ติดตามสถานะการณ์

เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพโพสต์ “แฉตุลาการ ตอนที่ 1 : อาคารชุดสุดหรู ของผู้น้อย?” เผยข้อมูลอาคารชุด 9 หลังในโครงการ “ป่าแหว่ง” ที่แท้สุดหรูหรา รถราคาแพงจอดเรียง ให้ระดับผู้พิพากษาพัก ไม่ใช่ผู้น้อย จี้ย้ายออก

http://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9610000070625


● อีกช่องทางติดตาม NEWS1

Line : https://line.me/R/ti/p/@news1

Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

เอเอฟพี - สถานีโทรทัศน์เอบีซีของออสเตรเลียเผย นักดำน้ำชาวออสซี่ 2 คนที่เข้าร่วมภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตทีม “หมูป่าอะคาเดมี” ออกจากถ้ำหลวงได้รับความคุ้มกันทางการทูต ไม่ต้องถูกดำเนินคดีหากงานกู้ภัยล้มเหลว พร้อมยืนยันมีการใช้ "ยาสลบ" ก่อนลำเลียงเด็กออกจากถ้ำ

http://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9610000070673


● อีกช่องทางติดตาม NEWS1

Line : https://line.me/R/ti/p/@news1

Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

"อนุพงษ์"เผย เตรียมหารือจัดงานเลี้ยงขอบคุณจนท.ทุกฝ่ายที่ร่วมภารกิจกู้ภัยถ้ำหลวงเสนอนายกฯตัดสินใจแย้มมีสถานที่ทั้งกรุงเทพฯและเชียงราย เล็ง เพิ่มหลักสูตรช่วยเหลือในถ้ำพูดเต็มปาก“ภูมิใจผู้ว่าฯณรงค์ศักดิ์”

http://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9610000070668


● อีกช่องทางติดตาม NEWS1

Line : https://line.me/R/ti/p/@news1

Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

ในรอบสี่ทศวรรษที่ผ่านมานับเป็นการเดินทางครั้งแรกของหัวหน้าเสนาธิการทหารของอิหร่านที่ไปเยือนปากีสถาน เจรจาความร่วมมือต่างๆ ทางด้านการทหารและการป้องกันระหว่างกรุงเตหะราน - อิสลามาบัด

 

ไร้มนุษยธรรม! เรือสินค้าชนเรือประมง ปล่อยลูกเรือลอยคอกลางทะเลระยอง!


เวลา 15.30 น. วันที่ 16 กค. นาย เกรียงศักดิ์ เกษมธีระสมบูรณ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 242 ม.7 ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เดินทางจากจังหวัดสมุทรปราการ มาถึง สภ.เมืองระยอง เพื่อแจ้งความ หลังรับทราบว่า เรือ เจริญกิจ 1 ประสบอุบัติเหตุ ถูกเรือสินค้าชนจมกลางทะเล เมื่อช่วง 05.30 น. ของวันนี้ โดย เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองระยอง ได้ทำการตรวจสอบบริเวณที่เรือจม พบว่าเป็นพื้นที่รับผิดชอบ ของ สภ.เพ จึงแนะนำให้เข้าแจ้งความที่ สภ.เพ


นาย เกรียงศักดิ์ เกษมธีระสมบูรณ์ กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากเรือประมง ที่เข้าช่วยลูกเรือ ทั้ง 8 ชีวิต ว่าเรือเจริญกิจ 1 ของตนเอง จมอยู่ใต้ท้องทะเล เหนือเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง ลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือปลอดภัยดีแล้ว ส่วนสาเหตุ ที่เรือจมลงเนื่องจากถูกเรือสินค้าขนาดใหญ่ชน โชคดีที่ลูกเรือได้รับการช่วยเหลือ แต่ทางด้านเรือสินค้าที่ชนเรือประมงจนทำให้เรือจม ปล่อยให้ลูกเรือต้องลอยคอ กลับไม่ยอมให้ความช่วยเหลือ ทั้งที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยมากกว่า ต้องให้เรือประมง ตามประสาประมงด้วยกันเข้าไปช่วย ส่วนมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 20 ล้านบาท

 

Folk Kamponsak Sassadee


บุคคลลึกลับที่แฝงตัวมาอย่างเงียบๆในภารกิจค้นหาปล่องถ้ำ ณ เขาหลวงนางนอน ......


เมืองลับแล คนลับแล ล้วนถูกกล่าวถึงมานานจากท่านอาจารย์ชื่อดังหลายท่านว่ามีอยู่จริงและมีคำเตือนถึงให้ควรระวังการทำอะไรบางอย่างที่ไม่สมควรในระหว่างภารกิจ


ซึ่งในภารกิจนี้เริ่มต้นด้วยทีมค้นหาหลายทีมที่ลงปฏิบัติงานในหลายพิกัดรอบภูเขา แต่ก็มักจะมีการลงพื้นที่ผิดพิกัดไปไม่น้อยเพราะมีหลายคนร่ำลือว่ามีปล่องที่ถ้ำน่าสงสัยตรงนั้นบ้างตรงนี้บ้าง และนั่นเองเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้บางทีมต้องย่างกรายไปในที่ไม่ควรจะไป


หลายวันก่อนจะจบภารกิจ มีข่าวร่ำลือกันว่ามีทีมกู้ภัยชุดนึงได้ลงสำรวจปล่องถ้ำทางทิศเหนือของภูเขานางนอน เป็นถ้ำที่มีความลึกทั้งในแนวดิ่งและแนวราบ และก็ต้องพบกับสิ่งที่ชวนขนลุกจนทำให้ต้องหนีกระเจิงรีบเก็บข้าวของกลับภูมิลำเนา


สิ่งที่เจอนั้นก็คือ มีบางอย่างหลบซ่อนอยู่ในมุมมืด ณ ที่สุดทางปลายถ้ำ เมื่อแสงไฟฉายสาดส่องไปโดนก็พลันเห็นอะไรบางอย่างที่ดูคล้ายมนุษย์กำลังยืนเกาะกลุ่มกันเงียบๆ เนื้อตัวมอมแมมเปื้อนเลือดดูคล้ายกับเพิ่งผ่านศึกสงคราม และในมือนั้น ... กำลังถือดาบ


และอีกหลายๆทีมก็ยังได้พบกับบุคคลลึกลับแผงมาในกลุ่ม เดิมทีคิดว่าคือชาวบ้านหรือพรานท้องถิ่นที่อาสามาช่วยค้นหาปล่องจึงไม่มีใครสนใจนัก แต่ยิ่งนานเข้าบางคนในทีมก็เริ่มเห็นบางอย่างผิดสังเกตุของกลุ่มบุคคลดังกล่าว คือไม่สามารถนับจำนวนที่แท้จริงได้ว่ามีกันกี่คน เพราะพวกเขาเคลื่อนไหวรวดเร็วและมีการหลบซ่อนเมื่อมีผู้พยายามจะทำการสื่อสารพูดคุย แต่เมื่อแกล้งเผลอก็จะกลับออกมาจากที่หลบซ่อนอีกครั้ง ซึ่งเมื่อออกมาก็จะมีการส่งสัญญาณแปลกๆลับๆต่อกัน


จนพลบค่ำ พวกเขาเหล่านั้นหายไปไม่มีใคนเห็น แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่าเหมือนมีใครบางกลุ่มติดตามตลอดการเดินทางกลับออกจากภูเขาลูกนั้น ทำให้หลายทีมรู้สึกหวาดกลัวจนไม่กล้าลงทำงานในพื้นที่อีก และบางทีมก็ได้พบกับก้อนหินที่เคลื่อนที่เองได้ บางก้อนนั้นกลายเป็นเหมือนสำหรับใช้เป็นประตูสำหรับเปิดปิด


และในวันสุดท้ายของภารกิจนั่นเอง ในปล่องหมายเลข 3 ขณะโรยตัวลึกลงไปกว่า 40 ม. ก็ถึงพื้นถ้ำโถงแรกที่แคบยาว เดินสำรวจไปทั่วสุดปลายโถงพบมีเพิงเล็กๆซ่อนอยู่ในนั้น สาดแสงไฟฉายตรวจสอบก็ไม่เห็นสิ่งผิดปกติใดๆ จนเกือบจะตะโกนให้พี่ชัยคู่บัดดี้ว่าเคลียร์ แต่ไม่ทันไรก็ได้ยินเสียงหินกลิ้งหล่นกุกกักที่หลังเพิงหิน พลันรู้สึกได้ว่ามันเป็นเสียงที่ไม่ธรรมดาจึงรีบเข้าไปตรวจสอบตามเสียงนั้น และก็ได้พบกับสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ .....


มันยังมีอีกช่องทางนึงซ่อนอยู่ที่หลังเพิงแห่งนั้น เป็นช่องทางเล็กๆราว 50 × 60 ซม. ซึ่งก็พอดีลำตัวสามารถลงไปตรวจสอบต่อได้ ทดสอบแรกด้วยการนอนหมอบส่องไฟตรวจสอบจนเห็นว่ามันยังมีพื้นที่ลาดไปสู่โถงใหญ่ข้างล่างลึกลงไป


จึงตะโกนเรียกพี่ชัยคู่บัดดี้ว่าเจอปล่อง ต้องการบัดดี้ข้างล่างที่ระยะ 40 ม. เชือกนั้นเหลืออยู่เพียง 10 ม.ก็โยนลงไปในปล่อง ปิดไฟฉายนั่งรอคู่บัดดี้อยู่หลายนาทีกว่าจะมาถึงพิกัด และเมื่อเซฟตี้ตัวเองกับระบบอีกครั้ง จึงทำการมุดลงสู่ช่องทางนั้น


ในช่วงระยะแรก มันคือปล่องที่ลึก 3 ม. ระยะที่สองคือทางลาดชันจนไปถึงโถงใหญ่ที่มีพื้นดินชุ่มๆ สาดไฟไปรอบทิศไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ แต่เมื่อแสงไฟไปกระทบกับพื้นถ้ำก็ต้องตกใจปนขนลุกโดยอัตโนมัต เพราะที่พื้นถ้ำนั้นพบมีร่องรอยการใช้งานบางอย่าง เป็นอะไรบางอย่างที่ไม่ปกติ ในระหว่างนั้นก็ตะโกนบอกคู่บัดดี้ว่า เจอโถงใหญ่ มีพื้นราบ เพดานสูง 2 ม. แต่ก็ไม่รายงานถึงบางสิ่งที่ไม่ปกติ


ตรงพื้นนั่น เหมือนมีใครหรืออะไรบางอย่างใช้งานเป็นประจำจนเกิดเป็นร่องรอยที่ไม่เป็นธรรมชาติทั่วไป รอยมันคล้ายกับใครใช้เดินวนหรือนั่งล้อมวงกัน พยายามสังเกตุเส้นทางสัญจรว่าถ้าหากมีใครลงมาถคงที่นี่ได้ ก็พบว่าไม่มีร่องรอยใดๆ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือมนุษย์หรือสัตว์ ซึ่งก่อนจะลงในถ้ำต่างๆนั้นก็จะตรวจสอบทุกคนั้งว่ามีร่องรอยผู้ใดบ้าง เช่นรอยเท้าหรือรอยมือ เพื่อความปลอดภัย


แต่ในครั้งนี้ช่างน่ากลัวเพราะมันแตกต่างและไร้ที่มา ในวูบแรกจึงนึกถึงคนลับแล เมืองลับแล นึกถึงก้อนหินที่เคลื่อนที่ได้เอง นึกถึงช่องทางบนพื้นที่เราคลาดสายตาไปในครั้งแรก หรือนี่คือประตูสู่บางสถานที่ เป็นสถานที่ที่ต้องห้ามหรือมีการต้อนรับนั้นก็เกินจะคาดเดาได้ และเมื่อส่องไฟตรวจสอบก่อนหินสีขาวาดูคล้ายก้อนแร่ยึดแน่นอยู่กับผนังถ้ำนั่นเอง ก็ได้พบกับมวละเอียดของทองคำปะปนอยู่ในนั้น ในภาพสุดท้าย


ก่อนจะหันไปเห็นช่องทางแคบๆที่สุดปลายถ้ำ เมื่อครวจสอบพบว่ามันยังสามารถไปต่อได้ แต่เมื่อยกนาฬิกาขึ้นมาดูพบว่าเป็นช่วงเวลา 6.00 น. ตามกติกาแล้ว ควรรีบเดินทางออกจากภูเขา เพราะในช่วงเวลาพลบค่ำนั้น ก็จะมีบางสิ่งบางอย่างออกมาเพ่นพ่านทั้งในป่าและในถ้ำ ...... ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ ญิน


ตอนต่อไป ญินและคนลับแล ......

 

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน


คดีทุจริตคลองด่าน คนร่วมโกงต้องถูกลงโทษด้วย


- - ขอบคุณข้อมูลจาก ผู้จัดการออนไลน์ - -


วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลแขวงดุสิต อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา คดีทุจริตโครงการสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน จังหวัดสมุทรปราการ


ศาลฎีกากลับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ยกฟ้องจำเลยทุกคน โดยเห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่ให้ลงโทษจำเลยทั้งจำและปรับ


คดีนี้เป็นความผิดเรื่องการฉ้อโกงการซื้อที่ดิน ที่เป็นที่ตั้งโครงการ และฉ้อโกง สัญญาจ้างก่อสร้างโครงการกรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม เป็นโจทก์ฟ้องนักการเมือง บริษัทเอกชน และกรรมการบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกให้สร้างโครงการเมื่อ พ.ศ. 2540


อ่านข่าวต่อที่ : http://bit.ly/2KVFlgO


#ร่วมเป็นพลเมืองตื่นรู้สู้โกง #ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน


Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt

Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw

Follow IG: http://bit.ly/2yeu3hy

WebSite : http://www.anticorruption.in.th

 

อีลอน มัสก์ ตอบโต้นักดำน้ำอังกฤษอย่างร้อนแรงว่า "พวกใคร่เด็ก" หลังถูกวิจารณ์ว่าอุปกรณ์กู้ภัยของเขาใช้งานจริงไม่ได้ เป็นเพียงแค่การประชาสัมพันธ์บริษัทตัวเองเท่านั้น


#เหมียวฟิ้น

 

ไม่ว่าชนชาติใด ศาสนาใด ก็มีการเอ่ยถึงบุคคลหนึ่งที่จะกลับมาในยามโลกดข้าสู่ยุคเข็ญ ที่ลำพังมนุษย์ไม่สามารถปกป้องตนเองได้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้อย่างแน่ชัดว่าเขาเป็นใคร ศาสนาของเขาคือศาสนาใด? เพราะแต่ละศาสนาก็อ้างถึงศาสนาของตน


มะฮ์ดะวียะฮ์-ผู้ที่ถูกรอคอย

ความพยายามของไซออนิสต์ที่กำจัดผู้ช่วยให้รอดในยุคสุดท้าย


เขียนโดย Sahibzaman Taem

หมวดหลัก: บทความศาสนา

เผยแพร่เมื่อ: 16 กรกฎาคม 2561




หน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับของสหรัฐอเมริกาและไซออนิสต์ได้ทำการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับรัฐบาลและอำนาจการปกครองของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) และสัญญาณต่างๆ ของการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่าน

ในขณะนี้ในหน่วยงานต่างๆ ด้านข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับ อย่างเช่น ซีไอเอ.และมอสสาด ได้มีการศึกษาวิจัยอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับเรื่องของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) หรือผู้ช่วยให้รอด และพวกเขาได้ทำการตรวจสอบคุณลักษณะเฉพาะทั้งหมดของท่านอิมาม (อ.ญ.) และบรรดาผู้ช่วยเหลือท่าน รวมทั้งสัญญาณต่างๆ ของการปรากฏตัว (ซุฮูร) สถานที่ที่ท่านจะปรากฏตัว (ซุฮูร) และอื่นๆ โดยอาศัยคำพยากรณ์ต่างๆ ของศาสนายูดายและริวายะฮ์ (คำรายงาน) ต่างๆ ของท่านศาสดามุฮัมมัด (ซ็อลฯ) และบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ (อ.) ของท่าน

นอกจากนี้ยังได้คันคว้าในหนังสือต่างๆ ของนักวิชาการศาสนา (อุละมาอ์) ทั้งจากฝ่ายชีอะฮ์และซุนนี ความพยายามของพวกเขาในการค้นคว้าและการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ดำเนินไปอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะในอิสราเอลมีมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับความเชื่อตามแนวทางของชีอะฮ์โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

การเตรียมพร้อมของพวกเขาได้ดำเนินไปถึงขั้นที่กองทัพของสหรัฐอเมริกาได้ประกาศอย่างชัดเจนในช่วงเริ่มต้นของการบุกยึดประเทศอิรักว่า เป้าหมายในการยึดครองอิรักของพวกเขาคือการติดตามและการค้นหาตัวท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) และในการสอบสวนต่างๆ ที่กระทำกับบรรดานักวิชาการศาสนา (อุละมาอ์) ชาวอิรักที่ถูกจับกุมตัวนับจากช่วงเริ่มต้นที่สหรัฐอเมริกาได้บุกเข้าไปในประเทศนี้นั้น พวกเขาได้ขอให้บรรดานักวิชาการ (อุละมาอ์) เหล่านี้เปิดเผยสถานะของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) พร้อมทั้งได้มีการติดสินบนเงินรางวัลต่างๆ มากมาย

พวกเขารับรู้ว่าอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) จะปรากฏตัว (ซุฮูร) ในประเทศซาอุดิอาระเบียเคียงข้างอาคารกะอ์บะฮ์ในมหานครมักกะฮ์ ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงได้จัดกำลังพลซุ่มยิง (สไนเปอร์) จำนวนมากไว้ในบริเวณโดยรอบของมัสยิดิลฮะรอมและอาคาร "อับร๊อจ อัลบัยต์" (Abraj Al Bait) (1) ตลอด 24 ชั่วโมง และเตรียมพร้อมสำหรับการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.) เพื่อว่าทันทีที่พบเห็นท่านพวกเขาจะได้ลอบสังหารท่าน

สามสัญญาณสำคัญ คือ "ซัยยิดคุราซานี" , "ซัยยิดยะมานี" และ "ซุฟยานี" คือส่วนหนึ่งจากประเด็นที่หน่วยข่าวกรองและหน่วยสืบราชการลับเหล่านี้ให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการศึกษาค้นคว้าและวิจัย ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งจาก "สัญญาณที่จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน" ในเวลาอันใกล้ก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)

การปฏิบัติการต่างๆ ทางทหารล่าสุดที่สหรัฐอเมริกาและซาอุดิอาระเบียกำลังทำการปราบปรามชาวชีอะฮ์ในประเทศเยเมนนั้น ก็เกิดขึ้นด้วยการคาดการณ์ที่ว่า "ซัยยิดยะมานี" อยู่ในท่ามกลางประชาชนชาวชีอะฮ์ผู้ยืนหยัดทำการปฏิวัติในประเทศเยเมน การคาดการณ์ดังกล่าวนี้เองจึงนำไปสู่การสังหารหมู่ต่างๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศเยเมน

ความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดระหว่างมอสสาด ซีไอเอและหน่วยข่าวกรองต่างๆ ของราชวงศ์ซะอูด ในการจับกุมชาวชีอะฮ์และบรรดานักวิชาการ (อุละมาอ์) บางส่วนในซาอุดิอาระเบีย การสอบสวนพวกเขาเพื่อให้ได้เบาะแสเกี่ยวกับสถานที่ซ่อนตัวของอิมามมะฮ์ดี (อ.) ในพื้นที่โดยรอบนครมักกะฮ์และนครมะดีนะฮ์ก็เป็นเครื่องสนับสนุนต่อประเด็นนี้ และบนพื้นฐานการค้นคว้าวิจัยของหน่วยงานมอสสาด พวกเขาเชื่อว่า "ซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮ์" เลขาธิการฮิซบุลลอฮ์แห่งเลบานอน ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศเยเมน นั่นก็คือ "ซัยยิดยะมานี" และท่าน “ซัยยิดอะลี คอเมเนอี" ก็เช่นกัน ซึ่งได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กอยู่ในเมืองมัชฮัด ก็คือ "ซัยยิดคุราซานี" และบุคคลทั้งสองนี้ (ซัยยิดยะมานีและซัยยิดคุราซานี) คือผู้ที่จะยืนหยัดขึ้นต่อสู้พร้อมด้วยกองทัพของตนในช่วงก่อนการปรากฏตัว (ซุฮูร) ของท่านอิมามมะฮ์ดี (อ.ญ.)


(1) อาคาร "อับร๊อจ อัลบัยต์" (Abraj Al Bait) : คือโรงแรมสูง 601 เมตร และเป็นหอคอย (ทาวเวอร์) ที่สูงที่สุดในซาอุดิอาระเบีย ตั้งอยู่ใกล้กับมัสยิดิลฮะรอม ซึ่งถือเป็นอาคารที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาคารนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำให้อาคารกะอ์บะฮ์ (บ้านของพระผู้เป็นเจ้า) ถูกบดบังด้วยร่มเงาของอาคารนี้ ผู้ก่อสร้างโรงแรมนี้คือ "บริษัทบินลาดิน อัซซะอูดียะฮ์" (Saudi BIn Ladin Group) (เป็นของครอบครัวของอุซามะฮ์ บินลาดิน อดีตผู้นำอัลกออิดะฮ์) งานด้านสถาปัตยกรรมดำเนินงานโดยบริษัท "Dar Al-Handasah" และงานด้านการออกแบบกระทำโดย "นอร์แมน ฟอสเตอร์" (Sir Norman Foster) ชาวอังกฤษ ผู้สร้างอนุสาวรียที่เป็นรูปทรงเสาโอเบลิสก์ (Obelisk) ในทั่วโลกมากกว่า 200 แห่ง เสาโอเบลิสก์นี้ถูกใช้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของพวกฟรีเมสันและลัทธิบูชาซาตาน


ที่มา : yjc.ir

แปลเรียบเรียง : เชคมุฮัมมัดนาอีม ประดับญาติ


http://www.sahibzaman.net/index.php/religious-article/religious-mahdi/125-mahdi-the-waiting-19

 

เฮติ - นายกรัฐมนตรีแจ็ค กีย์ ลาฟองแต็ง ลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางการก่อการจลาจลจากเหตุขึ้นราคาน้ำมันตามแผนข้อตกลงที่ได้ทำไว้กับ IMF ล่าสุดประธานาธิบดีเฮติชี้ กำลังอยู่ระหว่างสรรหาผู้นำรัฐบาลคนใหม่

 

รองนายกฯ ชี้หลังชนะคดีถูกฉ้อโกงสัญญาโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านในชั้นศาลฎีกา กรมควบคุมมลพิษสามารถฟ้องแพ่งต่อได้

 

#มอร์มูฟเป็นข่าว เฮ่อให้กับประเทศไทย!! หลังจากทำพิษณุโลกลุกเป็นไฟจากกระแสการคัดค้านหนักมากเรื่องการสร้างพระตำหนัก 'สมเด็จพระนเรศวรมหาราช' บดบังศาลพระองค์ดำ-พระราชวังจันทน์ ล่าสุด อธิบดีกรมศิลป์ฯ-แม่ทัพ 3-ผู้ว่าฯเมืองสองแคว เห็นร่วมให้รื้อ-ย้าย-ทำใหม่เป็นรูปเกือกม้า ล้อมศาลเก่าแทน #งงในงง เมื่อ 3 ผู้นำหารือว่า #งบประมาณค่ารื้อย้ายอยู่ระหว่างดำเนินการจัดหางบประมาณจากกรมศิลป์ฯและกองทัพภาคที่3ต่อไป


Source : https://mgronline.com/local/detail/9610000070133


โดยแหล่งข่าวระดับสูงเปิดเผยว่า จากการหารือร่วมกันระหว่างแม่ทัพภาคที่ 3, ผู้ว่าฯพิษณุโลก และอธิบดีกรมศิลปากร ได้ข้อสรุปแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น 3 แนวทางคือ 1) รื้อ ทุบทิ้ง 2) รื้อ ย้าย วางไว้เป็นรูปเกือกม้า รอบศาลเดิม 3) เลื่อน เคลื่อนย้ายของเดิมไปไว้หลังศาลสมเด็จพระนเรศวร แต่เห็นว่าแนวทางการรื้อ ย้ายสิ่งปลูกสร้างใหม่ #นำไปไว้ด้านข้างและหลังศาลสมเด็จในปัจจุบันนี้ลักษณะเป็นรูปเกือกม้าเหมาะสมที่สุด ซึ่งงบประมาณจำนวน 43 ล้านบาทจากกลุ่มจังหวัดที่ก่อนหน้านี้จะนำมาใช้สำหรับการตบแต่งภายในนั้น แม้ได้คู่สัญญาบริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลงานไปแล้ว ยังไม่ได้เบิกจ่าย และได้ข้อยุติแล้วว่า #สามารถเจรจาต่อรองบอกเลิกสัญญาเป็นที่เรียบร้อยโดยไม่ได้จ่ายค่าเสียเวลา แต่ยังต้องคงงบไว้ ส่วนงบประมาณค่ารื้อ-ย้ายนั้น อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหางบประมาณจากกรมศิลปากร และกองทัพภาคที่ 3 ต่อไป


โดยหลังจากนี้จะมีการออกแบบใหม่ คาดว่าต้องใช้เวลา เพราะต้องสอบถามความคิดเห็นของประชาชนใหม่ ลักษณะประชาพิจารณ์อีกครั้งว่าต้องการรูปแบบใด คาดว่าใช้เวลาเป็นปี


สำหรับตำหนักใหม่ที่เห็นอยู่ในขณะนี้ได้วางแผนก่อสร้างตรงแนวฉากตามแนวกำแพงวังเดิม พร้อมมีถนนเส้นใหม่ แนวประตูวังด้านหน้า ในยุคสมัยอยุธยา แต่บังเอิญยังสร้างไม่เสร็จ ส่งผลให้เกิดขัดหูขัดตา กลายเป็นสิ่งแปลกปลอม #ทำให้เกิดทัศนอุจาดต่อคนพิษณุโลกที่เดินทางไปกราบพระบรมราชานุสาวรีย์ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก จนเกิดกระแสต่อต้านขึ้น กระทั่งอธิบดีกรมศิลปกร แม่ทัพภาคที่ 3 และผู้ว่าฯพิษณุโลกร่วมเดินหน้าแก้ปัญหาให้จบโดยเร็วก่อนสิ้นปีงบประมาณ 61 ด้วยการเร่งถอนสัญญาให้เรียบร้อย ปรับปรุงรูปแบบพระตำหนักแห่งใหม่ภายในกรอบวงกลม โดยให้วิศวกรภูมิสถาปัตย์ กรมศิลปากร ร่วมกับทหารกองทัพภาคที่ 3 รื้อหลังคา กะเทาะปูน-ตัดโครงเหล็กออก ลดความสูง นำไปปรับตามแบบโครงสร้างใหม่ ลักษณะรูปเกือบม้าล้อมรอบศาลสมเด็จพระนเรศวรต่อไป


อนึ่ง ก่อนหน้านี้มีการเคลื่อนไหวในโลกโซเซียลฯของจังหวัดพิษณุโลกอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะศิษย์เก่าโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคม เกี่ยวกับการสร้างพระตำหนักแห่งใหม่ด้านหน้าศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชหลังเก่าภายในพระราชวังจันทน์ #ส่วนใหญ่จะออกมาเรียกร้องว่าอาคารหลังใหม่บดบังศาลเก่าขอให้ยุติการก่อสร้างและรื้อถอนออกไป โดยให้เหตุผลว่าอาคารหลังใหม่สร้างทับแนวเขตพระราชฐานเดิม ประการสำคัญศาลหลังเก่ามีคุณค่าทางจิตใจและประวัติศาสตร์ เนื่องจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทรงเปิดศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2505


ทั้งนี้ กลุ่ม #เรารักศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบเนื่องจากมีอดีตข้าราชการหลายสาขาอาชีพจำนวนมาก โดยสืบค้นหาข้อมูลเชิงลึกหลายด้านออกมาเผยแพร่ รวมทั้งการผลิตโปสเตอร์ สติกเกอร์ ติดอาคาร-บ้านพัก-ร้านค้า มีข้อความว่า 'ชาวจังหวัดพิษณุโลก อนุรักษ์ศาลสมเด็จพระเนเรศวรมหาราชหลังเดิม' อีกทั้งมีแนวทางรวมตัวอย่างสันติเพื่อดำเนินกิจกรรมบวงสรวงสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และแสดงความคิดเห็นอย่างต่อเนื่อง ทั้งภาพและข้อความที่มาโจมตีกรมศิลปากร ตลอดจนการชี้แจงวัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหว.

-------------------------------------------

อ่านข่าวเพิ่มเติม : https://northernnewsthailand.com/news/17749/ // https://northernnewsthailand.com/news/19547/ // https://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9610000049769

 

ละเอียดยิบ! นักดำน้ำอังกฤษ เผยขั้นตอนช่วย 13 ชีวิตไม่เหมือนในรายงานข่าว ชี้ประกบรายคน #มติชนต่างประเทศ #มติชนออนไลน์ #ถ้ำหลวง #หมูป่าอะคาเดมี

 

เรื่องข้อบกพร่องการเบิกจ่ายจัดงานวันเข้าพรรษา

โดย กองตรวจสอบระบบการเงินบัญชีท้องถิ่น

.../ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อบจ. เทศบาล อบต.) ควรต้องศึกษาไว้ประกอบการเตรียมจัดโครงการ/กิจกรรม

http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,58994

 

Jeerachart Jongsomchai


... “การรั่วไหลของแก๊สพิษ จากโรงงานผลิตยาฆ่าแมลงของอเมริกา ฆ่าคนหลายพัน และการสังหารผู้นำอินเดีย ในปี 1984”


... “หายนะที่เมืองโภปาล” เกิดขึ้นเนื่องจากที่สรุปว่าเป็น “อุบัติเหตุ” ซึ่งมีการวิเคราะห์ว่าอาจจะเพราะการละเลยปฏิบัติหน้าที่ในมุมมองของทางรัฐบาลอินเดีย หรือเพราะอุปกรณ์เสื่อมคุณภาพ ที่โรงงานผลิตยาฆ่าแมลงของบริษัทยูเนียนคาร์ไบด์ ของ “อเมริกา” ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโภปาล เมืองหลวงของรัฐมัธยประเทศ ประเทศ “อินเดีย” เมื่อกลางดึกของวันที่ 2 ธันวาคม 1984 ทำให้ก๊าซเมทิลไอโซไซยาไนด์ หรือ MIC สารพิษที่เคยใช้ในสงครามโลกครั้งที่ 1 และสารพิษอื่น ๆ รั่วไหลออกจากโรงงานจากนั้นสารพิษก็แพร่ในอากาศกระจายปกคลุมไปทั่วเมือง และส่งผลกระทบถึงประชาชนมากกว่า 500,000 คน


... หน่วยงานท้องถิ่นของรัฐมัธยประเทศแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตทันที 2,259 คน ต่อมาจึงสรุปยอดผู้เสียชีวิตว่า มี 3,787 คน ,ในขณะที่หน่วยงานอื่นของรัฐบาลอินเดียว่า มีผู้เสียชีวิตประมาณ 15,000 คน โดย 8,000 คนเสียชีวิตในสัปดาห์แรกหลังเกิดเหตุ และทำให้มีผู้พิการถาวรจำนวน 40,000 คน, ในปี 1989 รัฐบาลอินเดียได้ฟ้องร้องกับบริษัทในจำรวน 470 ล้านดอลล่าร์ และ เมื่อเดือนมิถุนายน 2010 หลังเกิดเหตุการณ์เป็นเวลา 24 ปี หรือ ปี 2008 ศาลอินเดียได้ตัดสินว่า อดีตพนักงานของยูเนียนคาร์ไบด์ 7 คน รวมทั้งนายวอร์เรน แอนเดอร์สัน อดีตประธานบริษัทในขณะที่เกิดเรื่องปี 1984 นั้น มีความผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และลงโทษจำคุกคนละ 2 ปี พร้อมปรับเงินอีกคนละประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นบทลงโทษขั้นสูงสุดตามกฎหมายอินเดีย ส่วนอดีตพนักงานอีก 8 คนที่ถูกกล่าวหาด้วย , แต่เขาได้ปฏิเสธเกี่ยวกับข้อกล่าวหาเรื่อง “การฆาตกรรม” และยังหลบหนีจากศาลอินเดีย และรัฐบาลอเมริกาไม่ยอมส่งตัวเขาไปให้รัฐบาลอินเดีย ( แต่อเมริกาบีบไทยให้ส่งตัวพ่อค้าอาวุธรัสเซียไปให้เขาแต่โดยดี ) จนเขาเสียชีวิตเองในวันที่ 29 กันยายน 2014 ในรัฐฟลอริด้า,


... จริงๆแล้วเรื่องราวของยูเนี่ยนคาร์ไบด์นั้น มีมานานแล้ว เพราะว่าพวกเขาได้ทิ้งกากสารเคมีไปที่พื้นที่ข้างเคียงทำให้เกิดเป็นพิษ และมีการทำให้บ่อน้ำธรรมชาเสียหายต้องถูกรกร้างใช้ไม่ได้


... นอกจากการรั่วไหลครั้งนั้นจะคร่าชีวิตผู้คนมากมายหลายพัน พิการหลายหมื่นแล้ว ยังได้ฆ่าสัตว์เลี้ยงมากมาย เช่น วัว และทำลายแหล่งน้ำใต้ดินของอินเดียที่ส่งผลต่อการเกษตรกรรมของอินเดียด้วย ( คล้ายการทิ้งระเบิดที่ฮิโรชิม่า และนางาซากิ ที่ทำให้กลุ่มอีลิทนายทุนใหญ่ของญี่ปุ่นต้องพึ่งพาการเงิน กู้ยืมวอลล์สตรีทแบบที่เยอรมันเป็น และลากยาวตกเป็นเบี้ยล่างของอเมริกาจนถึงปัจจุบัน )


... Warren Anderson, CEO at the time of the disaster, and Carbide refused to answer to homicide charges and remained fugitives from India's courts. The U.S. denied several extradition requests.


... “ยูเนียนคาร์ไลด์” นั้นเป็นบริษัทลูกของ Dow Chemical Company ที่เป็นผู้ผลิตอาวุธเคมีในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1และสงครามเวียตนาม ของ “อเมริกา” ที่ก่อตั้งในปี 1917 , ที่ในอินเดีย ตอนนั้นเพื่อจะผลิตยาฆ่าแมลง โดยยูเนียนคาร์ไลด์ จากอเมริกา ถือหุ้น 50.9% และ นักลงทุนอินเดียเอง อีก 49.1% ตั้งอยู่ในเมือง Bhopal ของอินเดีย


... อินทิรา ปริยทรศินี คานธี เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีอินเดียที่ดำรงตำแหน่งถึง 3 วาระติดต่อกัน และเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประเทศอินเดีย เป็นบุตรสาวของชวาหระลาล เนห์รู นายกรัฐมนตรีคนแรกของอินเดีย


... อินทิรา คานธีถึงแก่อสัญกรรมเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1984 ( ปีเดียวกันกับการรั่วไหลของสานเคมีจากโรงงานผลิตยาฆ่าแมลงยูเนี่ยนคาร์ไบด์ ของอเมริกา ) ที่ถูกลอบสังหารโดยองครักษ์ชาวซิกข์สองคนของเธอเอง ที่หลังจากสังหารเธอเขาทั้งสองก็ถูกผู้รักษาความปลอดภัยสังหาร หนึ่งในนั้นรอดได้รักษาได้ แต่ก็ถูกโทษประหารชีวิตในที่สุด จึงสาวถึงคนระดับสูงได้ แต่ก็ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงกว่า 30 นัด ที่บริเวณสวนในทำเนียบนายกรัฐมนตรี และถึงแก่อสัญกรรมระหว่างถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล สาเหตุเนื่องจากเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างชาวฮินดูกับชาวซิกข์


... She was assassinated by her own bodyguards and Sikh nationalists in 1984. The assassins, Beant Singh and Satwant Singh, were both shot by other security guards. Satwant Singh recovered from his injuries and was executed after being convicted of murder.


... หลังจากสงครามเย็นผ่านไป นักข่าวบางสำนักได้เปิดเผยข้อมูลออกมาบอกและว่า “อเมริกา” นั้นอยู่เบื้องหลังในสงครามในแคว้นปัญจาบ ระหว่างชาวฮินดูกับชาวซิกข์ เพราะว่าพวกเขาต้องการก่อกวนอินเดีย ที่ในภายหลังเปลี่ยนจากประเทศที่วางตัวเป็นกลางใน “สงครามเย็น” แล้วมาโอนเอียงไปหา “โซเวียตรัสเซีย” ที่แม้แต่การลอบสังหารนางอินทิรา คานธี ก็ถูกมองว่าเกี่ยวข้องกับสงครามเย็นในบริบทตอนปี 1984 นั้นด้วย


... Union Carbide India Limited, owned by Union Carbide (50.9%) and Indian investors (49.1%), operated a pesticide plant in the Indian city of Bhopal.[4] Around midnight on 3 December 1984, methyl isocyanate (MIC) gas was accidentally released from the plant, exposing more than 500,000 people to MIC and other chemicals. The government of Madhya Pradesh confirmed a total of 3,787 deaths related to the gas release. It left an estimated 40,000 individuals permanently disabled, maimed, or suffering from serious illness, making it one of the world's worst industrial disasters. Union Carbide was sued by the Government of India and agreed to an out-of-court settlement of US$470 million in 1989. The plant site has not yet been cleaned up. Warren Anderson, CEO at the time of the disaster, and Carbide refused to answer to homicide charges and remained fugitives from India's courts. The U.S. denied several extradition requests. Anderson died on 29 September 2014 in Florida. Seven Indian employees of Union Carbide were convicted of criminal negligence in 2010 and fined $2,000 each. In 1982, Carbide's auditors warned of a possible 'runaway reaction'. Carbide didn't supply an antidote, maintaining that MIC was "nothing more than a potent tear gas". Carbide insisted the accident was an act of sabotage by a rogue worker.

.

.

.

https://en.wikipedia.org/wiki/Bhopal_disaster

https://en.wikipedia.org/wiki/Indira_Gandhi

https://th.wikipedia.org/wiki/ภัยพิบัติโภปาล

https://th.wikipedia.org/wiki/อินทิรา_คานธี

https://en.wikipedia.org/wiki/Union_Carbide

 

'สหรัฐ-เกาหลีเหนือ'เห็นพ้อง เดินหน้าค้นหากระดูกทหารอีก5พันนายส่งกลับประเทศ

 

“สวดถอน” # ถ้ำหลวง

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นิมนต์คณะพระสงฆ์ทั้งหมดจะยังบริเวณปากโพรงถ้ำเพื่อสวดมนต์ตามพิธีกรรมสวดถอนโดยเริ่มจากการวางกระทงสะตวงทำด้วยกาบกล้วย ใส่ข้าว ขนมหวาน ดอกไม้ ฯลฯ วางไว้ 4 ทิศ มีกระทงที่ 5 วางไว้ตรงกลาง ภายในกระทงมีรูปปั้นคนจากดินยืนจากนั้นได้จุดเทียนสวดมนต์ที่ละกระทงและใช้น้ำมนต์ดับเทียน ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีโดยมีญาติของผู้ที่ประสบภัยจำนวน 26 คน ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในพิธีบริเวณปากโพรงของถ้ำด้วย ก่อนออกจากปากถ้ำในช่วงท้ายพระสงฆ์ได้สวดปิดปากถ้ำเป็นอันเสร็จพิธีหน้าถ้ำ จากนั้นที่บริเวณปากทางเข้าถ้ำพระรัตนมุณี รองเจ้าคณะ จ.เชียงราย และพระพุทธวงศ์วิวัฒน์ นำคณะสงฆ์ให้ศีลให้พรและผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย นำฆารวาสถวายทานแด่พระสงฆ์เป็นอันเสร็จพิธี

พระพุทธวงศ์วิวัฒน์ กล่าวว่าพิธีสวดถอนดังกล่าวตามปกติจะจัดขึ้นหลังเที่ยงวันไปแล้วโดยใช้เวลาตั้งแต่ประมาณ 15.00 น.ไปจนถึงก่อนช่วงพระอาทิตย์จะตกดิน โดยความเชื่อคือเพื่อกำจัดสิ่งที่เป็นเสนียดจัญไรให้หมดสิ้นไปจากสถานที่ดังกล่าว

 

สหรัฐอเมริกา - ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวโจมตีสหภาพยุโรป เป็น “ศัตรูในทางการค้า” ไม่ต่างจากจีนและรัสเซีย ในบทสัมภาษณ์ซึ่งถูกนำมาออกอากาศเพียง 1 วันก่อนที่การประชุมซัมมิตระหว่างผู้นำสหรัฐฯ กับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย จะเปิดฉากขึ้นที่กรุงเฮลซิงกิของฟินแลนด์

 

ผู้ว่าฯ นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยตุง พร้อมคณะสงฆ์ 18 อำเภอทั่วเชียงราย รวม 200 รูป ตั้งสะตวงทำพิธีสวดถอนส่งวิญญาณ “น.ต.สมาน (จ่าแซม)” พร้อมสวดปิดถ้ำหลวง พบคนปล่อยหมูป่าแก้บน 13 ชีวิตนักเตะ-โค้ชปลอดภัย

http://news1live.com/detail.aspx?NewsID=9610000070860


● อีกช่องทางติดตาม NEWS1

Line : https://line.me/R/ti/p/@news1

Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

ฮีโร่ Milky Paasi นักดำนํ้าชาวฟินแลนด์ เสียสละวันฉลองแต่งงาน 8 ปี บินข้ามทวีปเพื่อมาทำภารกิจที่เป็นไม่ได้ถํ้าหลวง. ครับ