ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ิตทุกดวงถึงพระนิพพานหมดแต่ช้าเร็วต่างกัน
    เพราะวาสนาบารมีที่สั่งสมมามีมากน้อยต่างกัน

    (คติธรรม หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)

    กัปป์หนึ่งมีพระพุทธเจ้าสี่องค์ห้าองค์ ฮาลังเถื่องกะสามองค์ ฮาลังเถื่อกะสององค์ ปานนั่นกะมากกว่าอสงไขย์ อสงไขย์กัปป์เสียแล้ว สาวกของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นสิมากปานใด๋ซั่น สาวิกาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นสิมากปานใด๋ซั่น นับแต่พระโสดาบันของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั่นขึ้นไป ตลอดถึงพระอรหันต์ สาวกสาวิกาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ล่ะองค์ๆ สิหลายปานใด๋ ฮานี่ซุมยังอยู่ เป็นนกหนูปูปีกบินผ่าฟ้าผ่านหมอกอยู่หมู่นี่ เป็นปลวกเป็นมด เป็นสัตว์เดรัจฉาน สิหลายปานใด๋ให้ว่าเถาะ จนนับบ่ไหว ไผ๋สิไปนับไหว นับแมงเม่าเบิ่งดู้มันออกสิไหวเบาะ นับพวกปูพวกปลา สัตว์บกสัตว์น้ำ ในมหาสมุทรทะเลแฮงหลายสัตว์อ่ะ ัตว์หมู่นี่สิไปพระนิพพานเมิ๊ด พระพุทธเจ้าว่า ฮั่งจักแมนพระพุทธเจ้าองค์ใด๋ บ่ทันมีคิว

    ขั่นเป็นถึงพระโสดาบันแล้ว สาวกนั่น มีคิวแล้ว ยังบ่ทันถึงพระโสดาบันกะยังบ่ทันมีคิวอีกละ ยังเวียนวัดปัดถะหวิงอยู่ เพราะยังเดินเวียนรอบขอบกระด้งอยู่ เวียนนำทุกข์นำกองทุกข์ พระโสดาบันบ่เป็นทุกข์เบาะ เป็นอยู่ แต่ฮั่งเดินผ่าศูนย์กลางทุกข์ สิออกขอบทางนอกแล้วบ่ได้เดินเวียนนำทุกข์

    1527094207_207_จิตทุกดวงถึงพระนิพพานห.jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ิตทุกดวงถึงพระนิพพานหมดแต่ช้าเร็วต่างกัน
    เพราะวาสนาบารมีที่สั่งสมมามีมากน้อยต่างกัน

    (คติธรรม หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)

    กัปป์หนึ่งมีพระพุทธเจ้าสี่องค์ห้าองค์ ฮาลังเถื่องกะสามองค์ ฮาลังเถื่อกะสององค์ ปานนั่นกะมากกว่าอสงไขย์ อสงไขย์กัปป์เสียแล้ว สาวกของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นสิมากปานใด๋ซั่น สาวิกาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นสิมากปานใด๋ซั่น นับแต่พระโสดาบันของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั่นขึ้นไป ตลอดถึงพระอรหันต์ สาวกสาวิกาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ล่ะองค์ๆ สิหลายปานใด๋ ฮานี่ซุมยังอยู่ เป็นนกหนูปูปีกบินผ่าฟ้าผ่านหมอกอยู่หมู่นี่ เป็นปลวกเป็นมด เป็นสัตว์เดรัจฉาน สิหลายปานใด๋ให้ว่าเถาะ จนนับบ่ไหว ไผ๋สิไปนับไหว นับแมงเม่าเบิ่งดู้มันออกสิไหวเบาะ นับพวกปูพวกปลา สัตว์บกสัตว์น้ำ ในมหาสมุทรทะเลแฮงหลายสัตว์อ่ะ ัตว์หมู่นี่สิไปพระนิพพานเมิ๊ด พระพุทธเจ้าว่า ฮั่งจักแมนพระพุทธเจ้าองค์ใด๋ บ่ทันมีคิว

    ขั่นเป็นถึงพระโสดาบันแล้ว สาวกนั่น มีคิวแล้ว ยังบ่ทันถึงพระโสดาบันกะยังบ่ทันมีคิวอีกละ ยังเวียนวัดปัดถะหวิงอยู่ เพราะยังเดินเวียนรอบขอบกระด้งอยู่ เวียนนำทุกข์นำกองทุกข์ พระโสดาบันบ่เป็นทุกข์เบาะ เป็นอยู่ แต่ฮั่งเดินผ่าศูนย์กลางทุกข์ สิออกขอบทางนอกแล้วบ่ได้เดินเวียนนำทุกข์

    1527094086_409_จิตทุกดวงถึงพระนิพพานห.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ิตทุกดวงถึงพระนิพพานหมดแต่ช้าเร็วต่างกัน
    เพราะวาสนาบารมีที่สั่งสมมามีมากน้อยต่างกัน

    (คติธรรม หลวงปู่หล้า เขมปัตโต)

    กัปป์หนึ่งมีพระพุทธเจ้าสี่องค์ห้าองค์ ฮาลังเถื่องกะสามองค์ ฮาลังเถื่อกะสององค์ ปานนั่นกะมากกว่าอสงไขย์ อสงไขย์กัปป์เสียแล้ว สาวกของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นสิมากปานใด๋ซั่น สาวิกาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั้นสิมากปานใด๋ซั่น นับแต่พระโสดาบันของพระพุทธเจ้าทั้งหลายเหล่านั่นขึ้นไป ตลอดถึงพระอรหันต์ สาวกสาวิกาของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ล่ะองค์ๆ สิหลายปานใด๋ ฮานี่ซุมยังอยู่ เป็นนกหนูปูปีกบินผ่าฟ้าผ่านหมอกอยู่หมู่นี่ เป็นปลวกเป็นมด เป็นสัตว์เดรัจฉาน สิหลายปานใด๋ให้ว่าเถาะ จนนับบ่ไหว ไผ๋สิไปนับไหว นับแมงเม่าเบิ่งดู้มันออกสิไหวเบาะ นับพวกปูพวกปลา สัตว์บกสัตว์น้ำ ในมหาสมุทรทะเลแฮงหลายสัตว์อ่ะ ัตว์หมู่นี่สิไปพระนิพพานเมิ๊ด พระพุทธเจ้าว่า ฮั่งจักแมนพระพุทธเจ้าองค์ใด๋ บ่ทันมีคิว

    ขั่นเป็นถึงพระโสดาบันแล้ว สาวกนั่น มีคิวแล้ว ยังบ่ทันถึงพระโสดาบันกะยังบ่ทันมีคิวอีกละ ยังเวียนวัดปัดถะหวิงอยู่ เพราะยังเดินเวียนรอบขอบกระด้งอยู่ เวียนนำทุกข์นำกองทุกข์ พระโสดาบันบ่เป็นทุกข์เบาะ เป็นอยู่ แต่ฮั่งเดินผ่าศูนย์กลางทุกข์ สิออกขอบทางนอกแล้วบ่ได้เดินเวียนนำทุกข์

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เรื่อง “นิพพาน เที่ยง”

    “สิ้นสมมติแล้ว นิพพานเที่ยง จิตพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ จิตพระอรหันต์ทุกองค์ ทรงธรรมที่ว่า นิพพานเที่ยง”

    (คติธรรม หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน)

    ลูกศิษย์ : หลวงตาคะ คำว่า นิพพานเที่ยง ถูกหรือผิดคะ

    หลวงตา : ถูกหรือผิดมันมีความหมายอย่างไรบ้าง มันมีแง่อยู่นั่นน่ะ

    ลูกศิษย์ : คือมันถูกหรือไม่ล่ะคะ นิพพานเที่ยง

    หลวงตา : ถ้าผิดพระพุทธเจ้าก็ผิดไปนานแล้ว ถ้าถูกก็องค์ศาสดาถูกไปก่อนพวกเราแล้ว ไปเถียงกันเป็นบ้าหาอะไร อย่างนั้นซีปุ๊บปั๊บเอาแล้ว

    ลูกศิษย์ : แสดงว่าถูกนะคะ

    หลวงตา : ไม่เอา ไม่ตอบ ตอบหาอะไร สิ่งที่ไม่น่าตอบ ตอบจะเป็นปัญหาขึ้นมาทันที เพราะอันนี้สิ้นปัญหาโดยสิ้นเชิงแล้ว สมบูรณ์แบบแล้วอยู่กับว่านิพพานเที่ยง หมดปัญหา ไม่มีพระอรหันต์องค์ใดจะเป็นข้อสงสัย นอกจากพวกที่หันไปหาเสื่อหันไปหาหมอน มันสงสัยวันยังค่ำพวกนี้ เข้าใจไหม ไม่ตอบแหละนิพพานเที่ยง ไม่ตอบ พอเข้าใจกันหมดแล้วนี่นะ คำว่าเที่ยงก็เทศน์ให้ฟังแทบทุกวันๆ จิตสิ้นกิเลสเท่านั้นปั๊บเลย ไม่ต้องถามหานิพพานเที่ยงไม่เที่ยง ท่านไม่ถามใคร ปึ๋งขึ้นในจิตของท่าน จะว่านิพพานหรืออะไรก็แล้วแต่ท่านไม่สงสัย แต่พวกเรานี้หางมนั้นงมนี้ไป โลกไม่อยากไป โลกไม่สนใจสิ่งที่เที่ยง สิ่งที่หมุนกันอยู่เหมือนฟุตบอลนี้โลกชอบมาก

    เข้าใจหรือเปล่าล่ะ นิพพานเที่ยง ท่านก็เขียนไว้แล้วในตำราเต็มไปหมด แล้วต้นเหตุที่เป็นนิพพานเที่ยงมาจากไหน ก็มาจากจิตที่บริสุทธิ์ เพราะจิตดวงนี้ตามธรรมชาติแล้วจะไม่เคยฉิบหาย ไม่เคยตาย อย่างร่างกายตาย คนนั้นเกิดคนนี้ตาย มีแต่ร่างเท่านั้นเปลี่ยนสภาพแปรสภาพ หมดสภาพแล้วก็แปรลงไป เขาเรียกว่าสัตว์ตาย คนตาย ทีนี้จิตดวงที่อยู่ข้างในมันออกแล้ว ตัวนี้ไม่ตาย ไปตามกรรมของตัวเอง กรรมดีไปทางดี กรรมชั่วไปทางชั่ว ที่จะให้ฉิบหายไม่มี แม้แต่ไปจมในนรกกี่กับกี่กัลป์ ก็ต้องทนทุกข์ทรมานตามอำนาจแห่งกรรมหนักเบาของตน จะทุกข์ขนาดไหนก็ยอมรับว่าทุกข์แต่ไม่ยอมฉิบหายคือจิตดวงนี้

    เหล่านี้เป็นแดนสมมุตินะที่ว่านรกอเวจี สวรรค์ชั้นพรหม เหล่านี้เป็นแดนสมมุติทั้งนั้น พอพ้นจากนี้ปึ๊บแล้วนั้นเรียกว่าแดนแห่งนิพพาน นั่นละนิพพานเที่ยง คือจิตที่บริสุทธิ์พอพ้นจากสิ่งสมมุติทั้งหลายเหล่านี้แล้ว ด้วยการชำระซักฟอก หรือสร้างบารมีคุณงามความดีนั้นแหละพูดง่าย ๆ ว่าชำระซักฟอก บริสุทธิ์เต็มที่แล้วก็ดีดผึงเลย อันนี้เองที่ไปเสวยบรมสุข เสวยแบบนิพพาน เสวยแบบนอกสมมุติ ไม่ใช่เสวยในสมมุติ เข้าใจไหม แต่เมื่อโลกมีสมมุติท่านก็ต้องแยกออกมาว่าเสวยบรมสุข หรือเสวยวิมุตติ แยกมาตามสมมุติ หลักธรรมชาตินั้นท่านรู้ท่านเองท่านไม่ไปถามใคร นี่เรียกว่าจิตเที่ยง เที่ยงนี้จะไม่เอนเอียงเลย สมมุติไม่เข้าไปถึงแล้ว นี่เรียกว่าแดนนิพพาน

    ความไม่สูญไม่สิ้นคือจิตใจ นอกนั้นมีแปรสภาพทั้งหมด แปรเป็นโลก อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา จิตนี้เวลามีสมมุติอยู่ก็เป็น อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา เหมือนกัน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแต่ไม่ยอมฉิบหายเท่านั้นเอง พอชำระซักฟอกบริสุทธิ์แล้วก็ดีดผึงเลย นี่ถึงที่ว่านิพพานเที่ยง คือจิตพระอรหันต์นั้นแหละผู้ทรงนิพพานเที่ยง พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอรหันต์ทุกองค์ ทรงธรรมที่ว่านิพพานเที่ยงทั้งนั้น ท่านไม่ต้องไปถามใคร นี่เรียกว่านิพพานเที่ยง เข้าใจหรือยัง

    ลูกศิษย์ : เข้าใจแล้วค่ะ

    -นิพพาน-เที่ยง.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เดินตามครู
    .
    เราทำอะไรไม่ได้ ไปสอนคนอื่นให้เป็นประโยชน์ได้อย่างไร
    จะเอาความเฉลียวฉลาดอะไรไปสอนเขาพอให้ถึงใจ
    ถ้าไม่ถึงใจเราก่อนแล้ว ไปสอนคนอื่นก็ไม่ถึงใจ
    ถ้าถึงใจเราแล้ว เอาความถึงใจนี้ออกสอนคนอื่นทำไมจะไม่ถึงใจล่ะ
    ธรรมเป็นของจริงล้วนๆ มาแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว

    ………………………………………………………..

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมพระ ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๒๔

    .jpg

    ที่มา เมตตาธรรม ศิษย์พระธุดงค์กรรมฐาน สายหลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ุญมิได้วัดกันที่ค่าของทรัพย์สินเงินทอง
    แต่มันอยู่ที่กำลังใจนั่นแหละ
    ให้รักษาใจที่เป็นภาชนะรองรับเอาบุญ

    เรื่อง “ทำบุญเพียงสองสลึง ทำให้แผ่นดินไหว“

    (คติธรรม หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศา)

    ๐ สอนวิธีทำบุญให้ได้อานิสงส์มาก

    ในอดีตกาลล่วงมาแล้ว สมัยองค์พระผู้มีพระภาคเจ้ายังทรงพระชนย์อยู่ มีพระยาเจ้าเมือง เมืองหนึ่ง มีใจศรัทธาปรารถนาจะถวายผ้ากฐินเป็นทาน จึงได้ป่าวประกาศไปทั่ว บ้านเมืองเพื่อเชิญชวนให้ชาวเมืองได้ร่วมทำบุญในครั้งนี้ ข่าวทราบถึงมหาเศรษฐีสองคนผัวเมีย มีเงินทองอยู่ ๘๘ โกฏิ เขาทั้งสองเกิดความศรัทธาปิติยินดีในกองบุญกฐินนั้น จึงตั้งใจที่จะร่วมถวายทาน ผ้ากฐิน ตกกลางคืนมาสองผัวเมียก็มาคิดว่า ตัวเรานี้มีข้าวของมากมายแต่ไม่มีอันใดเลย ที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน มีแต่ใช้คนอื่นหามา มันจะ เกิดอานิสงส์แก่เรามากไหมหนอ เมื่อคิดอย่างนั้นผู้เป็นผัวจึงชวนเมียว่า พรุ่งนี้เช้าเราพากันไปเกี่ยวหญ้ามาขาย เอาเงินที่ได้ด้วยน้ำพักน้ำแรงเรา ไปทำบุญ มันจักได้บุญมาก ผู้เป็นเมียจึงตอบตกลง พอรุ่งเช้าก็พากันถือเคียวเที่ยวเกี่ยวหญ้ากลางแดดร้อน ได้หญ้า มาสามมัด จึงเอามาสางเอามาล้างเเล้วมอบให้คนใช้นำไปขายให้คนเลี้ยงม้า ได้เงินมา สามสลึงจึงมอบให้คนใช้สลึงหนึ่ง ผัวเอาสลึงหนึ่ง เมียได้ สลึงหนึ่ง สองคนผัวเมีย ได้เงินสองสลึงแล้วจึงพากันนำเงินนั้นมาชำระล้าง ด้วยน้ำอบน้ำหอม ตั้งจิตอธิษฐานยกเงินขึ้นเหนือหัว แล้วตั้งสัจจะอธิษฐาน ด้วยความปิติยินดี แล้วคิดว่า นี่เเหละ! คือเงินที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงของเรา เราจะได้บุญมาก!

    จากนั้น สองคนผัวเมียมหาเศรษฐี จึงเดินทางไปที่บ้านของพระยาเจ้าเมือง พอไปถึงก็เดินเข้าไปในบ้าน ไปหยุดตรงที่เขาตั้งขัน รับบริจาคทานบุญกฐินไว้ เขาจึงพากันหย่อนเงินลง “แก๊ก แก๊ก” แล้วก็เดิน ออกไป พอพระยาเจ้าเมืองเห็นจึงเดินมาดูในขัน เห็นเงิน อยู่สองสลึง จึงเกิดโทสะโกรธขึ้นเป็นฟืนเป็นไฟ “ว่า ไอ้อี สองคนนี้ มันเป็นถึงมหาเศรษฐี มีข้าวของ ๘๘ โกฏิ มาตระหนี่ ดูถูกดูแคลนกู กูตั้งกองบุญกฐิน เอาเงินมาร่วมนิดเดียว จึง หยิบเงินขว้างทิ้งลงพื้นกระเด็นไปตกข้างกำแพง

    พอถึงเวลา พระยาเจ้าเมือง และบริวารชาวบ้านชาวเมืองจึงพากันแห่ผ้ากฐินเข้าไปสู่อาราม เพื่อจะถวายพระพุทธเจ้า ครานั้นแผ่นดินไหวสนั่นไปทั่ว บังเกิดต้น กัลปพฤกษ์งอกขึ้นตรงที่เงิน สองสลึงตกอยู่ พระยาเจ้าเมืองดีใจว่า กูนี้เป็นผู้มีบุญมาก ทำบุญกฐิน แผ่นดินพอไหว ต้นไม้กัลปพฤกษ์พองอก จึงวิ่งเข้าไปหมายจักหยิบเงินทองข้าวของที่ห้อยอยู่บนกิ่งกัลปพฤกษ์ แต่เข้าไปไม่ถึงเกิดร้อนขึ้นนัยตาแทบแตกใครก็เข้าไม่ถึงมีแต่สองคนผัวเมียมหาเศรษฐี เท่านั้นที่เข้าไปได้ และนำต้นกัลปพฤกษ์ มาวางบนฝ่ามือได้พอดี

    เมื่อนั้น องค์พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสว่า “เหตุที่แผ่นดินไหว และต้นกัลปพฤกษ์งอกขึ้นนั้น มิใช่เพราะนาบุญของท่านพระยาเจ้าเมือง เป็นเพราะ อานิสงส์ของสองคนผัวเมียมหาเศรษฐี นั่นแหละ”

    คนเราอย่าได้นับประมาทลาสาดูถูกดูแคลนคนที่เขาทำบุญน้อยนิด เพราะเขาอาจจะแลกด้วยชีวิตถึงจะได้ เงินนั้นมาทำบุญเขาอาจจะได้อานิสงส์มากว่าเราที่มีเงินแสนเงินล้านอีกก็ได้

    ุญมิได้วัดกันที่ค่าของทรัพย์สินเงินทอง
    แต่มันอยู่ที่กำลังใจนั่นแหละ

    บางทีชาวไร่ชาวบ้านที่ยากจน นำเงินน้อยนิดที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของตนมาทำบุญ อาจจะได้อานิสงส์ มากกว่าคนรวยๆ ที่ได้เงินมาง่ายๆ เสียอีกเน้อ

    (เครดิตจากคุณ Niti Wattana)

    .jpg

    ที่มา ธรรมะพระป่ากรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    คำว่า “พระพุทธศาสนา” นั้น ไม่มีทางเสื่อมจากโลก จากจักรวาล ไม่ว่าในกาลไหนๆ คนต่างหากทำตนให้เสื่อมจากพระพุทธศาสนา

    พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ และตรัสสอนก็ไม่ตาย คนละบาปเท่านั้น จึงจะรู้จักพระธรรม

    พระธรรมไม่ตาย คนไม่ละบาปต่างหาก ตายจากศีลธรรม เพราะพระธรรมไม่เข้าใกล้คนที่มีกิเลส

    -:- โอวาทธรรม -:-
    หลวงปู่สิม พุทธจาโร
    วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    -พระพุทธศาสนา-นั้.jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระเจ้าอโศกมหาราชจับพระสึก ๖ หมื่นกว่ารูป เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งพระธรรมวินัย

    ครั้งหนึ่งในอดีต “พระเจ้าอโศกมหาราช” ทรงร่วมปฏิรูปพระศาสนา จับสึกพระอลัชชีผู้ตกอยู่ใต้อำนาจกิเลส สั่งสมของมัวเมาในลาภสักการะ เหลวไหลในเกียรติ เห่อเหิมและเพลิดเพลินในโลกียวัตถุ จากนั้นทรงเป็นศาสนูปถัมภกในการสังคยานา และส่งสมณฑูตประกาศพระพุทธศาสนา

    พระเจ้าอโศกมหาราช (AShoka the great) แห่งราชวงศ์ โมริยะ กษัตริย์ผู้ปกครองดินแดนอินเดีย (พ.ศ.๒๗๖ – พ.ศ.๓๑๒) พระองค์ ทรงมีพระทัยเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า ได้ทรงทำนุบำรุงพุทธศาสนา เช่นทรงสร้างวัด วิหาร พระสถูป พระเจดีย์ และหลักศิลาจารึก เป็นต้น ได้บำรุงพระภิกษุสงฆ์ด้วยปัจจัย ๔ คือ อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค การที่พระองค์ทรงบำรุงพระภิกษุสงฆ์เช่นนี้ ก็เพื่อจะได้พระภิกษุในพุทธศาสนาได้รับความสะดวก มีโอกาสบำเพ็ญสมณธรรมได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลในการแสวงหาปัจจัย ๔ แทนที่จะเป็นเช่นนั้น แต่กลับปรากฏว่ามีพวกนักบวชนอกศาสนาเป็นจำนวนมาก ปลอมบวชในพุทธศาสนา เพราะเห็นแก่ลาภสักการะ เมื่อบวชแล้วก็คงสั่งสอนลัทธิศาสนาเก่าของตน โดยอ้างว่าเป็นคำสอนของพุทธศาสนา แสดงลัทธิธรรมให้ผิดคลองพระพุทธบัญญัติ กระทำให้สังฆมณฑลยุ่งเหยิง แตกสามัคคีด้วยสัทธรรมปฏิรูป ข้อนี้ทำให้พระโมคคัลลีบุตรติสสะเถระ (คนละรูปกับพระมหาโมคคัลลานะเถระในสมัยพุทธกาล) ซึ่งเป็นผู้ที่มีความแตกฉานในพระไตรปิฎก เกิดความระอาใจต่อการประพฤติปฏิบัติของเหล่าพระภิกษุอลัชชีที่ปลอมบวชทั้งหลาย จึงได้ปลีกตัวไปอยู่ที่ ถ้ำอุโธตังคบรรพต เจริญวิเวกสมาบัติอยู่ที่นั้นอย่างเงียบๆ เป็นเวลา ๗ ปี และมอบภารกิจคณะสงฆ์ให้พระมหินทเถระดูแลแทน

    ในสมัยนั้นจำนวนของพระอลัชชี มีมากกว่าพระภิกษุแท้ๆ จึงทำให้ต้องหยุดการทำอุโบสถสังฆกรรมถึง ๗ ปี เพราะเหตุที่พระสงฆ์ ผู้มีศีลบริสุทธิ์ไม่ยอมร่วมกับพระอลัชชีเหล่านั้น จึงทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชไม่สบายพระหฤทัยในการแตกแยกของพระสงฆ์ ทรงปวารณาจะให้พระสงฆ์เหล่านั้นสามัคคีกัน จึงได้ตรัสสั่งให้อำมาตย์หาทางสามัคคี ฝ่ายอำมาตย์ฟังพระดำรัสไม่แจ้งชัด สำคัญผิดในหน้าที่ จึงได้ทำความผิดอันร้ายแรง คือ ได้บังคับให้พระภิกษุบริสุทธิ์ทำอุโบสถร่วมกับพระอลัชชี พระภิกษุผู้บริสุทธิ์ต่างปฏิเสธที่จะร่วมอุโบสถสังฆกรรม อำมาตย์จึงตัดศีรษะเสียหลายองค์

    เมื่อพระเจ้าอโศกมหาราชทราบข่าวนี้ ทรงตกพระทัยยิ่งจึงเสด็จไปขอขมาโทษต่อพระภิกษุที่อาราม และได้ตรัสถามสงฆ์ว่า การที่อำมาตย์ได้ทำความผิดเช่นนี้ ความผิดจะตกมาถึงพระองค์หรือไม่ พระสงฆ์ถวายคำตอบไม่ตรงกัน บ้างก็ว่า ความผิดจะตกมาถึงพระองค์ด้วยเพราะอำมาตย์ทำตามคำสั่ง แต่บางองค์ก็ตอบว่าไม่ถึงเพราะไม่มีเจตนา คำวิสัชนาที่ขัดแย้งกันเช่นนี้ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชกระวนกระวายพระทัยยิ่งนัก ทรงปรารถนาที่จะให้พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง ผู้มีความสามารถและแตกฉานในพระธรรมวินัยถวายคำวิสัยชนาอย่างแจ่มแจ้ง จึงได้ตรัสถามถึงพระภิกษุเหล่านั้นก็ได้ตรัสตอบว่า มีแต่พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระรูปเดียวเท่านั้นที่อาจแก้ความสงสัยได้ พระเจ้าอโศกมหาราช จึงได้ส่งสาส์นไปอาราธนาพระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ให้ท่านเดินทางมายังเมืองปาฏลีบุตร แต่ไม่สำเร็จ เพราะพระเถระไม่ยอมเดินทางมาตามคำอาราธนา พระเจ้าอโศกมหาราชก็ทรงไม่หมดความพยายาม จึงได้รับสั่งให้พนักงานออกเดินทางโดยทางเรือรบท่านตามคำแนะนำของพระติสสะเถระ ผู้เป็นพระอาจารย์ของโมคคัลลีบุตรติสสะเถระ

    ในที่สุดพระเถระก็ยอมมาและในวันที่ท่านเดินทางมาถึงนั้น พระเจ้าอโศกมหาราชได้เสด็จไปรับพระเถระด้วยพระองค์เอง ได้เสด็จลุยน้ำไปถึงพระชานุ แล้วยื่นพระกรให้พระเถระจับและตรัสว่า “ขอพระคุณท่านจงสงเคราะห์ข้าพเจ้าเถิด” แล้วได้นำท่านไปสู่อุทยาน ได้ทรงแสดงความเคารพพระเถระอย่างสูง และได้ตรัสถามพระเถระว่า การที่อำมาตย์ได้ตัดศีรษะพระภิกษุนั้นจะเป็นบาปกรรมตกถึงตนหรือไม่ พระเถระได้ตอบว่า “มหาบพิตร จะเป็นเป็นบาปได้ก็ต่อเมื่อพระองค์มีเจตนาที่จะฆ่าเท่านั้น” คำวิสัชนาของพระเถระนั้น ทำให้พระองค์ทรงพอพระทัยมาก

    ฝ่ายพระอลัชชีผู้ปลอมบวชในพุทธศาสนานั้นก็ยังพยายามที่จะประกอบมิจฉาชีพอยู่ต่อไป พระเหล่านั้นได้มัวเมาหลงใหลในลาภสักการะไม่พอใจในการปฏิบัติธรรม อาศัยผ้าเหลืองเลี้ยงชีพ ประพฤติผิดธรรมวินัยไม่สำรวมระวังในสีลาจารวัตร เที่ยวอวดอ้างคุณสมบัติโดยอาการต่างๆ เพื่อหลอกลวงประชาชนให้หลงเชื่อ เพื่อหาลาภสักการะเข้าตัว เพราะเหตุนี้จึงทำให้พระสัทธรรมอันบริสุทธิ์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องพลอยด่างพร้อยไปด้วย ความอลเวงได้เกิดขึ้นในวงการของพุทธศาสนาทั่วไปลาภสักการะมีอำนาจเหนืออุดมคติของผู้เห็นแก่ได้ แม้กระทั่งผู้ทรงเพศเป็นพระภิกษุห่มเหลืองก็ยังตกอยู่ภายใต้อำนาจของมัน ที่จริงผู้มีลาภคือผู้มีบุญ แต่มัวเมาในลาภคือสั่งสมบาป การที่พระได้ของมามากๆ จากประชาชนที่เขาบริจาคด้วยศรัทธานั้น นับว่าเป็นการดีไม่มีผิด แต่การที่พระสั่งสมของมัวเมาในลาภ เหลวไหลในเกียรติ เห่อเหิมและเพลิดเพลินในโลกียวัตถุ จนลืมหน้าที่ของตนนั้นนับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องอย่างยิ่ง

    พ.ศ.๒๘๗ พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ได้ถวายเทศนาแก่พระเจ้าอโศกมหาราช จนพระองค์ทรงมีความเลื่อมใส และซาบซึ้งในหลักธรรมอันบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์ ได้ประทับอยู่ที่อุทยานนับเป็นเวลา ๗ วัน เพื่อชำระพระศาสนาให้บริสุทธิ์จากเดียรถีย์ที่เข้ามาปลอมบวช ในวันที่ ๗ พระองค์ได้ประกาศบอกนัดให้พระภิกษุที่อยู่ในชมพูทวีปทั้งสิ้นให้มาประชุมที่อโศการามเพื่อชำระความบริสุทธิ์ของตน ภายใน ๗ วัน พระองค์ประทับนั่งภายในม่านกับท่านโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ได้สั่งให้ภิกษุผู้สังกัดอยู่ในนิกายนั้นๆ นั่งรวมกันเป็นนิกายๆ แล้วตรัสถามให้พระภิกษุเหล่านั้นอธิบายคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งพระสงฆ์เหล่านั้นได้อธิบายผิดไปตามลัทธิของตนๆ พระเจ้าอโศกมหาราชจึงได้ตรัสให้สึกพระอลัชชีเหล่านั้นทั้งหมด ซึ่งเป็นจำนวน ๖๐,๐๐๐ รูป ครั้นกำจัดพระภิกษุพวกอลัชชีให้หมดไปจากพุทธศาสนาแล้ว พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ จึงได้จัดให้มีการทำสังคายนาครั้งที่ ๓ ขึ้น ณ อโศการาม เมืองปาฏลีบุตร โดยได้รับราชูปถัมภ์จากพระเจ้าอโศกมหาราชอย่างเต็มที่

    .jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พวกเราไม่ค่อยเห็นโทษของความทุกข์ หรือเห็นแต่ก็ไม่มากพอที่จะเป็นเหตุให้เกิดแรงกระตุ้นให้มีการปฏิบัติเพื่อเข้าถึงความไม่เกิดของชีวิต มีปัจจัยที่ทำให้เกิดทุกข์มากมาย เช่น ต้องการสิ่งใดไม่ได้ตามต้องการก็เป็นทุกข์ ความพลัดพรากจากของรักของชอบใจ ทุกข์เพราะเบียดเบียนซึ่งกันเเละกัน ทุกข์เพราะประสบอุบัติเหตุร้ายเเรง ฯลฯ การเห็นโทษของการเวียนว่ายตายเกิดมากขึ้นมากขึ้น การขวนขวายเพื่อจะนำตนให้พ้นทุกข์ก็จะมีขึ้น การหาหนทางเพื่อความพ้นทุกข์ก็จะตามมา

    -:- หลวงปู่เข็ม สุชีโว -:-
    วัดป่าโนนนิเวศน์(ห้วยซันเหนือ) อ.นาจะหลวย จ.อุบลราชธานี

    .jpg

    ที่มา พระกรรมฐาน สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โลกธรรม ๘ อันประกอบด้วย สุข-ทุกข์ ได้ลาภ-เสื่อมลาภ
    ได้ยศ-เสื่อมยศ ได้รับคำสรรเสริญ-ถูกนินทา
    นั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนจะต้องเผชิญ
    การยอมรับในธรรมดาโลกว่าไม่มีสิ่งใดเที่ยงแท้คงทน สรรพสิ่งต้องแปรปรวนไป
    ย่อมทำให้มีชีวิตอยู่บนโลกอย่างเข้าใจ ไม่หวั่นไหวเมื่อต้องพบสิ่งที่ไม่ปรารถนา
    ดังที่ท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจนฺโท) ได้ปฏิบัติ
    ให้เราชาวพุทธผู้เป็นศิษย์พระพุทธเจ้าได้ดำเนินตามแนวทางอันดีงามของท่าน

    -๘-อันประกอบด้วย.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    โอวาทธรรมคำสอน : 1f538.png หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม 1f538.png

    ✨การแสดงธรรมของหลวงปู่ ✨

    ๒๕-๕-๒๕๖๑

    หลวงปู่ชอบถามพระเณรที่ไปหาท่านเสมอว่า

    ที่พวกคุณภาวนานี้ พวกคุณได้ พุทโธ หรือยัง?

    ผู้ที่ยังไม่แน่ใจก็จะตอบว่ายังขอรับ

    ผู้ที่ค่อนข้างแน่ใจก็ตอบท่านว่า ได้แล้วขอรับ

    แล้วหลวงปู่มักจะย้อนถามว่า

    ได้แน่จริงหรือ?

    ถ้าหากว่าได้แล้วก็ให้ฟังและพิจารณาอย่างนี้ก่อน

    คือถ้าใครด่าเราว่า “ไอ้หัวหงอก”

    ให้เราลองนั่งชั่งดูใจของเราว่า

    เราโกรธเขาไหม

    ถ้าเรายังโกรธอยู่ ก็หมายความว่า

    เรายังรับรู้การด่าของเขาอยู่

    นั่นหมายถึง เราเอาจิตออกมารับคำด่า

    เรายังอดทนไม่ได้ เรายังโกรธ

    หมายถึง เรายังไม่ถึง

    หรือยังไม่ได้พุทโธ อย่างแท้จริงนั่นเอง

    1f537.png 1f537.png 1f537.png

    ผู้โพสต์คัดตัดตอนบางส่วนจาก
    “โครงการหนังสือบูรพาจารย์เล่ม ๒ หน้า ๑๐๐
    หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม พระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ในยุคปัจจุบัน
    วัดป่าอรัญญวิเวก จังหวัดนครพนม
    ผู้เรียบเรียง / รศ.ดร ปฐม-รศ.ภัทรา นิคมานนท์
    ผู้บันทึก/พระอาจารย์บูรฉัตร พรหมจาโร

    ขอขอบคุณผู้มีส่วนเผยแพร่
    เจ้าของรูปประกอบในธรรม
    และผู้กด Like กดแชร์ ทุกท่าน
    ้าพเจ้าผู้โพสต์ขออนุโมทนาบุญอานิสงส์
    ันไพศาลนี้จงมีแด่ทุกท่านที่ได้สดับอ่านและเผยแพร่ครับ

    1f537.png 1f537.png 1f537.png

    1527236845_130_โอวาทธรรมคำสอน-หลวงปู่.jpg

    ที่มา ธรรมะพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...