เรื่องเด่น พระสกิทาคามี (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย อกาลิโก!, 10 มกราคม 2018.

  1. อกาลิโก!

    อกาลิโก! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    609
    กระทู้เรื่องเด่น:
    531
    ค่าพลัง:
    +3,731
    On.jpg
    พระสกิทาคามี


    ต่อจากนั้นไปรักษาอารมณ์ ไว้ตามนั้นคือ พิจารณาขันธ์ 5 รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ที่เรียกกันว่าร่างกาย ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรา อารมณ์เบาลงไปเห็นว่าทุกสิ่งในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรา คำว่ากูของกู น้อยลงไป มันชักไม่มีความรู้สึกว่ามีเหมือนกัน แต่รู้ไว้เสมอว่า มันกับเราไม่ช้าก็จากกันความรู้สึกเชื่อมันในคุณพระรัตนตรัยมีระดับสูงขึ้น มีอารมณ์ละเอียดมากขึ้นนิดหน่อย ก็เกรงอันตรายจะเกิดขึ้นกับใจและการรักษาศีลมั่นคงยิ่งขึ้น มีอารมณ์ละเอียดยิ่งกว่าพระโสดาบัน แต่ละสังโยชน์เท่ากันสามอย่างเหมือนกัน ตอนนี้อารมณ์จิตที่เราจะพิจารณาสังเกต ได้ง่ายคือ กามราคะ หรือว่าความโกรธมันจะมีน้อยเต็มที จะมีโกรธเหมือนกัน แต่ว่ามันดื้อเหลือเกิน มันมีความไวน้อย บางมีใครเขาด่าขึ้นก็งง ความโกรธมันไม่เกิด เห็นคน เห็นความสวยสด งดงามที่เคยต้องการมีความปรารถนา แต่ความปรารถนามันไม่เกิดเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไป ที่นี้เวลาที่จะกำหนดจิตรู้อารมณ์ตัวนี้จริงๆอันนี้เรียกว่า สกิทาคามี
    เอากันให้ชัดคือ กามฉันทะ ความต้องการในกามารมณ์จะมีเหมือนกับกามตายด้าน ไม่มีความต้องการในกามารมณ์ อย่างปกติเลยแม้แต่น้อย บางคนคิดว่าตอนนี้เราเป็นพระอนาคามี
    อันนี้ต้องระวังไว้ เพราะการเจริญวิปัสสนาญาณควบกับอำนาจของสมถภาวนา ในขณะที่พิจารณาขันธ์5 ก็ใช้สมถะไปด้วยการที่ควบคุมใจอยู่ในขอบเขต เป็นอารมณ์สมถะ สมถะกับภาวนานี่แยกตัวกันไม่ออก อารมรณ์ที่คงอยู่มันจะเข้าถึงระดับฌาน แต่ปฐมฌานขึ้นไปกำลังใจจึงมีอำนาจตัดกิเลส ตอนนี้อารมณ์ของสมถะถ้ามีกำลังนึก ความรู้สึกต้องการในรูป รส กลิ่น เสียง มันจะน้อยความโกรธ หวั่นไหวมันก็น้อย นี่เป็นอำนาจของอารมณ์สมถะ แล้วก็มีปัญญาคือพิจารณาเข้าด้วยก็กดกันหนักลงมากขึ้น ความรู้สึกน้อยลงบางทีมีระยะตั้งเดือนสองเดือน ความรู้สึกในกามารมณ์ไม่มีเลย ตอนนี้เรานึกว่าเราเป็นพระอนาคามี เท่าที่ผ่านหลายท่าน พระพุทธเจ้าท่านนิพพานไปแล้วก็ไม่รู้จะถามใคร อย่างนี้เกิดความเข้าใจตนเองว่าเป็นพระอนาคามี แต่ว่าขณะนั้นระวังให้ดี ตอนนี้ที่อารมณ์เงียบสงัดตั้งจิต อยู่ในอำนาจของสมาธิและวิปัสสนาญาณในการบางครั้ง อารมณ์ปรารถนาในความสวยสดงดงามมันปรากฏและอารมณ์ของความโกรธความเครียดแค้น ก็จะเกิดในใจของบุคคล ที่ตั้งใจตั้งนานถ้าเกิดแล้วมีความรู้สึก เราก็ระงับได้ทัน อย่างนี้เรียกว่า อารมณ์เป็นอานุสัย ถ้าใจของท่านทั้งหลายเข้าได้ถึงตอนนี้ท่านเรียกว่าพระสกิทาคามี ถ้าถึงขั้นสกิทาคามีตายแล้วก็ไม่เกิดเป็นเทวดา พรหม ก็ต้องเกิดเป็นมนุษย์อีกครั้งหนึ่งแล้วก็นิพพาน
    จากหนังสือ ธรรมประวัติ เล่ม 54 หน้า 90-92



    ที่มา คำสอนหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 มกราคม 2018
  2. madeaw23

    madeaw23 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +188
    กราบสาธุครับ
     
  3. นรวร มั่นมโนธรรม

    นรวร มั่นมโนธรรม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    188
    ค่าพลัง:
    +113
  4. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,397
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,628
  5. โอปะนะยิโก

    โอปะนะยิโก สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +2
    ด้วยศรัทธาและความเพียร ...สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...