่าท่านว่า มาสร้างวัดไว้ในป่าในดงใหญ่โต ต่อไปจะมีใครมาดูแลรักษา ทำเสียเงินเสียทองไปเปล่าๆ

    ท่านจึงกล่าวตอบเป็นคำทำนายว่า ต่อไปไม่นานสถานที่นี้จะมีบ้านเมืองคนอยู่เต็ม มีไฟฟ้าใช้สว่างไสวทั่วไปแม้กระทั่งในวัดนี้ ดังนี้ บัดนี้เหตุการณ์ก็เป็นจริงดังที่ท่านทำนายไว้ทุกประการ

    (คัดลอกมาอีกส่วนหนึ่ง)

    มีคำทำนายว่าสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาจะมีขึ้นถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล จะมีผู้บรรลุมรรคผลนิพพานถึงภูมิพระอรหันต์ เชี่ยวชาญทางอภิญญา และพระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภินิหารในสุวรรณภูมิจะได้รับเกียรติเป็นประธานาธิบดีสงฆ์สากล จะทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ตั้งต้นที่อินเดียไปยุโรปและอเมริกา มหาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก

    โลกจะร่มเย็นเป็นสุขด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนา ดังนี้

    ข้าพเจ้าได้เรียนถามพระอาจารย์ภูริทัตตเถระ (มั่น) ว่าคำทำนายโบราณนี้จะเป็นจริงไหม ท่านว่า เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) บอกว่าจริง เมื่อข้าพเจ้าถามถึงความเห็นเฉพาะตัวของท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นจริง เวลานี้ก็จวนถึงแล้ว เราคอยดูต่อไป.

    ที่มา หนังสืออำนาจทิพย์


     
  2. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    สืบเนื่องมาจากครั้งหนึ่ง ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ท่านฤาษีสันตจิต(ลูกศิษย์ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์เป็นพระอริยคุณาธาร ปุสฺโส เส็ง และเป็นผู้ตรวจการผู้ช่วยภาค ๔ ท่านมีธุระที่ต้องเดินทางไปยังนครจำปาศักดิ์ ซึ่งเมื่อก่อนยังเป็นดินแดนของไทย แต่ปัจจุบันอยู่ในเขตประเทศลาว หลังจากที่ท่านเสร็จธุระแล้ว พร้อมกับถือโอกาสพักอยู่ที่นั่น 1 เดือน วันหนึ่งท่านมีโอกาสได้สนทนาธรรมกับเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับวิปัสสนาธุระ และความเป็นไปของพระสงฆ์ที่นั่นที่มีการปฏิบัติย่อหย่อน ซึ่งพระอริยคุณาธาร ปุสฺโส เส็ง ก็ได้แนะวิธีตรวจสอบพระอรหันต์หรือบุคคลที่แอบอ้างว่าตนเองสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้วตามวิธีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยวิธีพระปรมาภิเษก ซึ่งพระพุทธองค์มักใช้วิธีละมุนละไมนี้กับพระสาวกทุกองค์ แม้แต่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านก็เคยทดสอบตัวท่านเองและคณะศิษย์ของท่านมาแล้วหลายองค์ ด้วยวิธีของพระพุทธองค์ 5 วิธี คือ


    1.ประเภทยอ พระองค์จะทรงสรรเสริญบุคคลที่สำคัญตนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ว่า มีคุณธรรมอย่างนั้นอย่างนี้เท่าที่มีจริงตามจริง จะทรงเปรียบเทียบว่าดีกว่าผู้นั้นผู้นี้ หรือดีกว่าใครๆ เพื่อจะหยั่งดูจิตใจว่า เขายินดีในคำสรรเสริญหรือไม่

    2.ประเภทยวน จะทรงเนรมิตภาพวิสภาคารมณ์(อารมณ์ที่ทำให้เกิดกำหนัด) มาให้เห็นหรือทรงดนตรีโลกุตระให้ฟัง เพื่อหยั่งดูว่าจะกำหนัดยินดีในวิสภาคารมณ์ หรือเสียงดนตรีหรือไม่

    3.ประเภทยั่วโทสะ จะทรงเนรมิตภาพศัตรูคู่เวรให้ปรากฏและทำการยั่วโทสะด้วยประการต่างๆ เพื่อหยั่งดูว่า จะมีโทสะหรือไม่

    4.ประเภทหลอก จะทรงเนรมิตภาพบุคคลเจ้าทิฐิมาถามปัญหาธรรมที่สุขุมคัมภีรภาพ หรือพูดแนะนำในทางปฏิบัติ ซึ่งเป็นปัญหา เพื่อหยั่งดูภูมิปัญญาว่า จะรู้จักเหตุผลเพียงไร

    5.ประเภทขู่ จะทรงเนรมิต ภาพบุคคลผู้มีอำนาจเหนือมาขู่ว่ามีความผิดร้ายแรงเป็นชนิดอุกฤษฎ์ มหันตโทษจะต้องประหารชีวิตแล้วทำการประหาร เพื่อหยั่งดูว่า จะเกิดความหวาดสะดุ้ง มีความอาลัยในชีวิตหรือไม่

    หลังจากสนทนากับเจ้าคณะจังหวัดมาถึงช่วงนี้ พระพรหมนารอด(นารกะ)ก็มาปรากฏองค์ในลักษณะทรงเจ้าคณะจังหวัด อย่างไม่คาดฝัน ท่านว่า “ข้าพเจ้าพระพรหมเป็นผู้ทำนาย มิใช่เจ้าคณะจังหวัด ข้าพเจ้ารู้จักคัมภีร์บ้าง รู้ด้วยตนเองบ้าง จึงทำนายให้ฟังเรื่องพระพุทธศาสนาเพื่อให้ท่านได้สังเกตการณ์ต่อไป” พร้อมกับกล่าวต่อไปว่า “เรามิใช่พุทธศาสนิกชนแต่เป็นฤาษีชีไพร สำเร็จณานสมาบัติ(เป็นผู้มุ่งดี) ตายแล้วได้อุบัติในพรหมโลก ไม่เป็นปฏิปักษ์กัน

    ฉะนั้นข้าพเจ้าสนใจในบวรพระพุทธศาสนาและได้สนับสนุนเสมอมา ข้าพเจ้าห่วงใยภัยอันตรายในพระศาสนา ในท่ามกลางอายุพระพุทธศาสนา จะมีภิกษุอลัชชีใจบาปนำลัทธิลามกเข้ามาแทรกปะปน ด้วยเห็นแก่ลาภสักการะ และยศศักดิ์เอากิเลสมาเป็นบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา จะลุกลามไปตามอารามต่างๆทำให้พระภิกษุที่ดีต้องเดือดร้อนระส่ำระสาย พลอยแปดเปื้อนมลทินไปด้วย เหล่าภิกษุอลัชชีจักกล่าวร้ายป้ายสีพระภิกษุดีๆด้วยประการต่างๆนานา เพื่อทำลายศรัทธาของสาธุชน แต่ด้วยบาปอกุศลบันดาลเขาจักทำการอันน่าบัดสียิ่งขึ้น จนประชาชนรู้ทันกลมารยาของเขาจักนั้นเขาจะพินาศไปตามๆกัน

    ที่นั้นจักมีพระภิกษุผู้วิเศษรู้เหตุการณ์ดีมีความรู้เชี่ยวชาญทางอภิญญา ชำระสะสางพระภิกษุอลัชชีออกจากคณะสงฆ์ทำให้คณะสงฆ์บริสุทธิ์สะอาดปราศจากคนชั่วปะปน พระพุทธศาสนาจักเจริญรุ่งเรืองและแผ่ไพศาลมากจนถึงนานาประเทศอย่างกว้างขวาง จักมีผู้เข้ามาทำนุบำรุงฟื้นฟูไปจนถึงอายุของพระพุทธศาสนา ซึ่งมีกำหนด ๕,๐๐๐พระวัสสะ”

    พระอริยคุณาธาร ท่านสงสัยจึงถามไปว่า “พระภิกษุผู้วิเศษนั้นเป็นใคร”

    พระพรหมนารอดไม่ยอมตอบชื่อเพียงแต่กล่าวเป็นนัยว่า “ผู้ใดรู้จักเห็นพระพุทธเจ้าได้ ผู้นั้นเป็นผู้วิเศษ ท่านผู้นั้นรู้เหตุการณ์ดีกว่าใครๆในยุคเดียวกัน”

    (คำทำนายนี้มีมาเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ณ นครจำปาศักดิ์) จากนิตยสาร
    โลกทิพย์ ฉบับที่ ๒๕ ปีที่ ๓ เดือนมกราคม(ฉบับหลัง) พ.ศ.๒๕๒๗ หน้า ๑๐๕-๑๐๗

     
  3. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    *พุทธทำนายเรื่องภัยพิบัติครั้งใหญ่ที่สุดที่กำลังจะมาถึงในยุคนี้*
    (ลอกจากศิลาจารึกในมหาวิหารเจตมหาเชตวัน ณ สวนมฤคทายวัน ประเทศอินเดีย โดยคณะฑูตไทยที่ไปอันเชิญพระบรมสารีริกธาตุเมื่อปี พ.ศ.2485)

    อานันทะ ดูก่อนอานนท์ หลังกึ่งพุทธกาล (ซึ่งก็คือช่วงหลัง พ.ศ. 2,500 เป็นต้นไป) จะมีความร้ายแรงมากกว่าก่อนกึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ซี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไปฝ่ายละครึ่งจึงเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกัน แต่ไม่ร้ายแรงนัก


    เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย 2,500 ปี เป็นต้นไป (ซึ่งก็คือช่วงหลัง พ.ศ. 2,500เป็นต้นไป) ไฟจะรุกรามมาทางทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยาก ยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็นเพลิงผลาญ เหล็กกล้าจะทะยานจากน้ำ มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลนทั่วแคล้นจะอดอยาก ผีโขมด ป่าจะเข้าเมือง ระเสื้อเมือง ทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาท โลก ดินฟ้าอากาศ
    จะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเลโลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัท ไม่ต้องอยู่ในศีลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบ สอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศีลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใครเคารพยำเกรง

    พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราชโพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์
    ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง 5,000 พระวัสสา

    ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อยมาก คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ
    นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล 5 ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดดรู้จักพอ
    ไม่โป้ปดคตโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคตให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตราย

     
  4. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    10.70
    Long awaited he will never return
    In Europe, he will appear in Asia.
    One of the league issued from the great Hermes,
    And he will grow over all the Kings of the East.

    อ่านจากภาษาอังกฤษบทนี้จะแปลได้ว่า

    "ผู้ที่ถูกรอคอยมานาน จะไม่กลับมา

    ในดินแดนยุโรป (แต่)เขาจะปรากฏในเอเชีย

    ผู้หนึ่งในกลุ่มศิษย์สาวกของเทพแห่งสติปัญญา

    และเขาจะยิ่งใหญ่เสมือนจักรพรรดิ์แห่งตะวันออก"


    ในโคลงที่ 70 ของเล่มที่ 10 นี้ มีการแปลที่เป็นภาษาอังกฤษในลักษณะ

    ที่ยื้อกันอยู่ว่า ผู้นำใหม่นี้ จะเป็นคนเอเชียหรือยุโรปกันแน่

    เพราะบางที่ก็ถอดภาษาฝรั่งเศสมาเป็น

    "Long awaited he will never return
    In Europe, he will appear in Asia." ไม่มาในยุโรป

    "he will appear in asia at home in europe" มีบ้านในยุโรป

    "he will appear in asia at home in europe lace" มีบ้านแบบยุโรป

    แต่ผมคิดว่าแบบที่หนึ่งน่าจะถูกมากกว่า

    ส่วนคำว่า Hermes นั้น นอสตราดามุสน่าจะต้องการสื่อให้ชัด

    Hermes คือ เทพแห่งสติปัญญาของชาวกรีก และอยู่ทางตะวันออก

    ย่อมไม่พ้นพระพุทธเจ้า และผู้นี้ย่อมเป็นพระสงฆ์ค่อนข้างแน่


    โคลงที่ 29 ของเล่มที่ 2

    "The man from the East will come out of his seat,
    Passing across the Apentines to see France,
    He will fly through the sky, the rains and snows,
    And strike everyone with the rod."
    อีกคำแปลหนึ่ง

    "The Easterner will leave his seat,
    To pass the Apennine mountains to see Gaul.
    He will transpire the sky, the waters and the snow,
    And everyone will be struck with his rod."

    "บุรุษจากตะวันออกจะลุกออกจากที่ประทับ
    เดินทางผ่าน(เทือกเขา) อาเพนไนส์เข้าสู่ฝรั่งเศส
    เขาจะบินมาบนท้องฟ้า ฝ่าสายฝน และหิมะ
    และตีกระทบด้วยไม้วิเศษ"


    ถ้าพูดตามความรู้สึกแล้ว บทนี้

    น่าจะหมายถึง ติช นัท ฮันท์หรือไม่

    ที่เดินทางออกจากเวียดนามไปตั้งถิ่นฐานในหมู่บ้านพลัม

    แต่ไม่รู้ว่า ท่านติช นัท ฮันท์ ถือไม้ชี้ หรือไม้อะไรหรือไม่


    ส่วน rod นี้ จะเป็นอะไรไม่ว่า ตาลปัตร ไม้ชี้ หรือไม้ตีหัวของ

    หลวงพ่อคูณ ก็คงจะไม่ทราบได้

    โคลงที่ 31 เล่มที่ 3

    The moon in the middle of the night…
    The young sage alone with his mind has seen it.
    His disciples invite him to become immortal…
    His body in the fire…"
    "ดวงจันทร์ลอยเด่นยามราตรี…
    หนุ่มคงแก่เรียนผู้สันโดษมองเห็นภาพในดวงจิต
    เหล่าสาวกจะอัญเชิญท่านไปสู่ความเป็นอมตะ
    ร่างของท่านอยู่ในเพลิง"


    อีกคำแปลหนึ่ง

    The Moon in the full of night over the high mountain,
    The new sage with a lone brain sees it.
    By his disciples invited to be immortal,
    Eyes to the south. Hands in bosoms, bodies in the fire.
    คืนวันพระจันทร์เต็มดวงลอยเหนือภูเขาสูง
    หนุ่มสันโดษคงแก่เรียนใช้จิตในการมอง
    ถูกทำให้เป็นอมตะโดยศิษย์สาวกของเขา
    ตามองต่ำ มือทั้งสองที่กลางอก และร่างในเพลิง

    ไม่ว่าจะตีความอย่างไรก็คือ พระสงฆ์เป็นแน่แท้

    โคลงที่ 28 เล่มที่ 2

    "Second to the last of the prophet’s name,
    Will take Diana’s day(The moon’s day) as his day of silent rest…
    He will travel far and wide in his drive to infuriate,
    delivering a great people from subjection."
    พยางค์ที่สองของนามศาสดาพยากรณ์
    จะใช้วันแห่งพระจันทร์เป็นวันสำหรับพักในความเงียบ
    เขาจะเดินทางกว้างและไกล ส่งแรงขับทำให้ผู้คนสะดุดใจ
    และนำพามหาชนให้หลุดพ้นจากความเป็นข้า(ของบ่วงกรรม?)"

    อวิชชา


    โคลงที่ 96 เล่มที่ 5

    เป็นคำทำนายของศรัทธาใหม่ที่ศาสนาอื่น ไม่กล้ายกไปตีความ

    "They see the truth with eye closed,
    Speak the fact with closed mount…
    Then at the time of need the awaited one will come late…"

    "พวกเขาเห็นสัจจธรรมด้วยดวงตาที่ปิด…
    เปล่งสัจจวาจาด้วยปากที่ปิดแน่น…
    บุคคลอันเป็นที่พึ่งยามต้องการจะมาถึงช้า …

    เนื้อหาอาจจะยังไม่ครบถ้วน หาอ่านเพิ่มเติมได้ครับ
     
  5. Rama bodhisattva

    Rama bodhisattva Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2016
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +63
    หลวงปู่ขาวท่านได้กล่าวว่า "ในสมัยเฮาอยู่กับหลวงปู่มั่น หลวงปู่มั่นเคยประกาศให้คณะสงฆ์ทั้งหลาย ได้รับรู้ไว้ว่า เมื่อเราได้ตายไปแล้ว จะมีช้างเผือกหนุ่มตัวหนึ่ง เหาะไปมา แสดงอภินิหาร ให้คนทั้งหลายได้รู้เห็นในความสามารถต่างๆ มากมาย พระเถระทั้งหลายได้ฟังแล้ว ก็มีความเข้าใจความหมายว่า ในยุคต่อไป จะมีพระอรหันต์หนุ่มเกิดขึ้น จะได้แสดงความรู้ึความสามารถ เผยแผ่ธรรมให้คนทั้งหลายได้รับรู้ความจริงในสัจธรรม จะมีผู้ปฏิบัติตามได้รับผลมากทีเดียว"


    ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ขาวว่า ขอโอกาสหลวงปู่ ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง หลวงปู่ก็พูดว่า

    "เกิดขึ้นแล้ว"


    ข้าพเจ้าก็ถามหลวงปู่ต่อไปว่า ช้างเผือกหนุ่มนั้นอยู่ที่ไหน กระผมอยากรู้ อยากไปกราบท่าน หลวงปู่ยิ้มๆแล้วพูดว่า "ไม่บอก หาเอาเองแล้วกัน" เรื่องช้างเผือกหนุ่มนั้น พระอาจารย์วัน อุตฺตโม และพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ ก็เคยพูดในเรื่องช้างเผือกหนุ่มนี้ให้ข้าพเจ้าฟังเช่นกัน เมื่อถามท่านว่าเป็นอาจารย์องค์ใด ท่านก็ไม่บอกเช่นกัน

    หากมีคำถามข้าพเจ้าว่า ช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นเกิดขึ้นหรือยัง ข้าพเจ้าก็จะตอบว่าเกิดขึ้นแล้วเช่นกัน แต่ไม่รู้ว่าช้างเผือกเชือกนั้นอยู่ที่ไหน หรือท่านอาจจะเห็นอยู่แ่ต่ไม่รู้ว่าเป็นช้างเผือก เพราะช้างเผือกนั้นอาจใช้สีดำทาเพื่ออำพรางตัวเอาไว้จึงไม่มีใครรู้ ขอให้พวกเราค้นหาช้างเผือกหนุ่มนั้นให้พบ เมื่อพบแล้ว กรุณามาบอกข้าพเจ้าก็แล้วกัน เพื่อจะได้ไปกราบคารวะและฟังธรรมจากช้างเผือกหนุ่มเชือกนั้นให้สมใจ การทำนายของหลวงปู่มั่นนั้น หลวงปู่ขาวพูดว่า "มีความแม่นยำมาก พูดคำใดคำนั้น เพราะหลวงปู่มั่นมีความชำนาญด้วยญาณ อตีตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอดีตที่ผ่านมาแล้ว อนาคตังสญาณ ท่านรู้ในเรื่องอนาคต"



    อภินิหาร ๓ อย่าง

    ที่หลวงปู่มั่นว่าช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หลายคนอาจตีความหมาย ไม่ตรงตามหลวงปู่มั่นก็อาจเป็นได้ เพราะคนส่วนใหญ่ได้อ่านในตำรา หรือได้ฟังจากครูอาจารย์มามากว่า อภินิหารต้องเป็นผู้มีฤทธิ์ สามารถดำดินเหาะเหินไปบนอากาศได้ เช่นได้อ่านเรื่องอภิญญา มีจักขุญาณ มีญาณทางตาที่เรียกว่าตาทิพย์ กำหนดจิตให้เห็นรูปเทวดา นรก และสิ่งอื่นๆได้ โสตญาณ มีญาณทางหู เรียกว่าหูทิพย์ กำหนดจิตฟังเสียงในหมู่เทวดาและสัตว์นรก และกำหนดฟังเสียงอื่นๆได้ เจโตปริยญาณ เป็นญาณรู้ทางใจ กำหนดจิตรู้ในความคิดความเห็นของคนอื่นได้ มโนมอิทธิญาณ เป็นฤทธิ์ทางใจ กำหนดจิตให้เป็นนั่นเป็นนี่ หรือเป็นหลายคนได้ อิืทธิวิธี เป็นอภินิหารทางใจ สามารถเหาะเหินไปมาที่ไหนได้ คนส่วนใหญ่จะมาเข้าใจว่า อภินิหารต้องเป็นอย่างนี้


    ในความหมายของหลวงปู่มั่น ว่าช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึงอภินิหาร ๓ อย่าง


    1. อิทธิปาฏิหารย์ แสดงฤทธิ์ได้นานาประการ
    2. อาเทสนาปาฏิหารย์ มีญาณรู้วาระจิตคนอื่น แล้วพูดดักใจคนอื่นได้
    3. อนุสาสนีปาฏิหารย์ มีความสามารถแสดงธรรมได้อย่างมีเหตุผล ทำให้คนที่ฟังเข้าใจในความหมายได้อธิบายธรรมหมวดที่คนเข้าใจได้ยาก มาอธิบายให้คนเข้าใจง่าย อธิบายธรรมหมวดยาว สามารถย่นย่อธรรมที่ยาว มาอธิบายโดยย่อให้คนเข้าใจได้
    อภินิหาร ๓ ข้อนี้ ข้อ ๑ ข้อ ๒ ที่ทำให้เกิดขึ้นได้ แต่พระุพุทธเจ้าไม่สรรเสริญ แต่พระพุทธเจ้ามาสรรเสริญ อนุสาสนีปาฏิหารย์ ในข้อ ๓ เพราะเกี่ยวกับพระพุทธศาสนาและมรรคผลนิพพาน ฉะนั้นหลวงปู่มั่นว่ามีช้างเผือกหนุ่มมีอภินิหารนั้น หมายถึง อนุสาสนีปาฏิหารย์ เป็นผู้มีความสามารถแสดงธรรม ให้เป็นไปในคำสอนของพระพุทธเจ้าได้อย่างถูกต้อง ทำให้คนมีสัมมาทิฏฐิ ความเห็นชอบ ตามแนวทางที่เป็นจริง แสดงธรรมให้คนเข้าใจในอุบายการปฏิบัติ เพื่อเป็นไปในมรรคผลนิพพาน หลวงปู่มั่นมีความหมายเป็นอย่างนี้ ขอให้พวกเราได้เข้าใจ เพื่อจะได้ค้นหาช้างเผือกหนุ่มได้ง่ายขึ้น มิใช่ว่าคอยไปดู เมื่อไรหนอท่านจะเหาะขึ้นสู่อากาศ เมื่ิอไหร่หนอท่านจะดำดินและหายตัวให้ดู ถ้าจะหาในวิธีนี้ รับรองได้ว่า จะไม่พบช้างเผือกหนุ่มอย่างแน่นอน เพราะตีความหมายในอภินิหารผิดไป จึงทำความเข้าใจแก่ท่านดังนี้



    คัดลอกจาก:Mindfulness of Mind - ช้างเผือกกับคำทำนายของหลวงปู่มั่น
     
  6. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204
    ฉิบหายแล้ว จะต้องมีคนที่เราปรารถนาต้องการจะพบตามคำทำนายนี้แน่ๆ

    แม้เราไม่เคยอ่านคำทำนายนี้ ทำไมจึงเหมือนกันจนน่าตกใจ


    เราบอกเสมอจะต้อง ปาฎิหาริย์ ๓ เพียงเท่านั้น และ ปฎิสัมภิทา ๔

    อีกทั้ง อหังการวิเศษมาร

    พุทธวิธี ๕ ข้อนั้นก็ด้วย


    ยกเว้นในส่วนที่ตัดนำมาแสดงได้เคยผ่านตาแล้ว

    คัดลอกมาอีกส่วนหนึ่ง)

    มีคำทำนายว่าสมัยกึ่งพระพุทธศาสนาจะมีขึ้นถึงขีดสูงสุดคล้ายสมัยพุทธกาล จะมีผู้บรรลุมรรคผลนิพพานถึงภูมิพระอรหันต์ เชี่ยวชาญทางอภิญญา และพระมหาเถระโพธิสัตว์ผู้มีบุญญาภินิหารในสุวรรณภูมิจะได้รับเกียรติเป็นประธานาธิบดีสงฆ์สากล จะทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ตั้งต้นที่อินเดียไปยุโรปและอเมริกา มหาชนชาวโลกจะหันมานับถือพระพุทธศาสนาเป็นอันมาก

    โลกจะร่มเย็นเป็นสุขด้วยร่มเงาของพระพุทธศาสนา ดังนี้

    ข้าพเจ้าได้เรียนถามพระอาจารย์ภูริทัตตเถระ (มั่น) ว่าคำทำนายโบราณนี้จะเป็นจริงไหม ท่านว่า เจ้าพระคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (สิริจันทเถระ จันทร์) บอกว่าจริง เมื่อข้าพเจ้าถามถึงความเห็นเฉพาะตัวของท่าน ท่านก็บอกว่าเป็นจริง เวลานี้ก็จวนถึงแล้ว เราคอยดูต่อไป.

    ที่มา หนังสืออำนาจทิพย์


    หรือที่ตั้งบ้านของเราในปัจจุบัน ก็อยู่ในอาณาเขตของสถานที่ปฎิบัติธรรมของหลวงปู่มั่นท่าน "หนองจ่าบ้าน"


    บังเอิญเกินไปแล้ว

    ซวยแล้วเรา
     
  7. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    พระพรหมนารอดไม่ยอมตอบชื่อเพียงแต่กล่าวเป็นนัยว่า “ผู้ใดรู้จักเห็นพระพุทธเจ้าได้ ผู้นั้นเป็นผู้วิเศษ ท่านผู้นั้นรู้เหตุการณ์ดีกว่าใครๆในยุคเดียวกัน”

    ผมว่าต้องตีความดี ๆ ว่า รู้จักเห็นกันในลักษณะไหน
     
  8. เสขะปฎิสัมภิทา

    เสขะปฎิสัมภิทา ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา ตถาคต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    2,791
    ค่าพลัง:
    +3,204


    อยากให้ตีแบบยิ่งกว่านี้
    หวังว่าท่านผู้นั้น จักเป็นผู้เจริญยิ่งกว่าที่เรารู้เห็น
    http://palungjit.org/threads/พบพระพุทธเจ้า-ถามเฉพาะ-คนที่ได้พบนะครับ-คนที่เข้ามาแนะนำอะไรไม่ต้องเข้ามานะครับ.569133/page-4

     
  9. littleyogi

    littleyogi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    ผมได้ฟังมาว่า ความหมายของสัตว์เผือก คือ สัตว์ที่ปรารถนาโพธิญาณ ดังนั้น คำว่า ช้างเผือกหนุ่ม ผมก็เข้าใจว่า เป็นผู้ปรารถนาโพธิญาณที่อายุยังน้อย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ธันวาคม 2017
  10. โซ

    โซ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    352
    ค่าพลัง:
    +872
    ต้องไปถามอดีตพระเกษมครับ ว่าท่านได้ยินเรื่อง
    พระยาธรรมมิกราช มาจากที่ไหน
    เพราะท่านเคยบอกจะทำงานรอท่านพระยาธรรมมิกราช
     
  11. littleyogi

    littleyogi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    ได้ฟังข่าวว่า ท่านต่อเอาพุทธภูมิ ซึ่งก่อนหน้านั้นท่านเข้าใจว่าหลุดพ้นแล้ว และหลังจากสึกมาก็ยังตำหนิพระทำผิดวินัยอย่างดุเดือด ไม่เห็นมีเจ้าหน้าที่ท่านใดไปจัดการเลย
     
  12. littleyogi

    littleyogi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    ใครมีญาณก็ลองเล็งดูครับ ว่าพวกเทวดา ผี นาค ครุฑ ปีศาจ ฯลฯ เขาไปไหนกันช่วงนี้ ใครมีความรู้ทางธรรมก็ลองตรวจสอบดูว่ามีใครกล่าวธรรม เอาธรรมพระพุทธเจ้าอย่างแท้จริง
     

แชร์หน้านี้

Loading...