อนัตตา เปรียบดั่งยาขมของผู้ปฏิบัติธรรม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 11 สิงหาคม 2018.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    55555+
    ไอ้ถ่อยนพเอ๊ย ไอ้โคตรเนรคุณเลยมรึง

    คนอะไร โม้ได้แบบไม่อายฟ้าอายดิน ควายชัดๆ มองยังไงก็ไม่เหมือนวัว

    คุยกับมรึงมาขนาดนี้ ยังไม่เรียกว่ารับคำท้า หรือจะเรียกมรึงมากราบตรีนกรู

    คงยาก ขนาดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มรึงยังกล้าหมิ่น ลบหลู่ดูถูกเลย

    กรูล่ะกลัวเลยจริง นี่ไงกรูถึงได้บอกว่า คุยกับพวกหัวร้อนสมองบวมแล้วป่วยการจริงๆ

    คุยโม้เข้าไปโน้น แยกรูปแยกนามนั่นมันตำราโว้ย มรึงก็ได้แค่นี้ นึกว่าจะแค่ไหน

    มรึงลองกระโดตึกลงมาดูสิ แยกรูปแยกนามเป็นวิปัสสนาได้ทันมั้ย?

    ถ้าอยากขี้โม้เพื่อรักษาหน้าตัวเองทำไปเถอะ กรูไม่ว่าหรอก แต่อย่าเยอะเพราะกลัวผิด

    มาตะเภาเดียวกันหมด พอถูกคำเสียดแทงเข้านิดๆหน่อยๆ กลับมาเป็นร้อย

    กรูอ่านข้ามๆขี้เกียจอ่าน กรูชอบอะไรที่มันชัดเจนแบบไม่คลุมเคลือหรือมั่วนิ่มอย่ามรึง

    แบบนี้มรึงให้หมาที่ไหนเชื่อมรึงเข้าไปได้ลงคอว่ะ อ่อนขนาดนี้ เชื่อเถอะอย่าพยายามโม้เลย

    มรึงพล่ามพล่อยๆแบบนี้ไปเรื่อย เชื่อได้เครดิตมรึงก็จะค่อยหดหายไปเอง มันทำลายตัวมันเอง

    นี่แหละที่เค้าเรียกนักเลงคีย์ตัวจริงเลย เก่งแต่จำคำพูดคนอื่นเค้ามาเท่านั้น


    ***ไอ้ควายนพเอ๊ย นี่หรือคำถามมรึง
    และอีกคำถาม ในกำลังระดับฌาน ๑ (เอาแค่นี้หละ)
    ถ้าหายใจรอบเดียวเข้าออกได้ ๓ รอบเนี่ย
    ถามว่า ระบบหายใจมันเป็นอย่างไร
    ถึงทราบว่ามันเข้าออกได้ ๓ รอบ
    อธิบายให้ฟังหน่อยซิ พ่อคนเก่ง......***

    ว่าเข้านั่นไอ้ควาย กรูถามไปมรึงเสือกไม่อยากจะตอบ มาย้อนถามกรูซะงั้น

    สงเคราะห์ควายๆอย่างให้มีสำนึก ในพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าบ้าง

    มรึงรู้หรือเปล่าว่าคำถามมรึงหนะโคตรกำกวมเลย ไม่บอกด้วยนะว่า

    ฌานที่มรึงพูดว่ามานี่อะ เป็นฌานในสมาบัติ หรือสัมมาสมาธิฌาน

    แต่กรูของอนุมานเอาเองว่าควายล้วนๆอย่างมรึงที่ไม่มีส่วนผสมอื่นหนะ

    รู้อยู่แค่เรื่องฌานนอกพระพุทธศาสนาเท่านั้น แต่มันก็มีทางเดินลมใกล้เคียงกันนะ

    คำถามแบบมรึงนี้ เป็นกับดักควายที่มรึงสามารถแถออกไปทางไหนก็ได้

    แต่ใช้กับกรูไม่ได้หรอก เพราะมีการคุยฟุ้งในนี้แบบมั่วๆ อยู่เยอะแยะไปหมด

    มรึงโม้อะไรมั่วๆของมรึง หายใจเข้ารอบเดียวเข้าออกมาสามรอบ

    ถึงรู้เข้าออกสามรอบ กรูถึงได้สังเวชมรึงนักหนาไง ที่จำคำคนอื่นมาพูด

    ระดับกำลังของฌานที่๑นั้น มันชัดเจนในตัวมันเองอยู่แล้ว

    เมื่อในมันยังเกาะวิตก วิจารณ์ มีปิติ มีสุขอยู่ พอเต็มกำลังลมหายใจมันละเอียดมากๆ

    เหลือแต่อาการกระเพื่อมแผ่วมากๆ แทบจับอาการไม่ได้เลย อย่างที่มรึงโม้หรอก

    จนมรึงหรือใครๆที่ชอบมั่ว บอกมาได้ว่าเข้ารอบเดียวเข้าออกได้สามรอบ

    มันจะมาวุ่นวายกับลมหายใจอยู่อีกทำไม ไอ้ควายเอ๊ย มันใกล้จะทิ้งลมแล้วโว้ย

    ในขณะนั้นหนะ จิตมันเอนเอียงไปที่อาการปิติ สุข ที่ได้รับอยู่ เป็นเอกคตารมณ์

    กรูก็ว่าแล้วแมร่งรู้จากความจำขี้ปากคนอื่นเค้ามาพูดก็ได้แค่นี้เท่านั้น

    ถ้ายังไปไม่ถึงไหนก็อย่าพยายามโชว์โง่ แล้วเที่ยวท้าใครอยู่อีกเลย

    รู้จักสำเหนียก สำนึกตัวเองด้วยว่า เอาเวลามาภาวนาให้เป็นค่อยมาโม้ก็ยังไม่สาย

    ธรรมะแท้ๆของพระพุทธเจ้าหนะมีไว้เพื่อ ลด ละ เลิก ไม่ใช่มีไว้หลอกคนอื่นให้เชื่อ

    อย่าให้กรูต้องด่าซ้ำย้ำเตือนเลยนะ กรูละเบื่อจริงๆ พวกชอบอวดศักดาที่ยังไม่ถึง

    เพราะเดี๋ยวนี้คนประเภทอย่างมรึงหนะ มันเพิ่มขึ้นอย่างกับดอกเห็ด จำไว้นะ

    สมองชักจะบวมไปกับพวกมรึงแล้วจริงๆ เฮ้อ!!!!

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน

    ปล. ไม่ต้องเยอะเอาที่เนื้อๆ และไม่ต้องสับขาหลอกอีกนะ เบื้อหน่ายว่ะ

    มรึงเยอะกรูก็ขี้เขียจอ่าน พลาดได้ ดีนะมีอะไรมาดลใจกรูไว้





     
  2. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    สาระธรรมวันละสูตร

    อานันทสูตร

    ....(ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตามีอยู่ไซร้)

    [๘๐๒] ครั้งนั้น เมื่อวัจฉโคตรปริพาชกหลีกไปแล้วไม่นาน
    ท่านพระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เพราะเหตุอะไรหนอ
    พระผู้มีพระภาคอันวัจฉโคตรปริพาชกทูลถามปัญหาแล้ว จึงไม่ทรงพยากรณ์
    พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า
    อัตตามีอยู่หรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตามีอยู่ไซร้
    คำพยากรณ์นั้นก็จักไปร่วมกับลัทธิของพวกสมณพราหมณ์ผู้เป็นสัสสตทิฐิ

    ดูกรอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า
    อัตตาไม่มีหรือ ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตาไม่มีไซร้
    คำพยากรณ์นั้นก็จักไปร่วมกับลัทธิของพวกสมณพราหมณ์ผู้เป็นอุจเฉททิฐิ

    ดูกรอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตามีอยู่หรือ
    ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตามีอยู่ไซร้ คำพยากรณ์ของเรานั้น
    จักอนุโลมเพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งญาณว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาบ้างหรือหนอ ฯ

    http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=18&A=9979&Z=10003&pagebreak=0
    .....................................................................................................................
    ^
    ^
    พระพุทธพจน์ที่ทรงตรัสไว้ในเรื่องอัตตา ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่า
    จะว่าอัตตามี ก็ไม่ได้ เพราะผู้ไม่มีญาณบังเกิดขึ้น ย่อมเห็นเป็นสัสสตทิฐิไปได้
    หรือว่าอัตตาไม่มีก็ไม่ได้ เพราะ ผู้ที่ไม่มีญาณบังเกิดขึ้น ย่อมเห็นเป็นอุจเฉททิฐิไปได้เช่นกัน

    พระองค์จึงทรงตรัสไว้กับพระอานนท์ดังนี้
    "ดูกรอานนท์ เราอันวัจฉโคตรปริพาชกถามว่า อัตตามีอยู่หรือ
    ถ้าจะพึงพยากรณ์ว่า อัตตามีอยู่ไซร้ คำพยากรณ์ของเรานั้น
    จักอนุโลมเพื่อความบังเกิดขึ้นแห่งญาณว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตาบ้างหรือหนอ ฯ"

    ความเกิดแห่งญานคือ การรู้เห็นตามความเป็นจริง(วิปัสสนา)
    จะมีขึ้นได้นั้นต้องมีสัมมาสมาธิเป็นบาทฐาน
    มีพระพุทธพจน์ในพระธรรมบทรับรองไว้ตามนี้
    "สมาธึ ภิกฺขเว ภาเวถ สมาหิโต ยถาภูตํ ปชานาติ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเจริญสมาธิให้เกิดขึ้นเถิด
    ผู้มีจิตตั้งมั่นดีแล้ว ย่อมรู้เห็นตามความเป็นจริง(วิปัสสนา) ดังนี้"

    เจริญในธรรมทุกท่าน
     
  3. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035

    ไอ้คนดี ไอ้อริยะ
    ไอ้คนเก่ง ไอ้คนมากฝีมือ ประชดนะ ๕๕
    ฮ่าๆๆๆ คุยเป็นร้อย ฝีมือ ๓ สลึง ๕๕

    ปฎิบัติสายไหนมาวะ มั่วชิบหาย
    สับขาหลอกช่างกล้าพูด
    รับคำท้าก็จบ ไม่ต้องพูดมาก
    ถ้าข้าพเจ้าทำไม่ได้เหมือนโม้
    หรือแพ้มะรึงแค่กรรมฐานเดียว
    จะกราบตีนมะรึงไง.
    แต่ถ้ามะรึง ทำไม่ได้ สู้ข้าพเจ้า
    ไม่ได้เหมือนที่คุยโม้ทับถมไว้
    แค่เอาหน้ามาลงไง ง่ายจะตาย ๕๕๕
    มะรึงจะคุยโม้ ฝอยในการปฎิบัติที่ตน
    เองเข้าไม่ถึงไปเพื่อ ??
    รับคำท้าซิ. พูดเป็นสิบรอบแล้ว

    ยิ่งพูด ยิ่งดูออก ว่าแท้จริงแล้ว
    ธรรมภูต กราบตีนกรู คงเก่งแต่ปาก
    ระดับ ชิวาว่า ๕๕๕

    มิน่าถึงไร้ความสามารถทางจิต
    ไร้ปัญญา
    สงสัย ฝึกทาง.
    สายโม้แถมั่วสญาน
    ตอแหลสร้างภาพ ๕๕๕

    ได้อ่านก่อนหน้า ที่ขุดหลักฐานความตอแหล
    ของ ธรรมภูติกราบตีนกรูหรือ ยัง
    ไอ้ สติ ทิฐิ สัญญาวิปลาส ๕๕๕
    ยังกล้าหน้าด้านมาโชว์โง่อีก ๕๕

    คำถามที่ถามเอาไว้ดักพวกกระบือ. ถูก
    แต่มะรึง กระบือไม่นับญาติไง
    ขาตินี้มะรึงตอบไม่ได้หรอก ๕๕๕
    พวกหนอนตำราไง สำเร็จจาก
    การอ่าน ทำเป็นโม้ดูถูกคนอื่นๆ ๕๕
    จอมแถสร้างภาพ แบบคะแนน
    ความสามารถต่ำ ๕๕๕

    เนื่องจากปฎิบัติไม่ได้เลยอ่านไม่รู้เรื่อง ๕๕๕
    แต่สร้างภาพไว้เยอะกลัวเสียฟอร์ม ๕๕
    แต่คิดได้เรื่องสร้างภาพคุยข่ม ยกตน ดูถูก
    ทั้งที่ไร้ความสามารถทางจิต ๕๕๕

    เก่งจริงตอบซิ กิริยาแยก
    รูปแยกนามที่เคยถาม
    กลัวคนรู้ว่าที่ผ่านมาเป็น
    วิปัสสนึกหรือเห็นคุยแต่ธรรมสูงๆ
    ระดับพื้นๆกลับตอบไม่ได้ ๕๕๕



    รับคำท้า
    หมายถึงรับคำท้ามา
    แสดงความสามารถกันตัวๆนะน้อง
    ธรรมภูต กราบตีนกรู
    สัญญาแปลกๆเนาะ ๕๕
    ท่าจะเพี้ยนจริงๆ
    อ่านภาษาไทย รู้เรื่องเป่าวะ ๕๕

    ไม่ใช่มาแถ เถียง ตอแหล ปลิ้นปล้อน
    ให้เค้าเอาหลักฐาน มาแย้งได้ ๕๕
    แล้วมาโชว์โง่ ตอบแถ คำถาม
    การปฎิบัติที่จะฟ้องให้คนอื่นๆรู้
    ว่า ตนเองปฎิบัติไม่ได้ เพราะ
    เก่งแต่ปากนะ ๕๕๕

    ปล. ทิฐิ สติ และสัญญาวิปลาส
    อาการแบบ ธรรมภูตกราบตีนกรู
    นี่หละ ดูไว้ ๕๕๕ (^_^)
    ไปหัดมาใหม่นะน้อง. ๕๕๕
    ลาก่อนนะน้อง.
    กะจอกวะ นึกว่าจะเก่งจริง
    เหมือนปากที่มาดูถูก ยกตนข่มคนอื่นๆ

    เอ่อเรื่องตอแหล ปลิ้นปล้อน พลิกลิ้น
    สร้างภาพ
    พูดเอาดีเอาตัว
    ให้คนเอาหลักฐานที่พูดเอง
    มาประจานตัวเองได้
    ยกให้มะรึงชนะเลิศไปเลยนะ
    ยอมรับสู้มะรึงไม่ได้ ๕๕๕


     
  4. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    จริงๆ ไม่ได้ถามเอาฮาหรอกครับ
    เพียงแต่ คำว่าริดสีดวงมันออกจะเป็นแบบฮาๆ

    เห็น วิชาย้ายเส้นเอ็น เลยอยากชม เผื่อจะย้ายริดสีดวงไปไว้ที่อื่นได้



    ส่วนริดสีดวงน่ะ มีจริงๆ ตรูดบวมทุกที ฮาๆ
    ยิ่งตอนเป็นหนักๆ นึกถึง โซฟีแบบกระชับ บางที แบบมีปีกก็น่าจะดี


    เดี๋ยวจะไปชมแน่นอนครับ

    เฮี๊ยบโกแปะ vs ไซม๊งจายเซาะ
     
  5. ปราบเทวดา

    ปราบเทวดา ลอยลำ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    6,265
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +4,762
    หวัดดีครับพี่ เฮี๊ยบโกแปะ สบายดีครับผม

    อย่าให้อาซ้อมาแอบพิมพ์นะ ฮา


    ว่าแต่ว่า ไปประลองกับ ไซม้งจายเซาะหน่อยจะเป็นไรปาย
    น้องก็อยากชม

    เอาหลังคาศาลาที่ไหนดีครับ จะช่วยจัดห้าย

    แจกการ์ดไหมครับ จะใช้ วิชา ดรรชนีโฟโต้ช้อปทำให้
     
  6. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    5555+

    กรูล่ะเบื้อหน่ายจริงๆกับสิ่งที่ต้องแบกอยู่ทุกวันนี้

    แต่เชื่อหรือไม่ รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นภาระหนัก เป็นภาระที่ต้องแบกไปทุกๆที่

    ได้แต่ต้องโทษตนเองว่ายังอ่อนซ้อม กำลังยังไม่มากพอที่จะสลัดมันออกแบบเด็ดขาด

    เฮ้ย!!! บางคนได้แค่นั้นจริงๆ ชอบโชว์ในเรื่องคิดแล้วว่ามันเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง

    เช่นการท้าทายกันในบอร์ด การด่าให้ตายกันไปข้าง การโชว์พลังอำนาจจิตที่คิดว่ามี

    เหมือนหมาเห่าเครื่องบิน ยังไงยังงั้น แทนที่เอาเวลาหันกลับมาดูตนเองบาง

    เวลาโดนสวน โดนเตือน โดนลวนลามด้วยวาจาอย่างหยาบช้าลามก โดนข่มขู่แช่งชักฯลฯ

    พอเห็นปุ๊บจิตมีอาการอย่างไร? ให้พิจารณาจิตตนเองทันที(ประคองจิต)

    ว่าจิตตนเองแส่ส่ายหวั่นไหวไปตามอาการที่ตาเห็นถึงระดับไหนกัน

    หัวร้อนเลย หนักขึ้นก็หัวหูร้อนวูบ อัดอั้นตันใจจนขนาดทนไม่ไหวแถมยังสมองบวม

    อาการสมองบวมคือ การคิดสวนแบบทันทีทันใดโดยคิดเองเออเองว่ามันเจ็บสุดๆ(สะใจ)

    เอาเรื่องค้างไว้ ก็แปลกนะ พอโดนถามก็เบี่ยงไปว่ามันตำรา เฮ้ย ตำราที่ไหน?

    คนเล่นกสิณย่อมรู้ดี ใหม่ๆมันก็ต้องอาศัยรูปในการจดจำให้ได้ก่อน

    พอหมั่นเพียรเพ่งมากๆจนจำจดสัญญาอารมณ์อันนั้นได้อย่างแม่นยำแล้ว

    ไม่ต้องอาศัยรูปนั้นอีกแล้วใช่มั้ย? เรื่องนี้ถามปราดเทวดาดูได้ เค้าก็เล่นมาไม่น้อยจริงๆ

    แต่ก็ไม่เคยเห็นอวดศักดิ์ฟาดหัวฟาดหาง อยากดังโดยพยายามเนียนเหยียบคนอื่นเดินเลย

    ส่วนพวกที่ชอบแอบเนียนอยากเป็นอาจารย์จนตัวสั่น โชว์พลังจิตแบบโง่ๆ

    เพราะโชว์ยังไงก็ไม่มีทางเห็นได้ แต่อาศัยการโม้ โชว์ฟร์อมแบบเนียน

    สร้างภาพอวดตนเองนิดหน่อยแค่นี้ มีคนมาอวยเยอะๆ เดี๋ยวก็หลงจนโงหัวไม่ขึ้นไปเอง

    เอาหละมาว่าเรื่องต่อไป ฌานที่ยังวุ่นวายอยู่กับลมหายใจนั้น จัดเป็นฌานในสัมมาสมาธิ

    เพราะอยู่ในหลักเกณฑ์ที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ กาย เวทนา จิต และธรรม

    ที่โดนถามมาพยายามตอบน้อยที่สุดแล้วหนะ เพราะถ้าจัดเต็มบอกได้เลยว่า

    หน้าแตกเป็นเสี่ยงๆ ชนิดที่หมอไม่รับเย็บ แค่เห็นคำถามก็อดขำก๊าก มันจำเค้ามาพูด

    อันนี้ยังพอระลึกได้ในบอร์ดนี้(อันนี้นอกเรื่องหน่อย) พวกชอบจำมาพูด ไม่ใช่ธรรมภูต

    คนเล่นอยู่กับลมหายใจมาชั่วชีวิต มองที่เดียวก็รู้ว่า "ไอ้ถ่อยนี่มันขนาดไหน" เอง

    สมองเริ่มจะบวมอีกแล้ว จริงๆไม่ได้มีอะไร เห็นมานานพยายามปล่อยผ่านๆไป

    เพราะเห็นว่าบ่นอะไรแบบโชว์ตัวนิดๆแบบที่รู้เองเออเองคนเดียวเป็นประจำ

    แต่ที่ต้องเริ่มขัดเพราะเริ่มเข้ามาที่ทู้ พยายามเหยียบย่ำทำร้าย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    โดยกล่าวหาว่า ฝึกมานานสมาธิชุ่นแช่ บลาๆ ทำให้จิตซื้อบื้อ อีกหลายคำขี้เกียจจำ

    ขนาดพระอาจารย์ทั้งสองของพระพุทธองค์เอง พระพุทะองค์ยังตรัสชัดเจนเลยว่า

    อาจารย์ทั้งสองฉิบหายแล้ว เพียงเพราะไม่ได้มีโอกาสฟังพระพุทธองค์เทศนาสั่งสอน

    เพราะพระอาจารย์ทั้งสองนั้นเป็นเมธี มีธุลีในจักษุ(กิเลส)น้อย เพียงแค่ได้ฟังก็บรรลุได้แล้ว

    ขึ้นชื่อว่าสมาธิแล้ว ไม่ว่าเป็นสมาธินอกพระพุทธศาสนา หรือสัมมาสมาธิ ล้วนให้คุณทั้งนั้น

    แต่นี่คนถ่อยอะไรก็ไม่รู้ คุยว่าเก่งในกรรมฐานตั้ง40กอง กลับไม่รู้เรื่องง่ายๆแค่นี้

    บ่นมามากพอแหละ(จริงๆเยอะไปหน่อย) ยังรอคำตอบอยู่นะ อยากรู้จริงๆ

    มันหายใจยังไงของมันว่ะ แค่ปื้ดเดียวเข้าออกได้ตั้งสามรอบ เน้นนะ เข้า-ออก

    ไม่ใช่เข้าออกโว้ย มัน........ บุคคลที่ทำได้จริงๆต้องชำนาญในลมละเอียดแล้ว

    ไม่ใช่แค่ฌานที่๑ แบบที่มรึงโม้ไว้ อย่าบอกนะว่ากองลมที่พัดไปพัดมา 555+


    ***ไอ้ควายนพเอ๊ย นี่หรือคำถามมรึง
    และอีกคำถาม ในกำลังระดับฌาน ๑ (เอาแค่นี้หละ)
    ถ้าหายใจรอบเดียวเข้าออกได้ ๓ รอบเนี่ย
    ถามว่า ระบบหายใจมันเป็นอย่างไร
    ถึงทราบว่ามันเข้าออกได้ ๓ รอบ
    อธิบายให้ฟังหน่อยซิ พ่อคนเก่ง......***


    ว่าจะ ว่าจะ น้อยๆแล้วนะ เราเองก็ทำได้แค่นี้เองจริงๆเหมื่อนกัน เฮ้ย!!! ปลง

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  7. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    สาระธรรมวันละสูตร

    มหาโคสิงคสาลสูตร ที่ ๒ ว่า
    ดูกรสารีบุตร ภิกษุในศาสนานี้ กลับจากบิณฑบาตในเวลาหลังภัตแล้ว
    นั่งคู้บัลลังก์ ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติมั่นเฉพาะหน้าว่า
    จิตของเรายังไม่หมดความถือมั่น ยังไม่หลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย(เป็นวิราคธรรม) เพียงใด
    เราจักไม่ทำลายบัลลังก์นี้เพียงนั้น ดังนี้

    ^
    ^
    พระพุทธพจน์ยังกล่าวรับรองว่า
    "ตราบใดที่ยังมีผู้ปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ ๘ ตราบนั้นโลกจะไม่ว่างเว้นจากพระอรหันต์"

    ทุกท่านทุกองค์ล้วนผ่านการขัดเกลาจิตใจของตนกันมาแล้วก่อนหน้า
    ด้วยความเพียรเพ่งในฌาน ดำรงสติมั่นไว้เฉพาะหน้า
    และดำเนินตามรอยบาท คือ เราจักไม่ทำลายบัลลังก์นี้ ดังปรากฏในพระสูตร

    เป็นที่ชัดเจนตามพระพุทธพจน์ที่ทรงกล่าวไว้ดีแล้ว การประกอบภาวนานุโยค
    หรือก็คือ การปฏิบัติสมาธิกรรมฐานภาวนา (สัมมาสมาธิ) ตามหลักอริยมรรคมีองค์ ๘ นั้น
    มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลายของจิต (เป็นวิราคธรรม)

    ดังนั้น จึงขอบอกกล่าวว่า อย่าเพิ่งรีบกลัวการติดสมาธิไปเลย
    เพียงแค่เริ่มต้นทำให้จิตสงบนิ่งรวมลงเป็นสมาธิยังทำกันไม่ได้ ทำกันไม่เป็นแล้ว
    ยังจะรีบกลัวไปทำไม การติดการสงบนิ่งเป็นสมาธิ (กิเลสละเอียด) นั้น
    ก็ยังดีกว่าพวกที่ทำให้จิตของตนสงบนิ่งไม่เป็นเลยด้วยซ้ำไป

    การติดสมาธิจนจิตเอาแต่สงบนิ่งนั้น ยังพอที่จะให้ครูบาอาจารย์ชี้แนะนำทาง
    ให้รู้จักวิธีหลุดพ้นออกมาได้ ด้วยวิปัสสนาคือการให้ตรึกธรรมเฉพาะหน้า
    ส่วนพวกที่ทำให้จิตสงบนิ่ง แม้ชั่วขณะช้างกระดิกหู งูแลบลิ้นยังทำไม่ได้เลย
    จะพูดไปใยถึงเรื่องความหลุดพ้นให้เสียเวลาให้อาย......

    ปล. ลืมตอบอันหนึ่งไป ใครที่ยังชอบบ้าแยกรูปแยกนามอยู่นั้น
    รู้แล้ววางซะ เอาเข้าจริงๆแล้วเอามาใช้อะไรไม่ได้หรอก
    ลองได้ตกต้นไม้ หรือเกิดอะไรขึ้นแบบทันทีทันใดดูก็จะรู้ว่า
    มันแยกทันทีไหน แทนทีจะหันมาฝึกอบรมฝึกฝนภาวนาให้จิตสงบมีสติตั้งมั่นรู้ทัน
    เพื่อรองรับสถานะการณ์ดีกว่ามั้ยอะ มันใช้ได้จริงไม่ใช่วิปัสนึกเอาเองเออเอง

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ว่าแล้วมันต้องไม่รู้เรื่อง และโชว์โง่อีก
    เพราะมันถนัดวิเคราะห์จากตำรา ๕๕
    เลยไม่รู้ในทางปฎิบัติ ป่านนั้นคุย
    เรื่องวงกรรมฐาน
    ๕๕๕ คุยเป็นร้อย อธิบายมารู้เลย
    ฝีมือ ๓ สลึง แถมโชว์โง่ทางปฎิบัติ
    ให้เห็นอีกเรื่อยๆ ๕๕๕ ยิ่งพูดยิ่งแสดง

    ทำให้รู้ว่า เป็นพวกสำเร็จทางมโนสายตำรา
    กะจอกวะ นึกว่าจะเก่งกว่านี้
    เหมือนปากชิวาว่าที่คุยทับคนอื่นๆหน่อย

    ก็มีแต่หนอนตำรา
    ไร้ความสมารถทางสมาธิ อย่างนี้ แต่ปากดี
    พอท้าให้แสดงไม่กล้า เพราะทำไม่ได้จริง
    ๕๕๕ แต่ฟอร์มเยอะ จอมปี๊ปะ
    พอพูดจากประสบการณ์รู้เลย
    ว่า มโนเอาทั้งนั้น ๕๕๕
    เพราะมีคน
    อย่างมะรึงนี่หละ. จิตถึงไม่พัฒนากัน
    มีแต่เห่าหอน เพ้อเจ้อคิดว่าตนเองดี
    คิดว่าตนเองเก่งสมาธิ ๕๕๕
    รู้แต่อักษร แต่คุยใหญ่คุยโต
    ๕๕๕๕๕


    บอกแล้วว่าชาตินี้ กระบือสาย
    ตำราอย่างมะรึง
    ไม่มีทางรู้เรื่องหรอก
    เรื่องทางปฎิบัติ แต่เจือกกคุยโม้
    ทับถมทำเป็นเก่ง ๕๕๕

    รับคำท้าแสดงความสามารถมา
    บอกแล้วเงื่อนไข มีอะไรบ้าง

    ๕๕๕ ตุ๊ดกระจอก เก่งแต่ดูถูกทับถม
    ถูกท้า ก็แถ โง่ปฎิบัติ
    เจือกแถสร้างภาพอีก ขำ

    ถ้าเก่งจริงเหมือนปาก ป่านนี้รับคำท้า
    ไปนานแล้ว.

    ปล ไม่ได้แช่งนะอย่าเข้าใจผิด ไม่ได้เอามุข
    กรรมยกตนเองวิเศษ พอเถียงด้วยเหตุผล
    สู้เด็กไม่ได้ไว้ขู่เด็ก
    เหมือนมะรึงหรอก
    ไร้กำลังจิต ไร้บารมี
    ทำไปขู่เด็ก ๕๕๕


    บอกแล้วว่าชาตินี้ มะรึงจะฝึกกรรมฐาน
    อะไรไม่สำเร็จและใช้งานได้แม้กองเดียว
    และจะไม่บรรลุคุณธรรมอะไรแน่นอน
    ประกันได้เรื่องแบบนี้ ถ้าข้าพเจ้า
    ได้พูดรับรองไม่เคยผิด ฟันธง
    หัดตรวจสอบย้อนหลังดูนะ อิอิ

    เรื่องอื่นๆที่เตือนแล้วแต่จะคิดนะ
    บอกแล้วจะปากพล่อยด่าใคร
    หัดดูบารมี ดูกำลังจิตตัวเองด้วยน้อง
    ตำราที่อ่านไม่ทำให้มะรึง
    มีบารมีมีกำลังจิต มีความสามารถ
    ทางสมาธิได้หรอกนะ ๕๕๕
    งานนี้ไม่มีใครช่วยมะรึงได้หรอก
    เพราะมะรึงสร้างเอง
    รับไปเต็มๆนะ สมนะน้า

    ลาก่อนนะ...... ^_^
    กะจอก ธรรมภูติ กราบตีนกรู. ๕๕๕
    ขี้เกียจคุยด้วยแระ บายยยยย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2018
  9. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    จม. ถึง ปู่ ทำมาปูด......

    ปู่ฮับ ก่อนหายใจตัดอารมณ์ทิ้ง ปู่ รู้จัก รักในวัยเรียน อะเป่า ฮับ.....

    561000008934501.jpg


    ปล.ลิง : ตามตำรา เรื่องว่าด้วย กระถางดอกไม้ให้คุณ จะปรากฏเพียง 7วัน
    ก็จะหายไปเอง ......นี่ใช้เวลา 14 วัน ก็น่าจะอยู่ในอัตรา กึงพุทธกาล พอดี
    ฮิวววววววววววววววส์
     
  10. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    5555+

    เฮ้ย !!!! ป้าแกขนาด84แล้วนะ

    แกยังรักในการเรียนรู้ ในสิ่งที่คิดว่าตัวเองยังไม่รู้

    อันต้องขอคารวะ ส่วนรักในวัยเรียน ไม่รู้จัก

    ถึงรู้จักก็รักไม่เป็นอีก ตอบจม.แล้วนะ

    การรู้จักลมหายใจเป็นเพียงทางเดินนำไปสู่การรู้จักปล่อยวางอารมณ์

    อารมณ์ใครก็ตัดมันไม่ได้ ถ้ายังต้องอยู่กับโลก

    อารมณ์เป็นของคู่โลก ใครที่สามารถวางอารมณ์ใดได้

    อารมณ์ที่เคยเรียกว่าอารมณ์ ก็ไม่ใช่อารมณ์ของคนนั้นอีกแล้ว

    ส่วนเป็นอารมณ์ของใครนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่า ยึด หรือไม่ยึดนั่นเอง

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  11. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,806
    ค่าพลัง:
    +7,940
    อ้าว ปู่ อารมณ์เก่าผุยทิ้ง ใส่มิงค์ดีกว่า
    อารมณ์ใหม่ตัดไม่เป็น ก็แล่นไปเกิด จิฮับ

    แบบนี้ต้อง ตามพระวังคีสะ มา เคาะ ก.ล... ป๊องงงง์ !!!

    ก..ล.. ถอดทิ้ง อนุปาทินแม้นไม่ได้ครองแล้ว แต่มันก็เป็น อนุปาทิน
    หน่าขอรับ ขรี้ทุกเม็ด ลมหายใจทิ้งรดออกไปแล้ว .....หากเอามา
    เคาะได้ .....ป๊องงงงงงง์ ปู่ ยังเกิดแน่นอน <-- Click
     
  12. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    555+

    เฮ้อ !!! ไอ้ถ่อยนพเอ๊ย

    จริงๆแล้วน่าจะขยำมรึงต่อให้สะใจ(สมองบวม)นะ

    แต่ก็ต้องยอมรับว่า คนบางคนมันอวดเก่งได้แค่นี้เองจริงๆ

    แต่กลับไร้สำนึก ชอบแอบอ้างเอาคำสอนของพ่อแม่ครูบาอาจารย์

    มาเพิ่มเติมเสริมแต่งแบบโง่ๆเข้าไปให้เป็นคำสอนของตัวเอง

    แถมยังไม่เชื่อเรื่อง"เวรกรรมว่ามีจริง"อีก เรื่องนี้กรูไม่ต้องเอามาข่มขู่ใครทั้งสิ้น

    เพราะมีพระพุทธพจน์มีตรัสเรื่องกรรมไว้ชัดเจนแล้ว กรรมย่อมเป็นตัวกำหนด

    มรึงอย่าคิดและกลัวไปเองสิ เมื่อกล้าทำกล้าท้ามันต้องกล้ารับหน่อยซิ

    กรูโดนเอง พอระลึกได้ละเอียดเข้าไป กรูยังต้องรับมันโดยสดุดีเลย

    เรื่องแบบนี้ข่มขู่ใครไม่ได้ ถ้าไม่เคยทำกรรมนั้นๆไว้ มันย่อมไม่เกิดกับเราหรอกจริงมั้ย?

    ถ้ามีความสำนึกและมีความละอายใจอยู่บ้าง เมื่อรู้ตัวว่ามีเท่านี้เอง ไม่ต้องแถมก่อนไป

    หมั่นหาเวลามาฝึกฝนกรรมฐานหน่อย ไม่ใช่วนเวียนเป็นสัมภเวสีอยู่แต่ในนี้

    แถมยังยโสโอหังพองขนได้ซะขนาด มองข้ามหัวพระบรมครู ดูหมิ่นลบหลู่ได้ขนาดนี้

    รีบไปขอขมาซะ แต่ถ้าทำไปเพราะความเขลาเบาปัญญาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการจริงๆ

    ก็น่าจะกลับตัวกลับใจได้นะ ไม่มีใครไม่เคยผิด ล้วนเคยมาแล้วทั้งนั้นด้วย"มโนกรรม"ของตน

    แต่ดูจากทรงคนอย่างมรึงแล้ว คงยากมากๆๆเพียงเพราะมรึงกลัวเสียหน้าเท่านั้น

    เพราะแอบเนียนมานานจนทำใจไม่ได้เท่านั้นเอง อารมณ์หยาบๆแค่นี้มรึงยังไม่ผ่านเลย

    ทำไมต้องยาวมาขนาดนี้ ก็น่าจะรู้ๆนะว่าเพราะอะไร อยากโชว์ก็โชว์ไปคงไม่มีใครว่า

    แต่อย่าย่ำหรือเหยียบคนอื่นเค้า ถ้าอยากโชว์แบบคนอื่นเค้าให้เครดิตว่ามีภูมิรู้บ้าง

    ก็ถามแบบตรงประเด็นสิ แบบคนที่อยากเรียนรู้เพื่อเอาไปปฏิบัติ หรือศึกษาตริตรองได้

    แต่ไม่ใช่ถามแบบอวดเก่งอวดรู้ไปซะหมด อย่างที่มรึงทำอยู่นี่ไง ทำไปได้ ไม่ใช่ทำมาพูด55+

    แค่เรื่องจิตมรึงเองยังไม่รู้จักเข้ายังไม่ถึง อยากอวดโม้ไปถึงเรื่องกำลังของจิตที่แท้จริงอีก

    อย่างเก่งมรึงก็รู้แค่อาการของจิต แต่ไปโมเมเอาเองว่านั่นมันกำลังจิต เฮ้อ น่าสังเวชว่ะ

    ไม่เอา บ่นมาเยอะมากแล้วล่ะ ขอฝากไว้จากใจจริง ที่รอมานานมากๆๆๆ

    ไม่อยากให้เสียเวลาเปล่า วนเวียนเป็นสัมภเวสีอยู่แต่ในนี้ เพราะเหงา อยากหาเพื่อน ฯลฯ

    เมื่อใครที่นำเสนอเกี่ยวกับธรรมะ ที่เป็นของแม่ครูบาอาจารย์ไม่ว่าฝ่ายไหนก็ตาม

    ควรชี้ชัดลงให้ชัดเจนไปว่า นั่นคำพูดท่าน นี่ส่วนของเรา และต้องรับผิดชอบได้

    ส่วนนำเสนอ อภิญญาสมาธิอะไรก็ตาม ถาม-ตอบกันแบบคนที่เค้าศิวิไลแล้วเค้าทำกัน

    อย่าให้ศาสนาพุทธเราต้องไปเจริญเติบโตแบบจริงจังในประเทศอื่นที่เค้าสนใจจริงๆ

    แต่ของเราเองกลับค่อยๆหดหายไปด้วยตัวมันเอง ที่เรียกว่าเสื่อมไป เพราะพวกเราเอง

    เคยได้นำเสนอไปแล้วเหตุแห่งความเสื่อมไปของพระพุทธศาสนา เพราะอะไร(พรุ่งนี้)

    ที่ท่านพระอาจารย์กัสสปทูลถามพระพุทธองค์ว่า

    "บัญญัติต่างๆมีน้อย แต่ทำไมบุคคลที่สำเร็จเป็นพระอรหันต์กลับมีเยอะ"

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  13. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    สาระธรรมวันละสูตร

    จันทิมสสูตรที่ ๑

    ....(มีจิตเป็นสมาธิ มีปัญญา มีสติ)

    [๒๕๑] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในพระวิหารเชตวัน
    อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี
    ครั้งนั้น จันทิมสเทวบุตร เมื่อปฐมยามสิ้นไปแล้ว มีวรรณงามยิ่งนัก
    ยังพระวิหารเชตวันทั้งสิ้นให้สว่าง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ
    ครั้นแล้วก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค แล้วได้ยืนอยู่ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ฯ

    [๒๕๒] จันทิมสเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว ได้กล่าวคาถานี้
    ในสำนักพระผู้มีพระภาคว่า ก็ชนเหล่าใด เข้าถึงฌาน มีจิตเป็นสมาธิ มีปัญญา มีสติ
    ชนเหล่านั้น จักถึงความสวัสดี ประดุจเนื้อในชวากเขา ไร้ริ้นยุง ฉะนั้น ฯ


    [๒๕๓] พระผู้มีพระภาคตรัสว่าก็ชนเหล่าใด เข้าถึงฌาน ไม่ประมาท ละกิเลสได้
    ชนเหล่านั้น จักถึงฝั่งประดุจปลา ทำลายข่ายได้แล้ว ฉะนั้น ฯ

    http://84000.org/tipitaka/read/v.php?B=15&A=1610&Z=1624&pagebreak=0
    .........................................................................................................................
    ^
    ^
    พระพุทธพจน์ชัดเจนแล้วว่า จิตที่เข้าถึงฌาน เป็นสมาธิ ย่อมมีสติและมีปัญญา
    สติและปัญญา ย่อมเกิดขึ้นที่จิตที่ได้รับการอบรมการปฏิบัติสมาธิภาวนาดีแล้วเท่านั้น

    ส่วนจิตที่ติดอยู่ในฌานสมาบัติ ย่อมมีกำลังจิตละได้เพียงอารมณ์หยาบ
    แต่ก็ยังมาติดสุขอยู่ในอารมณ์ที่ละเอียด จิตยังหวั่นไหวเกาะเกี่ยวอยู่กับอารมณ์นั้นอยู่

    ฌานย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีปัญญา ปัญญาย่อมไม่มีในผู้ที่ไม่มีฌานเช่นกัน
    ผู้ที่มีทั้งฌานและปัญญาจึงจะอยู่ใกล้พระนิพพาน(พระพุทธโฆษาจารย์)

    ชัดๆนะ การทำสัมมาสมาธิแล้ว จิตไม่มีทางซื้อบื้อทื้อๆแข็งๆแน่นอน แถมมีสติ มีปัญญา
    แต่ขณะที่ยังฝึกใหม่ๆอยู่นั้น ความชำนาญยังไม่มี อาจดูแล้วเกร็งๆไปบ้างนั้นเป็นเรื่องธรรมดา

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  14. nan_nori

    nan_nori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +799
    ห้องนี้เหมือนจะมีสาระนะเนี่ย แต่ทำไมกลายเป็นอะไรก็ไม่รู้หว่าาาาาา ถกกันถกกันมาอ่านแล้วงงงวย
    ไม่ต้องยกเรื่องนี้เรื่องนั้นมาเถียงกันหรอกเนอะ
    คำถาม เถียงกันเพื่ออะไรได้อะไรขึ้นมา ใครจะมาขี้โม้โอ้อวดอะไรก็ช่างเขาเราจะไปสนใจทำไม ไอ้การเถียงเช่นนี้นิหาสาระอะไรมิได้เลย :p

    ในการพิมพ์ในโลกออนไลน์นี้นะ เราพิมพ์อะไรไปใครจะรู้เจตนาของเราจริงๆ เราสื่ออย่างนี้คนอื่นตีความอย่างหนึ่งพออีกคนเข้าใจผิดแหม่ด่ากันซะเละตุ้มเป๊ะเลยทีเดียวเชียว... ตัวอย่าง กรณีนี้ก็มีในห้องกระทู้นี้แล...

    อย่าสนใจเราเลย (สาระไม่มีก็แค่บ่นนิดหน่อยประสาเด็กน้อยยังไม่โต แต่ตัวเท่ากระบือละเน้อ):p

    ไปนอนละเมาตัวหนังสือ เค้าพิมพ์ไรไปเค้าไม่เกี่ยวน๊าาา อิ อิ:D:D:D;)
     
  15. สงบใจ

    สงบใจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    ธรรมใดเกิดขึ้นแล้ว ต้องดับไป ทนอยู่ไม่ได้นั่นเป็นทุกข์ ต้องปล่อยวาง คืออนัตตา
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ลาก่อนนะครับลุงวัยเกษียณ(อายุนะ)
    สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
    บอกแล้วจะปากพล่อยกับใคร
    หัดดูบารมีและความสามารถทางสมาธิ
    และกำลังจิตตนเองบ้าง ไม่เป็นไรหรอก
    อยากพูดอะไรก็เชิญครับ
    หลักฐานมีอยู่ ยังไงลุงก็
    มีป้า(ภรรยา)คนที่คุณปราบเทวดา เคยเจอ
    คอยดูแลให้ข้าวให้น้ำ
    เช็ดตัวให้อยู่ ขอบคุณที่สนทนาด้วย
    ก่อนหน้านี้นะครับ.
    ^_^ ^_^ ^_^
     
  17. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,410
    ค่าพลัง:
    +12,662
    อนัตตาเป็นสภาวะนามธรรมจะต้องเห็น
    ได้ด้วยฌานจิต ที่เป็นนามธรรม
    ด้วยกันถูกต้องไหมฮับ
     
  18. สงบใจ

    สงบใจ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2018
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +1
    เพราะกิเลสตัณหา ปิดบังห่อหุ้มจิตไว้ ทำให้จิตไม่เห็น รูปธรรม นามธรรม ตามเป็นจริง และไม่เห็นสภาวะของจิตที่แท้จริง ที่แบ่งส่วนแยกส่วนจากรูปธรรม นามธรรม ดังนั้น หากจะบอกว่าจิตนี้เป็นนามธรรมก็คงจะไม่ถูกต้องนัก แต่ถ้าพูดว่าสมมติ กับ วิมุตติ น่าจะแสดงได้ชัดเจนกว่า ครับ
     
  19. kenny2

    kenny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2017
    โพสต์:
    1,966
    ค่าพลัง:
    +1,483
    อะไรที่นับได้ก็นับ อะไรที่นับไม่ได้อย่าไปนับ...จะอะไรก็ต้องรู้สิ่งไหนนับได้สิ่งไกนนับไม่ได้...และหน้าที่เราคือรู้ว่ามีหรือไม่มี...คนไม่เคยบอกว่าไม่มีไม่มีทาง....คนเคยบอกว่ามีแต่มันมีแบบไม่สามารถนำมานับหรือแสดงให้เห็นเป็นของจับต้องได้...ถ้าฝืนไปหาทางนับ...ก็ชัดเจนอยู่แล้วว่าอาศัยความปรุงแต่ง...ต้องทำ...บลาๆๆๆเพื่อจะให้เห็นเป็นสิ่งจับต้องได้....ก็แล้วแต่...แล้วแต่มรรค...แต่มรรคแบบไหน...คงไม่มีใครห้ามได้...
     
  20. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,622
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,194
    555+ พึ่งเห็นอีกเช่นกัน นึกว่าkenny2 (คงสมองบวมแล้วจริงๆ)

    ระลึกถึงอยู่เหมือนกัน เคยมีความทรงจำกันนิดๆหน่อยๆพอเข้าใจได้

    หลักฐานชัดเจนขนาดนี้ บอกว่าไม่เกี่ยวไม่ได้แล้วจร้า

    "ที่ไหนไม่มีความขัดแย้งเลย ที่นั่นไม่เจริญ

    ที่ไหนมีความขัดแย้งมากเกินไป ที่นั่นก็ไม่เจริญอีกเช่นกัน"


    ฟังแล้วน่าจะงงนะ ยืมคำพูดว่าจากนักจัดการชั้นครู

    ที่มีปริญญาด๊อกเตอร์หลายใบ แต่เป็นความทรงจำที่นานมากแล้ว

    อยู่ในห้องนี้มานาน ก็น่าจะคุ้นเคยได้แล้วเนาะ ยังเห็นเป็นของแปลกไปได้5555+

    คลายความเหงาลงได้บาง สมองลดความบวมลงได้บ้างก็ยังดี

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน

    ปล.คงไม่ลบทิ้งนะ พอเห็นว่ามีสาระอยู่บ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...