ธรรมะ จากเพจ พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย สายหลวงปู่มั่น, 4 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    เรื่อง “จุตูปปาตญาณ ญาณระลึกชาติได้”

    (คติธรรม หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ)

    เป็นที่รู้จักกันดีการระลึกชาติได้ เป็นญาณของการปฏิบัติ การเข้าออกฌาน ๔ การถึงณานขั้นนี้ก็จะมีภาพเหมือนกับเราดูโทรทัศน์ เราจะรู้ว่าตัวเองมาจากไหน จะไปไหน จะเห็นในญาณในฌานตัวเอง แต่คนนั้นต้องทำจิตปราศจากนิวรณ์ ๕ จิตจะรวมเป็นหนึ่งแล้วจึงจะระลึกชาติได้

    การระลึกชาติได้นั้นบางคนก็เข้าไปปฏิบัติจนเข้าถึงธรรมชั้นสูง พอระลึกได้แล้วจึงจะรู้ ทำให้้ปลงตกในชาติตัวเอง บางคนเห็นตัวเองว่าเคยเกิดเป็นสุนัข โอ๊ย! ลำบาก เป็นสุนัขตัวเมีย เป็นสุนัขตัวผู้พออีกชาติก็เป็นคน พอเห็นหลายๆชาติก็เริ่มสลดใจว่าทำไมคนเรา ต้องเกิดต้องแก่ต้องตายอย่างนี้ก็เชื่อมั่นปลงตกไม่อยากเกิดอีก การที่ไม่อยากเกิดอีกทำให้ตัวเองคิดไปอย่างเดียวคือ เราเกิดพอแล้ว บางคนเคยเกิดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เคยเกิดเป็นคนจนคนรวย เป็นสุนัขเป็นสัตว์ต่างๆ ก็เป็น ไม่มีอะไรที่จะมั่นคง ก็เลยเบื่อหน่ายสังขาร อยากจะไปนิพพานอย่างเดียว การเห็นชาติภพอย่างนั้นทำให้เกิดปัญญา แต่ต้องเป็นผู้ที่เข้าปฏิบัติที่ระลึกเห็นเรื่องทุกข์แล้ว จึงควรรู้่ควรเห็นเรื่องนี้

    เรื่องนี้สามารถที่จะรู้ได้ สำหรับผู้มีอุปนิสัยในการเจริญฌาน แต่ถ้าผู้ไม่มีอุปนิสัยในการเจริญฌาน ก็รู้ธรรมเห็นธรรมหลุดพ้นไป โดยรู้เห็นจิตอย่างเดียว ใช้ปัญญา นั่นก็เรียกว่า “วิปัสสนาญาณ” การปฏิบัติให้บรรลุธรรมมีสองทาง คือ เจโตวิมุตติ หลุดพ้นแล้วระลึกชาติได้ มีิอิทธิจิต และ ปัญญาวิมุตติ หลุดพ้นโดยปัญญา คือ เห็นสังขารไม่เที่ยง แต่ผู้หลุดพ้นโดยจิต คือมีอิทธิจิต หมายถึงทำฌานได้ พวกนั้นแสดงฤทธิ์ได้ ระลึกชาติได้ เช่น พระพุทธเจ้า พระสารีบุตร พระโมคคัลลานะ เป็นเจโตวิมุตติ

    -จุตูปปาตญาณ-ญาณร.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  2. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  3. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ღ โอวาทธรรม พระอริยสงฆ์เจ้า ღ

    “ดินไม่มีน้ำปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น
    คนไม่มีศีล ก็ทำอะไรไม่เจริญ”

    “ของดีวิเศษที่สุดในโลกก็คือจิตใจของเรา

    จิตใจของเราแต่ละรายๆ มันไม่ได้อยู่ที่อื่นนะ

    ของดี ของวิเศษนี่มันอยู่ที่ดวงใจของเรา

    อย่าดุถูกดูหมิ่นตัวเองว่า บุญน้อย วาสนาน้อย

    ไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่วาสนาของเราที่จะมาปฏิบัติ

    โยนให้พระอริยเจ้า พระอริยเจ้ามีอยู่ที่ใด

    พระอริยเจ้าก็แปลว่าประเสริฐ

    พระอริยเจ้าที่ท่านรู้ ท่านรู้อะไร

    ท่านก็รู้ทุกข์ แล้วทุกข์มันไม่มีกับเราหรือไง

    มันก็มี เพราะฉะนั้นทำไมเราจะรู้ไม่ได้

    ทีนี้ทุกข์อันใด ก็สมุทัยอันนั้น

    สมุทัยอันใด ก็นิโรธอันนั้นมันอยู่ที่เดียวกัน

    นิโรธ ก็คือความดับทุกข์มันเกิดได้ มันก็ดับได้

    ทุกข์มันเกิดที่ไหน ทุกข์มันเกิดที่จิต

    มันก็ต้องดับที่จิต และเราจะไปหาของดีที่ไหน

    มันมีอยู่แล้ว แต่เราไม่เอากันเท่านั้น”

    โอวาทธรรม หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
    วัดป่าสีห์พนม อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร

    -โอวาทธรรม-พระอริยสงฆ์เ.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  4. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  5. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…ความสุขของกามคุณ..มันก็เหมือนกับสุนัข
    ได้กระดูกมาแทะกิน พวกเราเคยเห็นหมา
    มันแทะกระดูกไหม เวลามันแทะ มันกิน
    มันจะหวงมาก หมาตัวไหนมาใกล้นี้
    มันจะขู่จะกัดทันที มันไม่ยอมให้ตัวอื่นมาแย่งกิน

    จนเมื่อถึงเวลา ที่กระดูกมันหมดรสชาติแล้ว
    มันถึงจะยอมทิ้งกระดูกนั้น ไปหากระดูกอื่น
    มาแทะใหม่ ความสุขของกามคุณ
    ที่มี รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสนี่ ก็เหมือนกับ
    พวกสุนัข! ที่ได้กระดูกมาแทะกินนั่นเอง…”

    โอวาทคติธรรมคำสอนพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -มันก.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  6. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “…เกิดนิมิตอัศจรรย์…”

    หลวงปู่ขาว อนาลโย เล่าถึงการภาวนาในพรรษาที่พักอยู่วัดบ้านปง ว่า ในคืนวันหนึ่ง ขณะนั่งสมาธิภาวนา จิตสงบลงอย่างละเอียดถึงฐานสมาธิ และพักอยู่เป็นเวลานานพอสมควร แล้วถอยออกมาอยู่ขั้นอุปจารสมาธิ จิตปรากฎนิมิตเป็นแผ่นดินไหวหมุนเป็นกงจักร จิตเพ่งพินิจเท่าไร นิมิตนั้นยิ่งหมุนเร็ว ราวฟ้าดินจะถล่มในขณะนั้น ในความรู้สึกปรากฎว่าตัวของท่านเหาะลอยไปตามแผ่นดินโดยมิได้ก้าวเดินเลย ขณะที่กายในนิมิตเหาะลอยอยู่นั้น คล้ายกับลอยไปมาอยู่บนทางจงกรมที่ท่านเคยเดินในเวลาปกติ เหาะลอยไปมาอยู่หลายตลบจึงหยุด และปรากฎแสงสว่างขึ้นในขณะที่กายหยุดเหาะลอยแสงสว่างในนิมิตนั้น ปรากฎว่ามาจากบนท้องฟ้า ส่องสว่างเข้ามาในดวงใจท่าน ทำให้มองเห็นอวัยวะส่วนต่าง ๆ ภายในร่างกายได้อย่างชัดเจน และเพลินในการพิจารณาดูร่างกายส่วนต่าง ๆ ด้วยอสุภกรรมฐานและไตรลักษณ์อยู่เป็นเวลานาน ใจมีความยิ้มแย้มกระจ่างด้วยปัญญา ศรัทธา อุตสาหะ อย่างแรงกล้า อุบายต่าง ๆ อันเป็นเครื่องถอดถอนกิเลสประเภทต่าง ๆ เกิดขึ้นโดยสม่ำเสมอ นับว่าในพรรษานั้นใจมีกำลังมาก รู้เห็นได้อย่างเด่นชัด ไม่มีความอับเฉาเศร้าใจเข้ารบกวนดังที่เคยเป็นบ่อยในกาลที่แล้ว ๆ มา มีแต่ความมั่นคงทางสมาธิ และความแยบคายคล่องตัวทางสติปัญญาเป็นคู่มิตรแห่งความเพียรประจำใจในอิริยาบถต่าง ๆ ระหว่างจิตกับสติปัญญา อันเป็นลักษณะความเพียรอัตโนมัติเริ่มปรากฎตัวอย่างเด่นชัดภายในจิต

    โอวาทธรรมส่วนหนึ่งจากหนังสือ “หลวงปู่ขาว อนาลโย” วัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู โครงการหนังสือบูรพาจารย์ เล่ม ๔ หน้า ๒๐๙ – ๒๑๐

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  7. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “จิตหลงอารมณ์”

    ” .. การปฏิบัติเรื่องจิตนี้ ความจริงจิตนี้ไม่เป็นอะไร มันเป็นประภัสสรของมันอยู่อย่างนั้น มันสงบอยู่แล้ว “ทีจิตไม่สงบทุกวันนี้เพราะจิตมันหลงอารมณ์” ตัวจิตแท้ ๆ นั้นไม่มีอะไร “เป็นธรรมชาติอยู่เฉย ๆ เท่านั้น” ที่สงบไม่สงบก็เป็นเพราะอารมณ์มาหลอกลวง

    จิตที่ไม่ได้ฝึกก็ไม่มีความฉลาด มันก็โง่ อารมณ์ก็มาหลอกลวงไปให้เป็นสุข เป็นทุกข์ ดีใจ เสียใจ “จิตของคนตามธรรมชาตินั้น ไม่มีความดีใจ เสียใจ ที่มีความดีใจเสียใจนั้นไม่ใช่จิต” แต่เป็นอารมณ์ที่มาหลอกลวง จิตก็หลงอารมณ์โดยไม่รู้ตัว

    แล้วก็เป็นสุขเป็นทุกข์ไปตามอารมณ์ เพราะยังไม่ได้ฝึก ยังไม่ฉลาด แล้วเราก็นึกว่า จิตเราเป็นทุกข์ นึกว่าจิตเราสบาย ความจริงมันหลงอารมณ์ พูดถึงจิตของเราแล้ว มันมีความสงบอยู่เฉย ๆ มีความสงบยิ่ง “เหมือนกับใบไม้ที่ไม่มีลมพัดก็อยู่เฉย ๆ ถ้ามีลมมาพัดก็กวัดแก่วงเป็นเพราะลมมาพัดและก็เป็นเพราะอารมณ์ มันหลงอารมณ์”

    ถ้าจิตไม่หลงอารมณ์แล้ว จิตก็ไม่กวัดแกว่ง ถ้ารู้เท่าทันอารมณ์แล้วมันก็เฉย “เรียกว่าปกติของจิตเป็นอย่างนั้น” ที่เราปฏิบัติกันอยู่ทุกวันนี้ก็เพื่อให้เห็นจิตเดิม “เราคิดว่าจิตเป็นสุข จิตเป็นทุกข์ แต่ความจริงจิตไม่ได้สร้างสุขสร้างทุกข์ อารมณ์มาหลอกลวงต่างหาก มันจึงหลงอารมณ์” ฉะนั้นจึงต้องฝึกจิตให้ฉลาดขึ้น ให้รู้จักอารมณ์ ไม่ให้เป็นไปตามอารมณ์ จิตก็สงบ .. ”

    หลวงปู่ชา สุภัทโท

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  8. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ถามหลวงปู่แหวน สุจิณโณ เหมือนกันว่าเสกพระอย่างไร ? หลวงปู่บอกว่า…

    “…ก็แผ่เมตตาว่า..ขอสัตว์โลกทั้งหลาย จงอยู่เย็นเป็นสุข อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย เท่านั้น…”

    เล่าโดย: พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -สุจิณโณ-เ.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  9. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ชีวิตนี้น้อยที่สุดนะ คล้ายๆ กับฟ้าแลบ แปล๊บเดียวนะ

    ทำความดีทันก็ดีไปนะ ไม่ทัน ก็เสียท่าใหญ่ ครั้งนี้ทีเดียว

    หลวงปู่หลุย จันทสาโร

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -คล.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  10. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    พระพุทธเจ้าว่า ..
    “เรากล่าวว่าเจตนาเป็นตัวกรรม”
    เจตนาก็ใจเท่านั้นแหละ ใจมีอันเดียวเท่านั้นแหละ

    ขอให้มีสติควบคุมระวังจิต
    คิดจะพูดอะไรไม่เป็นศีล เป็นธรรม
    ก็มีสติยับยั้งรู้สึกตน ให้หัดทำสติให้แม่นยำ

    ให้สำเหนียก แล้วจะทำอะไรก็ถูกต้อง
    พูดถูกต้อง คิดถูกต้อง มันก็เป็นศีลแล้ว

    ผู้มีศีลย่อมเป็นผู้องอาจกล้าหาญต่อหน้าประชุมชน
    ผู้มีศีล .. ย่อมมีความสุข

    หลวงปู่ขาว อนาลโย

    .jpg
    1521827449_769_พระพุทธเจ้าว่า.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  11. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ถ้าไม่ได้ไปหลงว่าเป็นเราเป็นเขา
    ก็สบาย ทุกข์ก็ธรรมดา รู้ธรรมดา
    หนาว ร้อน สุข ทุกข์ ก็ธรรมดา
    เกิดแก่เจ็บตายก็ธรรมดา รู้ก็เฉยๆ
    พลังสติเป็นโลกุตรธรรม
    ก็เป็นแสงสว่างนะซิ พุทธปัญญา
    รู้แจ้งความดับทุกข์ในปัจจุบัน

    ถ้าไม่มี ตา หู จมูก ลิ้น กายใจ
    มันจะสมมุติอะไรขึ้นมาได้
    อาศัยได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้รส
    ได้สัมผัส นึกรู้ กายใจ พร้อมอวิชชา
    มันถึงได้ทุกข์กันเช่นนี้

    ถ้าเจริญพุทธธรรม อริยมรรค
    การพ้นโลกก็เกิดขึ้น มันก็จบกันเท่านั้น
    มีสติพร้อมเห็น พร้อมได้ยิน
    พร้อมได้กลิ่น ร้อน หนาว สุข ทุกข์
    สติพร้อม มันไม่หลงสักอย่าง

    ตื่นแล้วมันก็ไม่หลงนะซิ
    เหมือนคนตื่นตอนเช้า
    เวลาฝันอะไรก็นึกว่าจริงทุกอย่าง
    พอตื่นขึ้นมาก็เป็นเรื่องฝันทั้งหมด
    ความเห็นตอนตื่นขึ้นมามันเป็นคนละเรื่อง

    ก็เหมือนดูภาพยนตร์
    ถ้าเป็นนักค้นคว้านักทดลอง
    ก็จะสงสัยว่า เอามันอะไรกันแน่
    หลงเงาพระเอกนางเอก
    ถ้าไปจับดูที่จอก็จะพบว่ามันมีแต่ผ้าเฉยๆ
    เป็นคนจริงๆ ที่ไหน พระเอกที่ไหน
    นางเอกที่ไหน มันก็หมดเรื่องสงสัย
    บางคนนี่ช่างสงสัยบอกว่า
    เงามาจากไหน ลองตามไปดู
    ดูไปถึงต้นตอ เอ้า มันก็เป็นเหล็กเฉยๆ
    (เครื่องฉายหนัง) มันไม่ใช่พระเอก
    นางเอกอะไร ก็วิเคราะห์กันต่อไป
    เอ้า มันก็มีมีแสงสว่างเฉยๆ เท่านั้นเอง
    ฟิล์มเป็นๆ ฉายออกไปที่จอผ้า
    หากไม่รู้ทันก็โง่เกิดอารมณ์สารพัด
    แล้วแต่เงาจะพาไป เรียกว่า หลงขันธ์ ๕
    ว่างั้นเถอะ เพราะตัวหลง จิตมันก็มืดไปเรื่อย
    เวียนว่ายตายเกิดอยู่อย่างนั้นแหละ

    เหมือนกระแสคลื่นในทะเล
    แม้ท้องฟ้ามืด คลื่นก็แล่นไปมืดๆ
    อย่างนั้น เป็นพลังมืดทั่วสากล
    ล้วนแต่อยากกันทั้งนั้น สารพัดเกลียดชัง
    สารพัดกามกำหนัด มันก็ทุกข์ใหญ่นะซิ

    ถ้าเห็นธรรมรู้ธรรมก็หายทุกข์
    ถ้าแสงสว่างเกิดขึ้นเมื่อใด ความมืดก็ดับ
    เหมือนไฟฟ้าเมื่อไฟสว่างมืดก็ดับเป็นธรรมดา
    แสงสว่างที่ดับมืดคือพ้นโลก เป็นพุทธปัญญา
    จิตปุถุชนยังไม่เห็นแสงสว่าง ยังไม่พ้นโลก
    รู้แจ้งธรรมะ เรียกว่าถึงฝั่ง เช่นหากว่าอยู่ใน
    มหาสมุทรเป็นกัลป์ ว่ายเข้าหาฝั่ง พอเข้าถึงฝั่ง
    มันมีหวังแล้ว เข้าถึงดินใต้น้ำไม่จมลงไปได้
    ลอยอยู่เพียงคอเรียกว่า”พระโสดาบัน”
    ถ้าขยันหมั่นเพียรเข้าไปอีกเข้าไปใกล้
    ลุยขึ้นมาถึงบั้นเอว เรียกว่า”สกิทาคา”
    หากถึงฝั่งยืนอยู่พ้นน้ำแค่เข่าเรียกว่า
    “พระอนาคา” ถ้าพ้นน้ำขึ้นมาเมื่อไร่ก็พ้นทุกข์
    เมื่อนั้น “นิพพานปรมัง สุขัง” เป็นของจริง
    เป็นที่พึ่งได้ ของจริงเท่านั้นที่พึ่งได้
    ของไม่จริงพึ่งไม่ได้ พระพุทธเจ้าว่าจริงมีหนึ่ง
    ไม่มีจริงสอง อย่างเช่นที่เรานั่งอยู่ที่บ้านนี้มัน
    คือตัวจริงของจริงหนึ่งเดียว สมมติว่าเนรมิตมา
    ได้อีกคนหนึ่ง มันก็ไม่ใช่ตัวจริงของจริง
    สิ่งใดไม่จริง มันหาย มันหมดไป มันไม่
    ปรกติสุข จิตมันว้าเหว่ ต้องหาอันนั้นอันโน้น
    มาเติมตลอดเวลา สิ่งใดเป็นสัจธรรมสมบูรณ์
    ตลอดเวลา ไม่มีอดีต ปัจจุบัน อนาคตที่ขึ้นอยู่
    กับกายใจที่หลง

    แม้เกิดมาเป็นมนุษย์ชั้นดีก็ยังมีทุกข์
    แม้จะสร้างคุณงามความดี เป็นเทวดา
    เป็นโยคะเป็นพรหม ก็ยังไม่เที่ยงสักอย่าง
    จิตก็ยังมืดอยู่

    ในสมัยพุทธกาล พวกที่สร้างบารมีหวังได้
    พบพระพุทธเจ้า หวังแจ้งธรรม เมื่อบารมีเขา
    ครบถ้วนเขาก็เกิดสมัยพระพุทธเจ้า
    เช่น นางสุชาดา นางวิสาขา เป็นต้น
    ที่เป็นเด็กๆ ก็มี อายุ ๗ ขวบ ฟังธรรมสำเร็จ
    มรรคผลตั้งแต่เป็นสามเณรก็เยอะเพราะ
    มีทุนเดิมอยู่ พูดง่ายๆ จะเป็นดอกบัวบานแล้ว
    อะไรมันก็ง่าย ดอกบัวตูมก็ต้องใช้เวลา
    แต่มันต้องบานแน่ๆ พวกที่อยู่ใต้น้ำนี่ซิ
    มันไม่แน่ อยู่ในกฎของ Probability
    เต่า ปู ปลาจะกินก็แล้วแต่เรื่อง…

    หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  12. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโร นั้น มีพลังจิตสูงมากน่าอัศจรรย์ ในด้านการธุดงค์กัมมัฏฐาน หรือการปฏิบัติของท่าน ท่านเป็นนักต่อสู้ และเอาชีวิตเข้าแลกทีเดียวต่อการปฏิบัติ ดังนั้นในระยะหลังจึงมีคนนับถือท่านมาก ผู้สนใจการปฏิบัติก็มาหาท่านมาก

    เมื่อมีคนมาหาท่านมาก ท่านมีเมตตา ก็ต้องรับแขกมาก คนเหล่านั้นไม่รู้หรอกว่า ได้ทำความลำบากแก่ขันธ์ของท่านเพียงไร

    ตัวเรานี้ ถ้ามีแขกมาก หรือทำอะไรมากๆ อย่างท่านอาจารย์ฝั้น อาจาโร แล้ว จะไม่มีอายุยืนนานถึงขนาดนี้ดอก

    แต่ก็เป็นธรรมดาสำหรับนักปฏิบัติระดับนี้ ที่จะต้องเอื้อเฟื้อต่อสรรพสัตว์ เพราะตนเองก็ไม่ห่วงสังขารอะไรอยู่แล้ว

    เล่าโดย : หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -อาจาโร-น.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  13. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
  14. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ทางให้ถึงความดับภพดับชาติ

    ภพชาติเป็นตั้งของกองทุกข์ ทุกข์ทั้งหลายมากองอยู่ที่ผู้ยังมีภพชาตินี้ทั้งนั้น ภพชาติจะเกิดมีขึ้นมาได้ก็ต้องอาศัยผู้ยังมีกิเลสอันเป็นคู่กันกับนิมิต นำให้ไปเกิดในที่นั้นๆ ผู้ต้องการอยากจะให้ดับภพดับชาติ ก็ต้องพยายามอย่าให้นิมิตทั้งสองนั้นเกิดขึ้นได้ในเมื่อจวนจะแตกดับนิมิตทั้งสองเราจะแต่งเอาตามปรารถนาไม่ได้ แต่มันเป็นไปตามบุญกรรมกิเลสของแต่ละบุคคลที่ได้สร้างเอาไว้ดังกล่าวแล้ว

    ๑. เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราจะทำอย่างไร จึงจะไม่ให้นิมิตเกิดขึ้นได้ในเมื่อจวนจะแตกดับ

    ตอบ เมื่อเราเกิดมาจมอยู่ในกองแห่งทุกข์ทั้งหลายในป่าดงของกิเลสอันน่ากลัว แล้วเห็นผลของกรรมชั่วอันน่าสยดสยองอย่างยิ่ง จึงพอกันที แล้วบำเพ็ญแต่กรรมดีที่ให้ผลเป็นความสุข จนอิ่มพอในความสุขที่กรรมดีมอบให้นั้น แล้วละความสุขนั้นเสียไม่หลงมัวเมาเอามาเป็นของตนของตัวอย่างจริงจัง เรียกว่าละทั้งดีและชั่วเพราะอิ่มแก่ความต้องการทั้งหมดแล้ว นิมิตทั้งสองนั้นจึงจะไม่เกิด

    ๒. หากจะมีคำถามว่า เมื่อยังไม่อิ่มในกรรมทั้งสองนั้นจะทำอย่างไร

    ตอบก็ต้องสร้างกรรมดีต่อไป แต่อย่าไปสร้างกรรมชั่วเพิ่มขึ้นมาอีก เพราะกรรมชั่วเราได้สร้างมามากแล้ว จนมีผลเหลือที่จะเก็บและจำหน่ายออกได้แล้ว

    ๓. เมื่อชีวิตยังมีอยู่ กรรมดีกรรมชั่วก็ไม่ทำแล้ว แล้วจะอยู่และทำอะไรอีก

    ตอบเมื่อชีวิตยังมีอยู่ การเคลื่อนไหวก็ต้องมี การเคลื่อนไหวอันได้แก่กรรม แต่ก็อย่าให้มีกรรมชั่ว จงให้มีแต่กรรมดี เพราะกรรมดีคนดีทำง่าย แต่คนชั่วทำได้ยาก คนดีทำกรรมดีไม่ปรารถนาผลตอบแทนถึงแม้จะทำกรรมดีอยู่ก็ไม่ชื่อว่าทำกรรม เรียกว่ากิริยา ฉะนั้นพระพุทธเจ้าก่อนจะดับภพดับชาติได้ คือถึงพระสัพพัญญุตญาณ ท่านได้สร้างบารมีมาแล้วเป็นอเนกชาติ มีทานบารมีเป็นต้น ผลสุดท้าย เมื่อบารมีของท่านอิ่มพอแล้ว จึงละโลกนี้ที่มีกรรมเป็นมูลฐานดับแล้ว ไม่มีเชื้อเหลืออยู่อีกต่อไป

    พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ “หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี”
    วัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  15. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    อ่าวลึก-แหลมสัก พักอยู่นั้นตามสมควร ๗ วันแล้วก็ลาเขาไปพักบ่อแสน ลงเรือแจวไป ๒ ชั่วโมง สุดเขตจังหวัดพังงาเพียงนั้น เป็นพรมแดนต่อ จ.กระบี่ พักอยู่หาดทราย มีกระหนำเล็ก ๆ

    ถามเขาว่า “บ่อแสนนี้หมายความว่าอย่างไร”

    เขาตอบมาจัง ๆ ว่า “คือแสนทุกข์แสนยากนะพ่อท่าน”

    ให้คะแนนเขาว่า “ดีแล้ว ตอบไม่หนีจากหลักธรรมะ”

    พักอยู่นั้น ๓ คืนแล้วลาเขาไป อ.อ่าวลึก จังหวัดกระบี่ ตี ๑ ตอนกลางคืนเขามารับเอาบริการไปลงเรือแจว ขณะนั้นน้ำทะเลกำลังขึ้น เขาแจวเรือโต้น้ำขึ้น เสียงปลากระโดดตูมตาม ๆ ตามป่าไม้ริมทะเลใน เรือไปจอดท่าอำเภออ่าวลึกแล้ว พวกชาวเรือประมาณ ๗ คนนั้น เขาหาบแตงโมงเข้าไปขาย อ.อ่าวลึก ขณะนั้นเป็นเวลาตี ๔ โดยคาดคะเน พอเขาหาบแตงโมไปแล้วสักครู่ฝนตกลงมาอย่างหนักแต่ลมไม่จัด ก็ยืนสะพายบาตรอยู่ที่ท่าน้ำ กั้นกลดอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมง มืดแปดด้านไม่แลเห็นอะไร นึกในใจแล้วก็คล้ายกับว่าอาจารย์ฝนลองดี ให้ยืนกั้นกลดภาวนาเป็นเรื่องขัน ๆ อยู่บ้าง

    สว่างเป็นวันใหม่ก็เตรียมเข้าไปบิณฑบาตใน อ.อ่าวลึก จากท่าเรือไปในตัวอำเภอประมาณ ๓๐ กว่าเส้น ใกล้จะเข้าบ้าน มีโยมคนหนึ่งมาช่วยถือกาน้ำและกลด

    เขาเล่าว่า “พระธุดงคภูเก็ต โคกกลอย พังงา มาพักวิเวกอยู่ชานอำเภอ ที่ป่ามะพร้าวนี้ได้หลายวันแล้ว กระผมจะตามพ่อท่านบิณฑบาตไป แล้วจะพาพ่อท่านไปฉันกับพระธุดงค์พวกนั้น”

    แล้วบิณฑบาตพอได้ข้าวพออิ่มแล้วก็ไปหาท่านเหล่านั้น กำลังแต่งบาตรจะเตรียมฉัน ต่างก็มองดูกันแล้วหัวเราะ เพราะเป็นพวกเดียวกัน แต่จำพรรษาคนละสำนักเฉย ๆ เมื่อฉันเสร็จแล้วล้างบาตรเก็บบริขารแล้วก็ทักทายปราศรัยกันจนจบเรื่อง

    แต่พอเที่ยงวัน มีชาวตำบลแหลมสัก อำเภออ่าวลึก เขาเอาเรือบรรจุคนมาประมาณ ๒๐๐ คน เขาได้ทราบว่าพระธุดงค์มาพักอยู่ สวนมะพร้าว อ.อ่าวลึกหลายวันแล้ว และเขาจะมาซื้อของในอำเภออ่าวลึกด้วย และจะมาขอพระไปไว้พักวิเวกบ้านเขาด้วย ขณะนั้นมีพระอยู่ด้วยกันนับทั้งเจ้าตัวผู้ไปใหม่ในวันนั้น ๕ รูป คือ ท่านอาจารย์อาจ ท่านอาจารย์พรหมา คุณสุบิน คุณเจริญ แล้วเขานิมนต์ต่อหน้าสงฆ์ว่า

    “ขอให้ท่านอาจารย์ทั้งหลายแบ่งพระให้พวกกระผมบ้าง จะให้กี่องค์ก็เอา จะให้องค์ไหนก็เอา”

    ตกลงก็เลยได้ข้าพเจ้า เขาก็เลยรับเอาบริขาร กราบลาครูบาอาจารย์และหมู่เพื่อนแล้วก็ไปและเจ้าตัวก็พอใจด้วย

    เดินไปประมาณ ๒ กิโลก็ถึงที่ท่าตำบลแหลมสัก แล้วลงเรือตอนเย็นไปประมาณ ๑ ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงบ้านแหลมสัก มืดประมาณ ๑ ทุ่ม ตอนหัวค่ำ น้ำทะเลกำลังขึ้น เขาเอาไปพักไว้กระต๊อบฟากโรงเรียน มีเหี้ย มีงูเห่างูกะปะมาก

    พักอยู่ที่นั้นเกือบจะเข้าเดือน วิเวกพอควร ญาติโยมก็เป็นที่สบายพอควร มีนายมนูญ แม่นุ้ย แม่โฉมาให้ความสะดวก ไปบิณฑบาตก็สะดวก ไม่ไกลนัก ไม่ใกล้นัก สงัดวิเวก โยมพังงาที่สำนักจำพรรษา เขาทราบว่าอยู่ที่นั้น เขาก็นิมนต์ให้กลับด้วยการเขียนจดหมายมาหา ก็เลยเขียนจดหมายตอบไปหาคณะสงฆ์หนึ่งฉบับ เนื้อความในจดหมายว่า

    ที่พักชั่วคราวริมทะเล บ้านแหลมสัก ตำบลแหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่

    วันที่…เดือน….พ.ศ.๒๔๙๖

    กราบเรียน พระเถรานุเถระและคณะสงฆ์ทุกถ้วนหน้าที่เคารพอย่างสูง

    กระผมเที่ยววิเวกไป ก็ไกลไปไกลไป คงจะไม่ได้กลับเสียแล้ว โทษของเกล้าอันใดมี ขอได้กรุณาโปรดเกล้าอยู่ทุกเมื่อเทอญกราบเรียนมาด้วยความเคารพอย่างสูง

    หล้า เขมปตฺโต

    แล้วจ่าหน้าซองว่า..

    กราบเรียนพระเถรานุเถระทุกถ้วนหน้า วัดป่าโคกกลอย ตำบลนากลาง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อได้ทราบแล้ว อ่านแล้ว กรุณาถวายต่อทางวัดป่าเขาโต๊ะแซะ ภูเก็ต ด้วยครับ จะเป็นพระคุณยิ่งอย่างสูง

    ส่วนจดหมายไปหาโยมพังงานั้น ลงที่พักอยู่ วันที่…เดือน…พ.ศ…. แล้วกล่าวใน จ.ม.ว่า

    เจริญธรรมคณะญาติโยมชาวพังงาที่ร่วมสุขทุกข์กับวัดป่าทุก ๆ ท่านที่นับถือ

    อาตมาไปเที่ยววิเวกคงจะไม่ได้กลับเสียแล้ว เมื่อต่างฝ่ายต่างมีพุทธ ธรรม สงฆ์ ประจำใจอยู่ ได้ชื่อว่าอยู่ใกล้กันโดยธรรมแล

    ส่งข่าวมาด้วยความนับถือไว้ในพระพุทธศาสนาตลอดกาลนานแล นี้แหละเรื่องสังขารของการวิโยคมันเป็นอย่างนี้ละ

    หลวงปู่หล้า เขมปตฺโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -แหลมสัก-พักอยู่น.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  16. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    …การเดินจงกรมท่านสอนให้เดินไปตามตะวัน เยื้องตะวัน ไปทางทิศเหนือหรือทิศใต้ ขณะเดินจงกรมพึงกำหนดสติกับคำบริกรรมให้กลมกลืนเป็นอันเดียวกัน ประคองความเพียรด้วยสติสัมปชัญญะ มีใจแน่วแน่ต่อธรรมที่บริกรรม

    …ท่านสั่งสอนเน้นหลักทางสติมากไม่ว่าทำความเพียรในท่าใด อิริยาบถใด ไม่ว่าผู้เริ่มอบรมใหม่หรือเก่า ท่านต้องสอนสติตามไปกับโอวาทเพื่อภูมิจิตภูมิธรรมของผู้มาศึกษานั้น

    …ทั้งปฏิปทาโดยส่วนตัวของท่านเอง และที่ท่านสั่งสอนแก่ศิษย์นั้น ท่านพระอาจารย์มั่นนิยมความประหยัด มัธยัสถ์ ไม่สุรุ่ยสุร่ายในการนุ่งห่มใช้สอยบริขารต่างๆ รวมทั้งการเก็บรักษาจัดวางก็ต้องมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยงามตา แต่ในขณะเดียวกันการสงเคราะห์ให้ทานนั้น ท่านก็นิยมเป็นอย่างยิ่งด้วยเมตตาจิต

    …สำหรับเรื่องการขบฉันของพระธุดงคกรรมฐานนั้น จะต้องเปี่ยมไปด้วยความสำรวมระวัง มีสติตลอดเวลา เวลาไปบิณฑบาตกลับมาถึงที่พักหรือวัดแล้ว ก่อนฉันถ้ามีพระสงฆ์อยู่หลายรูปด้วยกัน ก็จะนำอาหารต่างๆ ออกจากบาตรมาแก้รวมกันแล้วแจกจ่ายใส่บาตรให้ทั่วถึงกัน เสร็จแล้วถ้ามีญาติโยมตามออกมาแม้แต่คนหนึ่งขึ้นไป ท่านอนุโมทนา ยถา สัพพี ฯ ก่อน แล้วค่อยลงมือฉัน เมื่อจัดอาหารใส่บาตรเสร็จแล้ว ท่านเริ่มทำความสงบอารมณ์พิจารณา “ปัจจเวกขณะ ปฏิสังขา โยนิโส ฯลฯ” ในอาหารชนิดต่างๆ ที่รวมในบาตรตามแต่ความถนัดของแต่ละคน แล้วค่อยเริ่มลงมือฉันด้วยท่าสำรวมและมีสติประจำตัวในขณะขบฉัน ไม่พูดสนทนาเรื่องใดๆ (เว้นเสียแต่จำเป็น) ขณะฉันก็พิจารณาไปด้วยตามความถนัดในแง่แห่งธรรม…

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  17. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    เมื่อครั้ง พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายกรรมฐาน ได้มีโอกาสพบกับ นักบุญแห่งล้านนาไทย

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    “โลกนี้มืดมนนัก น้อยคนนักจักเห็นแจ้งได้ ขอน้องท่านจงมาปฏิบัติกับผม เพื่อล่วงทุกข์ภัยในวัฏฏะ ไม่ต้องมา เกิด แก่ เจ็บ ตาย และวุ่นวายด้วยกิเลสตัณหาให้ได้รับทุกข์อย่างไม่มีที่สิ้นสุดด้วยกันเถิด”

    พระครูบาเจ้าศรีวิชัย สิริวิชโย

    “ที่พี่ท่านกล่าวมานั้นชอบโดยแท้ แต่สุดวิสัยอยู่แต่เพียงว่า น้องนั้นหาได้บำเพ็ญบารมีมาเพื่อจะหลุดพ้นจากวัฏสงสารนี้แต่เพียงลำพังไม่ หากแต่น้องนั้นบำเพ็ญธรรมตามจริยาอย่างโพธิสัตว์ ผู้ปรารถนาล่วงเข้าสู่พระพุทธภูมิอย่างสมบูรณ์ อีกทั้งยังได้รับพระพุทธพยากรณ์ไว้แล้วด้วยว่า น้องนี้จักได้บรรลุพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ คือจะได้ตรัสรู้เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคหน้าเที่ยงแท้มิแปรผัน”

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -พระอาจารย์ให.jpg
    1521853037_974_เมื่อครั้ง-พระอาจารย์ให.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  18. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    “พระพุทธรูปคอหัก”.♤●

    ..บ่ายวันหนึ่งขณะที่หลวงปู่กำลังนั่งรถเข็ญออกตรวจบริเวณวัด พบชาย ๒-๓ คนกำลังก้มๆเงยๆ อยู่โคนต้นไม้หลังอุโบสถ

    ■หลวงปู่ : ทำอะไร โยม

    ▪โยม : พวกกระผมเอาพระพุทธรูปมาปล่อย(ทิ้ง)ครับ

    ■หลวงปู่ : ทำไมเอาพระพุทธรูปมาปล่อยซะหล่ะ

    ▪โยม : พระพุทธรูปสององค์นี้คอหักครับ พ่อว่าไม่ดีเลยให้เอามาปล่อย

    ■หลวงปู่ : อ้อ พระพุทธรูปคอหักไม่ดี เลยเอามาปล่อยวัด อะไรไม่ดีก็เอามาปล่อยวัด หมากัดเป็ดกัดไก่ ไก่ ๔ ขา หมา ๔ หู ต้นไม้ประหลาด
    ลูกบอกไม่ได้สอนไม่เอาก็ให้มาบวช แต่เวลาขอของดีต้องมาขอกับพระ มาหาพระมาหาของดี ที่ไม่ดีก็เอามาทิ้งวัด มาทิ้งให้เป็นภาระพระ
    พระพุทธรูปคอหักคุณว่าไม่ดี เพราะคุณเข้าใจว่าไม่ดี ตอนไปบูชามาเสียเงินเสียทอง เอามากราบไว้บูชา ถือว่าดีว่าขลัง
    พอตกแตกคอหักคุณก็ว่าเป็นของอัปมงคล คนเราอยู่ด้วยกันรักกันชอบกัน พออีกคนตายหมดลมหายใจก็กลัวกัน สมมุติกันว่าเป็นผีก็พาลกลัวกันซะอีก คุณเอ้ย
    ความเป็นพระไม่ได้อยู่ที่ก้อนอิฐก้อนดินดอกนะ ความเป็นคนก็ไม่ได้อยู่กับร่างกายสังขารดอกนะ ความเป็นพระอยู่ที่คุณงามความดีของพระองค์
    ความเป็นคนก็อยู่ที่คุณงามความดีของเขา คุณสมมติว่าพระคอหักคือพระตายก็กลัวพระคอหัก คุณสมมติว่าคนหมดลมหายใจก็เป็นผีก็กลัวผี
    ถ้าความเป็นพระอยู่ที่ใจเรา พระนั้นถึงจะแตกจะหักก็น่ากราบน่าไหว้ ถ้าความเป็นคนอยู่ที่ความรักความผูกพันธ์ อยู่ในความดีของกันและกัน
    ถึงเขาหมดลมก็ยังน่าคิดถึงน่านับถือ ไม่น่ากลัว แต่คุณคิดว่าเมื่อเสกพระพุทธรูปแล้วท่านมีชีวิต มีความขลัง พอท่านคอหักก็คือท่านตาย
    ท่านหมดความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ให้เข้าใจเสียใหม่ พระก็คือพระจะคอหักจะแตกจะบิ่นความเป็นพระก็ไม่ได้ลดน้อยลงเลย
    เพราะพระก็คือพระ ความดีเป็นพระ ความที่พระองค์ทรงสั่งทรงสอนเป็นพระ ไม่ใช่ความเป็นอิฐเป็นดินเป็นพระ
    ถ้ามีความเชื่อความศรัทธาอย่างนี้ พระจะแตกจะหักเราก็ยังเก็บไว้ได้ ยังกราบได้ เข้าใจนะ

    ▪โยม : แล้วจะให้พวกผมทำอย่างกับพระพุทธรูปคอหักนี้ครับ

    ●หลวงปู่ : ที่บ้านมีกาวไหม มีก็ทาติดให้เหมือนเดิมซะ

    ▪โยม …………………………….. ?

    “หลวงปู่หา สุภโร หลวงปู่ไดโนเสาร์ วัดสักกะวัน จ.กาฬสินธุ์”
    พระอริยะเจ้าผู้มีสติปัญญาดุจเพชรน้ำหนึ่งแห่งแดนอีสานเหนือ

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -●.jpg
    1521856688_445_พระพุทธรูปคอหัก-●.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  19. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    ธัมมธโรวาท…พระธัมมธโร(ครูบาแจ๋ว) พระอาจารย์พวงพิด ธัมมธโร วัดป่าวิเวกวัฒนาราม อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    -พระธัมมธโรค.jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
  20. สายหลวงปู่มั่น

    สายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2017
    โพสต์:
    20,938
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +542
    โอวาทธรรมสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปรินายก องค์ที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาบุญท่านเจ้าของผู้ถ่ายภาพนี้ พร้อมทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการเผยแผ่โอวาทธรรมนี้ ทุกๆท่าน

    .jpg

    ที่มา พระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...