ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    @ นักดำนํ้าระดับโลก.ชาวอังกฤษสามคน.ก็ได้ไปออกรายการสดทางทีวีช่องชั้นนำของอังกฤษ.ใส่เสื้อโชว์หราลายสีธงไตรรงค์และแผนที่ขวานทอง.บ่งบอกคำว่าTHAILAND.อย่างสมภาคภูมิ.ทำให้ภาพพจน์และชื่อเสียงประเทศไทยและคนไทย.เป็นที่ลือเลื่องและชื่นชมของชาวอังกฤษและต่างชาติ.ดีขึ้น.ดีวันดีคืน.อย่างต่อเนื่อง.อย่างสอดประสานกันทั้งโลก

    คำให้สัมภาษณ์นักดำนํ้าชาวอังกฤษ.ทั้งสามคน.ถอดความในสาระสำคัญได้อย่างเท่ๆ.ชัดเจน.ทั้งสามคนต่างดื่มดำและภูมิใจเป็นที่สุด.ที่มีโอกาสมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการถํ้าหลวงฯ.ล้วนชื่นชมในความเป็นคนไทย.ในความสามัคคีอย่างไร้ขีดจำกัด.คนไทยล้วนมีมิตรไมตรีต่อกัน.และต่อชนทุกชาติ.แม้ในยามวิกฤติ.ในยามคับขันแห่งชีวิต.ยังมีรอยยิ้มอย่างบริสุทธิ์ใจแก่กัน.ตลอดเวลา.มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่.โอบอ้อมอารีต่อกัน.แม้ตัวเองยังยากจนข้นแค้น.ยังไม่มั่งมีและไม่รํ่ารวยเงินทอง.อาหารการกินก็อุดมสมบูรณ์.อิ่มท้องได้ทุกเมื่อทุกมื้อ.แม้ในยามหิวนอกเวลา

    ใจคนไทยเป็นหนึ่งเดียวและเด็ดขาด.เด็ดเดี่ยว.อย่างประหลาด.เมื่อพวกตนเข้าไปแต่แรก.สัมผัสได้เลย.งานนี้ไม่ง่ายเลย.มันไม่ง่ายเหมือนที่เคยไปเคยพบ.มันเป็นงานที่บรมโคตรยาก.เพียงไปไม่ถึงไหนเท่าไหร่ก็เริ่มรู้โดยแจ้งแล้ว.คิดอยู่ในใจ.เราจะมาช่วยเขา.หรือเราจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่กันแน่.เริ่มคิดถึงครอบครัว.คนที่เรารัก.แล้วหันไปถามผู้ที่เข้าไปด้วยกัน.เป็นหน่วยซีลแห่งกองทัพเรือไทย.แล้วก็บอกเขา.นี่มันไม่ง่ายเลยนะเนี่ย.เราออกไปตั้งหลักกันใหม่ดีกว่ามั้ย.เผื่อจะได้เรียกคนที่เก่งๆมาช่วยกัน.อย่างคุณหมอริชาร์ด แฮร์ริส.นักดำถํ้าที่ดังที่สุดของโลกชาวออสเตรเลียและพรรคพวก.พวกเขาคงมีความเชี่ยวชาญและความสามารถที่จะมาช่วยเรา..แต่หน่วยซีลไทยแต่ละคนกลับยืนยันจะไปต่อ.พร้อมยืนยันอย่างหนักแน่น.ภาระกิจของเรามีอย่างเดียว.คือการเข้าไปช่วยเด็กๆและโค้ชทั้ง๑๓คน..ออกมาให้ได้อย่างปลอดภัย.อย่างอื่นนอกจากนั้นเราไม่เคยคิด.ในสมองของเรา.มีอย่างเดียวเท่านั้น.ต้องปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิตทั้ง๑๓คนให้สำเร็จ..ผมก็ได้แต่อุทานดังๆในใจ.Oh,MyGod..เขาเหล่านี้.มีเพียงแค่หัวใจเท่านั้น.พร้อมอุปกรณ์ดำนํ้าแสนธรรมดา.และถังอ็อกซิเย็นติดตัวเพียงคนละถัง.ถังสำรองก็ไม่มี.อุปกรณ์เสริมพิเศษอย่างอื่นก็ไม่มี.อาหารติดตัวก็ไม่มี.ยารักษาโรคใดๆก็ไม่มี.มีแต่ตัวและหัวใจดวงเดียวเท่านั้น.แล้วยังมั่นคงจะไปต่อ.อีกกี่วันก็ไม่รู้.พวกเขาช่างเป็นคนประหลาดที่สุดในโลกที่เราเคยพบ.แล้วเราจะถอยได้อย่างไร.ก็ต้องไปต่อเซ้

    เมื่อได้พบเด็กๆ.ก็ยิ่งประหลาดหนัก.พวกเขาอยู่กันครบทั้ง๑๓คน.มันเป็นไปได้อย่างไร.เด็กๆทั้งนั้นเลย.อยู่ทนได้ถึงสิบวันโดยไม่ได้ทานอาหารอะไรเลย.ยารักษาโรคก็ไม่มี.มีแต่เพียงไฟฉาย.ขออุทานอีกครั้งเถอะ.Oh,MyGod..พระเจ้าช่วย.อีกแล้วหรา.มันเป็นไปได้อย่างไรกัน.ประหลาดอีกแล้ว.นับไปนับมาด้วยตาตัวเอง.อยู่กันครบตัวเป็นๆทั้ง๑๓คนจริงๆด้วย

    นี่คือสิ่งประหลาดที่เราได้พบมาแล้วด้วยตัวเองในประเทศไทย.ที่ถํ้าประวัติศาสตร์แห่งนี้.มีความประหลาดครบถ้วน.เยอะแยะเต็มไปหมด.เป็นที่รวมของความประหลาดแห่งความประหลาดอย่างน่าทึ่งจริงๆ.มีคนไทยชาวบ้านธรรมดา.ดูจะไม่เป็นคนรวยด้วยซํ้า.มาด้วยตัวเองโดยสมัครใจ.ไม่ได้รับค่าแรง.แต่กลับทำงานช่วยกันฟรีๆ.ไม่มีใครจ้าง.ไม่มีใครขอร้อง.ไม่ได้ถูกใครบังคับ.มีทุกอาชีพและหน้าที่ของใครของมัน.มีเป็นร้อยๆพันๆในแต่ละวัน.อยู่กันตลอดทั้งวันทั้งคืน.ต่างคนต่างมา.มาจากทุกสารทิศ.ต่างไม่รุ้จักกัน.แต่มารวมกันอยู่ที่นี่.มีอุปกรณ์ง่ายๆธรรมดาๆของใครของมัน.มีครบทุกอย่าง.ทั้งร้านอาหาร.ร้านซักรีด.รถรับส่ง.บางคนก็มีหน้าที่ขุดเจาะ.สำรวจ.สูบนํ้า.เก็บขยะ.ถมหิน.สารพัดสารเพ..ทุกๆอย่างฟรีหมด.ไม่ต้องใช้เงินกันเลย

    ถามว่า..เราดีใจมั้ยที่ถือเป็นฮีโร่ไปแล้ว.เราก็ขอบอกว่า.เรามีประสพการณ์ที่สู้อุตส่าห์เก็บสะสมมาหลายสิบปี.แล้วมีโอกาสได้ใช้ประสพการณ์นี้ให้มีคุณค่า.ให้เป็นประโยชน์.นับว่าเราโชคดีมากๆ.เราดีใจและยินดีมากๆ.มันเป็นความสุขที่หาซื้อไม่ได้..ภารกิจของเราคือการไปช่วยเด็กๆและโค้ชทั้ง๑๓คน.ให้ออกมาจากวิกฤติและอันตรายอย่างปลอดภัยทุกๆคน.มันมีเพียงเท่านี้.ส่วนความเป็นฮีโร่นั้น.ไม่ใช่ภาระกิจของเรา.เราไม่เคยคิดถึง.ไม่เคยเอามาใส่ในสมองของเรา

    หากจะถามว่าใครคือฮีโร่.ที่นั่นมีกี่คนที่ช่วยกัน.ในทุกๆหน้าที่.ทุกๆคนก็คือฮีโร่ทั้งหมดนั่นแหละ.มีร้อยคนก็ฮีโร่ทั้งร้อยคน.มีพันคนก็ฮีโร่ทั้งพันคน.แต่ความจริง.ที่นั่นมีนับพันๆคน.ก็ทุกคนนับพันๆคนนั่นแหละ..ฮีโร่ตัวจริง

    สุดซาบซึ้งใจจริงๆ
    ประวัติศาสตร์ของโลก
    ปฏิบัติการถํ้าหลวง ขุนน้ำนางนอน เชียงราย

    THE MAGIC LAND OF EXCELLENCE
    ดินแดนแห่งความประหลาดมหัศจรรย์ลํ้าลึก

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ

    หมูบ้านป่าเเหว่งเชียงใหม่ กลับมามีคนอยู่เเล้ว!!
    ด้านเจ้าหน้าที่โต้.. เเค่ให้ข้าราชการชั้นผู้น้อยอยู่ส่วนที่ไม่โดนสั่งรื้อเฉยๆ
    ฝั่งชาวบ้านจับผิดข้าราชการชั้นผู้น้อย..ทำไมมีรถหรูจอดในบ้านพัก???
    __________________________________

    #เครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
    .
    ไม่อยากพลาดข่าวป่าแหว่ง อย่าลืมกดติดตาม
    #OfficialPage เพจเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ
    https://goo.gl/ptmXgs
    .
    ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทาง ไลน์เครือข่าย
    #OfficialLine https://line.me/R/ti/p/@upz7983s
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Watchers
    FB_IMG_1532147348547.jpg
    อเมริกาโดน #คลื่นความร้อน
    20/07/18
    เมื่อวานแถบ Dallas/Fort Worth ในรัฐเท็กซัส อุณหภูมิขึ้นไปกว่า 42°C สูงสุดในรอบ 93 ปี
    #Heatwave
    Cr: mrvob

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สรุป ฟุ่มเฟือย

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ว่าที่ ร้อยตรี #แฉ ถนนสร้างใหม่ ราคาเฉียด #500ล้าน เปิดใช้ได้ 2 เดือน พัง! #นิวส์มอนิเตอร์ #ข่าวสด


     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สหกรณ์ออมทรัพย์กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น "ฟ้องล้มละลาย และดำเนินการทางวินัยสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์" จ่อขาดคุณสมบัติ ต้องออกจากราชการ!

    http://www.thailocalmeet.com/index.php/topic,66260.0.html


     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อเมริกาจากฐานะยิ่งใหญ่เป็น‘อภิมหาอำนาจรายสุดท้าย’ที่เหลืออยู่รายเดียวของโลก ก้าวสู่ความเสื่อมทรุดในเวลานี้ได้อย่างไร?
    เผยแพร่: 20 ก.ค. 2561 23:51 ปรับปรุง: 21 ก.ค. 2561 00:26 โดย: ทอม เองเกลฮาร์ดต์
    561000007552701.jpg

    ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช กล่าวคำปราศรัยประกาศ “ภารกิจสำเร็จแล้ว” บนเรือบรรทุกเครื่องบิน ยูเอสเอส อับราฮัม ลินคอล์น ในเดือน พ.ค. 2003 ภายหลังกองทัพอเมริกันบุกเข้าไปรุกรานและยึดครองอิรักได้ แต่ต่อมาภาพนี้กลายเป็นภาพที่ถูกล้อเลียนเย้ยหยันตลอดมา เนื่องจากผลพวงต่อเนื่องของสงครามหฤโหดคราวนี้กลับสะท้อนถึงความเสื่อมทรุดของสหรัฐฯ

    (เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

    How the last superpower was unchained

    By Tom Engelhardt
    17/06/2018

    ชาวอเมริกันย่อมไม่คิดที่จะนำเอาคำว่า “ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย” มาประยุกต์ใช้กับพวกเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นอเมริกันในฐานะของประเทศ, ของประชาชน, หรือของรัฐบาลก็ตามที กระนั้น ลองคิดให้ดีเถอะ คำๆ นี้ช่างมีความเหมาะเหม็งเสียจริงๆ

    ลองคิดว่ามันเป็นเรื่อง “เดอะ ฮิวแมน คอมเมอดี” (the human comedy) ในเวอร์ชั่นอเมริกันล้วนๆ ก็แล้วกัน นั่นก็คือ มีมหาอำนาจยิ่งใหญ่รายหนึ่งซึ่งช่างแสนรู้อยู่ตลอดกาลว่าโลกนี้ต้องการอะไร และจึงคอยหยิบยื่นคำแนะนำอันอุดมเปี่ยมล้นให้แก่ผู้ไม่รู้ประสีประสา คำแนะนำดังกล่าวนี้ฟังดูแล้วเหมือนกับพูดอย่างมีอารมณ์ขัน ถ้าหากมันจะไม่ได้มีความโหดเหี้ยมเลวร้ายจนถึงขนาดนั้น

    ถ้าหากคุณลองมองดู คุณก็จะสามารถพบเห็นตัวอย่างมากมายในลักษณะนี้ในที่แทบทุกหนทุกแห่งทีเดียว เป็นต้นว่า ในตอนหนึ่งของข้อเขียนจากหนังสือพิมพ์ เดอะ นิวยอร์กไทมส์ ชิ้นหนึ่ง ที่พูดถึงการเจรจาอันสับสนวุ่นวายแบบชาวทรัมป์ (Trumpian) ซึ่งเกิดขึ้นก่อนหน้าการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่สิงคโปร์ ผู้สื่อข่าว โมโตโค ริช (Motoko Rich) เขียนเอาไว้ว่า “ทั้งฝ่ายอเมริกันและฝ่ายเกาหลีใต้ต่างต้องการที่จะโน้มน้าวฝ่ายเกาหลีเหนือให้มองเห็นว่า การทุ่มเททรัพยากรเกือบทั้งหมดของประเทศเข้าไปยังกองทัพและโครงการนิวเคลียร์ของพวกเขาต่อไปเรื่อยๆ ย่อมเป็นการคดโกงเบียดบังความอยู่ดีกินดีทางเศรษฐกิจของพลเมืองของพวกเขาเอง อย่างไรก็ดีฝ่ายเกาหลีเหนือไม่เห็นว่าทั้งสองเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องอะไรกันเป็นพิเศษ”

    ลองคิดถึงเรื่องนี้ให้ดีๆ สักแป๊บหนึ่งนะครับ ลองย้อนกลับมาดูที่อเมริกาเองบ้าง แน่นอนทีเดียวว่าสหรัฐฯนั้นได้เริ่มดำเนินการอัปเกรดคลังแสงนิวเคลียร์อันใหญ่โตมหึมาของตนกันแล้ว ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ (นี่ยังเป็นตัวเลขก่อนหน้าที่ค่าใช้จ่ายจะเริ่มบานปลายเกินงบประมาณด้วยซ้ำ) ไม่เพียงเท่านั้น ทั้งรัฐสภาสหรัฐฯและประธานาธิบดีของสหรัฐฯต่างถูกพิสูจน์ยืนยันมานมนานหลายปีแล้วว่า มีความกระตือรือร้นที่จะทุ่มเทเงินทองอย่างน้อยที่สุดปีละ 1 ล้านล้านดอลลาร์ เข้าไปในงบประมาณของพวกหน่วยงานที่กำลังกลายเป็นรัฐความมั่นคงแห่งชาติ (ตัวเลขนี้ยังกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกันก็ทิ้งห่างไกลสุดกู่เมื่อเทียบกับงบประมาณด้านเดียวกันนี้ของมหาอำนาจรายอื่นๆ ไม่ว่ารายไหนก็ตามบนพื้นพิภพนี้) แต่ในเวลาเดียวกันนั้นพวกโครงสร้างพื้นฐานของสหรัฐฯเองต่างอยู่ในสภาพทรุดโทรมและผุพัง ถึงกระนั้นสหรัฐฯยังคงมีอยู่รู้สึกว่าฝ่ายเกาหลีเหนือผู้ยากจนข้นแค้นช่างทำตัวได้อย่างน่าพิศวงงงงวยเหลือเกิน เมื่อพวกเขาก็เดินไปบนเส้นทางอันสุดโต่งเช่นนี้ด้วยเหมือนกัน!

    ธรรมดาแล้วชาวอเมริกันย่อมไม่คิดที่จะนำเอาคำว่า “ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย” (Clueless) มาประยุกต์ใช้กับพวกเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นอเมริกันในฐานะของประเทศ, ของประชาชน, หรือของรัฐบาลก็ตามที กระนั้น ลองคิดให้ดีเถอะ คำๆ นี้ช่างมีความเหมาะเหม็งเสียจริงๆ

    เมื่อพูดกันถึงคำว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรแล้ว ยังมีเส้นทางที่แปลกประหลาดน่าพิศวงยิ่งกว่านี้อีกเส้นทางหนึ่งซึ่งสหรัฐฯนั้นแหละกำลังเดินอยู่ตลอดมา อย่างน้อยที่สุดก็ตั้งแต่ชั่วขณะซึ่งทราบๆ กันอยู่ในสมัยของจอร์จ ดับเบิลยู บุช ที่ได้ก่อให้เกิดผลต่อเนื่องติดตามมาอย่างมากมายมหาศาลชนิดไม่มีอะไรเทียบได้อีกแล้ว กระนั้นก็ตามด้วยเหตุผลบางอย่างบางประการมันกลับยังคงถูกสังเกตถูกมองพบเห็นกันน้อยนิดที่สุด หัวข้อนี้แหละคือสิ่งที่ชาวอเมริกันมองกันไม่กันหรือมองกันไม่ออก ความจริงแล้ว ถ้าคุณนำเอาสหรัฐอเมริกามานั่งอยู่บนเก้าอี้โซฟาคนไข้ในห้องจิตแพทย์ ตรงนั้นแหละซึ่งน่าจะเป็นสถานที่สำหรับการเริ่มต้น

    อเมริกาที่เคยถูกควบคุมยับยั้ง

    ในแง่หนึ่ง เรื่องราวของอเมริกาก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นมาเนิ่นนานเก่าแก่ที่สุดบนโลกใบนี้ นั่นคือ มันเป็นเรื่องการก้าวผงาดและการเสื่อมโทรมล่มสลายของจักรวรรดิต่างๆ นั่นเอง ขอให้สังเกตนะครับว่าคำว่าจักรวรรดินี้ผมใช้เป็นพหุพจน์ คือจักรวรรดิที่มีกันอยู่หลายๆ แห่ง ในอดีตที่ผ่านมานั้น –อย่างน้อยที่สุดก็จนกระทั่งถึงช่วงหลังๆ นี้แหละ “จักรวรรดิ” ต้องเป็นพหุพจน์ ต้องมีกันหลายๆ แห่งเสมอ นับตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 15 ตอนที่พวกกองเรือของมหาอำนาจจักรวรรดินิยมชาวยุโรปแห่งแรกๆ บุกตีเข้าไปในโลกอันกว้างใหญ่ด้วยความคิดที่จะปราบปรามเข้าพิชิตกดขี่เป็นต้นมา มันก็เป็นการแข่งขันแย่งชิงกันของจักรวรรดิหลายๆ แห่งทุกทีไป ทั้งนี้มีอยู่อย่างน้อยที่สุดสัก 3 ครั้งกระมังซึ่งมีจักรวรรดิมหาอำนาจรายสำคัญกว่าเพื่อนหลายรายก้าวผงาดขึ้นมาและแย่งชิงกันเป็นใหญ่เป็นผู้มีอำนาจครอบงำเหนือคนอื่น หรือไม่ก็กำลังเสื่อมถอยลงอย่างช้าๆ จากอำนาจดังกล่าว

    หากจะหาคำจำกัดความประวัติศาสตร์ของเหล่ามหาอำนาจยิ่งใหญ่ทั้งหลายบนพื้นพิภพนี้ ก็คงก็คงอยู่ในลักษณะที่ว่า ผู้ที่ออกมาท้าทาย ก้าวผงาดขึ้นมา ส่วนผู้ที่ถูกท้าทาย ก็เสื่อมทรุดลงไป (the challenging rise, the challenged decline) ลองคิดดูนะครับว่านี่แหละคือเนื้อหาสาระในเรื่องเล่าขานของประวัติศาสตร์ที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายศตวรรษเหลือเกิน เป็นนิยามที่สามารถสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นมาทั้งหมด อย่างน้อยที่สุดก็จนกระทั่งถึงปี 1945 เมื่อมีเหลืออยู่เพียง 2 “อภิมหาอำนาจ” (superpowers) คือสหรัฐฯกับสหภาพโซเวียต ซึ่งพบว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากันอยู่ในขอบเขตทั่วทั้งโลก

    ในระหว่างอภิมหาอำนาจ 2 รายนี้ สหรัฐฯทั้งแข็งแรงกว่า, มีอำนาจมากกว่า, และร่ำรวยมั่งคั่งกว่านักหนาอยู่เสมอมา โดยทฤษฎีแล้วสหรัฐฯหวาดกลัวหมีรัสเซียตัวนี้ ซึ่งถูกขนานนามว่า “จักรวรรดิแห่งความชั่วร้าย” (Evil Empire) และพากเพียรพยายามทำงานเพื่อ “ควบคุมยับยั้ง” ให้อยู่แต่ข้างหลัง “ม่านเหล็ก” (Iron Curtain) อันมีชื่อเสียงโด่งดัง ขณะที่สมัครพรรคพวกของรัสเซียที่อยู่ในสหรัฐฯ ซึ่งมีกันเป็นจำนวนน้อยนิดเสมอมา ก็ตกเป็นเหยื่อของความหวาดกลัวอย่างชนิดคลั่งไคล้และการปราบปรามกดขี่

    อย่างไรก็ตาม ความจริง (อย่างน้อยที่สุดเมื่อเราลองมองย้อนทบทวนกลับไป) มีอยู่ว่า ในระยะเวลาหลายๆ ปีแห่งสงครามเย็น (Cold War) นี้ ที่แท้แล้วฝ่ายโซเวียตกำลังทำประโยชน์ให้แก่วอชิงตันอย่างแปลกประหลาดและไม่เป็นที่สังเกตพบเห็นกัน ตลอดทั่วดินแดนจำนวนมากของมหาทวีปยูเรเชีย และอาณาบริเวณอื่นๆ ตั้งแต่คิวบาไปจนถึงตะวันออกกลาง อำนาจของโซเวียต และการแย่งชิงแข่งขันกับสหรัฐฯเพื่อแผ่อิทธิพลและการเข้าครอบงำอย่างไม่มีวันจบสิ้นซึ่งมีพร้อมกับอำนาจนี้ มักคอยเตือนพวกผู้นำอเมริกันอยู่เสมอว่าอำนาจของพวกเขาเองนั้นมีขอบเขตจำกัดของมันอยู่

    นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลย (โดยเฉพาะยิ่งเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงศตวรรษที่ 21 ด้วยแล้วก็ยิ่งสมควรมองกันกันได้ชัดเจน แต่เอาเข้าจริงแล้วกลับยังคงไม่ถูกมองกันให้ชัดๆ อยู่นั่นเอง) ในเวลานั้นดูเหมือนยังคงมองเห็นกันได้ว่าอำนาจของอเมริกันไม่สามารถที่จะแผ่ออกไปโดยตลอดถ้วนทั่วได้ ยังมีหลายๆ อย่างที่อเมริกาไม่สามารถกระทำได้ มีพื้นที่หลายๆ บริเวณซึ่งอเมริกาไม่สามารถควบคุมได้ มีความฝันหลายๆ อย่างซึ่งพวกผู้นำของอเมริการู้ว่าไม่สามารถใฝ่ฝันถึงได้ จากปี 1945 จนถึงปี 1991 สหรัฐฯก็แฉกเช่นเดียวกับสหภาพโซเวียต สามารถกล่าวได้ว่าได้ “ถูกควบคุมยับยั้ง” เอาไว้จากอีกฝ่ายหนึ่ง ถึงแม้อาจจะไม่มีใครเลยในตอนนั้นที่ขบคิดในลักษณะดังกล่าว

    ในช่วงปีเหล่านี้ โดยเนื้อหาสาระแล้วฝ่ายรัสเซียจึงกำลังปกปักรักษาวอชิงตันให้พ้นภัยจากตัววอชิิงตันเอง อำนาจของโซเวียตกลายเป็นเครื่องเตือนชนิดจับต้องได้ต่อพวกผู้นำทางการเมืองและทางการทหารชาวอเมริกันว่า บริเวณบางแห่งบนพื้นพิภพนี้ยังคงเป็นพื้นที่ซึ่งเข้าไปไม่ได้ (เพียงแต่ว่าในช่วงปีเหล่านี้ บริเวณเช่นนี้ถูกเรียกขานกันด้วยคำว่า “เงาทมิฬ” the shadows)

    กล่าวโดยสรุปแล้ว สหภาพโซเวียตได้ช่วยเหลือวอชิงตันให้พ้นภัยทั้งจากแฟนตาซีจินตนาการอันตราย และทั้งจากนรกของการบุกเดี่ยวไปคนเดียว ถึงแม้ว่าชาวอเมริกันสามารถตระหนักถึงความเป็นจริงเช่นนี้ได้ในระดับเล็กน้อยที่สุด

    นี่คือสถานการณ์ที่ดำรงอยู่จวบจนกระทั่งถึงเดือนธันวาคม 1991 เมื่อในตอนท้ายของการแข่งขันแบบจักรวรรดิที่ดำเนินมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ เพื่อแย่งชิงอำนาจ (และการแข่งขันกันด้านกำลังอาวุธอย่างไม่รู้จบซึ่งมาพร้อมกับการแย่งชิงอำนาจนี้) ปรากฏว่าเหลือมหาอำนาจยักษ์ใหญ่มหึมาอยู่เพียงรายเดียวเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่บนพิภพโลก ผมขอพูดถึงบรรยากาศซึ่งดูจะสามารถบอกเล่าบางสิ่งบางอย่างเกี่ยวกับความคิดความรู้สึกที่มีกันอยู่ในเวลานั้นได้ดีทีเดียว เมื่อตอนที่สหภาพโซเวียตเกิดระเบิดแตกทลายขึ้นมาจากภายในนั้น ปฏิกิริยาเริ่มแรกของวอชิงตันไม่ใช่เป็นอารมณ์ความรู้สึกแบบผู้พิชิตชัยชนะหรอก (ถึงแม้สิ่งนี้ก็ปรากฏออกมาด้วยในอีกไม่นานต่อมา) แต่เป็นอาการช็อกอย่างรุนแรง เป็นความรู้สึกไม่อยากเชื่อที่เกิดอะไรบางสิ่งบางอย่างขึ้นมาอย่างที่ไม่มีใครเคยคาดหมาย, เคยทำนาย, หรือกระทั่งกล้าจินตนาการ จนกระทั่งมาถึงตรงชั่วขณะตรงนั้น วอชิงตันวางแผนการอะไรก็คาดคำนวณคิดคำนึงถึงโลกที่มี 2 อภิมหาอำนาจดำรงอยู่ตราบสิ้นกัลปาวสาน

    อเมริกาที่ไม่ถูกควบคุมยับยั้ง

    อย่างไรก็ตาม ไม่นานนักหลังจากนั้น ชนชั้นนำของวอชิงตันก็บรรลุข้อสรุปเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นมา ด้วยถ้อยคำที่ถือเป็นวลีแห่งยุคสมัยทีเดียว นั่นคือ “จุดสิ้นสุดของประวัติศาสตร์” (the end of history) เมื่อพิจารณาจากความยับเยินของสหภาพโซเวียต มันดูราวกับว่าชัยชนะในท้ายที่สุดได้ตกเป็นของสหรัฐฯซึ่งอีกไม่ช้าไม่นานพวกนักการเมืองของประเทศนี้จะเรียกขานมันว่าเป็น “อภิมหาอำนาจรายสุดท้าย” , ชาติ “ที่จำเป็นต้องมีขาดหายไม่ได้”, รัฐ “ที่ถือเป็นข้อยกเว้น”, เป็นดินแดนยิ่งใหญ่เหนือจินตนาการ (อย่างน้อยที่สุดก็จวบจนกระทั่่ง โดนัลด์ ทรัมป์ ออกรณรงค์หาเสียงด้วยการป่าวร้องคำขวัญซึ่งบ่งบอกเป็นนัยว่าอเมริกันทั้งหลายไม่ได้มีความยิ่งใหญ่เหลืออยู่อีกแล้ว)

    ในความเป็นจริง ณ ชั่วขณะนั้นมีเส้นทางอยู่หลายหลากเส้นทางทีเดียวซึ่งเปิดกว้างให้แก่ “อภิมหาอำนาจรายสุดท้าย” นี้ มีการพูดจากัน (ถึงแม้ว่าเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น) แม้กระทั่งถึงเรื่อง “การแบ่งปันผลกำไรจากสันติภาพ” -- ซึ่งหมายถึงความเป็นไปได้ที่ว่า ในโลกที่ปราศจากอภิมหาอำนาจคอยแก่งแย่งแข่งขันกันแล้วเช่นนี้ เงินทองงบประมาณแผ่นดินที่เก็บจากพวกผู้เสียภาษีก็น่าจะเลิกนำไปลงทุนในพลังแห่งการทำสงคราม แต่หันมาลงทุนในสิ่งที่สร้างสันติภาพ (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน และในเรื่องการอยู่ดีกินดีของพลเมืองของประเทศ)

    อย่างไรก็ตาม การพูดจาเช่นนี้ยืนยาวไปได้เพียงแค่ราว 1 ถึง 2 ปี โดยมักจะอยู่ในระดับที่ถือว่าสำคัญน้อยเสมอมา ก่อนที่จะถูกโยนไปซุกเอาไว้ในห้องเก็บของของวอชิงตัน ตรงกันข้าม ทั้งๆ ที่มีพวกรัฐ “อันธพาล” ผอมโซขี้โรคเพียงสองสามรายเหล่านั้นที่หลงเหลืออยู่ให้เล่นงานจัดการ –อย่าง ... เอ้อ (ขอกลืนน้ำลายก่อน) ... เกาหลีเหนือ, อิรัก, และอิหร่าน— แต่เงินทองงบประมาณแผ่นดินก็ไม่เคยได้บ่ายหน้ากลับบ้านกันจริงๆ เลย เช่นเดียวกับแนวความคิดที่ติดไปกับเงินทองเหล่านั้นก็ไม่เคยหวนกลับมาบ้านเช่นกัน

    ควรต้องถือว่าเป็นโชคดีของพวกนักเพ้อฝันทางภูมิรัฐศาสตร์ซึ่งอีกไม่ช้าไม่นานจะเข้ากุมบังเหียนในวอชิงตัน จากการที่สงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก (the first Gulf War) ระหว่างปี 1990 – 1991 ซึ่งยุติลงไม่ถึงปีก่อนการล่มสลายของสหภาพโซเวียต ได้กลายเป็นการแผ้วถางเส้นทางให้เกิดความพรักพร้อมยอมรับสไตล์แนวความคิดที่แตกต่างผิดแผกออกไป ชัยชนะจากง่ายดายฉับพลันในคราวนั้นได้นำไปสู่ความฝันหวานทางการทหารประเภทใหม่ ซึ่งจินตนาการไปว่าการทหารที่อาศัยความรู้ความสามารถทางด้านไฮเทค อย่างเดียวกันกับพวกที่ใช้ในการขับไล่ไสส่งกองทัพของซัดดัม ฮุสเซน จอมเผด็จการแห่งอิรัก ให้ล่าถอยไม่เป็นขบวนออกไปจากคูเวตในเวลาสั้นๆ เช่นนั้นได้ ก็จะมีศักยภาพที่จะทำอะไรได้ทั้งนั้นบนโลกใบนี้โดยปราศจากการถูกต่อต้านคัดค้านอย่างจริงจังใดๆ

    กระนั้นก็ตามที ตั้งแต่เริ่มต้นกันทีเดียวก็มีสัญญาณหลายๆ ประการบ่งบอกชี้ถึงอนาคตที่เลวร้ายยิ่งกว่านั้นอย่างสุดกู่ ผมจะขอยกตัวอย่างที่มีชื่อเสียงฉาวโฉ่สักตัวอย่างหนึ่ง นั่นคือ เหตุการณ์เฮลิคอปเตอร์แบบแบล็กฮอว์กถูกยิงตกในปี 1993 ซึ่งชาวอเมริกันทั้งหลายดูจะยังจดจำกันได้ดี เมื่อกองทัพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกของสหรัฐฯต้องตกเป็นเหยื่อของขุนศึกชาวโซมาเลียและกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่น และพบว่าตนเองไร้ความสามารถที่จะบังคับใช้เจตนารมณ์ของตนในรัฐที่มีความน่าประทับใจน้อยที่สุดรัฐหนึ่งของพื้นพิภพนี้ (แล้วมันก็ยังคงเป็นสถานที่ซึ่งสร้างความหงุดหงิดผิดหวังให้แก่กองทัพยิ่งใหญ่นี้อยู่นั่นเองในอีกราวเสี้ยวศตวรรษต่อมา)

    อย่างไรก็ตาม ในโลกแห่งยุคหลังปี 1991 แทบไม่มีใครเลยในวอชิงตันซึ่งหันมาขบคิดพิจารณาข้อเท็จจริงที่ว่า ช่วงศตวรรษที่ 20 ยังมีการปลดปล่อยปรากฏการณ์อีกอย่างหนึ่งเป็นอิสระขึ้นมาบนโลกใบนี้ อันได้แก่ ขบวนการปลดแอกแห่งชาติของพวกกบฏผู้ก่อความไม่สงบ ที่โดยทั่วไปแล้วเป็นพวกกบฏฝ่ายซ้าย และเคลื่อนไหวไปตลอดทั่วทั้งโลกแห่งอาณานิคม (มันก็คือโลกของพวกจักรวรรดิที่เคยแข่งขันแย่งชิงกัน และเวลานี้กำลังถูกสอดแทรกเข้าไปในหลืบมุมของหนังสือประวัติศาสตร์นั่นเอง) โดยที่ไม่ได้สูญหายไปไหน ในศตวรรษที่ 21 ขบวนการกบฏก่อความไม่สงบดังกล่าวนี้ ซึ่งเวลานี้ส่วนใหญ่อิงอยู่กับศาสนาหรืออิงอยู่กับการก่อการร้ายหรือไม่ก็ทั้งสองอย่าง จะปรากฏตัวออกมาเสนอการควบคุมยับยั้งในเวอร์ชั่นใหม่สุดโหดเหี้ยมให้แก่อภิมหาอำนาจรายสุดท้ายของพื้นพิภพ

    https://m.mgronline.com/around/detail/9610000072483
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อันตรายเกินไป :'(




    IMG_1294.JPG IMG_1295.JPG IMG_1296.JPG
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    คลอดแล้ว!!!

    พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561

    มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 21 กรกฎาคม 2561


    http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/052/1.PDF


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "..ไม่มีใครเคยวางระบบสื่อสารทำงานกันในถ้ำ... ที่น้ำเชี่ยว มืด และลึกมิดหัว เป็นบางช่วง.."


    "..พี่นึกสภาพพวกผม ทำงานวางสายอินเตอร์เน็ตกันบนดินทั้งนั้นครับ.. งานนี้อะไรที่ไม่เคยทำ ก็ได้ทำกัน..น้ำ..โคลนมาเต็ม..แต่เราก็ช่วยกันลุยไปด้วยกัน"


    ".. มันเป็นเรื่องที่โครตยากเลยครับพี่.. มันไม่ได้เดินธรรมดา .. แต่พวกผมยังต้องลากสายขนาดใหญ่เพื่อให้ในถ้ำมีเน็ตได้ใช้เป็นระยะทาง 2 กิโลเมตร แค่เดินก็ยากแล้ว"


    " ทีมซีล..ต้องทำงาน ต้องสื่อสารกันตลอดระหว่างหน่วยงานกับหน่วยงาน ผู้เชี่ยวชาญต่างๆ ก็ต้องสื่อสารกัน ใครต้องการอะไร เราสนับสนุนเต็มที่ ทหารเขาก็ใช้เครื่องโทรศัพท์สนาม เห็นไหมครับ ที่เครื่องใหญ่ๆ แบบสะพายหลัง.. ในถ้ำช่วงนั้นการสื่อสารสำคัญมากๆ ครับ..ทุกคนในถ้าขณะนั้นทำงานใหญ่กันหมด.. แต่ CAT เราเป็นแค่ทีมเล็กๆ ที่ไปช่วยพวกเค้า"


    "..เริ่มแรก.. มีการถามหาว่า ใครมีสายทองแดงยาวๆ บ้าง ..ปภ. ถามมาที่เรา.. แล้วน้องที่อยู่สำนักงาน ก็รีบเอาขึ้นรถจากตัวเมืองเชียงราย..รีบขับไปให้ที่หน้าถ้ำเลย..แล้วภารกิจ CAT ก็เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่นั้น (26 มิ.ย.61)..จนถึงวันบิ๊กคลีนนิ่งเดย์..(14 ก.ค.61) ซึ่งน้ำในถ้ำสูงมากแล้ว และเรายังเอาของออกมาไม่ได้.. ต้องปล่อยไปอย่างนั้นก่อน"


    "..เหตุการณ์ช่วงนั้น..มันวิกฤต และอยู่ในภาวะกดดันจริงๆ ครับ ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่า เด็กๆ อาจต้องอยู่ในถ้ำถึง 4 เดือน รอระดับน้ำลด..แล้วค่อยออกมา .. การติดกล้อง CCTV เพื่อดูเหตุการณ์ในถ้ำ..จึงต้องเดินหน้า.. เราก็ลากสายเพื่อสนับสนุนเต็มที่..และโชคดี ที่ตัดสินใจเอาเด็กออกมากันก่อน.."


    "วินาทีนั้น มันต้องผ่านไปให้ได้..ไม่ได้ก็ต้องได้ ..ภาพแรกที่ทีมซีล..เผยแพร่ภาพทีมหมูป่าว่ายังมีชีวิตในถัำ...เราก็เขินที่จะบอกว่า ก็เพราะระบบสื่อสารที่เราทำกันจนสำเร็จ เราดีใจกันมาก"


    "ลูกน้องผม..ทุกคนเต็มที่มาก กับภารกิจครั้งนี้.. ทีม CAT ในภารกิจนี้ เรามีกัน 13 คนครับ ..น้องๆ ผม เต็มที่กันจริงๆ ครับ ผมต้องขอบคุณพวกเขาจริงๆ มันเป็นงานที่ยาก..และเสี่ยงมากในทุกๆ นาที..และต้องขอบคุนหลายหน่วยที่มาช่วยเรา"


    ..เสียงสะท้อนบอกเล่า..ส่วนหนึ่ง ของทีม พนง.CAT บ. กสท โทรคมนาคม ทีมงาน 13 ชีวิต ที่ร่วมสนับสนุนระบบสื่อสารด้านในถัำหลวง.. สะท้อนให้ทีมข่าวฟัง.. เมื่อทึมข่าวนัดสัมภาษณ์พิเศษ..


    การทำงานของทีม CAt ทางทีมข่าว..เกาะติดต่อเนื่อง.. ตั้งแต่ช่วงแรกที่ CAT ลงพื้นที่..


    วันนี้.. ขอชวนไปรู้จักทีม CAT กันนะคะ... กับภารกิจวิกฤตการสื่อสารถ้ำหลวง...


    นอกจากจะมีค่ายมือถือ True Ais Dtac Totที่ช่วยเสริมสัญญาณให้พื้นที่หน้าถ้ำ.. มีการสื่อสารที่ดีขึ้นมากแล้ว..


    โพสต์นี้..ขอ โฟกัส.. วิกฤตการสื่อสารด้านในถ้ำนะคะ.. กับภารกิจของ CAT .. รัฐวิสาหกิจของไทย


    *******************


    ย้อนไปในช่วงการค้นหาผู้สูญหาย ในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน หนึ่งในปัญหาที่ทุกฝ่ายเผชิญนอกจากเรื่องปริมาณน้ำในถ้ำไหลเชี่ยวแล้ว.. ปัญหาระบบสื่อสารล่มในช่วงนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิกฤตที่เจ้าหน้าที่ไทย ทั้งซีล / ตำรวจ และผู้เชี่ยวชาญระดับโลกต้องเผชิญ


    ทีมข่าว..ไปพูดคุยกับทีมปฏิบัติหน้างาน ของ CAT บ.กสท โทรคมนาคม ที่ต้องเข้าไปติดตั้งระบบสื่อสาร โดยวางสายไฟเบอร์ออปติกเพื่อติดตั้งอุปกรณ์ เพื่อให้บริการสัญญาณอินเทอร์เน็ตไวไฟแก่เจ้าหน้าที่ในการติดต่อสื่อสารกันได้เพิ่มขึ้น


    เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้กันในถ้ำช่วงวิกฤตขณะนั้น ซึ่งต้องลากสายสื่อสารเข้าถ้ำกันกว่า 2 กิโลเมตรท่ามกลางอุปสรรคน้ำลึกและเชี่ยว


    CAT นับเป็นหน่วยงานแรก ที่เข้าไปวางระบบการสื่อสารในช่วงวิกฤตให้เจ้าหน้าที่ ... และ จนถึงวันนี้ CAT ก็ยังเป็นหนึ่งในหน่วยงาน ที่อุปกรณ์ยังจมน้ำในถ้ำ..เอาออกมาไม่ได้เพราะระดับน้ำท่วมสูงเกือบเต็มเพดานถ้ำ...ทั้งสายไฟเบอร์


    ในช่วงที่ต้องนำเด็กออกจากถ้ำ.. การสื่อสารระหว่างคนในถ้ำยิ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก..


    ..การสื่อสาร..ระหว่างคนในถ้ำ..กับคนนอกถ้ำ.. สำคัญมากเช่นกัน..


    การวางระบบจึงสำคัญตั้งแต่การลากสายนอกถ้ำ.. 1 กิโลเมตร เข้าไปในถ้ำ อีก 2 กิโลเมตร..


    การตัดถ่าง.. ใช้อุปกรณ์เครื่องมือวัดความตรง ความโค้งในการตัดสายไฟเบอร์แต่ละจุดก็ยากเช่นกัน ส่วนโค้งในถ้ำ..เป็นจุดที่ละเอียดอ่อน.. จากหน้าปากถ้ำ.. ไปโถง 1 ..


    จาก โถง 1 ... ไปโถง 2 และ โถง 3 .. ที่ ทีมซีลและผู้ปฏิบัติการใชัเป็น "ฐานปฏิบัติการ" ในถ้ำ


    และเลยเข้าไปตามลักษณะกายภาพของถ้ำ..


    นึกสภาพ..คนลากสาย..ลุยน้ำ..ดำน้ำ.. น้ำโคลน..น้ำเย็นถ้ำ..และน้ำเชี่ยว...


    ..ช่วงนั้น..เปาหมาย คือ ไม่ใช่แค่การวางระบบอินเตอร์เน็ตในถ้ำเท่านั้น.. แต่ความต้องการของฝ่ายเกี่ยวข้องขณะนั้น ซึ่งยังไม่เจอทีมหมูป่าฯ คือการวางระบบ CCTV วงจรปิด ดูสภาพในถ้ำ เพื่อดูเหตุการณ์ในถ้ำ ตามจุดต่างๆ ควบคู่กับการค้นหาไปด้วยเต็มที่..


    เมื่อยังไม่พบ.. ภารกิจลุยติดตั้งวางระบบ ยังเร่งเดินหน้าเต็มที่..


    *************


    วางระบบกันถึงขั้น.. วันที่มีข่าวดี.. ว่า พบตัว และทั้ง 13 คนปลอดภัย.. แต่ยังช่วยออกมาไม่ได้.. ทำให้ภารกิจ CAT ยังเดินหน้าต่อ ด้วยความพยามยาม ที่ให้ครอบครัวหมุป่า ที่อยู่ข้างนอก ได้พูดคุยกับ เด็กๆ หมูป่า ที่อยุ่ เนินนมสาว...


    เรียกกันว่า..เป็นสถานการณ์บีบรัดหัวใจ..คนทำงานทุกฝ่าย... เหมือนอย่างที่โพสต์ไปช่วงนั้นว่า..


    "น้ำ...เป็นอุปสรรคใหญ่..ต่อการนำเด็กๆ ออกมาจากถ้ำ"


    ท่ามกลาง..การประเมินความเสี่ยง..ของศูนย์อำนวยการร่วมฯ ที่ประกาศว่า..ถ้าเอาเด็กออก.. ต้องมั่นใจว่า ปลอดภัย 100%


    ซึ่ง..ภารกิจ..วางระบบสื่อสารของ CAT ..ก็ยังเดินหน้า..


    ************


    ..มาถึงวันแรก.. ที่ทีมซีลและผู้เชี่ยวชาญ ช่วยเด็กกลุ่มแรก 4 คน ออกจากถ้ำ ได้สำเร็จ...


    วันที่ สอง... แม้ภารกิจช่วยเด็ก..สำเร็จอีกวัน..


    แต่ระดับน้ำวันนั้น ยิ่งวิกฤต..เพิ่มขึ้น 15 เซนฯ .. ..


    และถ้ำจำกันได้... คืนนั้นก่อนจะช่วยหมุป่าชุดสุดท้าย ที่ยังติดในถ้ำ..ฝนตกหนักกระหน่ำต่อเนืองกว่า 10 ชั่วโมง... จากกลางคืน ถึงเที่ยงวันของการนำเด็กออกมาช่วยเหลือวันที่ 3


    ระดับน้ำในถ้ำ.. เป็นอุปสรรคใหญ่อีกระลอก..ต่อการเข้าช่วยทีมหมูป่าฯ ชุดสุดท้าย..


    ระดับน้ำที่ไหลเชี่ยวและเพิ่มขึ้นวันนั้น.. มีข้อมูลจาก จนท.ที่ดูแลระดับน้ำช่วงนั้น.. รายงานข้อมูลไม่เป็นทางการว่า...


    น้ำในถ้ำ...เพิ่มขึ้น ชั่วโมงละ 10 เซนติเมตร..


    การตัดสินใจ..นำเด็ก-โค้ช กลุ่มสุดท้ายออกให้เร็วที่สุด... จึงเดินหน้ากันต่อเนื่อง..


    การสื่อสาร..ช่วงนี้..จึงจำเป็นต่อเนื่องอย่างยิ่ง...


    ***************


    ...เมื่อหมูป่าฯ และ ซีลทีมสุดท้าย...ออกจากถ้ำได้..


    ..และเมื่อ ทีมซีล-หมอซีล ทุกคนชุดสุดท้ายออกมาจากถ้ำหลวงได้ครบ...


    เป็นที่รู้กันดีของคนทำงานหน้างานว่า.... การปล่อยน้ำให้ไหลไปตามธรรมชาติ...จึงเริ่มต้นขึ้นบัดนั้น..


    ไม่มีปิดรูน้ำอีก .ไม่มีเบี่ยงทิศทางน้ำอีก ไม่ต้องป้องกันน้ำจากทิศทางต่างๆ ไหลเข้าถ้ำอีกต่อไป..


    การเอาคนกลับเข้าถ้ำ..เพื่อรื้อถอนระบบสื่อสาร.. อุปกรณ์ต่างๆ ออกมา..จึงเป็นความเสี่ยงสูง..ต่อชีวิตคนทำงาน..


    ขนาดตอนลากเข้าไปติดตั้ง.. ทีม CAT บางคน.. ยังต้อง ดำนำเข้าไปติดตั้ง...


    "..ตอนนี้ ก็ต้องปล่อยของให้อยู่กับถ้ำ อยุ่กับน้ำไปก่อนครับ... เอาออกไม่ได้ครับ..เอาชีวิตคน..เอาลูกน้องปลอดภัยก่อน...หมดหน้าฝน.. แล้วค่อยกลับกันมาใหม่.. ค่อยว่ากันใหม่.."


    นี่เป็นเหตุผล..ที่ทีมข่าวต้องการนำเสนอให้เห็นความทุ่มเทของอีกหนึ่งหน่วยงาน... สนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือทีมหมูป่าฯ เป็นทีมงาน CAT จาก ศูนย์เชียงราย


    ..ส่วนบันไดจ้า...บันไดสูงๆ..ของ CAT ที่ใช้ปีนเชื่อมสาย.. ถ้าใครจำกันได้..ช่วงแรกๆ .. มีการประกาศตามหาบันได ..


    วันนี้.. ยังไม่ได้คืนนะคะ.. ใครหลงหยิบไป.. ทาง CAT บอกว่า เอามาคืนได้ที่ สนง. CAT เชียงราย หรือ เชียงใหม่ก็ได้ ..ไม่ติดใจเอาความใดๆ ค่ะ


    *********************


    ทีมงานทั้งหมด... ที่ลงพื้นที่หน้างานจริงๆ..

    มารวมกัน ในวันที่ ทีมข่าว ThaiPBS ขอสัมภาษณ์


    แถวนั่ง จากซ้ายไปขวา


    1. นายจีรวัฒน์ คำไชยเทพ (ช่างโทรคมนาคม 4)


    2. นายนุชา คำทัปน์ (ผู้จัดการสำนักงาน CAT เชียงราย)


    3. ว่าที่ ร.ต. ภูวนาถ แก้วดำ (ช่างโทรคมนาคม 4)


    4. ว่าที่ ร.ท.ประจักษ์ กิติ (นายช่าง 7)


    แถวยืน จาก ซ้าย ไป ขวา


    1. นายวีระพันธ์ สุปัญญา


    2. นายบัญพนณ์ ปุณฑริกภักดิ์


    3. นายอัฐกานต์ ทิพนี


    4. นายปัญญา สมพล


    5. นายธีระพงศ์ ปันตั๋น


    6. นายธนวิชญ์ ทำบุญ


    6 คนนี้.. เป็นลูกจ้าง outsource


    .....


    อีกหนึ่งทีมสำคัญ.. ปิดทองหลังพระ..


    ส่วนหนึ่งของการสัมภาษณ์..ทาง ThaiPBS





     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    "ประธาน ป.ป.ช." คาดได้ใช้กฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่ 1-2 วันนี้ เชื่อทุกอย่างจะเปลี่ยนไป-มีกรอบเวลาการทำงานที่เร่งรัด-รวดเร็วขึ้น Publish 2018-07-21 15:51:55
    tnews_img_1532163115_8726.jpg
    "พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช." คาดกฎหมาย ป.ป.ช.ใหม่ จะได้รับการโปรดเกล้าฯ และจะได้ใช้ภายใน 1-2 วันนี้ เชื่อทุกอย่างจะเปลี่ยนไป-มีกรอบเวลาการทำงานเร่งรัดขึ้น

    วันนี้ (21 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) "พล.ต.อ. วัชรพล ประสารราชกิจ" ประธานกรรมการ ป.ป.ช. ออกมาเปิดเผยว่า คาดว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต จะได้รับการโปรดเกล้าฯ และจะได้ใช้ภายใน 1-2 วันนี้ จากนั้นทาง ป.ป.ช. จะเตรียมร่างอนุบัญญัติกว่า 50 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ เพราะในกฎหมายใหม่บริบทการทำงานของ ป.ป.ช.จะเปลี่ยนไป โดยจะกำหนดกรอบระยะเวลาการทำงานที่เร่งรัดมากขึ้น จึงต้องมีกลไกลในการควบคุมดูแล รวมถึงต้องมีระเบียบ ที่เกี่ยวกับความร่วมมือเกี่ยวกับทางราชการ เช่น กรณีที่ข้าราชการไม่ได้ยื่นบัญชีทรัพย์สินกับ ป.ป.ช. ก็จะต้องยื่นกับผู้บังคับบัญชา พร้อมกันนี้กฎหมายใหม่เปิดโอกาสให้มอบหมายให้หน่วยงานอื่นไปดำเนินการ หากไม่ใช่เรื่องสำคัญและไม่มีผลกระทบต่อวงกว้าง ซึ่งป.ป.ช.สามารถที่จะทำเฉพาะเรื่องใหญ่ๆ ที่สังคมให้ความสนใจ

    นอกจากนี้ "ประธาน ป.ป.ช." ยังระบุด้วยว่า สำหรับเรื่องกรอบระยะเวลาที่ป.ป.ช. จะต้องดำเนินการในคดีต่างๆไม่เกิน 2 ปีนั้น ยอมรับว่าจะมีปัญหากับการดำเนินงานบ้าง โดยเฉพาะคดีที่ยังค้างคาอยู่ ซึ่งจะส่งผลให้เจ้าหน้าที่ กดดันกลัวจะทำคดีไม่ทัน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ถือว่าไม่ได้เป็นปัญหามากนัก

    "หากเจ้าหน้าที่สามารถชี้แจงได้ว่าทำคดีล่าช้าด้วยเหตุผลใด ก็ไม่ถือว่าเป็นปัญหา ทั้งนี้ ในอดีตบางเรื่องไม่ถูกหยิบยกมาพิจารณาแต่นับจากนี้ทุกเรื่องจะต้องถูกยกมาพิจารณาทั้งหมด แม้งานป.ป.ช.จะหนักขึ้นก็ตาม วันนี้เรามีการตั้งเป้า ว่าภายใน 1 ปี ซึ่งจะมีคดีอะไรบ้างที่ต้องพิจารณาให้เสร็จ เพื่อให้การติดตามการทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และมั่นใจว่าหลังจากกฎหมายใหม่ออกมา งานของป.ป.ช.จะมีผลสัมฤทธิ์มากขึ้น" ประธาน ป.ป.ช. กล่าว

    HASTAG : วัชรพล ประสารราชกิจ ปปช วัชรพลปปช

    เรียบเรียงโดย
    นายอารมณ์ เคนหล้า

    http://www.tnews.co.th/contents/la/473139
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัสเซียเดินหน้ากระจายความเสี่ยงในการจัดการทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทำสถิติทิ้งพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ครั้งใหญ่สุดในรอบ 11 ปี โดยถือครองเหลือเพียงแค่ 14.9 พันล้านดอลล่าร์เท่านั้น
    .
    เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา รัสเซียได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับทั่วโลกไปแล้วครั้งหนึ่ง โดยเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทิ้งไปถึงครึ่งหนึ่ง จากเดิมที่ในเดือนมีนาคม รัสเซียยังคงถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อยู่ที่ 96.1 พันล้านดอลล่าร์ (3 ล้านล้านบาท)
    .
    แต่พอเข้าเดือนเมษายน รัสเซียได้เทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ออกไปจนเหลือแค่ 47.4 พันล้านดอลล่าร์ (1.48 ล้านล้านบาท) ทำให้อันดับการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของรัสเซียตกลงมาอยู่ที่อันดับ 22
    .
    ในขณะที่เมื่อปี ค.ศ. 2010 รัสเซียเป็นหนึ่งใน 10 ประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมากที่สุด โดยถือครองอยู่ที่จำนวน 176 พันล้านดอลล่าร์ (5.8 ล้านล้านบาท) แต่ปัจจุบัน จากรายงานของกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า รัสเซียเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯออกไปจนเหลือแค่ 14.9 พันล้านดอลล่าร์ (4.96 แสนล้านบาท) เท่านั้น
    .
    เมื่อวันอังคารที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เปิดรายชื่อ 33 ประเทศผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯรายใหญ่ ประจำเดือนพฤษภาคม ปี ค.ศ. 2018 พบว่าจีนยังคงเป็นอันดับหนึ่ง (1,183.1 พันล้านดอลล่าร์) และชิลีเป็นอันดับที่ 33 (30.2 พันล้านดอลล่าร์) ส่วนรัสเซียนั้นไม่ติดอยู่ใน 33 อันดับผู้ถือครองทรัพย์สินรัฐบาลสหรัฐฯรายใหญ่แล้ว
    .
    พันธบัตรรัฐบาลเป็นหน่วยการลงทุนในตราสารหนี้ที่รัฐบาลออก เพื่อใช้ชำระหนี้สินให้กับผู้ถือครองพันธบัตร โดยมีอายุของการถือครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป โดยผู้ถือครองจะได้รับดอกเบี้ยประจำปี ปีละสองงวด
    .
    การทยอยเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯของรัสเซียนั้น เริ่มทำมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 แต่มาเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เมื่อรัฐบาลโอบาม่า ทำการคว่ำบาตรรัสเซียในปี ค.ศ. 2014 และตามด้วยรัฐบาลทรัมป์ที่คว่ำบาตรเพิ่มเติมในเดือนเมษายนปี ค.ศ. 2018
    .
    นาง Elvira Nabiullina ผู้อำนวยการธนาคารกลางรัสเซีย (CBR) ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า การเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯครั้งใหญ่ เดือนพฤษภาคม เป็นผลพวงมาจากการประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ทั้งจากระบบเงินทุน เศรษฐกิจ และการเมืองโลก
    .
    ในขณะที่การถือครองทองคำของรัสเซียพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปัจจุบันรัสเซียถือครองทองคำสูงที่สุดในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนการถือครองอยู่ที่ 62 ล้านทอยออนซ์ (1,928 ตัน) คิดเป็นมูลค่ากว่า 80.5 พันล้านดอลล่าร์ (2.68 ล้านล้านบาท) โดยนาง Nabiullina ระบุว่า การถือครองทองคำเป็นการกระจายความเสี่ยงในทุนสำรองระหว่างประเทศ
    .
    จากความขัดแย้งในเกมการเมืองโลก และความตึงเครียดที่ทางสหรัฐอเมริกาสร้างขึ้น ผ่านสงครามการค้าตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้ทำให้หลายประเทศเริ่มดำเนินตามอย่างรัสเซีย โดยเฉพาะตุรกีที่ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ลงไปครึ่งหนึ่งเช่นกัน
    .
    โดยเมื่อเดือนกันยายน ปี ค.ศ. 2017 ตุรกีถืออยู่ที่ 62 พันล้านดอลล่าร์ (2.06 ล้านล้านบาท) แต่ในปัจจุบัน จากสถิติเดือนพฤษภาคม ตุรกีถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เหลืออยู่แค่เพียง 32.6 พันล้านดอลล่าร์ (1.08 ล้านล้านบาท) เท่านั้น
    .
    ในขณะที่เยอรมันก็ลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯลงจากเดือนเมษายนที่ถืออยู่ที่ 86 พันล้านดอลล่าร์ (2.86 ล้านล้านบาท) ลงมาเหลือ 78.3 พันล้านดอลล่าร์ (2.6 ล้านล้านบาท) ในเดือนพฤษภาคม
    .
    เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ของรัสเซียที่เกิดขึ้น โฆษกกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ชี้แจงว่า ตลาดตราสารหนี้ถือว่าเป็นตลาดการเงินที่มีความลึกซึ้งและมีความลื่นไหลมากที่สุดในโลก และมันต้องการเสถียรภาพที่มั่นคง โดยเขาระบุว่า ทางฝ่ายสหรัฐฯจะไม่ขอออกความเห็นต่อการลงทุนหรือการตัดสินใจใดๆของผู้ลงทุน

    .....

    ที่มา:
    https://www.rt.com/business/433566-russia-dumps-us-treasury-holdings/

    https://www.usatoday.com/story/mone...asuries-before-trump-meeting-putin/794940002/

    https://www.bloomberg.com/news/arti...s-off-u-s-list-of-major-holders-of-treasuries

    รายงานอันดับการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ วันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2018:
    http://ticdata.treasury.gov/Publish/mfh.txt

    .

    #รัสเซีย #เทขาย #พันธบัตร #ดอลลาร์ #สหรัฐฯ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    ... "นาซีเยอรมันยึดทองคำจากเชคโกสโลวาเกีย 45 ตันผ่านธนาคารอังกฤษ ในปี 1939"

    ... หลังจากยึดทองจาก "ออสเตรีย" ในเดือนมีนาคม ปี 1938 และได้ทองคำไปทั้งหมด 91 ตัน, จากนั้นในเดือนตุลาคม ปี 1938 นาซีก็บุกยึดทองต่อที่ "เชคโกสโลวาเกีย" ต่อทันที

    ... หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่งจบลง ทำให้ "เชคโกสโลวาเกีย" เป็นอิสระจากอาณาจักรออสเตรีย-ฮังการี ที่เป็นผู้แพ้หลักของสงคราม เชคกับสโลวัคแม้ภาษาจะใกล้เคียงกันแต่สำนึกในความเป็นชาติจะแยกกัน

    ... ประเทศเกิดใหม่นี้มีหลายชาติพันธุ์ ทั้งเชค สโลวัค เยอรมัน ฮังการี่ โปล รูเธเนี่ยน โรมาเนี่ยน ยิปซี และโครแอต , และชาวเยอรมันมีจำนวนหนึ่งในสี่ของทั้งหมด เท่ากับมากกว่า 3 ล้านคนจาก 14 ล้านคน

    ... จุดหมายของฮิตเลอร์ก็คือดึงเอาคนเชื้อสายเยอรมันโดยเฉพาะในเขต "Sudetenland"
    มาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรไรช์ และเป็นเครื่องมือในการยึดเชคโกสโลวาเกียด้วย

    ... แม้จะเป็นประเทศเกิดใหม่ แต่ "เชคโกสโลวาเกีย" กลับมีทองคำมากมาย จากการระดมบริจาคทองคำในปี 1919 จาก(คล้ายหลวงตามหาบัวของไทย) เพื่อเป็นทรัพย์สินในทุนสำรองสกุลเงินตราระหว่างประเทศในการค้าขายสร้างชาติต่อไป ในตอนที่นาซีบุกนั่น เชคโกสโลวาเกีย มีทองคำมากถึง 95 ตัน

    ... ในทางการเมืองนั้น เชคโกสโลวาเกีย ได้ผูกสัมพันธ์ทางการเมืองกับ "ฝรั่งเศส" ที่ต้องการผูกมิตรกับประเทศเ่พื่อนบ้านทางใต้ของเยอรมัน เพื่อจะปิดล้อมเยอรมัน พวกเขายังมีชื่อเสียงเรื่องมีบริษัทผลิตรถยนตร์ชื่อดังอย่าง Skoda industrial

    ... ในปี 1925 ทั้ง "ฝรั่งเศสและเชคโกสโลวาเกีย" ได้ลงนามในการสนธิสัญญาในการปกป้องร่วมกัน ประเทศไหนถูกโจส
    มตี อีกประเทศต้องมาช่วยเหลือ ซึ่งเยอรมันคือประเทศเป้าหมายในการร่วมกันสกัด, ที่เชคโกสโลวาเกีย ก็ทำสัญญาแบบนี้กับโซเวียตรัสเซียเช่นกัน

    ... ฮิตเล่อร์ หวังใช้คนเยอรมันใน "เชคโกสโลวาเกีย" เป็นเครื่องมือในการยึดประเทศใหม่นี้ , โดยเอาดินแดนของเชคที่มีคนเชื้อสายเยอรมันอยู่นี้เป็นข้ออ้างในการเข้ายึดเป็นส่วนหนึ่งของนาซีเยอรมัน, และเขาเชื่อว่าอังกฤษ ฝรั่งเศส จะไม่เข้ามาุยุ่งเกี่ยวและขัดขวางการยึดในครั้งนี้

    ... นาซีเยอรมัน มีหลายแผนในการโจมตีเชคโกสโลวาเกีย ในหลายทางหนึ่งในนั้นคือการสร้างกระแสต่อต้านเยอรมันขึ้นในปราก โดยสายของคนเยอรมันเอง เพื่อจะเอาเป็นเหตุผลในการเข้ายึดประเทศ

    ... "เชคโกสโลวาเกีย" นั้นสังเกตและหวาดกลัวนาซีเยอรมันมาตั้งแต่เดือนกันยายน ปี 1938 โดยได้มีการทยอยเอาทองคำไปเก็บในต่างประเทศ เหลือในประเทศแค่ 6 ตันเท่านั้น โดยตอนที่นาซีมาถึงเมืองปรากในเดือน มีนาคม 1939 นั้น ห้องนิรภัยเก็บทองคำนั้นนาซีเจอชั้นและห้องเปล่าเป็นส่วนใหญ่

    ... นาซีเยอรมันต้องการเอาเงินมาสร้างกองทัพรถถังจึงต้องเอาทองคำมาค้ำการพิมพ์เงินกันเงินเฟ้อ พวกเขาไม่ยอม จึงบีบให้รัฐบาลเชค บอกให้ธนาคารอังกฤษ หรือ Bank of England โอนทองคำจากบัญชีจองเชคโกสโลวาเกีย มาให้เยอรมันที่เบอร์ลินเป็นจำนวน 2 ตัน, และบีบเชคให้บอกธนาคารสวิสให้โอนทองคำมาให้นาซีอีก 12.5 ตัน

    ... แต่ทองคำเชคยังเหลืออีก 74 ตัน ที่สามในสี่นั้นอยู่ที่ BOE ของอังกฤษ ที่ในสมัยนั้นเป็นแหล่งเก็บเงินเก็บทองคำที่ปลอดภัยของประเทศต่างๆในยุโรป ( แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง นาซีของฮิตเล่อร์ ทำให้ "อเมริกา" กลายเป็นหลุมหลบภัยแห่งใหม่ของธนาคารกลางของประเทศในยุโรป )

    ... นาซีเยอรมันใช้ทุกทางในการปช้นทองคำ รวมทั้งเอาปืนจ่อศรีษะผู้ว่าธนาคารชาติของเชคเพื่อบีบให้สั่งให้โอนทองคำจาก BOE ไปให้ธนาคารไรท์้ เยอรมันที่เบอร์ลิน อีก 23.1 ตัน , ทำให้รัฐสภาอังกฤษธนาคารโจมตีว่าช่วยนาซีปล้นทองคำทางอ้อมจนมีการออกกฏหมายให้ BOE ยึดทองคำเอาไว้ไม่โอนให้นาซีในวันที่ 27 มีนาคม 1939 แต่ก็ช้าไป , แต่นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้นก็แก้ตัวว่าตามกฏหมายสากลของ Hague Protocol ในปี 1930, และ Brussele Protocol ในปี 1936 ธนาคารอังกฤษไม่มีสิทธิในการไม่ทำการโอนทรัพย์สินของประเทศเจ้าของสมบัตินั้น

    ... จากจุดนั้นทั่วยุโรปก็เริ่มคุยกันเรื่องการมีสิทธิจะกักเงินเจ้าของยามสงครามต่อนาซี และเป็นจุดที่ "อเมริกา" ก็เริ่มเข้ามาออกความเห็นในเวทีโลก โดยอาศัยศาลนิวยอร์คออกมาตัดสินว่ามีสิทธิในการสกัดสมบัติของนาซีในสงครามได้ ที่เป็นการเหมือนทำให้ห้องนิรภัยของธนาคารในอเมริกาถูกแสงไฟส่องและเป็นเป้าหมายใหม่ในการเก็บ "ทองคำ" จากยุโรป แทนอังกฤษและฝรั่งเศส ยาวมาจนถึงปัจจุบัน

    ... ที่จาก 1939 จนถึงปัจจุบัน หลายประเทศที่ฝากทองคำไว้กับอเมริกา หลังสงครามจบแล้ว ทวงไปก็ยังไม่ได้คืน

    ... สุดท้ายแล้ว นาซีเยอรมันก็ปล้นทองคำของ "เชคโกสโลวาเกีย" ไปทั้งหมด 45 ตัน

    .

    .

    .

    .หนังสือ "Chasing Gold" George M. Taber

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ในเรื่องของปัญหา #หนี้ครู นั้น มิตรสหายท่านหนึ่งให้ความเห็นได้อย่างน่าสนใจว่า

    "ไม่ว่ารัฐจะจัดตั้งกองทุนอีกกี่หมื่นล้านก็แก้ปัญหาไม่ได้หรอก เพราะสังคมทุกวันนี้นิยมวัตถุ ทุกคนอยากมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมือนกันหมด ครูก็เป็นปุถุชนคนมีกิเลสก็อยากมีเช่นคนอื่น ในเมื่อมีแหล่งเงินทุนให้กู้ก็กู้ตามเครดิตที่มี สหกรณ์นั่นแหละคือตัวดูดเงินจากกระเป๋าครู ถ้ารัฐบาลให้กู้ในอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกว่าสถาบันการเงินทั่วๆไปเพื้อนำไปชำระหนี้สินที่มีอยู่ ครูก็จะมีเจ้าหนี้รายใหม่คือรัฐบาล ไม่ต่างจากเดิม แล้วคิดหรือว่าอนาคตเมื่อถึงคราวจำเป็นครูจะไม่ก่อหนี้นอกระบบอีก!!!"

    นอกจากนี้ ผู้เกี่ยวข้องมีมุมมองถึงเรื่องนี้ นายนเรศ ศรีภิรมย์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์ ยังเคยกล่าวไว้ว่า

    "สหกรณ์ออมทรัพย์ครูอุตรดิตถ์มีสมาชิกกว่า 7,000 ราย เป็นหนี้กับสหกรณ์กว่า 4,000 ราย รวมครูมีหนี้สินมากกว่า 1,000 ล้านบาท ปล่อยกู้สูงสุด 3 ล้านบาท การกู้ก็มีหลักเกณฑ์ตามระเบียบทุกอย่าง บางรายไม่ใช่แค่มีหนี้สินกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ยังมีหนี้สินกับธนาคารอื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทย"

    "มูลเหตุที่ทำให้ครูเป็นหนี้มากกว่าข้าราชการสังกัดอื่น ส่วนหนึ่งเป็นค่านิยมอยากมีบ้าน มีรถยนต์หรู แข่งขันกันมีข้าวของ บางรายกู้ไปทำธุรกิจแล้วขาดทุน ทำบ้านจัดสรรแต่ขายไม่ได้ บางรายกู้ไปทำหอพักพอปลดหนี้ปลดสินได้ และไม่ปฏิเสธว่าบางรายมีหนี้สินที่เกิดจากการเล่นการพนันแต่น้อยราย" นายนเรศกล่าว

    #นี่แหละประเทศไทย

    Cr: https://goo.gl/FGvlbl @มติชนออนไลน์

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    'BIG ONE' จะระเบิดหรือไม่? เยลโลว์สโตนในภาวะฉุกเฉิน
    223.png 1110.png lovely-comp.jpeg nintchdbpict0002431013921.jpg
    ขณะที่การพ่นไอน้ำในประกายไฟของหินทำให้กลัวว่า supervolcano สามารถระเบิดได้ทุกนาที รอยแยกขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นบนภูเขาไฟในอุทยานแห่งชาติ Grand Teton ในไวโอมิง ซึ่งอยู่ห่างออกไป 7 ไมล์จาก supervolcano เยลโลว์สโตน ซึ่งมีขนาดมหึมา ได้จุดประกายความกลัวว่ามันอาจปะทุขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ตัดพื้นที่ออก และกำลังทำการประเมินความเสี่ยง โดย Kelly Pigram วันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 5:08 น อัปเดต: 20 กรกฎาคม 2561, 5:08 น

    รอยแตกขนาดใหญ่ได้ปรากฏตัวขึ้นบนภูเขาไฟใกล้กับอุทยานแห่งชาติเยลโลว์สโตนทำให้เกิดความกลัวว่าการปะทุของภูเขาไฟอาจเกิดขึ้นได้ในทุกๆนาที และทำให้เกิดความหายนะในอเมริกาด้านตะวันตก ในวิดีโอที่น่าสะพรึงกลัวนี้รอยแยกไอน้ำขนาดใหญ่สามารถมองเห็นได้บนภูเขาไฟในอุทยานแห่งชาติ Grand Teton ในไวโอมิงใกล้กับ "จุดรับแรงบันดาลใจ" และ "น้ำตกที่ซ่อน" ไอน้ำที่้เห็นจากการคายตัวจากรอยแยกในภูเขาไฟ ภายในอุทยานแห่งชาติ Grand Teton - จุดประกายความกังวลว่าในเวลาอันใกล้ภูเขาไฟเยลโลว์สโตนอาจระเบิดได้ตลอดเวลา

    เจ้าหน้าที่อุทยานได้ปิดพื้นที่ของอุทยานทั้งสองแห่งโดยอ้างถึงความห่วงใยต่อความปลอดภัยของผู้คน กรมบริการอุทยานแห่งชาติกล่าวว่าเป็นไปได้ว่ารอยแตกอาจเกิดจากการเกิดแผ่นดินไหวตามปกติ แต่พวกเขาไม่แน่ใจสาเหตุที่แน่ชัดและได้เริ่มการตรวจสอบแล้ว ผู้กำกับ David Vela กล่าวว่า "ความปลอดภัยของมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญอันดับหนึ่งของเรา และด้วยความระมัดระวังเป็นจำนวนมาก เรากำลังปิดพื้นที่ชั่วคราวนี้อย่าวชั่วคราว จนกว่าเราจะสามารถตรวจสอบสถานการณ์ได้อย่างถูกต้อง"

    เจ้าหน้าที่ปิดพื้นที่สองแห่งในสวนสาธารณะโดยอ้างถึงความกังวลเรื่องความปลอดภัยของผู้คน นักผจญภัน (เรนเจอร์) ยังไม่ได้รับการยืนยันเมื่อพื้นที่เปิดใหม่ แต่พวกเขากำลังทำการประเมินความเสี่ยงอยู่ในขณะนี้ อุทยานแห่งชาติ Grand Teton อยู่ห่างจากอุทยานแห่งชาติ Yellowstone National Park และ Yellowstone supervolcano ประมาณ 7 ไมล์ หากทั้งสองภูเขาไฟปะทุขึ้น อาจทำให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ที่สามารถเช็ดล้านคนได้

    ใน ปีก่อนหน้านี้มีรายงานว่า "แม่น้ำลาวา" ผิดปกติอยู่ใต้แก่นของ Yellowstone supervolcano ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าหากมีการปะทุขึ้น แม่น้ำลาวาอาจก่อให้เกิดการปะทุขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการ "กวาดด้านตะวันตก" ออกไป "แม่น้ำลาวา" ใต้เยลโลว์สโตน supervolcano หมายความว่ามันสามารถฆ่าคนนับล้านได

    ้ แม่น้ำลาวายาว 215 ไมล์ถูกค้นพบใต้ภูเขาไฟอาจมีผลร้ายแรง เมื่อปีที่ผ่านมาเกิด "แผ่นดินไหว" จำนวน 1,400 แผ่นดินไหวที่อุทยานแห่งชาต ิผู้เชี่ยวชาญที่น่ากลัว ครั้งสุดท้ายที่ supervolcano ปะทุเมื่อ 630,000 ปีที่แล้วมีผลร้ายที่เกิดจากการทำลายล้าง โดยนักวิจัยจาก The University of California เกิดการปะทุขนาดเล็กขึ้นเมื่อ 70,000 ปีก่อน หลายคนกำลังคาดเดาว่าเรามีกำหนดจะเกิดการปะทุขึ้นที่สันทราย แต่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกประมาณหนึ่งถึงสองล้านปี


    IS ‘THE BIG ONE’ GONNA BLOW? Yellowstone in state of emergency as steam-spewing crack in rock sparks fears that supervolcano could erupt any minute

    A huge fissure has appeared on a volcano in Grand Teton National Park, Wyoming, around seven miles away from the massive Yellowstone supervolcano, sparking fears that it could erupt - officials have sectioned off the area and are conducting a risk assessment
    By Kelly Pigram 20th July 2018, 5:08 pm
    Updated: 20th July 2018, 5:08 pm


    A MASSIVE crack has appeared on a volcano near Yellowstone National Park, sparking fears that a volcano eruption could occur at any minute and wreak havoc on western America.
    In this terrifying video, a huge, steam-spewing fissure is visible on a volcano in Grand Teton National Park in Wyoming, near "inspiration point" and "hidden falls".

    Steam was seen spewing from a fissure in a volcano within Grand Teton National Park - sparking concerns that the nearby Yellowstone supervolcano could erupt at any time

    Park officials have since closed off two areas of the park, citing concern for people's safety.
    The National Park Service said that it's possible the crack could have been caused by regular seismic activity, but they aren't sure of the exact causes and have launched an investigation.
    Superintendent David Vela said: "Human safety is our number one priority, and with an abundance of caution we are temporarily closing this area until we can properly asses the situation."

    Officials closed off two areas of the park, citing concerns for people's safety

    Rangers have not confirmed when the areas with reopen, but they are currently completing a risk assessment.

    Grand Teton National Park is around seven miles away from Yellowstone National Park and the Yellowstone supervolcano.
    If both volcanoes were to erupt, it could cause a massive explosion capable of wiping of millions of people.

    Earlier this year and abnormal "river of lava" was found underneath the Yellowstone supervolcano - experts said if it were to erupt, the river could cause a mega eruption with the potential to "wipe out western America".


    The 'river of lava' beneath the Yellowstone supervolcano means it could kill millions of people, research suggests


    A 215-mile river of lava discovered underneath the volcano could have catastrophic effects
    Last year a "swarm" of 1,400 mini earthquakes took place at the National Park, terrifying experts.

    The last time the supervolcano erupted, 630,000 years ago, there were devastating after-effects revealed by researchers at The University of California.

    A smaller eruption occurred 70,000 years ago.
    Many are speculating that we are due for the apocalyptic eruption to occur, but scientists have said it likely won’t happen for another one to two million years.


    https://www.thesun.co.uk/news/6829027/yellowstone-park-state-emergency-supervolcano-erupt-latest/

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ส่วนทหารอิสราเอล เขาบอกว่าประชาชนทุกคนที่เรียนจบมัธยมปลาย ไม่ว่าชายหรือหญิงจะต้องถูกเกณฑ์ทหาร ชาย 3 ปี หญิง 2 ปี

    การจะได้ประจำหน่วยไหน ขึ้นอยู่กับ Skill และ Education คือบางคนเลือกที่จะเรียนมหาวิทยาลัยก่อน แล้วค่อยไปประจำการกับกองทัพ ซึ่งจะทำให้ได้อยู่หน่วยดีๆ และที่สำคัญ ถ้าเลือกเซ็นสัญญา เช่น ถ้าจะเป็นนักบิน ก็เซ็นสัญญา 12 ปี กองทัพเขาก็จะฝึกให้เป็นนักบิน หรือถ้าอยากเป็นหมอ ก็เซ็นสัญญา (6 ปีมั้ง) ก็ได้เรียนหมอ

    และถ้าหากประจำการในหน่วยชั้นยอดในกองทัพ เมื่อปลดประจำการ จะมีบริษัทชั้นเยี่ยมในอิสราเอลไล่ล่าอัญเชิญมาทำงานด้วย

    เวลาคุยกับกับคนยิว ไม่ว่าจะกี่คนกี่คน ทุกคนจะพูดด้วยความภูมิใจเสมอว่าตัวเองเคยสังกัดหน่วยไหนในกองทัพ

    แน่อน การฝึกทหาร ไม่ใช่แค่เอาคนไปนั่งหลับๆ ตื่นๆ เล่นมือถือ ขั้นตอนมันต้องแกร่ง ทั้งสมอง ร่างกายและจิตใจ เรื่องหนักๆ โดนวิ่งต้อน ครูโวย ฯลฯ มันต้องมี แม้แต่ในอเมริกาก็ต้องมี แต่สิ่งที่ต้องแก้ไขคือ "มุมมอง" และ "กระบวนการ"

    ผมอยากให้กองทัพมีแต่ทหารชั้นเลิศ อาวุธประจำกายชั้นเยี่ยม มีแต่คนอยากมาและแย่งกันมา ไม่ใช่ต้องไปบังคับกะ "เกณฑ์" คนที่เขาไม่อยากมา แล้วก็กลายเป็นว่า มาถูกย่ำยีทารุณ จริงเหมือนที่เขากลัวๆ กัน

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Visudhi Punya



    ลาวาจากภูเขาไฟบนเกาะฮาวาย
    ยังหลามไหลออกมาอย่างน่ากลัว
    โดยไม่มีทีท่าว่าจะหยุดยั้งเลย

    ผู้เชี่ยวชาญหลายคนคาดการณ์ว่า
    ภูเขาไฟบนเกาะฮาวายนี้
    มีแนวโน้มว่าอาจจะเกิดการระเบิดขึ้นมาได้
    ภายในเวลาไม่กี่เดือนหรืออาจเป็นปี
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ประกาศใช้แล้ว!กม.ป.ป.ช.ใหม่ อธิบดี-ผู้ว่าฯ-ปลัดกระทรวง ต้องเปิดเผยทรัพย์สิน เขียนวันที่ วันเสาร์ ที่ 21 กรกฎาคม 2561 เวลา 13:51 น.
    เขียนโดยisranews

    พ.ร.บ. ป.ป.ช. ฉบับ 2561 ประกาศในราชกิจจาฯแล้วมี 11 หมวด 200 มาตรา พบระบุคุณลักษณะเข้มข้น ชี้ผู้ดำรงตำแหน่งต้องเคยเป็น ตุลาการ-ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ-อาจารย์มหาวิทยาลัย อย่างใดอย่างหนึ่งไม่น้อยกว่า 5 ปี -ชี้ ปปช.มีอำนาจปิดรายละเอียดทรัพย์สินหากเป็นอันตรายต่อเจ้าของข้อมูล

    Ratkijja5.jpg

    สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2561 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่พระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พ.ศ. 2561 โดยมีรายละเอียดคร่าวๆของ พ.ร.บ.ฯ คือมีทั้งสิ้นจำนวน 200 มาตรา แบ่งเป็นทั้งสิ้น 11 หมวด และ 1 บทเฉพาะกาล โดนทั้ง 11 หมวดได้แก่ 1.คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 2.การไต่สวน 3.การดําเนินการกับผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและผู้ดํารงตําแหน่งเฉพาะ 4.การดําเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ 5.การดําเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สิน 6.การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลกับประโยชน์ส่วนรวม 7.การส่งเสริมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 8.ความร่วมมือกับต่างประเทศ 9.สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ 10.กองทุนป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และ 11. บทกำหนดโทษ

    โดยสาระสำคัญของ พ.ร.ป.ฯนี้ในส่วนของที่มาของ ป.ป.ช.นั้น การกำหนดไว้ในมาตรา 9 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ประกอบด้วยกรรมการ จํานวนเก้าคน ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคําแนะนําของวุฒิสภาจากผู้ซึ่งได้รับการสรรหา โดยคณะกรรมการสรรหา โดยมีคุรสมบัติดังต่อไปนี้

    (1) รับราชการหรือเคยรับราชการในตําแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีผู้พิพากษา อธิบดีศาลปกครองชั้นต้น ตุลาการพระธรรมนูญหัวหน้าศาลทหารกลาง หรืออธิบดีอัยการมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี

    (2) รับราชการหรือเคยรับราชการในตําแหน่งไม่ต่ำกว่าอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า มาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี

    (3) เป็นหรือเคยเป็นผู้ดํารงตําแหน่งผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่ไม่เป็นส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี

    (4) ดํารงตําแหน่งหรือเคยดํารงตําแหน่งศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทยมาแล้ว ไม่น้อยกว่าห้าปี และยังมีผลงานทางวิชาการเป็นที่ประจักษ์

    (5) เป็นหรือเคยเป็นผู้ประกอบวิชาชีพที่มีกฎหมายรับรองการประกอบวิชาชีพโดยประกอบวิชาชีพ อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่ายี่สิบปีนับถึงวันที่ได้รับการเสนอชื่อและได้รับการรับรอง การประกอบวิชาชีพจากองค์กรวิชาชีพนั้น

    (6) เป็นผู้มีความรู้ความชํานาญและประสบการณ์ทางด้านการบริหาร การเงิน การคลัง การบัญชี หรือการบริหารกิจการวิสาหกิจในระดับไม่ต่ำกว่าผู้บริหารระดับสูงของบริษัทมหาชนจํากัดมาแล้ว ไม่น้อยกว่าสิบปี

    (7) เคยเป็นผู้ดํารงตําแหน่งตาม (1) (2) (3) (4) หรือ (6) รวมกันไม่น้อยกว่าสิบปี

    ขณะที่ส่วนของการแสดงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของข้าราชการและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนั้น มีสาระสำคัญระบุไว้ในมาตราที่ 102 มาตราที่ 103 มาตราที่ 105 และมาตราที่ 106 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

    มาตราที่ 102 ระบุว่า ห้ผู้ดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตร ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ให้แก่ ป.ป.ช. ได้แก่

    (1) ผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง

    (2) ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ

    (3) ผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ

    (4) ข้าราชการตุลาการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีผู้พิพากษาขึ้นไป

    (5) ข้าราชการตุลาการศาลปกครองตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณา คดีปกครอง ซึ่งดํารงตําแหน่งตั้งแต่อธิบดีศาลปกครองชั้นต้นขึ้นไป

    (6) ข้าราชการอัยการตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการซึ่งดํารงตําแหน่ง ตั้งแต่อธิบดีอัยการขึ้นไป

    (7) ผู้ดํารงตําแหน่งระดับสูง

    (8) ตําแหน่งอื่นตามที่กฎหมายอื่นกําหนดให้มีหน้าที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน

    (9) ผู้บริหารท้องถิ่น รองผู้บริหารท้องถิ่น ผู้ช่วยผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น ตามที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด

    ในขณะที่มาตราที่ 103 ระบุว่าเจ้าพนักงานของรัฐตําแหน่งใดจะต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของตน คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตามที่กำหนด

    ส่วนในมาตราที่ 105 มีการระบุว่าในกรณียื่นเป็นเอกสารผู้ยื่นจะต้องลงลายมือชื่อรับรองความถูกต้องกํากับไว้ในบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สิน และสําเนาหลักฐานที่ยื่นไว้ทุกหน้า พร้อมทั้งจัดทํารายละเอียดของเอกสารประกอบบัญชีทรัพย์สิน และหนี้สินที่ยื่นด้วย ทั้งนี้ ทรัพย์สินและหนี้สินที่ต้องแสดงรายการ ให้รวมทั้งทรัพย์สินและหนี้สิน ในต่างประเทศ และให้รวมถึงทรัพย์สินของบุคคลดังกล่าวที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครองหรือ ดูแลของบุคคลอื่นไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมด้วย

    และมาตราที่ 106 ได้ระบุเอาไว้ว่า ในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่ตั้งของอสังหาริมทรัพย์ และเอกสารประกอบต้องไม่ระบุถึงรายละเอียด ทางทะเบียนของทรัพย์สิน และภาพถ่ายทรัพย์สินหรือข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่จําเป็นหรือที่อาจก่อ ให้เกิดอันตรายต่อเจ้าของข้อมูลได้ ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด โดยการเผยแพร่ ให้กําหนดช่วงระยะเวลาในการดําเนินการที่ชัดเจน

    หมายเหตุ:ดาวน์โหลดฉบับเต็มได้ที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2561/A/052/1.PDF)

    https://www.isranews.org/isranews-news/67974-ratchakijja8.html
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รัสเซียจัดโชว์เต็มตา 5 ชนิด : ระบบมิสไซล์หัวรบนิวเคลียร์นำวิถี ระบบมิสไซล์ไฮเปอร์โซนิก ขีปนาวุธข้ามทวีปซาร์มัต โดรนใต้น้ำ และ มิสไซล์ไฮเปอร์โซนิกกินซาล #ข่าวสดรอบโลก

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    221,988
    ค่าพลัง:
    +97,149
    BREAKING: YELLOWSTONE DECLARES STATE OF EMERGENCY AS 100-FT FISSURE SPARKS URGENT PARK EVACUATION - TOURISTS TOLD TO STAY AWAY - UNPRECEDENTED NEWS BLACKOUT - SUPERVOLCANO ACTIVITY REACHING CLIMAX EXPERTS WARN

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 กรกฎาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...