มีใครเคยรู้สึกเหมือนกันบ้างมั้ยคะ ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งเบื่อโลก เหมือนเราอยู่ผิดที่ผิดทางค่ะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Alice.inwonderland, 17 มีนาคม 2018.

  1. Alice.inwonderland

    Alice.inwonderland สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    เมื่อก่อนนี้รู้สึกเฉยๆกับทางสายนี้นะคะ เหมือนเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอชีวิตมาถึงจุดที่เรามีความทุกข์มากผิดหวังมากในเรื่องความรัก ทำให้เราหันมาพึ่งธรรมะ และได้เริ่มปฏิบัติค่ะ
    ยิ่งปฏิบัติ ยิ่งได้เรียนรู้ ก็ยิ่งทำให้เรารู้สึกเบื่อโลก เบื่อสังคม เบื่อทุกอย่าง รู้สึกจริงๆว่าเรามาอยู่บนโลกนี้แบบผิดที่ผิดทาง ราวกับว่ามันไม่ใช่ที่ของเราเลยค่ะ เหมือนตามหาบางอย่างในชีวิตแต่ยังหาไม่เจอ หรือว่าชีวิตมันขาดอะไรไปสักอย่างที่ไม่รู้ว่าคืออะไร
    พยายามคิดนะคะว่าเราเกิดมาก็แค่เพื่อใช้กรรมที่เราเคยทำไว้ แต่หลายๆครั้งมันก็จะมีคำถามเดิมๆวนเวียนอยู่แบบนี้ เลยอยากรู้ว่า มีใครที่เคยรู้สึกแบบนี้บ้างมั้ยคะ

    ขอบคุณนะคะ
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ปรกติ

    เรื่องที่บอกเล่ามานั้น เป็นปรกติ ของคนที่เริ่มต้น เบื้องต้นทางสายนี้

    อีกหน่อย ถ้าได้ปฏิบัติกรรมฐาน เดี๋ยวก็จะเริ่มรู้ รู้ทาง มากขึ้นไปเอง ไม่วนเวียนอยู่ที่เดิม
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,053
    ค่าพลัง:
    +3,465
    เวลา เหน สภาวะ การให้ผลของกรรม

    อย่าเลือกข้าง เหน เฉพาะ ที่เผ็ดร้อน รวดเร็ว รุนแรง

    ให้เห็น ที่มัน เย็น ชิวๆ เอ้อระเหย ด้วย

    ฉลาดกว่านั้น ต้องยกเห็น ผลของวิบาก ที่เปน อัพยากฤติ

    ถ้า ยกเหน สภาพ อัพยากฤติ ก็ เปน การให้ผลของกรรม

    จิต จะถึงบ้าน

    จะรู้ว่า สิ่งที่ขาด ที่ตามหา คือ การเหน สัจจ ทุกสิ่งเกิดจากเหตุ

    ดับก้เพราะเหตุดับ

    เหตุยังมี ก้ ยังมีการให้ผล

    บ้าน คือ การเหนอริยสัจจ จบลงที่รู้ บริบูรณ์ บริสุทธิ

    บ้าน ไม่ใช่เมืองแก้ว ที่ยังต้องเคลื่อนไปหา มีอุปาธิเหลือ หลงทาง
     
  4. nilakarn

    nilakarn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    3,604
    ค่าพลัง:
    +3,014


    อารมณ์เบื่อๆ จะเป็นเครื่องบอกทางว่า
    ตัวเราได้ทำวิปััสสนา หรือ เจริญวิปัสสนา
    มาอย่างถูกต้อง ตรงทางดีแล้ว

    ต่อไป ให้พิจารณาถึง การเกิดมาของตัวเรา
    ไม่ว่า จะเกิดเป็น สัตว์ในอบาย สัตว์มนุษย์ สัตว์เทวดา
    สามอย่างนี้ เราเกิดทีไร เป็นทุกข์ทั้งนั้น
    หากเกิดในอบาย ก็จะมีทุกข์มาก
    หากเกิดในโลกมนุษย์ ก็มีทุกข์น้อยหน่อย
    หากเกิดในสวรรค์ ก็มีทุกข์เพียงเล็กน้อย แต่ก็ยังเป็นทุกข์

    ทรง อารมณ์เบื่อการเกิด เอาไว้
    ไม่ว่าจะทำงานทำกิจอะไรอยู่
    พอว่างปุ๊บก็ให้นึกถึงอารมณ์เบื่อการเกิดทันที
    จะบรรลุธรรมได้ไว
     
  5. สมิง สมิง สมิง

    สมิง สมิง สมิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    1,135
    ค่าพลัง:
    +952
    ...เมื่อพบทุกข์จึงพบธรรม หรือพบความจริงในชีวิต ประโยคนี้ใช้ได้ตลอดกาล คนที่หันหน้ามาเดินทางธรรม ส่วนมากมักจะมีความรู้สึกว่าตัวเองทวนกระแสของโลก ของกิเลสที่ยั่วยวน ไม่ได้ทำตัวแตกต่างจากสังคม แต่เพราะความรู้สึกและอุดมการณ์ภายในจิตใจที่แตกต่างไป ก็เท่านั้น....
    ...คนเราเกิดมา เหมือนได้รับการันตีทันทีว่า " คุณเกิดมาคุณต้องตายนะ " เหมือนได้รับคำตัดสิน จาก ทานพญามัจจุราช แต่ว่าในความเป็นจริงคนเรากลับมองข้ามไป เพราะความเพลิดเพลิน หลงในเพศ ในวัย หลงกับสิ่งยัวยุ ยั่วยวนต่าง ๆ ตลอดการมีชีวิตอยู่ กับใช้ชีวิตไม่คุ้มค่า ในที่สุดก็ต้องย้ายภพภูมิไป ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวว่า " ย้ายบ้านย้ายที่อยู่ยังเอารถ ทรัพย์สินเงินทองติดตัวไปได้ แต่ถ้าย้ายภพภูมิ สิ่งที่นำไปได้ ก็มีแต่เพียง บาป และ บุญ เท่านั้น "
    ...คนเราเกิดมามีหน้าที่ ชดใช้กรรมเก่า และสร้างกรรมใหม่ และสำหรับคนที่เริ่มจะค้นหาตัวเองเจอว่า ชีวิตของเราต้องการอะไรกันแน่ มันขาดอะไรไปบางอย่างเหรอ จริง ๆ แล้ว สิ่งนั้น ก็ คือ " ความสุข " นั่นเอง คนเราไม่ได้พบความสุขจริง ๆเลย ความสุขที่ทำให้เรารู้สึกดีตลอด ไม่ใช่ความสุขที่เจือด้วยความทุกข์ สุขชั่วประเดี๋ยว ประด๋าว แบบนี้ เพราะ ฉนั้นเราต้องหาความสุขให้กับตัวเองให้เจอ ความสุขที่ีเป็นสุดยอดจริง ๆ มี มีอย่างแน่นอนไม่ว่าจะเป็นโลกียสุข (ความสุขทางโลก) และ โลกุตรสุข (ความสุขทางธรรม) แต่ว่ามีสำหรับคนปฏิบัติธรรม คนสร้างบารมีเท่านั้น ถึงจะมีได้ เชืื่อ อย่างแน่นอนว่าทุก ๆ คนสามารถทำได้......


    ...อนุโมทนาบุญ....
     
  6. zalievan

    zalievan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    3,264
    ค่าพลัง:
    +5,219
    ผมว่าชีวิตของ จขกท อาจจะขาดความเข้าใจในธรรมดาของโลกอยู่ครับ
    คนเราไม่ได้เกิดมาใช้กรรมอย่างเดียวหรอก แต่เกิดมาทำกรรมใหม่กันด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกทำกรรมดีเพื่อทำให้เราเจอแต่วิบากกรรมที่ดีสืบไป หรือทำกรรมไม่ดีใหม่ให้เกิดขึ้น เพื่อที่จะเจอเรื่องแย่ ๆ ต่อไป แหละครับ
    สิ่งที่ถูกต้องที่สุดก็คือ คนเราเกิดมาเพราะความไม่รู้ต่างหาก ถ้ารู้ว่าเกิดมามีแต่ทุกข์คนเราคงไม่มาเกิดแน่ ๆ

    ผมเบื่อโลกมาตั้งแต่เด็ก ๆ ครับ เป็นคนคิดต่างจากคนอื่น และกีดกันตัวเองออกจากสังคมมาตั้งแต่เด็ก (เพราะไม่เข้าใจสังคม ความจริงก็คือ เป็นคนโง่มาตั้งแต่เด็กด้วย เพราะคิดไม่ค่อยจะถูกทางกับชาวบ้านช่วช่องมาตั้งแต่เด็ก โดยไม่ได้มีการแก้ไข เพราะความไม่รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่ถูกต้องที่เขาทำ เพราะเราเห็นความไม่ถูกต้องแล้วเราก็ไม่เข้าใจมัน และผมก็โง่อยู่อย่างนั้นแหละครับ เพราะคิดแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กและไม่ได้รับการแก้ไขจากใครเลย) สิ่งที่ตามหามาตลอดก็คือ ที่ ที่เราจะสามารถอยู่ได้อย่างมีความสุขและได้ดั่งใจเรา

    แต่ พอมาเรียนรู้ธรรมมะ และเข้าใจธรรมมะ ก็ได้เข้าใจว่า มันไม่มีที่ที่ได้ดั่งใจเราหรอก ถึงมีก็มีน้อย เพราะโลกมันเหมือน ที่รวมของคนไม่รู้ และเราก็แค่คนไม่รู้อีกคนหนึ่งที่เข้ากับโลกนี้ไม่ได้ก็เท่านั้น

    มันก็เบื่อโลกไม่หายน่ะนะครับ แต่พอพิจารณาความเป็นจริงของโลกตามหลักธรรมไปเรีอย ๆ มันจะมีความสุขมากขึ้นเองที่เราได้เข้าใจธรรมดาของโลกมากขึ้น ก็คืออย่างน้อยก็มีความสุขที่ไก้รู้ แต่ก็ยังเบื่อโลกอยู่ดีน่ะแหละ เบื่อโลกที่คนเราต่างทำกรรมต่อกันด้วยความไม่รู้ และเป็นไปตามกรรมเพราะความไม่รู้....

    ตอนนี้ผมค้นพบแล้วว่า ถ้าอยากเข้าใจธรรมดาของโลกก็ต้องตั้งคำถามให้ถูกก่อน ว่าธรรมดาคืออะไร และธรรมดาของสิ่งนี้(ที่เราจะพิจารณา) ที่มีความเกี่ยวข้องกับหลักธรรมใด ๆ เป็นอย่างไร

    เช่น ทำไมพระพุทธเจ้าสอนเรื่องสังคหวัตถุ 4
    ก็ถามตัวเองว่าธรรมดาของมนุษย์เป็นอย่างไร

    หรือ การฆ่าสัตว์ทำให้อายุสั้นจริงหรือ
    ก็พิตจารณาว่า ธรรมดาของสัตวโลกที่ถูกเบียดเบียน เป็นอย่างไร

    เป็นต้น

    จะช่วยให้เข้าใจธรรมได้เร็วขึ้น

    พอเข้าใจว่าธรรมดาว่าเป็นอย่างไร อาจจะทำให้เข้าใจหลักธรรมอื่น ๆ ที่พระพุทธเจ้าสอนไปพร้อม ๆ กันเลยก็ได้นะครับ ตอนผมเข้าใจธรรมดาใหม่ ๆ ผมรู้สึกเหมือนมีคนจุดดอกไม้ไฟในหัวเป็นชุด ๆ เลย


    ความสุขส่วนใหญ่ของผมในทุกวันนี้ ก็คือ การเข้าใจธรรมดาของโลก การได้เข้าใจเหตุผลที่มนุษย์ และสัตว์โลก เป็นไปตามเรื่องราวของพวกเขาครับ

    มันอธิบายไม่ถูกน่ะ
    เหมือนผมเป็นคนมืดบอดที่มีตาแต่มองไม่เห็นเพราะอยู่ในความมืด(คนโง่) ที่ได้ไฟฉาย(หลักธรรม) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ค่อย ๆ เห็นโลกนี้ได้อย่างแจ่มแจ้งขึ้น ทีละนิด ๆ น่ะครับ
    เป็นความสุขที่ยั่งยืน แบบเล็ก ๆ ที่ได้มาจากการเข้าใจธรรมดา

    เป็นความสุขที่ได้มาจากการปฏิบัติแบบเรียนรู้ ที่ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นความสุขที่ยั่งยืนได้อยู่นะ เพราะความเข้าใจนั้น ถ้าเข้าใจถูกแล้วมันไม่มีสูญหายไปไหนจนตายนั่นแหละครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2018
  7. Alice.inwonderland

    Alice.inwonderland สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2018
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    ขอบพระคุณทุกๆท่านนะคะ
    อ่านแล้วได้ข้อคิดดีดีในการใช้ชีวิตมากขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ ❤❤❤❤
     
  8. aneka9119

    aneka9119 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +47

    เห็นด้วยกับท่านนะ..

    การปฏิบัติธรรม คือการเจริญสติและเดินปัญญาให้มองเห็นโลกตามความเป็นจริง .. และที่สุดคือการถอดถอนอุปาทานความเปนเจ้าของขันธ์ทั้ง5

    อาการเบื่อโดยปัญญาทางโลก ยังเป็นวิภวตัณหาอยู่ และยังป็นอาการของจิตแบบนึงเท่านั้น
     
  9. hastin

    hastin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,115
    ค่าพลัง:
    +3,085
    การเบื่อ บางครั้งเกิดจาก ไม่ได้ ไม่มี ไม่เป็น ตามใจปราถนา สะสมมากๆเข้าก็เกิดความเบื่อขึ้นได้
    แต่ท่านเริ่มมาปฎิบัติแล้ว เริ่มมองสิ่งต่างๆตามความเป็นจริงแล้ว
    จุดนี้เป็นจุดสำคัญ แสดงว่าจิตเริ่มเบา เริ่มยอมรับความจริง
    ให้ทวน ศีล 5 กุศลกรรมบท 10 พรหมวิหาร 4 ซึ่งถ้ามาถึงตรงนี้ได้ มันก็มีอยู่แล้ว เพียงแต่ให้มันชัดขึ้น
    แล้วก็เพิ่ม มรณานุสติ เข้าไปบ่อยๆ และสำรวมกาย วาจา ใจ ให้มันเบาขึ้นไปอีก ข้ามเขาได้เลย
    จิตคน
    จิตเทวดา
    จิตพรหม
    ข้ามเขา
    โสดาบันมรรค
     
  10. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    พระอริยเจ้าทั้งหลายท่านมีความสงสารโลกครับ
    ถ้าท่านทั้งหลายเบื่อโลกพวกเราและ
    สัตว์โลกคงแย่
    โลกจะขาดผู้ธำรงพระธรรมวินัย
    และผู้บริสุทธิ์เผยแพร่ศาสนา
    ให้แก่เราและเหล่าเวไนยสัตว์
    ดังนั้น ถ้าเข้าถึงธรรมถูกตรง
    คงจะร่าเริงบันเทิงชีวิตมากกว่าเบื่อโลกและความเมตตาจะบังเกิด
    จนอยาก ให้ผู้คนอื่นๆ
    พบความสุขเหมือนเรา
    จึงจะถูกทางครับ
     
  11. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,942
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ถาม : มีบางครั้งผมมีความรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองนี้เต็มไปด้วยทุกข์ มีแต่โทษแก่ตัวเองไม่มีคุณเลย กามที่ว่าเป็นสุข ก็รู้สึกว่าสุขไม่จริง เพราะยังมีร่างกายอยู่ ทุกอย่างในโลกที่ทำแล้วรู้สึกว่าเป็นสุข สนุกสนาน รื่นเริง ก็สุขไม่จริง เพราะยังมีร่างกายอยู่ อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้สึกร้อน หนาว เหนื่อย อึดอัด ปวดเมื่อย

    พอคิดได้แบบนั้นจิตก็รู้สึกว่าเบานิดหน่อย แล้วเวลานึกไปไหนมาไหน เช่น คิดว่าตอนนี้เรากำลังนั่งกราบพระอยู่ ก็สามารถนึกได้แบบถนัด ไม่ขัดข้อง ง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ความรู้สึกแบบนี้อยู่ได้ไม่นาน อารมณ์ก็กลับมาเป็นแบบเดิม คือ รู้สึกหนัก ๆ เห็นว่าความสุขในโลกก็อาจจะยังมีความสุขอยู่บ้าง อาหารอร่อยก็รู้สึกเป็นสุข พอความรู้สึกแบบนี้กลับมา ก็ปรากฏว่าเวลานึกไปกราบพระทีไรก็นึกได้ไม่สะดวกนัก ต้องใช้แรงเยอะมาก กว่าจะนึกได้

    ไม่ทราบว่าอาการนี้คืออะไรครับ และทำอย่างไรจึงจะสามารถทำให้ความรู้สึกแบบนี้อยู่ได้ตลอดครับ ?

    ตอบ : อันดับแรก สิ่งที่เรารู้สึกได้เพราะว่าเราคิดพิจารณาในหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนกระทั่งความดีส่วนหนึ่งทรงตัวอยู่ เมื่อเราไปคิดถึงภาพพระที่เป็นความดีใกล้เคียงกัน จึงสามารถที่จะกำหนดได้ง่าย หรือรู้เห็นได้ง่าย แต่พอกิเลสท้วมท้นใจเข้ามา ก็เหมือนกับคนโดนขยะท่วมทับอยู่ จะตะเกียกตะกายไปไหว้พระก็ต้องฝ่ากองขยะออกไปด้วยความยากลำบาก

    ดังนั้น...ส่วนที่ว่ามานี้ สิ่งที่ควรทำมากที่สุดก็คือ พยายามรักษาการพินิจพิจารณาแบบนั้นไว้ให้บ่อย ๆ จนกระทั่งสามารถกำหนดใจถึงได้ทุกเวลา เมื่อถึงเวลาเราเห็นจริงแล้วว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นทุกข์ หมดความยึดติดในร่างกาย คราวนี้เราจะไปที่ไหนเราก็ไปได้สะดวก เพราะว่ากำลังใจไม่เกาะร่างกายแล้ว

    http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=5866
     
  12. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    มันเป็นจุดหักเหที่คุณจะต้อง
    หันมา ปฎิบัติ ทาน ศิล ภาวนา อย่างจริงจังคะ
     
  13. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    เป็นบ่อยๆค่ะ เป็นอาการปกติของคนที่ไม่มีเป้าหมายของในชีวิต ถ้าจะไปด้านธรรมก็ต้องมีเป้าหมายเป็นเบื้องต้น เมื่อถึงระดับหนึ่งจึงจะเข้าใจคำว่าปล่อยวาง ว่างเปล่า แต่ไม่ใช่เบื่อหน่าย ...
     
  14. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,294
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    เป็นค่ะ เบื่อ ไม่อยากจับเงินยุ่งเกี่ยวกับเงินๆทองๆและไม่อยากยุ่งวุ่นวายกับคนด้วย ถ้าจะเกี่ยวข้องกับโลกโดยเมตตาสงเคราะห์สัตว์โลก ควรทำตอนจบกิจมากกว่า ถ้ายุ่งกับเรื่องทางโลกมากไม่สงบหรอกค่ะ ถ้าอยากหลุดพ้นจริงๆต้องบวชเนกขัมมะปฏิบัติจริงจัง
     

แชร์หน้านี้

Loading...