ขอคำปรึกษาอาการของแฟนค่ะ

...

 

คนที่ ทำสมาธิเป็นแล้ว เพียงแค่ ลมหายใจ ขณะเดียว เขาจะ โคจรในสมาธิ
หลากชนิด ที่โลกรู้จัก จะมีแค่ 8 แต่ คน ภาวนาเป็น จะไปมา ไร้ร่องรอยเป็นหมื่นๆ

เว้นแต่ อุปาธิ ตัวใหม่ๆ อาจจะเกิดการ ติดรันพันตู ก็อาจจะมีอาการ ซึม หมดแรง
เหมือนคน กินยาแก้แพ้แต่ไม่ง่วง

แปลกแต่จริง สำหรับคนที่ คู่กันมา แม้นจะไม่ได้ฝึก แต่อาศัย สดับที่เขาเล่า
ก็ใจสงบ เว้นแต่ จะเอาโลกมาเหนือธรรม ก็จะเกิดอาการ ลังเลในธรรม ลังเล
ในการเพียรของมหาบุรุษ .....แต่ถ้า วาสนาเคยเกิดคู่กันมาหลายชาติ แม้น
อยู่ดีๆ เขาจะบอกว่า "ไปออกศึก" ก็ได้ หาได้รั้ง อาวรณ์ อาลัยไม่ จะมี ความ
เข้าอกเข้าใจ และ รอสดับเพียง ความสำเร็จ ชนิด ชินจักร แล้วตนก็ไม่ต้องฝึก
อะไร อาศัยระลึก โน้มไป สำเร็จตาม ได้ไม่ยาก

ก็ วางตัวไปปรกติ ไม่ต้อง สงสัย หรือ ตำหนิตน

ทำตัวให้เป็น แก้ว ใส สะท้อนเงาตบหน้ากันบ้าง

เป็นแก้ว ใสในใส ส่องผ่านไม่ติดข้อง แม้นจะแอบมอง
ในสีสรรวรรณะจริตจะก้านที่ห้ามไม่ได้ พ่อแม่ให้มา
( แต่ก็ต้อง สำรวมระวังเข้ามา บ้าง ไม่เช่นนั้น จะทำให้
ไม่ได้เจอกันตลอด แล้วเขาจะยิิ่ง หายใจเป็นสมาธิได้ยาก
ซึ่ง กล่าวแบบนี้แล้ว ก็อย่า ติดข้อง หมายมั่นสำคัญตนขึ้นมา จนวิจิตร จะเสียทั้งเรา ทั้งเขา )

เกินกว่านี้ ก็จะเหมือน คนหย่าขาดจากกันเบ็ดเสร็จเด็จขาด แต่ก็ไม่ได้
จากร้างรากัน เว้นแต่ คุณจะเอา โลกมาเหนือ "ธรรม" ไม่เลิก ก็อาจจะต้อง
แปรปรวนไปตามความเหมาะสม

 

หรือ จะ สนใจเป็น " วาสิฏฐี "

กามนิต เอาแต่ ฝึกฝน หาความรู้ เมายาแก้แพ้อยู่นั่น วิเคราะห์วิจัยอยู่นั่น

วาสิฏฐิ เต้นรำก็แล้ว โยนสะบ้าก็แล้ว ตบหน้าก็แล้ว เอ็ดเอาเรื่อง i-ฤทธิ์ กินแบล็คก็แล้ว

แต่ สุดท้ายอาศัย ปฏิภาณ ไม่มากด้วยอาการ อาลัยอาวรณ์ ไม่เอาโลกมาล้อมหน้า
ล้อมหลังเป็นเงื่อนไข แหวก อาสวะ ผั๊วะ!!

เป็น อรหันต์ ก่อน กามนิิต

กามนิต ไปเกิดเป็น พระพรหม เพราะ ติดอาการยาแก้แพ้

เดะชบุญ วาสิฏฐิ ไปแสดงนิมิต นิดหน่อยๆ ตามประสา คนเคยแพ้ทางกัน ก็เลยอาศัย
เป็นส่วนแสดงธรรม ความไม่เที่ยง ของโลก

ก็เลย จบ ด้วย แฮปปี้ เย็นนิ่ง( กริยา เย็น เติ่ม ing ) pressent continueus อกาลิโก

 

ถ้าห่วงสามี ลองพากันไปสนทนากับพระอาจารย์ที่ตนนับถือ และมีความสามารถด้านสมาธิกรรมฐานดู เพื่อให้ท่านช่วยเสริม วิธีการเข้าถึงให้สามี จขกท.
แต่สำหรับ จขกท. นั้นมีความรู้ในการฝึกสมาธิน้อย เลยทำให้ไม่เข้าใจในตัวสามี ลองทำความเข้าใจเรื่องสมาธิให้มากขึ้น และอีกส่วนคือ คุณและสามี ควรศึกษาเรื่องหลักการครองเรือน หาจุดกึ่งกลางระหว่างกัน อาจทำให้ดีขึ้นบ้าง

ปล.ลองฟังความเห็นในหลายๆคอมเม้นนะคะ

 

ถ้าคุณรักเขาจริงมันก็มีไม่กี่อย่างที่ควรทำอะนะ
- ปฎิบัติไปด้วยกัน
- ไม่ต้องปฎิบัติแต่พยายามเข้าใจเขา สร้างกำแพงระหว่างกันขึ้นมาบางส่วนเราจะไม่ยุ่งกับเขาและเขาจะไม่ยุ่งกับเรา
- เกินกว่าจะรับได้ ผมแนะนำเลิกกันจะดีกว่า ยื้อไปก็ไม่เข้าใจกันอยู่ดี

ถามว่าเขาบ้าไหม
ไม่บ้าหรอก คนเราปฎิบัติไปได้จุดนึงมันจะมีอาการประมาณนี้แหละ ก็ไม่แปลกอะนะถ้าจะมีคนบอกว่าบ้าเพราะมันยุคสมัยใหม่ บ้าไม่บ้ามันต้องดูกันยาวๆ ส่วนที่เขาคุยกันทางจิตนั้นส่วนใหญ่จะเป็นครูทางจิตและเป็นที่ส่วนน้อยคนที่จะมี บางคนก็เป็นมาร

คนนี้มีส่วนคล้ายผมอยู่หน่อยๆ ค่อนข้างเข้าใจยาก ลองถามเขาดูครับ นั่งไปเพื่ออะไร ถ้ามีพลังพิเศษเกิดขึ้นเขาจะทำอะไร ถ้ามีสัมผัสที่6จนชัดเจนจะมีผลเสียกับคนรอบข้างไหมแก้ไขอะไรได้

 

พาไปหาพระเกจิที่เก่งๆดีกว่าครับ
อาการแบบนี้ มันคืออาการคนที่พอทำสมาธิ
ถึงระดับหนึ่งจนจิตเริ่มสงบ
และดันไปน้อมรับนามธรรม
ภายนอกเข้ามาครับ เนื่องจากเค้ามีต้นทุน
ทางสัมผัสภายในมาก่อนด้วยยิ่งหลงง่าย
(ปากอาจบอกไม่สนแต่เค้าไปสนทนาเองพอนึกภาพออกนะ)
มันจะกลายเป็นเหมือนการสกดจิตตัวเองได้
อย่างคาดไม่ถึงครับ. และเพราะที่น้อมเข้ามา
มันเป็นวิบากเก่าทางด้านพลังงานล้วนๆ
แม้จะรู้สึกสัมผัสดีขึ้น
แต่ไม่ใช่มาจากความสามารถของตัวเอง

กรณีนี้พระอาจารย์ อาจจะไม่โป๊ะเซะ
รักษาให้ทันที อาจจะใช้วิธีค่อยๆแก้ไป
เพราะมันเป็นวิบากเค้าเองครับ

ปล มันเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้
สำหรับคนที่มีสัมผัสภายใน
แต่ไปยึดฝ่ายนามธรรมอย่างไม่รู้ตัวครับ
เพราะไม่สนเรื่องสติและปัญญา
จะเอาแต่สมาธิ พอหลังๆมีสัมผัสดีขึ้น
แต่เป็นสัมผัสที่ไม่ได้มาจากตัวเอง
ก็จะไม่สนสมาธิ. แต่ก็ไม่สนเรื่อง
สติและปัญญาเหมือนตอนที่ติดสมาธิเหมือนเดิมอีกนั่นหละครับ
จะบอกว่า มันเป็นอาการปกติแนวๆนี้ครับ

ทำให้ตอนนี้ สัมผัส เหตุผล วิธีคิด ตรรกะ
การใช้คำพูดมันอยู่ภาย
ใต้จินตนาการอยู่ครับคือกึ่งๆมโนฯ
(คือสมองสองข้างซ้ายขวาทำงานร่วมกัน เปิดgoogle หน้ามีสมองแต่ละฝั่งดูครับจะเข้าใจ)
แต่สัมผัสมันไม่ใช่เกิดจาก
เครื่องรู้ทางจิตครับ
แต่ไม่ถึงขั้นสติไม่ดี วิปลาส
หรือบ้าอะไรครับ เพราะสมองยังปกติอยู่ครับ


ยังพอแก้ไขได้ครับ. หาพระความสามารถ ทางจิตสูงๆให้เจอ ท่านจะแก้ไขให้ก็หายแล้วครับในเวลาไม่นาน
ท่านจะได้สอนการทำสมาธิที่ถูกทางให้
โดนด่าชักสองสามชุด
หรือบ๊องหู ตบกะบาลซักที
จะหายเร็วยิ่งขึ้นครับ. ^_^

แต่ถ้าไม่แก้ ปั้นปลาย
จะไม่ต่างกับร่างทรงครับ

ตอนนี้ยังแก้ได้ทัน ไม่ต้องห่วงครับ
เราเพียงหาพระเกจิให้เจอ. หาอุบาย
พาไปหาให้ได้พอครับ
แบบท่านที่เห็นหน้าเราแล้ว
รู้ได้ทุกเรื่องครับ

 

ขอปิด ว่าด้วยหลัก เบญจกัลยาณี เสียหน่อย

พระพุทธองค์ตรัสว่า

" ไฟในไม่นำออก ไฟนอกไม่นำเข้า "


จบ !!

 

เคยถามค่ะว่านั่งเพื่ออะไร เขาตอบกลับ แล้วทำงานเพื่ออะไร แล้งหวังอะไรกับการทำงาน บอกได้เงิน ไม่ทำแล้วจะเอาอะไรกิน ทำงานหวังจะสบายตอนรวยไง เขาบอกก็คล้ายกัน นั่งเพื่อได้บุญ เก็บบุญใส่กระเป๋าเรื่อยๆเดี๋ยวก็เต็ม

 

เห็น จขกท ดูเดือดเนื้อร้อนใจ
และก็เกริ่นว่าไม่ค่อยรู้ภาษาธรรมมะ
ดังนั้นจึงใช้ศัพท์ง่ายๆ ในการอธิบาย

คือคุณนพ แกพยายามจะบอกว่า
อาการก็ไม่ปกตินั่นแหละครับ
รีบไปหาทางแก้ซะ

ถึงคุณเจ้าของกระทู้
ผมก็นั่งสมาธิอยู่เรื่อยๆนะครับ
สม่ำเสมอบ้าง ขาดช่วงบ้าง
แต่ยืนยันว่า ตัวผมเองไม่มีอาการแบบพวกนี้
อาการเบื่อโลกมีไหม มีอยู่ทุกวัน
แต่ผมอยู่กับโลกได้
นาน ๆ ก็บ่นให้แฟนฟังที
เทศนาให้แฟนฟังที
แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะทำให้ตัวแตก แปลกแยก ไปจากโลก
ไม่เช่นนั้นพระอรหันต์ คงฆ่าตัวตายกันหมด
เพราะอยู่กับโลกไม่ได้


คุณเจ้าของกระทู้ อย่ามีความคิดว่า
นักปฏิบัติ จะต้องทำตัวแปลกแยกจากโลก ต้องหนีโลก
หรือนักปฏิบัติ จะทำตัวไม่เหมือนคนปกติ

นักปฏิบัติที่มาถูกทาง ปฏิบัติถูกต้อง
ยึดตามคำสอนพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จะต้องเป็นปกติ
ไม่เช่นนั้น พระโสดาบัน ที่เป็นฆราวาส
ก็คงไม่อยากรวย คงไม่อยากสวย
คงไม่เสียใจเวลาที่มีใครตาย (แบบพระอานนท์)


คนที่ปฏิบัติ แล้วแปลกแยก แตกต่าง
ทำตัวแปลก ๆ ไปจากโลก

จึงควรรีบรักษาครับ.....
ถือเป็นวิบากกรรม หรือโรค หรืออะไรก็แล้วแต่
ส่วนบุคคล

ไม่เกี่ยวกับธรรมมะนะครับ...

 

รักษาไงอ่ะ มันก็ไม่ได้แปลกแยกขนาดนั้น ยังดูบอลแบบมีอารมณ์ร่วม ยกตัวอย่างให้พี่เห็นภาพเลย หนูไปนอนค้างที่อื่น 5 วัน แต่ก่อนมันจะโทรตามจิก หาเรื่อง ปั่นประสาท พอเดี๋ยวนี้ไม่เป็น อารมณ์ดี ก็ถามว่าทำไมไม่เหมือนเดิม เขาบอกไม่รู้ดิ ตามไปก็ทุกข์ใจ ภาษาสังคมหนูหมดรักค่ะ

เหตุการณ์ที่สอง เรื่องบ้าไม่บ้า แต่ก่อนมันบ้าแบบระห่ำอ่ะ พี่เป็นผู้ชายคิดออกป่ะ บ้าแบบผู้ชายกวนตีนไร้สาระ ตอนนี้มันมีสาระ มันนิ่ง จนคิดว่า มันบ้าป่าวว่ะ หรือเราไปติดที่มันบ้าตอนนี้มันหายแต่เราไม่ชิน

พยายามคิดว่า ธรรมะคงขจัดปากอันไม่ดีไป แต่อดคิดไม่ได้ ทำยังไง ทำแบบไหน หนูก็ชาวโลกไหว้พระไหว้เจ้า บางทีก็คิด ผีสิงป่าว หลัวเราต้องเป็นคนนี้ คนเรียบร้อยแบบนี้ไม่ใช่

 

คุณเจ้าของกระทู้ อย่าไปมองว่า
คนนี้นั่งอยู่ในถ้ำ คนนั้นเคร่งศีล
แล้วจะเป็นคนดี คนวิเศษ หรือเก่งกว่าพระในเมือง

บางคนอาจจะไม่เป็นอยา่งที่คิดก็ได้

เคยเห็นข่าวไหม พระฝรั่ง ใส่จีวรขาด ๆ
ไปอยู่บนดอย ดูเหมือนน่านับถือ
น่าศรัทธา

แต่ขอโทษ ไม่กลับวัด แถมเลือกกินแต่ผัก
ผิดพระวินัยที่พระพุทธองค์บัญญัติไปไม่รู้กี่ข้อ
ไม่รู้บวชอยู่ในลัทธินิกายไหน แต่ใส่จีวร เหมือนเถรวาท

ยกตัวอย่างแค่นี้นะ เพราะรู้สึกที่อ่านมา
คำสอนออกนอกแนว พระพุทธศาสนาไปมาก

 

จิต คุยกับแฟนคุณไงครรับ
เนี่ยแหละครับ เหมือนที่คุณนพบอก
อีกหน่อยจิตคงบอกว่าตัวเองเป็นเทพ
กลายเป็นร่างทรงคนหนึ่งไปเลย

เข้าใจนะครับ

 

มันบอกว่า เหมือนเราขับรถน้ำมันจะหมด แล้วก็พูดกับตัวเอง พอป่าวว่ะถ้าจะให้มันพอ ปิดแอดิ อาการเปนประมานนี้

พี่มันอย่าด่าเทพอยู่เลย มันบอกว่าถ้ามันเป็นเทพ มันลงมาเกิดเป็นคนดีกว่า ถ้าอยากช่วยคนจริงๆ หลวงตามหาบัวช่วยคนทั้งประเทศเลยนะ แต่เคยยิบๆถามว่า แล้วมึงเป็นเทพป่ะ มันก็ตอบ กูเป็นคน ถ้ากูอยุ่นรก กูเป็นสัตว์ ถ้า กูอยู่สวรรค์ กูเป็นเทพเทวดา

 

เลิกไปหาเหอะ ความสามารถนั้นท่านไม่พอหรอกครับ..
แถมยังไม่มีฐานกำลังจากครูบาร์อาจารย์ข้างบนหนุนอีก..(ฟังหูไว้หู)
คือยังไม่ใช่ระดับโปร ที่มีความสามารถทางจิตในระดับสากลครับ..
มันจะไปรู้แท้ได้อย่างไร มันจะไปถึงขึ้นเข้ากระแสคล้ายๆนิพพาน
ที่ท่านนั้นเรียกสูญญตา มันฟ้องว่า ท่านที่แนะนำก็ยังติดนามธรรมอยู่ครับ

ก็เพราะมันมีกระแสวิบากจากภายนอก
เข้ามาร่วมปรุงอยู่ ต่อให้ทำบุญไปใช่ว่าดวงจิตเค้าจะได้นะนั่น...
ไปพูดเรื่องวิปัสสนายิ่งไปกันใหญ่ เพราะอย่างว่า แฟนเรา
เค้าใช้จิตนาการร่วมกับตรรกะอยู่
แต่อย่างที่บอก สมองไม่ได้เป็นอะไร
และมันก็สามารถเกิดขึ้นได้ปกติ
เค้าบอกว่าเค้าเดาเอาหรือ แต่เดาถูก
คิดว่า ที่เดาถูกเพราะอะไร ฝากเป็นข้อคิด
และที่ผิดบ้างถูกบ้างเพราะอะไร นี่ก็ฝากเป็นข้อคิดเด้อ...
.
คือ เคสอย่างแฟนเรานะ มันช่วยไม่อยากหรอก
ถ้าใครพอมีกำลังจิตบ้าง พอเข้าใจเรื่องพลังงานบ้าง
เค้าดูออกกันหมดแระ เพียงแต่เค้าจะไม่ยุ่งในกรณี
ที่มันเป็นวิบากเฉพาะบุคคลครับ
คือสร้างเหตุให้เกิดขึ้นด้วยตนเอง
จากช่วงที่บ้าทำสมาธินั่นหละครับ
แถมทำสมาธิแบบอเมริกันลูกทุ่งอีกต่างหาก...

คือถ้าเป็นกรณีแบบโดนแทรก
หรือโดนกลั่นแกล้ง เค้าทำไม่ถึง ๕ นาทีก็หายแล้ว...

แนะนำให้ไปหา พระครูปลัดสุริยัญ
วัดป่าฉรรพรังสี อ.จตุรัส ชัยภูมิ นะครับ
ลองค้นข้อมูลดู....

อยากลองของ อยากอะไรหรืออยากเจอ
ลักษณะจิตไว จะได้รู้กันก็คราวนี้หละครับ...

เรื่อง ระหว่างบุคคลสองบุคคล ไม่ขอยุ่งนะครับ..
คนยืนคุยกัน กับคนนอนคุยกัน
ความผูกพันธ์มันต่างกันครับ
มีแค่ตัวเราและแฟน ที่จะรู้ดีที่สุด
คนอยู่ร่วมกัน เราอยู่ได้
เพราะยอมรับในสิ่งที่แต่ละคนเป็นได้
ไม่ใช่เพราะว่า คนที่อยู่จะต้องเป็นอย่างที่เราคิดครับ
พอเข้าใจที่ พี่สื่อ เน้อ....

 

อันนี้ไม่รู้ ตอนนี้ก็ฟังหูไว้หู เราไม่ได้อยู่ในวงการนี้ ต่อให้ใครพูด แต่งตัว เราก็ไม่เข้าใจ แต่ก็บอกเขานะ ว่า อยู่ตรงนี้ จะเป็นยังไงก็รัก แต่ขออย่าพึ่งทิ้งกัน

 

เข้าใจตรงที่มันเป็นวิบากกรรมนี่แหละ 55555
แล้วก็พาไปหาพระ กับอาจารย์คนที่เล่า แฟนเจอแค่ครั้งเดียวแล้วก็ไม่ได้ไปเลย อันนี้ไม่ได้ถามว่าเขาเก็บมาคิดหรือทำตามไหม ก็อย่างที่พี่พูดนั่นแหละถูกแล้ว หนูนอนคุย หนูทำได้แค่นอนและดูแล ถ้ามันบ้า วิบากกรรม เดี๋ยวก็หาย แต่ถ้ามันไม่บ้าปัญหาใหญ่แน่นอน หนูก็อธิบายในสิ่งที่หนูเห็น หนูรับฟัง มาอีกที สภาวะจริง เขาอาจจะยิ่งกว่านี้หรือน้อยกว่าที่เราเห็นก็ได้ ขอบคุณมากค่ะ

 

มีอีกวิธีหนึ่ง

ให้แฟนคุณ มาตั้งกระทู้เล่าสภาวะอย่างละเอียดในนี้
เดี๋ยวก็รู้เอง ว่าหมู่ หรือ จ่า

แต่มีข้อแม้ว่า คนตั้งกระทู้ต้องเป็นคนรับฟังคำเสนอแนะ หรือสั่งสอน
ของผู้อื่นได้

ไม่อย่างนั้น กลายเป็นกาหัว แค้นฝังหุ่น
หาว่าผู้แนะนำ ไม่รู้อะไร ไม่รู้เท่าตัวเอง
ตัวเองเก่งที่สุด รู้ดีที่สุด

คุณ จขกท ลองเลื่อน ไปอ่านกระทู้เก่า ๆได้
มีเยอะ...

 

คิดว่าการเถียงกันจะมีแต่ทางโลก คนปฎิบัติธรรมรั้นพอๆกับทางโลก555555มันอาจจะตั้งกระทู้ไว้ในนี้แต่เราไม่รู้ว่าใช้นามแฝงอะไร พยายามหากระทู้ที่คล้ายคลึงอยู่

 

ขอบคุณน้าๆลุงๆ มากๆนะค่ะ ที่ให้คำปรึกษา ถึงจะไม่เข้าใจภาษาเต็มร้อย แต่ก็ให้ข้อคิดสำหรับหนู

สรุป จะไม่พาไปหาหมอ จะพาไปหาพระ แต่พระบอกว่าควรไปหาหมอก็จะพาไปหาหมอค่ะ ขอบคุณพี่คนนึงที่พิมพ์ว่า เราควรจะศึกษาธรรมเพื่อจะได้เข้าใจเค้า

ปิดกระทู้