แก๊งบุรุษไปรษณีย์ ฉกพุทธรูป มีใบสั่ง-เน้นวัดดัง

http://matichon.co.th/khaosod/view_...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB5TlE9PQ==


แก๊งบุรุษไปรษณีย์ ฉกพุทธรูป มีใบสั่ง-เน้นวัดดัง

เดินสายกวาดทั่วกรุง! จนมุมเพราะลืมถุงจม.




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
โจรบาป- ตร.จับนายไพรัช นวลอนงค์ นายอุชุวัฒน์ ทวีศรี ลูกจ้างบ.ไปรษณีย์ไทย โจรกรรมพระพุทธรูปทองเหลืองเก่าแก่อายุกว่า 150 ปีในวัดดีดวด ย่านบางกอกใหญ่ โดยสารภาพว่าตระเวนลักพระตามออร์เดอร์มาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัด


</TD></TR></TBODY></TABLE>
รวบ 2 หนุ่มพนักงานไปรษณีย์ ใช้รถที่ทำงานลักลอบขโมยพระวัดต่างๆ ทั่วกรุง ล่าสุดฉกพระพุทธรูปอายุนับร้อยปีไปจากวัดดีดวด ย่านจรัญสนิทวงศ์ แฉจนมุมเพราะรีบจนลืมถุงไปรษณีย์ทิ้งไว้ แถมมีพยานเห็นรถวิ่งเข้าออกตอนดึกผิดปกติ ตำรวจบก.น.7 ตามรอยไปถึงที่ทำงานก่อนจับได้พร้อมของกลางพระพุทธรูป 2 องค์และรถที่ใช้เป็นพาหนะ ตะลึงก่อเหตุมาหลายครั้งโดยมีเพื่อนร่วมแก๊งอีกคนทำทีเป็นห่มขาวเข้าไปนั่งวิปัสสนาในวัดแล้วดูลาดเลา พร้อมหาข้อมูลพระพุทธรูปที่ตลาดต้องการ หลังลงมือจะนำไปซุกไว้ในพง หญ้าแล้วถ่ายรูปไปให้ลูกค้าดู หากตกลงกันได้ค่อยย้อนกลับมาเอาของไปส่ง เร่งขยายผลตามจับพรรคพวกที่เหลือทั้งหมด

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มี.ค. พ.ต.อ.สมชาย มุสิกะเจริญ รองผบก.น.7 พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.บาง กอกใหญ่ พ.ต.ท.พิสิษฐ์ เก็งทอง สว.สส.สน.บางกอก ใหญ่ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายไพรัช หรือบาน นวลอนงค์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช และนายอุชุวัฒน์ หรือเอ๋ ทวีศรี อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32/5 ตรอกวัดราชสิทธิ์ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่บริษัทไปรษณีย์ไทย สาขาบางกอกใหญ่ พร้อมของกลาง พระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร หล่อด้วยทองเหลืองสูง 150 ซ.ม. จำนวน 1 องค์ พระพุทธบูชาปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว สูง 10 นิ้ว จำนวน 1 องค์ และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว เลขทะเบียน ณก 4425 กทม. ของบริษัทไปรษณีย์ไทย จำกัด

พ.ต.อ.สมชายกล่าวว่า ทั้งนี้ สืบเนื่องด้วยเมื่อวันที่ 12 มี.ค. เวลากลางคืนที่ผ่านมา มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้างัดประตูโบสถ์ภายในวัดดีดวด ซอยจรัญสนิทวงศ์ 12 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ลักพระพุทธรูปสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ตอนต้น จำนวนสององค์ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ ร่วมกับตำรวจกก.สส.บก.น.7 ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบถุงไปรษณีย์ และคีมตัดเหล็กของคนร้ายทิ้งอยู่ที่เกิดเหตุ เชื่อได้ว่าน่าจะเกี่ยวข้องและทำงานอยู่ในไปรษณีย์ จึงสืบสวนจนทราบว่าคนร้ายทำงานอยู่บริษัทไปรษณีย์ ไทย สาขาบางกอกใหญ่ โดยกลุ่มคนร้ายใช้คีมสองอันตัดโซ่คล้องประตูโบสถ์แล้วใช้รถกระบะยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน ณก 4425 กทม. ที่ใช้งานในบริษัทไปรษณีย์ฯคันดังกล่าว ขับเข้ามาจอดขนพระพุทธรูปใส่รถขับหลบหนี ตำรวจติดตามจับกุมได้บริเวณตรอกตาแทน ถนนอิสรภาพ ซอย 7 แขวงท่าพระ เขตบางกอก ใหญ่

สอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าร่วมกับนายปิยพันธ์ หรือน้อยทีป จิตรซื่อ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 220/889 หมู่ 4 ต.ในคลองปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งลักพระพุทธรูป กำลังหลบหนีอยู่ จึงได้ขออนุมัติออกหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.551/2551 ลงวันที่ 23 มี.ค.51 ข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปในเวลากลางคืน จากนั้นพาไปเอาของกลางที่ซุกซ่อนไว้ที่บริเวณพงหญ้าภายในซอยอิสรภาพ 42 แยก 4 จึงได้ยึดของกลางไว้ตรวจสอบ

พ.ต.อ.สมชายกล่าวว่า การสืบสวนจนสามารถจับ กุมคนร้ายแก๊งนี้ได้ เพราะคนร้ายทิ้งหลักฐานสำคัญเป็นถุงไปรษณีย์และคีมตัดเหล็ก ซึ่งคาดว่าอาจจะรีบจนลืม หรือมีคนผ่านมาจึงตกใจและขึ้นรถหนีไปโดยทิ้งถุงไปรษณีย์ไว้กระทั่งเป็นเบาะแสให้ตำรวจดังกล่าว นอกจากนี้ มีพยานระบุว่าเห็นรถไปรษณีย์คันดังกล่าววิ่งเข้าออกในซอยที่เกิดเหตุช่วงเวลา 03.00 น. โดยคนร้ายกลุ่มนี้จากการตรวจพบว่าเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง โดยเฉพาะนายอุชุวัฒน์ หรือเอ๋ ซึ่งทำงานขับรถส่งพัสดุภัณฑ์ไปรษณีย์ สาขาบางกอกใหญ่ ก่อเหตุเมื่อ ม.ค.51 ลักแจกันลายคราม 1 คู่จากศาลาการเปรียญวัดนางนอง ย่านบางขุนเทียน โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เดือนก.พ.พยายามลักทรัพย์ที่วัดนาถกลาง ซอยโรงเรียนทวีธาภิเษกถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้อะไรไป และเดือนมี.ค.ลักทรัพย์ที่วัดหงษ์รัตนาราม หลังสน.บางกอก ใหญ่ แต่ไม่ได้ทรัพย์สินไปเช่นกัน

พ.ต.อ.สมชายกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ทั้งนายไพรัช และนายอุชุวัฒน์ จะลักทรัพย์ทั่วไปตามวัด อาทิ วัดราชสิทธาราม วัดใหม่พิเรนทร์ วัดอรุณราชวราราม วัดจำปา วัดใหญ่ตลาดพลู จนกระทั่งมาเจอกับนายน้อยทีป อ้างตัวเป็นนักเลงพระ ชอบนุ่งขาวห่มขาว ทำตัวเป็นคนธรรมะธรรมโม เข้าวัดฟังเทศน์ฟังธรรม ซึ่งจะอาศัยในช่วงนี้คอยดูลาดเลาทรัพย์ของมีค่าภายในวัดในโบสถ์ จากนั้นจะทำแผนผังเพื่อให้ทั้งสองคนเข้าไปโจรกรรม ให้ค่าจ้างนายไพรัช และนายอุชุวัฒน์คนละ 2,000 บาท โดยการวางยาเบื่อหมา ใช้อุปกรณ์งัดตัดโซ่คล้องประตูเข้าไปลักพระพุทธรูป จากนั้นนำพระพุทธรูปไปซุก ซ่อนไว้พงหญ้าบริเวณซอยอิสรภาพ 42 ทิ้งไว้นาน 1-2 เดือน เพื่อให้เรื่องเงียบก่อน หรือบางครั้งจะเอาพระปลอมที่เลียนแบบไปวางไว้แทนเพื่อตบตาเจ้าทรัพย์ แล้วถ่ายรูปนำไปให้ลูกค้าดูเพื่อเจรจาซื้อขาย ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นพวกผู้ใหญ่ และลูกค้าชาวต่างชาติ ตำรวจจะได้สืบสวนขยายผลเพื่อจับกุมตัวนายน้อยทีป ที่ยังหลบหนีต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานหลังจากเจ้าหน้าที่นำพระพุทธรูปส่งคืนให้กับวัดดีดวด มีชาวบ้านทราบข่าวต่างแห่กันมา รอดูหน้าโจรและด่าสาปแช่งคนร้าย พร้อมกันกราบไหว้พระพุทธรูปสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ซึ่งประเมินค่าไม่ได้ ที่ตำรวจสามารถติดตามกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว

 

ทำดีย่อมได้ผลดี....ทำชั่วก็ย่อมได้ผลชั่วตอบเช่นกัน

 

น่าสงสารมากครับ...ไม่รู้ว่าภพหน้าจะไปอยู่นรกขุมไหน...อย่าไปว่าเขาเลยนะครับ

 

แน่นอนเลยคับว่าแก๊งนี้ต้องไปอยุ่วิมานที่ร้อนๆกะไอ้พวกแก๊งลอกทอง

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คดีโจรกรรมพระย่านบางกอกใหญ่ไม่คืบหัวหน้าแก๊งยังลอยนวล!!</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9510000035615</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>25 มีนาคม 2551 11:34 น.




</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>นายปิยพัทธ์ หรือน้อย จิตซื่อ อายุ 55 ปี เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามจับตัวมาดำเนินคดี</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ตำรวจนำผู้ต้องหาร่วมแก๊งที่จับกุมตัวได้มาแถลงข่าว</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ตร.เร่งตามล่าเซียนพระขาใหญ่ฉายา "น้อย จิตซื่อ" หัวหน้าแก๊งลักพระมาดำเนินคดี ล่าสุดลงพื้นที่จ.สมุทรปราการกดดันหลังได้กลิ่นกบดานบ้านญาติ พร้อมระบุหัวหน้าแก๊งคร่ำหวอดในวงการพระมานานกว่า 30 ปี เคยเป็นถึงกรรมการตัดสินการประกวดพระเครื่องระดับชาติ ชอบวางตัวน่าเชื่อถือ พระส่วนใหญ่ที่ลักไปจะนำขายนักการเมืองและส่งออกนอก

จากกรณีที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สืบสวน บก.น.7 ร่วมกันกับ ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ ทำการจับกุมนายอุชุวัฒน์ ทวีศรี อายุ 41 ปี ลูกจ้างขับรถขนส่งพัสดุภัณฑ์ บจก.ไปรษณีย์ไทย สาขาบางกอกใหญ่ และนายไพรัช นวลอนงค์ อายุ 38 ปี 2 ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุงัดประตูโบสถ์วัดดีดวด ถนนจรัญสนิทวงศ์ แล้วลักพระพุทธรูปโบราณออกมาจำนวน 2 องค์ ก่อนขนใส่รถกระบะของ บจก.ไปรษณีย์ ไทย นำไปซุกซ่อนไว้ในภายในพุ่มไม้ซอยอิสรภาพ 42 แยก 4 จนถูกตามจับกุมได้ในที่สุด จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ทราบว่ายังมีหัวหน้าแก๊งที่หลบหนีไปได้อีก 1 คน คือนายปิยพัทธ์ หรือน้อย จิตซื่อ อายุ 55 ปี ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้(25 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. มีรายงานจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ นายหนึ่ง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สืบสวน บก.น.7 มาทำการประสานเอาข้อมูลจากฝ่ายสืบสวน สน.บางกอกใหญ่ เพื่อช่วยกันออกติดตามนายน้อย ตามบ้านญาติ และบ้านผู้ที่รู้จักคุ้นเคย โดยล่าสุดมีแหล่งข่าวแจ้งเข้ามาว่านายน้อย หลบหนีไปกบดานอยู่กับญาติคนหนึ่ง ในพื้นที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ซึ่งฝ่ายสืบสวนจะเร่งรัดลงไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อกดดันให้นายน้อย ออกมามอบตัวต่อไป

 

เศร้าใจจัง

 

กรรม กรรม กรรม

 

ขอให้ตำรวจจับไอ้หัวหน้าแก๊งได้ไวๆด้วยครับ ชั่วจริงๆ นรกรออยู่

 

ถ้าจับได้แล้ว ก็น่าจะไล่ไปเอาผิดถึงคนรับซื้อด้วยนะครับ
ต่อไปจะได้ไม่มีใครอยากรับซื้ออีก ใครจะรับซื้อจะได้กลัวๆกันบ้าง
พระพุทธรูปมีทั้งคุณค่าทางจิตใจ และ คุณค่าทางประวัติศาสตร์
โขมยเอาไปแลกกับเศษเงินเล็กน้อย ช่างไม่คุ้มเสียจริงๆ เสียดายครับ
ถ้าเก่งขนาดโขมยได้แบบนี้ น่าจะไปประกอบอาชีพสุจริตดีกว่า
ถ้าคนเราไม่เลือกงาน หนักเอาเบาสู้ ผมว่างานดีๆยังมีเหลืออีกเยอะแยะเลยครับ

 

นี่ละเขาจึงบอกว่า เป็นข้าราชการไม่มีศีลก็สิ้นเเล้ว ดังนั้นการที่เรามียศฐาบรรดาศักดิ์ ก็ไม่ใช่เครื่องรับประกัน ความดี ไม่ได้แบ่งเเยกว่า คนนี้เป็นข้าราชการ ระดับนั้นระดับนี้เเล้วจะสามารถขึ้นสวรรค์ได้ คนธรรมดาชาวไร่ชาวนาต้องตกนรกเท่านั้น ไม่มีพระไตรปิฎกเล่มไหนกล่าวเอาไว้ แต่การกระทำนี่ละเป็นการกล่าว และบอกเอาเองดังการขโมยพระจากเจ้าหน้าที่ ไม่น่าเลย แต่ขออนุโมทนากับคุณตำรวจละกันที่ช่วยภัยศาสนาได้ สาธุครับ

 

เห็นด้วยค่ะ (good)

 

น่าสงสารนะครับ ทำแบบนี้
ไหม้อยู่อีกนานเลย ไม่น่าเลย
กว่าจะได้ขึ้นมา กว่าจะได้เปนมนุษย์อีกครั้ง....

 

โคตรโง่เลยพวกนี้ ชาตินี้เกิดมาขาดทุนย่อยยับ ไม่ต้องรอภพหน้าหรอก แทนที่จะได้นอนห้องแอร์เย็นๆ สบายๆ นอนคุกแหงๆ

 

คนพวกนี้จิตใจตํ่ามากๆ หัวหน้าแก๊งขอให้ตํารวจจับใด้เร็วๆนะครับ ใช้นามสกุลว่า"จิตซื่อ" แต่เจ้าตัว"จิตทราม"มากๆเลย

 

โลกนี้พร่องอยู่เป็นนิจ เพราะเป็นทาสของความอยากได้ อยากมี อยากเป็น นรกจึงไม่ว่างจากพวกคนพาลผุ้โง่เขลาทั้งหลาย

 

มันเกิดอะไรขึ้นกับจิตใจของคนบางกลุ่ม พวกนี้คิดอะไรถึงมีจิตใจต่ำถึงขนาดนี้ ทำไมช่วงนี้ข่าวโจรกรรมเกี่ยวกับสมบัติสาธารณะ สมบัติชาติ โดยเฉพาะการโจรกรรมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธศาสนามีให้อ่านบ่อยจัง จิตใจของคนพวกนี้ทำด้วยอะไร ถ้าไม่เชื่อเรื่องกฏแห่งกรรม ก็น่าจะคิดว่าอะไรควรไม่ควรบ้าง น่าเศร้าใจเหลือเกิน

 

ไม่กลัวนรกกันเลบนะ

 

http://matichon.co.th/khaosod/view_...ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHdNeTB5T0E9PQ==

ถุงไปรษณีย์ไขปม!?! รวบแก๊งโจรลักพระ ทิ้งหลักฐานให้ตามจับ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ยิ่งยศ เอกมานะชัย เรื่อง/ภาพ




<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>
แก๊งองค์บากตระเวนลักพระพุทธรูปยังคงอาละวาดไปทั่ว

ไม่นานมานี้มีแก๊งขโมยพระซึ่งอ้างเป็นพนักงานไปรษณีย์ใช้รถของไปรษณีย์ขับตระเวนลักพระพุทธรูปตามวัดต่างๆ ทั่วกรุง ได้พระพุทธรูปเก่าแก่ไปมากมาย แต่สุดท้ายก็ต้องมาจนมุมหลังจากก่อเหตุขโมยพระพุทธรูปอายุนับร้อยปีจากวัดดีดวด ย่านจรัญสนิทวงศ์ เพราะคนร้ายดันลืมถุงไปรษณีย์เอาไว้ จนกลายเป็นหลักฐานให้ตำรวจตามจับกุมจนได้

พวกนี้ทำผิดแบบไม่กลัวนรก!!

ย้อนกลับไปดูเหตุคนร้ายขโมยพระพุทธรูปเกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 12 มี.ค.ที่ผ่านมา มีกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปงัดประตูโบสถ์ภายในวัดดีดวด ตั้งอยู่ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 12 แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ ท้องที่สน.บางกอกใหญ่ ลงมือโจรกรรมพระ พุทธรูปสมัยกรุงรัตน โกสินทร์ตอนต้น จำนวน 2 องค์ หายไปอย่างไร้ร่องรอย หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สมชาย มุสิกเจริญ พ.ต.อ.สุธีร์ เนรกัณฐี รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ เฉลิมสุข ผกก.สน.บางกอก ใหญ่ พ.ต.ต.ณพพนธ์ ธนภัตนันท์ สว.สส.สน. บางกอกใหญ่ จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ตำรวจจัดทีมไล่ล่าแก๊งองค์บากทันที

พ.ต.อ.เกียรติณรงค์ มอบหมายหน้าที่ให้พ.ต.ต.ณพพนธ์ออกติดตามคนร้าย ซึ่งสารวัตรณพพนธ์ไม่รีรอที่จะหาตัวพวกมันมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือว่าการกระทำครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ท้าทายกฎหมายและไม่ละอายต่อบาป สารวัตรณพพนธ์เริ่มคลำจากหลักฐานถุงไปรษณีย์ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่คนร้ายทำตกไว้ในที่เกิดเหตุ โดยตั้งข้อสงสัยว่าถุงอย่างอื่นก็มี แต่ทำไมคนร้ายจึงต้องใช้ถุงไปรษณีย์

เป็นไปได้หรือไม่ว่าคนร้ายอาจทำงานเกี่ยวข้องกับงานไปรษณีย์!??
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


หลังปักธงไปที่คนกลุ่มนี้ ตำรวจสืบสวนสน.บางกอกใหญ่ จึงเริ่มเดินหน้าหาตัวผู้ต้องสงสัยทันที อันดับแรกออกหาเบาะแสจากพยานแวดล้อมใกล้วัด ว่ามีใครเห็นคนทำงานไปรษณีย์เข้ามาป้วนเปี้ยนแบบมีพิรุธแถวนี้บ้าง ซึ่งก็เป็นความบังเอิญที่มีพยานรายหนึ่งจำได้ว่าก่อนหน้านี้เห็นรถกระบะอีซูซุ สีขาว ของบริษัทไปรษณีย์ขับวนไปเวียนมาอยู่แถววัดหลายวันแล้ว

เพราะฉะนั้นงานนี้อาจต้องมีคนในวงการไปรษณีย์เกี่ยวข้องด้วยจริงๆ

เมื่อหลักฐานทุกอย่างเริ่มรวมกันเป็นรูปเป็นร่าง พ.ต.ต.ณพพนธ์จึงสั่งเดินหน้าหาบุคคลต้องสงสัยในละแวกใกล้เคียงอีกครั้ง พร้อมกับหาข่าวจากสายในวงการพระเครื่องควบคู่กันไป โดยมุ่งไปที่กลุ่มนักนิยมพระเก่าที่ทำงานเกี่ยวข้องกับงานไปรษณีย์

ไม่นานข้อมูลทุกอย่างก็พรั่งพรูสู่ตำรวจ!!

สายลับให้ข้อมูลมาว่าในกลุ่มนักนิยมพระเก่าที่ทำงานเกี่ยวข้องกับไปรษณีย์ในย่านนี้ มีด้วยกัน 2 กลุ่ม คือ กลุ่มของนายอุชุวัฒน์ หรือ "เอ๋" ทวีศรี อายุ 41 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 32/5 ตรอกวัดราชสิทธิ์ แขวงท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ทำงานเป็นพนักงานขับรถให้กับบริษัทไปรษณีย์ไทย สาขาบางกอกใหญ่ ส่วนอีกกลุ่มก็ทำงานเป็นไปรษณีย์เช่นกัน แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วไม่น่าจะเกี่ยวข้องจึงตัดกลุ่มหลังออกไป

เป้าหมายพุ่งไปที่นายอุชุวัฒน์ทันที

เจ้าหน้าที่เช็กประวัตินายอุชุวัฒน์ พบว่าหมอนี่เป็นพนักงานขับรถของบริษัทรถยนต์ที่รับงานประมูลรถรับ-ส่งจดหมายของบริษัทไปรษณีย์ไทย สาขาบางกอกใหญ่ นายอุชุวัฒน์เลยสวมรอยว่าเป็นคนในบริษัทไปรษณีย์เสียเลย ซึ่งนายอุชุวัฒน์มีนิสัยชอบเล่นพระเครื่องและของเก่าเป็นชีวิตจิตใจ เดินบนถนนสายพระเครื่องคู่กับนายไพรัช หรือ "บาน" นวลอนงค์ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 301 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรี ธรรมราช ซึ่งเป็นเพื่อนคู่หู
<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

</TD></TR></TBODY></TABLE>


พอได้ข้อมูลคร่าวๆ ตำรวจจึงเช็กลักษณะงานของนายอุชุวัฒน์ พบว่าหมอนี่ขับรถกระบะอีซูซุ สีขาว ทะเบียน ณก 4425 กทม. และมีบ้านพักอยู่แถววัดใหม่พิเรนทร์ ท้องที่สน.บางกอกใหญ่ เจ้าหน้าที่จึงนำลักษณะรถรับส่งจดหมายของนายอุชุวัฒน์ มาให้พยานดูซึ่งพยานยืนยันว่ารถของนายอุชุวัฒน์ เหมือนกับรถคันที่วิ่งเข้า-ออกแถววัดดีดวดก่อนที่พระพุทธรูปจะหาย

เท่านั้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติออกหมายจับกุมทั้ง 2 ทันที

วันที่ 24 มี.ค. ตำรวจสน.บางกอกใหญ่ถือหมายศาลเข้าจับกุมนายไพรัชกับนายอุชุวัฒน์ เอาไว้ได้โดยละม่อม ก่อนที่จะพาไปยึดของกลางเป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร หล่อด้วยทองเหลืองสูง 150 ซ.ม. จำนวน 1 องค์ พระพุทธรูปบูชาปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 8 นิ้ว สูง 10 นิ้ว อีก 1 องค์ ที่ลักไปจากวัดดีดวด พร้อมยึดรถกระบะอีซูซุ ทะเบียน ณก 4425 กทม. ที่ใช้ก่อเหตุไว้ได้เสร็จสรรพ

จากการสอบสวนนายอุชุวัฒน์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหาว่า ออกตระเวนขโมยพระตามวัดต่างๆ มานานแล้ว โดยร่วมมือกับนายปิยพันธ์ หรือ "น้อยทีป" จิตรซื่อ อายุ 55 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 220/889 หมู่ 4 ต.ในคลองปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง ตำรวจจึงขออนุมัติออกหมายจับศาลจังหวัดตลิ่งชันที่ จ.551/2551 ลงวันที่ 23 มี.ค.51 ออกไล่ล่านายปิยพันธ์ฐานร่วมกันลักทรัพย์ทันที

สำหรับแผนโจรกรรมพระพุทธรูปวัดดีดวด "อุชุวัฒน์" เล่าว่า ก่อนลงมือได้ขับรถไปรษณีย์วนเวียนดูลาดเลาหลายครั้ง ครั้งล่าสุดขับมาดูก่อนลงมือ 3 วัน เลือกใช้รถไปรษณีย์ทำงานเพื่อจะได้ไม่เป็นที่สงสัยกับชาวบ้าน ส่วนขั้นตอนการขโมยพระพุทธรูปเริ่มขึ้นโดยนายปิยพันธ์ ทำทีเป็นพวกนักปฏิบัติธรรม นุ่งขาวห่มขาวมาดูพระพุทธรูปเป้าหมาย แล้วกลับไปวางแผนเข้าโจรกรรมพระตอนตี 1 ของวันเกิดเหตุ โดยนายปิยพันธ์เป็นคนลอบเข้าไปวางยาเบื่อสุนัข เพื่อเปิดทางให้ตนเองกับนายไพรัชใช้คีมตัดโซ่คล้องประตูเข้าไปลักพระพุทธรูป แล้วนำพระพุทธรูปไปซ่อนไว้พงหญ้าบริเวณซอยอิสรภาพ 42 เพื่อรอให้เรื่องเงียบ ก่อนทำการขนย้ายไปขายให้ผู้ใหญ่และลูกค้าชาวต่างชาติที่สั่งออร์เดอร์ไว้

แต่สุดท้ายก็ต้องมาโดนจับแบบนี้

ตำรวจสืบประวัตินายอุชุวัฒน์ พบว่าก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เมื่อม.ค. 51 ก่อเหตุลักแจกันลายคราม 1 คู่จากศาลาการเปรียญวัดนางนอง ย่านบางขุนเทียน โดยใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ เดือนก.พ.พยายามลักทรัพย์ที่วัดนาถกลาง ซอยโรงเรียนทวีธาภิเศกถึง 3 ครั้ง แต่ไม่ได้อะไรไป และเดือนมี.ค.ลักทรัพย์ที่วัดหงษ์รัตนาราม หลังสน.บางกอกใหญ่ ก็ไม่ได้ทรัพย์สินอะไรไปเช่นกัน จนกระทั่งมาลงมือที่วัดดีดวดจึงถูกจับได้

การได้พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองส่งคืนให้กับวัดดีดวด ทำให้ชาวบ้านและพระสงฆ์ต่างพากันดีใจที่เห็นตำรวจตามจับคนร้ายได้ หลายคนตะโกนสาปแช่งคนร้ายขอให้ตกนรกหมกไหม้

เท่านี้ก็ถือว่าเวรกรรมตามทันแล้ว!!

 

I feel sorry for those 2 guys, they did very bad sin. I hope after they served their time in prison they will change to be good person. So sad for you two.