ปิดทศชาติก่อนตรัสรู้ ด้วยพระชาติแห่งพระเวสสันดร

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 19 มีนาคม 2018.

  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    อภิสวาจาของพระเวสสันดรโพธิสัตว์ที่ได้ประกาศไว้ว่า...

    "หทยํ จกฺขุปหํ ทชฺชํ กึ เม พาหิรกํ ธนํ

    หริญฺญํ วา สุวณฺณํ วา มุตฺตา วา เวฬุริยา มณี


    แปลความว่า...

    เราพึงให้ดวงหทัยหรือดวงจักษุก็ยังให้ได้ เราจะหวงแหนอะไรกับทรัพย์ภายนอก คือเงินทองมุกดาไพฑูรย์มณี ได้

    ชาลึ กณฺหาชนํ ธีตํ มทฺทึ ปติพฺพตํ

    จชมาโน น จินฺเตสึ โพธิยาสึ เยว การณา


    แปลความว่า... เราสละชาลีผู้โอรส กัณหาผู้ธิดา ตลอดจนมัทรี เทวี ผู้เคารพสามีโดยที่เราไม่คิดอย่างหนึ่งอย่างใด ก็เพราะเหตุอันจักสำเร็จโพธิญาณเท่านั้นฯ

    น เม เทสฺสา อุโภ ปุตฺตา มทฺที เทวี น อปฺปิยา

    สพฺพญฺญุตํ ปิยํ มยฺหํ ตสฺมา ปิเย อทาสหํ


    ... โอรสธิดาทั้งสองของเรา เราจะเกลียดชังก็หาไม่ พระนางมัทรีไม่เป็นที่รักของเราก็หาไม่ แต่สัพพัญญุตญาณเป็นที่รักของเรายิ่งกว่า เราจึงสละโอรสและธิดา พร้อมทั้งมัทรีเสีย เพื่อแลกกับสิ่งที่เรารักยิ่งกว่านั้นคือ พระสัพพัญญุตญาณ...ฯ
     
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ธรรมดา ในความเป็นโลก

    สรรพสิ่ง ไม่สมบูรณ์ด้วยความเป็นตน เพียงตน

    ต้องอาศัย สิ่งอื่น มาเติม มาเป็นปัจจัย เพื่อให้สมบูรณ์





    แต่ ความเป็นพระสัมมาสัมพุทธะ นั้น
    สมบูรณ์พร้อมในตัว
    ไม่พร่อง
    ไม่อิงอาศัย


    ผู้บำเพ็ญไปสู่ทางนั้น
    ฝึกฝนตนนับภพชาติไม่ถ้วน
    เพื่อให้ไปถึงความเป็นเอก ไม่พึ่งพาปัจจัยอันนำไปสู่วัฏฏะ
    หรือกงล้อเวียนว่ายแห่งมาร อีกต่อไป

    ที่สุด
    แม้ดีแสนดี
    รักแสนรัก
    อันเป็นธรรมคู่ เครื่องอยู่ของสัตว์โลก


    ก็ต้องพิสูจน์ให้ประจักษ์แก่จิตใจตนให้ได้ว่า
    " ไม่มีอะไร เป็นที่รักยิ่งมากกว่า พระสร้อยสรรเพชรโพธิญาณ "
     
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970




    พระเวสสันดร มัทรีบรรพ(ต่อ)สักกบรรพ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
     
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ความเป็นที่สุดในโลกคือพระเจ้าจักรพรรดิ พระมหาโพธิสัตว์ก็ได้ละทิ้งในภพชาติสุดท้าย แล้วเลือกที่จะเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้บรรลุซึ่งพระสัพพัญญุตญาณ


    พระเจ้าจักรพรรดิย่อมครอบครองโลกไว้ ในอำนาจ

    รัตนะทั้งเจ็ดอันเป็นทิพย์ก็ปรากฏมาเป็นรูปลักษณ์จับต้องได้ด้วยกาย คือ
    จักรแก้ว ช้างแก้ว ม้าแก้ว นางแก้ว ขุนพลแก้ว ขุนคลังแก้ว และแก้วมณีโชติอันเป็นดวงแก้วสารพัดนึก

    ปกครองโลกด้วยธรรม แต่เมื่อสิ้นชีพ รัตนะทั้งเจ็ดก็ต้องคืนไว้แก่โลกเป็นสมบัติผลัดกันชม


    ...แต่ธรรมจากความเป็นพระสัพพัญญูนั้น แม้น กายสังขารแตกดับ หากยังมีผู้ปฎิบัติตามอริยมรรคมีองค์แปดก็จะสามารถพ้นจากวัฏฏะได้อย่างถาวร


    เหตุนี้....ผู้มีปัญญา หากมีรักแท้จริงต่อสรรพชีวิต ย่อมทราบดีว่าจะเลือกสิ่งใด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 เมษายน 2018
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ทุกชีวิตที่มาเกี่ยวข้องกัน ไม่ว่าสามัญชนคนมีกิเลส หรือ ผู้มีจิตสะอาดยิ่งขึ้นระดับใด ล้วนมีหน้าที่โดยธรรมต่อกัน


    ...อันดับแรก สิ่งที่เรียกว่าตัวเรา ต้องทราบก่อนว่า เกิดมาเพื่ออะไร กำลังเดินบนเส้นทางที่ตั้งจิตอธิษฐานไว้หรือไม่
    เมื่อทราบแล้ว ก็ทำหน้าที่ที่สมควรทำ อ้นวิญญูชนควรพิจารณาตนเองว่าเราอยู่ ณ สถานะใดของทิศทั้งหก


    การเข้ามาสัมผัสสัมพันธ์ของสิ่งภายนอก เราไม่สามารถกะเกณฑ์ได้ดังใจทุกอย่าง

    ไม่ผลัก ไม่ต้าน ไม่ดึงดูด ไม่ร้อยรัด ฯลฯ แต่สัมพันธ์ตามธรรม


    ที่นั่งเพียงที่เดียว ในบ้านคือเรือนกายอันประกอบด้วยธาตุสี่
    หากจิตของเราเชิญสิ่งใดเข้ามานั่งประจำ

    สิ่งอื่นก็ได้แค่เข้ามาเดินในบ้าน หรือรอบๆบ้าน แล้วก็มีวิถีของเค้า ตามสภาวะธรรม เข้ามาเกื้อกูล ตามหน้าที่
    ตามวาระ ตามกลไกกรรมซับซ้อน หมดเหตุปัจจัย ก็ไปตามธรรม


    ..สุดท้ายมาจบที่ตัวเอง ถาม ตอบตนเองว่า..." เรา มีธรรมอันเป็นกุศลทั้งมวลเป็นเจ้าในหัวใจมากเพียงใด..." ( รวมไปถึง การมีอารมณ์ชินกับวิตกวิจารปิติสุข เอกัคตา ในเรื่องบารมีสามสิบทัศ เพียงใด ต่างหากเล่า )
     

แชร์หน้านี้

Loading...