ติดตามสถานะการณ์

วิกฤต! ‘ปลาดาวหนามระบาด’ กัดกินแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก
วันอาทิตย์ 21 มกราคม 2018 2:24 pm


‘เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ’ เป็นแหล่งมรดกโลกที่มีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุด ขณะนี้กำลังเผชิญ ‘วิกฤตปลาดาวหนามระบาด’ อย่างหนัก



‘ปลาดาวหนาม’ หรือ ‘ดาวหนามมงกุฎ’ ที่กำลังกัดกินแนวปะการังที่ยาวที่สุดในโลก … ลึกลงไปใต้ท้องทะเลนอกชายฝั่งออสเตรเลีย ‘เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ’ หรือแนวปะการังที่ครอบคลุมพื้นที่ราว 345,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเลหลายสายพันธุ์ ทั้งหายาก และมีคุณค่าทางระบบนิเวศน์ กำลังจะถูกทำลาย

นักวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่า แนวปะการัง ‘สเวนส์ รีฟ’ ที่อยู่บริเวณทางตอนใต้ของ ‘เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ’ กำลังเผชิญกับ ‘วิกฤตปลาดาวหนามระบาด’ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2560 ทำให้รัฐบาลออสเตรเลียสั่งกำจัด ‘ปลาดาวหนาม’ ในบริเวณนั้นอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุที่เกิดการระบาดในครั้งนี้ ยังไม่เป็นที่แน่ชัดนัก แต่โดยปกติแล้ว ‘ปลาดาวหนามระบาด’ จะเกิดขึ้นในสภาพน้ำทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ เพราะปลาทั่วไปจะได้รับอาหารมากพอ และไม่กินเหยื่ออย่าง ‘ปลาดาวหนาม’



“จริง ๆ แล้ว มีการวิจัยที่บอกว่า ภาวะเช่นนี้มักเป็นผลมาจากน้ำที่อุดมไปด้วยสารอาหาร แต่การระบาดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ ไม่ได้มาจากสาเหตุนี้ เพราะแนวปะการัง ‘สเวนส์ รีฟ’ ไกลจากชายฝั่งที่มีน้ำอุดมไปด้วยสารอาหาร หรือห่างออกไปราว 200-250 กิโลเมตร จากชายฝั่งควีนส์แลนด์ แต่ขณะนี้ ก็ยังไม่ได้รับการยืนยันแน่ชัดว่า การระบาดมีสาเหตุมาจากอะไร” – ผู้บริหารฝ่ายวิชาการอุทยานแห่งชาติ ‘เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ’ กล่าว



‘ปลาดาวหนาม’ แผ่หน้าท้องของมันลงบนปะการัง และใช้เอนไซม์ย่อยอาหารสลายเนื้อเยื่อปะการังให้เป็นของเหลว แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ ‘วิกฤตปลาดาวหนามระบาด’ เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก ‘เกรต แบร์ริเออร์ รีฟ’ ได้รับความเสียหายจากปรากฏการณ์ ‘ปะการังฟอกขาว’ ครั้งใหญ่ ติดต่อกันถึง 2 ปี

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้รัฐบาลออสเตรเลียได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งกำจัด ‘ปลาดาวหนาม’ ออกจากพื้นที่ เพื่อรักษาระบบนิเวศให้กลับมาเป็นปกติ และข่าวดีก็คือ แนวปะการังที่ถูกทำลายไป ทั้งที่ถูกทำลายจาก ‘ปลาดาวหนาม’ และปรากฏการณ์ ‘ปะการังฟอกขาว’ จะสามารถเติบโตขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง




http://www.springnews.co.th/th/2018/01/183843/

 

ผมเองขึ้นหัวข้อว่าแตกต่างเหลือเกิน ก็เพราะในชีวิตผมเคยได้สัมผัสคุณธรรมของคุณแม่จันดี โลหิตดี น้องสาวของหลวงตามหาบัว ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นอุบาสิกาผู้บรรลุธรรมแห่งวัดป่าบ้านตาด สมัยนั้นที่ผมไปกราบท่าน ท่านจะรับประทานอาหารเพียงมื้อเดียวเช่นพระภิกษุทั่วไป อาหารที่มีคือข้าว น้ำพริก ส้มตำ อาหารอีสานทั่วไป เวลาทานก็ทานบนแคร่ง่ายๆไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก เวลาเข้าหาท่านรู้สึกเย็นอกเย็นใจ พอท่านเห็นหน้าสนทนาจะถามเรื่องการปฏิบัติทันที และถามว่าอยู่ที่ไหนใกล้ครูบาอาจารย์ท่านไหน ทำไปถึงไหนแล้ว ทุกวันเวลาบ่ายสามท่านจะเดินจงกรมเป็นปกติ จริยาวัตรเรียบง่ายและเมื่อสดับธรรมท่านผมยืนยันได้เลยว่าเป็นธรรมชั้นสูงที่ตรงต่อการหลุดพ้นล้วนๆไม่มีมายาฉาบทาแม้สักนิดก็ไม่มีเลย

ฆราวาสปฏิบัติธรรมจนบรรลุมรรคผลใดก็ตาม จิตใจย่อมเทิดทูนพระรัตนไตรไม่แยกออกจากกัน ให้ความนับถือพระพุทธ พระธรรมสูงส่งเพียงไรก็นับถือพระสงฆ์สูงส่งเพียงนั้น ยิ่งถึงธรรมยิ่งถ่อมตัว แม้การอยู่บ้านจะปฏิบัติธรรมได้แต่ก็ไม่กีดกัน ห้ามปรามหรือเชิญชวนมิให้คนเข้าวัด ยิ่งเข้าถึงธรรม ชีวิตย่อมเรียบง่าย ไม่มีหน้าไม่มีตาในสังคม ไม่มีอัตตา

สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขอเทิดทูนพระคุณแม่จันดีไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นแบบอย่างแห่งฆราวาสผู้ทรงธรรมอันบริสุทธิ์โดยแท้


สำหรับคุณแม่จันดี ท่านจะให้คำแนะนำเรื่องการปฏิบัติภาวนา ได้ถูกต้องแม่นยำ ไม่ผิดเพี้ยนจากหลักความจริงตามธรรมคำสอนของพระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) มหาบัวทุกอย่าง ท่านเมตตาเล่าถึงการปฏิบัติของท่านที่ยากลำบากแม้จะไม่ได้ขึ้นภูเขา เข้าป่า แต่ธรรมที่ท่านได้มาก็แลกด้วยชีวิต ความตอนหนึ่ง ได้ประกาศขึ้นในจิตท่านว่า..“ให้เอาชีวิตแลกธรรม” ตอนนั้นเอง พระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) ก็บอกให้ท่านเร่ง "มึงอย่าเสียดายชีวิตนะ เร่งเลย เร่งเลย.."

ท่านจะพูดเสมอว่า "พระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) สอนให้แม่ปฏิบัติมาอย่างนี้ ถ้าเป็นคำพูดของพระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) แล้ว ยิ่งการปฏิบัติภาวนา จะคลาดเคลื่อนไปไม่ได้เลย..."


ในคืนวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๕ เวลา ๕ ทุ่มครึ่งเป็นคืนที่ ฟ้าครึ้ม และลมพัดแรงมาก ท่านกราบพระแล้วนั่งภาวนาข้อธรรมได้ผุดขึ้นในจิตว่า.."อายะตะนะนั้นมีอยู่ แต่ไม่มีดิน-น้ำ-ไฟ-ลม ไม่มีจุติเคลื่อน ไม่มีที่ไป ไม่มีที่มา ไม่มีอารมณ์ ไม่มีอารมณ์ นั้นแหละคือที่สุดแห่งทุกข์"

จิตตอนนั้นจ่อเฉยๆ เหมือนไม่พิจารณาอะไร เสียงต้นขนุนใหญ่ที่แห้งตาย อยู่ข้างกุฏิ สั่นไหวเสียงดังลั่นเพราะลมแรง ท่านคิดว่าคงหักทับกุฏิ และท่านก็คงตายพร้อมๆ กัน อวิชชาขาดกระเด็นออกจากจิต ขณะนั้นรู้ว่า อวิชชาเหนียวแน่นมาก พร้อมกับก้นกระแทกพื้นสูง ๑ ศอก โลกธาตุหวั่นไหว แผ่นดินสะเทือน เสียงดังสนั่น ถึด.. ถึด .. ถึด .. ถึด.. แผ่นฟ้าม้วนกลับลงมา พันกันกับแผ่นดิน ม้วนรวมกัน แล้วจึงแยกออกจากกัน โลกธาตุหวั่นไหว พร้อมกับเสียงอนุโมทนาสาธุการ จากสวรรค์ทุกๆ ชั้น ชั้นพรหมทุกๆ ชั้น ลงถึงพื้นบาดาล ขวาซ้ายสถานกลาง ร่วมอนุโมทนา สาธุการ เสียงปี่พาทย์ บรรเลงขับกล่อม กระหึ่มก้องเสียงประกาศก้องขึ้นที่จิต "ว่าง-วางเป็นจิตพุทธะ > จิตบริสุทธิ > จิตเป็นธรรมชาติ" ขณะที่อวิชชาขาดออกจากจิต พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์สาวกทุกๆ พระองค์ โดยเฉพาะพระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) ได้ช่วยหนุนจิตท่าน ทุกๆ พระองค์ ทุกๆ อย่างที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน ไม่มีอะไรก่อน ไม่มีอะไรหลัง มีอะไรอีกมากที่ไม่สามารถพูดให้ฟังได้หมดเพราะของเหนือโลก เจอแล้วจะรู้เอง ท่านบอกว่า..ไม่เหลือวิสัย มีอยู่ในใจของทุกคน อย่ากลัวตาย กิเลสมันกลัวตาย รอดตายจึงได้ธรรม มันไม่ตายหรอก คนกล้าตาย ไม่กลัวตาย มีแต่กิเลสนั่นหละจะตายจากหัวใจ

คืนนั้น ท่านกราบน้อมถึงคุณพระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ถึงคุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ โดยเฉพาะพระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) ทั้งเป็นครูอาจารย์ เป็นพ่อ เป็นพี่ชายในสายโลหิตเดียวกันในชาติปัจจุบัน คืนนั้น ท่านไม่นอนทั้งคืน...

เมื่อพบพระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) อีกครั้ง จึงได้กราบเรียนท่านถึงสภาวะธรรมทั้งหมด ที่เกิดขึ้น… พอกล่าวจบ พระหลวงตา (หลวงตามหาบัว) พูดขึ้นว่า.. "อ้าย(พี่) หมดห่วงแล้ว..."
news.tnews.co.th/contents/td/404970

 

ขอถามที่เขียนถึงชื่ออัฉราวดี คุณหมายถึงใครคะ

 

อาจจะคัดลอกมาเกินครับ อยู่โพสไหนครับ จะได้ไปลบให้ครับ วึ่งถ้าโพสคุณแม่จันดี ผมเอามาแต่สิ่งดีๆ ของคุณแม่มาเผยแพร่ส่วนที่ข่าวเแรียบเทียบกับอีกคน ผมไม่เอามาลงครับ เพราะผมไม่เคยรู้จักเขามาก่อน และผมพยายามใส่ลิงค์ทุกครั้ง เพื่อให้อ้างอิงแหล่งที่มาได้ครับ

 

ถ้าผมตัดออกไม่หมดแล้วหลุดลงไปบ้างต้องขอโทษด้วยครัย การเแ็นสื่อที่เีต้องไม่มีการนำเสนอโดยแอบแฝง หรือมำให้ใครเสียหาย ซึ่ง มันเป็นการสร้างกรรมต่อตัวเอง และที่ผมนำเสนอข่าวมาทุกวันนร้ก็เพื่อสร้างคุณประโยชน์ และขอให้สิ่งที่ทำเป็นปัจจัยให้ถึงอนุตรสัมมาสัมโพธิญานเท่านั้น ซึ่งไม่ต้องการให้ใครสนใจ หรือนับถือ เพราะเส้นทางเดินเป็นเส้นทางที่พบเจอแต่วิบาก แต่จะไม่ท้อ เพราะเมื่อเริ่มว่ายน้ำข้สมมหาสมุทรแล้ว ถ้าหยุดก็คือจม และจะพบเจอแต่ความวอดวาย จนไปสู่ความตาย แต่ถ้าว่ายต่อ ก็ยังสามารถดำรงชีวิตต่อไแได้ ถึงจะไม่สำเร็จก็ตาม และในวันหนึ่งอาจจะพบความสำเร็จตามที่มุ่งหมาย

 

ปอกเปลือก ทรราช
ซุปเปอร์สตาร์หัวหน้าวง Moranbong หญิงล้วนแห่งกองทัพเกาหลีเหนือพร้อมคณะผู้แทนเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้เพื่อเช็คความพร้อมสถานที่จัดการแสดงในกีฬาโอลิมปิกภาคฤดูหนาว 2018 ประชาชนและนักข่าวเกาหลีใต้รุมต้อนรับล้นหลาม



-------------

มาดูข่าวเบาๆ บ้างนะครับ วันที่ 21 RT พาดหัวข่าวว่า "นักร้องป็อปเกาหลีเหนือเดินทางไปถึงเกาหลีใต้เพื่อตรวจสอบสถานที่จัดการแสดงศิลปะในกีฬาโอลิมปิก" (N. Korean pop singer arrives in the South to check out Olympic art venues)

สื่อต่างประเทศรายงานว่า คณะผู้แทนของเกาหลีเหนือได้เดินทางไปถึงเกาหลีใต้แล้ว เพื่อตรวจสอบสถานที่จัดงานโอลิมปิก ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้แถลงว่ากรุงเปียงยางได้ยกเลิกการเดินทางไปตรวจสอบสถานที่จัดงานล่วงหน้า และขอให้ทางการเกาหลีเหนือช่วยชี้แจง

หนึ่งในคณะผู้แทนที่ร่วมเดินทางไปยังเกาหลีใต้ในครั้งนี้คือ ศิลปินหญิงชื่อ "ฮยอน ซอง-วอล" (Hyon Song-wol) ปัจจุบันนี้เป็นหัวหน้าวงออร์เคสตร้า Moranbong หญิงล้วนของกองทัพเกาหลีเหนือ ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดยประธานาธิบดีคิม จอง-อึน ผู้นำแห่งเกาหลีเหนือในปี 2012 สมาชิกในวงได้รับการคัดเลือกโดยตรงจากผู้นำเกาหลีเหนือ สื่อเกาหลีใต้และตะวันตกปล่อยข่าวซุบซิบที่ไม่อาจพิสูจน์ได้ ว่าเธอเป็นอดีตแฟนสาวของผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ และยังมีการเผยแพร่ภาพลามกในอินเตอร์เน็ทว่าอาจจะเป็นเธอก็ได้

[เป็นธรรมดาของพวกขี้อิจฉาตาร้อน เรื่องปั้นน้ำเป็นตัว ไร้สาระแบบนี้ เป็นหนึ่งในงานหลักของสื่อประเภทนั้น แม้กระทั่งประธานาธิบดีของสหรัฐเองก็ยังด่าสื่อหลักของตนเองหลายสำนักว่าเป็นสำนักข่าวลวงโลก (Fake News) - ผู้แปล]

รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างการเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้เป็นเวลาสองวัน คาดว่าคณะผู้แทนของเกาหลีเหนือจะไปเยี่ยมชมศูนย์ศิลปะกังนึง (Gangneung Arts Center) ก่อนจะเดินทางไปเยี่ยมสถานที่จัดงานอีกแห่งในกรุงโซลในวันจันทร์ Yonhap รายงาน

เดิมทีคณะผู้แทนวางแผนจะเดินทางไปถึงเกาหลีใต้ในวันเสาร์ แต่กลับเลื่อนเวลาโดยไม่มีคำอธิบาย (ช่วงแรก Yonhap ของเกาหลีใต้ใช้คำว่า "ยกเลิก" กระทันหัน)

ช่วงวันที่ 19-20 มกราคมที่ผ่านมานี้ สื่อเกาหลีใต้ให้ข่าวที่สับสนมาก เดี๋ยวก็บอกว่าคณะผู้แทนเกาหลีเหนือตัดสินใจที่จะเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ล่วงหน้าเพื่อเช็คสถานที่จัดงาน ต่อมาก็บอกว่าคณะผู้แทนเกาหลีเหนือยกเลิกการเดินทางแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย สร้างความงุนงงให้กับเกาหลีใต้ จากนั้นก็รายงานว่า คณะผู้แทนเกาหลีเหนือยืนยันว่าจะเดินทางไปเยือนเกาหลีใต้ล่วงหน้าเพื่อตรวจเช็คสถานที่จัดงาน Yonhap อัพเดทข่าวถี่มาก ต่อมาสื่อเกาหลีใต้รายงานอีกว่า หลังเกาหลีเหนือยกเลิกการเดินทางไปตรวจสถานที่จัดงาน ทางเกาหลีใต้รีบโทรเจรจากับทางเกาหลีเหนือผ่านสายด่วนฉุกเฉินทันที (หลังแถลงข่าวว่าเกาหลีเหนือยกเลิก) ก่อนที่จะตกลงเกี่ยวกับกำหนดการเดินทางใหม่สำหรับวันอาทิตย์

เพื่อหาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น? จึงต้องไปอ่านข่าวจากสื่อเกาหลีเหนือโดยตรง วันที่ 21 ม.ค.61 KNNA พาดหัวข่าวว่า "KCNA ขอเตือนสื่อและนักการเมืองอนุรักษ์นิยมที่ปากมอมต่อต้านเกาหลีเหนือ" (KCNA Warns Conservative Media and Politicians against Anti-DPRK Vituperation) (นั่นไง!... เป็นเรื่องแล้วไง คิมงอนหละนะ ฮ่าๆๆ)

ในขณะที่บุคคลากรของเรากำลังจะเดินทางไปยังฝั่งใต้ซึ่งเป็นวาระสำคัญหลังการเจรจาระดับสูง และการติดต่อทางเทคนิคระหว่างเหนือกับใต้ พวกสื่อและนักการเมืองอนุรักษ์นิยมของเกาหลีใต้กลับเดินหน้าพูดจาไม่ดีเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ (speak ill of the DPRK)

[เป็นอย่างนั้นจริงๆครับ Yonhap นี่แหละตัวแสบเลย แขวะเขาอยู่นั่นแหละ กลัวการเจรจาจะราบรื่นหรือไงก็ไม่รู้ หรืออาจจะหิวนุกของคิมน้อยก็ได้ มันไม่ใช่เวลาที่จะเติมเชื้อไฟ ในขณะที่รัฐบาลทั้งสองกำลังหาหนทางสู่สันติภาพหรือย่างน้อยลดความขัดแย้งระหว่างสองเกาหลีโดยใช้กีฬาและการแสดงเป็นทูตสันติภาพ แต่พวกไม่สร้างสรรเหล่านั้นก็จ้องแต่จะเตะตัดขาหรือมือไม่พายเอาเท้าราน้ำท่าเดียว - ผู้แปล]

สื่อเกาหลีเหนือรายงานว่า Chosun Ilbo, Choongang Ilbo และสื่อหัวอนุรักษณ์นิยมของเกาหลีใต้ได้บรรยายถึงมาตรการต่างๆ และความพยายามอย่างจริงใจของ DPRK ว่าเป็นขั้นตอนเพื่อ "ระบายสีให้กับรัฐฤาษีจำศีลให้เป็นรัฐปรกติ" (paint hermit state as normal state) และสำหรับ "การโปรโมทระบบสังคมนิยม" และเพื่อ "อำพรางการทำร้ายสันติภาพ"

พวกเขาถึงกับขนานนามให้กับรีสอร์ทสกี Masikryong และสนามบิน Kalma ซึ่งเราได้เสนอสำหรับใช้เป็นสถานที่ฝึกร่วมกันว่า "เป็นอุปกรณ์ที่เก่าและไม่เพอร์เฟ็กซ์" และ "เป็นสถานที่ที่อันตราย" กล้าที่จะสบประมาทสถานที่เหล่านั้นว่ามีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ "สัมฤทธิ์ผล" (เรื่องดราม่ามีเยอะกว่านี้ บางส่วนปรากฎในสื่อเกาหลีใต้ แต่สื่อเกาหลีเหนือไม่ได้นำมาเปิดเผยก็มี)

สื่อเกาหลีเหนือบรรยายเยอะพอสมควรถึงพฤติกรรมของกลุ่มอนุรักษ์นิยมในเกาหลีใต้ และผลกระทบที่จะตามมา ในช่วงสุดท้ายของบทความนี้ KCNA เขียนว่า...

"หากแนวโน้มนี้ที่มีต่อการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีถูกตรวจสอบ และไม่ได้รับการไว้วางใจ (mistrust) และความขัดแย้งก็จะเกิดขึ้นอีกครั้ง อันเนื่องมาจากการกระทำที่ขาดการไตร่ตรองของพวกแนวคิดอนุรักษ์นิยม ซึ่งมุ่งหวังที่จะทำให้มาตรการของคนชาติเดียวกันต้องมีอันแปดเปื้อน ใครก็ตามที่เล่นสกปรกกับความสูญเสียครั้งใหญ่นี้ของชาติ และใส่ร้ายเพื่อนร่วมชาติของตนเอง จะต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ พวกเขาได้รับการเตือนอย่างชัดเจนแล้วว่า ประเทศชาติทั้งหมดล้วนจับตาดูกิริยาท่าทีของพวกเขาอย่างใกล้ชิด"

[สรุป การที่เกาหลีเหนือ "ยกเลิก" การเดินทางไปตรวจสถานที่จัดการแสดงคอนเสิร์ทในเกาหลีใต้ครั้งนี้อย่างกระทันหัน "มีเงื่อนงำ" มาจากท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของบรรดานักการเมืองและสื่อเกาหลีใต้กลุ่มอนุรักษ์นิยมนั่นเอง ประมาณว่า "ดูถูกกูดีนัก ด่ากูดีนัก แม้ว่าเกาหลีเหนือจะยอมเจรจาด้วยแล้ว ก็ยังจ้องแต่จะเตะตัดขาอยู่นั่นแหละ เด็กๆ ไม่ต้องปงไม่ต้องไปมันแล้วที่เกาหลีใต้! ไม่ต้องแข่งแล้วกีฬา มาแข่งนุกกันเลยดีกว่า!"

รมว. กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้เก้าอี้ร้อนทันที รีบยกหูสายด่วนถึงฝั่งเหนือ "เกิดอะไรขึ้นหรือสหาย รถยางแตกกลางทางหรือ? ให้เอารถไปรับไหมครับ เครื่องบินก็ได้นะ ระยะทางแค่ 260 กิโลเมตรเอง มาเถอะนะครับสหาย เดี๋ยวทางนี้จะตบปากพวกสื่อปากมอมเหล่านั้นเอง ขออภัยจริงๆ" ประมาณนี้ แต่ตอนแถลงข่าวกับสื่อของตนเองก็บอกแต่เพียงว่า "เกาหลีใต้กำลังขอให้เกาหลีเหนืออธิบาย" อันนี้แอดมินเพิ่มเติมเองนะครับ คาดว่าบรรยากาศการสนทนาลับระหว่างสองเกาหลีเกี่ยวกับปัญหานี้ ก็น่าจะประมาณนี้แหละ มองจากอาการอารมณ์เสียของ KCNA - ผู้แปล]

ป.ล. เก็บภาพคนสวยซุปเปอร์สตาร์ของเกาหลีเหนือ ดาวเด่นหนึ่งในคณะผู้แทนของเกาหลีเหนือที่เดินทางไปเกาหลีใต้ก่อนเริ่มการแข่งขันกีฬาและการแสดง มาดของเธอมั่นใจมาก สง่า สุขุม วางตัวดี เป็นนักการเมืองระดับสูงด้วยนะครับ เป็นนายทหารหญิงด้วย สื่อตะวันตกบางสำนักเรียกเพลงปลุกใจ เพลงแนวรักชาติ เพลงสรรเสริญผู้นำของประเทศ ของเกาหลีเหนือว่า "เพลงโฆษณาชวนเชื่อ" ในขณะที่สหรัฐเองก็มีเพลงประเภทนี้ไม่ต่ำกว่า 50 เพลง แต่กลับเรียกเพลงเหล่านั้นของตนเองว่า "เพลงรักชาติ" (Patriotic Songs) ประเทศอื่นๆก็มีเช่นกัน

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
22/01/2561
----------
https://www.rt.com/news/416532-north-korean-delegation-arrives-south-olympics/
http://english.yonhapnews.co.kr/national/2018/01/20/0301000000AEN20180120003452320.html
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/19/0401000000AEN20180119005655315.html
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/19/0401000000AEN20180119009700315.html
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/18/65/0401000000AEN20180118010551315F.html
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/19/35/0401000000AEN20180119009500315F.html
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/19/0401000000AEN20180119005652315.html
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/19/28/0401000000AEN20180119005652315F.html
https://sputniknews.com/asia/201801201060909107-korea-explanation-cancelation-visit/
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/20/0401000000AEN20180120002551315.html
http://english.yonhapnews.co.kr/northkorea/2018/01/19/0401000000AEN20180119005656315.html
http://www.cbc.ca/news/world/korea-olympics-hyon-song-wol-1.4497247
http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20180121000235
http://www.straitstimes.com/asia/ea...outh-korea-to-inspect-winter-olympics-concert
https://kcnawatch.co/newstream/1516...d-politicians-against-anti-dprk-vituperation/

 

ภูเขาไฟปะทุ-หิมะถล่มใส่สกีรีสอร์ตญี่ปุ่น บาดเจ็บอย่างน้อย 16 คน
เผยแพร่: 23 ม.ค. 2561 12:48:00 ปรับปรุง: 23 ม.ค. 2561 14:09:00 โดย: MGR Online


สำนักข่าวเกียวโดเผยภาพถ่ายมุมสูงของลานสกีซึ่งได้รับความเสียหายจากการปะทุของภูเขาไฟคุซัตสึ-ชิราเนะในจังหวัดกุนมะ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (23 ม.ค.)
เอเจนซีส์ - เกิดเหตุภูเขาไฟปะทุและหิมะถล่มใกล้สกีรีสอร์ตชื่อดังในจังหวัดกุนมะของญี่ปุ่นวันนี้ (23 ม.ค.) ล่าสุดมีรายงานผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 16 ราย

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ยกระดับการเตือนภัยสู่ขั้นที่ 3 พร้อมเตือนชาวบ้านให้อยู่ห่างจากภูเขาไฟคุซัตสึ-ชิราเนะ (Kusatsu Shirane) หลังตรวจพบว่ามีกิจกรรมภูเขาไฟเกิดขึ้นในระดับต่ำ

มาโกโตะ ไซโตะ เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เตือนว่าภูเขาไฟลูกนี้อาจพ่นเถ้าถ่านและหินร้อนออกมาอีก และมีความเสี่ยงที่จะเกิดหิมะถล่มซ้ำ

สื่อญี่ปุ่นรายงานยอดผู้บาดเจ็บไม่ต่ำกว่า 16 คน โดยส่วนใหญ่ถูกเศษหินจากการระเบิดของภูเขาไฟ รวมถึงนักท่องเที่ยว 4 คนซึ่งถูกเศษกระจกบาดระหว่างที่ติดอยู่บนกระเช้ากอนโดลาของสกีรีสอร์ต

ก่อนหน้านี้ มีรายงานว่านักเล่นสกีสูญหายไป 1 คน แต่เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นยืนยันล่าสุดว่าข้อมูลดังกล่าวคลาดเคลื่อน

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างคำแถลงจากกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นซึ่งระบุว่า สมาชิกกองกำลังป้องกันตนเอง (SDF) 6 นายซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมขณะที่ภูเขาไฟปะทุและหิมะถล่ม ได้รับการช่วยเหลือออกมาอย่างปลอดภัย แต่มีบางคนที่บาดเจ็บเล็กน้อย

สำนักงานดับเพลิงและจัดการภัยพิบัติระบุว่า การปะทุของภูเขาไฟคุซัตสึ-ชิราเนะซึ่งมีความสูง 2,160 เมตร เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (23) ทำให้มีเศษหินภูเขาไฟลอยไปตกไกลจากปากปล่องถึง 2 กิโลเมตร

คลิปวิดีโอที่ถ่ายจากกระเช้ากอนโดลาของสกีรีสอร์ตเผยให้เห็นก้อนหินสีดำร่วงพรูลงมาจากท้องฟ้าตามมาด้วยกลุ่มควันสีดำทะมึน ขณะที่สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเผยภาพถ่ายกระเช้ากอนโดลาที่กระจกแตกละเอียด

ชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ที่สกีรีสอร์ตให้สัมภาษณ์กับเอ็นเอชเคว่า "มีกลุ่มควันสีดำลอยขึ้นมาจากปากปล่องภูเขาไฟ และพวกเราำถูกเตือนให้อพยพในอีก 30 นาทีให้หลัง... มีคนอพยพไปประมาณ 100 คน"

หมู่เกาะญี่ปุ่นมีภูเขาไฟที่ยังมีพลังมากถึง 110 ลูก และมีอยู่ 47 ลูกที่ทางการต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

การระเบิดของภูเขาไฟออนทาเกะเมื่อเดือน ก.ย.ปี 2014 ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 63 ราย นับเป็นภัยพิบัติจากภูเขาไฟครั้งเลวร้ายที่สุดของญี่ปุ่นในรอบเกือบ 90 ปี




https://mgronline.com/around/detail/9610000007199

 

สภาคองเกรสสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวสำเร็จ-ยุติ “ชัตดาวน์” ได้ใน 3 วัน เผยแพร่: 23 ม.ค. 2561 09:56:00 ปรับปรุง: 23 ม.ค. 2561 10:01:00 โดย: MGR Online


เอเอฟพี - หน่วยงานรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้งในวันนี้ (23 ม.ค.) หลังสภาคองเกรสมีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ยุติภาวะ “ชัตดาวน์” ได้ในเวลาเพียง 3 วัน ขณะประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาคุยโขมงว่าเป็น “ชัยชนะ” ของรัฐบาลที่สามารถงัดข้อกับพรรคเดโมแครตได้สำเร็จ

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างงบประมาณด้วยคะแนน 266 ต่อ 150 เสียงเมื่อวันจันทร์ (22) โดยก่อนหน้านั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มส.ว.เดโมแครตเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาได้ยอมยกมือสนับสนุนร่างงบประมาณดังกล่าว หลังฝ่ายรีพับลิกันให้คำมั่นสัญญาว่าจะนำมาตรการแก้ไขปัญหาผู้อพยพกลับมาพิจารณาและทำการโหวตอีกครั้งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ทรัมป์ ได้ลงนามประกาศใช้ร่างกฎหมายเมื่อค่ำวันจันทร์ (22) ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางกลับมาเปิดทำการได้ตามปกติในวันนี้ (23)

“ผมทราบดีว่าทุกฝ่ายโล่งใจที่วิกฤตรอบนี้ผ่านไปได้” พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันกล่าวต่อบรรดา ส.ส.สหรัฐฯ “แต่นี่ไม่ใช่เวลาที่เราจะมาชื่นชมกันเอง ไม่ใช่เลยด้วยซ้ำ”

ปมขัดแย้งเรื่องนโยบายผู้อพยพระหว่างทำเนียบขาวกับบรรดาสมาชิกรัฐสภาทำให้พรรครีพับลิกันและเดโมแครตต้องใช้เวลาโต้เถียงกันหลายวันกว่าจะบรรลุข้อตกลงได้

“ผมดีใจที่พวกเดโมแครตในสภาคองเกรสคิดได้เสียที” ทรัมป์ ระบุในถ้อยแถลง หลังจากสภาคองเกรสปลดล็อกร่างกฎหมายเบิกจ่ายงบประมาณชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ.

ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวผ่านการอนุมัติจากวุฒิสภาอย่างง่ายดาย หลังส.ว.เดโมแครตยอมรับข้อเสนอของฝ่ายรีพับลิกันว่าจะพิจารณามาตรการคุ้มครองผู้อพยพ “ดรีมเมอร์” หลายแสนคนที่เดินทางเข้าสหรัฐฯ แบบผิดกฎหมายตั้งแต่ยังเด็ก

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนทำเนียวขาวจะยังไม่ยอมปรองดองด้วยง่ายๆ หลังจากภาวะชัตดาวน์ได้สร้างภาพมัวหมองให้แก่รัฐบาลในวันที่ ทรัมป์ ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครบ 1 ปี

ทรัมป์ ยืนยันเสียงแข็งว่า เขาจะยอมรับข้อเสนอปฏิรูปคนเข้าเมืองที่ทั้งปกป้อง “ดรีมเมอร์” และอนุมัติงบสร้างกำแพงกั้นพรมแดนสหรัฐฯ - เม็กซิโกด้วยเท่านั้น

“เราจะยอมทำข้อตกลงระยะยาวเรื่องผู้อพยพ หากมันเป็นผลดีกับประเทศชาติ... เท่านั้น” ทรัมป์ กล่าว

ชัค ชูเมอร์ แกนนำส.ว.เดโมแครตเสียงข้างน้อย ออกมาประกาศก่อนหน้านี้ว่าพรรคของเขาจะยอมช่วยรีพับลิกันโหวตสนับสนุนร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อยุติภาวะชัตดาวน์ ขณะเดียวกันก็วิพากษ์วิจารณ์ ทรัมป์ ว่าไม่ยอมช่วยอะไรเลย

“ทำเนียบขาวปฏิเสธที่จะเข้าร่วมเจรจาตลอดสุดสัปดาห์ ท่านประธานาธิบดีนักเจรจาผู้ยิ่งใหญ่ก็เอาแต่นิ่งเฉย” ชูเมอร์ กล่าว

ทรัมป์ เก็บตัวอยู่ในทำเนียบขาวตลอดสุดสัปดาห์ ทั้งที่มีแผนจะกลับไปฉลองวาระ 1 ปีกับครอบครัวและมิตรสหายที่รีสอร์ตหรู มาร์-อา-ลาโก ในรัฐฟลอริดา และเนื่องจากปมขัดแย้งเรื่องผู้อพยพดรีมเมอร์และงบอุดหนุนกำแพงของ ทรัมป์ ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน การงัดข้อระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจึงคาดว่าจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวจะหมดอายุลงในวันที่ 9 ก.พ.



มิตช์ แมคคอนเนลล์ แกนนำส.ว.รีพับลิกันเสียงข้างมาก เดินออกจากที่ประชุม หลังวุฒิสภามีมติรับรองร่างกฎหมายงบประมาณซึ่งช่วยยุติภาวะ “ชัตดาวน์” เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.)



พอล ไรอัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ (ขวา) และ ส.ส. สตีฟ สแกไลส์ จากพรรครีพับลิกัน เดินเข้าสู่ที่ประชุมเพื่อทำการโหวตร่างงบประมาณชั่วคราว เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.)

https://mgronline.com/around/detail/9610000007121

 

ตุรกีเผยจะบดขยี้กองกำลังชาวเคิร์ดในซีเรียให้ราบคาบอย่างรวดเร็ว
เผยแพร่: 22 ม.ค. 2561 22:59:00 โดย: MGR Online

เอเจนซีส์ - ตุรกียิงถล่มเป้าหมายบริเวณพื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรียในวันจันทร์ (22 ม.ค.) ทั้งยังระบุด้วยว่า จะบดขยี้กลุ่มติดอาวุธ YPG ซึ่งเป็นชาวเคิร์ดที่อเมริกาให้การหนุนหลังให้ราบคาบอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความกังวลของนานาชาติต่อปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้

กองทัพตุรกีและกบฏซีเรียที่เป็นพันธมิตรของพวกเขา ได้เริ่มเปิดฉากกดดันเพื่อกำจัดกลุ่ม YPG ออกจากพื้นที่ทางเหนือของซีเรียตั้งแต่เมื่อวันเสาร์ นับเป็นการเปิดฉากแนวรบใหม่ในซีเรีย แม้ว่าอเมริกาจะเรียกร้องให้ยับยั้งชั่งใจไว้ก็ตาม

ฝรั่งเศสได้เรียกร้องในวันจันทร์ ให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีการเปิดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือเรื่องการสู้รบดังกล่าว

โฆษกของกลุ่ม YPG ระบุว่า มีการปะทะกันระหว่างชาวเคิร์ดกับกองกำลังที่ตุรกีให้การหนุนหลังในวันที่สามของปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ นอกจากนี้ตุรกียังยิงถล่มไปโดนพื้นที่ของพลเรือนด้วย

ตุรกีนั้นมองว่า YPG เป็นองค์กรก่อการร้ายที่เกี่ยวพันกับพวกกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในตุรกีที่ต้องการแบ่งแยกดินแดน ซึ่งทางตุรกีไม่พอใจมากที่อเมริกาให้การสนับสนุนกลุ่มดังกล่าว ส่วนทางวอชิงตันที่หนุนหลัง YPG ในการต่อสุ้กับกลุ่มไอเอสที่ซีเรีย ได้ระบุเมื่อวันอาทิตย์ว่าเป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้

ความไม่พอใจที่ตุรกีมีต่ออเมริกาจากเรื่องการสนับสนุน YPG คือหนึ่งในหลายประเด็นที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองลุงแซมกับชาติมุสลิมรายใหญ่ในนาโต้มาถึงจุดแตกหักในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ของกลุ่ม YPG ระบุตอนนี้กองทัพตุรกียังไม่สามารถยึดดินแดนของชาวเคิร์ดไปได้ ณ จุดนี้กองกำลังของชาวเคิร์ดยังคงต้านทานพวกตุรกีเอาไว้ และบีบให้ฝ่ายตุรกีต้องถอย

ทาง YPG ยังบอกด้วยว่ามีการโจมตีทางอากาศอย่างหนัก แต่ทางเจ้าหน้าที่ของตุรกียังไม่ยืนยันว่ามีปฏิบัติการโจมตีทางอากาศใดๆ เข้าใส่กองกำลังชาวเคิร์ดในวันจันทร์

https://mgronline.com/around/detail/9610000007049

 

In Clips :หิมะตกหนักทำเอาหมู่บ้านแถบเทือกเขาแอลป์ใน “สวิตเซอร์แลนด์” และ “ออสเตรีย” ถูกตัดขาด เผยแพร่: 22 ม.ค. 2561 20:45:00 ปรับปรุง: 22 ม.ค. 2561 20:47:00 โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ – นักท่องเที่ยวจำนวนหลายพันต้องติดอยู่ในเทือกเขาแอลป์ในช่วงเช้าวันนี้(22 ม.ค)หลังจากหิมะตกหนักจนปิดเส้นทางรถไฟ และตัดขาดถนนที่จะเข้ามายังเมืองเซอร์มาตต์(Zermatt)แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของสวิตเซอร์แลนด์ และเมืองเซนต์แอนตอน (St. Anton) แหล่งสกีรีสอร์ตชื่อดังในออสเตรีย

DW สื่อเยอรมันรายงานวันนี้(22 ม.ค) คำเตือนระดับร้ายแรงถึงการเกิดหิมะถล่มมีขึ้นในวันอาทิตย์(21) ส่งผลทำให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นต้องประกาศหยุดการให้บริการรถไฟไปยังเมืองเซอร์มาตต์(Zermatt)แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของสวิตเซอร์แลนด์ ส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวร่วม 9,000 คนต้องติดอยู่ภายในเมืองแห่งนี้

อย่างไรก็ตามพบว่ามีนักท่องเที่ยวบางคนสามารถออกไปนอกพื้นที่ได้ด้วยเฮลิคอปเตอร์ “แอร์ เซอร์มาตต์” (Air Zermatt)ที่ให้บริการการเดินทางอากาศ แต่กระนั้นการเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ต้องถูกยกเลิกไปหลังจากสภาพอากาศเลวร้ายมากขึ้น นอกจากนี้ยังพบว่าตั๋วโดยสารถูกจำหน่ายหมดภายไม่กี่ชั่วโมงหลังจากขบวนรถไฟถูกยกเลิก

สื่อเยอรมันรายงานว่า หิมะที่ตกหนักยังเป็นอุปสรรคอย่างร้ายแรงในแหล่งสกีชื่อดังของออสเตรีย เมืองเซนต์แอนตอน (St. Anton) โดยตำรวจพื้นที่ห้ามไม่ให้มีการเดินทางเข้าหรือออกจากเมืองด้วยทางรถ แต่ทว่ามีรถบัสบางส่วนสามารถนำผู้โดยสารไปยังหุบเขาที่อยู่ใกล้เคียงได้โดยมีรถตำรวจและรถดับเพลิงขับตามไปประกบข้าง

DW ชี้ว่า คาดว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องที่เมืองเซอร์มาตต์ในตลอดทั้งวันนี้(22) ด้วยหิมะที่ตกหนักสูงร่วม 28 นิ้วตลอดทั้งคืน และทางเจ้าหน้าที่คาดว่า การเดินทางสัญจรทางบกอาจจะต้องปิดลงไปจนถึงเที่ยงของวันจันทร์(22)

หิมะที่ตกอย่างหนักทำให้ทำให้นักท่องเที่ยวร่วม 13,000คนในเมืองถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง ทั้งนี้พบว่าเมืองเซอร์มาตต์ตั้งอยู่ใต้ยอดเขามาตเตอร์ฮอน(Matterhorn mountain)ที่โด่งดัง สื่อเยอรมันชี้

อย่างไรก็ตามหัวหน้าการตลาดของรีสอร์ทกล่าวว่า บรรดานักท่องเที่ยวซึ่งติดอยู่ภายในเมืองจะไม่ประสบความยากลำบากระหว่างที่ติดอยู่ และมีเว็บไซต์ที่อัพเดตข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้าและออกเมือง







https://mgronline.com/around/detail/9610000007026

 

'เดโมแครต'ยอมอ่อนข้อยุติ'ชัตดาวน์' 'ทรัมป์'โว'ชนะ' แม้อาจเกิดวิกฤตอีก กพ.นี้ เผยแพร่: 23 ม.ค. 2561 22:16:00 โดย: MGR Online


ส.ส.สหรัฐฯหลายคนเดินออกมาข้างนอก ภายหลังเสร็จสิ้นการลงคะแนนในรัฐสภา ซึ่งทั้งสภาผู้แทนราษฎร และ วุฒิสภา ต่างโหวตรับรองขยายเวลาใช้งบประมาณฉบับชั่วคราว เป็นอันยุติวิกฤตชัตดาวน์ เมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.)
เอเจนซีส์ – ข้าราชการลูกจ้างรัฐบาลกลางสหรัฐฯเตรียมตัวกลับไปทำงานในวันอังคาร (23 ม.ค.) ภายหลังรัฐสภาโหวตผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว ยุติวิกฤตชัตดาวน์ที่ดำเนินมา 3 วัน ด้านทรัมป์โวเป็นชัยชนะของตัวเองในการเผชิญหน้าเดโมแครต ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนหากรีพับลิกันบิดพลิ้วเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง อาจถูกเดโมแครตชำระโทษด้วยการทำให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดทำการชั่วคราวอีกรอบในเดือนหน้า

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติในวันจันทร์ (22) ด้วยคะแนน 233 ต่อ 150 รับรองให้ยืดอายุการใช้กฎหมายงบประมาณชั่วคราวออกไปอีกเป็นครั้งที่ 4 นับจากเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง วุฒิสภาได้ร่วมกันผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้ด้วยคะแนน 81 ต่อ 18 ภายหลังที่พวกผู้นำของวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครตยอมผ่อนคลายการแข็งขืน เนื่องจากได้รับการรับรองจากผู้นำวุฒิสภาฝั่งรีพับลิกันว่า จะโหวตกฎหมายคนเข้าเมืองในเดือนหน้า

ในคืนวันเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามรับรองร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมาย และเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลปฏิบัติหน้าที่ได้ตามปกติตั้งแต่วันอังคาร (23)

สัปดาห์ที่แล้ว สถานการณ์การเมืองในวอชิงตันสับสนพัลวัน เมื่อฝ่ายนิติบัญญัติงัดข้อกับทำเนียบขาวเรื่องนโยบายคนเข้าเมือง ขณะเดียวกันสองพรรคใหญ่ปะทะฝีปากโยนความผิดให้กันและกันว่าเป็นตัวการทำให้เกิดวิกฤตชัตดาวน์ ก่อนที่จะตกลงกันได้ในที่สุด

ทางด้านทรัมป์แถลงแสดงความยินดีว่า สุดท้ายสมาชิกเดโมแครตในรัฐสภาก็ยอมใช้เหตุผล

ทั้งนี้ ผู้นำเดโมแครตในสภาสูงตัดสินใจโอนอ่อนเพื่อยุติการชัตดาวน์ที่ดำเนินมาตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันศุกร์ (19) ภายหลังจากผู้นำวุฒิสมาชิกรีพับลิกันรับปากว่า จะช่วยผลักดันซึ่งปกป้องคุ้มครองพวก “ดรีมเมอร์” หรือผู้ลักลอบเข้าเมืองมากับพ่อแม่ขณะเป็นเด็กและบัดนี้เติบโตเป็นหนุ่มสาวอยู่ในอเมริกา ที่มีจำนวนราว 700,000 คน

ด้วยการสนับสนุนจากเดโมแครต ร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราวที่จะทำให้หน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาลกลางปฏิบัติหน้าที่ได้จนถึงวันที่ 8 เดือนหน้า ก็ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอย่างราบรื่น



วุฒิสมาชิกของทั้งพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครต ออกมาพูดคุยกับกลุ่มผู้สื่อข่าว ภายหลังพวกผู้นำของทั้ง 2 พรรคสามารถทำข้อตกลงกันเพื่อยุติวิกฤตชัตดาวน์เมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.)
แต่แทนที่จะชื่นชมกับความปรองดองของฝ่ายนิติบัญญัติหรือความใจกว้างของเดโมแครต ทำเนียบขาวกลับดูเหมือนหมกมุ่นกับการที่เกิดภาวะชัตดาวน์ในวาระครบรอบ 1 ปีการรับตำแหน่งของทรัมป์พอดิบพอดี

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ยังออกโรงสกัดเดโมแครต โดยบอกว่า จะยอมรับกฎหมายปฏิรูปคนเข้าเมืองที่ส่งผลดีต่อประเทศในระยะยาว รวมทั้งครอบคลุมโดยเฉพาะอย่างยิ่งมีการทำตามข้อเรียกร้องของตนเองในการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนติดกับเม็กซิโกเท่านั้น

นอกจากนี้ ก่อนที่รัฐสภาจะผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว ทรัมป์ยังกล่าวหาเดโมแครตว่า ทำให้หน่วยงานรัฐต้องชัตดาวน์เพื่อหวังเอาชนะในประเด็นกฎหมายคนเข้าเมืองซึ่งถือเป็นแนวทางของฝ่ายซ้ายตกขอบ

ขณะเดียวกัน ก่อนประกาศว่า เดโมแครตจะร่วมโหวตกับรีพับลิกันเพื่อยุติการชัตดาวน์นั้น ชัค ชูเมอร์ วุฒิสมาชิกเดโมแครตประจานว่า ขณะที่สมาชิกสภาเจรจากันอย่างเคร่งเครียดในช่วงสุดสัปดาห์ ประธานาธิบดีนักเจรจากลับหายหน้าหายตาไป

แม้ยุติการชัตดาวน์ไปได้ แต่การที่ทั้งสองพรรคยังไม่ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับนโยบายคนเข้าเมืองและการอุดหนุนแผนการสร้างกำแพงของทรัมป์ ทำให้มีแนวโน้มว่า อาจมีการเผชิญหน้ากันรอบใหม่นับจากวันที่ 9 กุมภาพันธ์

ชูเมอร์ดักคอ มิตช์ แมคคอนนเลล์ ผู้นำเสียงข้างมากของรีพับลิกันในวุฒิสภา โดยแสดงความคาดหวังว่า รีพับลิกันจะรักษาสัญญาเรื่องโครงการผ่อนผันอนุญาตให้ “ดรีมเมอร์” สามารถอยู่ต่อไปได้เป็นการชั่วคราว (Deferred Action for Childhood Arrivals หรือ DACA) ที่กำลังจะหมดอายุลงในวันที่ 5 มีนาคม

มอลลี เรย์โนลด์ส จากสถาบันบรูคกิงส์เตือนว่า หากไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับร่างกฎหมายคนเข้าเมือง เดโมแครตยังสามารถกดดันให้หน่วยงานรัฐบาลชัตดาวน์อีกรอบ

อย่างไรก็ตาม ในเฉพาะหน้านี้การอ่อนข้อให้ของพวกผู้นำเดโมแครตโดยเฉพาะ ส.ว.ชูเมอร์ ทำให้พวกนักเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รับผู้อพยพ ตลอดจนฐานเสียงผู้สนับสนุนเดโมแครตที่จำนวนมากเป็นพวกเสรีนิยิม พากันออกมาแสดงความโกรธเกรี้ยว เนื่องจากพวกเขาต้องการให้เดโมแครตยืนหยัดต่อสู้กันยาวนานกว่านี้ และกดดันหนักหน่วงกว่านี้ เพื่อให้รีพับลิกันและทรัมป์อ่อนข้อเรื่อง “ดรีมเมอร์” อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

https://mgronline.com/around/detail/9610000007477

 

ฮานอยล้างบางคอร์รัปชันครั้งใหญ่ จำคุกอดีตกรมการเมือง-ผู้บริหาร บ.น้ำมัน เผยแพร่: 22 ม.ค. 2561 22:05:00 ปรับปรุง: 22 ม.ค. 2561 22:38:00 โดย: MGR Online


ดีง ลา ทัง (กลาง) อดีตสมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม และอดีตประธานกรรมการของรัฐวิสาหกิจ เปโตรเวียดนาม ยืนรับฟังขณะผู้พิพากษาอ่านคำตัดสินซึ่งเขาถูกลงโทษจำคุก 13 ปี ณ ศาลในกรุงฮานอยเมื่อวันจันทร์ (22 ม.ค.)
เอเจนซีส์ - ศาลเวียดนามมีคำพิพากษาในวันจันทร์ (22 ม.ค.) ลงโทษจำคุก 13 ปี อดีตเจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ระดับกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์ และจำคุกตลอดชีวิตอดีตผู้บริหารรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน ซึ่งถูกระบุว่าได้ถูกทางเวียดนามลักพาตัวกลับมาลงโทษ หลังหลบหนีไปอยู่ที่เยอรมนี ในความผิดฐานยักยอกฉ้อโกงและละเมิดกฎระเบียบของรัฐ ถือเป็นการปิดฉากคดีคอร์รัปชันที่เกรียวกราวอื้อฉาวที่สุดคดีหนึ่งของเวียดนาม ซึ่งจำเลยมีทั้งพวกผู้นำทางการเมืองและทางธุรกิจ

จำเลยทั้ง 22 คนในคดีนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารทั้งในอดีตและปัจจุบันของปิโตรเวียดนาม และถูกศาลตัดสินว่า กระทำความผิดข้อหาบริหารผิดพลาด ยักยอก หรือทั้งสองกระทง ในระหว่างรับตำแหน่งในรัฐวิสาหกิจน้ำมันยักษ์ใหญ่แห่งนี้

ตามรายงานของสำนักข่าวทางการเวียดนาม ศาลประชาชนในกรุงฮานอยพิพากษาลงโทษจำคุก 13 ปี ดีง ลา ทัง อดีตประธานกรรมการของปิโตรเวียดนามและอดีตสมาชิกกรมการเมือง พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ถือเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสที่สุดซึ่งต้องติดคุกในรอบหลายสิบปี โดยทังถูกกล่าวหาละเมิดข้อบังคับการบริหารเศรษฐกิจของรัฐโดยเจตนาจนทำให้เกิดผลลัพธ์ร้ายแรง ด้วยการเลือกบริษัท คอนสตรักชั่น จอยต์ สต็อก หรือ พีวีซี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของปิโตรเวียดนาม ก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนโดยไม่มีการประมูลและประเมินราคาอย่างเหมาะสม

เขายังถูกกล่าวหาว่า สั่งการให้จ่ายเงินล่วงหน้า 67 ล้านดอลลาร์ ให้พีวีซี ซึ่งถือเป็นการใช้เงินทุนโดยไม่มีวัตถุประสงค์ที่เหมาะสม และทำให้รัฐสูญเงิน 5.5 ล้านดอลลาร์

ทางด้านอดีตเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลคนหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า คำวินิจฉัยนี้เด็ดขาดและเป็นธรรม เนื่องจากถึงเวลาแล้วที่เวียดนามจำเป็นต้องต่อสู้กับปัญหาคอร์รัปชัน

นอกจากนั้น ทังยังถูกกล่าวหาว่า บริหารเศรษฐกิจผิดพลาดในอีกคดีหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องการกับที่ปิโตรเวียดนามซื้อหุ้นมูลค่า 36 ล้านดอลลาร์ในโอเชียน ที่เป็นธนาคารร่วมทุน และทำให้ปิโตรเวียดนามประสบการขาดทุนทั้งหมด หลังจากธนาคารกลางเวียดนามเข้ายึดกิจการโอเชียน คาดกันว่า จะมีการพิจารณาคดีนี้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ทังนั้นเคยเป็นนักการเมืองดาวเด่น แต่แล้วก็ถูกเด้งออกจากตำแหน่งสมาชิกกรมการเมือง และเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์สาขาโฮจิมินห์ ซิตี้ ก่อนถูกจับกุมเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมปีที่แล้ว

สื่อต่างชาติไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมฟังการไต่สวนคดีนี้ที่กินเวลา 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ดี ชาวเวียดนามกว่า 100 คนรวมตัวกันหน้าศาลระหว่างที่มีการอ่านคำวินิจฉัย โดยคนเหล่านี้บางส่วนเห็นชอบกับคำตัดสิน ขณะที่บางคนเห็นใจทังว่า เขาเคยทำประโยชน์แก่ประเทศชาติมาก่อน


จิง ซวน แท็ง อดีตประธานบริษัทปิโตรเวียดนามคอนสตรัคชั่น หรือ พีวีซี (กลาง) ยืนฟังคำพิพากษาที่ศาลในกรุงฮานอย ในวันจันทร์ (22 ม.ค.) ทั้งนี้เขาถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต
สำหรับ จิง ซวน แท็ง อดีตประธานกรรมการพีวีซี ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิตจากข้อหายักยอก รวมทั้งบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด เขายังมีกำหนดขึ้นศาลในคดียักยอกเงิน 622,000 ดอลลาร์จากโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในวันพุธ (24) ซึ่งอาจมีโทษสูงสุดประหารชีวิต

ก่อนหน้านี้ แท็งขอลี้ภัยในเยอรมนี และต่อมาเยอรมนีกล่าวหาว่า สายลับเวียดนามลักพาตัวเขาไปจากสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงเบอร์ลินเมื่อปีที่แล้ว ทว่า ฮานอยปฏิเสธ และยืนยันว่า แท็งสมัครใจเดินทางกลับฮานอยและมอบตัวกับตำรวจ เรื่องนี้ทำให้สองประเทศปีนเกลียวกัน และเยอรมนีขับนักการทูตอาวุโสเวียดนาม 2 คนกลับประเทศ

ศาลเวียดนามยังพิพากษาลงโทษจำคุกอดีตประธานกรรมการปิโตรเวียดนามอีก 3 คนๆ ละ 9 ปีข้อหาบริหารเศรษฐกิจผิดพลาด ส่วนจำเลยคนอื่นๆ ได้รับโทษตั้งแต่จำคุก 22 ปีจนถึงรอลงอาญา

ขณะนี้ ยังมีการไต่สวนอีกหนึ่งคดีที่มีจำเลยอีก 46 คน ซึ่งรวมถึงอดีตนายแบงก์หลายคน ในโฮจิมินห์ ซิตี้

สื่อออนไลน์ เตื่อย แจ๋ รายงานโดยอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้พิพากษาคนหนึ่งว่า คำวินิจฉัยเหล่านี้ “เหมาะสม” ขณะที่หนังสือพิมพ์ออนไลน์ วีเอ็นเอ็กซ์เพรส ชี้ว่า การลงโทษครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งสัญญาณเตือนพวกที่ใช้อำนาจโดยมิชอบและฝ่าฝืนกฎหมาย

พรรคคอมมิวนิสต์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของเลขาธิการใหญ่ เหวียน ฝู จ่อม อยู่ระหว่างการกวาดล้างคอร์รัปชันที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในเวียดนาม โดยมีเป้าหมายสำคัญคือปิโตรเวียดนามและภาคการธนาคาร

โจนาธาน ลอนดอน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยไลเดนในเนเธอร์แลนด์ และผู้เชี่ยวชาญด้านเวียดนาม กล่าวว่า ผู้มีอำนาจในพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามต้องเดินหน้าปฏิรูปและให้คำมั่นในการปราบปรามการทุจริต

ลอนดอนเสริมว่า การตัดสินจำคุกจำเลยในคดีนี้อาจถือเป็นเหตุการณ์ที่น่าประหลาดใจ แต่จากประวัติศาสตร์ในประเทศอื่นๆ บ่งชี้ว่า ในระยะยาวนั้นการคอร์รัปชั่นไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการลงโทษ ทว่า ต้องมีการปฏิรูปสถาบันและรัฐบาลต้องมีความมุ่งมั่นแรงกล้าในการดำเนินการด้วยความโปร่งใส

ทั้งนี้ จากข้อมูลขององค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ เวียดนามติดอันดับ 113 จาก 176 ประเทศในดัชนีคอร์รัปชัน และถือว่า สถานการณ์เลวร้ายกว่าเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ไทย ฟิลิปปินส์ และ พม่า

https://mgronline.com/around/detail/9610000007041

 

ปอกเปลือก ทรราช ·
คิมสัมผัสได้: คนเกาหลีเหนือตายแล้วฟื้นหลายราย



-------------

วันที่ 21 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "ประเทศซอมบี้หรือเปล่านี่? คนเกาหลีเหนือ 'ถูกประหารชีวิต' ฟื้นคืนชีพเฉยเลย!" (Zombie Nation? ‘Executed’ North Koreans return to life)

ประธานาธิบดีคิม จอง-อึน ผู้นำแห่งเกาหลีเหนือ โด่งดังมากตามสื่อตะวันตกในเรื่องการ "สั่งประหารชีวิตผู้คน" ซึ่งเขาไม่โปรดปราน - แม้ว่าจะพบว่าบางคนมีความสามารถพิเศษฟื้นคืนชีพจากความตายได้

รายงานข่าวทั้งหลาย มักจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการใหม่สุดของคิมในการสั่งประหารชีวิต เริ่มตั้งแต่การกราดยิงคนที่เป็นญาติกัน ไปจนถึงนักแสดง หรือแม้กระทั่งนักเขียนการ์ตูน - เช่นปล่อยให้ฝูงสุนัขที่หิวโซรุมกัดจนตาย หรือใช้ไฟเผาทั้งเป็น

[วิธีการหรือสำนวนการเขียนเหล่านี้ สื่อรัสเซียหยิบมาจากสื่อเกาหลีใต้และสื่อตะวันตก ที่บรรยายความน่ากลัว โหดร้าย ป่าเถื่อน ของคิมน้อย จริง-เท็จอย่างไร เป็นอีกเรื่องหนึ่ง "เขียนด่ามันไปเถอะ มันไม่มีปัญญาฟ้องต่างชาติได้หรอก" ประมาณนั้น มีคนเชื่อเรื่องพวกนี้ด้วยหรือ? เยอะเลยครับ! มันเป็นเรื่องจริงรึ? แนะนำให้อ่านต่อให้จบนะครับ - ผู้แปล]

1.) รายที่หนึ่ง นักร้องเพลงป๊อปชื่อดัง และ "คนรักเก่า" ฟื้นคืนชีพ
คุณ Hyon Song-wol (ตอนนี้ตกเป็นเป้าโจมตีของสื่อเกาหลีใต้และตะวันตกเป็นอย่างมาก) พบว่ายังมีชีวิตอยู่และสบายดีเมื่อปรากฎตัวผ่านทีวีในปี 2014 แม้ว่าหนึ่งปีก่อนหน้านั้นจะมีรายงานข่าวกระฉ่อนว่า เธอถูกลงโทษประหารชีวิตไปแล้ว โดยใช้ไฟย่างสดในการกวาดล้างนักร้อง นักดนตรี และแด๊นเซอร์ทั้งวง ก็ตาม

มีข่าวลือว่านักแสดงหญิงคนนี้ (ก่อนที่จะได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกวง Moranbong เธอเคยเป็นดาราทีวีชื่อดังในเกาหลีเหนือ) ถูกฆ่าพร้อมกับคนอื่นๆอีก 11 คน ซึ่งรวมทั้งสมาชิกในวง Moranbong ของเธอด้วย หัวหน้าวงออร์เคสตร้า Unhasu และนักเต้นรำคนอื่นๆอีกหลายคนจาก Wangjaesan Light Music ก็ถูกประหารชีวิต หนังสือพิมพ์ The Chosun Ilbo ของเกาหลีใต้รายงานเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2013

ลือกันว่าเหยื่อทั้ง 12 คน ถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดทางเพศ ซึ่งมีการบันทึกคลิปวีดีโอในขณะที่กำลังมีเพศสัมพันธ์ และขายคลิปนั้นด้วย สื่อเกาหลีใต้รายงานว่าทั้งคุณ Hyon Song-wol และคิมต่างก็เคยมีความสัมพันธ์ที่โรแมนติกด้วยกันนั้น ได้ปรากฎตัวต่อสาธารณะชนเมื่อวันเสาร์นี้ในขณะที่คณะผู้แทนของเกาหลีเหนือและคุณ Hyon Song-wol กำลังจะเดินทางไปตรวจสอบสถานที่จัดงานคอนเสิร์ทและการแสดงศิลปะในเกาหลีใต้ ก่อนเปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก

[พวกมันทำกันเป็นขบวนการจริงๆ ดูคลิป ดูภาพนิ่งแล้วครับ บอกได้คำเดียวว่า "ตัดต่อ" ไม่รู้ว่าเขาไปจ้างกระหรี่หลีใต้ที่ไหนมารับบทเป็นคุณ Hyon Song-wol อันที่จิงแล้วไม่ใช่ว่า Hyon Song-wol เพิ่งจะปรากฎตัวเป็นครั้งแรกหลังมีข่าวลือว่าเธอถูกประหารชีวิต เธอและเพื่อนๆร่วมวงต่างก็ออกทัวร์คอนเสิร์ททั่วประเทศมาแล้ว และยังเข้าร่วมประชุมในพรรคแรงงานของเกาหลีเหนือในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายครั้งด้วย ปัจจุบันนี้ ทางการเกาหลีใต้กำลังล้างบาง "หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้" บางคนก็เจอคุก ระดับบิ๊กๆทั้งนั้น ส่วนใหญ่เจอข้อหาคอรัปชั่น สื่อไทยสื่อตะวันตกนำเสนอข่าวเหล่านี้ไหม? ฝันไปเถอะ! - ผู้แปล]

2.) รายที่สอง ผบ.ทบ.เกาหลีเหนือ ฟื้นคืนชีพ
ย้อนกลับไปใน (เดือนกุมภาพันธ์) ปี 2016 มีรายงาข่าวลือว่า พล.อ. Ri Yong Gil ผบ.ทบ. ของเกาหลีเหนือ ถูกตัดสินประหารชีวิตในคดี "แปรพักตร์ ใช้อำนาจโดยมิชอบ และ คอรัปชั่น" สื่อกระแสหลักทั่วโลกต่างก็พากันรายงานข่าวนี้ ต่อมาพบว่า "เป็นข่าวเท็จ"

ดูเหมือนว่า เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้มโนว่าการไม่ได้อยู่ในตำแหน่ง ผบ.ทบ. อีกต่อไป เป็นการยืนยันว่า ท่าน Ri Yong Gil จะต้อง "ถูกประหารชีวิต" แล้วแน่เลย แต่มีปัญหาเพียงอย่างเดียวก็คือ สองเดือนต่อมา กลับพบว่าท่าน Ri Yong Gil ฟื้นมาคืนชีพจากความตายได้อีกคน พร้อมกับได้รับการเลื่อนยศให้สูงกว่าเดิมอีกด้วย เมื่อท่านเข้าร่วมประชุมสภาคองเกรสพรรคแรงงานในเดือนพฤษภาคมในปีเดียวกัน

[อึ้งไหมหละ? ดูเหมือนว่าคิมน้อยคงจะเส้นใหญ่กับท่านพญายมหน้าดู เอ… หรือว่าคุณคิมขู่จะยิงนุกถล่มวังท่านยมนะ ถึงได้ปล่อยตัวนายพล Ri Yong Gil กลับมาได้? แถมได้เลื่อนยศอีกต่างหาก - ผู้แปล]

3.) รายที่สาม ลุงของคิม "ถูกลงโทษประหารชีวิตด้วยการให้สุนัขรุมกัด"
เห็นได้ชัดว่าอันที่จริงแล้วคิมก็เล่นงานญาตผู้ใหญ่ของตนเองด้วย หากคุณเชื่อการรายงานข่าวของสื่อตะวันตก ดูเหมืนอว่าส่วนใหญ่ก็ประมาณนั้นแหละ (So much so that) คิมตั้งใจที่จะประหารชีวิตลุงของตนเอง ด้วยการให้ฝูงสุนัขที่หิวโหยจำนวน 120 ตัวรุมขย้ำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการล้างบางในปี 2014

แม้ว่าสุดท้ายแล้วนาย Jang Song Thaek (ลุงของคิม) ก็ถูกประหารชีวิตจริงๆ ส่วนเรื่องที่บอกว่า "ถูกฝูงสุนัขรุมฉีกร่าง" นั้นเป็นเรื่องโกหกลวงโลกทั้งเพ ซึี่งปรากฎครั้งแรกในเว็บไซต์ไมโครบล็อกเชิงเหน็บแนมของจีน

[มีชาวต่างชาติและคนไทยจำนวนไม่น้อยพากันเชื่อว่าเรื่องคิมประหารชีวิตลุงของตนเองด้วยการให้ฝูงสุนัขรุมกัดจนตายนั้นเป็นเรื่องจริง บางคนเวอร์ถึงขนาดที่ว่า "คนอะไรโหดร้ายป่าเถื่อน ลุงของตนเองก็ไม่เว้น" แต่พวกเขาไม่สนว่าคนที่ถูกลงโทษนั้นทำความผิดอะไรมาบ้าง - ผู้แปล]

4.) รายที่สี่ อาหญิงของคิม ฟื้นคืนชีพจากการประหารชีวิตด้วยยาพิษ
นอกจาก "เลี้ยงฝูงสุนัขด้วยเนื้อของลุงตนเองแล้ว" ตามที่กล่าวมาข้างบนนี้ ยังมีรายงานข่าวอีกว่า ผู้นำเกาหลีเหนือได้เล็งที่จะฆาตกรรมแม้กระทั่ง Kim Kyong-hui อาหญิงของตนเองอีกด้วย (อะไรจะโหดร้ายขนาดนั้น? ยักกะฮ่องเต้บางองค์ในหนังจีนแหนะ อย่าเพิ่งอินกับ "รายงานข่าวลือ" เร็วขนาดนั้นครับ)

รายงานข่าวลือระบุว่า นาง Kim Kyong-hui ซึ่งเป็นน้องสาวของพ่อของคิม และเป็นภรรยาของนาย Jang Song Thaek ได้ถูกประหารชีวิตโดยการใช้ยาพิษตามคำสั่งของท่านผู้นำ (จริงดิ?)

อย่างไรก็ตาม อีกครั้งครับที่สุดท้ายแล้วก็พบว่า รายงานข่าวลือเหล่านี้กลายเป็น "ข่าวเท็จ" สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ได้รายงานเมื่อปลายปีที่แล้วว่า นาง Kim Kyong-hui ยังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าเธอจะอยู่ระหว่างการรักษาอาการเจ็บป่วยจากภาวะซึมเศร้าและเป็นมะเร็ง

[ดีนะที่สื่อขยะเหล่านั้นหรือหน่วยข่าวกรองของเกาหลีใต้ไม่มโนต่ออีกว่า สงสัยว่าคิมคงจะเอากัมมันตรังสีจากนิวเคลียร์ให้อาหญิงของตนเองกินแน่เลย ถึงได้เป็นโรคมะเร็ง สรุป ทั้ง 4 เคสนี้ ตาย 4 ฟื้น 3 ไม่ฟื้น 1 - ผู้แปล]
https://www.rt.com/news/416572-north-korea-executed-kim-return/

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
22/01/2561
----------
https://www.rt.com/news/416572-north-korea-executed-kim-return/
http://english.chosun.com/site/data/html_dir/2013/08/29/2013082901412.html
http://www.bbc.com/news/world-asia-35543364
http://edition.cnn.com/2015/05/11/asia/north-korea-kim-aunt-poisoned/index.html

 

ปอกเปลือก ทรราช

อัจฉริยภาพของโป๊ปในการเทศน์สั่งสอนแม่ชี



------------

โป๊ป: พวกเธอรู้ไหมว่าแม่ชีซุบซิบนินทาคืออะไร? ผู้ก่อการร้าย! (แม่ชีฮากระจาย) เพราะว่าการซุบชิบนินทากันก็เหมือนระเบิด เมื่อโยนมันเข้าไป มันก็จะก่อให้เกิดความเสียหาย และคุณก็เดินจากไปได้อย่างสะบาย ไม่มีแม่ชีผู้ก่อการร้ายนะ! ไม่มีการซุบซิบนินทา และขอให้รู้ว่าวิธีแก้ไขการซุบซุบนินทาที่ดีที่สุดก็คือ กัดลิ้นตัวเอง อย่าได้ซุบซิบนินทากันในอารามแม่ชี เพราะว่าจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับปีศาจ"
----------
https://www.rt.com/news/416626-pope-francis-nuns-terrorists/
https://www.huffingtonpost.com/entry/gossiping-nunsare-terrists-sayspope_us_5a6526a6e4b002283003f983

 

ปอกเปลือก ทรราช



คลิปกองกำลังเคิร์ด YPG ซุ่มโจมตีรถถังของกองทัพตุรกี ด้วย anti-tank missile ของขวัญจากสหรัฐ ตูมมมมม! ไม่เหลือ มันเป็นกึ่งสงครามตัวแทนภายในของแก๊งนาโต้ (สหรัฐกับตุรกี) บนแผ่นดินซีเรีย สหรัฐใช้พวกเคิร์ดที่กระหายอยากได้มีประเทศเป็นของตนเอง สู้กับกองทัพตุรกีและทหารรับจ้างของตุรกี เรื่องอะไรที่รัสเซียเและซีเรียจะเข้าไปแส่ ปล่อยให้พวกนั้นลุยกันให้เละไปทั้งสองฝ่าย จากนั้นค่อยเข้าไปเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ภายหลังดีกว่า เพราะว่า ถ้าซีเรียเล่นงานเคิร์ด สหรัฐและพันธมิตรก็จะใช้เป็นข้ออ้างในการถล่มกองทัพซีเรียได้อีก เหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว รัสเซียก็ไม่อยากให้มีฉากรัสเซียกับพันธมิตรสหรัฐปะทะกันโดยตรง ดังนั้นจึงถอยออกมาดูห่างๆ สักพัก (ใครล้ม กูซ้ำแน่ ประมาณนั้น) เพราะว่ายังไงซะดินแดนแห่งนั้นก็ยังคงเป็นของซีเรีย
----------------
https://www.youtube.com/watch?v=84Xg87AY2po
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060943580-kurds-destroy-five-turkish-tanks/

 

ปอกเปลือก ทรราช
สนามรบที่เมืองอาฟรินดุเดือดมาก: ตุรกีส่งเครื่องบินรบและยิงปืนใหญ่ข้ามชายแดนถล่มเคิร์ดสมุนสหรัฐเปิดทางให้กองกำลังภาคพื้นดินรุก เคิร์ดโต้กลับด้วยจรวดปริศนาตกในดินแดนตุรกี ลอบโจมตีรถถังกองทัพเติร์กได้อย่างน้อย 3-5 คัน











----------
วันที่ 22 ม.ค. 61 RT พาดหัวข่าวว่า "กองทัพตุรกีขยายปฏิบัติการในซีเรียไปถึงอำเภอ Azaz ทางตะวันออกของ Afrin - สื่อรัฐรายงาน" (Turkish Army extends Syria operation to Azaz district, east of Afrin - state media)
กองทัพตุรกีได้รุกเข้าไปถึงพื้นที่อำเภอ Azaz ในซีเรียแล้ว ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันออกของเมือง Afrin สำนักข่าว Anadolu ของรัฐบาลตุรกีรายงาน การเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากรัฐบาลตุรกีประกาศปฏิบัติการ "ช่อใบมะกอก" (Operation Olive Branch = สัญลักษณ์ของสันติภาพ) ต่อกองกำลังติดอาวุธกลุ่มชาติพันธุ์ชาวเคิร์ดเป็นวันที่สาม
กองทัพตุรกียังคงเดินหน้าปฏิบัติการภาคพื้นดินต่อไป ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวันเสาร์นี้ กรุงอังการาแถลงว่า ได้ทำลายเป้าหมายเคิร์ดไปแล้วทั้งสิ้น 153 เป้าหมายในตอนเย็นวันอาทิตย์ ซึี่งรวมทั้งหน่วยต่างๆของกองทัพเคิร์ดและพวกไอซิสด้วย
[คงไม่ใช่พวกไอซิสหรอก พูดไปอย่างนั้นแหละ ไอซิสกับเติร์กเป็นพวกเดียวกัน ขั้นแรกส่งไอซิสเข้าไปป่วนเคิร์ดและซีเรีย พอถูกจับได้ก็เปลี่ยนชื่อเป็น "กองทัพ FSA กบฏฝ่ายค้านซีเรีย" พอกองทัพตุรกีเข้าไปถึง ก็ส่งมอบพื้นที่ให้ตุรกียึดครองต่อ จากนั้นก็แถลงว่า ยึดได้จากพวกไอซิส - ผู้แปล]
ประธานาธิบดีเทยิป แอร์โดกัน แห่งตุรกีกล่าวเมื่อวันจันทร์นี้ว่า ตุรกีจะไม่ถอนปฏิบัติการจากพื้นที่เมืองอาฟรินเด็ดขาด กรุงอังการาได้ทำข้อตกลงกับรัสเซียเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารในครั้งนี้เพื่อต่อต้านกองกำลังติดอาวุธเคิร์ดที่มีสหรัฐหนุนหลัง (ก่อนหน้านี้แอร์โดกันประกาศว่าจะดำเนินปฏิบัติการทางทหารที่เมืองอาฟรินเป็นการชั่วคราวเท่านั้น)
ในการกล่่าวถ้อยแถลงที่กรุงอังการานั้น ปธน.แอร์โดกันได้เน้นย้ำว่า ตนเองต้องการที่จะสนับสนุนความมั่นคงของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย เนื่องจากตุรกี "ไม่มีแผนการในดินแดนของประเทศอื่น (จริงดิ?)" (Turkey “has no designs on territories of another country.”)
หลายเมืองในจังหวัด Hatay ทางใต้ของตุรกีถูกโจมตีด้วยมิสไซล์หลายลูกจากทางเหนือของซีเรียเป็นเวลาสองวันหลังเกิดศึกหนัก การโจมตีครั้งล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์นี้ เมื่อขีปนาวุธลูกหนึ่งจากฝั่งซีเรียพุ่งโจมตีแคมป์ทหารตุรกีที่มีกองกำลังเสรีซีเรีย (FSA) ตั้งอยู่ที่นั่น มีผู้เสียชีวิต 2 คน ได้รับบาดเจ็บ 12 คน สำนักข่าว Dogan รายงาน
ขณะเดียวกันกองทัพประชาธิปไตยซีเรีย (SDF) ที่มีสหรัฐหนุนหลัง (เคิร์ด) ประกาศว่าจะเสริมกำลังเข้าไปในพื้นที่เมืองอาฟริน เพื่อตอบโต้การโจมตีจากตุรกี
"เรากำลังมองหาความเป็นไปได้ในการส่งกองทหารเพิ่มเข้าไปในเมือง Afrin" Kino Gabriel โฆษกกองกำลัง SDF กล่าว อ้างคำพูดโดยสำนักข่าวรอยเตอร์ส
แถลงการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่นายกรัฐมนตรีของตุรกีเตือนว่า "ไม่ว่าฝายไหนก็ตามที่สนับสนุนอาวุธและลอจิสติกให้กับพวกผู้ก่อการร้าย YPG (เคิร์ด) ในพื้นที่นั้น จะตกเป็นเป้าหมายของกองทัพตุรกีแน่"
วันเดียวกันนี้นาย Yasar Yakis อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของตุรกีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว RT ของรัสเซียว่า สหรัฐไม่รักษาสัญญาที่บอกว่าจะหยุดสนับสนุนอาวุธให้พวกเคิร์ด จึงนำไปสู่ปฏิบัติการที่เมืองอาฟริน
"ถ้าสหรัฐไม่ติดอาวุธให้พวกเคิร์ด ตุรกีก็จะไม่มาถึงจุดนี้แน่นอน (กรุงอังการา) พยายามที่จะมุ่งความสนใจไปที่พันธมิตรของตนเอง [และบอกพวกอเมริกันด้วยว่า] 'คุณไม่ควรติดอาวุธและฝึก และสนับสนุนเครื่องกระสุนให้กลุ่มก่อการร้ายนะ'" Yakis อ้างถึงพรรค PKK ของเคิร์ด ซึ่งกรุงอังการามองว่าเป็นกลุ่มก่อการร้าย
วันที่ 21 ม.ค. 61 Sputnik รายงานว่า กองกำลังเคิร์ด YPG ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอในยูทูป ขณะปล่อยขีปนาวุธต่อต้านรถถังพุ่งเข้าใส่รถถัง Leopard คันหนึี่งของกองทัพตุรกี ที่รุกเข้าไปในพื้นที่เมือง Afrin (เข้าเป้าได้อย่างแม่นยำ ฟิ้วววว… ตูม!)
"ผลจากการปะทะกัน สมาชิกของแก๊งนั้นถูกสังหารไป 10 ราย ในหลายจุดในพื้นที่นั้น พวกโจร (กบฏซีเรีย FSA ทหารรับจ้างฝ่ายตุรกี) ได้รับบาดเจ็บราว 20 คน นอกจากนี้แล้ ทหารตุรกีอีก 4 นายถูกสังหารด้วย และก็ได้รับบาดเจ็บหลายนายที่หมู่บ้าน Bilbil" เคิร์ด YPG รายงาน
ประธานาธิบดี บัชชาร์ อัสซาด แห่งซีเรียแถลงว่า "การโจมตีที่โหดร้ายป่าเถื่อนของตุรกี ที่เมือง Afrin เป็นอีกหนึ่งนโยบายของตุรกีแน่นอน ซึ่งรัฐบาลเผด็จการตุรกีพยายามแสวงหาตั้งแต่วันแรกที่เกิดวิกฤตซีเรีย ซึ่งมีพื้นฐานมาจากการสนับสนุนขบวนการก่อการร้าย และกลุ่มก่อการร้ายภายใต้ชื่อต่างๆนั่นเอง" สำนักข่าว SANA ของรัฐบาลซีเรียรายงาน
ซีเรีย อิหร่าน และอียิปต์ ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ตุรกียุติปฏิบัติการรุกรานซีเรียที่อาฟริน (เป็นเกมการเมือง) ส่วนกรุงมอสโคแสดงความคิดเห็นว่า การดำเนินการเพียงฝ่ายเดียวของสหรัฐนั่นแหละที่เป็นการยั่วยุให้ตุรกีต้องโกรธเกรี้ยวแบบนี้
วันที่ 20 ม.ค. 61 วันแรกที่กองทัพตุรกีเปิดฉากถล่มเติร์กทั้งทางอากาศและภาคพื้น มีประชาชนชาวซีเรียในพื้นที่เมือง Arin เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 13 คน รวมทั้งเด็กๆด้วย ทางตุรกีแถลงว่า พวกที่เสียชีวิตในอาฟรินนั้น เป็นพวกผู้ก่อการร้าย ส่วนเคิร์ดบอกว่า พวกเขา (เหยื่อเหล่านั้น) คือพลเรือนที่ไร้อาวุธ พร้อมกับเผยแพร่คลิปแสดงเป็นหลักฐาน
The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
22/01/2561
----------
https://www.rt.com/news/416627-turkish-army-syria-operation/
https://www.rt.com/news/416586-washington-arming-kurds-afrin-operation/
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060943580-kurds-destroy-five-turkish-tanks/
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060937635-turkey-assad-offensive/
https://www.rt.com/news/416560-turkish-town-missile-attack-syria/
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060938458-turkey-reyhanli-rocket-attack-afrin-syria/
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060943580-kurds-destroy-five-turkish-tanks/
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060943244-us-syria-actions-turkey-afrin-fury/
https://sputniknews.com/middleeast/201801221060945553-turkey-syria-afrin-pyd-kurds/
https://www.rt.com/news/416256-turkey-criticize-us-syria/
https://www.rt.com/news/416553-turkey-targets-kurdish-supporters/
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060933405-security-syria-olive-branch/
https://www.rt.com/news/416524-wounded-civilians-syria-afrin/
https://sputniknews.com/middleeast/201801211060928196-syria-afrin-turkey-airstrikes-civilians/

 

ปอกเปลือก ทรราช



ในขณะที่เติร์กและเคิร์ดกำลังตะลุมบอลกันที่เมือง Afrin นั้น กองทัพซีเรียและเครื่องบินรบของรัสเซียก็ถล่มพวกไอซิสและพวกกบฏเติมเงินทางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด Adlib อย่างเมามัน รายงานข่าวในพื้นที่แจ้งว่า ตอนนี้ฝ่ายรัฐบาลสามารถยึดฐานทัพอากาศ Abu Duhur คืนจากพวกไอซิสและพวก FSA ได้แล้ว และกำลังไล่ถีบพวกผัวแพะเหล่านั้นออกจากเมือง Abu Duhur ด้วย
-------------
https://www.almasdarnews.com/articl...airstrikes-idlib-syrian-troops-advance-video/
https://www.almasdarnews.com/article/watch-syrian-army-operation-led-capture-abu-dhuhour-airport/

 

ปอกเปลือก ทรราช



พวกกบฏ FSA ที่เข้าร่วมกับเคิร์ด SDF ตั้งแต่แรก ประกาศว่า ยังไงซะก็จะไม่แยกตัวออกจากเคิร์ดไปรวมกับพวก FSA ของเติร์กแน่นอน (90% ขึ้นไป ของทหาร SDF เป็นเคิร์ด มีแค่ส่วนน้อยเท่านั้นที่เป็นอาหรับ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับเคิร์ด จึงถูกจ้างมาร่วมรบกับเคิร์ด หารู้ไม่ว่า ตนเองก็เป็นเพียงเบี้ยตัวหนึ่งของสหรัฐที่ถูกใช้เพื่อทำลายซีเรียและตุรกีเท่านั้น)
----------
https://www.almasdarnews.com/article/rebel-force-loyal-ypg-denies-defecting-turkey/

 

ปอกเปลือก ทรราช



1.) รัฐบาลซีเรียไม่ได้รุกรานตุรกี ตุรกีเป็นฝ่ายรุกรานซีเรีย

2.) เดิมทีทั้งตุรกีและสหรัฐรวมหัวกันสร้างพวกกบฏ FSA และกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มต่างๆขึ้นมาเพื่อโจมตีซีเรีย อ้างว่า รัฐบาลอัสซาดเป็นเผด็จการ ต้องโค่นล้ม (แต่กลับไม่กล้าทำอะไรซาอุดิอาระเบียและพรรคพวก ซึ่งไม่เคยพบคำว่า ประชาธิปไตยเลย)

3.) รัฐบาลอัสซาดยอมจัดเลือกตั้งทั่่วประเทศ พวกกบฏรับจ้างสมุนต่างชาติไม่ยอมรับ คัดค้านการเลือกตั้ง สหรัฐก็ขวางการเลือกตั้งทั่วไปในซีเรีย และไม่รับรอง แต่ผลกการเลือกตั้ง ฝ่ายอัสซาดชนะอย่างถล่มทะลาย

4.) แม้ว่าสหรัฐจะร่วมมือกับตุรกีในการสร้างพวกกบฏ FSA ขึ้นมา แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐและอียู นาโต้ที่เหลือก็สนับสนุนเคิร์ด SDF ให้งัดข้อกับตุรกี และต่อสู้พวกไอซิสและ FSA ด้วย ในกรณีนี้สหรัฐจึงเล่นไพ่สองมือ หรืออาจจะมากกว่านั้น

5.) ซีเรียขอการสนับสนุนทางทหารจากรัสเซีย อิหร่าน และเฮชบอลเลาะห์ จากเลบานอน (ในเลบานอนเอง ฝ่ายรัฐบาลเป็นพวกเดียวกับสหรัฐและอิสราเอล)

6.) ในตอนแรก ตุรกีมองว่ารัสเซียเป็นศัตรู เนื่องจากรัสเซียเข้าไปทำลายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนระหว่างตุรกีกับพวกไอซิสในซีเรีย สร้างความเสียหายรายได้จากธุรกิจปล้นน้ำมันจากซีเรียให้กับตุรกีและตะวันตกเป็นอย่างมาก

7.) สหรัฐและนาโต้จึงไฟเขียวให้ตุรกีส่ง F-16 ไปลอบยิงเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-24 ของรัสเซียตกหนึ่งลำ นักบินเสียชีวิต รัสเซียแค้นตุรกี จึงคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อตุรกี สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้ตุรกีเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันตุรกีก็ถูกอียูเล่นงานทางเศรษฐกิจเช่นกัน เกี่ยวกับปัญหาผู้อพยพที่ตุรกีส่งเข้าไปในอียู

8.) รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400 และอื่นๆเข้าไปในซีเรีย ทำให้เครื่องบินรบของตุรกีไม่กล้าเข้าไปในน่านฟ้าของซีเรียราว 1 ปีกว่า

9.) ต่อมาตุรกีรู้ว่าถูกสหรัฐและอียู และนาโต้ที่เหลือหักหลัง จากการพยายามทำรัฐประหารและเสี้ยมให้ชนกับรัสเซียแต่กลับไม่ช่วยตุรกี หลังถูกรัสเซียอัดอย่างหนักทางเศรษฐกิจ ตุรกีจึงหันไปขอโทษรัสเซีย ยอมชดเชยค่าเสียหายให้ และขอคืนดีกับรัสเซีย พร้อมทั้งขอซื้อ S-400 จากรัสเซียด้วย รัสเซียก็โอเค อย่างน้อยก็ทำให้พวกนาโต้แตกคอกันเอง

 

ปอกเปลือก ทรราช

หม่องซุ่มเงียบแอบสวีทกับรัสเซีย: กรุงมอสโคส่งมอบเครื่องบินรบ Su-30 หกลำเสริมเขี้ยวเล็บให้ทัพฟ้าพม่า





----------

วันที่ 22 ม.ค. 61 TASS พาดหัวข่าวว่า "กรุงมอสโคส่งมอบอากาศยานสู้รบ Su-30 หกลำให้เมียนมาร์" (Moscow to deliver six Su-30 fighter aircraft to Myanmar)

รัสเซียจะส่งมอบเครื่องบินรบ Su-30 ให้พม่าจำนวน 6 ลำ ตามข้อตกลงระหว่างที่ พล.อ. เซอร์เก ซอยกู (Sergey Shoigu) รมว. กลาโหมของรัสเซียได้เดินทางไปเยือนสาธารณรัฐเมียนมาร์ พล.ท. Alexander Fomin รมช. กลาโหมรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันจันทร์นี้

"ได้มีการทำข้อตกลงร่วมกันว่าเมียนมาร์จะจัดซื้อเครื่องบินรบ Su-30 ของรัสเซียจำนวน 6 ลำ ระหว่างที่รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเดินทางไปเยือนเมียนมาร์ เครื่องบินรบฝูงนี้จะกลายเป็นฝูงบินรบหลักของกองทัพอากาศพม่า เพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ และตอบโต้ต่อภัยคุกคามการก่อการร้ายใดๆ" รมช.กลาโหมรัสเซียกล่าว

พล.ท. Alexander Fomin เปิดเผยอีกว่า อาวุธยุทโธปกรณ์ที่รัสเซียจัดหาให้และประจำการในกองทัพอากาศเมียนมาร์นั้นประกอบด้วย "เฮลิคอปเตอร์โจมตีและลำเลียง Mi-24, Mi-35 และ Mi-17 เครื่องบินรบ MiG-29 เครื่องบินรบฝึกซ้อม Yak-130 ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ Pechora-2 (ภาคพื้นสู่อากาศ)"

พล.ท. Alexander Fomin กล่าวเพิ่มอีกว่า มีทหารพม่าประมาณ 600 กว่านายกำลังศึกษาอยู่ในสถาบันการศึกษาทางทหารระดับสูงของรัสเซีย "ทั้งหมดนี้จะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และแถบมหาสมุทรแปซิฟิกเอเซียตะวันออก (Pacific Rim)"

TASS เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 20-22 มกราคม ปีนี้ พล.อ. เซอร์เก ซอยกู ได้เดินทางไปเยือนประเทศเมียนมาร์อย่างเป็นทางการ ได้ทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองประเทศว่าเกี่ยวกับการอนุญาตให้เรือรบของทั้งสองประเทศเข้าเทียบท่าเรือของกันและกันได้ และได้สนทนากับ พล.อ. อาวุโส Min Aung Hlaing ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพพหม่าด้วย

"เรามุ่งไปที่พลวัตรที่เป็นบวกสำหรับความร่วมมือกันระหว่างรัสเซียกับพม่าในบรรยากาศของการทหาร การผลักดันเพิ่มเติมต่อสิ่งที่ได้ทำข้อตกลงกันไว้ในความร่วมมือทางทหารในปี 2016" พล.อ. เซอร์เก ซอยกู กล่าวขณะพบกับ ผบ.สส. ของพม่า เมื่อวันเสาร์นี้ TASS รายงาน

[ตอนเลือกตั้ง คุณซูจีก็สวีทกับโอบามา เนื่องจากต้องการการสนับสนุนจากสหรัฐและอียูในการเอาชนะการเลือกตั้งเพื่อชิงอำนาจการปกครองจากรัฐบาลทหารพม่ามาอยู่ในมือรัฐบาลพลเรือน สหรัฐหนุนซูจีโดยหวังว่าจะใช้เป็นหุ่นเชิดตัวหนึ่งของตนเองในภูมิภาคนี้ เพื่อกดดันพม่าให้ยอมศิโรราบต่อสหรัฐ สถานการณ์ความไม่สงบในรัฐยะไข่เกี่ยวกับชนกลุ่มน้อยโรฮิงญาจึงเกิดขึ้น จากนั้นโลกตะวันตกนำโดยสหรัฐและกลุ่มประเทศมุสลิมก็รวมหัวกันถล่มพม่าอย่างหนักผ่านสื่อกระแสหลัก โดยกล่าวหาพม่าว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา แต่แทบจะไม่พูดถึงกรณีแก๊งซาอุดิอาระเบียฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเยเมน

ทั้งนี้ก็เพื่อบีบให้พม่าปล่อยให้พวกเบงกาลีโรฮิงญาแยกดินแดนรัฐยะไข่ออกจากแผ่นดินใหญ่ของพม่า แม้ว่าจะเป็นชนกลุ่มน้อยในรัฐนี้ก็ตาม การใช้ศาสนา อ้างความขัดแย้่งทางศาสนาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หรือเครื่องมือสำหรับสร้างความปั่นป่วนปลุกระดมการสนับสนุนและเรียกร้องความเห็นใจจากนานาชาติ

ซูจีและกองทัพพม่ายอมจับมือร่วมกัน และรู้ว่าสหรัฐและพรรคพวกมีวาระซ่อนเร้นในการสนับสนุนพม่าในตอนแรกอยู่แล้ว และกำลังเรียกร้องค่าตอบแทนจากพม่าอยู่ในขณะนี้ เพราะว่าสหรัฐได้ลงทุนไปเยอะแล้ว อย่ากระนั้นเลย พม่าชิ่งไปจับมือกับจีนและรัสเซียบ้าง อย่างน้อยก็เพื่อถ่วงดุลกับสหรัฐในเวทีโลกได้บ้าง เหมือนกับที่รัฐบาล คสช. ของไทยหันไปคบกับจีนและรัสเซียมากขึ้น ในช่วงเวลาที่ไทยกำลังถูกสหรัฐและพวกอียูรังแก และไทยก็ไม่ได้ไปคนเดียว ชวนเพื่อนๆ ร่วมแก๊งอาเซียนไปเยือนทั้งจีนและรัสเซียด้วย สหรัฐแทบจะกัดลิ้นตายในบัดดล

ทุกอย่างมีค่าใช้จ่ายเสมอ ของฟรีไม่มีในโลก มันเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างประเทศต่อกันและกัน ประเทศเล็กหวังได้รับการคุ้มครองจากมหาอำนาจขั้วตรงข้าม หากถูกมหาอำนาจอีกฝ่ายรุกรานหรือแทรกแซง ทั้งรัสเซียและจีนหรือแม้กระทั่งสหรัฐและอียู ไม่มีใครเป็นนักบุญทั้งนั้น ทุกอย่างต้องมีผลตอบแทนเสมอ สหรัฐทุ่มเงิน USAID ช่วยประเทศนั้นประเทศนี้ก่อน จากนั้นก็เข้าไปคิดดอกและเงินต้นในภายหลัง ทำกำไรหลายเท่าจากการค้า "ประชาธิปไตย"

หากต้องการให้รัสเซียและจีนช่วยเป็นปากเป็นเสียงให้กับตนเองในเวทีโลก เพื่อถ่วงดุลกับอีกฝ่าย ก็ต้องมีสิ่งตอบแทนค่าเหนื่อยให้กับกระบอกเสียงใหม่ของตนเองบ้าง ยืมโทรโข่งเขาพูดก็ต้องจ่ายค่าเช่าให้เขา

การตอบแทนหรือสร้างความน่าเชื่อถือในมิตรภาพมักจะมาในรูปแบบของการค้า ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ และความร่วมมือทางทหารก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ด้วย มองจากการที่พม่าคบกับรัสเซียในเรื่องของกองทัพ ในอีกมุมหนึี่งอาจจะกล่าวได้ว่าพม่าเองก็ไม่ได้ฝากชีวิตของตนเองไว้ในอุ้งเล็บมังกรซะทีเดียว ต้องคบกับรัสเซียเพื่อถ่วงดุลจีนบ้าง นั่นคือเกมการเมืองระหว่างประเทศ

คราวนี้มาดูเครื่องบินรบซักเล็กน้อยบ้างนะครับ ประเทศที่ใช้เครื่องบินรบสมัยใหม่ของค่ายรัสเซียในภูมิภาคอาเซี่ยนนี้มี มาเลเซียซึ่งประจำการ Su-30MKM ใน ทอ.ของตนเองแล้ว 18 ลำ MiG-29 สิบลำ และ F/A-18D ค่ายสหรัฐอีก 8 ลำ BAE Hawk 200 ของค่ายอังกฤษ 13 ลำ

อินโดนีเซียประจำการ Su-30MK/MK2 ในกองทัพ 11 ลำ และ Su-35S อีกราว 11 ลำ อินโดนีเซียก็ใช้ผสมค่ายเหมือนกัน มีทั้ง F-16 ของสหรัฐ 24 ลำ, Hawk 200 ของอังกฤษ 24 ลำ, Northrop F-5 ของสหรัฐ 6 ลำ, Embraer EMB 314 ของบราซิล 15 ลำ และ เครื่องบินรบฝึกซ้อม KAI T-50 Golden Eagle ของเกาหลีใต้ (F-16 เวอร์ชั่นเกาหลี) อีก 15 ลำ

เวียตนามมี Su-30MK สี่ลำ, Su-30MK2V จำนวน 40 ลำ (เวียตนามมี S-300 ด้วยนะครับ)

ในสายตาของพวกลิเบอร่านโปรอเมริกาอาจจะมองว่า "สมัยนี้เขาไม่ทำสงครามกันแล้ว เขารบกันด้วยเศรษฐกิจ จะซื้อไปทำไมอาวุธ เอาเงินไปโกงข้าวดีกว่า อุ๊ย… พูดผิดครับ เอาเงินไปแจกคนจนดีกว่า" ปัจจุบันนี้ แม้กระทั่งสหรัฐเองก็ยังมีคนยากจนอยู่ถึง 40 ล้านคน คนไร้บ้านราว 500,000 คน กระนั้นสหรัฐก็ยังคงเดินหน้าเสริมเขี้ยวเล็บให้กองทัพของตนเองอย่างต่อเนื่อง

ถามว่าหม่องจะเอา Su-30 ไปรบกับใคร สมัยนี้เขาไม่ทำสงครามกันแล้วไม่ใช่หรือ? เอาไว้ตบกับ F-16 และ Saab JAS 39 Gripen ของใครแถวๆนี้หละมั๊ง? (แซวเล่นนะครับ อย่าเคืองกันหละ)

ฝันว่า วันหนึ่ง ทอ.ไทยจะมี Su-35S ที่เคยตบ F-22 มาแล้วถึงสองรอบในซีเรีย ไว้ในครอบครองซักฝูงสองฝูง และมี S-400 สำหรับปกป้องน่านฟ้าไทยบ้าง คงไม่มีทางเกิดขึ้นได้ แถวนั้นโปรอเมริกาเยอะ พวกเขาจับเครื่องบินรบของรัสเซียไม่ได้ มือจะพอง กลัวว่าเสนียดจะติดมือมั๊ง? ของรัสเซียจะสู้ของสหรัฐและค่ายนาโต้ได้อย่างไร ดูในหนังฮอลลิวูดและเกมคอมพิวเตอร์สิ รัสเซียแพ้ตลอด แล้วในโลกแห่งความเป็นจริงที่ซีเรียนั่นแหละ (จะพูดถึงทำไมเล่า เดี๋ยวฟ้องเฟซบุคให้ปิดเพจซะเลยนี่ เปลี่ยนเรื่อง!) อิๆ - ผู้แปล]

The Eyes
เพจ: ปอกเปลือก ทรราช
https://www.facebook.com/fisont
https://vk.com/theeyesproject
23/01/2561
----------
http://tass.com/defense/986222
http://tass.com/defense/986024
http://www.aviatia.net/saab-gripen-vs-su-30-flanker-c/
http://www.aviatia.net/gripen-vs-f-16/