..ร้านพระกรรมฐาน พ่อแม่ครูอาจารย์ แท้ทุกรายการครับ..

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

2149. เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่วิริยังค์ สิรินธโร วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ ศิษย์รุ่นสุดท้ายที่อุปัฏฐากท่านพระอาจารย์ใหญ่มั่น ภูริทัตโต

เหรียญรุ่นแรก ของท่าน ที่ระลึกงานผูกพัธสีมาของวัดธรรมมงคลปีพ.ศ. 2510 ตั้งแต่วันที่ 4-12 กุมภาพันธ์ 2510

เป็นงานพิธีใหญ่มีครูบาอาจารย์มาร่วมงานมากมายอาทิ หลวงปู่ดุลย์,หลวงปู่หลอด,อาจารย์วัน,ฯลฯ

เป็นเหรียญเนื้อทองแดงเก่าๆ หายาก สภาพสวยเดิม ดูง่ายๆ

แต่ก่อนยังเห็นอยู่บ้าง เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยเจอแล้วครับ พระออกตั้งแต่ปี 2510 ยังไม่แพง อย่างไงก็ศักดิ์ศรีเหรียญ รุ่นแรกครับ




หลวงปู่วิริยังค์ ได้อุปสมบท ในวันที่ 20 พฤษภาคม 2484 ท่านมีอายุ 21 ปี ได้อุปสมบท ณ วัดทรายงาม บ้านหนองบัว อ.เมือง จ.จันทบุรี โดยพระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงปู่กงมา จิรปุญฺโญ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระมหาทองสุข สุจิตโต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ หลวงพ่อได้เดินธุดงค์ติดตามพระอาจารย์กงมาไปในที่ต่าง ๆ เป็นเวลา 8 ปี วันหนึ่ง พระอาจารย์กงมาก็พาท่านเดินธุดงค์จากจังหวัดจันทรบุรีไปจังหวัดสกลนคร เพื่อไปพบพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต หลวงพ่อวิริยังค์ได้รับเลือกให้เป็นอุปัฎฐากอยู่ 4 ปี ได้เดินธุดงค์ร่วมกับพระอาจารย์มั่น เรียนธรรมะ อันลึกซึ้ง ได้จดคำสอนของหลวงปู่มั่นบางตอนไว้ (ปกติท่านห้ามผู้ใดจดเด็ดขาด เมื่ออ่านให้ท่านฟังภายหลังท่าน กลับรับรองว่าใช้ได้) ต่อมาท่านได้เผยแพร่คำสอนนี้แก่สาธารณชน ในหนังสือที่ชื่อว่า "มุตโตทัย"


ราคา 850 บาท

 

จองรายการนี้ครับ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

2150. รูปหล่อฐานภูเขารุ่นเเรก เศรษฐีธรรม หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดภูผาแดง จ.อุดรธานี ปี 2548 เนื้อทองผสม ตอกโค๊ด สวยๆ สร้างน้อย หายากมากครับ เก็บเถอะครับ นับวันยิ่งหายากครับผม อุดกริ่งดังกังวาลครับ

ราคา 450 บาท ปิดรายการ

 

2151. รูปหล่อรุ่นเเรก หลวงปู่เพียร วิริโย วัดป่าหนองกอง จ.อุดรธานี สร้างปี 2547 เนื้อทองเเดง สวยครับ




หลวงปู่เพียร วิริโย อายุ ๘๓ ปี ๖๑ พรรษา เป็นบุตรของนายพา นางวัน จันได เกิดพฤหัสบดีที่ ๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๖๙ ที่บ้านศรีฐาน ต.ศรีฐาน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.อุบลราชธานี หรือ จ.ยโสธร ในปัจจุบัน บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดป่าศรีฐาน เมื่อวันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๔๙๐ เมื่ออายุครบ ๒๒ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระสงฆ์ที่วัดเดียวกัน หลังศึกษาพระธรรมระยะหนึ่ง ก็ออกธุดงค์ไปตามที่ต่าง ๆ จนได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสนาภาคอีสาน

เมื่อสิ้นบุญหลวงปู่มั่น หลวงปู่เพียรได้ตามหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน มาสร้างวัดป่าบ้านตาดจนแล้วเสร็จ ต่อมาได้ออกธุดงค์ไปจำวัดอยู่กับหลวงปู่บัว ปริปุณฺโณ วัดราษฎรสงเคาระห์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี กระทั่งมาพบสถานที่สร้างวัดป่าหนองกอง เห็นว่าเป็นที่สงบเหมาะสร้างวัดปฏิบัติธรรม หลวงปู่เพียรจึงสร้างวัด ณ สถานที่แห่งนี้จนมั่นคงสืบมา

หลวงปู่เพียร เริ่มมีอาการอาพาธเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๖ กระทั่งในปี ๒๕๔๘ ได้เข้ารับการตรวจรักษาที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคปอดและโรคหัวใจ ต่อมาในปี ๒๕๕๒ ก็เข้ารับการตรวจรักษาบ่อยขึ้น ล่าสุดเมื่อเวลา ๐๙.๐๐ น. ของวันที่ ๒๒ มิถุนายนที่ผ่านมา ลูกศิษย์ได้นำหลวงปู่เพียรที่มีอาการอาพาธส่ง รพ.ศูนย์อุดรธานี และได้รับการส่งต่อไปรักษาที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ก่อนที่หลวงปู่เพียร จะมรณภาพด้วยอาการสงบ เมื่อเวลา ๐๑.๒๘ น. ของวันที่๒๓ มิถุนายน 2552


ราคา 450 บาท ปิดรายการ

 

2152. รูปหล่อรุ่นเเรก หลวงพ่อจันมี อนาลโย วัดป่าแก้งใหม่ อ.สังคม จ.หนองคาย เนื้อทองเเดงรมดำ สร้างจำนวนน้อยมา ไม่ถึงพันองค์ครับ กำลังมาแรงมากในตอนนี้



พระอาจารย์จันมี อนาลโย(วัดป่าแก้งใหม่) ถือกำเนิดในสกุล เพ็งพรหม ณ บ้านสว่าง ต.นายูง อ.บ้านผือ(ปัจจุบันเป็นอำเภอนายูง)จ.หวัดอุดรธานีเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ เมษายน ๒๔๙๕ ตรงกับวันแรม ๔ คำ เดือน ๕ ปีมะโรง บิดาของท่านรับราชการเป็นครู ชื่อ นายนวลศรี มารดาชื่อ นางคำสี เพ็งพรหม ท่านเป็นบุตรคนที่ ๑ ในจำนวลพี่น้อง ๑๐คน เสียชีวิตในวัยเด็ก ๒ คน ในพี่น้อง ๘ คนมีท่านองค์เดียวที่ดำรงอยู่ในสมเพศ

บรรพชา
ท่านใด้รับการบรรพชาครั้งแรก เป็นสามเณรภาคฤดูร้อนที่วัดศรีสะอาด อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ขณะนั้นกำลังเรียนอยู่ในชั้น ม.ศ๑โรงเรียนวัดศรีสะอาด

อุปสมบท
ท่านใด้รับการอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ ๒๗ มิถุนายน พ.ศ. ๑๕๑๙ ณ วัดพระงามศรีมงคล ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
โดยมี
พระครูศีลขันธ์สงวร (หลวงปู่อ่อนสี สุเมธโธ) พระครูสุทธิญาณ (หลวงปู่ต้น) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวิริยโสภณ(หลวงปู่หนูหยาด) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ใด้รับฉายาว่า อานาลโย คือ ผู้ไม่อาลัยห่วงใย

จำพรรษา
พรรษาที่๑-๑๗ ที่วัดป่าหนองกอง(พ.ศ.๑๕๑๙-๒๕๓๖) ต.บ้านเผือ (ปัจจุบันเป็นตำบลบ้านค้อ) อ.บ้านเผือ จ.อุดรธานี เนื้องด้วยท่านตั้งปณิธานว่าจะคอยอยู่ปัฏฐากพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลวงปู่เพียร วิิริโย ไปจนกว่ามีผู้ที่เป็นหลักในการรับใช้แทนท่านได้ ในสมัยนั้นมีพระจำพรรษาไม่มาก คือไม่เกิน ๗ รูป
พรรษาที่๑๘ (พ.ศ.๒๕๓๖) จำพรรษาที่วัดทุ่งกระเชาะ บ้านแพะ ต.บลทุ่งกระเชาะ อ.บ้านตาก จ.ตาก
พรรษาที่ ๑๙ (พ.ศ.๒๕๓๗-ปัจจุบัน) จำพรรษาที่วัดป่าแก้งใหม่ บ้านแก้งใหม่ ต.สังคม อ.สังคม จ.หนองคาย
ท่านมาที่บ้านแก้งใหม่วันที่ ๑๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๗ และกลับมาอีกครั้งในวันที่ ๒๘มีนาคม ในปีเดียวกัน เพื่อสร้างวัดป่าแก้งใหม่ เป็นวัดป่าสายปฏิบัติตามปฏิปทาของพ่อแม่ครูอาจารย์(คัดมาจาก หนังสือ คติธรรมจากคำสอน พระอาจารย์ จันมี อานาลโย)

ราคา 950 บาท

 

2153. เหรียญเสมามหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม "เทพเจ้าเเห่ลุ่มเเม่น้ำโขง" ปี 2536 เนื้อทองเเดง รุ่นนี้้ถูกยกให้เป็น "เหรียญเสมาเเห่งภาคอีสาน" ด้วยรูปเเบบที่งดงาม ปราณีต น่าห้อยมากครับ



เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างเมื่อปี 2536 โดยพระอาจารย์เวทย์ อาจารสัมปัญโน ซึ่งเชื่อกันว่าท่านเป็นลูกในอดีตชาติของท่านตามมาเกิด
มีวัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อหารายได้สมทบทุนบูรณะวัดแก่งตอย อ.ดอนมดแดง จ.อุบลราชธานี แกะพิมพ์โดยช่างอ๊อด(คุณประหยัด ลออพันธุ์สกุล) เป็นเหรียญที่มีรายละเอียดค่อนข้างเยอะแต่แกะได้อย่างงดงาม

ครั้นเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ปลุกเสกเรียบร้อยแล้วท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์ว่า เหรียญรุ่นนี้มีเมตตามหานิยามสูงมาก(เข้าพิธี 4 ครั้ง) และมีเซียนใหญ่สายตรงหลายๆท่านยกให้เป็นเหรียญเสมาแห่งภาคอีสาน สาเหตุเพราะเหรียญรุ่นนี้มีความประณีตงดงามมากดูทีไรก็ไม่เบื่อ อีกทั้งชื่อ "เหรียญมหามงคล" ซึ่งบอกถึงความเป็นมงคลยิ่งแก่ผู้ที่มีไว้ครอบครองและยันต์ด้านหลังเหรียญ ยังใช้ยันต์ดวงมหาปรารถนาเหมือนกับเหรียญมหาปรารถนา ปี 31 อีกด้วย

ในปัจจุบันเหรียญรุ่นนี้ได้รับความนิยมอย่างสูงในหมู่ศิษยานุศิษย์ ตลอดจนผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงปู่ท่าน รวมถึงเซียนพระน้อยใหญ่ต่างหาเช่าบูชามาครอบครองไว้ จึงทำให้ค่านิยมค่อยๆสูงขึ้นตามลำดับ ครับผม


ราคา 650 บาท

 

2154. เหรียญเสมามหามงคล หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม "เทพเจ้าเเห่ลุ่มเเม่น้ำโขง" ปี 2536 เนื้อทองฝาบาตร หายากมาก รุ่นนี้้ถูกยกให้เป็น"เหรียญเสมาเเห่งภาคอีสาน" ด้วยรูปเเบบที่งดงาม ปราณีต น่าห้อยมากครับ

ราคา 950 บาท

 

2155. เหรียญหล่อเจ้าสัวรุ่นเเรก หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ปี 2535 เนื้อฆ้องโบราณ สวยๆ หายาก




"หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ" หรือ "พระสุนทรธรรมากร" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดธาตุมหาชัย ต.มหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม หลวงปู่คำพันธ์เป็นยอดพระเกจิผู้เชี่ยวชาญวิปัสสนากรรมฐาน พลังจิตเข้มขลัง และเป็นพระนักพัฒนา ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวเมืองนคร พนมเป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่คำพันธ์ได้มรณภาพอย่างสงบ ณ กุฏิที่จำพรรษาในวัด เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2546 สิริอายุ 89 ปี พรรษา 59


ปัจจุบันสังขารของท่านยังบรรจุไว้ในโลงแก้วจัดตั้งภายในศาลาการเปรียญวัดธาตุมหาชัย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนและคณะศิษยานุศิษย์ได้แวะไปทำบุญ ได้กราบนมัสการ และยังไม่มีกำหนดการพระราชทานเพลิงศพ

วัตถุมงคล ของพระมหาเถรวิปัสสนาจารย์แห่งลุ่มน้ำโขงรูปนี้ ได้มีการจัดสร้างจำนวนหลายรุ่นหลายพิมพ์ด้วยกัน แต่ที่ได้รับความนิยมและเป็นที่เสาะแสวงหาจากบรรดาเซียนพระ-นักสะสมพระเครื่อง คือ "เหรียญเจ้าสัวหลวงปู่คำพันธ์ รุ่นแรก"

เหรียญรุ่นนี้จัดสร้างโดยพระราชเมธี คณะ 8 วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุง เทพฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้จากการเช่าบูชาไปใช้จ่ายในกิจการงานสงฆ์ภายในวัดมหาธาตุฯ

เหรียญรุ่นดังกล่าวสร้างเมื่อ พ.ศ.2535 เป็นเนื้อทองคำ 37 องค์ เนื้อฆ้องโบราณ 2,000 องค์ และเนื้อผง 10,000 องค์ ลักษณะเหรียญเจ้าสัวหลวงปู่คำพันธ์ รุ่นแรก เป็นรูปสามเหลี่ยมโค้ง มีลักษณะเด่นเป็นเหรียญหล่อไม่ปั๊มพิมพ์เฉกเช่นเหรียญทั่วไป

ด้านหน้าเหรียญ เป็นรูปพระพุทธรูปปางมารวิชัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำวันเกิดของหลวงปู่คำพันธ์ ซึ่งคนไทยมีความเชื่อว่าบุคคลแต่ละคนจะมีพระพุทธรูปปางต่างๆ เป็นพระประจำวันเกิด

ด้านหลังเหรียญ เป็นรูปเหมือนหลวงปู่คำพันธ์ครึ่งรูป หันหน้าไปทางซ้าย ด้านข้างซ้ายขวามีพญานาค 2 ตัว หางและลำตัวเกี่ยวเป็นซุ้ม ด้านล่างสลักตัวหนังสือนูน 2 ชั้น ชั้นบนเขียนคำว่า "หลวงปู่คำพันธ์" ชั้นล่างเขียนคำว่า "วัดธาตุมหาชัย"

เหรียญเจ้าสัวรุ่นนี้มีความแตกต่างจากรุ่นอื่น สังเกตได้ดังนี้ คือ รุ่น 1 รูปเหมือน หลวงปู่คำพันธ์ครึ่งรูปหันหน้าไปซ้าย รุ่น 2 รูปเหมือนหลวงปู่คำพันธ์ครึ่งรูปหันขวา ส่วนรุ่น 3 รูปเหมือนหลวงปู่คำพันธ์ครึ่งรูปหันหน้าตรง รุ่น 4 ด้านหลังเป็นพระธาตุมหาชัย และรุ่น 5 ด้านหลังเป็นพระธาตุพนม ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้เหรียญแต่ละรุ่นซ้ำกัน แต่รูปลักษณะเหรียญเค้าโครงเดิมทุกประการ ทั้งนี้ เหรียญเจ้าสัวเนื้อฆ้องโบราณมีการตอกโค้ดตัว "อะ" หรือตัว "รร" ตรงจีวร ส่วนโค้ดระฆังตอกเฉพาะเหรียญเนื้อทองคำ

กล่าวได้ว่าเหรียญเจ้าสัวหลวงปู่คำพันธ์ล้วนแต่มีประสบการณ์และได้รับการกล่าวขวัญว่ามีพุทธคุณรอบด้าน แคล้วคลาด ปลอดภัย เมตตามหานิยม มหาลาภ เนื่องจากหลวงปู่คำพันธ์ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นพระครูสุนทรธรรมโฆสิต ได้นั่งอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวภายในอุโบสถวัดธาตุมหาชัย เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2535 ราคาเช่าหาเหรียญเจ้าสัวรุ่นนี้ หากเหรียญสภาพสวยๆ ราคาเช่าจะพุ่งขึ้นถึงหลักสองพัน เป็นอีกหนึ่งเหรียญที่ได้รับความนิยมสูงทีเดียว


ราคา 750 บาท ปิดรายการ

 

2156. เหรียญรุ่น 2 หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) วัดธาตุมหาชัย จ.นครพนม "เทพเจ้าเเห่ลุ่มเเม่น้ำโขง" ปี 2528 สร้างน้อยครับ สร้างเนื้อทองเเดงเนื้อเดียว ไม่มีเนื้อพิเศษ รุ่นนี้ส่วนใหญ่เเจกชาวบ้านมหาชัยห้อยคอกันครับ เจตนาสร้างดี น่าใช้มากครับ

เหรียญรุ่นเเรกท่านปี 26 ตอนนี้ราคา 4-5 พันบาทเเล้ว หรือเหรียญมหาปรารถนา ปี 31 ก็สองหมื่นขึ้นครับ เก็บรุ่นนี้ดีกว่าครับ พุทธคุณไม่เเพ้กันครับ

ราคา 850 บาท

 

2157. เหรียญบำรุงขวัญสาธารณสุขมูลฐาน(พระธาตุพนม) หลวงปู่คำพันธ์ อธิษฐานพร ปี 2533 เนื้อเงิน สร้างจำนวนน้อย หายากมากครับ รุ่นนี้อยู่เย็นเป็นสุขดี พุทธคุณสูงครับ

(บทความข้อเขียนนี้เป็นข้อเขียนของอาจารย์อำพล เจน)
“ความจริงเรื่องเหรียญบำรุงขวัญสาธารณสุขมูลฐานนี้ผมได้อยู่ร่วมมือในเหตุการณ์ตัดสินใจสร้างและมีส่วนในการคิดและแนะนำครูบาอาจารย์ปลุกเสกด้วยเรื่องเริ่มที่คุณหมอชัชวาล คล่องพิทยาคม รองแพทย์ใหญ่จังหวัดนครพนม ดำริในขณะกินข้าวมื้อเย็นด้วยกันกับผมและคุณปัญญา โกวิทวงศ์ เจ้าของบริษัทเอเวอร์กรีน ฟาร์ม่า โดยบอกว่าอยากจะทำเหรียญที่ระลึกเพื่อแจกบำรุงขวัญสาธารณสุขหมู่บ้านในจังหวัดนครพนมทุกหมู่บ้าน รวมแล้วมีประมาณสองพันกว่าคน คุณหมอเพิ่งย้ายมาอยู่นครพนมใหม่ๆ ก็คิดว่าอยากจะทำเป็นรูปพระธาตุพนมเพราะว่าเป็นสัญลักษณ์ของนครพนม แต่เรื่องปลุกเสกและออกแบบเหรียญยังไม่ได้คิด ผมและคุณปัญญาก็แนะนำว่าให้ไปกราบเรียนขออนุญาตหลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ ว่าจะทำอย่างนี้เพื่ออย่างนี้ ท่านก็คงจะอนุญาตและเต็มใจปลุกเสกให้หรอก ส่วนการออกแบบและการสร้างก็ควรขอความกรุณาจากอาจารย์อนันต์ สวัสดิ์สวนีย์ ช่วยทำให้ ซึ่งคุณหมอก็คล้อยตามทุกประการ
ทีแรกเหรียญนี้จะสร้างแค่แจกตามจำนวนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหมู่บ้านในเขตนครพนมเท่านั้น แต่คุณหมอแขก ดูเหมือนจะเป็นแพทย์ใหญ่จังหวัดสกลนครทราบ ก็ร้องเอะอะว่าจะเอาด้วย จะเอาไปแจกให้เจ้าหน้าที่ทางสกลนครบ้านจำนวนสร้างที่ต้องเพิ่มขึ้นและเมื่อคุยกันหลายฝ่ายแล้วก็ตกลงใจว่าจะสร้างดังนี้
เนื้อเงิน จำนวน 1,000 เหรียญ
เนื้อทองแดง จำนวน 40,000 เหรียญ
เนื้อเงินไม่แจก แต่ทำขึ้นจำหน่ายหาทุนสร้างห้องสมุดโดยจำหน่ายเหรียญละ 300 บาท
เนื้อทองแดงแบ่งออกเป็นสองส่วนคือของนครพนมและสกลนคร แต่ละผ่ายก็นำไปแจกเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหมู่ในจังหวัดของตนตามที่ตั้งใจไว้ ส่วนที่เหลือจากแจกก็จำหน่าย ทั้งเนื้อเงินและทองแดงจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์ ถวายหลวงปู่คำพันเพราะฉะนั้นเนื้อเงิน 30 เหรียญ ทองแดง 4,000 เหรียญได้นำมาขึ้นถวายหลวงปู่คำพัน

ถึงตรงนี้ก็เป็นที่ซึ่งผมจะต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ และจริงใจต่อผู้อ่าน เพราะเหตุว่านี่ดูเหมือนจะป็นเหรียญร่นเดียวที่ผมเล่ารายละเอียดในแบบที่เคยเล่าไม่ได้ นั่นเพราะสัจวาจาที่ให้ไว้กับหลวงปู่คำพัน หลังจากที่ท่านห้ามผมไม่ให้เขียนประวัติท่าน ผมจึงไม่กล้าที่จะเขียนถึงท่านมากกว่านี้ คนอื่นๆอาจเขียนได้ แต่ว่าผมไม่เขียนแน่

ถ้าใครอยากรู้จีก อยากรู้เรื่องหลวงปู่คำพัน ให้แวะไปที่ท่าพระจันทร์ ถามหาคุณเง็ก บางลำภู ใครก็ตามจะได้ฟังเรื่องหลวงปู่คำพัน ตั้งแต่เช้ายันเย็นก็ไม่หมด

เชื่อผมเถิดครับ บูชาเหรียญนี้ไว้ไว้อย่างน้อยคนละเหรียญ รับรองไม่ขาดทุน….


เหตุใดอาจารย์อำพลถึงบอกว่าเหรียญนี้ดี

ด้วยเหตุที่สนใจพระเครื่องนี้เองทำให้ผมได้รู้จักนักตรวจพลังพระเครื่องซึ่งเที่ยวเดินไปเรื่อย พอเจอองค์ที่เหมาะใจก็เช่าทันทีแม้ว่าพระเครื่องนั้นจะเห็นชัด ๆ ว่าปลอมพันเปอร์เซ็นต์ก็ตาม นักตรวจพลังเหล่านั้นมีอยู่มาก ซึ่งทุกรายผมเห็นว่าเป็นตัวตลกทั้งสิ้น
วิชาตรวจพระเครื่องผมพอจะทำใจเชื่อได้บ้างว่าอาจมีจริง แต่ผมไม่เชื่อว่าคนที่ทำท่าตรวจพลังนั้นจะสามารถตรวจได้จริง เพราะดูไปแล้วเขาก็ไม่ได้มีความประพฤติเลิศเลอไปกว่าผมเท่าใดเลย
นักตรวจพลังพระเครื่องที่ผมรู้จักก็กลายเป็นของเล่นสนุกสำหรับผมโดยที่เขาไม่มีทางรู้ตัว
ผมทั้งเอาของปลอมของแท้ให้เขาตรวจ ซึ่งคำตอบที่ออกมาก็ทำให้ผมรู้ว่าหมอนี่มั่วซั่วอย่างหาที่ติไม่ได้
อาจารย์ประโยชน์คณบดีคณะวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เคยเล่าว่า เพื่อนของท่านคนหนึ่งเป็นนักตรวจพระเครื่องเคยไปเช่าพระกรุ วัดดาวคะนองด้วยกัน ก่อนเช่าก็เอาพระกรุที่ขุดได้นั้นให้ตรวจเสียก่อนว่าเป็นของสมเด็จฯโตหรือไม่ เขากำพระไว้ในมือครู่หนึ่งแล้วร้องโอ้โฮใช่แน่นอน แรงมากก็เลยเช่ามาคนละองค์
อาจารย์ประโยชน์ก็คล้ายผมแหละครับ ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ ท่านก็รอเวลาให้ผ่านไปก่อน
1 ปี แล้วเอาพระเครื่ององค์เดิมกลับมาให้นักตรวจพลังคนเดิมตรวจอีกที แล้วถามคำถามเดิมว่าใช่พระของสมเด็จฯโตหรือเปล่า
คำตอบคือไม่ใช่ แถมยังอ๊อนอ่อนอีกต่างหาก
อาจารย์ประโยชน์ก็ขบขันไปแต่นักตรวจพลังพระเครื่องที่อาจารย์ประโยชน์เชื่อถือก็มีอยู่คนหนึ่งคืออาจารย์เบิ้ม ซึ่งอาจารย์เบิ้มนี้เมื่อครั้งที่ผมรู้จักท่านใหม่ๆ ก็ไม่ปลงใจเชื่อเหมือนรายอื่น ๆ แต่ผมก็เกรงใจในฐานะที่ท่านเป็นผู้ใหญ่ที่มีความประพฤติดีกว่าผม และก็แอบๆ ลองของกับท่านอยู่หลายเที่ยวโดยที่ท่านไม่รู้ตัวหรืออาจจะรู้ก็ไม่ทราบ
วิธีลองของผมนั้นก็คล้ายกับอาจารย์ประโยชน์ทำไว้ก่อนนั่นแหละครับ แต่คำตอบที่ได้รับก็เหมือนเดิมทุกครั้ง
ครั้งที่สำคัญที่ผมลองก็คือผมเอาจีวรหลวงปู่แหวนฝากกับเพื่อนไปให้อาจารย์เบิ้มตรวจ โดยที่เพื่อนผู้รับฝากไม่ทราบว่าผมกำลังทำอะไรผมเพียงบอกว่าจีวรนี้ได้มานานแล้วและก็ลืมแล้วว่าเป็นจีวรของใคร ขอให้อาจารย์ตรวจดูด้วย โดยนำเอาพระเครื่องของหลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่ดูลย์ หลวงปู่ผาง หลวงปู่สิม ไปเป็นเครื่องประกอบการจรวจให้ดูว่าจีวรนั้นเป็นขององค์ไหน
เพื่อนผมก็นำไปและกลับมาเล่าให้ฟังว่า อาจารย์เบิ้มออกปากว่าอย่างนี้ยากอยู่นะ ต้องผู้มีฌานระดับหลวงปู่จึงจะรู้ แต่ท่านก็จะลองพยายามดู และก็เอาจีวรขึ้นมาตรวจก่อน แล้วเอาเหรียญหลวงปู่ทุกองค์ขึ้นมาตรวจไล่ไปทุกเหรียญ ที่สุดท่านก็บอกว่า จีวรนี้น่าจะเป็นของหลวงปู่แหวน เพระว่าเหมือนกันมาก
นี่สิครับเจ๋ง!
อีกคราวหนึ่ง เพื่อนผมได้อัฐิธาตุของหลวงปู่จันทร์วัดศรีเทพ มาชิ้นหนึ่งก็นำไปให้อาจารย์เบิ้มดูว่าเป็นของใครโดยวิธีเดียวกับของผม ปรากฏว่าอาจารย์เบิ้มตอบได้ถูกต้องว่าเป็นอัฐิธาตุของหลวงปู่จันทร์จริงๆ
ที่เจ๋งกว่านั้นก็คือพระเครื่องรุ่นเดียวกันเหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว คือเป็นพระเครื่องของหลวงปู่ขาว อนาลโย แต่ว่ามีอยู่องค์หนึ่งได้นำไปถวายหลวงปู่สิม,หลวงปู่ชอบและหลวงปู่คำพันเสก เพิ่มแล้วนำมาให้อาจารย์เบิ้มตรวจดูซึ่งเมื่อตรวจแล้วอาจารย์เบิ้มก็แสดงความแปลกว่าใจทำไมพระเครื่องสององค์นี้ไม่เหมือนกันทั้งๆที่เป็นรุ่นเดียวกันของหลวงปู่ขาวเหมือนกันและอีกองค์หนึ่งกลับดีกว่าอีกองค์หนึ่งองค์ที่ดีกว่าก็คือองค์ที่ไปเสกเพิ่มมานั่นแหละครับ
ผมทดลองอาจารย์เบิ้มมาแล้วแทบทุกวิธี ทั้งวิธีเอากระดาษห่อพระไว้ไม่ให้เห็นด้วยตาท่านก็ยังทราบว่าอะไรเป็นอะไรจริงได้อย่างถูกต้องทำให้ผมเชื่อใจท่านได้สนิทว่านักตรวจพลังพระเครื่องท่านนี้เป็นของจริง
อาจารย์เบิ้มเคยฝึกปฏิบัติกับหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ เพราะว่าบ้านอยู่ใกล้วัดปากน้ำ และก็เคยฝึกปฏิบัติกับหลวงพ่อชา สมัยไปอยู่อุบลฯ และก็หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีอีกองค์หนึ่งวิชาตรวจพระ ดูเหมือนว่าจะได้มาจากหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี (ผมไม่แน่ใจนะครับ)
ในกลุ่มพวกเราที่เชื่อถืออาจารย์เบิ้มมักจะประพฤติกันเสมอคือใครได้พระอะไรมาก็เอามาให้อาจารย์เบิ้มตรวจเสียก่อน ทั้งนำไปตรวจด้วยตนเอง และฝากไปตรวจซึ่งการฝากไปตรวจนั้นโดยมากเป็นผมประพฤติเพราะการฝากมีโอกาสลองของได้ง่าย
ล่าสุดนี้ได้มีการนำเหรียญบำรุงขวัญ ซึ่งสาธารณสุขจังหวัดนครพนม สร้าง ไปให้อาจารย์เบิ้มตรวจ อาจารย์เบิ้มตรวจแล้วก็เปล่งวาจาว่า
“อยู่เย็นเป็นสุข”
นั่นยังไม่หนำใจ มีการแอบนำกลับไปตรวจอีกเป็นรอบสองโดยที่อาจารย์เบิ้มไม่รู้จักว่าอะไรซึ่งเมื่อตรวจแล้วก็เปล่งวาจาเดิมอีก “อยู่เย็นเป็นสุข”


ราคา 1,850 บาท ท่านLivelight

 

จองรายการที่2157ค่ะ

 

รับทราบครับผม ขอบพระคุณครับ

 

รายการ 2146 รูปหล่อหลวงปู่ไม โอนเงินแล้ว รายละเอียดแจ้งในกล่องข้อความแล้ว ขอบคุณครับ

 

ได้โอนเงิน ๓๔๐๐ บาท เมื่อ ๒๕พค.เวลา๑๐.๕๐ น.เป็น ค่าบูชาพระ ๒.รายการ ที่อยู่ดูในกล่องข้อความครับ

 

2158. พระกริ่งจันทร์เพ็ญ กริ่ง+พระชัยรุ่นแรก พระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม ปี 2553 เนื้อนวะเเก่เงิน สร้างน้อย 2553 ชุด โดยจองเต็มภายในเวลาไม่ถึงเดือน



พิธีใหญ่เททองพระกริ่งอาภัสสโร- อาบน้ำมนต์พระจันทร์คืนลอยกระทง ที่วัดป่าโนนแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม
-นายพิเชฏฐ์ หลั่งทรัพย์ ผอ.วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการนครพนม ในฐานะที่ปรึกษาในการดำเนินการจัดสร้าง “พระกริ่งจันทร์เพ็ญอาภัสสโร” และ “พระชัยวัฒน์อาภัสสโร” ในวันอาทิตย์ที่ 21 พ.ย.2553 ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 วันลอยกระทง ที่วัดป่าโนนแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม สำหรับพระกริ่งที่จัดสร้าง เป็นศิลปะวัดสุทัศน์ฯ ประกอบด้วยเนื้อทองคำ ราคา 99,990 บาท เนื้อเงิน ราคา 2,500 บาท และเนื้อนวโลหะ ราคา 999 บาท และจัดสร้างตามจำนวนสั่งจองเท่านั้น รายได้นำไปจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลนครพนม และโรงพยาบาลบ้านแพง

พิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 13.29 น.โดยมีพระอาจารย์บุญอุ้ม อาภัสสโร พระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดป่าโนนแพง อ.บ้านแพง เป็นประธานเททองหล่อ พระสงฆ์ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์ และบวชชีพราหมณ์ให้ผู้ร่วมพิธี ภายหลังประธานในพิธีจุดเทียนชัย จะมีพิธีสวดพระคาถาพุทธาภิเษก สลับกับชีพราหมณ์สวดอิติปิโส 108 จบ และสวดกำลังวันทั้ง 7 เพื่อความเป็นสิริมงคล กระทั่งเวลา 22.29 น. เมื่อฤกษ์พระจันทร์ในคืนวันเพ็ญตรงศีรษะ หรือเงาพระจันทร์ส่องกระทบบาตรน้ำมนต์ จึงจะทำพิธีอธิษฐานจิตโดยพระอาจารย์บุญอุ้ม จากนั้นจะประกอบพิธีอาบน้ำมนต์พระจันทร์ให้ผู้เข้าร่วมพิธีทุกคน

นายพิเชฏฐ์กล่าวต่อว่า พระกริ่งที่จัดสร้างมีส่วนผสมของโลหะ 9 ชนิด เททองหล่อแบบพิธีโบราณโดยนายช่างสมร รัชตนะธรรม นายช่างมือหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมี อ.วันชัย สุพรรณ เซียนพระชื่อดังในรายการคุยเฟื่องเรื่องพระ จะเดินทางมาเป็นพิธีกร


ราคา 1,250 บาท ปิดรายการ

 

2159. ล็อกเก็ต หลวงปู่เสถียร คุณวโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำพระภูวัว จ. หนองคาย หลังตะกั่วจารมือ หลวงปู่จารเองครับ สร้างน้อย และหายากมากครับ

ท่านเป็นอีกหนึ่งของพระสายกรรมฐานที่มีปฏิปทาน่าเลื่อมใสและกราบไหว้ได้สนิทใจ วัตถุมงคลของท่านสร้างออกมาไม่กี่รุ่น และล็อกเก็ตรุ่นนี้ถือเป็นล็อกเก็ต รุ่นที่ 2 ซึ่งด้านหลังปิดตะกั่วตอกโค้ดและหลวงปู่ท่านเมตตาจารเองทุกองค์มาพร้อมเลี่ยมเดิม ๆ ปัจจุบันเริ่มหายากศิษย์สายตรงเก็บเงียบ เรื่องพุทธคุณไม่ต้องโม้ให้เสียเวลา





หลวงปู่เสถียร คุณวโร เจ้าอาวาสวัดถ้ำพระภูวัว ต. โสกก่าม อ. เซกา จ. หนองคาย ( ปัจจุบันคือ จ. บึงกาฬ ) ท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่ศรีจันทร์ วัณณาโภ และ หลวงปู่ฝั้น อาจาโร

หลวงปู่เสถียร ท่านมีอุปนิสัยพูดน้อย สมถะ ชอบปลีกวิเวก และธุดงค์ไปตามป่าเขา มีเมตตาต่อญาติโยมดุจลูกหลาน จะเน้นการสอนทั้งพระเณรและญาติโยมด้วยการประพฤติตนให้ดูเป็นแบบอย่าง และคำพูดสั้นๆเพียงไม่กี่คำของท่านแต่ก็มีความเมตตาและธรรมะอันลึกซึ้งแฝงอยู่ในนั้น
ท่านได้ถือข้อวัตรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดเช่น ฉันในบาตร ฉันหนเดียว รักษาความสันโดษ ไม่ชอบคลุกคลีกับหมู่คณะ ถ้าแม้ยามใดว่างจากภารกิจอื่นแล้ว ท่านจะเข้าที่บำเพ็ญเพียรภาวนาทันที ปฏิปทาที่ท่านดำเนินมาสม่ำเสมอ คือ
๑. ใคร่ในการปฏิบัติกรรมฐาน
๒. ฉันหนเดียวเป็นวัตร
๓. บิณฑบาตเป็นวัตร ยกเว้นมีกิจนิมนต์และอาพาธ
๔. ปฏิบัติธรรมวินัยสม่ำเสมอ
๕. มีพรหมวิหารธรรม ๔ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขาประจำใจ
๖. มีสังคหธรรม ๔ คือ ทาน ปิยวาจา อัตถจริยา และสมานัตตา
ท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นพระอริยสงฆ์ที่ประพฤติตนอยู่ในศีลในธรรมอันดีงาม เป็นพระป่ากรรมฐานผู้ซึ่งมีแนวทางปฏิบัติตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าและพ่อแม่ครูบาอาจารย์ อย่างเคร่งครัด


มี 2 องค์ ราคาองค์ละ 750 บาท

1. ปิดรายการ



2.ปิดรายการ