@@..คำครู ผู้ชี้-นำ-อุปถัมภ์ สู่พระโพธิญาณ & เรื่องเล่าจากกัลยาณมิตร.@@

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย NAMOBUDDHAYA, 10 กรกฎาคม 2015.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    บางคนบอกว่าสวดมนต์ไหว้พระไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่นะ ประโยชน์มหาศาลนะ แม้แต่ฝันเรายังฝันไปวัดเลย ยังฝันไปฝึกเลย บางคนไม่มีเวลากลางวันน่ะ สมัยก่อนที่อยู่กับท่าน(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ) ท่านบอก เอาเวลากลางคืน ท่านบอก กลางคืนนี่ เปลี่ยนกระแสที่ร้ายให้ดีให้ได้ ท่านบอก โดยการสวดแล้วหลับ พยายามสวดแล้วให้หลับ มันก็ตัดการฝันร้ายไปแล้ว มันก็เป็นการบันทึกบุญในความฝัน เสร็จแล้วเนี่ย เราก็มาเช็คดู ว่าเดือนนี้ เราฝันเนี่ย ฝันร้ายมีไหม มีเกิดขึ้นไหม แสดงว่าถ้าเกิดเนี่ย แสดงว่าหนักเป็นเบาแล้ว เบาคือเป็นหายละ ถ้าหายแล้วก็ไม่มี นี่คือประโยชน์จริงๆ เพราะฉะนั้น เมื่อก่อนหลวงตาทำงานอยู่ ก็ใช้เวลากลางคืนนะ กลางคืนนอนแล้วก็สวดจนหลับ

    เดี๋ยวนี้ไปนอนที่ไหนก็สวดที่นั่น หลับ บางทีเพลียๆ มากๆ กลางวันเราสวดแปบเดียวก็หลับแล้วหลับแปบหนึ่ง คล้ายๆ เราหลับอยู่ในพลังงาน ในอนุสสติ ในไตรสรณคมน์ หรือในจักรพรรดิ์เนี่ย มันจะมีกำลัง เราพักอยู่ตรงนั้นไง พักในพลังงาน ถ้าเรานิ่งเนี่ย มันยิ่งมีกำลังมาก เรามีกำลังมหาศาล มีกำลัง คำว่ากำลัง คือ กำลังใจไง ไปไหนก็ได้ อยู่ที่ไหนก็ได้ สามารถจะแยกได้ เสียงเนี่ย คุยกันวู้งๆ วิ้งๆ เนี่ย สามารถที่จะแยกได้นะ

    คนเราเนี่ย มีความสามารถมากนะ ไม่ใช่ไม่มี ทำอินเตอร์เน็ตยังได้เลย เกิดจากคนทำทั้งนั้น เพราะฉะนั้น เราฝึกเนี่ย เราสามารถที่จะแยกเสียงได้ทั้งนั้น ทำไมจะแยกไม่ได้ แยกได้ แยกจนกระทั่งที่ว่า เราสามารถที่จะทำไม่ให้ใครมองเห็นได้ มองไม่เห็นเราก็ได้ ถ้าเราทำได้ ถ้าเราฝึก ก็เหมือนโลกวิญญาณนี่ เราตายไปก็มีกำลัง คนเยอะแยะนี่ไม่สามารถมองเห็นเราได้ ให้เห็นคนเดียวก็ได้ สองคนก็ได้ อย่างนั้นน่ะ คือกำลัง ถึงว่า ยังเสียดายว่า น่าจะฝึกคนทั่วประเทศนะ พูดถึง ถ้าฝึกได้นี่กำลังมากนะ เมืองไทยนี่ ซึ่งทรัพยากรของพระโพธิสัตว์นะ หรือพระอรหันต์ในเมืองไทยนี่มีมาก มากจริงๆ เยอะไปหมดเลย พระพุทธเจ้าสี่องค์ พระอรหันต์นับไม่ไหว ไม่ไปไหนพลังงาน สิ่งที่มนุษย์ทำดี พลังงานมา ทำไม่ดี ไม่มา เหมือนเราคิดดีนี่ สิ่งที่ดีก็มา คิดไม่ดี สิ่งที่ไม่ดีก็มา ถ้าเราไม่คิดล่ะ มีคนถามหลวงตาว่า แก้กรรมได้ไหม บอก ได้ ถ้าคุณไม่คิด มันไม่มา รับรอง

    รับประกันเลย มันไม่มาแน่ๆ ถ้าคุณไม่คิด ทำยังไงให้มันไม่คิดล่ะ ทำยังไงล่ะ เออ ถ้าคิดเมื่อไร มันมาเมื่อนั้น มายาวเลย เคยอธิบายเมื่อหลายปีมาแล้ว ผัวเมียสองคนอยู่ด้วยกันนี่นะ มันก็บันทึกทุกวันนั่นละ พอด่ากันมันมาแปบเดียวนั่นล่ะ ไหลเลย ถ้าอยู่ปรกติธรรมดา ไม่มา ยังไงก็ไม่มา ถ้าพูดถึงความดีอยู่ด้วยกันนี่ มันก็อยู่ด้วยกันนั่นน่ะ พอโกรธเมื่อไรล่ะ โอโห มาเป็นยาวเลย ลืมไปแล้ว เมื่อสิบปียังมาเลย เนี่ยเราฝึกให้ลืม โดยการภาวนา โดยทำใจให้นิ่งๆ ทำยังไงก็ได้ให้มันสบายๆ มันก็แยกได้แล้ว

    มันไม่ยากอะไรนี่ ไอ้ที่ยากคือเราไม่ทำเท่านั้นเอง มัวแต่ไปบันทึกทีวีบ้าง วีดีอะไรทุกวันเลย ตื่นเช้ามาไม่สวดหรอก คลำแล้วรีโมต ฟั๊บ เอาแล้วบันทึกล่ะ เรื่องราว มันเกินไป

    ท่านบอก เอาพอดี ไม่ใช่ไม่ดูนะ ดู แต่อย่าเกินไป อายุสั้น เพราะไปดูแล้วมันเกร็ง อาการ อาการอิงไปตามพลังงาน แล้วก็ติด บางคนหลวงตาเห็นนะ คนแก่อายุห้าหกสิบเนี่ย ดูหนังทั้งคืน เป็นปึกๆ เลย โอโห ถ้ามาภาวนามันจะได้ขนาดไหนเนี่ย มหาศาลเลย"


    - หลวงตาม้า
     
  2. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    แม่


    สิบปีก่อนตอนยุค จตุคามดังๆ หลวงตามีกิจนิมนต์เยอะมาก วันนั้น หลวงตาไปทำพิธี กว่าจะเสร็จก็เกือบสี่ทุ่ม ท่านต้องรีบกลับวัดเพราะมีงานต่อ รถขับไปตามถนนสายเอเชีย ปลายทางเชียงใหม่ ถนนมืดมิดมีเพียงแสงไฟจากท้ายรถสิบล้อ เลย นครสวรรค์ เกือบเที่ยงคืน ทุกคนในรถ เหนื่อยล้าหลับกันหมด มีเพียงหลวงตากับคนขับ หลวงตาไม่ยอมหลับ นั่งเป็นเพื่อนคนขับ ท่านเอ่ยขึ้นว่า วันนี้วันอะไร เสียงตอบว่า 12 สิงหาคม หลวงตา ตอบ ว่า มิน่าล่ะ ถึงคิดถึงแม่ ท่านเอื้อมมือไปเปิดวิทยุ AM เสียงเพลงค่าน้ำนมดังขึ้น ท่านเอ่ยตามว่า แม่นี้มีบุญคุณอันใหญ่หลวง ท่านเล่าว่า ท่านรักแม่มากแต่ชีวิตท่านไม่มีโอกาสอยู่กับแม่ ไม่รู้ว่าอ้อมกอดแม่เป็นเช่นไร ท่านลำบากตั้งแต่เล็ก ท่านอยู่กับยายไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากแม่ แต่ ท่านรักแม่ท่านมาก เกิดมาไม่เคยได้ทำอะไรให้แม่ หลวงตาบอกว่า สิ่งที่ท่านภูมิใจและดีใจที่สุดในชีวิต คือ ท่านได้บวช ไม่มีใครรู้ ว่าท่านทำเพื่อแม่ ท่านบอกว่าบุญใดๆที่ท่านทำมาขอส่งไปให้แม่ หลวงตาบอกเอ็งจำไว้นะบุญอันยิ่งใหญ่สุดคือบุญกับพ่อกับแม่ เอ็งบวชภาวนาพ่อแม่เอ็งก็ได้รับ สิ่งนี้คือที่สุดของบุญที่เราจะทำได้ เพื่อพ่อแม่ รถยังคงแล่นไปตาทางที่มืด หลวงตาเอ่ยว่า มา ส่งบุญให้แม่กัน แม่ใครแม่มันนะ นึกถึงหลวงปู่ส่งไปให้แม่ ถึงแม่ของทุกๆคน แม่พระธรณีด้วย หลวงตาหลับตาอธิษฐานในใจ เพลงค่าน้ำนมยังคง ดังต่อไป ท่านยิ้ม เอ่ยว่าคืนนี้ฟ้ามืดมิด แต่ใจสว่างมาก เราไม่แน่ใจว่า ภาพที่เรามองท่านมันเลือนลางเพราะจากน้ำตาแห่งความประทับใจที่ไหลหรือสิ่งใดกันแน่ แต่ ใจเรามันสว่างสดใส อบอุ่น ด้วยความรักของลูกผู้ชายคนหนึ่งที่อุทิศตนบวชเพื่อแม่ตนเองและประโยชน์เพื่อสรรพสิ่ง รถเคลื่อนไปจนถึงปลายทาง ถึงแม้เวลาผ่านไป แต่ความรักของหลวงตาที่มีต่อแม่ท่านไม่เคยเปลี่ยนแปลงและ แปรเปลี่ยน ท่านดูแลแม่ท่านอย่างดีจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิตของแม่ท่าน ทำหน้าที่สมบรณ์ทั้งทางโลกและทางธรรม สมดั่งชื่อ หลวงตาม้า ผู้เป็นที่รัก ของเราทุกคน
     
  3. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    เรื่องปล่อยอะไรดี
    เมื่อปี 53 มี คนกลุ่มใหญ่มาเยี่ยมคารวะหลวงตา เพื่อสนทนาธรรม นั่งที่หน้าถ่ำ ท้องฟ้าสีคราม ลมพัดเย็นสบาย อากาศดี ทุกคนเล่าเรื่องที่ไปทำบุญมา เพื่อให้หลวงตาโมทนาบุญ คนแรกบอกว่าไปปล่อยปลามา 2000 ตัว อีกคนบอกว่าตัวเองไปปล่อย โค กระบือ มาสี่ ตัว คนที่สามบอกไปปล่อยนกมา 108 ตัว แต่ละคนนั่งเถียงกันถึงบุญที่ทำ หลวงตานั่งอมยิ้ม มองไปที่กิ่งไม้ ที่นกเกาะอยู่ แล้วเอ่ยว่า เสียงนกร้องนี่เพราะดีนะ ทุกคนงง และหันมาถามว่า หลวงตาช่วยสรุปให้หน่อยว่าปล่อยอะไรได้บุญเยอะสุด ท่านหัวเราะ ตอบอย่างมีเมตตา ว่า ปล่อยใจให้เป็นอิสระจากสิ่งที่ทำ ปล่อยวางจากความคิดที่มี ปล่อยทุกความดี ไม่ดีในจิตใจ ปล่อยอะไรก็ไม่สู้ ปล่อยตัวตนที่มี แค่นี้ถ้าพวกเอ็งทำได้ จะไม่ต้องมาเกิด เพื่อต้องปล่อยอะไรอีก ( เรายิ้มให้ท่านเลย วันนี้ คม ลึกชึ้งมาก ห่วงแค่คนจะไม่เข้าใจ ) ท่านยิ้มด้วยความเมตตา และถามว่าเข้าใจไหม ? หลายคนยังคงงงไม่เข้าใจ บางท่านที่เข้าใจก้มลงกราบอย่างปิติดีใจ หลวงตาท่านบอกธรรมอยู่รอบตัวเรา ธรรมชาติ ปกติ ธรรมดานี่เอง อยู่ที่ว่าเราจะเห็น เข้าใจ คิดได้หรือเปล่าแค่นั้นเอง ถ้าคิดได้ก็ดี โมทนาด้วย ถ้ายังคิดไม่ได้ก็เสียใจแต๊ๆ ( เสียใจด้วย )' ท่านยิ้มและจิบน้ำ

    ************************************************************************

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 พฤษภาคม 2018
  4. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    วันเสาร์นี้อาจารย์จะครอบยันต์กรอบเพชร
    ขึ้น ๕ ค่ำ (เสาร์ตัวผู้) เดือน ๗
    19.30 นะ
    จำจุดให้แม่น
    ๑ ใต้สะดือ ๑ นิ้ว อะ
    ๒ เหนือสะดือ ๑ นิ้ว สัง
    ๓ กลางทรวงอก วิ
    ๔ คอหอย สุ
    ๕ ท้ายทอย โล
    ๖ กลางกระหม่อม ปุ
    ๗ หน้าผาก สะ
    ๘ หว่างคิ้ว พุ ***
    ๙ ปลายจมูก ภะ ***
    คาถา อิติปิโส ๘ ทิศ
    ๑ อิ ระ ชา คะ ตะ ระ สา
    ๒ ติ หัง จะ โต โล ถิ นัง
    ๓ ปิ สัม ระ โล ปุ สัต พุท
    ๔ โส มา นะ กะ ริ ถา โท
    ๕ วิ สัม สัม วิ สะ เท ภะ
    ๖ คะ พุท ปัน ทู ทัม วะ คะ
    ๗ วา โธ โน อะ มะ มะ วา
    ๘ อะ วิช สุ นุส สา นุส ติ
    บทนี้ ให้จำ แบบนี้นะ ตั้งใจ
    ๑ ๓ ๕ ๗ ๖ ๔ ๒
    บทที่ ๑ ใช้ทางคงกะพัน สวด ๑๕ จบ จันทร์
    บทที่ ๒ ใช้ทางเมตตา สวด ๘ จบ อังคาร
    บทที่ ๓ เสกปูน สวด ๑๙ จบ พุธ
    บทที่ ๔ เรื่องคดีความ ๑๒ จบ พุธกลางคืน
    บทที่ ๕ เมตตามหานิยม ๑๙ จบ พฤหัส
    บทที่ ๖ เมตตามหานิยม ๒๑ จบ ศุกร์
    บทที่ ๗ ถอดคุณไสย ๑๐ จบ เสาร์
    บทที่ ๘ ทางมหานิยม ๖ จบ อาทิตย์
    บทนี้จำ
    ๖๔๑๒๓๕๗
    บทที่เก้า ดาวเกตุ สวดด้วย นิพพานังปรมัง สุขัง นิพพานัง ปรมัง สูญญัง

    วันเสาร์ พบกันครับ ไลฟ์เฟส
    *********************************************

     
  5. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    32457075_1489249947851550_5653499184397942784_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ใจของคนไหวกว่าทุกสิ่ง


    ที่กุฎิเก่าหลวงตา เต็มไปด้วยต้นไม้นานานาชนิด บ่ายๆหน้าร้อนปี 51 หลวงตา นั่งดูคนร้อยประคำ ลมแล้งพัดแรง เย็นสบาย กิ่งไม่ไหวเอนไปมา หลวงตาท่านชี้ไป ที่กิ่งไม้ แล้วถามว่า เอ็งว่ากิ่งไม้มันไหว เพราะลมทำให้ไหว หรือ เพราะใจเราไหวตามมัน ท่านยิ้ม หลวงตา ถามต่ออีก ท่าน ชี้ ไปบนก้อนเมฆบนฟ้า แล้วถามว่าเอ็งว่าก้อนเมฆเคลื่อนเพราะแรงลมหรือเพราะใจคนเคลื่อน หลวงตา ยิ้มแล้วพูดว่า เอ็งรู้ไหม ใจของคนเราไหวกว่าทุกสิ่ง เอ็งจะให้ใจกว้าง ไกลขนาดไหนแค่นึกก็ไปถึงล่ะ จะ ย้อนอดีตไปจนถึงอนาคตก็ได้ สังเกตดูในแต่ล่ะวัน ใจเราวิ่งไปรับรุ้ กี่เรื่องราว ทุกสิ่งรอบตัวเป็นปกติ แต่ อายตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มันไปรับมาก่อให้ปฎิกริยา ต่อเนื่องเป็นเรื่องราว ปรุงแต่งด้วยความคิดและสัญญา เป็นแรงดึงก่อเกิดภพชาติ เกิดเป็นพฤติกรรมของเรา นี่แหล่ะเรียกว่ากรรมคือการกระทำ ที่มาที่ไปมันเป็นแบบนี้ เพราะเหตุที่ว่า ใจมันไหวตามสิ่งต่างๆ หลวงตาจึงสอนให้พวกเอ็งสวดมนต์ เพื่อจะให้มีหลักยึด ไม่ให้ใจไหวตามสิ่งๆต่างๆ ทางศาสนาเรียกว่า กรรมฐาน คือฐานที่ตั้งมั่นของจิตใจ เป็นฐานของงาน งานของใจ เอ็งเข้าใจหรือยังที่คนเค้ามาว่า ดูถูกว่า เราสวดมนต์ มันพื้นๆ เค้าไม่เข้าใจหรอกนี่คือ การฝึกฐานที่ตั้งของจิตและใจ มันก็คือกรรมฐานนั่นเอง แค่ของง่ายๆยังมองข้ามไปจะไปฝึกที่ยากๆ พอไม่ได้มันเลยท้อ เลิกไป ตามหาวิธีต่่างไปไปเรื่อยๆ ไม่มีวันจบ คนส่วนมากไปติดกับคำพุดที่สวยหรู จนลืมความจริงของการปฎิบัติเชื่อหลวงตาสิ แค่สวดมนต์ ถ้าเอ็ง ทำได้ ใจเป็นอารมณ์เดียวกับบทสวด กับหลวงปู่ ใจและจิตเอ็ง ตั้งมั่นไม่ไหวตามกระแสอารมณ์ และความคิด ก่อเกิดความรู้สึกตัว มีสติ สัมปชัญญะ ปัญญาเกิด เอ็งจะไม่มาเกิดหรือ จะทำอะไรอะไรก็ได้ มันเป็นทั้งบุญฤทธิและอิทธิฤทธิ หนทางมันเกิด ง่ายๆแต่คนมองข้าม พวกเอ็งเข้าใจหรือยังทำไมหลวงตาถึงเน้นให้สวดมนต์ ท่านหันมายิ้มมองอย่างมีความสุข


    *************************************


     
  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
     
  8. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    เรื่องใหญ่ เรื่องเล็ก

    อีกเรื่องที่เป็นหัวใจหลักที่หลวงปู่ถ่ายทอดสู่หลวงตา จริงๆถ้าคนสังเกตจะรู้ว่าจริงๆแล้วหลวงตา เนื้อแท้เดิมหลวงตาทางมาทางปัญญา ล้วนๆแต่แนวทางโพธิสัตว์นั้นเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ หลายครั้งที่หลวงตาไม่อยากจะมาเกิด หลังๆที่ท่านเทศน์จะเน้นสายปัญญา จริงๆหลวงตามีภูมิธรรมสูงมาก น่าเสียดายที่เราท่านทั้งหลายส่วนมากจะเน้นไปสนทนากับท่านในการทำบารมีมากกว่า

    เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่หลวงตาพูดบ่อย คือเรืองใหญ่เรื่องเล็ก
    ตาจะมีความสุขมากเวลาเล่าเรื่องที่หลวงปู่สอน วันนั้นท่านเล่าว่า หลวงปู่ท่านชอบพูดว่า พวกฤทธิต่างๆ เหาะเหิน เดินอากาศ ย้อนอดีต อนาคต นี่มันเรื่องเล็กมาก ไม่น่ามาใส่ใจ เรื่องใหญ่ที่ควรใส่ใจสุดก็คือ เรื่องกิเลศ ตัณหา ความอยาก ไอนี่สิเรื่องใหญ่ มีแต่คนมาถามจะฝึกฤทธิยังไงถามแต่เรื่องอิทธิปราฏิหารย์ ท่านบอกเรื่องนี้เล็กประโยชน์น้อย เรื่องใหญ่คือเรื่องใกล้ตัว เรื่องความอยาก กิเลศตัณหา นี่สิมันของจริงก่อให้เกิดกรรมจริงๆ คนสนใจกันน้อย คนส่วนมากสนใจเรื่องไกลตัวมากกว่า รู้ทุกเรื่องยกเว้น เรื่องของตัวเอง หลวงตาเล่าว่า หลวงปู่จริงๆท่านเน้นเรื่องการพัฒนาตนเองให้มาก สวดมนต์ภาวนา อยู่กับตัวเองมากกว่าให้ไปยุ่งเรื่องภายนอก ทำบารมีจากภายในสู่ภายนอก คนที่เค้าภาวนาจึงไม่มีเรื่องราวอะไรเหมือนเราเห็นทะเลที่สงบ กว้างใหญ่ไร้คลื่นลม แต่คนที่ไปมัวยุ่งคนอื่นเหมือนดังคลื่นลมในทะเลเวลาแปรปวน ลองไปคิดดูว่าจริงไหม มันวุ่นวายทั้งๆที่เป็นน้ำในท้องน้ำเดียวกัน ท่านให้คิด ทุกวันนี้เราภาวนาปฏิบัติเช่นไร ต้องการอะไรจากชีวิต แล้วจะเอายังไงกับชีวิต ถ้าเราภาวนาปฏิบัติจริง พฤติกรรมในชีวิตเป็นเช่นไร เรามีความอยากมากน้อยแค่ไหน เราอิจฉานินทาผู้อื่นมากไหม ท่านให้ไปคิดดู สิ่งนี้คือความปรารถนาดี ที่ท่านอยากให้เราได้มีสติ คิด เพราะมันเป็นตัวกำหนดทางเดินของชีวิต เป็นตัวกรรมนั่นเอง กรรมที่กำหนดทุกสิ่ง เพราะเป็นกรรมที่ให้เกิดพฤติกรรม ความเคยชิน จนเป็นภพชาติ หลวงตายิ้มที่มุมปากแล้ว พูดว่า มันจริงๆนะ คิดได้ก็ดี คิดไม่ออก ก็เสียใจแต้ๆ ต้องติดแบบนี้ไปอีก

    **********************************

     
  9. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ?temp_hash=db434fa295695f2f3a453369f9d9f1c5.jpg


    ?temp_hash=db434fa295695f2f3a453369f9d9f1c5.jpg





    ใครศรัทธาจริง ทำจริง ให้หมั่นระลึกถึงหลวงปู่ดู่ไว้บ่อยๆ จะปลอดภัยทั้งทางโลกและทางธรรม ปัญหาชีวิตก็จะคลี่คลาย ทางธรรมก็จะเจริญก้าวหน้า สำหรับคนที่เพิ่งฝึกใหม่ๆ ช่วงแรกๆอาจจะยังไม่คล่องในการนึกถึงท่าน แต่ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเครียด ให้ทำใจสบายๆ นึกบ่อยๆเท่าที่จะนึกออก ทำไปจนกว่าจะชำนาญจนนึกได้ตลอดเวลา นั่นแหละจะเกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับตัวเองและคนรอบข้าง


    *****************************************

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ทางแก้

    มีหลายคนที่มาอยู่ถ่ำ สวดมนต์ แล้วแพ้ใจตัวเอง กลับไป สมัยก่อน เริ่มมีพระและคนมาอยู่ถ่ำมากขึ้น พออยู่ไป นานๆ จิตมันดิ้นและฟุ้งจนทนไม่ไหวก็ต้องกลับไป เย็นๆที่หน้าถ่ำ หลวงตาท่านชี้ให้เห็นว่า เอ็งเห็นพระ ที่เดินวนไปมาที่หน้าวัด กับคนเหล่านั้นไหม นั้นเค้ากำลังฟุ้ง จิตมันดิ้น เวลาพระอาทิตยจะตกดิน บรรยากาศพาไป ความคิดปรุงแต่งทำงาน เค้าจะฟุ้ง คิดสับสนวุ่นวายไปหมด เดินวนไปมา สับสน ใจมันสู้กันอยู่ ว่าจะอยู่ต่อหรือกลับดี ความคิดอารมณ์ ตีกันมั่ว เป็นแบบนี้หลายคน ถ้าจิตไม่มีกำลัง ใจไม่มีที่อยู่ ก็ต้องพ่าย จำไว้นะท่านย้ำ เวลา ใจ ฟุ้งหรือดิ้น อย่าเพิ่งทำอะไร เพราะอารมณ์กับความคิดมันเต็ม หาทางทำอย่างไรให้มันคลายออกให้ได้ก่อน บางคนไปสวดอัดเข้าไปไม่ได้ผลอะไร เพราะมันเต็มด้วยความคิดอยู่ ให้หาทางออก ทำอะไรก็ได้ให้จิตคลาย ทำให้อารมดี ง่ายสุด ไปอาบน้ำ หรือ กวาดลานวัด ให้ร่างกายกับจิตมันคลายจากอารมณ์และความคิด พอใจเริ่มคลาย อารมณ์ ดี ค่อยมาสวดภาวนา เชื่อหลวงตาสิ ตอนเราฟุ้ง ดิ้น เครียด มันจะคิดอะไรไม่ออก ต้องคลายมันออกก่อน อย่าอัดอะไรทับเข้าไป ถึงให้ทรงอารมณ์ให้ดี หัวเราะบ่อยๆ ให้ใจเบา มันจะปรับไปเอง อะไรที่มันโปร่ง มันจะโล่งจะเบา จะสวดจะอัดอะไรมันก็ได้หมด อะไรที่มัน ทึบ มันจะตื้อ มันจะตัน ใส่อะไรไปไม่ได้ จำไว้นี่คือเคล็ดลับ ในการสวดและบันทักบุญ ทำใจให้โปร่ง โล่ง เบา มันบันทึกได้แบบไม่มีประมาณ ง่ายมากๆ ทรงอารมณ์ให้ดี ยิ้มบ่อยๆ หัวเราะบ่อยๆ คิดดี ทำดี เมตตาเยอะๆ แล้ว ชีวิตจะเปลี่ยนไป

    ********************************************


     
  11. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
     
  12. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ?temp_hash=720022e83cd168d8611e24d042c17705.jpg





    เคล็ดลับจักรพรรดิ์


    ศิษย์แห่งพรหมปัญโญ น้อยคนที่จะรู้ เพียงนิดที่จะเข้าใจ ในที่มาการทำบารมีของหลวงตา หลวงตาท่านเป็นพระที่นิ่ง สงบ อารมณ์ดี เมตตาสูง ไม่โอ้อวด เกือบยี่สิบปี ที่ท่านทำงานเหนื่อยไม่มีวันหยุด ตื่นตีสี่ กว่าจะจำวัดเที่ยงคืน ทุกคนถามหลวงตาทำไมต้องออกวัด ทำไมไม่หยุดพัก ท่านจะพูดเสมอว่าไปทำงาน ส.ส.บ สวดมนต์ ส่งวิญญาณ บันทึกบุญ สิ่งที่ท่านคิดได้เหนือผู้ใด คือสร้างเครือข่ายพลังงานจักรพรรดิ หลวงปู่เมตตามอบบทนี้มาถือว่าเป็นบทที่พลังงานสูงสุด จากนั้นหลวงตาเริ่ม สร้างพระไว้เยอะมากคือ เครื่องรับส่งพลังงานนี้ ต่อมาท่านจึงได้เดินทางไปทุกที่ในประเทศและต่างประเทศ ที่สวดมนต์ ตั้งกองบุญ ก็เพื่อสร้างเสาส่งเชื่อมพลังงานนี้ นั่นเอง ท่านว่า ทุกครั้งที่มีการสวดพลังงานจะวิ่งไปทุกที่ที่ตั้งกองบุญไว้ ทั้งรูปและนาม ผู้ใดสวดบทนี้หรือมีวัตถุที่เกี่ยวข้องก็จะได้รับพลังงานเข้าไป จาก นามไปสู่รูป เปลี่ยนรูปเป็นนาม สลับไปมาเป็นมาเป็นคลื่นความถี่จักรพรรดิ คลื่นนี้จะปรับภพภูมิทั้งหมด ปรับพลังให้ผู้สวดและกำพระ ทำให้สัมผัสและใช้พลังงานนี้ได้ มีประโยชน์มหาศาล ทฤษฏีง่ายๆเหมือนโทรศัพมือถือที่เราใช้ทุกวันนี้ แต่หลวงตาท่านคิดได้มาสามสิบกว่าปีก่อน ท่านถึงเร่งทำ สร้างพระ เท พระ ขยายรูปลักษณ์ และเดินทางไปทุกที่ สวดมนต์เพื่อตั้งกองบุญก็คือขยายเสาเครือข่ายสัญญาณนี่เอง ท่านเหนื่อยนะค่ะ อายุเจ้ดสิบกว่า ไม่มีบ่น ไม่มีหยุด มุ่งมั่น เดินหน้า หลวงตาบอก เกิดมาแล้วใช้ให้คุ้ม ชัดเจนนะค่ะ นี่คือที่มาของการทำงานทั้งชีวิตของพระที่ชื่อ พระวรงคต พระธรรมดาๆ ที่ทุกท่านเรียกว่า หลวงตาม้า พระผู้เป็นที่รักยิ่ง พระผู้เสียสละทุกอย่างเพื่อคนหมู่มากและวิญญาณต่างๆอย่างแท้จริง หลวงตาเหนื่อยทำโดยไม่ได้บอกใคร ท่านไม่เคยขอความช่วยเหลือ ขอใคร หลวงตาพูดเสมอว่าทุกคนเค้ามีภาระอยู่แล้ว เราไม่ควรไปสร้างภาระให้ใครอีก ถ้าเค้าจะช่วยเค้าช่วยเอง หลวงตาอุทิศทั้งชีวิตนี้เพื่อผู้อื่นมาตลอดค่ะ ท่านพูดเสมอว่า ทำความดีไม่ต้องไปบอกใคร วันนี้ 74 ปีผ่านไป ภาระในสิ่งที่ทำ กับสังขารที่โรยราตามเวลาที่ผ่านไป หลวงตายังออกเดินทางทุกก้าว ทุกลมหายใจ มั่นใจในหลวงปู่ และประโยชน์ในสิ่งที่ทำ คำที่เราฟังแล้วน้ำตาไหลออกมาคือ เพราะ เราคือ ศิษย์แห่งพรหมปัญโญ สิ่งนี่คือสิ่งที่เราต้องทำและเดินต่อไป


    *************************************************

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ทำไปทำไมล่ะ...........


    เป็นอีกคำที่หลวงตาชอบพูดบ่อย ..

    ท่านพูดให้คิดในสิ่งที่ทำ เพราะทุกวันนี้ มีหลายคนชอบทำสิ่งต่างๆที่เรียกว่าทำบารมี ต่างคนต่างให้ความหมายต่างกันไป บางคนชอบสร้างพระ บ้างก็เท พระแจก บางคนก็สวดมนต์บางคนเผยแพร่ด้วยวิธีต่างๆ แล้วแต่จะคิดได้แล้วทำ หลวงตาพูดเสมอว่า ขึ้้นชื่อว่าทำดีมันดีหมดนั่นแหล่ะ ทำแล้วอย่ามาทุกข์ก็แล้วกัน ติดดียังดีกว่าไปติดไม่ดี เพราะสิ่งที่หลวงตาท่านพูดแล้วน้อยคนจะคิดได้คือ ทำไปทำไมล่ะ ท่านให้คิดพิจารณา ค้นหาถึงเหตุที่ทำจริงๆ เพราะบางคนทำไปแล้วทุกข์ ไม่มีเงินก็ต้องไปเรี่ยไรขอบริจาคกลายเป็นทุกข์ทำเกินตัว บางคนเป็นหนี้ บางคนสร้างสนองความต้องการของตน ตามกุศลกิเลส ความต้องการของตนเอง บางคนอัตตาสูงหลงตนเอง ไปติดในนิมิตต่างๆ ทำให้เกิดเป็นปัญหามาก หลวงตาบอกทำบารมีแต่ติดในความอยาก อยากทำดี อยากมีตัวตนให้คนยอมรับ ต้องคิดดีๆนะอันตราย มีคนมาขอท่านทำและสร้างสิ่งต่างๆมากมาย คนไม่เข้าใจ มักถามว่าหลวงตาให้เค้าทำทำไม หลวงตาท่านพูดเสมอว่า คนเค้าจะทำความดีจะไปห้ามเค้าได้ยังไง แต่ท่านย้ำเสมอว่า ทำแล้วอย่าทุก ทุกแล้วอย่าทำ ทำอะไรอย่าให้คนอื่นต้องลำบากเดือดร้อน หลวงตาพูดเสมอว่า ทำบารมีง่ายมาก ไม่ต้องทุกไม่ต้องยุ่งยากไม่ลำบากใคร ทำด้วยตัวเองนี้แหล่ะ แค่ ส.ส.บ สวดมนต์ ส่งวิญญาณ บันทึกบุญ ถ้าทำไปเรื่อยๆ จะมีกำลังเอง อย่าอยากในบุญ เมื่อถึงเวลาจะรุ้เอง ทำแค่นี้ ด้วยตัวเองสร้างภายในตัวเองให้ดีก่อน ค่อยไปสร้างภายนอก พอมีกำลังแล้ว ทำอะไรก็ง่ายใครก็มาช่วยเอง ไม่ต้องมานั่งทุก กลุ้มใจจิตตกเพราะไม่มีเงินไปสร้างหรือเจอคนด่าว่านินทา จนหมดกำลังใจ หลวงตาท่านเน้นมากคือ ส.ส.บ ทำด้วยตัวเองไม่เสียอะไรเลย ง่าย ทำให้เป็นนิสัย เห็นผลได้ไว ชัดเจน หลวงตาย้ำเสมอว่า ทำดี ทำบุญบารมีเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าไปอยากในการทำจนกลายเป็นความทุกข์ จำไว้นะ จะทำอะไรให้ถามตัวเองว่า ทำไปทำไมล่ะ โมทนาทุกความดีงามนะค่ะ


    *********************************

     
  14. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    34859488_169521947232537_3995522648569282560_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    หัดเป็นนักหลบอย่าเป็นนักรบอย่างเดียว

    ถาม : หลวงพี่ต้านี่ช่วงนั้นไปอยู่ด้วยไหมคะ ?
    ตอบ : ไป ทุกคนไปด้วยความปรารถนาดี เพราะฉะนั้น..อะไรหนักนิดเบาหน่อยก็ต้องอภัยให้กัน การให้อภัยและความสามัคคีสำคัญที่สุด บรรดาครูบาอาจารย์ต่าง ๆ ไม่มีปัญหากันหรอก ไปมีปัญหาที่ตัวลูกศิษย์เสียเยอะ ต่างคนต่างเป็นนักปฏิบัติเพื่อลด ละ เลิก ในกิเลสต่าง ๆ ต้องยิ่งทำยิ่งก้าวหน้า ไม่ใช่ยิ่งทำยิ่งถอยหลัง แต่เท่าที่พบก็คือว่าส่วนใหญ่จะไปทะเลาะกัน เอากิเลสไปชนกัน เพราะฉะนั้น..เราอยู่ในลักษณะนั้นก็ต้องให้อภัย และรักษาความสามัคคีของหมู่คณะ อะไรที่พออภัย พออดทนกันได้ ก็ต้องอดทน ต้องอภัยกัน เขาทำเพราะคิดว่าสิ่งนั้นดีแล้ว เขาถึงทำ ในเมื่อเขาเห็นว่าดี แม้สิ่งนั้น ๆ ไม่ดีจริง ปัญญาของเขายังไม่ถึง เราไม่ควรจะโกรธเขา คิดว่า..น่าสงสารนะ..ให้อภัยเขาเถิด ลูกศิษย์เขาไม่รู้ ยัดให้แล้วเขาไม่รับก็ปล่อยเขาไปเถอะ ...(หัวเราะ)..เราสอนกระดานดำก็ได้

    ถาม : ถ้าเราไม่สนใจเขาเลย จะถูกไหมคะ ?
    ตอบ : นั่นเป็นปัญญาอย่างหนึ่งนะ ถ้าเรารู้ว่ากำลังของเราไม่ถึง ไปปะทะกันซึ่ง ๆ หน้าไม่ว่าจะเเค่ตาเห็น หูได้ยิน หรือว่าต้องพูดต้องคุยกันก็ตาม รู้ว่าจะทำให้เราอารมณ์เสียก็อย่าไปยุ่งกับเขาเลย นับเป็นตัวปัญญาเหมือนกัน หลวงปู่หล้าท่านบอกว่า หัดเป็นนักหลบซะบ้าง อย่าเป็นนักรบอย่างเดียว รู้อยู่ว่ารบไม่ชนะแล้วไปรบ ท่านถือว่าไม่ฉลาด

    ถาม : ถ้าจำเป็นต้องชน ?
    ตอบ : ถ้าจำเป็นต้องชน ก็พยายามอย่าชนจัง ๆ ก็แล้วกัน อย่างไร ๆ รักษาชีวิตเขาไว้บ้าง

    ถาม : เวลาเราโกรธใคร รู้สึกว่าสะเทือน เราจะกลับตัวอย่างไรให้เร็วที่สุด ?
    ตอบ : เร็วที่สุด ต้องรีบกลับไปภาวนา ถ้าได้มโนมยิทธิก็ส่งอารมณ์ใจขึ้นพระนิพพานไปเลย การที่เราเกาะพระนิพพาน เป็นการตัดกิเลสที่อัตโนมัติที่สุด รัก โลภ โกรธ หลง จะกินได้แต่ร่างกายเท่านั้น กินใจไม่ได้ ถ้าใจไม่ไปปรุงไปแต่งกับมัน มันก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้ เผ่นไปนิพพานดีกว่า

    เคยชนกับคุณแสงชัย สมัยฆราวาสยืนคุยกันอยู่เราก็เลยยืนพิงฝาเงียบไปเลย เงียบไปหลายนาที พอลืมตาขึ้นมา แสงชัยเขาถามว่าทำอะไร บอกว่า "ท่านย่าบอกว่า..อย่าไปคุยกับอันธพาล.." โอ๊ย !โกรธฉิบหา..เลย(หัวเราะ)... แล้วคืนนั้นเขาก็ได้ดี รายนี้ต้องให้โกรธ พอโกรธแล้วมีลูกฮึด...

    ถาม : อ๋อ..มิน่า เห็นโกรธบ่อย
    ตอบ : ความจริงท่านย่ารู้ว่าถ้าแหย่มารูปนี้แล้ว เราพูดต่อเมื่อไรเขาจะโกรธ แล้วเดี๋ยวเขาจะตะกายขึ้นไปเอง อย่างไรก็ต้องตะกายไปต่อว่าท่านย่าให้ได้ คือไปด้วยอำนาจกิเลส ...(หัวเราะ)...

    ถาม : เหลือเชื่อ
    ตอบ : ที่บางคนเขาพูดเล่นว่า ตัณหาพาสู่พระนิพพาน รู้สึกว่ารายนี้จะใช่หรือเปล่าก็ไม่รู้ ? ความจริงตัวอยากนี่ ทางธรรมเขาเรียกว่า ธรรมฉันทะ คนดันคิดว่าอยากแบบตัณหา ก็เลยว่าตัณหาพาสู่พระนิพพาน

    สนทนากับพระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. (พระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ)
    เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน จ.กาญจนบุรี อ.ทองผาภูมิ ต.ท่าขนุน
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ เดือนเมษายน พุทธศักราช ๒๕๔๔


    ที่มา : เว็บวัดท่าขนุน
     
  16. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    34855910_258077918092732_6656835228717285376_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    ?temp_hash=c8ccc3370fba574026ef96b50102fd33.jpg


    ยันต์นี้ได้มานานแล้ว ตั้งแต่ตอนที่ไปสวดมนต์กับหลวงตาม้าที่วัดอรุณฯเมื่อปีก่อน
    ระหว่างที่สวดไป ก็เห็นภาพพระสงฆ์ท่านหนึ่ง ผิวพรรณสวยงามมาก ห้อยประคำสีดำใหญ่ ปรากฏตัวขึ้นมาจากแม่น้ำเจ้าพระยา
    พอเราน้อมจิตกราบท่าน ท่านก็ยิ้มและยื่นมือมาให้ ในมือท่านมียันต์นี้ปรากฏเป็นเส้นสีทองสว่างชัดเจน
    ผมก็รีบพยายามจำเส้นต่างๆในการเขียนเอาไว้ แล้วกำหนดจิตถามท่านว่า ต้องท่องคาถาอะไรตอนเขียนบ้าง ท่านยิ้มและบอกว่า ไม่ต้อง เขียนไป นึกถึงท่านไป ท่านจะมาลงพลังงานให้เอง สำเร็จด้วยตัวเอง ยันต์นี้ปราบมาร ปราบอุปสรรค นำทางสำเร็จดังปรารถนา ขอให้ลองศึกษาให้ดี มีอะไรบอกเรา เราจะมาช่วย แล้วท่านก็หายไป
    ผมก็รีบลืมตามาจดเอาไว้ กว่าจะจดได้ก็ลำบากพอควร เพราะท่านไม่บอกวิธีเดินเส้นยันต์ไว้ ต้องมานั่งพิจารณาเอาเอง
    ผ่านมาปีกว่าๆ จดบันทึกไว้แต่ไม่เคยได้ลองทำ วันนี้อยู่ดีๆก็นึกถึง อาจจะมีวาระอะไรให้ทำในอนาคต เลยบันทึกไว้ก่อนกันลืม

    ปล.ขอยังไม่บอกนะครับว่าพระท่านนั้นคือใคร ลองดูยันต์แล้วศึกษาพลังงานกันเอาเอง ถ้ามีโอกาสได้ทำ จะมาเล่าให้ฟังอีกครั้งครับ
    ***************************************************
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    เวลาคุณเดินทางและเห็นสติกเกอร์แบบนี้ติดที่รถยนต์บนท้องถนน ทีมงานขอบอกว่าโปรดอย่าแปลกใจ แสดงว่าคุณได้เจอกับเพื่อนๆลูกหลานหลวงปู่ดู่หลวงตาม้าเข้าให้แล้ว หรือ รถทุกคันของทางวัดเองก็ติดเช่นกัน ไม่แน่เวลาคุณเดินทางคุณอาจเคยผ่านรถที่หลวงตาท่านนั่งเพื่อเดินทางไปโปรดลูกศิษย์ด้วยความเมตตาตามที่ต่างๆทั่วประเทศก็เป็นได้ โดยลูกศิษย์ต่างรู้กันดีว่าท่านไม่เคยบ่นไม่เคยเห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อย มีแต่ความเมตตา อันสุดจะคณา แม้ว่าตอนนี้ท่าน อายุกำลังย่าง 70 แล้วก็ตาม

    เพราะอะไร? เพราะเราทุกคนคือเพื่อนร่วมทางในสังสารวัฐนี้ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น หลวงตาม้าท่านสอนไว้ว่า หากใครเข้าใจเช่นนี้แล้ว เราจะเมตตากับทุกๆคนรอบตัว เพราะไม่ว่าใครก็ต้องทุกข์ ต้องสุข ปนกันไปเพราะอำนาจของกิเลส ตราบจนกว่าสักวันหนึง เราจะถึงที่สุดแห่งธรรม เพราะสุดท้ายแล้ว "ใครจะใหญ่เกินกรรม"

    ชีวิตคนที่วนเวียนในวัฎสงสาร ยาวนานยิ่งนัก เหมือนคุณดูหนังเรื่องหนึ่ง ฉากหนึ่ง ตัวร้ายกำลังทำชั่ว คุณมองว่า ทำไมตัวร้ายนั้นจึงไม่ได้รับผลชั่ว เหมือนคุณเห็นคนหนึ่งทำแต่ความดี แต่ไม่เจริญ คุณก็บอกว่ากรรมดีกรรมชั่วไม่เห็นให้ผล เพราะคุณเห็นแค่ฉากเดียว ฉากอื่นเป็นร้อยพันก่อนหน้านั้น คุณไม่เห็น ขอให้เชื่อมั่นว่าทำดีได้ดี ทำชั่วย่อมได้ชั่ว...แม้ตอนนี้จะยังไม่เห็นผล เพราะบุญเก่าของพวกคนเหล่านั้นยังมี ต่อให้เมื่อบุญเก่าหมดไปแถมบุญใหม่ไม่ได้สร้าง คราวนี้ก็จะเหลือแต่กรรมไม่ดีที่มีอำนาจแรงกว่าที่จะส่งผลต่อไป เพราะฉะนั้น อย่าประมาทในการสะสมกรรมดีตามกำลังความสามารถของตนเอง ต่อไป เพื่อละความไม่ดีที่ตนเองได้สะสมมาอย่างเนิ่นนานในสังสารวัฏฏ์ จนกว่าจะเบาบางลงและหมดสิ้นไปได้ในที่สุด บุญกับบาปก็เหมือนน้ำขุ่นในแก้ว เรานำไปเทใส่ตุ่มน้ำก็ยังขุ่นอยู่ แต่เมื่อเติมน้ำใสเข้าไปในตุ่มเรื่อยๆ น้ำขุ่นนั้นก็จะเบาบางลงไปจนมองไม่เห็น เปรียบเปรย น้ำใส คือบุญ น้ำขุ่น คือบาป ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว แน่นอน...



    *************************************


     
  19. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
    36440745_10217808498383824_4979204372786315264_n.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  20. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,081
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,002
    ค่าพลัง:
    +69,970
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...