นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (นิมิตรอัศจรรย์...รุ่นครอบจักรวาล)

ยังครับ ที่เล่าไป เพื่อแสดงที่มาของวิชา ตำราที่สำคัญ

 

ที่เล่ามา คือที่มา แหล่งกำเนิดของตำราวิชาบางอย่าง ซึ่ง หากเป็นสายพุทธคุณ พูดง่าย ๆ สายพระ ก็จะเป็นวิชาเกี่ยวกับหลักพุทธ ในคาถาอาคม หรืออักขระยันต์ มักเป็นคำสอนในพุทธศาสนา

แต่หากแหล่งที่มา เป็น ฆราวาส หรือ ฤาษี แน่นอน ฆราวาส ฤาษีย่อมมีกิเลส ความโกรธอยู่ วิชาคาถา อักขระ การสร้างเครื่องรางย่อมมีด้าน ออก เทา ๆ หรือ ดำ ๆ ดังเช่นในด้านร้ายก็ได้ เป็นต้น....

 

ในช่วงเวลา ไล่ ๆ กัน ครูบาท่านที่กล่าวถึงมา ก็ชอบศึกษาเล่าเรียนวิชาต่าง ๆ ดังที่ว่า มีอาจารย์ดีที่ไหน ก็จะไปเรียนทันที ซึ่งก็แปลกตรง ท่านไปเรียนที่ใด ครูบาอาจารย์จะรัก เรียนจนได้ตำราสำคัญ ๆ มาเก็บไว้มาก ท่านที่ปรึกษาบอก อาจเพราะ ครูบาท่านนี้ เกิดวันอังคารด้วย ซึ่งเป็นวันที่ เหมาะแก่การเรียน ไสยศาสตร์ สรรพวิชาต่าง ๆ

ในช่วงเวลาเหล่านั้น มี เสือหรือโจร ท่านหนึ่ง เก่งกล้ามากในด้านร้าย ๆ เป็นโจรที่ลักขโมยวัวควาย และออกปล้น หลายที่ เล่ากันว่า เสือท่านนี้เก่งขนาด ไปปล้น พวกชาวเขา กะเหรี่ยงได้ ซึ่ง ชาวเขาพวกนี้จะเล่นคาถาอาคม มนต์ดำกันมาก และมีหมอผีประจำ หมู่บ้าน หมอผีพวกนี้ เล่ากันว่า จะเป็นหมอผีนั่งห้าง (พักอยู่บนต้นไม้) ท่านที่ปรึกษาเล่าว่าพวกนี้ตามรอยเก่ง หากไปลักขโมยของเขา จะใช้ผี ตามรอย

เสือเก่าที่เล่าถึงเก่ง จนจับหมอผีพวกนี้ มัดบนห้าง แล้ว เก็บ.... แล้วลักขโมยวัวควาย มาได้ ไม่มีใครปราบได้

จวบจนภายหลัง ได้เลิกอาชีพเป็นโจร เป็นหมอยารักษาชาวบ้านจวบจนสิ้นอายุไข

ครูบาท่านสมัยนั้น ก็ได้ไปร่ำเรียนวิชากับเสือเก่าท่านนี้ด้วย และมีการแลกเปลี่ยนวิชากันหลายอย่าง โดยปกติ วิชาอาคม จะสอนให้เฉพาะคนในครอบครัว หรือลูกหลาน จะไม่ค่อยสอนบุคคลภายนอก แม้สอน ก็จะอั้นไว้ (ปกปิดบางส่วน) แต่ครูบาท่านนี้ก็ได้ร่ำเรียนมาหลายอย่าง

ในปัจจุบัน วิชาของเสือเก่าท่านนั้นก็ได้สืบทอดในลูกหลานมา ยังมีผู้สืบทอดอยู่ในปัจจุบัน.....

ผู้สืบทอดในยุคปัจจุบัน ก็เก่งขนาดสะเดาะโซ่ตรวจได้ สำเร็จด้านคงกระพัน มหาอุด และ ทำของช่วยลูกศิษย์จนหลุดรอดคดี รอดคุกมาได้หมด

 

จริง ๆ ในสายวิชาครูบาท่านได้ร่ำเรียนมามากมาย แต่ที่เล่ามาจะกล่าวถึงแค่ 2 สายคือ

1.ได้จากฤาษี สมัยเป็นเณร

2.ได้จากฆราวาสเสือเก่าตามที่เล่า ซึ่ง เสือเก่าที่กล่าวถึง คือ ทวดของท่านที่ปรึกษา

จากแนวคิดที่ว่า สายวิชาจาก ฆราวาส และฤาษีจะแรง

โดยหลักการผู้รู้ได้สอนว่าการใช้เครื่องรางเฉพาะทาง โดยเฉพาะทางมหาอำนาจ สะกดผู้อื่น หากผู้อื่นมีของดีป้องกัน ก็ย่อมจะไปข่มเขาได้ยาก

ยกตัวอย่าง ง่าย ๆ ใช้ของด้านเสน่ห์ หากอีกฝ่ายมีของดีป้องกัน หรือเทวดาประจำตัวรักษาแรง ๆ ก็จะใช้ไม่ได้ผล

แต่ที่เราต้องการคือด้านมหาอำนาจ เพิ่มเดชะบารมี แก้วิชาผู้อื่นนี่เอง จึงต้องศึกษากันต่อไป....

 

รออ่านต่อ.....

 

วันนี้ ท่านที่ปรึกษาท่านได้แจ้ง มีผู้ตามรอยโทรไปขอตะกรุดที่กำลังสร้างจากท่าน ซึ่งท่านได้ปฏิเสธไปแล้ว แม้ให้ราคาที่สูงกว่าที่เปิดจองภายในก็ตาม

ด้วยเหตุที่ไม่รู้จักกัน ไม่รู้ว่าเป็นใคร และท่านได้ตอบไปแล้วไม่ได้หวังเงินทอง

ที่ผมมาเกริ่น เผยแพร่ที่มา สาเหตุ ก็เพื่อบันทึกเป็นวิชาการ และเป็นความทรงจำ ไว้วันข้างหน้าด้วย ท่านที่เคยบูชาของไปแล้วคงทราบ ว่าดีจริงหรือไม่ดีจริง และผมยังไม่ได้บอกเลยว่า สร้างอะไรแบบไหน ใครคือผู้สร้าง แต่มีผู้ตามรอยได้แล้ว จึงพอเดาได้ว่าผู้ใด

ตะกรุดชุดนี้ท่านฝากมาแจ้งว่า หมดไม่มีให้แล้ว ให้เฉพาะที่จองกันภายใน

คำว่าจองภายในคือ.... ให้เฉพาะบุคคลที่ไว้ใจได้ และเคยร่วมทำบุญกันมาเท่านั้น เพราะชุดนี้ ตามที่ผมได้เกริ่น ไป คือ ใช้ด้านร้ายก็ได้ ด้านดีก็ได้

การประกอบอาชีพการงาน ใช้ชีวิตในปัจจุบัน ท่านที่มีธุรกิจส่วนตัว คงจะทราบดี จะให้ถือศีล 5 ใสสะอาดบริสุทธิ์ก็คงไม่ได้ แม้ทำงานประจำก็เช่นกัน

ท่านที่บูชาไปในรุ่นก่อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นธาตุกายสิทธิ์ ลูกอม มีดหมอ หรือชุดล่าสุดคงทราบดีว่าทุกอย่างที่มาจากผม ของดีจริงหรือไม่

รอให้ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้วจะมาแจ้งว่าคืออะไรแบบไหนครับ ยินดีกับผู้ได้ไปด้วยทุกท่าน

 

รออ่านต่อ

 

ติดตามครับ

 

ติดตามด้วยครับ

 

ขณะนี้ รอเวลาเหมาะสม คงประมาณสิ้นเดือน ถึง ได้รายละเอียดชัดเจน ท่านที่ติดตามกระทู้มา แต่ครั้งมีดหมอ หรือลูกอม ต่างๆ คงทราบหลักการของผมดี

ผมถือว่าอะไรเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และ แนะนำหรือเล่าประสบการณ์การสร้างเครื่องรางที่เห็นผลจริงๆ ชัดเจน ไม่เน้นการค้า ทำมากมาขายแบบนายทุนใจบาป

เคล็ดลับ หลักการต่าง ๆ ที่อธิบายมา มาจากผู้รู้จริง ซึ่งได้สอบถาม ระดับ เกจิทำตะกรุดได้ขลัง ท่านก็ยืนยัน ว่าหลักการถูกต้อง

ของดี ก็มีไว้สำหรับผู้มีวาสนาเท่านั้น และแน่นอนจะรอให้สวรรค์ประทานมาก็คงไม่ได้

สิ่งเหล่านี้ใช้ตอบโจทย์ ว่า ชีวิตจริง เราทำไม ห้อยพระเครื่องดี ๆ แผ่เมตตาก็แล้วทำไมถึงเจอ อุปสรรค จากคนไม่ดี ที่มี power พอ ทำให้เราเกิดปัญหาได้ จะแก้ยังไง ๆ ๆ ๆ

เครื่องรางนี้จะไม่เหมาะสำหรับคนมีศีล 5 บริสุทธิ์ หรือประเภทเมตตาธรรมค้ำจุนโลกนะครับ...

ตอนแรก ตั้งราคาไว้สูง เพราะการก่อสร้างบางอย่างของท่านที่ปรึกษา ก็คิดว่าคนคงไม่จองไม่สนใจ ตรงกันข้ามไม่ถึง ครึ่ง ชม. หมดเกลี้ยง ทุกคนเป็นคนที่ใช้เครื่องรางต่าง ๆ ที่เคยแนะนำ หรือได้จากผมไปแล้วได้ผล จึงไม่ต้อง อะไรมาก ....

 

ผมรับรอวครับ
วัตถุ ที่ ท่านนี้สร้าง
บูชาแล้ว ดีขึ้นจริว

สาธุ

 

ตะกรุดพญาจักวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4

ตอนนี้ มารับตะกรุดที่ ต่างจังหวัด ไม่สะดวกในการลงภาพอะไรมาก ผมนำภาพของจริงมาให้ผู้ที่ได้จอง ไว้ชม รายละเอียดการปลุกเสกจะนำภาพมาสรุปอีกครั้งหลังกลับถึง กทม.แล้ว

แต่โดยสรุปตะกรุดนี้สร้างตามตำรา ปู่ฤาษีวาโย ที่มาถ่ายทอดให้ครูบาข่าย ตั้งแต่สมัยเป็นสามเณร และครูบาข่ายได้นำมาผสมผสาน กับวิชาของฆราวาสเสือเก่า อดีตโจรที่เก่งกล้าด้านคาถาอาคม เก่งจน เก็บหมอผีชาวเขา ได้

สมัยครูบาข่ายเล่าเรื่องปู่ฤาษีวาโย ที่มาสอนวิชาให้ 3 เดือนนั้นเป็นสมัยที่ครูบาข่าย อายุมากแล้ว ซึ่งพอ ศิษย์ได้ถามถึงปู่ฤาษีผู้นั้นครูบาข่ายยืนยันว่า

ปู่ฤาษีท่านนั้น อายุมากจนนับไม่ได้ และยังมีชีวิตอยู่

สมัยก่อน ครูบาข่ายได้สร้างตะกรุดนี้ให้ อดีตนักการเมืองที่โด่งดังคับฟ้า ไปหลายคน ซึ่งเขาปัจจุบันก็แพ้ภัยตนเองไป เพราะท่านบอกข้อห้ามสำคัญ ๆ ไปแล้ว ทำผิดเอง

ตะกรุดนี้ สำคัญตรงผู้ได้ไป ห้ามใช้บ่อย ให้ใช้เวลาจำเป็น เพราะจะทำให้ หลงลำพองตน

สมชื่อละครับ พญาจักรวรรติราช ปราบพิภพทั้ง 4 ชื่อนี้ตามตำราระบุไว้นะครับ ไม่ได้ตั้งชื่อขึ้นมาเองให้ดูอลังการณ์


การเสก ซึ่งยากเย็นที่สุดเพราะท่านที่ปรึกษา ต้องหาครูบาอาจารย์ที่เก่งกล้าสามารถ มาเสกให้เท่าต้นฉบับที่ครูบาข่ายเคยสร้าง ก็สำเร็จด้วยดี

พลังนั้น ถ้าเทียบกับต้นฉบับท่านบอกคนละแบบ เปรียบได้กับ รถเบนซ์และ BMW คือ ใช้ได้เหมือนกัน และมีสรรพคุณเหนือกว่าตรง ใช้ด้านดำ ๆ เทา ๆ ได้เต็มที่

เพราะได้ ฆราวาส อดีตเสือร้าย โจรกลับใจ ที่เก่งกล้าด้านคาถาอาคม สืบวิชามาจาก ฆราวาสอาจารย์ของครูบาข่าย ที่ได้กล่าวไป คือสืบวิชามาโดยตรงเลย

ปัจจุบันเก่งกล้าด้านคาถาอาคมแบบสุด ๆ

ฆราวาสเสกได้ไม่ยั้ง ใส่เต็มที่ ....

ปิดท้ายโดยท่านปรมาจารย์ผู้มอบว่านพญาไก่แดงมาอีก 7 ราตรี ปรับกระแสให้สมดุล

 

ตะกรุดนี้ ท่านที่ปรึกษาบอก จะซ่อนตัวเอง คือ มาจับพลังจะรู้แค่ว่าป้องกัน แต่จะดูด้านรุกไม่ออก

เรียกว่าใช้ด้านปราบ ป้องกัน สะท้อน ลาภ ครบ

 

ขอบคุณครับ คนที่ได้ใช้จะทราบ ผมย้ำทุกคนเสมอให้ลองใช้ดู ผมก็ใช้เองด้วย สร้างในสิ่งที่เราขาดด้วย

มหาลาภขีดสุดก็ทำมาแล้ว

 

สาธุ

 

ตะกรุด ต้นฉบับ ตามภาพ ได้เคยใช้ครั้งเดียวดังนี้

ครั้งหนึ่ง เจ้าของตะกรุดเล่าว่า ได้ไปเรียนระดับมหาบัณฑิต ซึ่ง เหตุเกิดจาก อาจารย์ระดับ ดร.ท่านหนึ่ง ซึ่งก่อน ๆ เรียนมาไม่เคยรู้เลยว่า อาจารย์ท่านนี้ ความรู้ระดับ ดร.จะชอบด้านของขลังใด ๆ ต่อมา เจ้าของได้ทราบ ว่า อาจารย์ได้เล่าให้ฟังเอง ว่าชอบของขลัง ทางเหนือมาก ๆ จนอยากเกิดเป็นคนภาคเหนือด้วย และได้ขอ ของขลัง จากเจ้าของตะกรุดอยู่บ่อย ๆ

จน เวลา ส่งวิทยานิพนธ์ ปรากฎว่า ในชั้น ผ่านทุกคนยกเว้น ท่านนี้ ซึ่งก็แก้กันหลายรอบ ๆ อาจารย์ก็ไม่ให้ผ่าน บางทีบอกจะช่วย ก็ไม่ช่วยจริง

จนท่านเครียดมาก เพราะต้องแก้วิทยานิพนธ์ จนไม่ได้ไปงานเผาร่างครูบาอาจารย์

จนแน่ใจว่าโดนกลั่นแกล้งแน่ ๆ เพราะ มีปัญหาอยู่คนเดียว เพื่อน ๆ ผ่านกันหมดแล้ว หลังจากเครียดจนไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง ขอพรพระเครื่องดี ๆ ก็ไม่เกิดผล

จนท่านคิดมาก จะหาของดีแค่ไหน เครื่องรางใดช่วย ก็ไม่รู้จะใช้อะไรดี เพราะอาจารย์คนนี้ก็ของดีมาก เพราะมารู้ภายหลังว่า มีวิชาอาคมเก่งกาจมาก แถมของดีก็มาก จนนึงถึง ตะกรุดในตำนาน ตามภาพ นั่นเอง

พอเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยโทรมานัดไปแก้งาน เพื่อน ๆก็รวบรวมค่ารถเดินทางมาให้ ก็พกตะกรุดไปดอกเดียวนี่ละ จนได้พบ กับอาจารย์คนนั้น ผลปรากฎคือ....

อยู่ ๆ อาจารย์คนนั้นหน้าซีด ซีดจนเป็นไก่ต้ม ให้วิทยานิพนธ์ผ่านเลย และคุยดีด้วย จบ เรียนจบตามหวัง

หลังจากนั้นได้ข่าวว่า.. อาจารย์คนนั้น เจ็บออด ๆ แอด ๆ จนไม่ได้กลับบ้าน

ท่านเลยรู้สึกผิด วันรับปริญญา ก็ไปขอขมา จบด้วยดี

ท่านเลยรู้ว่าทำไม ครูบาข่ายจึงย้ำบ่อย ๆ อย่าใช้ตะกรุดนี้บ่อย ให้ใช้เวลาจำเป็น....

 

นำตะกรุดไปลงรัก ปิดทอง โดยจะลงรักแท้ 3 รอบแล้วจึงปิดทอง

จะเห็นว่า มีขันครู ยกไปด้วย ซึ่งช่างที่ลงรัก กลัวมาก จนท่านที่ปรึกษาต้อง ลงรักขอขมาให้ก่อน ช่างถึงกล้าทำ

สอบถาม ทำไมยกขันครูไปด้วย ท่านที่ปรึกษากล่าวว่า

"ที่อื่นไม่ทราบ แต่ สายวิชาท่านหากตะกรุดยังไม่เสร็จสิ้น จะไม่ให้ตะกรุดห่างขันเด็ดขาด...."

 

19 กรกฎาคม 2561 ตะกรุดยังไม่แห้งดีตามภาพ ได้ขอความเมตตา ครูบา...(ขอปิดนาม) เมตตาอธิษฐาน

การเสกครั้งนี้ นับเป็นครั้งสำคัญทีเดียว เพราะท่านที่ปรึกษากล่าวว่า ในยุคปัจจุบัน จะหาผู้เสกได้ตรงสายวิชา คงมีท่านนี้ท่านเดียว

ครูบาท่านนี้สมัยหนุ่ม ฟังมาว่า ท่านก็สุดยอด ด้านปราบผี คุณไสย ด้านคาถาอาคม จวบจนได้พบ หลวงปู่พุทธบาทตากผ้า และครูบาสุข จึงให้หยุดมาเน้นภาวนากรรมฐาน วิปัสสนา แต่ ปฏิปทา ความห้าว ดุดันของท่านยังมีมาจนปัจจุบัน

ครูบาท่านนี้ คนไม่ค่อยกล้าเข้าหาท่านมาก และท่านก็ละ ไม่ค่อย เน้นงานใด ๆ อยู่วัดก็อยู่ องค์เดียว และไม่ค่อยรับนิมนต์ปลุกเสกมาก

ตอนท่านที่ปรึกษายกตะกรุดไป ยังกลัว ๆ ว่าจะโดนดุเลย แต่ท่านพอเห็นตะกรุดคุยดีเลย ครูบาท่านเห็นปุ๊ป ทักมาดังนี้

"โอ้ ของนี้กันตู้ร้าย กันลองของร้าย เขาไม่ค่อยทำกันฯ" (คือสรุปใจความได้ว่าท่านทักว่าของนี้ ป้องกันคุณไสย อาถรรพ์)

ซึ่ง พอท่านที่ปรึกษากล่าวเล่าเจตนามา ท่านกล่าวว่า

"ครูบาอาจารย์ ท่านห้ามเสกของให้ใครมาก แต่เอาเถอะเห็นว่าอุตส่าห์มา จะปิดกุฏิแล้วนะ จะทำให้"

ที่ปรึกษากล่าวว่า ท่านคงเห็นใจเพราะฝ่าสายฝนไปเลย

การปลุกเสกนั้น เล่าว่า ท่านเสกจนฟ้าผ่า ฟ้าร้องสะเทือน จนท่านที่ปรึกษาตกใจ แต่ครูบาก็นิ่ง เสกให้เต็มที่

จากจิตสัมผัสของท่านที่ปรึกษาเล่าว่า รุนแรงมากจนท่านแทบหงายหลัง โทรศัพท์จะพยายามถ่ายคลิป ก็ติด ๆ ดับ ๆ ๆ

หลังเสกเสร็จ ครูบากล่าวว่า "ไม่เคยลงให้ใครขนาดนี้มาก่อน"

ถามท่านที่ปรึกษา จากที่ครูบาอภิญญาลงให้ มั่นใจว่า ท่านสุดยอด แค่ไหน ที่ปรึกษากล่าว "ณ ตอนนี้ครูบาอภิญญาท่านเข้าสู่จุดสูงสุด แทนครูบาเราได้แล้ว"

คำถามสำคัญที่ผมถาม ท่านที่ปรึกษาเป็นไงบ้างครับตะกรุดตอนนี้ หากเต็ม 100 ให้เท่าไรครับ

ท่านกล่าวว่าโดยความคิดท่าน ให ้65 % คือ ครูบาลงด้านป้องกันมาเต็มที่ เหลือ ด้านรุก อีก 35 % ต้องเติมด้านรุกให้เต็ม....

ผมได้แต่ตกใจ ว่า เสกขนาดนี้ ยังได้เพียง 65 ครั้งจะฝากเสกนาน ๆ ก็เกรงใจสุขภาพครูบาท่าน เพราะสมัยก่อนครูบาข่ายเสกเช้าเสกเย็น กลางคืนก็เสก.....แต่ท่านที่ปรึกษามั่นใจว่าจะลงเพิ่มได้แน่

 

....ปิดท้าย ภาคตะกรุด

น่าเสียดายที่ตะกรุดนี้ มีเจ้าของหมดแล้วครับ เพราะสร้างได้น้อยมาก ตามเล่า แตกตอนม้วนไป 2 ดอก คงเหลือ 24 ดอก ซึ่งก็ใช่ว่า ผู้สร้างจะมีมาก ตอนนี้ เล่าว่า หลังเสกเสร็จ 3 อดีตเสือ ก็ขอไปคนละดอกซะอีก และ ญาติ ๆ ฆราวาสก็ขอไปด้วย เรียกว่าท่านเองยังเหลือ ดอกเดียว ผมเองก็ไม่มีให้บูชาแล้ว

ตะกรุดนี้ ด้านรุก ออกอากาศไม่ได้มาก เดี๋ยวคนจะหมั่นไส้เอา เรียกว่าผู้ได้ไป เป็นสูตรเดียวกับตอนมีดหมอเลย คือ

1.เคยร่วมบุญกุศลกันมา

2.ผมรอจังหวะให้คนติดต่อมาเอง ถือว่า แล้วแต่วาสนา

ก็ครบ ไม่มีแล้วจริง ๆ ครับ

การสร้าง การลงเสก ท่านที่ปรึกษาในฐานะผู้สืบวิชาและ อยู่กับ ตะกรุดต้นฉบับในตำนานมาแล้ว เป็นผู้ควบคุมเต็มที่

คำถามสำคัญ ตะกรุดนี้ เท่าต้นฉบับหรือยัง ท่านที่ปรึกษาบอกว่า

คนละแบบ เหมือน รถเบนซ์ กับรถ BMW คือ คนละยี่ห้อ แต่ใช้งานได้เหมือนกันครับ.... (เราไม่กล้าเทียบชั้นครูบาอาจารย์)

กระแสพลังรอ QC มาเล่าให้ฟังครับ งานนี้ ยากแน่...

 

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย หลังปิดตำนานตะกรุดพญาจักรวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4

ในฐานะที่ผมเองก็เช่าหา ของขลังมามาก รวมทั้งตะกรุด ได้พบปะ ใกล้ชิดครูบาอาจารย์หลายท่านที่ ทำของได้ ได้พบ ความรู้ใหม่ดังนี้

1.ตะกรุดนั้น ท่านที่ปรึกษาบอก มีอักขระ ตัวเลขไม่มากหรอก แต่เคล็ดสำคัญ อยู่ที่ กลวิธีการลง บวกกับพิธีกรรม ดังนั้น ไม่ใช่อยู่ ๆ อยากจาร ๆ เสร็จเลย ท่านบอก ท่านทำตามสายครูบาอาจารย์ คือต้องตั้งขัน หากำลังหลายๆ อย่าง ตะกรุดนี้ได้หลายกำลังจึงทำสำเร็จคือ
- พลังบุญจากสร้างพระธาตุศรีทันใจ ยอดดอย
- พลังแห่งฤกษ์ยาม

ซึ่งท่านบอกก็แปลกอยากให้ได้หลายๆ ดอก ก็ทำไม่ได้ หมดฤกษ์ยาม และท่านก็เหนื่อยมาก ๆ แสบตาเลย สุดท้ายคนจองบูชาหมด ก็พอได้ทุนสร้างหอเสื้อวัดตามต้องการ เรียกว่าจะทำให้มาก เพื่อหาเงินไม่ได้เลย

2. ผมได้พบเคล็ดลับต่างๆ มากมาย เช่น ตะกรุดไม่ให้ห่างขันครู หรือบูชาด้วยของหอมต่างๆ

3. การเสกนี่ก็ยาก หากไม่ใช่ท่านที่ปรึกษาที่ ร่ำเรียนมาโดยตรง คงจะลำดับการเสก การเติมพลัง ให้เต็มเปี่ยม สืบทอดวิชาเดิมคงยาก

4. ท้ายที่สุดท่านย้ำข้อห้าม ซึ่งผมได้พิมพ์บอกผู้บูชาไป คือ ห้ามใช้บ่อย , ให้ใช้เวลาจำเป็น มิฉะนั้น อาจมีจุดจบแบบอดีตนักการเมืองที่ได้ไปแน่นอน...เพราะสุดท้าย ไม่เกินกรรม....


จบบริบูรณ์..............................


หมายเหตุ ...ท่านที่ไม่ได้ตะกรุดนี้ไม่ต้องเสียใจครับ ผมได้บอกไปแล้ว ตอนต้น ว่าตะกรุดนี้ไม่เหมาะกับ....

1.ผู้ถือหลักเมตตาธรรมค้ำจุนโลก

2. ผู้ที่ต้องการถือศีลบริสุทธิ์