ร่วมทำบุญบูชา ชุดลองพิมพ์ปัดเสนียดพระธนบดีเปิดคลังพ่อเศรษฐี(ยอดขุนคลังกายสิทธิ์) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา รูปหล่อเทวราชันท้าวเวสสุวัณรับสาสน์(อุดผงแก้กลมหาปราบโลก ผงพลองตีเทพ)

    แต่โบราณกาลนั้น...คติในการบูชาพ่อยักษ์หรือองค์ท้าวเวสสุวรรณได้รับความนิยมในหลากหลายแง่มุม บ้างก็เชื่อในอานุภาพด้านกันเสนียด กันภูติผีปีศาจ อาศัยว่าท่านเป็นเจ้าแห่งผีนายแห่งยักษ์ จึงบงการและเป็นที่เกรงกลัวแก่สรรพวิญญาณทั่วไป อีกคติหนึ่งก็เชื่อว่าดีทางหนุนดวง ชุบตัว เปลี่ยนชีวิต บ้างก็ว่าท่านเป็นเจ้าแห่งทรัพย์สมบัติเปลี่ยนดวงยาจกให้เป็นเศรษฐีได้ ด้วยความเชื่อต่างๆดังนั้นพ่ออาจารย์พลท่านจึงได้จัดสร้างรูปหล่อเทวราชันหรือองค์ท้าวเวสสุวรรณขึ้นมา โดยมีดำริว่าจะใช้วิชาในเทวะศาสตร์ของพราหมณ์ ซึ่งเป็นวิชาจริงๆของสาวกผู้บูชาท้าวกุเวรมาสร้างเครื่องมงคลไว้เป็นเกียรติประวัติครั้งนี้

    โดยทั้งนี้ท่านใช้วิชาพิเศษของพราหมณ์ทมิฬซึ่งเป็นวิชาชั้นสูงและพิเศษมากๆว่าด้วยศาสตร์เฉพาะขององค์ท้าวเวสสุวรรณที่สืบทอดกันอย่างลึกลับในเหล่าสาวกมานานนับพันปีโดยตรงมาทำ ท่านว่าเป็นวิชาของแขกพราหมณ์ฮินดูเน้นความแรงอย่างมากทั้งในด้านพลังงานและการส่งผลต่อผู้บูชา วิชานี้เรียกว่าท้าวเวสสุวัณรับสาสน์ เป็นวิชาเฉพาะทางแห่งมหาราชผู้เป็นอธิบดีหรือหัวหน้าในจอมเทพจตุโลกบาลย่อมไม่ไร้สาระอย่างแน่นอน วิชาอะไรทำไมถึงถ่ายทอดเป็นการลับ สืบทอดเฉพาะในหมู่สาวกและผู้ศรัทธา ทำไมบูรพาจารย์จึงหวงแหนมาเนิ่นนานนับโคตร นับชั่วอายุคน สืบทอดกันมานับพันปี

    เมื่อพ่ออาจารย์คิดจะทำก็ต้องทำให้ดีที่สุด ดีเท่าที่ภูมิจิตภูมิธรรมท่านจะทำได้ ท่านว่าท้าวเวสสุวัณครั้งนี้ท่านตั้งใจขออนุญาติพระองค์ท่านทำโดยเฉพาะเพื่อเน้นอิทธิคุณทุกด้านเท่าที่ตั;ท่านจะทำได้โดยครูมหายักษ์ท่านมีดำริให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างแบบกายยักษ์หน้าเทพโดยเฉพาะ

    ที่อื่นมักจะทำรูปท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นหน้ายักษ์ แต่แท้จริงแล้วภูมิธรรมของท่านเป็นพระอริยเจ้า โดยแท้จริงท่านก็เป็นเทวดารูปงาม หากมนุษย์จิตปรุงเเต่งมีความเชื่อว่าท่านเป็นยักษ์ท่านก็จะปรากฏรูปออกมาในแบบยักษ์

    จริงๆเเล้วท้าวเวสสุวรรณพระองค์ปัจจุบันนี้ จัดเป็นเทวบดีในระดับพิเศษ คือนอกจากจะปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาเเล้ว พระองค์ยังมีวิมานอยู่เเม้กระทั่งดาวดึงษ์หรือในพรหมโลกด้วย รูปกายของพระองค์นั้นเป็นได้ทั้งพรหมเเละเทพในองค์เดียวกันรวมไปถึงยักษ์ เนื่องจากคุณธรรมของท่านที่เป็นอริยบุคคล เมื่อมาจุติในสวรรค์ชั้นนี้ก็เพราะจิตที่มีอดีตผูกพันธ์ ความจริงท่านควรจะขึ้นไปอยู่พรหมโลก เนื่องจากจิตของท่านจัดเป็นพระอริยบุคคลที่จะไม่มีวันหวนกลับลงสู่ที่ต่ำอีกเเล้วนั่นเอง

    พ่ออาจารย์เมตตาสร้างเพื่อให้คนได้ไปบูชาเข้าถึงเทพยดาพระองค์นี้ได้อย่างแท้จริงโดยแฝงความหมายเเละนัยยะมากมาย ท่านว่าอย่ามองว่าพระองค์เป็นเเค่หนึ่งในท้าวมหาราชทั้งสี่ ความเป็นอริยบุคคลของท่านนั้นยิ่งใหญ่พ้นประมาณ จัดเป็นเทพบดีระดับสูงที่ไม่ควรคิดก้าวล่วงเเม้เเต่น้อย ท่านได้จัดสร้างท้าวเวสสุวรรณนี้ในปางของเทพเจ้า เพราะเทพเจ้าจะมีใจที่คิดช่วยเหลือคนได้มากกว่าในปางของยักษ์หรือปางของมหาพรหมที่จะวางเฉยแบบนั้น ท่านจึงทำท้าวเวสสุวรรณหน้าเทพกายยักษ์เพื่อให้คนเอาไปใช้บูชากัน ท่านว่าทั้งช่วยเหลือ ทั้งทรงอำนาจไร้แรงต้านทานอย่างถึงที่สุด

    ท้าวเวสสุวรรณที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างในหนนี้ท่านว่าอย่างแรกเลย เราต้องการจะเปลี่ยนชีวิตของคนที่ศรัทธาพระองค์ท่าน ชุบตัวจากยาจกให้กลายเป็นเศรษฐี โดยคตินี้กล่าวกันว่าแม้จะวัดความเป็นราชาเเล้ว ท้าวมหาราชเเห่งทิศเหนือพระองค์นี้ยิ่งใหญ่กว่าพระเจ้าจักรพรรดิของโลกเสียอีก ชื่อท้าวมหาราชก็บอกอยู่เเล้วว่า มาจากมหาราชา กอปรกับตำนานเดิมทางไสยศาสตร์ที่ว่า ท้าวเวสสุวรรณมีพระชาติเป็นมนุษย์เป็นพ่อค้าขายน้ำตาล จากพ่อค้ากลายเป็นท้าวมหาราชทางทิศเหนือ จากเศรษฐีคนธรรมดาได้นั่งบัลลังค์ท้าวจตุโลกบาล ท่านอาศัยความนัยนี้ ให้ศิษย์ทั้งหลายได้คิด ศิษย์ที่ประกอบสัมมาอาชีพสุจริตทั้งหลายจากต่ำจะได้ไปสูง สูงขึ้นแบบไม่คาดคิด สบายขึ้นเหมือนฟ้าหนุนดวงส่งทำอะไรก็สำเร็จเห็นผลง่าย เช่นอดีตของท้าวเวสสุวรรณในฝ่ายไสยศาสตร์นี้ ที่เกิดจากคนธรรมดาได้นั่งบัลลังค์ท้าวมหาราชอันยิ่งใหญ่นั่นเอง

    ท้าวเวสสุวรรณที่พ่ออาจารย์พลท่านสร้างในวาระนี้ หากพูดในแบบภาษาของท่านก็เหมือนกับการเชิญสื่อการนิรมาณกายของเทพเจ้าในพระรูปเดิมลงมาเเฝงไว้ เพื่อการรับรู้เเละช่วยเหลือเกื้อกูล ทั้งนี้เมื่อบูชาพระองค์ท่านแล้วที่สำคัญอย่างมากเลยนั่นคือการกระทำของเราจะให้ผลมาก พ่ออาจารย์บอกว่าเมื่อรับหรือเมื่อเชิญองค์ท่านไป นี่คือเจ้าบัญชีใหญ่ที่บันทึกพฤติกรรมของมนุษย์และสัตว์ที่มีบุญ ย้ำกันตัวใหญ่ๆว่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้สร้างบุญทำการกุศลไว้ท่านมีหน้าที่บันทึกโดยตรงในบัญชีบุญก่อนส่งให้พระอินทร์นำไปอนุโมทนาในเทวสภา พ่ออาจารย์ท่านจึงอธิษฐานจิตให้คนได้อาราธนาเพื่อชีวิตที่ดีขึ้นอย่างถึงที่สุด ด้วยท่านเชื่อในจริตของผู้ศรัทธา หลายๆคนมักจะสร้างบุญสืบสร้างทางกุศลกันไม่ขาด ตรงนี้ท่านว่าถ้าเธอทำดีก็จะดีแบบสุดๆ ในเมื่อองค์ท่านอยู่กับเราท่านก็จะบันทึกบัญชีของท่านได้โดยตรง ทุกบุญท่านการกุศลของเราย่อมผลิดอกออกผลโดยไว ด้วยเทพยดาเจ้าและมหาพรหมทั้งหลายในเทวสภาล้วนอนุโมทนา จะได้ดีพร้อมรับความเจริญรุ่งเรืองแบบลืมตาอ้าปากชนิดฟ้าเปิดนั่นทีเดียว

    การสร้างนี้ท่านไม่ได้เน้นโชคลาภแบบฉาบฉวย เเต่ท่านเน้นให้มีลาภมากแบบมั่นคง ไม่ใช่ความโชคดีเล็กน้อยแต่ต้องถึงกับพลิกชีวิตสร้างโอกาส พ่ออาจารย์บอกว่าที่ท่านทำให้หนนี้ เวลาจะปรารถนาอะไรก็อธิษฐานเอานะ แค่เธออธิษฐานท้าวเวสท่านก็รู้แล้ว นี่นะเธอจำไว้ ท้าวเวสนี่ท่านดูแลสมบัติเทวโลกทั้งหมดรวมไปถึงทรัพย์ในดินทั้งหลายของโลกมนุษย์ด้วย ถ้าเธออยากเจริญเธออยากมีทรัพย์สินตราบใดที่เหยียบอยู่บนเเผ่นดินนี้ต้องขอกับท่าน เพราะเป็นหน้าที่ของท่านแบบตรงๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าเอาไว้ตั้งสัตย์อธิษฐานเปลี่ยนชีวิตเเต่อย่าปากยื่นปากยาวพูดพล่ามไร้สาระมากเพราะท่านไม่ใช่กุมารทอง อย่าเอามาเล่นเลยนี่เป็นของสูงไม่ใช่ของเล่น

    เมื่อกล่าวถึงท้าวเวสสุวรรณนั้น ก็นับว่ามีอะไรพิเศษที่ค่อนข้างจะผูกพันธ์กับพ่ออาจารย์ท่านอย่างแท้จริง ถึงขนาดไปเข้าฝันคนที่อยู่ไกลๆให้มาตามหาพ่ออาจารย์ให้ทำของให้ก็มีอยู่บ่อยๆ คนไม่รู้จักก็ไปตามอยู่หลายหนไปดลใจจนเค้าตามหาท่านก็เคยมีปรากฏมาเเล้ว พ่ออาจารย์ว่าท้าวเวสที่ท่านรู้จักนั้น เป็นท้าวเวสที่เกษมสำราญมีความสุข พระองค์อยู่ในประสาทของพระองค์แวดล้อมไปด้วยนางฟ้าที่สวยงามมากมายจนไม่สามารถนับองค์ได้เลยทีเดียว เหมือนเป็นยอดบุรุษที่อยู่เหนือสตรีนับแสนนับล้านอันมาปรากฏเกิดขึ้นในวิมานของพระองค์ ท่านว่าแวดล้อมกันยิ่งกว่าพญาเขาคำที่มนุษย์รู้จักเสียอีก และเเต่เดิมท้าวเวสเองก็เคยมีดำริตอนพ่ออาจารย์สร้างรูปท่านว่าไม่อยากให้ทำรูปยักษ์เพราะจะเเรงเกินไป ที่เป็นรูปยักษ์นั้นถ้าท่านจะทำก็คอยเอาไว้ทำให้คนดีเขาเอาไปใช้จะบอกกล่าวหรือขออะไรก็ล้วนเเต่ช่วยให้สำเร็จได้ทั้งนั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงทำท้าวเวสกายยักษ์หน้าเทพเพื่อให้มีบารมีสูงยิ่งกว่าเก่า ท่านว่าปู่เวสนี่ท่านทำได้ทุกอย่างอย่างเเม้เเต่ตามคนหาย พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนปู่โสมเฝ้าทรัพย์เลย เป็นเจ้าของสมบัติในเทวโลกไม่ว่าจะเทวดาวิมานไหนสวรรค์ชั้นไหนแม้แต่ระดับเทพบดีก็ยังต้องมารับทรัพย์รับการเเบ่งปันจากท้าวเวสสุวรรณทั้งนั้น ซ้ำยังเป็นผู้ควบคุมทรัพย์ในปฐพีหรือในแผ่นดินอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าตอนทำเทขึ้นรูปเอามาเชิญองค์ท่านลงเเล้ว ต้องเจรจากันอยูู่พักใหญ่เลยทีเดียวเพราะคิดเเต่ว่าคนเอาไปใช้เขาจะต้องได้ดีไม่ติดปัญหาอุปสรรคอะไร ต้องมั่งมีได้ตามใจนึก ก่อนจะลงอาถรรพ์ครอบไว้อีกครั้งหนึ่ง

    การทำท้าวเวสสุวรรณครั้งนี้ พ่ออาจารย์ท่านมีดำริใช้ผงสองชนิดมาปสมเข้ากันเพื่ออุดไว้ด้านหลังองค์พระ ท่านว่าเฉพาะผงสองอย่างนี้ก็นับว่าแรงที่สุดในโลกเหมาะแก่สายวิชาท่านท้าวแล้ว
    - ผงแก้กลมหาปราบโลก พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือสุดยอดผงที่เป็นทั้งมหาปราบได้ทั้งโลก ทั้งยังแก้กลคุณวิชาอาเพทและเคราะห์กรรมการกระทำด้วยไสยเวทย์แลภูติผีต่าง ท่านว่าทำยากมาก ต้องใช้ว่านแสงอาทิตย์ ว่านไพรเหลือง ไพรดำ ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ขมิ้นขาว ขมิ้นดี ขมิ้นทอง หมุยดำ หมุยขาว หมุยช้าง เฉียงพร้า หนามแสงขัน หนามเพดาษ หนามงับ ระงับใหญ่ ข่าตาแดง ขิง พริกไทย เจ็ตมูลเพลิง บอระเพ็ช ว่านน้ำ พัดแม่ชี หมากผู้ ปด บอน หิ่งหายผี บังบาย หนาด เข็ดมอญ หญ้าคา ว่านโมกขศักดิ์ ว่านมหาปราบ ว่านพะตะบะ ว่านสามพันตรึง ว่านหนุมาน ว่านนางคุ้ม ว่านสากเหล็ก หนามจันทัน หนามบ้อง ชิงชาลี ธรณีสาร ส้มป่อย คนทีดำ งิ้วดำ งิ้วขาว เปราะลาย พญาว่าน กำแพงเจ็ดชั้น ใบมะกรูด ใบมะนาวผงยันต์พระเจ้าสิบหกพระองค์ ผงงาช้าง ผงเขี้ยวต่างๆ ผงเขาวัวเขาควาย ผงปรายหอกปลายดาบ ข้าวสาร๓สี ตะใคร่เสมา ตะใคร่เจดีย์ ผงชันเพ็ช นำผงเครื่องยามานวดด้วยน้ำฝนเดือนห้าห่าแรก น้ำฝนตกแดดออก น้ำสามบึง น้ำสามบ่อ น้ำสามสระ น้ำค้าง น้ำกาไม่ทันข้าม ก่อนนำมาเข้ากับผงลำผีพ่าย ผงไล่ผีหนี ผงตีผีตาย ผงยันต์ตรีนิสิงเห ผงยันต์นอโม ผงยันต์อิติโปโสแปดทิศ ผงยันต์ไตรสรณคมณ์ ก่อนที่พ่ออาจารย์จะปั้นแท่งผงเพื่อลงยันต์แก้กลมหาปราบโลก เมื่อได้ผงวิเศษแล้วท่านได้นำผงนี้เข้าพิธีกองกูณฑ์อัคคีหรือบูชาไฟถวายแก่ครูพระสยมอีกวาระหนึ่งเพื่อให้มีอิทธิคุณแรงกล้าสูงสุด ***ผงยานี้มีอานุภาพแรงมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ได้ทั้งแก้คุณไสย แก้ของ แก้มนต์ดำ แก้ผีขับไล่วิญญาณร้าย แก้ภูต แก้พราย ใช้แก้สารพัดผี แก้มนต์ แก้อาถรรพ์ แก้อาเพท แก้อุบาทว์ แก้เสนียดจัญไร แก้เสน่ห์ยาแฝด แก้ยาสั่ง แก้ยาพิษ แก้มนต์บังตาร้านค้า แก้อาถรรพ์ที่บังเกิดในแผ่นดิน แก้คุณไสยที่เข้าทำไว้ในแผ่นดิน แก้ที่ทาง แก้ที่ดินเป็นอาเพท แก้อาคมลมใน แก้โรคร้ายต่างๆที่เกิดจากสิ่งที่มองไม่เห็นตัว แก้อาถรรพ์ทั้งมวลในแผ่นดินที่ดลให้ทำมาหากินไม่ขึ้น โชคลาภติดขัด วาสนาไม่ผลิดอกออกผล ผงนี้มีอานุภาพมา่กพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้ป่าช้าผีดุหากนำผงนี้ซัดเข้าไปป่าช้านั่นก็ย่อมร้างทันที
    - ผงพลองตีเทพ ตามคติเก่าก่อนเชื่อกันว่าองค์ท้าวเวสสุวรรณนั้นมีไม้กระบองค้ำยันพระวรกายเอาไว้ กระบองของท้าวเวสสุวรรณนี้มีอำนาจมากเเม้พระองค์ปล่อยออกจากมือก็สามารถลอยไปทุบศรีษะยักษ์นับพันให้เเตกตายได้ในพริบตาถือเป็นหนึ่งในสุดยอดอาวุธของเทวโลก เป็นที่ยำเกรงไปทั่ว วิชาทำกระบองนั้นสมัยท่านเป็นหนุ่มนั้นท่านว่าตัวท่านได้พบกับฆราวาสท่านหนึ่งหลบผู้คนไม่สนใจโลก ทำตัวเหมือนขอทานเป็นคนเเก่ๆทั้งที่มีฐานะรุ่งเรืองมาก เเต่ทั้งนี้คุณตาคนนี้มีดีถึงขนาดเป็นลูกศิษย์ที่หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ถ่ายทอดวิชาทุกอย่างให้ ท่านได้ไปร่ำเรียนกับคุณตาท่านนี้ ท่านว่าคุณตาท่านนี้มีไม้ครูอยู่เล่มนึง ยาวกว่าเเขน ห่อผ้าไว้มิดชิด ด้ามทำด้วยงา เป็นรูปกระบองยักษ์ท้าวเวสสุวรรณตัวกระบองนี้เป็นของใช้ตกทอดมาเเต่หลวงพ่อเดิม กระบองนี้ดีเเค่ไหนไม่รู้แต่เเค่นำมาเเตะหัวคนบ้าวิกลจริตกลายเป็นคนธรรมดาปกติได้ เเละใครดูถูกท่านก็โดนเเตะให้กลายเป็นคนบ้าวิกลจริตได้เช่นกัน ท่านว่านี่แค่แตะนะ พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้รับสืบทอดกระบองไว้ เเต่ท่านเรียนวิชาการทำกระบองตามแบบหลวงพ่อเดิมนี้ไว้ทั้งหมด และในกาลนั้นท่านก็ได้ขอตะไบเศษผงกระบองท้าวเวสสุวรรณด้ามครูมาเก็บรักษาไว้ด้วยโดยเรียกผงนี้ว่าผงพลองตีเทพ(ตรงตามชื่อคือใช้ตีได้แม้แต่เทพ) ท่านว่าวิชาทำกระบองของหลวงพ่อเดิมนั้นท่านจำกัดคนรับอย่างยิ่งต่างจากมีดหมอ จะเห็นว่าทอดสายตาไปทั่วแผ่นดินแล้วย่อมไม่มีปรากฏอีก ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเอาผงกระบองครูวิชาอันท่านหวงแหนไว้มาให้ใช้ ท่านว่าเมื่อเราบูชาไม่ต้องกลัวเทวดาเกเรจะมาให้โทษเพราะเขากลัวอาญาสิทธิ์เฉียบขาดของกระบองนี้ ยักษ์ อสูร รากษสอันธพาลทั้งหลายยิ่งอยู่ไกล เรื่องภูติผีนี่ไม่ต้องกลัวเลย มั่นใจได้ว่าอยู่คนละที่กับเราเเน่นอน ทั้งนี้กระบองค้ำกายท้าวเวสสุวรรณให้นั่งบัลลังค์ได้มั่นคงฉันใด ผู้ใช้ก็ได้ดีมั่นคงเหมือนมีพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่มาเป็นรากฐานค้ำจุนเราดุจเดียวกันฉันนั้น ไม่ได้กล่าวเกินจริงเลย


    พ่ออาจารย์ท่านนำผงวิเศษทั้งสองชนิดนี้มาผสมกันเพื่ออุดไว้หลังท้าวเวสรุ่นนี้ ท่านว่าหนึ่งก็ทำยากอีกหนึ่งก็คือประวัติศาสตร์เป็นตำนานอย่างแท้จริง เมื่อนำผงมาเข้ากันแล้วท่านว่าผงวิเศษเช่นนี้ย่อมไม่เกิดมีขึ้นอีก ท่านจะทำผงนี้เพื่อสร้างท้าวเวสรุ่นนี้โดยดำริว่าเราจะทำให้หนเดียว

    นอกจากนั้นด้านหลังท่านยังฝังตะกรุดสำคัญที่มีชื่อว่าตะกรุดท้าวเวสสุวรรณรับสาสน์วิชาของพราหมณ์โบราณลงไว้ด้วย ...ตะกรุดนี้สำคัญนัก คำขอและคำอธิษฐานใดๆก็ดีที่ผู้ศรัทธาได้อธิษฐานบูชานั้น ส่วนใหญ่เมื่อไหว้และอธิษฐานใจแล้วก็มักจะไปถึงเหล่าเทพบริวารที่องค์เทพชั้นสูงนั้นมักจะให้ดูแลรูปเคารพตน เรียกได้ว่ายากหรือไม่มีโอกาสเลยที่คำอธิษฐานนั้นจะไปถึงองค์เทพที่เราศรัทธา บางคราเทพบริวารทั้งหลายก็จะใช้ให้บริวารตนดูแลอีกต่อหนึ่ง ดังนั้นสิ่งที่หวัง คำที่ขอ ยิ่งมองก็ยิ่งไกลออกไป เพราะเหล่าเทพบริวารทั้งหลายมักจะไม่ใส่ใจหรือเอาเป็นกิจธุระในการบนบอกของมนุษย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาที่ท่านทำตะกรุดเฉพาะทางฝังให้หนนี้ เราบอกได้แค่สั้นๆว่าความปรารถนาใด การบูชาใดก็ดี ล้วนเสมอด้วยเธอถวายสาสน์ขึ้นถึงมือท้าเวสสุวรรณโดยตรง เธอผู้ศรัทธามอบให้ถึงมือโดยไม่ผ่านมืออื่นใด พูดภาษาบ้านเราก็คือไม่ถูกปิดกั้น ไม่โดนดองเอาไว้ ทำให้ติดต่อสื่อสารบนบอกกับพระองค์ท่านได้ วิชานี้แต่เดิมสำหรับผู้ทรงญาณมักเอาไว้สื่อสารทางวาระจิตกับองค์ท้าวเวสสุวรรณโดยตรงสืบทอดกันมาเป็นศาสตร์เฉพาะนับพันปี แต่หนนี้พ่ออาจารย์ท่านได้อนุโลมนำมาทำเป็นตะกรุดฝังไว้ เพื่อตั้งใจให้คนที่ศรัทธาได้บูชาท้าวเวสสุวรรณที่เป็นท้าวเวสจริงๆไม่ใช่ยักษ์หรือเทพบริวาร

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหนนี้เราทำให้อย่างเต็มที่ จัดเครื่องเซ่นสรวงปลุกเสกด้วยโองการต่างๆของพราหมณ์โดยต้องสรรเสริญพระผู้เป็นเจ้าและอัญเชิญพระญาณธาตุอากาศขององค์ท้าวเวสสุวรรณมาสถิตย์ในมหาธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นรูปกายท่านทีละองค์จนเต็มจิตเต็มภูมิ ท่านว่าหนนี้เน้นทุกด้านให้คนใช้เปิดดวงเศรษฐี เสริมทรัพย์ ดูดโชคลาภ ล้างอาถรรพ์แก้เหตุกลวิบัติอันมืดดับในชีวิตทั้งปวง ทั้งยังเป็นเสน่ห์เมตตามีคนรักรุมล้อม มีวาสนาดึงดูดตามแต่จะปรารถนาอธิษฐานทุกประการ ท่านว่าเอาไปใช้อาราธนาดูแล้วจะรู้ว่าท้าวเวสจริงๆนั้นเป็นอย่างไร จิตท่านเมตตาห่วงลูกหลานขนาดไหนก็ให้เอาจิตเราลองรองรับไว้ด้วยตนเอง แล้วจะรู้จะเห็นด้วยตนเอง

    คาถาบูชา
    โอมนะโม มหาเวสสุวรรณโณ มหาไตรโลโกทิพจักขุง มหาไตรโลกานัง มหาภูเตรสาวะกัง ทิพพะมันตัง อรหังพุทโธ นะโมพุทธายะ เวสสะพุสะ นะมะพะทะ อรหัง อะสังวิสุโลปุสะพุภะ มะอะอุ อิสวาสุ สุสวาอิ อิติอิติ มหาเทวัง มหายักขัง ปัตตโลกัง มหาอิทธิฤทธิ อิทธิฤทธัง อรหังประสิทธิเม (ระลึกถึงท้าวเวสสุวรรณเป็นที่สุด)


    *** ท้าเวสสุวรรณนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าให้บูชาตามสถานการณ์อำนวย เอาไว้รักษาตัวคุ้มเนื้อคุ้มกาย เติมเต็มวาสนามหาลาภและทรัพย์สมบัติ ทั้งนี้ถ้าจะให้เห็นผลทันตาท่านว่าอันนี้จำไว้ทำได้ก็ดีกับตัวอย่างมากหนึ่งคนควรอาราธนาเป็นคู่ จำไว้ให้ดีองค์หนึ่งติดคอเอาไว้ตลอดเพื่อเปิดทางโชคลาภวาสนาและเอาไว้อธิษฐาน อีกองค์หนึ่งให้เราทำที่เก็บเงินของเราจริงๆจะเป็นกล่องเป้นตู้เป้นลิ้นชักอะไรก้ได้นำเงินทองสมุดบัญชีของมีค่าพวกแก้วแหวนทองคำอะไรก็ตามที่เป็นทรัพย์สมบัติของเราไปเก็บรักษาไว้ตรงนั้นและนำท่านอาราธนาทับถมไว้ อธิษฐานบอกท่านว่านี่คือคลังสมบัติของลูก ขอให้คลังนี้เป็นคลังสมบัติที่ลูกจะตักใช้เท่าไหร่ก็ไม่พร่อง เป็นคลังที่หามาถมเท่าไหร่ก็ไม่มีวันเต็ม ขอให้ท่านพ่อท้าวเวสสุวรรณรับเป็นธุระจัดการคลังนี้ เป็นโสมเฝ้าทรัพย์ ขอท่านพ่อมาช่วยแสวงหาลาภสักการะหาทรัพย์ทั้งหลาย นำทรัพย์ทั้งหลายมาให้ลูก ไม่ว่าจะทางตรงก็ดี ทางอ้อมก็ดี ไม่ว่าจะมาจากทิศทางใดทั้งจตุปัจจัยหรือลาภลอยทุกทาง ก็ให้มาถมที่คลังของลูกนี้จวบจนครบกำหนดอายุขัยของลูกสืบไป พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์หนึ่งอยู่ที่คอ อีกองค์เฝ้าคลังเช่นนี้จะให้ผลมากแต่หากมีเหตุหรือสถานที่อาถรรพ์ใดก็ควรอาราธนาท่านฝังเอาไว้ล้างอาถรรพ์ในที่นั้นด้วยเพราะยาแก้กลนี้ทำไม่ง่ายเลย ท่านว่าพิจารณาใช้ตามแต่จะเห็นสมควร จะติดบ้านไล่อาถรรพ์ทางสามแพร่งหรือเสาไฟฟ้า ปัดรังความภูติผีปีศาจไว้ตรงประตูหน้าต่างก็สุดแต่จะใช้

    ร่วมทำบุญบูชา รูปหล่อเทวราชันท้าวเวสสุวัณรับสาสน์(อุดผงแก้กลมหาปราบโลก ผงพลองตีเทพ) บูชา 2,500 บาท

    37303526_2247214708898271_1365253404842000384_n.jpg 37304894_2247214688898273_7628429098192207872_n.jpg
    37423480_2247214628898279_1905785282540601344_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กรกฎาคม 2018
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สุรวุฒิ EV 0225 1995 4 TH

    พี่นฤชา EV 0225 1996 8 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EV 0225 1997 1 TH
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ช่วงสองวันนี้เวปใช้ไม่ค่อยได้ แต่ก็ยังมีคนติดตามรายการพ่อท้าวเวสอยู่ รู้ว่าเข้ามาตอบไม่ได้ก็ยังทักไลน์หรือโทรมาหากลัวไม่ได้สิทธิ คนตาดีเค้าว่านั่งมองแต่เช้าแล้ว พ่อท้าวเวสของอาจารย์ดีทุกด้านแน่ๆ มองมาเขาว่าเห็นพ่อยักษ์เดินลากหีบสมบัติใบใหญ่สว่างทั้งตานอกตาใน เค้าว่าเห็นกับตามาแบบนี้จะนิ่งได้ยังไงเลยต้องรีบทักไลน์มาเล่า ใครที่รอท้าวเวสรุ่นนี้ไม่ผิดหวังแน่นอนเค้าว่าแรง;)
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พูดคุยยามเช้า

    อรุณสวัสดิ์ครับ เช้าวันนี้ก็จะขอนำบทความเกี่ยวกับเรื่องการบนหรือการบอกกล่าวและแก้บนท้าวเวสสุวรรณด้วยวิธีต่างๆมาลงไว้ เผื่อใรติดขัดด้านไหนที่ตรงกับตัวเองจะได้ลองทำกัน

    หากท่านมีปัญหาในการใช้ชีวิต ซึ่งมีความติดขัดในหลายประการไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร สำหรับคนที่แก้ไขด้วยตนเองแล้วยังไม่ดีขึ้นสักที ทั้งเรื่องการงาน การเงิน โชคลาภ ขอแนะนำให้ท่านบนบานศาลกล่าวหรือไหว้แล้วขอต่อท่านท้าวเวสสุวรรณ

    โดยวิธีนี้ท่านสามารถไหว้ได้เองที่บ้าน โดยใช้สื่อเป็นรูปเคารพท่านที่เชื่อถือได้

    กระทำดังนี้
    ให้ท่านอาบน้ำแต่งกายให้สะอาดสุภาพ จากนั้นให้เข้าห้องพระสมาทานศีล5 จากนั้นจึงสวดมนต์โดยสวดบุชาพระรัตนตรัย พาหุง ชินบัญชร แล้วให้ท่านเตรียมธูปหอมมา9ดอก พวงมาลัยควรเป็นดาวเรืองหรือกุหลาบ1พวง แล้วให้จุดธูปหอมและพนมมือสวดพระคาถาท้าวเวสสุวรรรดังนี้
    นะโมฯ 3 จบ
    จากนั้นสวดคาถาบูชาท้าวเวสสุวรรณ
    อิติปิโสภะคะวา ยมมะราชาโน ท้าวเวสสุวรรณโณ มะระณัง สุขัง อรหัง สุคะโต นะโมพุทธายะ ท้าวเวสสุวรรณโณ จาตุมะหาราชิกา ยักขะพันตาภัทภูริโต เวสสะ พุสะ พุทธัง อะระหังพุทโธ ท้าวเวสสุวรรณโณ นะโมพุทธายะ
    สาธุ... ลูกชื่อ...... นามสกุล.......อาศัยอยุ่บ้านเลขที่......... ขอกราบกรานองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งหมด และกราบขอบารมีองค์เสด็จปู่ท่านท้าวเวสสุวรรณผู้เป็นมหาราชที่ยิ่งใหญ่ทางทิศเหนือ เป็นผู้ดูแลและรักษามนุษย์ในพระพุทธศาสนาขออัญเชิญเสด็จมารับการกราบไหว้บูชาของพวกลูกเหล่านี้ เมื่อเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณได้ทรงรับทราบแล้วโปรดประทานพรให้ลูกๆและครอบครัว ประสบแต่สรรพสิริมงคล อุดมโชคลาภ และขอให้เสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณได้โปรดอภิบาลให้ลูกๆและครอบครัวปราศจากภัยทั้งหลาย อันตรายทั้งปวงตลอดไปด้วยเทอญ
    (หาก มีความทุกข์เรื่องใดๆจะบนก็ให้กล่าวดังนี้)เนื่องจากตอนนี้ลูกมีทุกข์ มีเคราะห์เรื่อง...............................ลูกจึงกราบขอบารมีเสด็จปู่ท่านท้าวเวสสุวรรณได้โปรดช่วยปัดเป่าทุกข์หรือเคราะห์ เรื่อง..................................... ลูกขอพึ่งบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และท่านท้าวเวสสุวรรณตลอดจนเทพบริวาร ด้วยเทวานุภาพขอให้เรื่อง…...........ลูกขอบนท่านด้วยเมื่อสำเร็จผลลูกจะทำกุศลถวายให้ ขอเสด็จปู่ท้าวเวสสุวรรณได้โปรดอนุเคราะห์ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ

    การบนบานนั้นหากบนบานในเรื่องสำคัญต้องปฏิบัติตามนี้
    1. บนเรื่องการงาน ให้ท่านบนด้วยสังฆทานหนึ่งชุด ในสังฆทานให้มีรองเท้าพระ 1 คู่ อาสนสงฆ์ 1 ผืน พระพุทธรูป 1 องค์ เข็มกับด้าย 1 ชุด

    2. บนเรื่องการเงินให้ท่านบนด้วยสังฆทานหนึ่งชุด ชำระหนี้สงฆ์ 100 บาท หรือถวายพระพุทธรูป 9 นิ้ว

    3. บนเรื่องความรักครอบครัวให้บนด้วยการถวายดอกกุหลาบแดง บูชารูปปั้นท่านท้าวเวสสุวรรณที่ตนบูชาหรือตามวัดก็ได้ 9 ดอก ถือศีลแปดวันที่เราเกิดและวันพระ

    4. บนเรื่องความเจ็บป่วยและสุขภาพ ให้ท่านบนด้วยการถวายหนังสือสวดมนต์(ยิ่งเป็นบทสวด7ตำนาน12ตำนานยิ่งดี)ถวายวัดไหนก็ได้ ปล่อยปลา(กี่ตัวก็ได้)

    5. บนเรื่องการเรียน ให้บนด้วยการทำบุญสร้างพระไตรปิฏกหรือจะถวายเป็นค่าเล่าเรียนสงฆ์และสามเณรในวัดที่มีพระสงฆืเรียนพระปริยัติธรรมก็ได้

    6. บนเรื่องสอบบรรจุ สอบเข้าทำงาน และเลื่อนตำแหน่งหรือโยกย้ายให้บนด้วยสังฆทาน 1 ชุด เก้าอี้ 1 ตัว ร่มถวายสงฆ์ 1คัน

    ข้าวของทุกชนิดในการบนแต่ละอย่าง เมื่อท่านได้ดังปรารถานาแล้วจึงให้ไปทำบุญ ถวายวัดไหนก็ได้ที่เป็นวัดในศาสนาพุทธ แล้วกรวดน้ำอุทิศกุศลถวายท้าวเวสสุวรรณและบริวารที่ท่านเมตต่าสงเคราะห์เรา

    ทุกเรื่องกำหนดการคือไม่เกิน 3 เดือนเห็นผล การถือศีลแปดถือที่ไหนก็ได้ ขอให้ถือครบในตัวศีลเป็นพอ ***การบนต้องเป็นเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรม เทพเทวดามีจริง ไม่ได้ทอดอาลัยหรือทิ้งมนุษย์ หากแต่มนุษย์ระลึกถึงโดยความไม่ถูก ไม่เหมาะสม จึงไม่ได้รับการสงเคราะห์

    การให้บนเช่นนี้คือให้ทำบุญด้วยตนเอง จะได้ไม่ติดหนี้บารมีเทพ เทพนั้นสงเคราะห์คนไม่ได้หวังผลใดๆ เพราะจิตถึงความเป็นเทวะแล้ว ไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องมาเรียกร้องพึ่งกินของเซ่นสรวงสังเวยหรือไม่ได้เรียกร้องให้ใครมากราบไหว้ยกย่อง พวกที่ให้ไปยกย่องหรือกราบกรานโดยพิธีรีตรองแปลกๆ ให้ตรองดูเถิดว่าใช่วิถีเทวดาไหม


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EV 0225 5452 8 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ตอบ PM ครบนะครับ พรุ่งนี้มาติดตามพูดคุยกันห้ามพลาด
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    มีดหมอ

    อรุณสวัสดิ์ครับ ก็มีเล่าเรื่องท้าวเวสกันเข้ามาด้วย พี่ท่านนี้ที่นัดรับพระไปเขาบอกว่าท้าวเวสมาหาพี่ในฝันสอนคาถาที่ใช้เวลาต้องการสื่อสารกับท่านพร้อมการกำหนดอารมณ์แต่สั่งไว้ว่าห้ามบอกใครต่อ * จากที่เล่ามานี่ก็เชื่อได้สนิทใจเลยว่าท้าวเวสของพ่ออาจารย์ท่านมีตัวตนชัดเจนดีเพราะมีคนบอกว่าเห็นสองคนแล้ว คนแรกเห็นทั้งที่ยังไม่ได้จองด้วยซ้ำ

    ก็จะนำพูดคุยกันในเรื่องของมีดหมอ โดยยกบทความมีดหมอของหลวงพ่อเดิมมาให้อ่านกันรอบเช้านะครับ

    มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นเป็นมีดหมอที่มีความศักดิ์สิทธิ์ อาถรรพ์ มีพลังความสามารถพิเศษในการปกป้องสิ่งชั่วร้ายต่างๆ ซึ่งมีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นจะมีอานุภาพที่ต่างกันไปกับมีดเหล็กน้ำพี้ มีดเหน็บ มีอรัญญิก มีดพับ และวัคถุมงคลชนิดอื่นๆ แต่อาจจะมีความคล้ายคลึงกันบ้างในพลังอำนาจในบ้างข้อ วิธีและขั้นตอนการใช้งานก็มีความแตกต่างกันออกไป เรามาดูกันว่าวิธีการใช้งานมีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นจะต้องทำอย่างไรบ้าง

    ก่อนใช้งานมีดหมอหลวงพ่อเดิมต้องการท่อง “นะโมพุทธายะ” จากนั้นมาดูว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมมีอานุภาพทำอะไรได้บ้างตามข้อดังต่อไปนี้

    1. มีดหมอหลวงพ่อเดิมเป็นมีดที่มีความศักดิ์สิทธิ์สามารถป้องกันคุณไสยความชั่วร้ายหากว่าพกมีดหมอหลวงพ่อเดิมติดตัวอยู่ไม่ต้องกังวลเลยว่าใครจะมีทำอะไรหรือว่าลงคุณไสยเพื่อเป็นการย่ำยีทำลาย หมดห่วงเรื่องนี้ได้เลยมีดหมอหลวงพ่อเดิมช่วยเอาไว้ได้

    2. มีดหมอหลวงพ่อเดิมมีพลังอานุภาพในการปกป้องดีแลตัวเองได้ และดูแลผู้เป็นเจ้าของมีดหมอหลวงพ่อเดิมให้พ้นขาดศัตรูที่หวังปองร้ายพ้นจากมหาอำนาจที่รุนแรงคิดจะทำลายเจ้าของ มีดหมอหลวงพ่อเดิมเป็นมหาอำนาจ เมตตา แคล้วคลาด และที่สำคัญมีดหมอหลวงพ่อเดิมยังมีความเป็นมหาอุตมหาอุตม์อีกด้วย

    3. มีดหมอหลวงพ่อเดิมสามารถมีพลังในการขับไล่จำพวกภูตผีและปีศาจร้ายต่างๆที่หวังจะเข้าทำร้ายคนธรรมดา หรือจะเป็นผีที่ที่มีเจ้าของถูกปล่อยมาเพื่อให้เข้าสิงร่างก็ตาม มีดหมอหลวงพ่อเดิมสามารถขับไล่ไปได้อย่างง่ายดาย

    4. มีดหมอหลวงพ่อเดิมสามารถนำมาอารธนาแล้วทำเป็นน้ำมนต์ที่มีความศักดิ์สิทธิ์อิทธิฤทธิ์แข็งแกร่งนำมาใช้แก้คุณไสยที่แรงกล้า ขับไล่พวกเสนียดจังไรไม่ให้เข้ามาหาคนและทำให้ฝันร้ายไม่เกิดขึ้นได้อีกด้วย ถือว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมมีพลังวิเศษที่ไม่ธรรมดามากๆ

    5. มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นมีพลังอานุภาพในการที่จะช่วยแก้ในเรื่องของอาถรรพ์รุนแรงและความคงกระพันต่างๆนาๆได้ แม้ว่าผู้นั้นจะมียันต์สักอยู่เต็มตัวและเป็นยันต์ที่มีความแข็งแกร่งมากเพียงใดที่ทำให้ผู้นั้นมีความคงกระพันมีดหมอหลวงพ่อเดิมสามารถทำลายความคงกระพันนั้นได้อย่างง่ายดาย หรือจะเป็นการกินว่านของดีอื่นๆ แต่เมื่อเจอกับใดหมอหลวงพ่อเดิมก็ยังต้องยอมสยบเพราะว่าความขลังเหล่านั้นจะค่อยๆหมดลง ต้องยอมรับในความมีอานุภาพของมีดหมอหลวงพ่อเดิมในข้อนี้จริงๆถือว่าเยี่ยมยอดมากในหมู่วัตุถุมงคลด้วยกันเอง

    6. มีดหมอหลวงพ่อเดิมมีหลากหลายด้ามและฝักในตัวด้ามนั้นก็มีความศักดิ์สิทธิ์รวมอยู่ด้วยเช่นกัน และนำที่ใช้ในการล้างใบมีดหมอหลวงพ่อเดิมจะเป็นน้ำที่ช่วยในการแก้พิษจากสัตว์ร้าย จำพวกแมลงสัตว์กัดต่อยต่างๆได้ดี วิธีใช้คือนำเอาน้ำล้างมีดหมอหลวงพ่อเดิมไปทาตรงบริเวณที่ถูกแมลงกัดต่อยจะค่อยๆบรรเทาอาการลงและหายดี

    7. มีดหมอหลวงพ่อเดิมมีพลังความสามารถพิเศษในการป้องกันสัตว์มีพิษ อรพิษ ทั้งหลายทั้งปวง รวมไปถึงเขี้ยวและงาต่างๆด้วย หากไปในที่เสี่ยงต่อการมีสัตว์มีพิษนั้นให้นำเอามีดหมอหลวงพ่อเดิมติดต่อไปด้วยและพกอยู่ตลอดเวลาจะช่วยขับไล่และป้องกันอันตรายจากสัตว์มีพิษเหล่านั้นได้อย่างดี

    8. มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นจะมีข้อพิเศษและแปลกอยู่อย่างหนึ่งคือข้อนี้คือการไม่ทำลายซึ่งกันและกัน ใครที่เป็นเจ้าของมีดหมอหลวงพ่อเดิมอยู่นั้น มีดหมอหลวงพ่อเดิมจากเจ้าของคนอื่นก็จะไม่มีอานุภาพในการทำร้ายคนที่มีมีดหมอเหมือนกัน เพราะว่าถือว่าเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันจักต้องไม่ทำร้ายไม่ทำลายกันเอง ถือว่าเป็นข้อดีอีกข้อของมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่น่าสนใจไม่น้อย

    9. มีดหมอหลวงพ่อเดิมหากนำมาบูชาและเก็บไว้บูชาที่บ้านจะทำให้บ้านหลังนั้นปลอดภัย เพราะมีดหมอหลวงพ่อเดิมจะช่วยในการป้องการโจรขโมยที่จะขึ้นบ้าน ป้องกันไม่ให้เกิดอัคคีภัย หากว่ามีการอารธานาแล้วเมื่อจะมีภัยเกิดขึ้นจะทำให้รู้ตัวก่อน จึงทำให้ปลอดภัยได้

    10. มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นเวลาที่จะเดินทางไกลให้พกติดตัวไปด้วยเพราะว่าเป็นการเดินทางไปในถิ่นที่ไม่ใช่บ้านของตนเองอาจจะมีหลายอย่างซ่อนเร้นอยู่แต่เรามองไม่เห็น หรือแม้จะทั่งจะออกไปในกลางป่ากลางเขาก็ต้องพกเอาไปด้วยแต่ว่ากรณีที่พกเข้าป่าแล้วต้องนอนกลางป่ากลางดินให้เอาปลายมีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นทำหารขอขมาต่อพระแม่ธรณีก่อน เมื่อขอขมาแล้วให้ใช้ปลายมีดขีดเป็นเส้นรูปสี่เหลี่ยมหรือจะเป็นวงกลมก็ได้ก็ได้โดยจะต้องขีดรอบๆตัวเองในบริเวณที่จะนอนในเวลานั้น จำพวกสัตว์ร้าย มด แมลง รวมไปถึงผี ปีศาจร้ายต่างๆจะไม่ย่างกรายเข้ามาใกล้ทำให้นอนหลับสนิทอย่างสบายใจ

    11. มีดหมอหลวงพ่อเดิมสามารถคุ้มกันปกป้องเจ้าของได้ทั้งบนบกและในน้ำ หากมีเหตุให้ต้องลงไปในน้ำที่ไม่รู้ว่าจะมีอะไรอันตรายอยู่ใต้น้ำบ้าง เวลาที่ลงไปให้ทำการชักมีดหมอหลวงพ่อเดิมออกมาจากฝักและคาบเอาไว้ที่ปากค่อยข้ามแม่น้ำนั้น หรือว่าจะคาบทั้งๆที่อยู่ในฝักก็ได้ช่วยได้เหมือนกัน หรือหากไปเป็นการเดินข้ามไม่คาบมีดหมอเอาไว้ก็ใช้วิธีการใช้มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นโบกน้ำนำหน้าตัวเองไปก่อน มีดหมอหลวงพ่อเดิมจะป้องกันไม่ให้สัตว์ร้ายที่อยู่ในน้ำนั้นมาทำร้ายได้ ทั้งนี้รวมไปถึงผีพราย และอื่นๆที่จะทำอันตรายในน้ำให้ออกห่างไปจากตัวเจ้าของมีดหมอหลวงพ่อเดิม

    12. มีดหมอหลวงพ่อเดิมนอกจากจะช่วยป้องกันอันตรายจากภายนอกและรอบด้านแล้วนั้น หากว่าเป็นฝีร้ายเจ็บปวด เป็นฝีหนอง ทรมาณ หรือว่ากำลังเริ่มเป็นฝีอยู่ วิธีใช้มีดหมอหลวงพ่อเดิมในการแก้ฝีนั้นนำเอาปลายแหลมๆของมีดหมอหลวงพ่อเดิมวนเบาๆตรงบริเวณที่เป็นฝีจากนั้นก็ให้ระรึกถึงหลวงพ่อไปด้วยและเป่าลมลงไป หากเริ่มเป็นใหม่ๆฝีนั้นจะค่อยๆยุบลง แต่ถ้าหากว่าเป็นมากแล้วจนเป็นฝีกลัดหนองให้ใช้มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นยกขึ้นมาอยู่ที่ด้านบนหัวฝีและทำการผ่าฝีหนองบนอากาศ ปาดสลับกันไปมาเป่าลมและระลึกถึงหลวงพ่อไปด้วย ไม่นานเกิน 3 วัน ฝีหนองนั้นก็จะแตกออกแต่จะไม่เป็นอันตรายไม่เป็นพิษ

    13. มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นมีความสามารถในการแก้พิษยาเบื่อ ยาสั่งอื่นๆได้ ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารแปลกๆหรืออาหารที่คาดว่าจะมียาพิษก็ให้ใช้ด้ามมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่เป็นด้ามงานั้นจุ่มลงไปในชามอาหารนั้นจากนั้นก็ดูว่างากลายเป็นสีอะไร ถ้าเป็นสีดำอย่าได้ทานเด็ดขาดเพราะว่ามียาพิษอยู่เต็มๆ แต่ว่าหากเมื่อเราได้เผลอทานเข้าไปแล้วเรียบร้อยออกมาการแพ้ของพิษตามมาวิธีการแก้ก็หมอหลวงพ่อเดิมออกมาจากฝักมีดจากนั้นก็อารธนาจิตคิดถึงหลวงพ่อแล้วทำการแกว่งมีดนั้นลงไปในน้ำหรือเครื่องดื่มในแก้วน้ำ ขันน้ำ เพื่อเป็นการแพ้พิษ จะช่วยให้บรรเทาอาการได้ดีหลังจากนั้นก็พบแพทย์ตามปกติ

    14. มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นจะช่วยได้เมื่อถูกบมพัดลมเพ หรืออะไรก็ตามที่มาตามอากาศทำให้เกิดอาการแพ้ บวมแดงตามตัว หลายจุดวิธีแก้ก็ให้เอามีดหมอหลวงพ่อเดิมทำการอารธนาแล้วนำมาทเป็นน้ำมมนต์โดยต้องไม่ลืมระลึกถึงหลวงพ่อจากนั้นเอามีดหมอหลวงพ่อเดิมออกจากฝัก แล้วนำมาไล่หก้อนที่ทำให้บวมนั้นออกไปยิ่งถ้าเป็นก้อนที่ถูกปล่อยออกมาตามอากาศก้อนบวมจะสามารถหนีมีดหลวงพ่อเดิมเองได้ ก็ให้เอามีดหลวงพ่อเดิมนั้นไล่ก้อนไปเรื่อยๆจนไปสุดที่ปลายนิ้วมือหรือว่าปลายเท้า ก้อนนั้นก็จะออกไปแต่ว่าถ้าหากว่าไล่ยังไงก็ไม่ไป มี่อะไรเกิดขึ้นเลย นั่นแปลว่าก้อนนั้นไม่ใช่ของที่ถูกปล่อยออกมาแต่เป็นไปเองโดยธรรมชาติ ไม่ต้องไล่เพราะว่าไม่นานนั้นก้อนบวมก็จะหายไปเอง แต่ว่าหากมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่ใช้นั้นเป็นของปลอมขึ้นมาแล้วก้อนบวมนั้นเป็นของจริงก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นเหมือนกันต้องพึงระวังให้ดีเวลาซื้อมีดหมอหลวงพ่อเดิมต้องหาของแท้ที่แน่นอน

    มีดหมอนั้นไม่ว่าจะเป็นมีดหมอหลวงพ่อเดิมมีดหมออื่นๆจะถูกสร้างจากวัสดุต่างกันไป และมีชื่อเรียกไปตามส่วนประกอบนั้นๆ

    - มีดหมอที่ใช้ในการปราบผีปีศาจ มีดหมอชนิดนี้จะทำด้วยเหล็กกล้าชั้นดี มีขนาดความกว้างประมาณ 5 เซนติเมตร และขนาดความยาว 10 เซนติเมตร มีดหมอชนิดนี้จะใช้ป็นอาวุธประจำกายของหมอผีหรือว่าหมอพื้นบ้าน ตามความเชื่อโบราณแล้วถ้ามีคนที่ถูกผีเข้าสิงให้นำมีดหมอชนิดนี้ไปขับไล่ผีไป โดยการเสกคาถาและชีดมีดหมอกรีดไปตามตัวของผู้นั้น แต่ถ้าในตอนนั้นหมอผีไม่มีมีดหมออยู่กับก็จะใช้งาช้างกำจัดแทนกันได้เหมือนกัน

    - มีดหมออีกชนิดใช้ประกอบพิธิทางไสยศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นพิธิบูชาเรือน พิธีการสะเดาะเคราะห์ เป็นต้น มีดหมอจะใช้เป็นตัวแทนของครูในการทำพิธี มีดหมอชนิดนี้จะยาวประมาณ 1 ฟุตรวมด้ามไปด้วย ฝักของมีดหมอทำด้วยไม้ใช้สะดวกในการเหน็บที่เอวป้องกันมีดบาดตัวเอง

    331-6d80.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ลงเรื่องมีดหมอก็มีถามหามีดหมอกันมาแต่เช้าเลย คงจะเก็บความอยากกันไม่ไหวเพราะหลายๆคนใครก็อยากได้มีดหมอดีๆไว้ใช้เป็นอาวุธคู่กายซักเล่ม ยิ่งสายนี้ตั้งแต่ของหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อรุ่ง หลวงพ่อโศก หลวงพ่อฤาษี ล้วนแต่มีราคาไปหมดแล้ว หลายๆครั้งคนจึงมาหวังกับพ่ออาจารย์ว่าเมื่อไหร่ท่านจะทำ

    * ใครจะฝากคำถามอะไรก็ PM ฝากไว้นะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    มีเล่าเข้ามาเกี่ยวกับท้าวเวสว่าเจอทั้งหน้ายักษ์หน้าเทพเลยแรงไม่ตกจริงๆ ส่วนเรื่องมีดหมอนั้น พ่ออาจารย์ท่านก็ทำเทพศาสตราวุธไว้เหมือนกัน ท่านว่าไม่อยากเอาออกเพราะทำยากด้วยของท่านนั้นเน้นทำเองทุกขั้นตอน กว่าจะได้แต่ละเล่มเทเสร็จก็ต้องแต่งต้องเจียต้องตะไบทีละเล่มแล้วก็ลงจารไม่เอาแบบของโรงงานสั่งๆเค้ามานั่งหลับตาเสก ท่านว่าเราทำไม่ลง เทพศาสตรานี้ท่านว่าเราทำให้เล่มเล็กๆเพราะจะได้ใช้กันง่ายๆ แอบใบ้ไว้ว่าทั้งสูตรการหล่อโลหะเฉพาะในสายการทำเทพศาสตราและตัวบทกลคาถาวิชาโบราณที่ท่านลงไว้ไม่ธรรมดาเลย หาไม่ได้ง่ายๆ ทั้งยังใช้แทนของเก่าได้แน่นอนแบบสบายๆ ที่สำคัญท่านทำให้ใช้กันได้ทั่วท่านว่าคนละเล่มก็พอ หนนี้ใครไวใครได้เพียงหลักร้อยเท่านั้น
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งเรื่องเทพศาสตรา ก็มีคนรอซุ่มเก็บอยู่มากถึงกับของจองล่วงหน้าหลักหลายๆเล่มมากันเยอะ เดี๋ยวเอาไว้รอวันพรุ่งนี้พร้อมกันทีเดียวนะครับแล้วค่อยจอง คงเพราะหลายๆปัจจัย บอกได้แค่ว่าพกง่าย ใช้งานง่าย ที่สำคัญทุกเล่มมีรอยแต่งรอยตะไบ ซึ่งกว่าจะได้แต่ละเล่มพ่ออาจารย์ท่านทำด้วยตัวเองทั้งสิ้น ท่านว่าเนื้อมันแข็งแต่งยากตะไบยาก ท่านทำเสกเก็บไว้กล่าวได้ว่าใส่ใจอย่างมาก สมัยนี้หายากที่ครูบาอาจารย์จะทำด้วยตนเองทุกขั้นตอน ;)
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ร่วมทำบุญบูชา พระขรรค์เพชรเพลิงมหากาฬ(สุริยะรัศมี)

    พ่ออาจารย์ท่านว่าในกระบวนการสร้างเทพศาสตรานั้น ที่จะเสกพระขรรค์ให้ศักดิ์สิทธิ์ได้นับว่ายากกว่าการทำมีดหมอมาก ซึ่งในอดีตก็มีครูบาอาจารย์หลายรูปที่เมตตาสร้างทั้งพระขรรค์และมีดหมอขึ้นมาไม่ว่าจะหลวงปู่รุ่ง หลวงพ่อเดิม หลวงพ่อโศก หลวงปู่ศุข หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ...เมื่อกาลเวลาผ่านไปอิทธิวัตถุเหล่านั้นล้วนเกิดประสบการณ์มากมายทำให้มีค่านิยมสูงขึ้นจนคนปกติไม่อาจจับต้องได้

    ทำไมต้องพระขรรค์ พระขรรค์นั้นมีความสำคัญอย่างไร.... พระขรรค์นับเป็นศาสตราวุธชนิดหนึ่งที่มีความสำคัญมาตั้งแต่สมัยโบราณเพราะใช้ในการประกอบพิธีกรรมสำคัญหลายพิธีด้วยกัน อาทิ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา และ พระราชพิธีบรมราชาภิเษก ฉะนั้นในสมัยโบราณ พระขรรค์จึงถือเป็นศาสตราวุธคู่พระวรกายของพระมหากษัตริย์หรือผู้ปกครองบ้านเมืองที่มีบุญบารมีประดุจเทพเจ้า เนื่องจากแต่เดิมนั้นเชื่อกันมาว่าพระขรรค์เป็นศาตราวุธแห่งเทพเจ้า เป็นอาวุธคู่กายที่ใช้ทั้งในด้านการป้องกันสิ่งชั่วร้าย และการดลบันดาลหรือเนรมิตสิ่งต่างๆได้ตามบุญบารมีของผู้ครอบครอง จะเรียกว่าเป็นเครื่องสูงที่คู่ควรกับคนที่มีบุญญาธิการก็ได้

    โดยเฉพาะพระแสงขรรค์ชัยศรี นับเป็นเครื่องหมายแห่งพระราชอำนาจสูงสุด ซึ่งเป็นอำนาจสิทธิ์ขาดโดยเชื่อว่าผู้ที่ถือครองพระแสงขรรค์นี้จะเป็นผู้ครองอำนาจสูงสุดในแผ่นดิน ซึ่งตำนานพระแสงขรรค์ชัยศรีนั้น เชื่อว่าเป็นเทพศาสตราวุธของพระอินทร์ เป็นตัวแทนอำนาจจากเบื้องบนที่ทรงความศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ถือครองจึงเสมือนเป็นผู้ได้รับอำนาจจากเทวราชเบื้องบน

    ดังนั้นการทำพระขรรค์ขึ้นซักเล่ม พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้รูปร่างใครเขาไปหาช่างที่ไหนก็ทำได้ แต่การเสกให้สำเร็จเป็นอาถรรพ์ต้องตามตำรานั้นถือว่ายากนัก พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างตามศาสตร์การทำพระขรรค์เทพศาสตรา ของหลวงพ่อรุ่ง วัดหนองสีนวล ในสมัยของหลวงพ่อรุ่ง พระขรรค์นับเป็นเครื่องรางของขลังที่หลวงพ่อรุ่งท่านได้บรรจงจัดสร้างเอาไว้เพื่อให้เป็นมรดกของแผ่นดินอย่างแท้จริง มีอุปเท่ห์ใช้ในการป้องกันภัยอันตรายที่จะเข้ามาถึงได้ชะงัดนัก

    หลวงพ่อรุ่งรูปนี้ท่านเป็นลูกพี่ลูกน้องกับหลวงพ่อเดิม ท่านอายุแก่กว่าหลวงพ่อเดิม 11 ปี และท่านก็เป็นผู้ริเริ่มสร้างมีดหมอขึ้นมาก่อนเป็นลำดับแรก หลวงพ่อเดิมท่านรู้เข้าก็มาเที่ยวที่วัดหนองสีนวล และมาศึกษาวิชาการทำมีดหมอจากหลวงพ่อรุ่ง แล้วก็นำกลับไปทำของท่านบ้างที่วัดและเริ่มโด่งดังกันมาเป็นลำดับ แต่กล่าวได้ว่ามีดของหลวงพ่อรุ่งซึ่งเป็นต้นตำรับจริงๆนั้น ตัวท่านเองนับว่าทำไว้น้อยอย่างยิ่งจึงทำให้ของหายากกว่าของหลวงพ่อเดิมมาก ในส่วนของพุทธคุณนั้นย่อมเหมือนกันทุกประการ

    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระขรรค์เทพศาสตราขึ้นโดยใช้สูตรการทำมีดหมอของหลวงพ่อเดิมที่เรียนต่อมาจากหลวงพ่อรุ่ง โดยสูตรการทำนั้นท่านให้รวบรวมวัสดุต่างๆเพื่อเทเป็นพระขรรค์ขึ้นมาให้เต็มสูตร โดยใช้ตะปูสังขวานรซึ่งเป็นตะปูโบราณที่เอาไว้ยึดเครื่องไม้ในอุโบสถมาหลอมเข้ากับตะปูโลงศพที่ใช้ตรึงโลงไม่ให้ภูติผีวิญญาณหลุดออกมาโดยขอให้สัปเหร่อเก็บไว้ ทั้งยังต้องเข้ากับบาตรแตกหรือบาตรพระที่ชำรุด และเหล็กน้ำพี้ ตลอดจนผาลไถชำรุดอีกด้วย ท่านว่าทำให้เต็มสูตรการสร้างมีดที่มีอาถรรพ์ในตัวเองนับแต่เริ่มตามสูตรบูรพาจารย์ยุคโบราณนั่นทีเดียว

    เมื่อท่านเทพระขรรค์ด้วยชนวนศักดิ์สิทธิ์เข้ากับธาตุกายสิทธิ์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านก็ได้นั่งแต่งพระขรรค์ทีละเล่มทั้งเจียและตะไบด้วยตัวท่านเองทั้งหมด ท่านว่าทำยากเพราะเนื้อมันแข็งแทงตะไบไม่ค่อยเข้า เมื่อพ่ออาจารย์ท่านแต่งเสร็จแล้วท่านได้เมตตาลงมนต์มหาปราบสูตรหลวงปู่เทศ วัดสระทะเลไว้ที่พระขรรค์ทีละเล่มอย่างตั้งใจแบบเต็มสูตรอีกด้วย องค์หลวงปู่เทศนี้เป็นพระอาจารย์ของหลวงพ่อเดิมที่มีความเข้มขลังอย่างแท้จริง ว่ากันว่าเหรียญรูปท่าน แม้ไม่ทันท่าน ปั๊มมายังไม่ทันเสกหลวงพ่อเดิมยังว่าไม่ต้องเสกก็ขลังอยู่แล้ว ด้วยสายวิชาในหลวงปู่เทศ วัดสระทะเลนั้นจึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำและเชิญหลวงปู่เทศ หลวงปู่รุ่ง หลวงพ่อเดิมมาช่วยท่านสร้างพระขรรค์ตามเจตนาแรกเริ่มอย่างแน่นอน เพราะท่านบอกว่าพระขรรค์นี้ใช้แทนของเก่าได้ จะใช้ไม่ได้ได้อย่างไรในเมื่อหลวงปู่ หลวงพ่อท่านมาทำให้เองทั้งนั้น

    พระขรรค์ของพ่ออาจารย์แต่ละเล่ม ท่านว่าจะมีพรหม มีเทวดาคุ้มครองดูแลอยู่ ใช้อธิษฐานอาราธนาขอได้ทุกอย่าง เพราะอำนาจแห่งพระแสงขรรค์นั้นนอกจากจะปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายแล้ว ยังใช้เนรมิตสิ่งต่างๆให้เกิดขึ้นได้เช่นอำนาจของเทวราชอีกด้วย ท่านว่าเมื่อทำแล้วก็ต้องทำให้เป็นดั่งแก้วสารพัดนึกทีเดียวจึงจะเป็นที่สุดในศาสตร์การสร้างพระขรรค์อย่างแท้จริง

    พ่ออาจารย์ท่านว่าการจะสำเร็จพระขรรค์ให้มีอานุภาพสูงสุดนั้นต้องใช้ศาสตร์ของพราหมณ์ในการสร้างเทพศาสตราอย่างเต็มที่ ด้วยตามคติบุราณกาลสืบมา เมื่อพระวิษณุกรรมจะสร้างเทพศาสตราทั้งหลายไม่ว่าจะทำตรีศูลให้พระศิวะ ทำวงจักรให้พระนารายณ์ ทำลูกศรให้พระพรหม ทำหอกให้พระขันธกุมาร ทำคฑาให้ท้าวเวสสุวรรณ ทำนัยน์นาวุธให้พระยม...ทำอาวุธสำคัญต่างๆให้กับเทพบดีผู้เป็นเจ้าทั้งหมดทั้งสิ้นนั้น ล้วนใช้รัศมีกายอันร้อนแรงแห่งพระสุริยะเทพนำมาสร้างสรรค์เปลี่ยนรูปเป็นเทพศาสตราทั้งสิ้น จะเห็นว่าเทพศาสตราทั้งหลายนั้นล้วนมีอำนาจทำลายล้างอย่างน่าสะพรึงและมีจิตวิญญาณเป็นเอกเทศน์ในตัวเอง

    เมื่อท่านรู้ดีแก่ใจเช่นนี้ว่าถ้าจะทำพระขรรค์เทพศาสตราวุธให้สำเร็จจนมีอานุภาพสูงสุดนั้นก็ต้องทำเช่นเดียวกัน หลังจากท่านลงอาถรรพ์มหาปราบตำรับหลวงปู่เทศแล้วพอเริ่มต้นเสกท่านจึงลงวิชาอย่างเต็มที่และบูชาไฟเชิญพระอัคนี ตลอดจนพระสุริยะเทพมาแบ่งกำลังของพระองค์ทั้งรัศมีกายและพระเดชลงสู่เทพศาสตรานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเอาพระขรรค์เหล่านี้จับโยนใส่กองกูณฐ์อัคคีทีละเล่ม ทำพิธีชุบพระขรรค์ให้มีกำลังแรงกล้า แต่น่าแปลกที่เปลวไฟของพิธีไม่สามารถหลอมละลายพระขรรค์ได้ นับเป็นกายสิทธิ์อย่างแท้จริงท่านว่าเมื่อชุบด้วยเปลวอัคคีแล้วจึงถือว่าสำเร็จ

    พระขรรค์เทพศาสตรานี้เหนือกว่าเทพอาวุธอื่นคือไม่มีอะไรคัดถอนของท่านได้ อย่างที่ทราบกันดีนับแต่โบราณในบรรดาคนเล่นของทั้งหลาย ไม่ว่าลอยสักอักขระเครื่องรางวัตถุมงคลนั้นย่อมมีการถูกคู่อริคัดถอนได้ทุกสิ่ง ยกเว้นอย่างเดียวคือพระขรรค์ ไม่ว่าจะพระขรรค์ของหลวงปู่ศุข หลวงปู่รุ่ง หลวงพ่อโศก ทั้งนี้เพราะถือว่าเป็นเครื่องสูง เป็นเครื่องบริโภคของเทวราช เป็นเครื่องใช้งานแสดงพระราชอำนาจของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ดังนั้นพระขรรค์จึงมีเดชมีอานุภาพมากมาแต่โบราณกาล ว่ากันว่าในชั้นหลังแม้พระขรรค์ของหลวงพ่อโศกยังใช้ถอดถอนอาถรรพ์ คัดถอนวิชาของเหล่าเสือร้ายทั้งหลายไม่ว่าจะมีของดีมาจากไหนก็ล้วนแพ้อาถรรพ์ในพระขรรค์ทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยเหตุแห่งการล้างอาถรรพ์คัดของได้ทุกสิ่ง ถ้าไม่ดีจริงย่อมทำไม่ได้ เช่นนั้นแล้วพระขรรค์ที่ท่านตั้งใจสร้างขึ้นจึงมีอำนาจสูงสุดอย่างแท้จริง

    อานุภาพของพระขรรค์เพชรเพลิงมหากาฬ(สุริยะรัศมี)

    - ใช้ป้องกันอันตรายทั้งหลายเมื่ออยู่กับตัวผู้ใช้

    - ทักให้ตกใจเมื่อมีภัยมาเช่นการสั่นหรือกะตุก เพื่อเตือนผู้บูชาให้ระมัดระวังเหตุแห่งอันตราย

    - ผ่อนกรรมหนักเป็นเบา

    - เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู เป็นมหาอำนาจ ป้องกันฟ้าผ่า

    - สยบภูตผีปีศาจ ถอดถอนเสนียดจัญไร

    - แคล้วคลาดปลอดภัยจากภัยพิบัติ ไม่ว่าจะมาจากน้ำมือของเทวดา มนุษย์ และผู้ที่ไม่ประสงค์ดี ก็มลายหายไปอย่างสิ้นเชิง

    - ใช้อาราธนาทำน้ำมนต์แก้คุณไสย แก้เสนียดจัญไรต่างๆลมเพลมพัด ฝังรูปฝังรอย ผีเข้าเจ้าสิง ตลอดจนฝันร้ายต่างๆ ได้

    - ป้องกันอสรพิษแลสัตว์ที่มีเขี้ยว มีงาทั้งหลาย เมื่อมีพระขรรค์เทพศาสตราวุธติดตัว

    - ป้องกันคุณไสย คุณผี คุณมนต์แลอาถรรพ์ลมเพลมพัด กันกระทำย่ำยี

    - เป็นได้ทั้งมหาอำนาจ เป็นเมตตา เป็นแคล้วคลาด เป็นมหาอุตม์ ตามสภาวะจิตการอธิษฐานใช้

    - ป้องกันตัวจากศัตรูที่มุ่งร้าย ดูแลผู้เป็นเจ้าของเทพศาสตราให้พ้นขาดจากศัตรูที่หวังปองร้าย พ้นจากอำนาจที่รุนแรงอันคิดจะทำลายเจ้าของ

    - ใช้ขับไล่ภูตผีปีศาจที่เข้าสิงคน หรือมีผู้ปล่อยมาให้มาเข้าสิงไม่ว่าจะโดยปกติวิสัยหรือมีคนใช้ให้กระทำมา

    - เก็บบูชาไว้ในบ้านป้องกันอัคคีภัยและโจรภัย

    - เมื่ออาราธนาพระขรรค์แล้ว ในยามมีอันตรายจะรู้ตัวก่อนทุกครั้งไป

    - ใช้คัดของถอนของ ถอนอาถรรพ์ที่รุนแรงตลอดจนความคงกระพันต่างๆนาๆได้ แม้ว่าผู้นั้นจะมียันต์สักอยู่เต็มตัวและเป็นยันต์ที่มีความแข็งแกร่งมากเพียงใดก็ดี หรือจะมีเครื่องมงคลวิเศษใดที่ทำให้ผู้นั้นมีความคงกระพัน เทพศาสตรานั้นสามารถทำลายความคงกระพันตลอดจนอาถรรพ์วิชาทั้งหลายได้อย่างง่ายดาย แม้จะเป็นอาถรรพ์จากการกินว่านยาหรือวิชาของดีอื่นๆ เมื่อเจอกับเครื่องสูงเช่นเทพศาสตราก็ยังต้องยอมสยบให้ เมื่อผจญด้วยผู้คิดร้ายที่มีวิชาทั้งหลายความขลังเหล่านั้นจะค่อยๆหมดลง

    - เมื่อไปต่างถิ่น ต่างบ้าน ต่างเมือง หรือนอนกลางดินกินกลางทรายในป่าให้เอาปลายพระขรรค์กล่าวขอขมาแม่พระธรณี แล้วขีดลงไปเป็นรูปสี่เหลี่ยมหรือรูปวงกลมรอบๆตัวของผู้ที่นอน มดและสัตว์ต่างๆตลอดจนภูติผีปีศาจจะไม่มาเข้าใกล้

    - เมื่อไปต่างถิ่นแม้จะกินอาหารแต่ไม่แน่ใจว่ามีพิษหรือไม่ ให้เอาพระขรรค์จุ่มลงเสียก่อนเป็นการป้องกันเพื่อล้างอาถรรพ์คุณไสยวิชา ในกรณีที่กินเข้าไปแล้วมีอาการแสลงให้เอาพระขรรค์อาราธนาระลึกตรึกถึงพระพุทธคุณแล้วแกว่งลงไปในน้ำหรือภาชนะที่ใส่น้ำ กินน้ำนั้นเข้าไปจะแก้ยาเบื่อ ยาสั่งได้

    - ถ้าถูกลมเพลมพัดที่ปล่อยมาตามอากาศทำให้มีอาการปูด บวม ตามร่างกาย เดี่ยวบวมที่โน่น เดี่ยวบวมที่นี้ ให้เอาพระขรรค์ทำน้ำมนต์ระลึกถึงบารมีองค์พระแล้วกินเข้าไป จากนั้นจึงเอาพระขรรค์กดไล่ในจุดที่บวม ถ้าเป็นคุณไสยอวิชชาจริงก้อนบวมนั้นจะเคลื่อนหนีได้ ให้ไล่ปลายมีดพระขรรค์ไปเรื่อยๆจนกระทั่งสุดปลายมือหรือปลายเท้าคุณไสยก็จะออกพ้นตัวไป

    - ถ้าจะไปทางน้ำกลัวอันตรายจากสัตว์หรือผีพรายให้เอาพระขรรค์คาบไว้ในปาก เวลาก่อนจะคาบให้เอาพระขรรค์โบกน้ำนำหน้า แม้เดินทางย่อมปลอดภัย

    - เมื่อมีฝีกลัดหนอง ปวดร้าว หรือเพิ่งจะเป็นให้เอาปลายแหลมของพระขรรค์วนเบาๆเป็นวงกลม พร้อมท่องพระคาถาระลึกถึงพุทธคุณถ้าเพิ่งเป็นจะยุบไป แต่ถ้าเป็นนานแล้วฝีจะแตกไม่มีพิษแต่อย่างใดแล้วจะหายภายในสามวัน

    - คนมีลูกเพิ่งคลอด หรือมีเด็กอ่อน เด็กเล็ก ให้เอาพระขรรค์บูชาไว้ตรงที่เด็กนอนหลับ เพราะมีความเชื่อว่าภูตผีปีศาจจะไม่กล้ามารบกวนเด็ก หากชอบร้องไห้ตอนกลางคืน ไม่หลับไม่นอนเหมือนมีอะไรมารบกวนเด็ก ให้เอาพระขรรค์ไว้ใกล้ที่นอนเด็ก

    - คนที่กลัวผี ให้นำพระขรรค์ปักไว้ที่หน้าบ้าน หน้าประตูบ้าน ภูตผีปีศาจเห็นจะไม่กล้าเข้าใกล้


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำพระขรรค์วิเศษนี้ประจุมนต์ตามวิชาเทพศาสตราของท่านตลอดระยะเวลา กล่าวคือเมื่อท่านลุกไปแล้วก็ยังเชิญครูบาอาจารย์และทิพย์กายทั้งหลายมาทำวิชาให้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดเวลา จนเกิดเหตุฟ้าผ่าใส่เทพศาสตราทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าฟ้าผ่านี้คือการประจุสายฟ้าเป็นเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่รุนแรงมาก สายฟ้านั้นเป็นอำนาจทางกายภาพของพระอินทร์ พระขรรค์จึงมีอำนาจการทำลายล้างสูง อีกทั้งยังเป็นเคล็ดที่เชื่อกันว่าผู้ที่ครอบครองพระขรรค์ก็จะไม่ถูกฟ้าผ่าอีกต่อไปนั่นเอง

    ท่านทำพิธีปลุกเสกตามตำรับพราหมณ์เพื่อชุบเทพศาสตราเป็นเวลา 7 อังคารครบสูตรของท่าน ทั้งบูชาไฟ ทั้งบวงสรวงเทพเทวดา อัญเชิญครูบาอาจารย์มาร่วมพิธีปลุกเสกบรรจุเทวานุภาพ จากนั้นจึงอธิษฐานจิตด้วยพุทธมนต์เป็นเวลา 9 วัน 9 คืน ทั้งเชิญเสด็จพระใหญ่และเทพพรหมมาชุมนุมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าทำพระขรรค์หนนี้เสด็จพระใหญ่ท่านเรียกว่าพระขรรค์เพชรพระพุทธเจ้าด้วยนะ ท่านมาทำให้อย่างดี ทั้งยังมาเป็นประธานในหมู่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลาย ท้าวสหัมบดีพรหมก็รับเป็นธุระเชิญเสด็จเหล่ามหาพรหมสุทธาวาสมาทำให้ แม้องค์อมรินทร์ ท้าวมาลัยท่านก็มาพร้อมด้วยเทพบริษัทมากมาย เรียกได้ว่าพระขรรค์นี้ดีทั้งนอกและดีทั้งใน ดีตั้งแต่พ่ออาจารย์ท่านเริ่มที่จะสร้างด้วยความศรัทธาและอุตสาหะของท่าน

    วิธีใช้…ให้อาราธนาพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระอริยเจ้าทั้งหมด พรหมและเทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ มีหลวงพ่อปานวัด บางนมโค และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นที่สุด และท่านท้าวจตุมหาราชทั้ง4
    พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ

    ถ้าใช้รักษาโรค บรรเทาเวรกรรม ให้เอาพระขรรค์เเตะศรีษะแล้วว่าคาถา
    ทุกขา ทุกขัง ปฏิฐิตัง สัมปติฉามิ


    *** พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำพระขรรค์นี้ให้มีขนาดเล็ก เพื่อเน้นการพกพาและสะดวกต่อการเก็บรักษาและใช้งานอย่างแท้จริง และเหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นก็คือพระขรรค์นั้นเป็นของวิเศษที่มีอานุภาพต่อต้านเวรกรรมได้ ทั้งยังลดทอนขจัดวิบากกรรมของผู้อาราธนาได้ดีพ่ออาจารย์ท่านว่าบอกได้เท่านี้ คนที่เล่นสายพระขรรค์ ที่ตามหาพระขรรค์จริงๆเขาจะรู้กัน ท่านว่าเทพศาสตาที่เราสร้างขึ้น ไม่ได้ทำไว้ให้เหน็บโชว์ใคร หรือเอาไว้ตั้งโชว์ให้ใครมาชื่นชม แต่เราทำให้เอาไว้ใช้งานอย่างแท้จริง พกไปไหนก็ได้ ที่ต้องทำให้เล็กๆเพราะเวลาใช้จะได้ไม่มีคนสังเกตุ ศัตรูจะไม่ตื่นตัวเมื่อเห็นมีดหมอด้ามใหญ่โต

    ร่วมทำบุญบูชา พระขรรค์เพชรเพลิงมหากาฬ(สุริยะรัศมี) บูชา 800 บาท


    37613671_2251747301778345_1393364154772881408_n.jpg 37607913_2251747261778349_1632614779715584000_n.jpg
    37670591_2251747118445030_1807119386851409920_n.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2018
  12. naron

    naron เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2009
    โพสต์:
    2,515
    ค่าพลัง:
    +3,573
    จอง1เล่มครับ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    คนที่โอนไว้เดี๋ยวจัดส่งของให้รอบพรุ่งนี้นะครับ

    ***เห็นมีถามเข้ามาเรื่องขนาดพระขรรค์ พระขรรค์นี้ขนาดพกง่ายมากยาวประมาณหกเซ็นติเมตรเรียกว่าเอาไปเลี่ยมห้อยกำลังสวย
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    มีคนตาดีดูรูปแล้วเอาไปทำกรรมฐานมาบอกว่าในพระขรรค์นี้พ่ออาจารย์ท่านครอบเทพอาวุธไว้ถึงหกชนิด ก็ไม่ทราบว่ารู้กันได้ยังไง ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านลงเต็มสูตรมีวิชาของหลวงปู่เทศ เป็นอาวุธหกชนิดจริงๆ ...ลึกๆใครตาดีก็ดูกันเอง รู้แค่พระขรรค์นี้ใครมีไว้อาถรรพ์แรงแน่นอน
     
  15. pt222

    pt222 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2006
    โพสต์:
    86
    ค่าพลัง:
    +106
    จอง ร่วมทำบุญบูชา
    พระขรรค์เพชรเพลิงมหากาฬ(สุริยะรัศมี) บูชา 800 บาท
    จำนวน 2 ด้าม ครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง ems
    พี่นพวรรณ EV 4401 6080 6 TH

    พี่ปภัสสร EV 4401 6081 0 TH

    พี่ศิระ EV 4401 6082 3 TH

    พี่ปภพ EV 4401 6083 7 TH

    พี่พบพณ EV 4401 6084 5 TH

    พี่พรเทพ EV 4401 6085 4 TH
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    พูดคุยรอบเย็น

    สืบเนื่องจากพระขรรค์เทพศาสตราที่เปิดจองนั้น วันนี้ก็เลยยกบทความเรื่องประสบการณ์มีดหมอของคุณไพฑูรย์มาให้อ่านกัน ด้วยพระขรรค์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าสามารถใช้แทนของเก่าได้ หวังว่าอ่านแล้วจะได้แตกแขนงความคิดได้เยอะขึ้นมากกว่าเดิม ว่ามีดหมอหรือเทพศาสตรานั้นสามารถนำไปใช้ได้หลายเรื่องเพราะขึ้นชื่อว่าคนแล้ว ชีวิตย่อมไม่ง่ายและมีอันตรายอยู่รอบตัว

    ◎อำนาจแห่งมีดหมอคุ้มชีวี◎(ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

    ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม เป็นผู้ที่เก็บความทรงจำในอดีตที่ผ่านมาได้สมบูรณ์ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ไพฑูรย์ไขข้อสงสัยให้ฟังว่า

    " ผมเผชิญกับภยันตรายมาแล้วทุกรูปแบบเผชิญหน้ากับคนมามากมายตั้งแต่เลวจนถึงเลวที่สุด เจ็บแค้นที่สุด เหี้ยมโหดที่สุดทุกอย่างเมื่อเกิดขึ้นมันฝังลึกลงในสมองส่วนที่เป็นความจำอัดไว้จนแน่น ความทรงจำเหล่านั้นถูกรื้อค้นออกมานับแต่เริ่มเขียนเรื่อง " จอมอาชญากรหมายเลข 1" ตอนแรก ได้ถูกเรียงร้อยกันเป็นเรื่องราวจากชีวิตจริงของผู้ที่เป็นนักโทษประหารตั้งแต่เป็นนักโทษชายนักโทษชั้นเลวจนได้เป็นผู้ช่วยผู้คุมและได้รับอภัยโทษในที่สุด

    แม้แต่ภูตผีปีศาจไพฑูรย์บอกว่าเจอมามากแต่ไม่เคยกลัวเพราะคนที่มีมีดหมอหลวงพ่อเดิมไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ภูตผีปีศาจจะไม่มารบกวน ก็แค่ส่งเสียงให้ตกใจไม่กล้าปรากฏตัว มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นหลวงพ่อสั่งไว้ว่า

    " ใช้ได้ทั้งกันและแก้สำหรับการแก้คือการป้องกันชีวิตเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้นหากจะแก้จนอีกฝ่ายหนึ่งถึงตายต้องรอให้น้ำตาไหลเป็นเลือดเสียก่อน"

    ไพฑูรย์บอกว่าคำว่าน้ำตาไหลเป็นเลือดนั้นเป็นคำพราหมณ์ เพราะไม่เคยมีใครเลยที่มีน้ำตาไหลเป็นเลือดอาจเป็นเพราะไพฑูรย์ใช้มีดหมอปลิดชีวิตคนไปหลายคนแม้เป็นการป้องกันตัว แต่ละเมิดคำห้ามของหลวงพ่อเดิมเพราะน้ำตายังไม่ไหลเป็นเลือด จึงต้องเวียนวนอยู่ในเรือนจำแหกคุกถูกจับกลับมา

    จนสุดท้ายหลังใช้มีดหมอกับนักโทษชายจอมโหดขณะที่เป็นผู้ช่วยผู้คุมแล้วจึงหันหน้าไปทางที่ตั้งของวัดหนองโพประกาศว่านับแต่นี้ไปจะไม่ใช้มีดหมอนี้ฆ่าคนอีกต่อไป

    มีดหมอหลวงพ่อเดิมมีดีหลายอย่าง อาทิ ใครก็ตามที่ว่าคงกระพัน( ยกเว้นกินว่าน ว่านเป็นของดีตามธรรมชาติมิได้มีการปลุกเสกลงเลขยันต์เหมือนเครื่องราง การสัก การฝังเข็ม) หากถูกมีดหมอหลวงพ่อเดิมกรีดหรือแทงแล้วจะหมดความคงกระพันทันที

    แม้รักษาแผลหายแล้วความคงกระพันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ด้วยหลวงพ่อเดิมท่านได้เสกคาถาที่เรียกว่า" ประจุขาด" เอาไว้ในมีดหมอของท่านทุกเล่ม ไพฑูรย์บอกว่าเจอมากับตัวเองจนชิน

    ขับภูตผีปีศาจใช้ปลายจี้กลางกระหม่อมหรือที่หน้าผาก ผีจะรีบออกจากตัวคนทันทีด้วยหลวงพ่อปลุกเสกมีดหมอด้วยคาถาอาวุธ 5 ประการความว่า

    นารายณ์ยัสสะ จักราวุธัง (จักรกรดอาวุธประจำองค์พระนารายณ์)

    สักกัสสะ วชิราวุธัง (อาวุธประจำองค์อินทราชเจ้าจอมดาวดึงส์)

    อาฬวะกะทุสาวุธัง (ผ้าขาวแห่งอาฬวะกะยักษ์)

    เวสสุวัณนัสสะคธาวุธัง (ตระบองอาวุธประจำองค์ท่านท้าวเวสสุวรรณ)

    ยมนัสสะนัยนาวุธัง (ดวงพระเนตรแห่งท่านพญายมราช)

    ปัญจะอาวุธานัง เอเตสังอานุภาเวนะ ปัญจะอาวุธานัง ภัคคะภัคขา วิจุณนัง วิจุณนัง โลมาเมนะ ผุสสันติ อะมุมหิ โอกาเสติถาหิ

    ใช้เป็นคาถาอาราธนามีดหมอหลวงพ่อเดิมได้ด้วย

    ด้วยเหตุนี้มีดหมอของหลวงพ่อเดิมจึงมีค่ามีราคาหายากและมีของปลอมเกลื่อนไปหมดใครมีของจริงนับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งมีดหมอเคยช่วยชีวิตไพฑูรย์ในช่วงแห่งความเป็นความตายที่ไพฑูรย์เรียกว่า" มีดหมอคุ้มชีวี"

    โรงสีไฟเฮ็งหลี อยู่โพนางดำออก ตำบลสรรพยา จังหวัดชัยนาท อินทเนียร์(เอนจิเนียร์) หมายถึงช่างเครื่อง ชื่อบุญพันธ์ พันธุ์เชื้องามเป็นหลานชายแท้ๆของบิดาไพฑูรย์ เป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์ทั้งเครื่องสีข้าวและเรือกลไฟเถ้าแก่ฮงไว้ใจให้ดูแลเครื่องสีข้าวและเครื่องเรือที่ไปซื้อข้าวเปลือกได้รับแต๊ะเอียปีละหลายร้อยบาท 100 บาทสมัยนั้นใช้กันไม่หวาดไม่ไหว

    บิดาไพฑูรย์ เคยบอกไพฑูรย์ไว้ว่า มีหลานชื่อบุญพันธ์ พันธุ์เชื้องามอยู่โรงสีไฟเฮ็งหลีอยู่ที่โพนางดำออก จังหวัดชัยนาทเมื่อไพฑูรย์แหกคุกออกมาได้หนีไปหาบุญพันธ์ที่มีศักดิ์เป็นอา

    ไปหาตอนกลางคืน เพื่อมิให้เป็นที่ผิดสังเกตอาบุญพันธ์ตกใจมากที่จู่จู่ไพฑูรย์ก็มาพบ เพราะรู้ข่าวว่าไพฑูรย์อยู่ในบางขวาง ไม่รอให้ถามกระซิบว่า

    “ผมแหกคุกมาครับอาผมขอซุกหัวนอนไม่นานจะหนีต่อไปเพราะตำรวจออกประกาศจับไปทั่วทุกพื้นที่ ที่คาดว่าผมจะเดินทางไปแต่ที่นี่คาดว่ายังไม่เป็นที่ต้องสงสัย”

    เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ อาบุญพันธ์ให้พักอยู่ในบ้านพักบอกให้พักผ่อนให้เต็มที่พรุ่งนี้จะพาไปพบเถ้าแก่ฮงเพื่อบอกกล่าวและจัดงานให้ทำ ต่อหน้าเถ้าแก่ฮงอาบุญพันธ์แนะนำว่าชื่ออรุณเป็นหลานในใส้มาหางานทำเถ้าแก่ฮงถามว่า

    “อารุณลื้อเคยทำงานด้านบู๊มาบ้างไหมเพราะเวลาอั๊วไปซื้อข้าวเปลือกมาสีต้องพกเงินสดติดตัวไปคราวละมากๆหากถูกปล้นลื้อคุ้มภัยให้อั๊วละก็ลื้อได้งานทำ รูปร่างลื้อเป็นจับกังแบกกระสอบข้าวสารไม่ได้แน่”

    “เคยทำครับเถ้าแก่ใช้อาวุธปืนได้คล่องทั้งยาวสั้นมีดไม้คมแฝกก็ถนัดพูดไปก็พาลจะทำให้เถ้าแก่เหม็นขี้ฟันเอาไว้ถึงเวลาแล้วเถ้าแก่จะบอกว่าผมแน่”

    เถ้าแก่ให้เสมียนไปหยิบปืนลูกซองแฝด กับปืนลูกโม่ .38 โคลท์ตราม้าจากอเมริกาให้ไพฑูรย์เลือกไพฑูรย์บอกว่าขอลูกซองแฝดส่วนปืนพกขอใช้ปืนประจำตัวเพราะถนัดกว่าเถ้าแก่หัวเราะด้วยความพอใจบอกกับไพฑูรย์ว่า

    “อีก 3 วันจะไปซื้อข้าวที่สุพรรณบุรีเอาเรือลากจูงเรือเอี้ยมจุ๊น 3 ลำ อารุณอยู่กับอั๊วในเรือจะได้นอนหลับสบายตลอดคืนไม่งั้นต้องหลับหลับตื่นตื่นๆมีปืนอั๊วก็ใช้ไม่ถนัดเป็นพ่อค้าไม่ใช่มือปืน”

    รถพ่วงซื้อข้าวออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางคือสุพรรณบุรีเรือเทียบท่าข้าวที่เป็นตลาดกลางเพื่อประมูลซื้อข้าวจากชาวนาโดยแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งให้กับเจ้าของท่าข้าวเป็นกำนัล เถ้าแก่ฮงเอาเงินใส่ในซองหนังที่ติดอยู่กับสายคาดหนังแถบใหญ่ที่นอกจากจะเก็บเงินได้มิดชิดแล้ว ยังเป็นผลป้องกันการแทงด้วยของมีคมที่พุงกะทิอีกด้วย

    ไพฑูรย์นั่งคอยมองความเคลื่อนไหวของคนรอบข้าง พลันเห็นความผิดสังเกตของชาย 2 คนที่ใบหน้าท่าทางไม่ได้บอกว่าเป็นชาวนา แต่บอกว่าเป็นพวกโจรมากกว่า คอยดูเถ้าแก่ฮงควักเงินจากกระเป๋าจ่ายค่าข้าวเปลือกเมื่อข้าวที่นำมาประมูลหมดเจ้าสองคนนั่นก็แวบหายไปเถ้าแก่ฮงเดินมาหาไพฑูรย์สั่งว่า

    " คืนนี้ค้างที่นี่พรุ่งนี้มีประมูลอีกครั้ง พอหมดการประมูลแล้วค่อยเดินทางต่อ"

    " ได้ครับเถ้าแก่แต่ผมขอให้เถ้าแก่กลับไปนอนในเรืออย่าค้างแรมตามที่เจ้าของท่าข้าวจัดให้ผมสังหรณ์ว่าอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นได้"

    " ลื้อคิดเหมือนอั๊วเลยเอาละกลับไปที่เรือนายท้ายเรือมันหุงหาอาหารเตรียมไว้ให้แล้วล่ะกินแล้วจะได้นอนพัก"

    เรือยนต์ถอยออกไปทอดสมอห่างจากตลิ่ง ไม่กีดขวางการเดินเรือ เถ้าแก่นอนหลับกรนครอกไปแล้วส่วนไพฑูรย์เผลอม่อยหลับไปเพราะรู้สึกผ่อนคลายแถบนี้มีชื่อเรื่องแมวน้ำ เป็นพวกย่องเบาทางน้ำหรือไม่ก็ปล้นเหยื่อที่นอนค้างแรมในเรือ มารู้สึกตัวเมื่อเรือไหวยวบ ขึ้นมาก็มองเห็นประกายไฟรอบๆตามมาด้วยเสียงตูมเสียงกระสุนแหวกอากาศเฉียดร่างไพฑูรย์จนรู้สึกถึงความร้อนของหัวกระสุนที่ไหม้เนื้อหนัง

    มีดหมอปากกาที่เสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อสําแดงเดชทำให้ลูกปืนแคล้วคลาดเพราะหากถูกยิงไพฑูรย์จะหมดโอกาสได้ต่อสู้กลิ้งตัวหลบกระสุนที่ถูกยิงใส่พอตั้งหลักได้จึงดึงปืนออโตเมติกหางนกขึ้นแล้วสวนกลับ มือปืนกระเด็นตกจากเรือเสียงน้ำกระจายอีก 2 คนที่เหลือคนหนึ่งถูกเถ้าแก่สอยด้วยลูกซองตกน้ำไป อีกคนที่เหลือถอดใจกระโดดน้ำหนี ความมืด

    ไม่ได้นอนจนรุ่งเช้าพอนายท้ายเรือหุงหาอาหารเช้าให้กิน แล้วจึงขึ้นไปบนท่าข้าวเพื่อประมูลซื้อข้าว เจ้าของท่าข้าวถามว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงปืนดังมาจากเรือเกิดอะไรขึ้นเถ้าแก่บอกว่าถูกแมวน้ำเล่นงาน ตกน้ำไปสองอีกคนหนึ่งกระโดดน้ำหนีไปได้ เจ้าของท่าข้าวถามเถ้าแก่ว่าจะไปแจ้งความไหมจะให้คนพาแต่ไพฑูรย์ ชิงพูดขึ้นว่า

    “ไม่ต้องหรอกเพราะพวกมันไม่ได้อะไรไปแถมถูกยิงหงายหลังตกน้ำเป็นตายไม่รู้เดี๋ยวก็จะออกเดินทางแล้ว”

    การประมูลซื้อข้าววันที่ 2 จบลง เถ้าแก่ให้ขนข้าวเปลือกที่ซื้อไว้ลงไปในเรือจนหมดจึงออกเดินทางต่อเถ้าแก่ชมไพฑูรย์ไปตลอดทาง แต่ไพฑูรย์นึกในใจว่า ไม่ต้องชมหรอกเพราะเผลอม่อยหลับไปหากมีดหมอไม่ช่วยไว้คงกลายเป็นศพไปแล้ว พอดึงมีดหมอมาดูว่าทำไมคราวนี้ไม่เป็นมหาอุด พบว่า ปลอกมีดไม่ได้ล็อคใบมีด มีดจริงเข้าฝักไม่มิด

    มีดหมอหลวงพ่อเดิม ถ้ากดใบมีดลงไปในปลอกจนมิดแล้วให้กดใบมีดลงด้านล่างให้ดังกึกเป็นการล็อค จะดึงมีดไม่ออกจนกว่าจะดันคมมีดขึ้นด้านบนเพื่อปลดล็อคเสียก่อนลักษณะเช่นนั้นจะเป็นมหาอุด ถ้าดึงใบมีดขึ้นเล็กน้อยแล้วกดล็อกในลักษณะที่ใบมีดไม่เข้าไม่มิดฝักจะเป็นแคล้วคลาด



    37670591_2251747118445030_1807119386851409920_n.jpg
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง ems

    พี่อนุสรณ์ EV 0225 5024 8 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EV 0225 5025 1 TH

    พี่วีรภัทร EV 0225 5026 5 TH

    พี่นฐมน EV 0225 5027 9 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    ความงดงาม

    อรุณสวัสดิ์ครับ รอบเช้าก็จะยกประสบการณ์ที่กล่าวค้างไว้เมื่อวานมาเล่าก่อน เกี่ยวกับพระสังกัจจายน์พัดโบกก็มีคนใช้ได้อธิษฐานพัดเอาความโชคดีในหน้าที่การงานเข้ามาเป็นประสบการณ์แล้ว พี่เค้าเล่าว่าปีนี้เค้าทำงานได้ยอดน้อย มองเห็นอนาคตเลยว่าค่าคอมก็ต้องได้น้อยไปด้วย เพราะมันขายไม่ได้ ปกติจะได้ค่าคอมงวดนึงก็แสนกว่าบาทแต่หนนี้กลับได้ห้าหมื่นไม่รู้จะทำอย่างไร พอได้พระสังกัจจายน์มาก็ทุกข์ใจเพราะมีหนี้ที่ต้องผ่อนต้องส่งเขาเยอะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะเอาค่าคอมมาโปะ พอได้ไม่มากตัวทุกข์มันก็เกิดแล้วไปอธิษฐานขอกับท่าน ปรากฏว่าลูกค้าเก่าที่นิ่ง เงียบ ติดต่อไว้แล้วขายไม่ได้ เค้าเลือกที่จะดิวกับเราติดต่อเรากลับมาด้วยตนเอง เป็นเช่นนี้ติดๆกันภายในสองวันถึงห้าเจ้า พี่เค้าว่ามันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากนะคุณและมันเกินกว่าคำว่าบังเอิญไป ถ้าเจ้าเดียวนี่เรายังคิดว่าบังเอิญได้ และกำไรก็ไม่ใช่ธรรมดาเลยทุกเจ้าถือว่าเป็นโรงพญาบาลใหญ่ทั้งนั้น เค้าว่าหายห่วงเรื่องค่าคอมไปเลย เพราะงานแบบเค้าเงินเดือนไม่กี่หมื่นแต่อยู่กันได้เพราะค่าคอมนี่แหละ

    เข้าเรื่องความงดงามของบุคคลกันต่อ นอกจากความงามภายนอกแล้วคุณธรรมอะไรที่ได้ชื่อว่าผู้ถือปฏิบัติจะเป็นผู้งดงาม ก็ขอยกบทความมาให้อ่านกันเป็นประโยชน์ไว้นะครับ
    คนเราจะสวยสดงดงามแต่เพียงสรีระร่างกายและเครื่องประดับนั้นยังไม่เพียงพอ ต้องงดงามทางด้านจิตใจด้วย

    คำกล่าวที่ว่า “ ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ” เป็นคำกล่าวที่ถูกต้องโดยปราศจากข้อสงสัย ถ้าไม่เชื่อลองหลับตานึกภาพของไก่ที่ถูกถอนขนวิ่งโทง ๆ นอกจากจะดูไม่สวยงามแล้ว ยังดูน่าเกลียดพิลึก หรือดูแล้วกลายเป็นเรื่องน่าขบขันหรือน่าสังเวชทั้งนี้เพราะไก่นั้นมีขนเป็นอาภรณ์ปกปิดกายและป้องกันอากาศร้อนและหนาว

    มนุษย์เราก็เหมือนไก่ คือต้องมีเสื้อผ้าอาภรณ์ประดับกายเพื่อความงดงาม และปกปิดอวัยวะที่ไม่ควรเปิดเผย อันเป็นที่ตั้งแห่งความละอาย และเสื้อผ้าอาภรณ์ที่นำมาตกต่างร่างกายนั้น ยังเป็นเครื่องป้องกันความร้อนและหนาวได้อย่างดี ทำให้คนเราประกอบกิจการให้ลุล่วงไปได้ โดยไม่ต้องกังวลกับอากาศร้อนหนาว และการสัมผัสยุง มด แมลง ทั้งหลายที่จะมารบกวน

    ดังนั้น มนุษย์เราจึงแสวงหาเครื่องประดับตกแต่งกันอย่างสุดความสามารถ มีเสื้อผ้าแล้วยังไม่พอ ต้องมีเครื่องประดับอย่างอื่นเข้ามาเสริม เช่น สร้อยคอ ต่างหู เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีเครื่องบำรุงผิวให้ดูงดงามตามยุคตามสมัยแต่งแต้มสีสันกันจนกลายเป็นแฟชั่นยอดนิยม

    ที่กล่าวมานี้เป็นการตกแต่งในทางร่างกายเท่านั้น แต่ไม่มีการตกต่างทางจิตใจ และเครื่องประดับตกแต่งจิตใจนั้นก็ไม่มีบริษัทห้างร้านใดผลิตออกมาขาย เพราะฉะนั้นก้อยากจะบอกว่า คนเราจะสวยสดงดงามแต่เพียงสรีระร่างกายและเครื่องประดับนั้นยังไม่เพียงพอ ต้องงดงามทางด้านจิตใจด้วย การที่จิตใจจะงดงามนั้น ท่านกล่าวถึงธรรมะ ๒ ประการ ที่จะทำให้คนเรางดงามอย่างสมบูรณ์ นั่นคือ

    ๑. ขันติ – ความอดทน

    ๒. โสรัจจะ – ความสงบเสงี่ยม

    ขันติ เป็นธรรมที่มีกล่าวไว้ในที่หลายแห่ง ในโอวาทปาติโมกข์ ในมงคลสูตร แม้ในเรื่องพระเจ้าสิบชาติ หรือในบารมี ๑๐ ก็มีกล่าวเอาไว้ เพราะถือว่า เป็นธรรมสำคัญที่จะขาดไม่ได้ ใครจะปฏิบัติธรรมสูงเพียงใดก็ตามต้องมีความอดทนเป็นพื้นฐาน และในชีวิตประจำวันยิ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะคนเราต้องสมาคม สังคมกับคนรอบข้าง ซึ่งมีทั้งดีและไม่ดี

    ความอดทนจำแนกออกเป็น ๓ อย่างคือ

    ๑. อดทนต่อความยากลำบากในการทำงานหรือประกอบกิจการ ในการดำเนินชีวิต ที่ต้องอดทนต่อสู้กับดินฟ้าอากาศที่ร้อนและหนาว เป็นต้น จนนำพากิจการงานนั้น ๆ ให้ผ่านพ้นลุล่วงไปด้วยดี

    ๒. อดทนต่อความเจ็บไข้ได้ป่วย ทนต่อทุกขเวทนาไม่โอดโอยร้องครวญครางให้เป็นที่น่ารำคาญคนอื่น เช่นพยาบาลและหมอ หรือคนใกล้ชิด ที่ให้การดูแลรักษาทั้งไม่บ่นจู้จี้จุกจิกจนกลายเป็นคนเอาใจยาก ก็จะเป็นความงามที่ไม่ต้องอาศัยอาภรณ์ใด ๆ มาประดับ เป็นความงดงามของจิตอย่างแท้จริง

    ในทางตรงข้าม ถ้าคนเราประดับตกต่างร่างกายสวยงามด้วยอาภรณ์อันมีค่า แต่เวลาป่วยไข้แล้วไม่อดทนต่อทุกขเวทนา ส่งเสียงโอดครวญให้เกิดความรำคาญแก่ผู้รักษาพยาบาล หรือผู้ใกล้ชิด เครื่องประดับตกต่างเหล่านั้นก็ไม่สามารถจะทำให้คนคนนั้นน่ารักยินดีได้เลยเพราะความงดงามทางจิต คือความอดทนนั้นไม่มีอยู่ในจิต ซึ่งจะทำให้คนคนนั้นมีสภาพเหมือนเด็ก ๆ ที่ขาดการควบคุมตนเอง

    ๓. อดทนต่อความเจ็บใจ หรืออดทนต่อการกระทบกระทั่งทางจิตใจในการอยู่รวมกันในสังคมของคนส่วนใหญ่ย่อมมีอยู่บ้างที่จะต้องมีการกระทบกระทั่งทางกาย ทางวาจา เพราะคนในสังคมนั้น บางคนเป็นคนดี บางคนเป็นคนไม่ดี คนดีไม่จำเป็นต้องพูดถึง เพราะคนดีมีประโยชน์และทำในสิ่งที่ดีที่ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่คนไม่ดีนี่สิก่อปัญหาความเดือดร้อนไม่สิ้นสุด เพราะฉะนั้นเมื่อต้องเกี่ยวข้องกับคนไม่ดี ต้องมีความอดทนอดกลั้นอย่างยิ่ง มิฉะนั้นตัวเราเองจะเป็นผู้ที่ทำอะไร ๆ ให้เสียมรรยาทในสังคม รวมทั้งความเป็นผู้มีชื่อเสียงไปในทางติดลบได้ง่าย ๆ

    คนบางคนแต่งตัวดี ดูดีไปหมด แต่พอถูกคนกระแหนะกระแหนเท่านั้น ก็โกรธฉุนเฉียว อดกลั้นอารมณ์ไม่อยู่ แสดงอาการโกรธตอบทันที ชุดเสื้อผ้าอาภรณ์เครื่องประดับต่าง ๆ ไม่ช่วยให้เกิดความงามขึ้นมาเลย

    ครูบางคนลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ ก็เพราะทนกิริยาท่าทางของเด็กนักเรียนที่แสดงออกต่อครูไม่ได้เพราะครูตั้งมาตรฐานตัวเองไว้ว่า เด็กทุกคนต้องเคารพครู แต่ครูมีความรู้สึกว่า เด็กไม่เคารพและมีท่าทีก้าวร้าว ท้าทาย ครูอาจทำอะไรรุนแรงแกนักเรียน จนกลายเป็นผู้ร้ายของนักเรียนไปได้ในชั่วพริบตา ความงดงามในความเป็นครู ในความเป็นผู้ให้ความรู้อบรมบ่มนิสัยที่ดีของเยาวชนก็จะหมดไป เครื่องหมายความเป็นครู จะไม่มีอะไรเหลืออยู่ กลบความดีที่เกิดขึ้นช้า ๆ และสั่งสมเป็นเวลานาน แต่ความชั่วเกิดแผล็บเดียว ทำลายความดีไม่ให้เหลืออยู่เลย

    อีกอย่างหนึ่ง ความอดทน ต้องแยกออกมาให้ชัดเจน ในการควบคุมตัวเอง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งยั่วยุที่ไม่ดี คือ อดที่จะไม่โกรธตอบ หรืออดต่อการที่จะนำเข้ามาไว้ในใจ คือไม่นำเอาสิ่งที่ได้ยินได้เห็นที่ไม่ดีเข้ามาไว้ในใจเรา แล้วก็ทน คือทนต่อการเจ็บใจ การเสียดแทงทางใจ ที่ต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่น่าพอใจเหล่านี้ หรือในบางครั้งเราพบเห็นสิ่งที่น่ายินดี น่ารักใคร่ แล้วเกิดอยากได้ เช่น เดินไปในห้างสรรพสินค้า พบของที่ถูกใจมากมายอยากได้ไปหมด ก็ต้องใช้ความอด คืออดใจไว้ไม่ให้สิ่งที่เราอยากได้เข้าอยู่ในใจเรา แล้วก็ทนที่จะต้องไม่มีสิ่งเหล่านั้นให้ได้ เราก็จะได้ไม่ต้องจ่ายเงินออกไป เพราะพอเราพ้นออกมาจากห้างสรรพสินค้าไม่นานเท่าไหร่ เราก็อาจลืมความอยากได้ไปแล้ว ใช่หรือไม่ ?

    ความอดทนต่อการกล่าวร้ายป้ายสี การด่าว่าจากบุคคลอื่นนั้น พระพุทธเจ้าทรงกระทำให้เป็นตัวอย่างมาแล้ว เรื่องของเรื่องมีว่า

    พราหมณ์คนหนึ่งพบพระพุทธเจ้าทีไร แกก็จะด่าว่าพระพุทธเจ้าเสีย ๆ หาย ๆ อยู่ร่ำไป เพราะโกรธที่พระพุทธเจ้าบวชน้องชายแก เพราะแกเป็นพราหมณ์ ไม่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าเห็นว่าพราหมณ์ด่าว่าอยู่เสมอ ไม่เลิกราเสียที ก็เลยตรัสถามว่า

    “ พราหมณ์ ในเรือนของท่านนั้น มีแขกมาเยือนหรือไม่ ?”

    พราหมณ์ก็ตอบว่า “ ในเรือนของข้าพเจ้านั้นมีแขกมาเยือนเสมอ ”

    จึงตรัสถามต่อไปอีกว่า “ เมื่อมีแขกมาเยือน ท่านต้อนรับอย่างไร ”

    พราหมณ์ก็ตอบว่า “ ข้าพเจ้าก็ต้อนรับด้วยอามิสสิ่งของเครื่องบริโภคตามสมควรแก่ฐานะของแขกผู้มาเยือน ”

    พระองค์จึงตรัสว่า “ พราหมณ์ เมื่อแขกที่มาเยือนท่าน ไม่รับของต้อนรับจากท่าน สิ่งของเหล่านั้นจะตกเป็นของใคร ”

    พราหมณ์ก็ตอบว่า “ ก็ตกเป็นของข้าพเจ้า ”

    ดังนั้นจึงตรัสว่า “ พราหมณ์ การที่ท่านด่าเราทุกวัน ๆ เราไม่ได้รับเอาไว้ คำด่าเหล่านั้นจะตกเป็นของใครเล่า ?”

    พราหมณ์เลยจำนนต่อพระดำรัส แล้วหันมานับถือพระพุทธศาสนาแต่นั้นมา

    เพราะฉะนั้น การอดทนก็คือการไม่รับเอา หรือการที่ไม่ให้สิ่งที่ไม่ดีนั้นมามีอำนาจอยู่เหนือใจตน อย่าไปรับเอา เมื่อเราไม่รับสิ่งนั้นก็จะกลับไปหาเจ้าของนั่นเอง ทำใจให้สบาย ๆ

    การที่เรามีความอดทนอดกลั้นเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่พอที่จะทำให้เป็นคนมีความงามอย่างแท้จริงได้ ต้องมีธรรมะอื่นเข้ามาร่วมเติมต่อ ธรรมะที่คู่กับขันติ ก็คือ โสรัจจะ ความสงบเสงี่ยม

    ความสงบเสงี่ยมคือความที่มีจิตชื่นบาน ประณีต มีจิตที่ราบเรียบ ไม่ว่าจะเผชิญกับภาวะที่น่าพอใจรักใคร่หรือภาวะที่ไม่น่าพอใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะไม่แสดงอาการให้ผิดแผกไปจากเดิม

    คนเรารู้จักอดทนอดกลั้น ไม่โกรธต่อผู้อื่นก็จริง แต่ในความอดทนนั้นอาจจะมีสีหน้าที่บึ้งตึ้ง หรือสีหน้าที่แสดงความไม่พึงพอใจ ต่อเมื่อมีโสรัจจะ คือความแช่มชื่นเข้ามากำกับ ก็จะทำให้ผู้นั้นมีความอดทนที่งดงามปรากฏแก่ผู้พบเห็น เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้อื่น โสรัจจะจึงทำหน้าที่เสริมความอดทนให้งดงามเด่นชัดขึ้น

    ขันติ ความอดทน และโสรัจจะ ความสงบเสงี่ยมนี้ เป็นธรรมคู่กัน จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ เพราะมีทั้งสองอย่างอยู่ร่วมกัน จึงเป็นธรรมที่จะทำให้บุคคลงดงามอย่างแท้จริง งามยิ่งกว่าอาภรณ์ทั้งปวงที่มีในท้องตลาด

    บอกต่อๆ กันไปด้วยว่า ขันติและโสรัจจะนั้น ไม่มีใครทำขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง โรงงานก็อยู่ที่ใจท่านนั่นแหละ

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,303
    ค่าพลัง:
    +17,478
    แจ้งการส่ง ems

    พี่ชัยวัฒน์ EV 4401 7209 2 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EV 4401 7210 1 TH

    พี่ภาคภูมิ EV 4401 7211 5 TH

    พี่ธีรพจน์ EV 4401 7212 9 TH

    พี่กฤตยชญ์ EV 4401 7213 2 TH
     

แชร์หน้านี้

Loading...