ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Visudhi Punya





    นี่เป็นภูเขาไฟใหม่

    ที่เพิ่งปะทุขึ้นเมื่้อวานนี้อีกลูกหนึ่งแล้ว


    ภูเขาไฟใหม่นี้ตั้งอยู่บนเกาะ Krakawagon

    ซึ่งอยู่ระหว่างเกาะชวากับสุมาตรา

    ประเทศอินโดนีเซีย
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    กฟผ.ชง กกพ.เรียกเก็บเงินผู้ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปเพื่อผลิตไฟฟ้า ในอัตรา 100-200 บาทต่อราย ต่อเดือน เพื่อความเป็นธรรมกับผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไปที่ซื้อไฟจากระบบ หลังพบแนวโน้มการผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้เอง ในช่วงเวลากลางวัน มีเพิ่มมากขึ้น โดยยกกรณีศึกษาของสหรัฐอเมริกามาเปรียบเทียบ


    นายพฤหัส วงศ์ธเนศ รองผู้ว่าการนโยบายและแผน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) เปิดเผยว่า ทางคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ได้มอบหมายให้ กฟผ.ศึกษาอัตราการเรียกเก็บเงินจากผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา(โซลาร์รูฟท็อป)เสรีแบบรายเดือน ที่เหมาะสมทั้งกลุ่มบ้านเรือนที่อยู่อาศัยและกลุ่มโรงงาน เพื่อนำเงินมาช่วยลดภาระค่าไฟฟ้าประชาชนที่ใช้ไฟฟ้าปกติ


    เนื่องจากปัจจุบันพบว่ามีแนวโน้มการผลิตไฟฟ้าใช้เองในช่วงกลางวันเพิ่มมากขึ้น แต่ในช่วงระยะเวลากลางคืนที่ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เอง ก็กลับมาซื้อไฟฟ้าจากรัฐ ซึ่ง ส่งผลให้ยอดใช้ไฟฟ้าโดยรวมลดลง ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนปกติที่ไม่ได้ติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปผลิตไฟฟ้า ต้องแบกรับค่าไฟฟ้าสูงขึ้น เนื่องจาก กฟผ.ต้องเตรียมระบบสำรองไฟฟ้าไว้รองรับความต้องการใช้ที่ไม่แน่นอนในช่วงกลางคืน ทำให้มีต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น


    “ผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เองในช่วงกลางวันและซื้อไฟฟ้าใช้ตอนกลางคืน โดยเฉพาะในกลุ่มที่ติดตั้งโซล่าร์รูฟท็อปที่มีทั้งจดแจ้งอย่างถูกต้องและกลุ่มที่ไม่ได้จดแจ้ง ควรจะต้องเสียค่าชาร์จไฟฟ้าแบ็คอัพอย่างน้อยๆ ประมาณ 100-200 บาทต่อเดือนต่อราย เพื่อความเป็นธรรมกับกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าปกติ โดยเงินที่เรียกเก็บก็จะนำมาช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าปกติทั่วไป ซึ่งหลังจากที่กฟผ.ส่งผลการศึกษาไปที่ กกพ.แล้ว ทางกกพ.จะมีการกำหนดอัตราเรียกเก็บที่เหมาะสมต่อไป” นายพฤหัส กล่าว


    ทั้งนี้ กฟผ.ได้ศึกษาตัวอย่างจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะมี 50 รัฐ ที่มีดีเบต กันว่าควรเก็บค่าชาร์จไฟฟ้าในส่วนที่ต้องมีการลงทุนเพื่อแบ็คอัพระบบหรือไม่ ซึ่งมีกรณีวิธีการเรียกเก็บเงินที่แตกต่างกันถึง 61 กรณี โดยมีการเสนอเรียกเก็บตั้งแต่ 3-50 เหรียญสหรัฐฯต่อเดือนต่อครัวเรือน แต่โดยเฉลี่ยจะเรียกเก็บประมาณ 3-10 เหรียญสหรัฐต่อเดือน หรือประมาณ 300-400 บาทต่อเดือน


    ปัจจุบันมีผู้ผลิตไฟฟ้าโซลาร์รูฟท็อปที่จดแจ้งกับการไฟฟ้ามีประมาณ 100-200 เมกะวัตต์ แต่ที่ไม่ได้จดแจ้งอีกจำนวนมาก โดยหากในอนาคตหากมีการติดตั้งเพิ่มสูงเกินกว่า 2,000 เมกะวัตต์ จะคิดเป็น 15% ของไฟฟ้าทั้งหมด ซึ่งความต้องการใช้ไฟฟ้าที่หายไปในส่วนนี้ ในตอนกลางวัน จะกลับมาในตอนกลางคืน ที่คนกลุ่มนี้ กลับมาซื้อไฟฟ้าใช้จากระบบตามปกติ ทำให้กฟผ.ยังต้องลงทุนระบบแบคอัพ ไฟฟ้าไว้ในช่วงเวลากลางคืน ทำให้ภาระต้นทุนไปอยู่กับผู้ใช้ไฟฟ้าปกติ เพราะตัวหารลดลง


    #โซลาร์เชลล์

    #พลังงานสะอาด

    #ประหยัดพลังงาน

    #พลังงานแสงอาทิตย์

    #พลังงานทางเลือก

    #กฟผ.


     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149



    เคยสงสัยไหมว่าทำไมเด็กบางคนเกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมทุกอย่างแต่กลับมีปัญหาในชีวิต เข้ากับคนอื่นไม่ได้ บางรายถึงกับติดยาเสพติด นี่เป็นภาวะที่เรียกว่า สำลักความรัก พ่อแม่ปรนเปรอลูกมากเกินไปจนกลายเป็นรังแกลูกโดยไม่รู้ตัว #ThaiPBS


    ▶️ #ThaiPBSPlay

    อัปเดตข้อมูล เติมเต็มความรู้ของคุณ

    ด้วยคลิปสั้น กระชับ รับกับสมาร์ตโฟน

    ที่ www.facebook.com/ThaiPBSPlay
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    China Xinhua News


    ทูตญี่ปุ่นทึ่ง! กลับมาจีนครั้งแรกในรอบ 10 ปี พัฒนารวดเร็วทุกด้านจนเหมือนเป็นคนละเมือง


    เป็นเวลามากกว่าทศวรรษนับจากครั้งล่าสุดที่โคมัตสึ มิชิฮิโกะเคยมาเยือนนครฉงชิ่ง เขากลับมาที่นี่อีกครั้งเมื่อปี 2017 เพื่อรับตำแหน่งกงสุลใหญ่ประจำนครฉงชิ่ง ประเทศจีน


    “ตอนมาถึง ผมอึ้งไปเลย มีตึกสูงเต็มไปหมดทุกหนแห่ง ถนนหนทางก็สะอาดและเป็นระเบียบ รถไฟใต้ดินและรถไฟฟ้ารางเบาพัฒนาไปเร็วมาก ทั้งยังมีรถไฟความเร็วสูงและทางด่วนอีกหลายเส้นทาง เหมือนเป็นคนละเมืองเลยครับ” มิชิฮิโกะกล่าว


    “หลังผมรับตำแหน่ง ผมก็ได้ไปเยือนทั้งเฉิงตู กุ้ยหยาง และคุนหมิงในทันที ทุกที่ผมเคยไปมาหมดแล้ว และผมเห็นว่าเศรษฐกิจพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เมืองเหล่านี้ได้เติบโตเป็นเมืองที่น่าอัศจรรย์ใจ” มิชิฮิโกะเล่าถึงสิ่งที่ตนได้เห็น


    “ผมรู้สึกเคารพนับถือในความพยายามทุ่มเทอันมหาศาลของผู้คนในแถบตะวันตกเฉียงใต้ของจีนตลอดช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ทั้งระบบโลจิสติกส์และการคมนาคมต่างก้าวกระโดดไปมาก ทั้งฉงชิ่งและเฉิงตูต่างมีเที่ยวรถไฟขนส่งสินค้าที่วิ่งตรงไปถึงยุโรป ทั้งยังมีรถไฟวิ่งไปถึงทางใต้และตะวันออกเฉียงใต้ของจีน การคมนาคมพัฒนาไปอย่างมากจริงๆ”


    มิชิฮิโกะระบุว่า ญี่ปุ่นสนใจเรื่องการพัฒนาด้านการคมนาคมขนส่งของจีนเป็นอย่างมาก “จีนใช้เวลาเพียงแค่ 2 สัปดาห์ในการขนส่งสินค้าด้วยรถไฟจากฉงชิ่งหรือเฉิงตูวิ่งตรงไปยังทวีปยุโรป”


    ส่วนตัวเขามองว่าสิ่งเหล่านี้คือหนึ่งในความสำเร็จของนโยบายหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ซึ่งนโยบายนี้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากมีทั้งนักธุรกิจและบริษัทห้างร้านญี่ปุ่นจำนวนมากที่กำลังมองหาว่าจะมีส่วนร่วมในนโยบายดังกล่าวได้อย่างไรบ้าง


     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    China Xinhua News


    ท่ามกลางเสียงค้านจากทั่วโลก! ทัพเรือสหรัฐฯ เล็งทุ่มงบ 7 พันล้าน สร้างศูนย์กักกันให้ผู้อพยพ 25,000 ราย


    กองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมสร้างศูนย์กักกันเพิ่มหลายแห่งสำหรับเป็นที่พักชั่วคราวให้ผู้อพยพกว่า 25,000 รายทางใต้ เพื่อหนุนนโยบาย “ความอดทนเป็นศูนย์” (Zero tolerance) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


    จากรายงานของไทม์แม็กกาซีน กองทัพเรือสหรัฐฯ มีแผนจะสร้างค่ายตั้งเต็นท์ “เป็นการชั่วคราวแต่เข้มงวด” เพื่อเป็นที่พักพิง 3 แห่งให้กับผู้อพยพ 25,000 รายในรัฐแอละแบมา และอีก 47,000 รายใกล้ซานฟรานซิสโก รวมถึงอีก 47,000 รายที่ศูนย์ฝึกทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย


    ทั้งนี้ จากการประเมินเบื้องต้นคาดว่ากองทัพเรือจะใช้งบประมาณราว 233 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 7,600 ล้านบาท) เพื่อสร้างศูนย์กักกันดังกล่าวเป็นเวลา 6 เดือน


    ทั้งนี้ ชะตากรรมของเด็ก 2,300 คนที่ถูกแยกจากพ่อแม่ที่ชายแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโกเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มิ.ย.) ก็ยังคงไม่แน่นอน แม้ว่าทรัมป์จะลงนามในคำสั่งพิเศษให้ยุติการพรากเด็กจากพ่อแม่แล้ว ท่ามกลางเสียงเรียกร้องจากทุกฝ่ายแม้แต่เมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ภริยาของเขาเอง


    ด้านผู้นำหลายประเทศอย่างแคนาดา ชิลี อังกฤษ เม็กซิโก และสมเด็จประสันตะปาปาต่างออกมาประณามนโยบายความอดทนเป็นศูนย์ของทรัมป์


    อย่างไรก็ดี ทรัมป์ยังยืนยันว่าจะต้องดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวต่อไป โดยเฉพาะบริเวณชายแดนทางใต้ เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้อพยพเข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย ซึ่งกล่าวอ้างว่าเป็นสาเหตุการเกิดอาชญากรรมในสหรัฐฯ


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    China Xinhua News


    เห็นพ้อง! เกาหลีเหนือ-ใต้เตรียมจัดให้ครอบครัวที่พลัดพรากพบปะครั้งแรกในรอบ 3 ปี


    วันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มิ.ย.) กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุว่า คณะผู้แทนจากเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ตกลงจะจัดงานพบปะระหว่างครอบครัวเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ที่พลัดพรากจากกันเพราะการแบ่งเส้นแขตแดนหลังสงครามเกาหลี ในวันที่ 20-26 สิงหาคมนี้


    การพบปะระหว่างครอบครัวที่พลัดพรากครั้งนี้จะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี สืบเนื่องจากพันธะสัญญาระหว่างประธานาธิบดีคิมจองอึนและประธานาธิบดีมุนแจอินที่ต้องการจะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีที่เริ่มถดถอยเพราะการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ


    คำแถลงการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการประชุมหารือระหว่างองค์การกาชาด (Red Cross) ของเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งมีการหารือกันเรื่องจัดงานรวมญาติให้กับครอบครัวที่พลัดพราก และประเด็นด้านมนุษยธรรมอื่นๆ


    ทั้งนี้ การพบปะระหว่างครอบครัวชาวเกาหลีที่พลัดพรากจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2000 สมัยประธานาธิบดีคิมแดจองของเกาหลีใต้ และจัดเป็นประจำทุกปีจนถึงปี 2007 แต่หลังจากนั้นมาก็เริ่มเว้นว่างครั้งละ 1-3 ปี และครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีมุนแจอินขึ้นดำรงตำแหน่ง


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    347299.jpg
    กฤษฎีกาเปิดฟังความเห็นรื้อ 'พรบ.สงฆ์' ล้มองค์ประกอบ มส. ตั้งพระเถระเป็นพระราชอำนาจ
    วันเสาร์ ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 18.28 น.

    วันที่ 23 มิถุนายน เว็บไซด์สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (www.krisdika.go.th) ได้เผยแพร่ประกาศการเปิดรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 โดยระบุว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2561 รับหลักการให้มีการจัดทําร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมพ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 ในประเด็นเกี่ยวกับมหาเถรสมาคม(มส.) ในฐานะองค์กรปกครองคณะสงฆ์นั้น เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา77 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมติครม.วันที่ 4 เมษายน 2560 ประกอบกับมติ ครม. วันที่ 19 มิถุนายน 2561 ดังกล่าว จึงเปิดรับฟังความเห็นประกอบการจัดทําร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นเวลา 7 วัน ดังนี้

    สภาพปัญหา มส. ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์พ.ศ.2505 ประกอบด้วย สมเด็จพระสังฆราช ทรงเป็นประธานกรรมการ สมเด็จพระราชาคณะทุกรูปเป็นกรรมการโดยตําแหน่ง และพระราชาคณะอีกไม่เกิน 12 รูปซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้งเป็นกรรมการและมีวาระ 2 ปี แต่ในทางปฏิบัติปรากฏว่าสมเด็จพระราชาคณะซึ่งเป็นกรรมการโดยตําแหน่งมักเป็นผู้เจริญพรรษายุกาล จึงชราภาพ และอาจมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ทําให้ไม่อาจเข้าร่วมประชุมได้สม่ําเสมอ บางครั้งจําเป็นต้องลาการประชุมติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน เหตุอย่างเดียวกันอาจเกิดได้แม้กับกรรมการอื่นซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงแต่งตั้ง นอกจากนั้นกรรมการบางรูปในขณะนี้ต้องคดีอาญา หรือมีข้อกล่าวหาจนต้องพ้นจากตําแหน่ง จึงไม่ตั้งอยู่ในที่ศรัทธาเลื่อมใสของพุทธศาสนิกชน ทั้งที่องค์กรนี้จะต้องเป็นหลักในการปกครองคณะสงฆ์ และก่อให้เกิดการปฏิรูปหรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในสังฆมณฑล

    จึงสมควรปรับปรุงแก้ไขที่มาและองค์ประกอบของ มส. เสียใหม่ เพื่อให้ได้พระภิกษุผู้มีพรรษาอันสมควร มีจริยวัตรที่เหมาะสมแก่การปกครองคณะสงฆ์ มาเป็นกรรมการและผู้ปกครองคณะสงฆ์ในลําดับชั้นต่างๆ ตลอดจนชักนําให้เกิดการปฏิรูป หรือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการปกครองคณะสงฆ์และการจัดระเบียบต่างๆ เกี่ยวกับวัดและวัตรปฏิบัติของพระภิกษุให้เรียบร้อยดีงามตามพระธรรมวินัย กฎหมายของบ้านเมือง ความคาดหมายของพุทธศาสนิกชน และจารีตประเพณีอันดีงามของชาติ

    หลักการใหม่ ให้ยกเลิกองค์ประกอบกรรมการ มส. โดยตําแหน่ง ทั้งนี้ยังคงให้มีกรรมการอื่นนอกจากประธานกรรมการในจํานวนเท่าเดิม (20 รูป) แต่ถวายพระมหากษัตริย์ให้ทรงแต่งตั้งจากพระภิกษุผู้มีพรรษาอันสมควร และมีจริยวัตรที่เหมาะสมแก่การปกครองคณะสงฆ์ และทรงมีพระราชโองการให้กรรมการดังกล่าวพ้นจากตําแหน่งได้โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ หลักเดียวกันนี้ใช้กับการแต่งตั้งและถอดถอนเจ้าคณะใหญ่และเจ้าคณะภาคด้วยตามที่มีพระราชดําริเห็นสมควร ให้กรรมการ มส. ซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่กฎหมายคณะสงฆ์ที่แก้ไข เพิ่มเติมใหม่ใช้บังคับ ยังคงดํารงตําแหน่งต่อไปจนกว่าจะทรงแต่งตั้งกรรมการ มส. ขึ้นใหม่ตามกฎหมายนี้ จึงขอเชิญพระภิกษุและบุคคลทั่วไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักการตามประเด็นดังกล่าวเข้ามาได้ทางเว็บไซต์ สํานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา www.krisdika.go.th ตั้งแต่บัดนี้จนถึง วันที่ 27 มิถุนายน 2561


    http://www.naewna.com/local/347299
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มิถุนายน 2018
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ศูนย์การประนีประนอม"ฮะมีมีม"ในเครือของกระทรวงกลาโหมของรัสเซียประกาศว่า กองกำลังของกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลซีเรียที่ถูกรู้จักในนาม "Free Syrian Army หรือ กองทัพปลดแอกซีเรีย" กลุ่มแรกในภาคใต้ของซีเรียได้แปรพรรคเข้าร่วมกับกองทัพซีเรียแล้ว


     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai


    ... "ฮังการี่ ไล่องค์กร OSF ของ จอร์จ โซรอส ออกนอกประเทศ"


    ... "จอร์จ โซรอส" เจ้าขององค์กร OSF หรือ The open society foundation ที่หน้าฉากอ้างว่าตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการมีประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนนั้น ถูกทางการ "ฮังการี่" พยายามขับไล่ออกนอกประเทศโดยการออกกฏหมาย ที่เรียกสั้นๆว่ากฏหมาย "หยุดโซรอส" หรือ "Stop Soros" แล้วข่าวเมื่อ 21 มิถุนายน 2018 ที่ผ่่านมา หลังมีกระแสนี้มานานร่วมเดือน


    ... โดยรายละเอียดนั้นคือ รัฐจะเข้มงวดเรื่ององค์กร เอ็นจีโอที่รับเงินสนับสนุนจากต่างชาติแล้วมาป่วนใน "ฮังการี่" เช่นองค์กร OSF ของ โซรอส ที่เป็นตัวหลักในการป่วนประเทศในหลายๆด้าน


    ... ทำให้ตอนนี้"โซรอส" ที่เป็นคนยิวฮังการี่เอง ที่ตอนหลังอพยพไปอเมริกา , ต้องถูกคนฮังการี่ขับไล่ไม่ต้อนรับกลับประเทศแม่ เลยย้ายสำนักงานไปอยู่ที่เยอรมันแทน, แต่ก็ไม่วายบอกว่าจะเคลื่อนไหว สนับสนุนลูกเอ็นจีโอทาสในฮังการี่ต่อไป ( NGO มีทั้งของจริงและของปลอม เหมือนนักการเมือง )


    ... นอกจากนั้นแล้ว กฏหมายนี้ยังให้อำนาจแก่รัฐมนตรีมหาดไทยฮังการี่ในการปิด แบน องค์กรเอ็นจีโอที่หนุนให้มีการอพยพของผู้อพยพสงครามจากอาหรับ เข้าประเทศ เช่นองค์กรที่โซรอสหนุนและจ่ายตังค์ให้ไปร้องเย้วๆ ว่าเพื่อสิทธิมนุษยชน เราต้องรับผู้อพยพเหล่านั้น


    ... นึกถึงเมืองไทย มีองค์กรมากมายที่รับเงินเดือนจากต่างชาติมาป่วนบ้านเมืองตัวเอง มีนักการเมืองมากมายจะรับผู้อพยพมาเป็นภาระตัวเอง ทั้งที่ประเทศพ่อแม่ขององค์กรเหล่านี้ กลับไม่รับผู้อพยพ รวมทั้งองค์กรที่ต้านโทษประหารชีวิตด้วย


    ... เมื่อไหร่เราจะมีกฏหมายแบบนี้บ้าง


    .


    ... The move follows a decision by the Hungarian government to tighten a bill dubbed "Stop Soros" that would restrict the work of Hungarian non-governmental organizations that receive foreign funding


    .http://m.dw.com/en/hungary-george-s...ns-to-move-from-hungary-to-germany/a-43787319


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจาะลึกตะวันออกกลาง


    #ฮุดัยดาห์รวมตัวเฉดหัวซาอุฯ


    ชาวเมืองท่า อัล ฮุดัยดาห์เรือนหมื่นออกมา #เดินขบวนสนับสนุนนักรบแตะหนีบ


    แปลกแฮะ ไม่เห็นจะมีเมืองใดออกมาเดินขบวนสนับสนุนซาอุฯมั่งเลย


    'อุก็มีหัวใจนะ


    นี่แหล่ะครับ สาเหตุหลักที่นักรบแตะหนีบยังรักษาเมืองท่านี้อยู่ได้ เพราะมีฐานมวลชนแน่นหนานั่นเอง


    เพิ่งจะเข้าใจคำพูดแกนนำแตะหนีบคนหนึ่งที่พูดขึ้นว่า...


    ...ต่อให้คุณยึดเมืองท่าแห่งนี้ได้ #สงครามของคุณก็เพิ่งจะเริ่มขึ้น!!!

    .

    .ถูกของเค้าครับ ถ้าเข้าเมืองไปแล้วเจอมวลชนจำนวนนี้แบ่งกำลังกันลอบโจมตี ถือว่าสงครามเพิ่งจะเริ่มจริงๆ แล้วสงครามปัจจุบันจะกลายเป็นอนุบาลไปเลยล่ะครับ!

    .

    .

    ..............

    เพจเจาะลึกตะวันออกกลาง

    ขอบพระคุณที่ติดตาม กดไลค์ แสดงความคิดเห็น และร่วมกันแชร์ครับ

    .

    #เยเมน #อัลฮุดัยดาห์ #ซาอุดิอารเบีย #นักรบแตะหนีบ #ฮูซี #ฮูธี


     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เจาะลึกตะวันออกกลาง


    #บินซัลมานโป๊ะแตก_ดอดพบนายกยิว!!!

    หนุนทำคลอด "ข้อตกลง (วิบัติ) แห่งศตวรรษ" ของทรัมป์


    นสพ.มาอาริว์ยิว: แหล่งข่าวจอร์แดนเผย บินซัลมานไปรอพบกับเนทันยาฮูที่จอร์แดน!


    ในการนี้ เนทันยาฮูซึ่งเดินทางไปพบกับอับดุลลอฮ์ที่สอง กษัตริย์แห่งจอร์แดน ได้พบกับมกุฎราชกุมารซาอุ ที่มารออยู่ที่พระราชวังจอร์แดนอยู่ก่อนแล้ว...


    ชัดเจนนะครับว่า บินซัลมานกำลังทำลับๆล่อๆเกี่ยวกับปาเลสไตน์ ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างก็จับทางได้ว่า เขาต้องการบีบให้ปาเลสไตน์ยอมจำนนต่อแผนการของทรัมป์ ที่เรียกว่า "#ข้อตกลงแห่งศตวรรษ"


    ข้อตกลง (วิบัติ) แห่งศตวรรษฉบับนี้ ย่อให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เป็นแผนบีบให้ปาเลสไตน์ยอมรับสถานะความเป็นรัฐแห่งหนึ่งในสหพันธรัฐอิสราเอล #ไม่มีทหารหรือแม้แต่ตำรวจของตนเอง มีเพียงกองกำลังนานาชาติมาช่วยกำกับดูแล (หรา)


    ไม่เพียงเท่านั้น ปาเลสไตน์ยังต้อง #ยอมรับนิคมยิวที่ผุดขึ้นทั่วพื้นที่เขตเวสแบงก์ (ที่ปาเลสไตน์อาศัยอยู่หนาแน่น) แลกกับการที่ปาเลสไตน์มีทางออกไปสู่เมืองท่า อัชดู้ด ริมฝั่งเมดิเตอเรเนียน ซึ่งทหารที่ดูแลเส้นทางดังกล่าวก็คือ... ทหารยิว (โอละพ่อ)


    ...แผนชั่วร้ายเช่นนี้ #น่าละอายที่ว่าที่ผู้นำซาอุกลายเป็นหมากตัวสำคัญให้เขาไปเรียบร้อยโรงเรียนยิว!!!

    .

    .

    .........................

    เพจเจาะลึกตะวันออกกลาง

    ขอบพระคุณที่ติดตาม กดไลค์ แสดงความคิดเห็น และร่วมกันแชร์ครับ


    #ซาอุดิอารเบีย #บินซัลมาน #มกุฎราชกุมาร #อิสราเอล #ปาเลสไตน์ #ข้อตกลงแห่งศตวรรษ


    ...................

    ที่มา:

    http://www.maariv.co.il/journalists/Article-646946


    Cr.Picture: https://www.yemenpress.org/slider/h...tight-companions-contacted-israeli-officials/


    คำแปลจากเนื้อข่าวภาษาฮิบรู:

    A Jordanian friend called excitedly and said that during the visit of Benjamin Netanyahu this week in Amman, the Saudi Crown Prince, #Prince_Muhammad_also_awaited_him at the royal palace. Oh well. True or false, this knowledge is not as dramatic as it sounds. Israel and Saudi Arabia in direct contacts, whether under the patronage of the Jordanian king or without it. Far away from the limelight is a vibrant reality of meetings and conversations, and in a moment it will become routine, even if the latter know about it, as always, are citizens of Israel and Saudi Arabia.


     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เมือง ทุ่งสง

    ชาวบ้านเห่เก็บหอย ขึ้นมาเต็มชายหาดประพาส

    อ.สุขสำราญ จ.ระนอง 22/06/61 ชาวบ้านสงสัย ทำไมมันเกิดขึ้นพร้อมกันหลายๆพื้นที หวั่นเป็นลางบอกเหตุ
    #โปรดใช้วิจารญาณในการรับชม

    ที่มา..ไดอานา หาญจิต

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นาทีระทึก! ผู้นำ‘ซิมบับเว’รอดตาย โดนลอบวางระเบิด ขณะหาเสียงเลือกตั้ง #ข่าวสดรอบโลก #ผู้นำซิมบับเว #ลอบวางระเบิด #หาเสียงเลือกตั้ง

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คลื่นความเย็น โจมตีเปรู ประชาชนเสียชีวิตมากกว่า 600 คน

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ขนาดภารโรงยังไม่เว้น ขอสนับสนุนให้มีการแจ้งบัญชีทรัย์สินเจ้าหน้าที่รัฐทุกคน ถ้าแจ้งเท็จก็ลงโทษเหมือนนักการเมือง

    ผู้สมัครร้อง! สอบภารโรง รร. ในบุรีรัมย์ ส่อทุจริต เอื้อประโยชน์เครือญาติ
    23 มิถุนายน 2018 เขียนโดย WorkpointNews
    [​IMG]

    1529754967_41034_vlcsnap-2018-06-23-18h55m07s540-1024x580.png

    ผู้สมัครสอบนักการภารโรง รร. แห่งหนึ่ง จ.บุรีรัมย์ และชาวบ้านบางส่วน ร้องเรียน การสอบแข่งขันส่อทุจริต ไม่โปร่งใส ชี้กรรมการคุมสอบเป็นเครือญาติผู้สมัครคู่แข่ง ทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์กันเอง

    วันนี้ (23 มิ.ย. 61) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเที่ยง เส็งประโคน อายุ 53 ปี หนึ่งในผู้สมัครสอบคัดเลือกบุคคลเพื่อจ้างเป็นลูกจ้างชั่วคราวปฏิบัติหน้าที่นักการภารโรง ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.ทุ่งกระเต็น อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ และชาวบ้านในหมู่บ้าน ออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการจัดสอบแข่งขันนักการภารโรง เมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 61 ที่ผ่านมา

    [​IMG]

    ซึ่งมีผู้สมัครสอบแข่งขันเพียง 2 คน แต่เชื่อว่ากระบวนการขั้นตอนการสอบไม่มีความโปร่งใสเป็นธรรม เช่น คณะกรรมการคุมสอบซึ่งมีการคัดเลือกแต่งตั้งไว้ทั้งหมด 8 คน มาทำหน้า 7 คน และ ผอ.โรงเรียนอีก 1 คน แต่ส่วนใหญ่กรรมการฯ เป็นเครือญาติกับผู้สมัครคู่แข่ง ทำให้เกิดการเอื้อประโยชน์หรือช่วยเหลือผู้สมัครคู่แข่ง โดยเฉพาะการสอบภาคปฏิบัติ ที่กำหนดให้ผู้สอบแข่งขันได้สอบปฏิบัติงานช่างไม้ ช่างปูน ช่างเชื่อม และช่างไฟฟ้า ก็มีคนมาคอยพูดบอกให้ตลอดเวลา

    1529754948_58462_vlcsnap-2018-06-23-18h54m48s068-1024x580.png

    ทั้งนี้ หลังเสร็จสิ้นการสอบทั้งข้อเขียน ภาคปฏิบัติ และสอบสัมภาษณ์ เวลาประมาณสี่โมงเย็นเศษๆ ในวันดังกล่าว ต่างก็แยกย้ายกันกลับบ้านตามปกติ ต่อมารุ่งเช้าเวลาประมาณ 07.30 น. นายเที่ยงได้ขับรถส่งหลานไปโรงเรียนตามปกติ ก็พบว่าได้มีการติดประกาศรายชื่อผู้ได้รับคัดเลือกการสอบแข่งขันนักการภารโรงแล้ง ซึ่งนายเที่ยงระบุว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงความผิดปกติ ทั้งๆ ที่เสร็จสิ้นการสอบ 4 โมงเย็นแล้ว พร้อมตั้งคำถามว่ากรรมการไปรวบรวมคะแนนตอนไหน พอรุ่งเช้าก็มีชื่อผู้ได้รับเลือกมาติดไว้แล้ว ทั้งที่ยังไม่ถึงเวลาราชการด้วยซ้ำ

    1529755193_11471_vlcsnap-2018-06-23-19h00m28s217-1024x580.png

    นายเที่ยงจึงเชื่อว่ากระบวนการสอบแข่งขันนักการภารโรงครั้งนี้ไม่มีความโปร่งใสเป็นธรรม ทั้งเรื่องกรรมการคุมสอบที่เป็นเครือญาติของผู้สมัคร และการประกาศผลคะแนน ก็ไม่มีการแจ้งรายละเอียดหรือประกาศให้ทราบชัดเจน

    จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งขณะนี้ได้ร้องเรียนไปยังผู้ตรวจสอบแผ่นดิน และศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแล้ว หากมีการตรวจสอบพบว่าขั้นตอนการสอบไม่โปร่งใสจริง ก็อยากให้ดำเนินการเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง เพราะถึงแม้จะเป็นเพียงสอบลูกจ้างชั่วคราว ตำแหน่งนักการภารโรง แต่หากดำเนินการไม่โปร่งใสก็ควรจะทำให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกัน

    [​IMG]

    ขณะที่ นายสมัย เทพตาแสง และนายบุญชู เอกะ กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนดังกล่าว บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า แม้จะเป็นการสอบคัดเลือกลูกจ้างชั่วคราวปฏิบัติงานตำแหน่งนักการภารโรง แต่ก็ควรจะดำเนินการให้โปร่งใสและเป็นธรรมกับผู้เข้าสอบทุกคน ให้อยู่ในบรรทัดฐานเดียวกัน

    แต่เท่าที่เห็นพบว่า การคัดเลือกบุคคลเข้าไปทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการคุมสอบ ส่วนใหญ่ก็เป็นเครือข่ายกับผู้สมัครอีกคน หากโปร่งใส่จริงต้องใช้คณะกรรมการกลาง เพื่อไม่ให้เกิดผลได้ผลเสียกับผู้สมัครฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยได้ตั้งข้อสังเกตว่า การติดประกาศผลสอบหรือผลคะแนน ก็ควรจะทำอย่างเปิดเผยมากกว่านี้

    จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือให้ทางโรงเรียนออกมาชี้แจงเกี่ยวกับกระบวนการขั้นตอนการสอบ เพื่อจะได้ไม่เกิดปัญหาบานปลาย แต่หากพบว่าดำเนินการไม่โปร่งใสจริงก็ควรจะให้การสอบครั้งนี้เป็นโมฆะ แล้วจัดสอบใหม่เพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

    https://workpointnews.com/2018/06/23/ผู้สมัครร้อง-สอบภารโรง/
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students
    FB_IMG_1529773830248.jpg
    (Jun 22) 'ฟิลิปปินส์'ขึ้นดอกเบี้ยฉุกเฉินสกัดค่าเงินอ่อนสุด12ปี ผวาโจมตีเปโซป่วน'หุ้น-บาท' : หุ้นไทยร่วงเฉียด 30 จุดนักลงทุนผวาฟิลิปปินส์ถูกโจมตีค่าเงิน ส่งผลต้องขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ ขณะเงิน เปโซร่วงต่ำสุด 12 ปี ฉุดค่าเงินภูมิภาคดิ่งตาม ด้าน"เงินบาท"จ่อหลุด 33 ต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุด 8 เดือน แนะจับตาแรงขาย ชอร์ต "วิรไท"ชี้ค่าเงินเคลื่อนไหวสอดคล้องประเทศที่มีฐานะเศรษฐกิจใกล้เคียงกัน

    ตลาดหุ้นไทย วานนี้(21 มิ.ย.) เริ่มมีแรงเทขายทำกำไรออกมาอีกครั้ง โดยดัชนีปิดตลาดที่ระดับ 1,634.44 จุด ลดลง 29.82 จุด คิดเป็นการลดลง 1.79% มูลค่าการ ซื้อขายรวม 61,649 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุน ต่างชาติยังเทขายสุทธิต่อเนื่อง โดยขายออกมาในวานนี้อีกจำนวน 3,845 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดตราสารหนี้ไทยอีก 1,667 ล้านบาท

    ขณะที่ ค่าเงินบาท อ่อนค่าลงต่อเนื่อง ปิดตลาดที่ระดับ 32.97 บาทต่อดอลลาร์ โดยเป็นสกุลเงินที่อ่อนค่ามากสุด และ ยังถือเป็นระดับการอ่อนค่าสุดในรอบ 8 เดือน

    อย่างไรก็ตามหากนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เงินบาทยังถือว่าอ่อนค่าน้อยสุดในกลุ่ม TIP(ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์) โดย เงินเปโซ ฟิลิปินส์ อ่อนค่าลงประมาณ 6.5% เงินรูเปียะห์ อินโดนีเซีย อ่อนค่าลงประมาณ 3.7% ขณะที่เงินบาทไทย อ่อนค่าลงราว 1%

    หวั่นฟิลิปปินส์ถูกโจมตีค่าเงิน

    นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า การปรับลดลงของตลาดหุ้นไทย เกิดจากแรงขายของนักลงทุนที่ออกมา ในหุ้นขนาดใหญ่ เนื่องจากความเชื่อมั่นยังไม่กลับมาอย่างชัดเจน โดยยังถูกปกคลุมด้วยปัจจัยลบจากต่างประเทศ

    ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังคงทยอยเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับยังมีปัจจัยกดดันใหม่จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบฉุกเฉินของประเทศฟิลิปปินส์ เนื่องเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงและการโจมตีค่าเงิน ซึ่งทำให้นักลงทุนหวาดกลัวและส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนทั้งตลาดหุ้นฟิลิปปินส์,เวียดนาม และไทย

    ทั้งนี้เบื้องต้นแนะนำให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุน อย่างเพิ่มรีบเข้าไปซื้อหุ้น โดยให้รอดูความชัดเจนของภาวะตลาดก่อน พร้อมแนะให้ลดสัดส่วนพอร์ตการลงทุนเหลือระดับ 60% จากเดิมที่อยู่ระดับ 80%

    ฟิลิปปินส์ขึ้นดบ.สกัดโจมตีค่าเงิน

    รายงานข่าวเปิดเผยว่า ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ข้ามคืนอีก 0.25% สู่ระดับ 3.5% ในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเดือนที่ 2 โดยมีเป้าหมายเพื่อสกัดการโจมตีค่าเงิน รวมทั้งสกัดการไหลออกของเงินทุน และควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

    สำหรับอัตราเงินเฟ้อของฟิลิปปินส์ในเดือนพ.ค.พุ่งขึ้นแตะ 4.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ปี ส่งผลให้กระทรวง การคลังของฟิลิปปินส์แถลงข่าวเพื่อยับยั้งกระแสความวิตกกังวลของนักลงทุนในตลาด ส่วนอัตราเงินเฟ้อในช่วง 5 เดือนแรกของ ปีนี้ โดยเฉลี่ยเคลื่อนไหวที่ระดับ 4.1% ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายที่ธนาคารกลางกำหนดไว้ในช่วง 2-4%

    ขณะที่ค่าเงินเปโซของฟิลิปปินส์ เคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 12 ปี เมื่อ เทียบกับดอลลาร์ แม้ว่าการซื้อขายล่าสุด วานนี้ (21มิ.ย.)ค่าเงินเปโซเทียบดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 0.2% ปิดตลาดที่ 53.48 ดอลลาร์

    ตลาดหุ้นเอเชียปิดลบ

    ขณะที่ดัชนีหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปิดตลาดปรับตัวลง เพราะความกังวลของนักลงทุนในตลาดเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน โดยดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดตลาดปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นใหญ่ ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทำสงคราม การค้าระหว่างสหรัฐกับจีน ขณะที่สกุลเงินวอนอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

    ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (คอสปิ) ลดลง 26.08 จุด หรือ 1.10% ปิดที่ 2,337.83 จุด มีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 430 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 6.6 ล้านล้านวอน (6 พันล้านดอลลาร์) มีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวก ในสัดส่วน 662 ต่อ 193

    ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลง 39.92 จุด หรือ -1.37% แตะที่ 2,875.81 จุด เช่นเดียวกับดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกงร่วงลง 400.12 จุด หรือ 1.35% ปิดที่ 29,296.05 จุด

    เงินบาทส่อหลุด33ต่อดอลลาร์

    นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์ ตลาดเงิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การอ่อนค่าของเงินบาทในช่วงนี้ สาเหตุหลักเกิดจากแรงเทขายสุทธิในตลาดหุ้น ไทยของนักลงทุนต่างชาติ และนำเงินออกนอก ประเทศ ประกอบกับในช่วงนี้มีแรงเก็งกำไร ค่าเงินเข้ามาผสมโรงด้วย เพียงแต่ไม่ได้มากนัก เมื่อเทียบกับในอดีต จึงส่งผลให้เงินบาท อ่อนค่าลงค่อนข้างเร็ว โดยมองว่าระยะสั้น มีโอกาสหลุดระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ได้

    "ช่วงนี้ต่างชาติเทขายหุ้นแล้วไม่ได้ นำเงินไปพักในตลาดบอนด์เพราะด้วยอัตราดอกเบี้ยเทียบกับต่างประเทศไม่ได้จูงใจ เลยทำให้เงินบาทอ่อน ประกอบกับ นักลงทุนบางกลุ่มมีแรงขายชอร์ตค่าเงินบาท ออกมาด้วย จึงทำให้เงินบาทอ่อนค่าลงเร็ว แต่เชื่อว่านักลงทุนที่ชอร์ตเงินบาทไปก่อนหน้า คงเริ่มทยอยหาเงินบาทมาส่งคืนแล้ว ซึ่งก็อาจใช้วิธีการกู้ยืมในตลาดออฟชอร์หรืออาจขายหุ้นและขายบอนด์ เพื่อนำเงินบาทมาคืน"

    ส่วนเงินเปโซของฟิลิปินส์ที่อ่อนค่าลงค่อนข้างมากในช่วงปีนี้ เชื่อว่าเป็นการอ่อนตัว ลงตามปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจมากกว่า ที่จะถูกโจมตีค่าเงิน เพราะด้วยภาระหนี้ ต่างประเทศที่ค่อนข้างมาก ขณะที่เงินสำรองระหว่างประเทศไม่ได้สูงนักบวกกับเงินเฟ้อที่ค่อนข้างสูง จึงทำให้เงินเปโซอ่อนค่าลงเร็ว โดยตั้งแต่ต้นปีเงินเปโซอ่อนค่าลงแล้ว 6.5% ขณะที่รูเปี๊ยะห์อินโดนีเซียอ่อนลง 3.7% ส่วนเงินบาทไทยอ่อนลงเพียง 0.82% เท่านั้น

    นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์เศรษฐกิจ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกระแสข่าว การโจมตีค่าเงินเปโซของฟิลิปปินส์ว่า การอ่อนค่าของเงินเปโซ มาจากตัวปัจจัยพื้นฐานของฟิลิปปินส์เอง ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติ ถือหุ้นและตราสารหนี้(บอนด์) ของฟิลิปปินส์ค่อนข้างมาก จึงส่งผลให้ตลาดหุ้นกับค่าเงิน มีความผันผวนเมื่อเกิดภาวะเงินทุนเคลื่อนย้าย

    ธปท.ย้ำบาทเคลื่อนไหวสอดรับภูมิภาค

    ด้าน นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า สถานการณ์ค่าเงินบาทของไทยในปัจจุบัน เคลื่อนไหวสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นๆ ที่มีสถานะพื้นฐานทางเศรษฐกิจใกล้เคียงกับไทย สอดคล้องกับภาวะตลาดเงินตลาดทุนโลก แต่อาจจะไม่ได้เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับ ประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ทุกประเทศ เพราะไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจดี มีเสถียรภาพด้านต่างประเทศเป็นกันชนดี

    ต่างกับประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่บางประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มละตินอเมริกา ที่มีเสถียรภาพด้านต่างประเทศไม่ดี มีทุนสำรองต่ำ ขาดดุลสูง พึ่งพิงเงินตราต่างประเทศสูง ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้น จากประเทศเศรษฐกิจหลักปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลต่อความสามารถชำระหนี้ของภาครัฐและเอกชน เห็นได้ว่าในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หรือนับตั้งแต่ เดือนเม.ย.บางประเทศค่าเงินอ่อนค่าลงมากกว่า 15-20% บางประเทศอ่อนค่าลงถึง 30%

    " เรื่องค่าเงิน ต้องไม่ลืมว่าเราใช้นโยบายลอยตัว เวลาเกิดการเปลี่ยนแปลงจากนอกประเทศ ก็กระทบ แต่ไม่ได้กระทบต่อไทยประเทศเดียว กระทบต่อสกุลหลักๆ ทั่วโลกด้วย ที่ผ่านมาดอลลาร์มีแนวโน้มแข็งค่า ดังนั้นการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนก็ต้องทำต่อเนื่องจำเป็นอย่างยิ่งต้องดูแลธนาคารกลางอาจดูแลไม่ให้การเคลื่อนไหวเร็วเกินไป บางช่วงแต่ไม่ได้ฝืนกลไกตลาด "

    มั่นใจเสถียรภาพต่างประเทศแกร่ง

    สำหรับเงินทุนที่ไหลออก ส่งผลให้ค่าเงิน อ่อนค่า ซึ่งเป็นสิ่งที่คาดไว้อยู่แล้วว่าจะเกิดขึ้น เมื่อนโยบายการเงินของประเทศเศรษฐกิจหลักปรับเข้าสู่ปกติ และมีการขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการชำระหนี้

    "ประเทศไทยก็ต้องระมัดระวัง อย่างไรก็ตามเรามีกันชนดี มีเสถียรภาพด้านการ ต่างประเทศ เศรษฐกิจไม่ได้พึ่งพิงเงินตราต่างประเทศมาก หนี้ต่างประเทศต่ำ นักลงทุน ต่างชาติถือครองตราสารหนี้ไทยต่ำ ไม่ถึง 10% เทียบบางประเทศที่มีการถือครองของ ต่างชาติถึง 30-40%"

    นอกจากนี้ไทยมีทุนสำรองค่อนข้างสูง และดุลบัญชีเดินสะพัดเกิดดุลจึงไม่น่าห่วงนัก มีทุนสำรองมากกว่าหนี้ระยะสั้นถึง 3.5 เท่า และยังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง จาก ข้อมูลล่าสุด คาดว่าปีนี้จะเกินดุลถึง 4 หมื่นล้านดอลลาร์ คิดเป็นสัดส่วน 8-9% ของจีดีพี ทำให้มั่นใจว่าเรามีเสถียรภาพด้านต่างประเทศ เข้มแข็งมากหากเทียบหลายประเทศ

    สำหรับการตัดสินนโยบายของคณะกรรมการกนง.จะพิจารณาจากปัจจัย ต่างประเทศเป็นหลัก ซึ่งการลงมติที่ไม่เป็นเอกฉันท์ไม่ใช่เรื่องใหม่ และเป็นเรื่องปกติ สุดท้ายก็ดูเสียงโหวต ซึ่งแม้ว่าต่างประเทศจะขึ้นดอกเบี้ย และเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวดี แต่เงินเฟ้อยังไม่มา และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังไม่กระจายตัว ก็อยากเห็นการกระจายตัวของเศรษฐกิจ และมีความมั่นใจว่าเงินเฟ้อจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

    Source: กรุงเทพธุรกิจ
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_20180624_001527_052.jpg
    (Jun 23) ลุ้น'ศึกน้ำมัน'คู่อริตะวันออกกลาง : รัฐมนตรีโอเปคประชุมกันอย่างเคร่งเครียดที่กรุงเวียนนาของออสเตรียตั้งแต่วานนี้ เพื่อหารือ ข้อเสนอของซาอุดีอาระเบียให้เพิ่มกำลังการผลิต ขณะที่อิหร่านคัดค้านอย่าง ดุเดือด ส่อเค้าว่าโอเปคจะกลายเป็นเวทีเผชิญหน้าระหว่างสองคู่อริ การที่กลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (โอเปค) และพันธมิตรตกลง ลดเพดานการผลิตเป็นเวลา 18 เดือน ส่งผลให้ ระบายอุปทานน้ำมันโลกที่ล้นเกินและดันราคา ให้พุ่งสูงได้ แต่ซาอุดีอาระเบียซึ่งได้รับ การสนับสนุนจากรัสเซีย พันธมิตรนอกโอเปคเสนอว่า ถึงเวลาแล้วที่ต้องเพิ่ม กำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการ ที่เพิ่มสูงขึ้น และผ่อนคลายความกังวลให้กับประเทศลูกค้ารายใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น สหรัฐ อินเดีย และจีน ที่บ่นมาว่าราคาน้ำมัน พุ่งขึ้นมาก

    "เมื่อลูกค้าพูดกันหนาหูเราก็ต้องรับฟัง" คาลิด อับ ฟาลีห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย กล่าวในการประชุมเตรียมการเมื่อ วันพฤหัสบดี (21 มิ.ย.) แต่ความหวังที่ว่า ที่ประชุมอาจตกลงกันได้ก็พังทลายลง เมื่อ ไบจาน นัมดาร์ ซันกาเนห์ รัฐมนตรีน้ำมันอิหร่านเดินออกจากที่ประชุม โดยกล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อกลางดึกวันพฤหัสบดีว่าตน ไม่คิดว่าจะบรรลุข้อตกลงกันได้

    อิหร่านนั้นค้านหัวชนฝาเรื่องเพิ่มเพดานการผลิตในช่วงที่อุตสาหกรรมน้ำมันของตนกำลังเจอกับมาตรการ คว่ำบาตรรอบใหม่ เมื่อประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตัดสินใจถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่รัฐบาลเตหะรานทำกับมหาอำนาจตะวันตก แต่รัฐบาลริยาดซึ่งสนับสนุนให้ทรัมป์ถอนตัว ก็ตกอยู่ในแรงกดดันจากสหรัฐให้ผลิตน้ำมันเพิ่ม เพราะทรัมป์อยากให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับต่ำก่อนการเลือกตั้งกลางเทอม ในเดือน พ.ย.นี้

    ด้านรัสเซียสนับสนุนซาอุดีอาระเบียตามเสียงเรียกร้องจากบริษัทน้ำมัน ในประเทศ ขอให้ลดการจำกัดการผลิต เพื่อพวกตนจะได้ทำเงินในช่วงราคาน้ำมันขาขึ้น

    อเล็กซานเดอร์ โนวัก รัฐมนตรีน้ำมันรัสเซีย ซึ่งร่วมการประชุมเตรียมการ เมื่อวันพฤหัสบดีด้วย กล่าวว่า การ ไม่ปล่อยให้ตลาดน้ำมันร้อนแรงเกินไปเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง

    ก่อนหน้านี้ 14 ชาติโอเปคและสมาชิกนอกลุ่มอีก 10 ประเทศ ที่เรียกว่าโอเปคพลัส ผลิตน้ำมันรวมกันกว่า 50% ของซัพพลายโลก ทำข้อตกลงลดการผลิตวันละ 1.8 ล้านบาร์เรล แต่โอเปคอ้างว่าอุปสรรคในการผลิตและปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ทำให้ผลผลิตลดจากเป้าที่ตั้งไว้มาก อยู่ที่ ราว 2.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน

    หลังการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี เหล่ารัฐมนตรีเผยว่าพวกเขาเสนอต่อ ที่ประชุมโอเปคในวันศุกร์ (22 มิ.ย.) และประชุมกับพันธมิตรนอกกลุ่มใน วันเสาร์ (23 มิ.ย.) ให้เพิ่มการผลิตวันละ 1 ล้านบาร์เรล

    "ใช่ว่าทุกประเทศจะทำตามเป้า นี้ได้" ฟาลีห์ยอมรับ โดยเฉพาะปัญหา ในเวเนซุเอลา อิหร่าน และลิเบีย ซึ่งเกิดการสู้รบระหว่างฝ่ายต่างๆ สร้างความ เสียหายให้กับบ่อน้ำมันใหญ่ๆ ข้อเสนอจากซาอุดีอาระเบียและรัสเซียอาจเปิดช่องให้มีน้ำมันหลายแสนบาร์เรลเพิ่มสู่ตลาด โดยไม่ต้องแก้ไขข้อตกลงเดิม เพื่อช่วยประนีประนอมแบบรักษาหน้า กับอิหร่าน แต่ จาบาร์ อัล ลูไอบี รัฐมนตรีน้ำมันอิรักชี้ว่ายังอีกไกลกว่าจะตกลงกันได้ แม้เสียงส่วนใหญ่จะเห็นชอบ "แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน"

    แหล่งข่าววงในโอเปคเผยว่า การ ผลิตที่เพิ่มขึ้นน่าจะรวมแล้วราว 2 ใน 3 ของเป้าที่ซาอุดีอาระเบียวางไว้ เนื่องจากสมาชิกโอเปคบางประเทศไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้มากพอ

    นักวิเคราะห์กล่าวว่าซัพพลายที่เพิ่มขึ้นเป็นไปได้มากว่าจะอยู่ระหว่าง 6 แสน-8 แสนบาร์เรลต่อวัน กระนั้นก็ยังต่ำอยู่มากจากปริมาณ 1.5 ล้านบาร์เรล ต่อวันที่รัสเซียต้องการ แม้ไม่ได้เป็นสมาชิกโอเปค แต่รัสเซียก็ประสานนโยบายกับกลุ่มในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา

    "1 ล้านบาร์เรลที่ฟาลีห์เสนอนั้นแค่เปิดเกม ทำเนียบขาวคงพอใจ แต่สมาชิกโอเปคที่เพิ่มผลผลิตยากไม่พอใจแน่ๆ" เฮลิมา ครอฟต์ หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์สินค้าโภคภัณฑ์บริษัทอาร์บีซี แคปิตัล มาร์เก็ต กล่าวอ้างถึงแรงกดดันจากรัฐบาลทรัมป์ให้โอเปคคุมราคาโดยเพิ่มการผลิต ขณะที่ ผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่อย่างอินเดียก็ ส่งเสียงครวญเรื่องราคาน้ำมันดิบเพิ่มมาด้วยเช่นกัน

    Source: กรุงเทพธุรกิจ

    ความคืบหน้า
    - OPEC meets Russia, other allies to agree oil output boost : https://www.reuters.com/article/us-...llies-to-agree-oil-output-boost-idUSKBN1JJ07G
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Bank of Thailand Scholarship Students
    IMG_20180624_002748_106.jpg
    (Jun 23) 3ธนาคารกลาง'ชั้นนำโลกจ่อปรับนโยบายรับสงครามการค้า : 3ผู้ว่าการธนาคารกลางชาติเศรษฐกิจโลก กังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดทางการค้า ระหว่างสหรัฐกับจีน ซึ่งขณะนี้ เริ่มบั่นทอนความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ และคาดว่ากระทบการเติบโตของเศรษฐกิจโลก ทำให้ทั้ง 3 คนเห็นตรงกันว่า อาจต้องปรับนโยบายดอกเบี้ยและ การเงินให้สอดรับกับสถานการณ์

    เจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยอมรับว่า ปัญหาสงครามการค้าที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ซึ่งจะส่งผลทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง อาจจะทำให้เฟดต้องนำมาเป็นตัวแปรในการพิจารณาเพื่อดำเนินนโยบายการเงินที่กำลังปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อเข้าสู่ภาวะที่เป็นปกติ ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และเป็นปัจจัยหนุนให้มีการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่ได้ระบุชื่อประเทศที่ทำให้เกิดบรรยากาศของสงครามการค้าตามที่ประธานเฟดกล่าวถึง แต่ก็เป็นที่คาดหมายของตลาดที่ยังวิตกกังวลเกี่ยวกับการใช้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าตอบโต้กันอย่างรุนแรงมากขึ้นระหว่างสหรัฐกับจีนในขณะนี้

    โดยเฟด มีแผนที่จะปรับขั้นดอกเบี้ยนโยบายอีก 2 ครั้งในช่วงครึ่งปีหลังนี้ รวมเป็น 4 ครั้งด้วยกันสำหรับปีนี้ และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยช่วงกลางปีนี้ ส่วนธนาคารกลางญี่ปุน (บีโอเจ) ก็มีแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยในอีก 2 ปีข้างหน้า ประธานเฟด ย้ำว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่เป็นอยู่ในขณะนี้ลดความจำเป็นในการใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งมีการใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ ถึงแม้ว่าปัญหาของสงครามการค้าที่กำลังเกิดขึ้นส่งผลให้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับ นโยบายการเงินก็ตาม โดยที่ผ่านมา พาวเวล เคยกล่าวว่า ประเด็นการค้าเป็นสิ่งที่น่ากังวลอย่างมาก และขณะนี้เริ่มมีบริษัทเอกชนตัดสินใจ เลื่อนการลงทุนและการจ้างงานบ้างแล้ว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ส่อเค้ารุนแรงขึ้นเรื่อยๆถูกโหมกระพือขึ้นจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มอบหมายให้สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) พิจารณาเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนในอัตรา 10% และอาจเป็นมูลค่าสูงถึง 450,000 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากในแต่ละปี สหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนสูงกว่า 505,000 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่จีนนำเข้าสินค้าจากสหรัฐคิดเป็นมูลค่า 129,900 ล้านดอลลาร์

    หลังจากทรัมป์สั่งการยูเอสทีอาร์ได้เพียงวันเดียว ทำเนียบขาวก็เผยแพร่รายงานพิเศษความยาว 35 หน้าที่บ่งชี้ว่า นโยบายเศรษฐกิจของจีนไม่ได้เป็นภัยแค่สหรัฐเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยต่อเศรษฐกิจของโลกด้วย เนื่องจากการดำเนินนโยบายเชิงรุกของจีนเป็นการรุกรานเชิงเศรษฐกิจ ที่เป็นภัยต่อเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐและของโลก อีกทั้งการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในช่วงที่ผ่านมา ส่วนใหญ่มาจากการดำเนินนโยบายและวิธีปฏิบัติที่ก้าวร้าว ออกนอกลู่นอกทางไปจากบรรทัดฐานและกฎเกณฑ์ทางการค้าและการลงทุนของโลก ประเด็นสงครามการค้าระหว่าง สหรัฐและจีนที่เปิดฉากขึ้นแล้ว กำลัง เป็นปัจจัยเสี่ยงสูงสุดที่มีความไม่แน่นอนและส่งผลต่อความผันผวนของตลาด การเงินและเศรษฐกิจโลก หลังจากที่ เศรษฐกิจโลกค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินสหรัฐเมื่อปี 2551

    บรรดานักวิเคราะห์จากดอยซ์แบงก์ มีมุมมองต่อเรื่องนี้ว่า สหรัฐอาจจะตกเป็นเหยื่อนโยบายของตัวเองพร้อมทั้ง คาดการณ์ว่า สงครามการค้าจะฉุดการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐและบั่นทอนผลกำไรบริษัทอเมริกัน

    "รายงานการวิเคราะห์ของเรา บ่งชี้ว่า หากความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างสหรัฐและจีนดำเนินต่อไปและรุนแรงขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของจีดีพี ทำให้จีดีพีสหรัฐหดตัวประมาณ 0.2-0.3% และปัญหาสงครามการค้าอาจจะบั่นทอนผลกำไรของดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลงประมาณ 1.5%

    นายฮารุฮิโกะ คุโรดะผู้ว่าการ บีโอเจ คาดการณ์ว่า ความขัดแย้งทางการค้า ระหว่างสหรัฐกับจีนจะส่งผลกระทบทางอ้อมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียตะวันออก เนื่องจากทำหน้าที่รองรับอุตสาหกรรมจีนอีกทอดหนึ่ง โดยผู้ว่าการบีโอเจ คาดหวังว่า การค้าระหว่างทั้งสองประเทศนี้จะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

    ทั้งนี้ ประเด็นสงครามการค้า เป็นปัญหาที่น่าวิตกกังวลอย่างยิ่ง สำหรับธนาคารกลางของประเทศ ต่างๆ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อ เงินเฟ้อและอุปสงค์ของประเทศนั้นๆ ซึ่งท้ายที่สุดธนาคารกลางต้องออกมาใช้นโยบายทางการเงินเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้น

    มาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี ให้ความเห็นว่าขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินผลกระทบต่อเศรษฐกิจ แต่ก็ยอมรับว่ามีความกังวลเกี่ยวกับ ความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจและผู้บริโภค พร้อมกับเตือนว่า ความขัดแย้งทางการค้าและนโยบายกีดกันทางการค้า ไม่เคยให้ผลลัพธ์ที่ดี

    ที่ผ่านมาอีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ที่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมกับคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับอีซีบีที่ระดับ -0.40% และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ 0.25% พร้อมยืนยันว่า จะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่อไป อย่างน้อยถึงช่วงฤดูร้อนของปีหน้า และจะยุติมาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ(คิวอี) ประมาณปลายเดือน ธ.ค.ปีนี้ ปิดฉากการซื้อคืนพันธบัตรตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    อัตราเงินเฟ้อกลุ่มยูโรโซนเดือน พ.ค.ขยายตัวแตะ 1.9% ทำให้อีซีบีปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อปี 2561-2562 เป็น 1.7% จากเดิมอยู่ที่ 1.4% นอกจากนี้ อีซีบี ประกาศลดวงเงินการซื้อคืนพันธบัตรรายเดือนลงครึ่งหนึ่งไปอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านยูโร จาก 3 หมื่นล้านยูโรนับตั้งแต่เดือน ต.ค. ปีนี้จนถึงสิ้นปีด้วย

    Source: กรุงเทพธุรกิจ

    เพิ่มเติม
    - Powell, Draghi, Kuroda, Lowe Speak at ECB Forum: https://www.bloomberg.com/news/videos/2018-06-20/powell-draghi-kuroda-lowe-speak-at-ecb-forum-video
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จะไปแก้ปัญหาทุจริตในระบบราชการเป็นเรื่องยากเพราะ
    1. ปฏิรูปข้าราชการ ป้องกันการทุจริตแบบยกเครื่องทั้งระบบ - จะทำยังไงการปฏิรูปข้าราชการเพื่อ ป้องกันการทุจริตแบบยกเครื่องทั้งระบบ ส่วนสำคัญที่สุด ก็คือการแก้ปัญหาเรืรอว บุคลากร ซึ่งถ้าองค์กรเกิดการ เพาะบ่มให้การทุจริตเป็นเรื่องปรกติ มีการช่วยเหลือผู้กระทำผิดไม่ให้ต้องรับโทษ การปฏิรูปข้าราชการเพื่อ ป้องกันการทุจริตแบบยกเครื่องทั้งระบบ ก็เป็นการยาก เพราะบุคคลเหล่านี้ไม่มีสำนึกในการกระทำความดี เพราะสิ่งเดียวที่พวกเขาสนใจคือเงิน พูดง่ายๆ ก็คือพวกผมพอใจจะทุจริต ซะอย่าง ใครมีปัญหาอะไรไหม
    2. ขุดรากถอนโคนเครือข่ายอิทธิพลของข้าราชการระดับสูงที่ฝังรากลึกอยู่ตามกระทรวงต่างๆ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ร่วมมือกันทุจริต - จะทำยังไง เพราะ เครือข่ายอิทธิพลของข้าราชการระดับสูงที่ใช้อำนาจหน้าที่ร่วมมือกันทุจริต ก็คือผู้มีอำนาจสั่งการ และตรวจสอบการทุจริต และลงโทษผู้กระทำการทุจริต เมื่อหันมาทุจริตเองก็ตรวจสอบการกระทำความผิดได้ยาก เช่นกรณีโกงเงินคนจน ถ้าไม่ใช่นักศึกษาฝึกงานออกมาแฉ สังคมจะรู้กันไหมว่าเกิดการโกงเงินคนจน และเกิดจากกลุ่มขอวผู้บริหารระดับสูงสุดของหน่วยงาน และในตอนนี้การดำเนินการลงโทษผู้กระทำความผิดก็ยังเกิดการกระทำที่ไม่โปร่งใสเกิดขึ้นอยู่
    3. สร้างจิตสำนึกใหม่ให้ข้าราชการไทย พร้อมทำงานรับใช้ประชาชน โดยเฉพาะผู้คนที่ด้อยโอกาสในสังคม - จะทำยังไง เพราะถ้าเด็กรุ่นใหม่ ข้าราชการไทย เป็นกลุ่มที่ชอบชอบความสะดวกสบาย ชอบใช้สิ่งของฟุ่มเฟือย เงินเดือนที่ได้รับก็อาจจะไม่เพียงพอที่จะนำมาจับจ่ายให้ได้สิ่งของเหล่านั้น หนทางเดียวก็คือทุจริต เพื่อจะให้ได้รับเงินเพื่อนำมาจับจ่าย เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย และได้ใช้สิ่งของฟุ่มเฟือยตามที่ตนเองชื่นชอบ


    347353.jpg
    ‘องอาจ’ เสนอ 3 ข้อ ฝาก ‘บิ๊กตู่’ ลุยล้างขรก.พันธุ์โกงวันอาทิตย์ ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561, 12.07 น.

    24 มิ.ย. 61 นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเปิดโปงตรวจสอบการทุจริตของข้าราชการจากหลายกระทรวงว่า การทุจริตที่กำลังถูกตรวจสอบอยู่ขณะนี้เป็นการทุจริตที่สร้างความสะเทือนใจให้กับประชาชนเป็นอย่างมาก โดย เริ่มจากการทุจริตเงินทอนวัดของสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ จนมาถึงการทุจริตปลอมแปลงเอกสารรับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อย และผู้ป่วยโรคเอดส์ที่กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ ไปจนถึงการทุจริตที่กระทรวงศึกษาธิการในโครงการเสมาพัฒนาชีวิตเงินทุนการศึกษาเด็กนักเรียนหญิงเหยื่อตกเขียว รวมถึงทุจริตอาหารกลางวันนักเรียนเด็กอนุบาล

    นายองอาจ กล่าวว่า การทุจริต จะเห็นได้ว่า ในหน่วยงานที่ข้าราชการควรมีคุณสมบัติพิเศษเรื่องศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม มีจิตเมตตา เอื้ออารีต่อผู้ต้องการความช่วยเหลือและเด็กนักเรียนเป็นพิเศษ แต่ปรากฏว่า ข้าราชการส่วนหนึ่งในหน่วยราชการที่มีการทุจริตเหล่านี้กลับมีคุณสมบัติตรงกันข้ามชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน คือ เป็นข้าราชการที่มีจิตสำนึกที่เลวร้าย ไร้ศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรมอย่างสิ้นเชิง

    “การตรวจสอบการทุจริตโดยข้าราชการที่ฉ้อฉลเหล่านี้ จะมีลักษณะคล้ายๆ กันคือ 1. ทุจริตกันต่อเนื่องมาเป็นเป็นระยะเวลานาน 2. มีการทุจริตร่วมมือกันเป็นขบวนการ 3. ในหลายกรณีมีข้าราชการระดับสูงร่วมมือด้วย” รองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าว

    นายองอาจ กล่าวต่อว่า สำหรับการทุจริตที่สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นการทุจริตที่มีความเป็นไปได้สูงที่มีการวางเครือข่ายอำนาจ สร้างอิทธิพล ดันพวกพ้องตนเองขึ้นมามีอำนาจมีตำแหน่งสูงๆ จากรุ่นสู่รุ่น จนสามารถทุจริตได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ข้าราชการระดับสูงบางคนเกษียณออกจากราชการไปแล้ว ก็ยังมีอิทธิพลในการดันคนของตัวเองขึ้นมามีอำนาจได้ต่อเนื่อง เพราะมีผลประโยชน์ร่วมกัน

    “ปกติ การทุจริตจะมีนักการเมือง ข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจสมคบร่วมมือกัน แต่ขณะนี้ไม่มีนักการเมืองจากการเลือกตั้ง ก็ยังพบการทุจริตกระจายอยู่ทั่วไป เป็นการทุจริตโดยข้าราชการประจำล้วนๆ ไม่มีนักการเมือง พ่อค้า นักธุรกิจมาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด แสดงให้เห็นว่า ไม่ว่าจะมีนักการเมืองจากการเลือกตั้งหรือไม่มี ข้าราชการส่วนหนึ่งก็ทุจริต ฉ้อราษฎร์บังหลวงเงินงบประมาณที่มาจากภาษีอากรของประชาชนจนอิ่มหมีพีมันกันทั่วหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาการทุจริตของข้าราชการให้ได้ผล” นายองอาจ กล่าวและย้ำว่า ตนขอฝากให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการอย่างจริงจัง ดังนี้

    1. ปฏิรูปข้าราชการ ป้องกันการทุจริตแบบยกเครื่องทั้งระบบ

    2. ขุดรากถอนโคนเครือข่ายอิทธิพลของข้าราชการระดับสูงที่ฝังรากลึกอยู่ตามกระทรวงต่างๆ เพื่อป้องกันการใช้อำนาจหน้าที่ร่วมมือกันทุจริต

    3. สร้างจิตสำนึกใหม่ให้ข้าราชการไทย พร้อมทำงานรับใช้ประชาชน โดยเฉพาะผู้คนที่ด้อยโอกาสในสังคม

    “อยากเห็นนายกรัฐมนตรีใช้เวลาที่เหลืออยู่ จนกว่าจะมีการเลือกตั้งทุ่มเทพลังในการป้องกันปราบปรามการทุจริตของข้าราชการให้ได้ผลอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้การทุจริตโดยข้าราชการเป็นมะเร็งร้ายที่ฝังรากลึกในสังคมไทยอีกต่อไป” นายองอาจ กล่าว

    http://www.naewna.com/politic/347353
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มิถุนายน 2018
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,977
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เริ่มแล้ว ! ตำรวจลุยกวาดล้างคนทรงเจ้าเข้าผี หากรายใดหลอกเงินชาวบ้าน ต้องดำเนินคดีทันที ส่วนผู้แอบอ้างเบื้องสูง ต้องหยุดพฤติกรรมเช่นกัน ด้าน ผบช.ก. เผยอยากให้ชาวบ้านเข้าใจ เพราะประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ควรเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า

    พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) เปิดเผยว่า ได้มีคำสั่งให้กองปราบปรามร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ดำเนินการสืบสวนแกะรอย กวดจับบรรดาร่างทรงที่สวมบทคนทรงเจ้า หลอกลวงต้มตุ๋นชาวบ้าน ทั้งโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดีย และบอกปากต่อปาก ตำรวจเชื่อว่าคนทรงเจ้าเหล่านี้ส่วนใหญ่แอบอ้างเบื้องสูง และกระทำกิจกรรมที่เต็มไปด้วยพฤติกรรมที่หลอกลวงจนชาวบ้านตกเป็นเหยื่อสูญเงินทองไปเป็นจำนวนมาก

    หากพบร่างทรงทีมีพฤติกรรมแอบอ้างเบื้องสูงก็ให้ดำเนินการพูดคุยปรับทัศนคติให้ยุติพฤติกรรม แต่หากพบว่าเข้าข่ายหลอกลวงเอาเงินจากชาวบ้านจำนวนมากก็ให้ดำเนินคดีทันที ทั้งนี้กำชับว่าให้ความเป็นธรรมกับร่างทรง และทำความเข้าใจกับชาวบ้านด้วย เพื่อป้องกันความสับสนที่อาจจะเกิดจากความเชื่อ

    พล.ต.ท.ฐิติราช เปิดเผยว่า ต้องการให้ร่างทรงเหล่านี้เลิกพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพราะบางคนมีการแอบอ้างเบื้องสูง โดยให้ตำรวจเน้นเข้าไปดำเนินการกับร่างทรงที่มีพฤติกรรมในการต้มตุ๋นหลอกลวงเป็นการเฉพาะ "แต่ไม่ให้เน้นการดำเนินคดีอาญา"ยกเว้นใน"กรณีที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความกับตำรวจ"ก็ให้ดำเนินคดีไปตามข้อกฎหมาย

    “ผมอยากให้ชาวบ้านเข้าใจ เมืองไทยเป็นเมืองพระพุทธศาสนา ควรเชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่มีหนังสือธรรมะให้อ่านจำนวนมาก จะตัดสินเชื่อสิ่งใดก็ให้คำนึงถึงหลักคำสอน ใช้พระพุทธเจ้าเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจคือสิ่งที่ดีที่สุด การแอบอ้างเป็นร่างทรงต่างๆนั้นอยากให้ชาวบ้านตัดสินใจให้ดีว่าควรจะเชื่อหรือศรัทธาหรือไม่

    ทั้งนี้ ฝนช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมาตำรวจกองปราบปรามเปิดปฏิบัติการกวาดล้างคนทรงเจ้าเข้าผีอย่างเงียบๆ โดยได้รวบร่างทรง มาโกนหนวดตัดผมสยบพลังลึกลับจากเจ้าจอมอิทธิฤทธิ์ให้กลับกลายเป็นชาวบ้านธรรมดาไปแล้วอย่างน้อย 3 คนและอีกจำนวนหนึ่งยอมถอดร่างกลายสภาพเป็นคนธรรมดา ตั้งแต่ตำรวจบุกไปถึงกุฏิเจ้าสำนัก อย่างไรก็ตามตำรวจระบุว่า ยังไม่มีการดำเนินคดีอาญากับร่างทรงแม้แต่รายเดียว เป็นเพราะต้องการใช้ไม้นวมในการจัดการ เพื่อตัดปัญหาด้านความเชื่อที่ยังมีชาวบ้านจำนวนมากยังนิยมกราบไหว้

    เครดิต - โพสต์ทูเดย์

     

แชร์หน้านี้

Loading...