เรื่องเด่น หมั่นสร้างบุญแก่ตนและคนที่รัก เปลี่ยนคู่กรรมให้เป็นคู่บารมี

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 7 มีนาคม 2018.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,289
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    1-38-696x348.jpg



    หมั่นสร้างบุญแก่ตนและคนที่รัก เปลี่ยนคู่กรรมให้เป็นคู่บารมี
    กุมภาพันธ์ 7, 2018 โดย ธ. ธรรมรักษ์

    หมั่นสร้างบุญแก่ตนและคนที่รัก
    เปลี่ยนคู่กรรมให้เป็นคู่บารมี
    เปลี่ยนชีวิตให้ดีขึ้นได้จริง
    เพียงสร้างบุญให้ครบ 3 ประการ


    การที่คนสองคนได้มาพบเจอกัน ได้สร้างบุญร่วมกันและได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน ล้วนบ่งบอกถึงความเป็นมาในอดีตชาติและปัจจุบันชาติว่า ในอดีตชาติคนสองคนนั้นได้เคยทำกรรมทั้งกรรมดีและไม่ดีร่วมกันมา ดังที่เคยเล่าไว้ในพุทธชาดกหลายๆ ตอน
    คู่ที่เกิดมาครองคู่กันตลอด ในภพชาติที่ต้องอยู่ด้วยกันก็คือ คู่ของ เจ้าชายสิทธั้ตถะและพระนางยโสธรา (มีเพียงบางชาติที่ทั้งสองพระองค์ไม่ได้พบกัน เนื้องจากต้องบำเพ็ญเนกขัมมะบารมีอย่างสูงสุด เช่น ในพระชาติของพระเตมีย์

    ขณะที่บางภพชาติแม้พระโพธิสัตว์จะออกบำเพ็ญบารมีเป็นพระฤาษีแล้ว เหาะผ่านมาเห็นอดีตชาตินางยโสธรา ก็ตกหลุมรักจนฤทธิ์เสื่อม แล้วใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในชาตินั้น
    บางชาติ พระโพธิสัตว์บวชเป็นเณรแล้ว แต่ก้ต้องสึกออกมาเพราะมีจิตปฏิพัทธิต่อ นางเพราะเคยอยุ่ร่วมกันมาก่อน และตกนรกหมกไหม้ร่วมกันก็มี เพราะทำผิดศีลธรรมร่วมกันไว้


    27540467_2189656764381477_9213515479845309035_n.jpg



    ดังนั้นการที่คู่ครองบางคู่ ครองรักร่วมกัน ใช้ชีวิตร่วมกันแล้วย่อมมีผลต่างกันไป
    คู่ที่สร้างแต่บาปมาร่วมกันมาก ชีวิตคู่ก็จะเป็นเหมือนเจ้ากรรมนายเวรต่อกัน แม้กายจะเป็นมิตรกันแต่จิตเป็นศัตรูต่อกัน ย่อมฉุดให้ชีวิตตกต่ำลง ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือตกลงทั้งสองฝ่าย เพราะคอยแต่จะเบียดเบียนกันตลอดเวลา ร้ายที่สุดก็คือ ทำลายชีวิตอีกฝ่ายกันไป

    คู่ทีสร้างบุญและบาปมาร่วมกันพอๆ กัน ก็จะมีทุกข์และสุขปนกันไป แม้อยากจะเลิกกันแต่ก็ยังเลิกกันไม่ได้ หรือร่วมสร้างบุญให้สุดก็ยังทำไม่ได้ คนหนึ่งทำ อีกคนไม่ทำ ทะเลาะเบาะแว้งบ้าง แต่ก็ยังสามารถอยู่ร่วมกันได้อยู่ จนกว่าจะหมดบุญร่วมกันไป

    คู่ที่สร้างบุญร่วมกัน มากกว่าบาป ก็จะมีสุขมากกว่าทุกข์ คือ ครองคู่กันอย่างดี แม้จะทะเลาะกันบ้าง ก็ไม่ทิ้งกัน อภัยให้กันได้ ชีวิตคอยประคับประคองกันไปได้ตลอดรอดฝั่ง
    และสามารถชักชวนกันสร้างบุญใหม่ให้ยิ่งใหญ่ขึ้นได้ยิ่งๆ ขึ้นไป ไม่ขัดแย้งกันในบุญที่ทำ

    คู่ประเภทหลังสุดนี้เรียกว่า คู่บุญคุ่บารมี แบบที่เจ้าชายสิทธัตถะและพระนางยโสธราเป็น คือสร้างบุญร่วมกันมากกกว่าบาป อย่างในพระชาติของพระเวสสันดรและพระนางมัทรี ทั้งสองพระองค์ก้ได้บำเพ็ญบารมีร่วมกันอย่างยิ่งยวด แม้จะตกทุกข์ได้ยากในตอนแรก แต่ก็มีความสุขได้ในที่สุด
    หากชีวิตคู่ของเรามีปัญหา
    ให้สร้างบุญคู่หนุนนำ 3 ประการ

    1. อภัยทาน คือรู้จักให้อภัยแก่คู่ครองของตน เพราะการให้อภัยต่อกันเป็นการให้อโหสิกรรม ไม่ติดใจกัน ย่อมไม่มีการผูกเวรต่อกัน

    2. รักษาศีล 5 ให้มั่นคงที่สุด เพราะจุดเริ่มต้นแห่งความสุขและความสงบในชีวิตคู่คือ ศีล 5 การไม่นอกใจกัน ย่อมไม่เกิดการผิดศีลข้ออื่นๆ และไม่ทำให้ตนเองตกต่ำลง

    3.ต่างคนต่างหมั่นสวดมนต์แผ่เมตตาให้กันและกันเสมอ ช่วยยกระดับจิตใจ และลดความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนลงได้ ทำให้จิตปล่อยวาง ไม่คิดเอาชนะกันหรือยกตนเป็นใหญ่เหนือใครคนใดคนหนึ่ง

    มีคำกล่าวหนึ่งที่ว่า ชีวิตคู่ต้องรับผิดชอบร่วมกันดัง การช่วยกันหาร้านก๋วยเตี๋ยวนั่งรับประทานและไม่กล่าวโทษกันเมื่อก๋วยเตี๋ยวไม่อร่อย
    บุญที่หนุนนำนี้จะช่วยผลักดันให้ชีวิตคู่พัฒนาก้าวหน้า
    เปลี่ยนจากคู่เวร เป็นคู่บุญได้
    บุญนั้นจะเป็นที่พึ่งให้ท่านได้จริง
    โมทนาสาธุ


    ขอบคุณที่มา :- https://torthammarak.wordpress.com/2018/02/07/หมั่นสร้างบุญแก่ตนและค/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ของขวัญวันเกิดหนูสินะเจ้าคะ คุณพี่ :D

    "ซิ่นสองต่อน" หนูมีหลายคนสินะ เค้าว่า ภพภูมิพญานาคมาเกิดไม่เคยขาดรัก
    แต่รักมันมากะอะไร มากะกรรม มากะเวร มากะทุกข์ มากะน้ำตาสามหาบสี่หาบ

    ท่านเทวบุตรมารก็สาปแช่งไม่ให้หนูได้มีรักตามปกติสุข เกิดมาก็อัปลักษณ์เหมือนอย่างว่า
    ทั้งที่ใจทำความดี ใฝ่ดี แต่มิวายคนพอใจในรูปสัญญา ภายนอก

    ถ้าเป็นไปได้ ขอชาตินี้ชาติสุดท้ายนะ อย่ามีอะไรมาทำให้เป็นแบบนี้อีกเลย
    แต่มันห้ามกรรมไม่ได้เนาะ

    คนอื่นมาอ่าน อย่าเพิ่งด่าหนูนะ หนูเป้นคนอ่อนแอ โดนด่า โดนว่า โดนล้อ มามากแล้วค่ะ

    หนูไม่ได้ป่วยด้วยค่ะ แค่ถ้าหนูหายไปตอนนี้นะ ก็ไม่มีใครรู้เท่านั้นเองน่ะ

    จะมีสักกี่คนรู้ชะตาตัวเองตั้งแต่ลืมตามาได้เศร้าขนาดนี้นะ

    หนูโชคดี และมีลมหายใจจาก เทวดาท่านเลี้ยงหนู จากบุญที่หนูเคยสร้างเท่านั้นค่ะ

    และมาเกิดเพื่อใช้กรรม เพื่อสัจจะว่า อะไรที่เคยทำไม่ดี ก็ขออโหสิกรรม ยินดีชดใช้ให้ค่ะ

    หยุดวจีกรรม กับหนูมลเป็นอภัยทานเถอะนะ หนูขอโทษที่เคยทำอะไรกะใครไว้ในภพภูมิก่อน

    หนูคงไปทำกรรมกะใครต่อใครมามากแน่นวล เวลาหนูเหลือไม่เยอะหนูก็รู้ค่ะพี่ หนูรู้ตัวดี

    การปฏิบัติหนูก็ไม่ถึงไหนเลย

    ถ้าหนูเขียนอะไรไร้สาระไป ท่านที่อ่านอย่าถือสา หนูเลยนะ

    "ความหวังของเขาคนเดียว อย่าไปพูดทำลายหวังเขา
    ความรักของเขา ความยินดีของเขา ความสุขของเขา
    อย่าไปทำลายเลยนะ หนูอยากยิ้มได้ มีความสุขตามอัตตภาพ
    หนูไขว่คว้าเงินทอง หนูเสกสรรค์ได้ให้คนอื่นยิ้มมีสุข
    แต่หนูกลับ เคว้งคว้าง และตื่นลืมตาไม่เจอใคร...

    หนูควรจะชิน เพราะ หนูก็เกิดที่มีแม่แท้ๆ ทิ้งเอาไว้
    พ่อแม่ทิ้ง เพื่อนๆทิ้ง ญาติๆทิ้ง คนรักจะทิ้ง หนูก็เตรียมใจแล้ว
    ไม่ว่าเขาจะทิ้งหนูไปเพราะอะไร หนูก็แค่ ดูแลรักษาสิ่งที่เค้ารักมากที่สุด หนูสัญญาแล้ว
    หนูจะรักษาสัญญาค่ะ "

    ความรักมันไม่มีตัวตน หรอกพี่ มันแค่สัญญา มโน จินตนาการ
    ความจริง หนู แค่รักษาและถนอมจิตใจตัวเอง รับผิดชอบในฐานะ ลูกผู้หญิงคนนึงเท่านั้นค่ะ

    หนูไม่ได้บอกใครว่าจะบวชชี หรือเป็นนักพรต หรือเป็นนางแก้ว ของใคร
    แค่หนูทำหน้าที่ ของมนุษย์ ให้ศีลครบ ยังต้องหลุดนั้นนี้ทุกวันเลยค่ะ
    สวดมนต์ไหว้พระภาวนา หนูยังทำได้ไม่สม่ำเสมอเลยค่ะ
    หนูขอโทษ หนูรู้ตัวดี ว่าตัวเองไม่ขยันพอ

    หนูจึงไม่ตำหนิใครเลย ข้อดีที่เกิดมาเป็นแบบนี้ ก็คือเข้าใจความน้อยเนื้อต่ำใจมากที่สุดว่าเป็นเช่นไร คนเราก็หลงในรูป ในรส ในกลิ่นกันทุกคน

    คนดีพูดง่ายค่ะ ทำน่ะมันยาก จะรักผู้หญิงที่จิตใจ ก็ยากเช่นกัน
    ถ้าคนเค้ารักที่หัวใจที่ศีลธรรมที่เธอมี
    ไยเล่าเอาไปเปรียบกับรูปลักษณืที่เธอมี
    ว่ามีหญิงรักหน้าตาอัปลักษณ์ ถือว่าไม่ต้องคิดว่าเธอจะหนีไปไหน

    ทั้งที่ในใจของบุรุษธรรมดาสามัญย่อมพออกพอใจในรูปกายที่งดงามกันทั้งนั้น
    ไยเล่า จึงต้องพูดให้หญิงคนรักของเธอเสียใจ น้อยใจ
    และความดีของเธอไม่มีเหลือเลยกระนั้นหรือ ?
    เพียงเพราะเธอไม่เป็นที่พึงใจในรูปลักษณ์ของบุรุษใด
    เธอจึงโดนตัดสินว่า เป็นของตายกระนั้นหรือ ?

    ขอบคุณค่ะพี่ที่ให้หนูได้เขียนออกมา หนูมีสติค่ะ
    การง้องอนฝ่ายเดียว หนูเหนื่อย

    ไม่มีใครรักหนูเท่าพระพุทธเจ้าอีกแล้วล่ะค่ะ
    หนูคุยกับพระพุทธรูปและรูปหลวงปู่ ทุกวันเลย ท่านยิ้มอย่างเดียว

    วันนี้ฝนตก เหมือนน้ำตาหนูเลยค่ะพี่

    รักษาสุขภาพนะคะ พี่

    ___________________________________

    “ชะรอยกรรมนำพาให้จักต้องจากพระแม่เจ้าชะรอยบาปแต่เก่าก่อน
    จึงจำต้องพลัดพรากพระแม่ไป พระคุณแม่ยังมิได้ทดแทนซ้ำมาขัดใจดั่งนี้หนา
    ด้วยยามนตร์ที่เขากระทำโน้มน้าวลูกให้ใหลหลง”
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,289
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    เราไม่รับเสียก็สิ้นเรื่อง
    boneboygirl.jpg
     
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,289
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    หญิงสาวชายหนุ่มพรากจากกัน กำลังกรรม ปัจจัยอารมณ์เสียใจ

    เมื่อหญิงสาวและชายหนุ่มผูกสมัครรักใคร่กัน ยิ่งนานวันก็จะยิ่งเพิ่มพูนความรักมากยิ่งขึ้น เพราะเห็นใจกัน เอาอกเอาใจกันทุกอย่าง ความรักของชายหนุ่มหญิงสาวคู่นี้เป็นไปอย่างดูดดื่มมั่นคงอยู่หลายปี เมื่อจะต้องพรากจากกันไปโดยเด็ดขาดเมื่อใด ทั้งสองฝ่ายก็จะตกอยู่ในความเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้ง เจ้าเฝ้าแต่ครุ่นคิดถึงกันอยู่มิรู้วาย วันละหลายสิบหรือหลายครั้ง ทั้งนี้เพราะอะไร เรื่องความรักใคร่เห็นอกเห็นใจกันก็เป็นอดีตไปแล้ว เป็นเรื่องเก่าที่ดับไปแล้ว เหตุใดกรรมที่ทำไว้ในอดีตจึงได้ก่อให้เกิดความทุกข์หรือเศร้าเสียใจอยู่มิได้หยุดหย่อน

    อาตมาได้กล่าวมาแล้วว่า อารมณ์ที่เกิดขึ้นได้นั้น จะต้องมีเหตุ จะเกิดขึ้นลอย ๆ หาได้ไม่ เช่น การที่จะเห็นได้ก็ต้องมีคลื่นแสงมากระทบตา จะได้ยินก็ต้องมีคลื่นเสียงมากระทบหู และจะคิดได้ก็จะต้องมีเรื่องที่คิดนั้นมากระทบใจ เหตุนี้จึงเห็นได้ว่า ในกรณีของหนุ่มสาว เกิดความเศร้าเสียใจคู่นี้ ก็จะต้องมีเรื่องมากระทบใจเป็นแน่นอน มิฉะนั้นความเศร้าเสียใจจะเกิดขึ้นมาหาได้ไม่ แต่อะไรเล่าเป็นเหตุเป็นปัจจัยให้เกิดอารมณ์เสียใจเหล่านั้นขึ้น

    ไม่มีผู้ใดจะปฏิเสธได้เลยว่าอารมณ์เหล่านั้น มิได้เกิดขึ้นมา แต่อารมณ์เก่า ๆ คือ เจตนาหรือความปรารถนาที่จะเป็นของซึ่งกันและกัน รักกัน เอาใจกัน และจะแต่งงานอยู่กินด้วยกันนั่นเองเป็นเหตุเป็นปัจจัย จิตจึงได้สร้างให้เห็นหน้า เห็นกิริยาท่าทาง เห็นความดีของแต่ละฝ่าย อารมณ์เก่า ๆ เหล่านั้น คือ กรรมแต่อดีตที่ดับไปแล้วนั่นเอง แต่มิได้สูญหายไปไหน อารมณ์เก่าหรือกรรมเก่า หรือความปรารถนาเก่านั้นเองได้เกิดกำลังอำนาจขึ้น กำลังอำนาจนี้ได้มากระทบจิตอยู่เสมอมิได้หยุดหย่อน ซึ่งกระทำให้กรรมที่ทำไว้แล้ว ๆ นั้น กลับยกขึ้นมาสู่อารมณ์ใหม่อีก ภาพเก่า ๆ ก็ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทำให้มองเห็นหน้าคู่รักที่กลังยิ้มอย่างหวาน เห็นความน่ารักเอ็นดู เห็นความเอาอกเอาใจหรือความเสียสละของแต่ละฝ่าย ภาพประทับใจทั้งหลายแหล่ก็ได้ถูกยกขึ้นมาปรากฏอยู่เฉพาะหน้า เหมือนกำลังดูภาพยนตร์ หรือมีเสียงกระซิบมากระซิบอยู่ที่ข้างหูว่ารัก รัก มิได้หยุดหย่อนเลย
    การที่อาตมานำตัวอย่างนี้ขึ้นมาแสดง ก็เพื่อจะให้ท่านได้เห็นกำลังของกรรม กำลังของความปรารถนา หรือตัณหาว่าแม้มันไม่มีตัวตนก็ดี แม้มันจะเกิดขึ้นในอดีตและดับไปแล้วก็ดี มันก็ยังมีความสามารถที่จะแสดงออก ซึ่งการกระทบกับจิตอันก่อให้เกิดอารมณ์ขึ้นได้มิได้หยุดหย่อน ทั้งนี้เพื่อให้ท่านได้เห็นหน้าตาไว้เพียงนิดเดียวก่อน กำลังของกรรมหรือตัณหานี้ยังมีกว่านั้นมากมายนัก สามารถสร้างภพสร้างชาติก็ยังได้อีก และคนที่ตายแล้วไปเกิดก็ด้วยต้องอาศัยกำลังของกรรมนี่เองผลักดัน ทั้งมิได้สืบต่อไปแต่จิตอย่างเดียวเท่านั้น หากแต่ด้วยอำนาจของกรรมหรือตัณหานี้ยังมีอานุภาพสร้างรูปขึ้นในภพใหม่ได้ด้วย

    "กฎแห่งกรรม".... หลวงพ่อจรัญ
    :- https://talk.mthai.com/inbox/76255.html
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,289
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    RoseRainGirl.gif
    ฮาวทูสำหรับคนไร้คู่ วิธีเฟ้นหา เนื้อคู่ ด้วยตัวคุณเอง

    ความเชื่อเกี่ยวกับเนื้อคู่มีเพียบ คู่เวรคู่กรรม คู่บุญคู่บาป คู่สร้างคู่สม แต่เนื้อคู่ตัวเป็น ๆ ของเรานี่สิ จะหาได้จากที่ไหน๊ (เสียงสูงงงงงง) ใครยังหาเนื้อคู่ลองดู 4 ข้อต่อไปนี้ อาจจะเจอเร็ว ๆ นี้
    1. ลิสต์ลักษณะ “คนที่ใช่” ไว้เป็นข้อๆ ให้ชัดเจน
    ก่อนจะคิดมีคู่ คุณควรกำหนดสเป็คของคนในอุดมคติเอาไว้ให้ชัดเจน โดยอาจจะเขียนลักษณะของคนที่คุณมองหาออกมาเป็นลายลักษณ์อักษร หรือหมั่นทบทวนถึงคุณลักษณะของคนในฝันบ่อยๆ เลือกทำวิธีใดก็ได้ ขอเพียงคุณชัดเจนกับสิ่งที่คุณต้องการ และหมั่นตอกย้ำกับตัวเองถึงสิ่งนั้นเสมอๆ แล้วอานุภาพของความคิดที่มุ่งมั่นหรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แรงอธิษฐาน จะช่วยคัดกรอง “คนที่ใช่” ให้คุณเอง

    คนส่วนใหญ่ที่หูตายังไม่สว่างมักจะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คิดจะมีครอบครัวก็มีเลยโดยไม่อธิษฐาน ไม่ตั้งจิต ไม่คิดให้รอบคอบ ขอให้ได้เพียงแค่เป็นสามีหรือภรรยา ทำให้ได้คู่แบบคู่เวรคู่กรรมมา ชีวิตคู่ก็วิบัติมีแต่ขัดกัน ทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา เพราะชาติก่อนเคยจองเวรจองกรรมกันไว้
    2. สร้างเหตุปัจจัยให้เหมาะสม
    เมื่อได้กำหนดสเป็คไว้อย่างชัดเจนแล้ว สิ่งต่อไปที่คุณต้องทำก็คือ เร่งสร้างเหตุปัจจัยให้ได้ตามที่หวัง ด้วยการทำตัวให้คู่ควรที่จะได้ครองคู่กับคนในฝันของคุณ เช่น หากคุณตั้งสเป็คไว้ว่าจะต้องได้คนที่หน้าตาดี มีการศึกษา มีกิริยามารยาทดี เข้าสังคมเป็น คุณเองก็ต้องทำตัวให้เหมาะสมกับเขาคนนั้น หรือพยายามพัฒนาตัวเองให้มีดีมากพอที่เขาจะมองคุณด้วย เช่น ถ้ารู้ตัวว่าเกิดมารูปร่างหน้าตาไม่ดี ก็ควรหาวิธีเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเอง ด้วยการพัฒนาบุคลิกภาพ และการแต่งกายให้ดูดีแทน เป็นต้น
    3. เปิดโอกาสให้ตัวเอง
    ข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญที่คนไร้คู่ส่วนใหญ่มักมองข้าม แล้วก็ได้แต่บ่นว่าสวรรค์ไม่ยุติธรรม ไม่เห็นส่งใครมาให้ฉันบ้างเลย ก่อนจะพาลเอากับสวรรค์ ลองหันมาสังเกตตัวเองสิว่า ที่ผ่านมาคุณปิดตัวเองหรือเปล่า ถ้าพบว่าทุกวันนี้คุณทำกิจกรรมกับเพื่อนกลุ่มเดิมตลอดเวลา เลิกงานแล้วก็กลับบ้าน เสาร์ – อาทิตย์ก็อยู่แต่ที่บ้าน ไม่เคยสังสรรค์กับใคร ไม่คิดอยากจะลองทำอะไรใหม่ๆ แล้วละก็ ขอแนะนำให้รีบเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมโดยด่วน ด้วยการหมั่นพาตัวเองไปอยู่ในที่ที่จะมีโอกาสให้คุณได้พบกับคนในฝัน แล้วก็หัดทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆ เสียบ้าง
    4. เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง
    เมื่อพบคนที่มีแววจะใช่แล้ว ก็ควรศึกษากันด้วยความจริงใจตั้งแต่ต้น เพราะทุกคนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ไม่มีใครจะถูกใจอีกฝ่ายไปเสียทุกเรื่อง ดังนั้นมีข้อเสียอะไรก็อย่าปกปิดหรือเสแสร้งอยู่เลย รีบเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองออกมาตั้งแต่เนิ่นๆ และถ้าอยากรู้ว่าเขาและคุณจะไปกันได้ดีหรือเปล่า ก็ลองพาเขาหรือเธอคนนั้นไป ”วัดใจ ในสถานการณ์ต่างๆ ดู จะได้รู้กันไปเลยว่าคนนี้ ใช่ หรือ ”ไม่ วิธีนี้นอกจากจะทำให้ไม่ต้องเสียน้ำตาภายหลังแล้ว ยังทำให้คุณไม่ต้องเสียเวลาไปกับคนที่ ไม่ใช่ นานเกินไปอีกด้วย



    ที่มา : นิตยสารซีเคร็ต และหนังสือ “ทำชีวิตให้ได้ดีและมีสุข” โดย ดร.สนอง วรอุไร


     
  6. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578

    :(

    ขอพักหน่อยนะคะ เหนื่อยจังค่ะ...

    รักษาสุขภาพนะคะ วันนี้วันพระ ขอบุญกุศลรักษาคุณพี่ต้อยนะคะ :)
     
  7. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,578
    ● โยม : เคยเห็นสามีภรรยาบางคู่อยู่กันยืดยาวจนตายจากกัน แต่บางคู่ก็ต้องหย่าร้างอยู่กันไม่ยืด เป็นเพราะอะไร

    ● หลวงปู่ : เพราะกรรม ทุกคนมีกรรมเป็นของของตนเอง

    ตัวอย่างในพระไตรปิฎก (อิสิทาสีเถรีคาถา) อิสิทาสีเถรีเล่าชีวิตก่อนบวชว่า บิดามารดาเป็นเศรษฐีมีศีลธรรม ได้ยกเธอให้ไปเป็นภรรยาเศรษฐีปรนนิบัติสามีและตระกูลสามี ไม่เกียจคร้านและสมบูรณ์ด้วยศีล แม้อย่างนี้สามีก็ไม่ยอมอยู่ร่วมเรือนด้วย กลับส่งคืนทั้งๆ ที่หาความผิดไม่ได้

    อิสิทาสีเป็นหญิงหม้ายรูปสวย ต่อมาบิดาได้ยกให้กุลบุตรตระกูลมั่งคั่งน้อยกว่าสามีเก่าครึ่งหนึ่ง อยู่เรือนร่วมสามีคนที่สองได้เพียงหนึ่งเดือน แม้จะรับใช้สามีดั่งทาสี ก็ถูกขับออกจากเรือนเขาอีก

    ต่อมาบิดาได้ยกนางให้กับชายขอทาน อยู่กินกันได้เพียงครึ่งเดือน ชายขอทานก็หนีทิ้งไปอีก นางเศร้าสลดใจในชีวิตจึงออกบวช บวชได้ ๗ วันก็บรรลุวิชชา ๓ ระลึกชาติแต่หนหลังของตนได้ถึง ๗ ชาติ

    กรรมเก่าของอิสิทาสีเถรี เคยเกิดเป็นลูกชายนายช่างอยู่ในนครเอรกกัจฉะ เป็นคนมัวเมาลุ่มหลงเป็นหนุ่มคะนอง ได้คบชู้กับภรรยาของชายอื่น ตายแล้วต้องหมกไหม้อยู่ในนรกตลอดกาล ครั้นเมื่อพ้นนรกมาเกิดเป็นลูกวานร ได้ถูกหัวหน้าฝูงวานรกัดอวัยวะสืบพันธ์ นี่เพราะผลกรรมที่ได้คบชู้ เมื่อตายจากวานร ได้มาเกิดในท้องของแพะตาบอดอยู่ในแคว้นสินธุ อายุได้ ๑๒เดือน ก็ถูกตัดอวัยวะสืบพันธ์ นี่เพราะโทษคบชู้กับภรรยาของชายอื่น

    เมื่อจุติจากกำเนิดแพะแล้วได้ไปเกิดในท้องของแม่โค พอมีอายุ ๑๒ เดือนก็ถูกตอน ถูกใช้งานเทียมไถเข็นเกวียน ต่อมาเป็นโคขี้โรคและตาบอด นี่แหละโทษอีกชาติ จุติจากกำเนิดโคแล้วไปเกิดในเรือนของนางทาสี จะเป็นหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิง

    ต่อมาชาติที่หก มาเกิดเป็นลูกสาวของนายช่างสานเสื่อ สกุลขัดสนถูกฉุดคร่าไปเป็นภรรยาของนายคิริทาส ซึ่งมีภรรยาอยู่แล้วเป็นคนมีศีล ต่อมาได้บังคับให้นายคิริทาสขับไล่ภรรยาเก่าไปเสีย ต่อมาได้เกิดในชาติปัจจุบันผลแห่งการคบชู้กับภรรยาของชายอื่นในชาติที่ ๑ (ที่ระลึกได้) และได้บังคับให้สามีขับไล่ภรรยาเก่าของเขาไปในชาติที่ ๖ (ที่ระลึกได้) จึงได้มารับกรรมในชาติปัจจุบันนี้

    ในสมชีวิสูตร พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า “คฤหบดีและคฤหปตานี (สามีภรรยา) ถ้าต้องการพบกันเป็นสามีภรรยากัน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตแล้วไซร้ ทั้งสองฝ่ายนั้นพึงเป็นผู้มีศรัทธาเสมอกัน มีจาคะเสมอกัน และมีปัญญาเสมอกัน ทั้งสองนั้นย่อมได้พบกันและกัน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต”

    ●หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    ตอบปัญหาธรรมและการปฏิบัติธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...