ติดตามสถานะการณ์

เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ (UN) เปิดเผยรายงานจำนวน 440 หน้า แสดงหลักฐานการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญาของกองทัพเมียนมาร์ในรัฐยะไข่ ฉาน และคะฉิ่น อย่างละเอียด โดยเจ้าหน้าที่ UN ใช้เวลากว่า 15 เดือน เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์และสัมภาษณ์ประจักษ์พยาน 875 คน
.
รายงานฉบับดังกล่าวถูกนำเสนอต่อคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (United Nations Human Rights Council - UNHRC) เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ระบุว่ากองทัพเมียนมาร์ หรือ "ตั๊ดมาดอ" (Tatmadaw) เข่นฆ่าชาวโรฮิงญาตามอำเภอใจ รุมข่มขืนผู้หญิง ทารุณเด็กๆ และเผาหมู่บ้าน
.
ผลจากการกวาดล้างของกองทัพเมียนมาร์ทำให้ชาวโรฮิงญาอย่างน้อย 10,000 คน ถูกฆ่าตายภายในเวลาแค่ 2 เดือน กว่า 400 หมู่บ้าน ถูกกวาดล้างจนสิ้นซากหายไปจากแผนที่ เด็กๆ ที่พยายามหนีออกจากบ้านซึ่งกำลังโดนเผา ถูกทหารเมียนมาร์ผลักให้กลับเข้าไปในกองเพลิง ผู้หญิงและเด็กหญิงถูกข่มขืนโดยที่พวกเธอถูกมัดผมหรือมือเอาไว้กับต้นไม้ หมู่บ้านต่างๆ เกลื่อนไปด้วยศพเปลือยที่มีกองเลือดอยู่ตรงบริเวณหว่างขา นอกจากนั้นกองทัพเมียนมาร์ยังวางระเบิดตามเส้นทางที่ชาวโรฮิงญาใช้หลบหนี
.
เจ้าหน้าที่ UN ระบุว่า การละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยทหารเมียนมาร์ต่อชาวโรฮิงญาเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางราวกับเป็นเรื่องปกตินับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว หลังจากกองกำลังโรฮิงญาปะทะกับเจ้าหน้าที่รัฐ จนกลายเป็นชนวนของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และส่งผลให้ชาวโรฮิงญากว่า 700,000 คน ต้องอพยพหนีตายไปบังกลาเทศ
.
อ่านรายงานฉบับเต็มที่ www.ohchr.org/EN/HRBodies/HRC/Pages/NewsDetail.aspx?NewsID=23575&LangID=E

 

ช่วยเหมือนกัน ในความเป็นมนุษย์ แต่กลับช่วยบุคคลที่สังหารผู้อื่นอย่างไม่เห็นว่าผู้ถูกฆ่าเป็นมนุษย์ บุคคลที่ร่วมมือกับอมนุษย์ฆ่าคนอย่างอำมหิต ยังมาเรียกว่าด้วยความเป็นมนุษย์ได้อีกหรือ ไม่รู้สึกรังเกียจตัวเองกันบ้างหรือ



การบ่มเพาะความเกลียดชังจากปอเนาะขยายไปยังมหาวิทยาลัย แน่นอนว่าการถูกปลุกฝังแต่ยังเยาว์ย่อมมีผลต่อมโนสำนึกของจิตใจไปด้วย เช่น การเชื่อว่าฆ่าคนต่างศาสนิกแล้วได้บุญ หลงเชื่อแบบผิด ๆ จนนำความเกลียดชังที่ได้รับจากการบ่มเพาะนั้นนำมาสู่การเลือกตัดสินใจใช้ความรุนแรง โดยมีผู้รับเคราะห์คือชาวบ้านตาดำ ๆ ผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ การถูกบ่มเพาะความเกลียดชังนี้ฝังรากลึกในจิตใจของพวกเขา เมื่อได้รับการศึกษาที่สูงขึ้นก็จะนำความเกลียดชังนี้ ขยายผลต่อไปยังสถานที่ให้การศึกษานั้น ๆ ที่กลุ่มพวกพ้องตนเองได้ไปร่ำเรียนอยู่ จากสถาบันการศึกษาที่ให้ความรู้ผลิตปัญญาชนออกสู่สังคม กลับกลายเป็นแหล่งบ่มเพาะแหล่งใหม่ที่ยิ่งนับวันจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ด้วยกิจกรรมที่สวยหรู กับหลักสร้างความแตกแยกด้วยวิชาการที่ฟังดูดี อ้างสิทธิเสรีภาพที่มีอยู่แล้วเหนือผู้อื่น และความไม่เป็นธรรมมาเป็นตัวชูโรง ประกอบกับผู้ประสิทธิ์ ประศาสตร์ วิชาความรู้ในสถาบันการศึกษายุยงส่งเสริมมันก็ยิ่งพลักดันให้เกิดเนื้อร้ายลามไปทั่วในพื้นที่ จึงไม่แปลกเมื่อพวกพ้องก่อเหตุต่อผู้บริสุทธิ์ พวกเขาจะนิ่งเฉย แต่เวลาเจ้าหน้าที่ใช้มาตรการอย่างใดอย่างหนึ่งในการจับกุมคนร้ายมาลงโทษ พวกเขาเหล่านี้จะออกมาต่อต้านและโจมตีทันที โดยอ้าง ละเมิดสิทธิและไม่เป็นธรรม ต้นไม้พิษลูกมันก็ย่อมมีพิษ ลูกหล่นร่วงที่ไหนมันก็เติบโตพร้อมกับพิษมันที่นั้นแถมยังทำให้พื้นที่ใกล้เคียงได้รับพิษไปด้วย การถูกบ่มเพาะจึงกลายเป็นต้องเชื่อเท่านั้นถึงจะถูก ไม่ต้องคิด ไม่ต้องแย้ง เชื่ออย่างเดียว ผิดถูกอย่างเถียง อย่าพิสูจน์ ถ้าคิดไม่เป็นแล้วจะมีสมองไว้ทำไม เรียนทำไม ปล่อยให้คนเลวคนชั่วหลอกต่อไป เพราะอย่างไงก็ถูกหลอกจากปอเนาะอยู่แล้ว อยู่มหาลัยก็จะให้เขาหลอกอีกมันก็คงไม่เสียหายอะไร เพราะมโนสำนึกไม่มี

 

ปปป.เชือดเจ้าหน้าที่รัฐเอี่ยวโกงภาษีน้ำมัน เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 6 จุด ทั่วประเทศ 29 ก.ย.นี้
เผยแพร่: 18 ก.ย. 2561 13:34 ปรับปรุง: 18 ก.ย. 2561 14:26 โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

MGR Online - ผบก.ปปป.ร่วม 7 หน่วยงาน เอาผิดเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต 3 คน กรมศุลกากร 4 คน โกงภาษีน้ำมันไปขายต่อให้ บ.เวียงมิง ในประเทศเมียนมา พบทำมาแล้ว 36 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท

วันนี้ (18 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. เป็นประธานการประชุมแผนการปราบโกงภาษีน้ำมัน ร่วมกับ 7 หน่วยงาน ทั้ง ป.ป.ช., ป.ป.ท , ปปง., สตง., กรมบัญชีกลาง, กรมสรรพากร และ กองทัพภาคที่ 1 เพื่อวางแผนในการปราบปราม หลังพบเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็นกระทำความผิด ทำให้ประเทศเสียหายหลักล้านบาท

พล.ต.ต.กมล กล่าวว่า การสืบสวนของศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง (ปนม.ตร.) พบว่า มีบริษัทผู้ค้าน้ำมันแห่งหนึ่ง ทำเรื่องขอซื้อน้ำมันจากโรงกลั่นน้ำมัน ใน จ.ชลบุรี ตามมาตรา 7 ที่มีสิทธิ์ขอยกเว้นหรือคืนภาษีตาม พ.ร.บ.สรรพสามิต 2560 อ้างว่า นำไปขายต่อให้ บ.เวียงมิง ในประเทศเมียนมา จากนั้นบริษัทผู้ค้ามอบหมายให้ บริษัทขนส่งไปรับน้ำมัน ที่โรงกลั่นเพื่อขนไปส่งที่ชายแดนเมียนมา จ.ตาก แต่บริษัทขนส่งกลับแวะขายให้ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง จ.พิษณุโลก จำนวน 32,000 ลิตร ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ส่วนน้ำมันที่เหลือก็ส่งให้ชายแดน อ.เเม่สอด จ.ตาก ทั้งนี้ จากการตรวจสอบพบทำมาแล้ว 36 ครั้ง แต่หลักฐานมีการยืนยันกระทำผิดแค่ 10 ครั้ง มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท เบื้องต้นมีผู้ถูกแจ้งข้อกล่าวหา และดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 ราย ซึ่งศาลได้ตัดสินความผิดตาม พ.ร.บ. ศุลกากร มาตรา 27 ร่วมกันลักลอบขายสินค้าที่ยังไม่ได้เสียภาษี ใน พ.ศ.2557

“นอกจากนี้ ทางการสืบสวนยังพบว่าในขั้นตอนการทำเอกสารต้องมีใบรับรองบันทึกร่วมตรวจก่อนนำน้ำมันออกจากโรงกลั่น รวมทั้งใบรับรองว่าน้ำมันถูกส่งออกครบจำนวน โดยต้องมีเจ้าหน้าที่ของกรมสรรพสามิต และ กรมศุลกากร ลงนามรับรอง จึงเชื่อได้ว่าอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ชุด ปนม.ตร. ได้เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดข้าราชการเพิ่มเติมที่ ปปป. เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา” พล.ต.ต.กมล กล่าว

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่รัฐที่ลงนามใบรับรองจำนวน 10 ครั้ง ซึ่งเป็นหลักฐานการกระทำผิด แบ่งเป็น เจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิต 3 คน กรมศุลกากร 4 คน ซึ่งทาง ปปป.จะสอบสวนทั้งหมดและอาจเข้าข่ายความผิด มาตรา 162 เป็นการรับรองเอกสารอันเป็นเท็จ และ มาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือไม่ โดยหลังจากนี้จะมีการลงพื้นที่เปิดปฏิบัติการตรวจค้น 6 จุด ทั่วประเทศ ในวันที่ 29 ก.ย.61

https://mgronline.com/crime/detail/9610000093472

 

Watchers


#สภาพอากาศ #จ่ามี (28W)

21/09/18

แผนที่ลมระดับผิวพื้นเมื่อ 07:00 ที่ผ่านมาจะเห็นพายุดีเปรสชัน 04B เคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียแล้ว

ขณะที่มีพายุดีเปรสชัน 28W ที่ก่อตัวใหม่แถวเกาะกวมทวีกำลังแรงขึ้นเรื่อยๆ มีโอกาสเป็นถึงพายุไต้ฝุ่นลูกต่อไปในชื่อ "จ่ามี"


06:00 หย่อมความกดอากาศต่ำ 92W ใกล้เกาะกวม ทวีกำลังเป็นพายุดีเปรสชันลูกใหม่ 28W มีแนวโน้มจะมุ่งไปทางญี่ปุ่น

Cr:mrvob

Via : #Watchers

 

Watchers





#สภาพอากาศ

19/09/18

อากาศที่แปรปรวนจากสายฝน และหิมะ

ของทางแยกของเมือง ทางทิศตะวันตก #เมดินา #ซาอุดิอาระเบีย❄️

ถ่ายภาพ / Abdullah al-Hajili

 

Watchers





#ข่าวภัยพิบัติ #Mexico

น้ำท่วมรุนแรงในรัฐซีนาโลอา ใน #เม็กซิโก

20/09/2018

คลิปผ่าน Enrique Calderon

 

Watchers


#สภาพอากาศ

// พะเยา - สภาพอากาศทั่วเมืองพะเยา เริ่มเย็น หมอกลงจัดปกคลุมทั่วทั้งกว๊านฯ และตัวเมือง //


21/09/18

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศทั่วไปในจังหวัดพะเยา เริ่มมีหมอกลงจัดปกคลุมไปทั่วพื้นที่ ขณะที่อุณหภูมิวัดได้ 26 องศาเซลเซียส อากาศเย็นทำให้ผู้ใช้ยวดยานต้องเปิดไฟเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยการขับขี่ เพราะสามารถมองเห็นได้เพียงระยะใกล้ 10-20 เมตรเท่านั้น


ขณะที่บริเวณริมกว๊านพะเยา มีสายหมอกปกคลุมเต็มกว๊านหลายพื้นที่ เริ่มมีอากาศหนาวเย็นลงลงเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาวแล้ว แม้ว่าจะยังมีฝนตกบ้างในบางพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่เริ่มมีอุณหภูมิลดลง 2-3 องศาเซลเซียล โดยเฉพาะที่จังหวัดพะเยาเช้านี้พบว่า มีอุณหภูมิลดลงอากาศหนาวเย็นลงกว่าช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างเห็นได้ชัด ตามท้องถนนและตามทุ่งนา และพระอาทิตย์บนท้องฟ้าเริ่มมีหมอกบางๆ ปกคลุมในตอนเช้า ถือเป็นสัญญาณที่ดีต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวที่เริ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นลง และความสวยงามของทิวทัศในช่วงปลายฝนต้นหนาวจะสวยงามแตกต่างจากช่วงอื่น

เครดิต/@ห้อง ปภ. 61

#Watchers

 

Watchers





ฝนในซิซิลี #อิตาลี #Sicily #Italy

21/09/18

ผ่าน WeatherWorld

#Watchers

 

Watchers





หิมะ ฝนตก ตกหนักใน เมือง tilalban #Mexico

วันที่ 20-9-2018

Via: worldweather

#Watchers

 

Watchers





#waterspout

สูงตระหง่าน #พวยน้ำ บนชายฝั่งของ Nabeul #ตูนิเซีย.#Tunisia

(20/09/18)

ผ่าน Tks_libia_tonc_aldzair_amor

 

Watchers





#ข่าวภัยพิบัติ

21/09/18

สภาพน้ำท่วมหนัก จากฝนตกต่อเนื่องใน เมือง #Culiacan กูเลียกัน เป็นเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของ #ประเทศเม็กซิโก ที่น้ำท่วมจนถนนกลายสภาพเป็นแม่น้ำ

เครดิต คลิป: Pityjui

#Watchers

 

Watchers


#สภาพอากาศ

21/09/18

13:00 น.

พายุดีเปรสชัน 04B ที่ อ่าวเบงกอล อินเดีย มีอิทธิพลเปลี่ยนทืศทางลมมรสุม ทำให้ลมที่พัดเข้าไทยวันนี้มาจากด้านตะวันออกเฉียงเหนือ


พายุดีเปรสชัน 04B หรือ BOB07 ทิศทางจะเคลื่อนไปขึ้นฝั่งประเทศอินเดีย

เครดิต : paipibut

 

Watchers





#Worldweather #Volcano

21/09/18

เกิดฝนตกหนักและมีกระแสน้ำในภูเขาของภูเขาไฟกัวเตมาลา #Guatemala

เครดิต : Enrique Calderon

 

อู่ต่อเรือไทย!


“บิ๊กตุ๋ย” ประชุม สรุปผลงาน “อู่กรุงเทพฯ” ขั้นเทพ หลายหมื่นล้าน ได้ต่อเริอOPVให้ ทร.ศรีลังกา3ลำ และเสนอต่อให้ ทร.ฟิลิปปินส์6ลำด้วย หลัง ต่อ “รล.กระบี่” จับมือBAEอังกฤษ ต่อ ลำ2 เตรียมจับมือกับ Lurssen เยอรมัน ต่อเรือ เผย ทำศูนย์ซ่อมเรือ ที่สัตหีบ รองรับการขยายธุรกิจอู่เรือ-EEC




“บิ๊กตุ๋ย” พล.ร.อ. พิเชฐ ตานะเศรษฐ เสธ.ทร. ในฐานะ ประธานกรรมการบริษัท อู่กรุงเทพ จำกัด ประชุมสรุปผลงานที่สำคัญของ บอท. ในรอบปีที่ผ่านมา


ทั้งการ สนับสนุนและผลักดันให้เกิดการเริ่มต้น และสร้างโอกาสให้ บอท. ในโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ให้กับ ทร.ศรีลังกา จำนวน 3 ลำ มูลค่ารวม 12,000 ล้านบาท


ซึ่ง รมว.กห.ศรีลังกา มีกำหนดเดินทางมาเยี่ยมชมกิจการของ บอท. ระหว่าง 8 - 12 ต.ค.61 นี้


อันเป็นไปตามวิสัยทัศน์ของ บอท. และสอดคล้องตามนโยบายการพัฒนาขีดความสามารถในการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัฐบาล.



นอกจากนี้ได้มีการสนับสนุนให้เกิดความร่วมมือระหว่าง บอท. และบริษัท BAE System Ships Ltd. สหราชอาณาจักร ต่อเนื่องจากโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งให้กับ ทร. ลำที่ 1 และ 2


การเสนอโครงการสร้างเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งให้กับ ทร.ฟิลิปปินส์ จำนวน 6 ลำ มูลค่ารวม 18,000 ล้านบาท


และการปรับปรุงแบบเรือเพื่อเสนอให้กับ ทร. ในการจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำต่อไป อันเป็นการดำเนินการในเชิงรุก



ทั้งยัง มีการผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่าง บอท. และ กรมอู่ทหารเรือในเรื่องการสร้าง ปรับปรุง และพัฒนาอุตสาหกรรมอู่เรือและผลักดันให้เกิดความร่วมมือระหว่าง บอท. และ บริษัท Lurssen สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในเรื่องการดำเนินธุรกิจอู่เรือ



สนับสนุนการดำเนินธุรกิจของ บอท. ในพื้นที่สัตหีบ โดยการใช้พื้นที่จำนวน 41-3-55 ไร่ บริเวณทิศเหนือของ อรม.อร. เพื่อสนับสนุนการซ่อมทำเรือให้กับ ทร. และพื้นที่จำนวน 33 ไร่ เพื่อรองรับการขยายธุรกิจอู่เรือและโครงการEEC

 

ออโรร่า #เหนือ ทิ้งภาพที่น่าทึ่งในท้องฟ้าของ #อลาสก้า #วิดีโอ #aurorasborialis #

 

ถ้าคนจีนบอกจะสร้างตลาดน้ำ เค้าไม่ได้พูดเล่นนะคุณ ล่าสุดคือขุดบ่อ สร้างเรือนไทยยกสูง เหลือแค่เทน้ำใส่ เอาแม่ค้าพ่อค้ามาก็ เอาเรือมาล่อง มันคือแม่กลอง 2 นี่เอง โลเคชั่นในรูปคือ เมืองจิ่งหง สิบสองปันนา

 

'ปักกิ่ง'ก้าวทะยานขึ้นเป็นมหาอำนาจระดับโลกในยุคของ'โดนัลด์ ทรัมป์'
เผยแพร่: 20 ก.ย. 2561 23:43 โดย: อัลเฟรด ดับเบิลยู. แมคคอย


Beijing’s Bid for Global Power in the Age of Trump, “America First” Versus China’s Strategy of the Four Continents

By Alfred W. McCoy
He
21/08/2018

ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ โลกก็ได้พบเห็นเป็นพยานเรียบร้อยแล้วถึงความเป็นปรปักษ์ที่ตัดแย้งกันอย่างชัดเจนเหลือเกิน ระหว่างสี จิ้นผิง ผู้แสดงตนเป็นนักสากลนิยมซึ่งสนับสนุนการประสานงานร่วมมือกันในระดับโลกในรูปแบบใหม่ๆ กับ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ประกาศลัทธิชาตินิยมทางเศรษฐกิจ เวอร์ชั่น "อเมริกา เฟิร์สต์”

ขณะปีที่ 2 แห่งการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯของโดนัลด์ ทรัมป์ และปีที่ 6 แห่งการเป็นประธานาธิบดีจีนของ สี จิ้นผิง ขยับใกล้เข้ามา โลกดูเหมือนกำลังเป็นพยานของหนึ่งในการปะทะกันครั้งใหญ่ยิ่งระดับยุคสมัย ซึ่งสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงทิวทัศน์ภูมิประเทศของพลังอำนาจระดับพิภพกันทีเดียว ทำนองเดียวกับที่ความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดีอเมริกัน วูดโรว์ วิลสัน (Woodrow Wilson) กับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ลอยด์ จอร์จ (Lloyd George) ผลิดอกออกผลกลายเป็นสันติภาพที่ประสบความล้มเหลวในช่วงเวลาภายหลั

สงครามโลกครั้งที่ 1, การแข่งขันชิงดีกันระหว่างจอมเผด็จการสหภาพโซเวียต โจเซฟ สตาลิน (Joseph Stalin) กับ ประธานาธิบดีอเมริกัน แฮร์รี ทรูแมน (Harry Truman) จุดประกายให้เกิดสงครามเย็นขึ้นมา, และความเป็นปรปักษ์กันระหว่างผู้นำสหภาพโซเวียต นิกิตา ครุสชอฟ (Nikita Khrushchev) กับประธานาธิบดีสหรัฐฯ จอห์น เอฟ. เคนเนดี (John F. Kennedy) ได้นำพาโลกเข้าสู่ปากเหวแห่งสงครามนิวเคลียร์ เช่นเดียวกัน 2 ประธานาธิบดีที่ทรงอำนาจของสหรัฐฯและของจีนในเวลานี้ ต่างกำลังใช้ความพยายามอย่างห้าวหาญ ในการผลักดันวิสัยทัศน์ของแต่ละคนที่มีลักษณะความเป็นส่วนตัวอย่างเข้มข้นยิ่ง วิสัยทัศน์ที่กล่าวถึงนี้เป็นเรื่องว่าด้วยระเบียบใหม่ของโลก ซึ่งมีศักยภาพที่จะปรับเปลี่ยนเส้นทางโคจรของศตวรรษที่ 21 กันใหม่ --หรือไม่ก็ดึงลากเส้นทางโคจรเหล่านั้นให้หล่นแอ้งแม้งตกลงมาทั้งหมด

เวลาเดียวกันนั้น ทั้ง 2 ประเทศก็เฉกเช่นเดียวกับผู้นำของพวกเขา มีคุณลักษณะเด่นหลายอย่างหลายประการที่แตกต่างตัดแย้งกันเป็นตรงกันข้าม จีนเป็นอภิมหาอำนาจที่กำลังก้าวผงาดขึ้นมา, กำลังขี่กระแสคลื่นแห่งการเติบใหญ่ขยายตัวทางเศรษฐกิจอันรวดเร็วยิ่ง ซึ่งพร้อมพรั่งด้วยโครงสร้างพื้นฐานทางอุตสาหกรรมและทางเทคโนโลยีที่ผลิหน่อออกผลอย่างว่องไว, ส่วนแบ่งในการค้าโลกก็ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ , และความมั่นอกมั่นใจในตนเองกำลังพุ่งพรวด ส่วนสหรัฐฯคือเจ้าผู้ครอบงำโลกที่กำลังตกต่ำถดถอย , โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อยู่ในสภาพทรุดโทรม, มีระบบการศึกษาที่ล้มเหลว, มีส่วนแบ่งในเศรษฐกิจโลกที่หดตัวลดต่ำลงทุกที, และพลเมืองก็เกิดการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึก หรือหากนำเอาผู้นำมาเปรียบเทียบกัน สี จิ้นผิง นั้นเป็นผู้ที่ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในฐานะเป็นบุคคลวงในของวงการเมืองระดับสูงสุด จนกระทั่งก้าวขึ้นเป็นประธานาธิบดีของจีนในปี 2013 และกำลังนำเอาวิสัยทัศน์แบบนักสากลนิยมที่ห้าวหาญซึ่งมุ่งหวังที่จะบูรณาการเศรษฐกิจของเอเชีย, แอฟริกา, และยุโรปเข้าด้วยกัน โดยผ่านการลงทุนอย่างใหญ่โตมโหฬารในด้านโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งในที่สุดแล้วจะสามารถขยายและแผ่กว้างระบบเศรษฐกิจโลกในปัจจุบัน สำหรับโดนัลด์ ทรัมป์ ภายหลังช่วงเวลาสั้นๆ แห่งการฝึกงานทางการเมืองในฐานะเป็นผู้ป่าวประกาศทฤษฎีสมคบคิด ก็ได้ขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อปี 2017 ในฐานะนักชาตินิยมเชิดชู “อเมริกาเฟิร์สต์” ผู้กระตือรือร้น ซึ่งมุ่งมั่นตั้งใจที่จะก่อกวนหรือกระทั่งทุบทำลายระเบียบระหว่างประเทศเดิมที่อเมริกันเป็นผู้สร้างขึ้นมาและยังคงอยู่ในฐานะเป็นผู้ครอบงำ ทว่าตัวทรัมป์แสดงรังเกียจเหยียดหยาม เนื่องจากเข้าใจไปว่ากำลังเป็นเครื่องจำกัดขัดขวางความแข็งแกร่งของประเทศชาติของเขา

ถึงแม้ในภาพรวม ประเทศทั้งสองเริ่มต้นย่างเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 นี้ด้วยความมีมิตรไมตรีต่อกัน แต่ในระยะไม่กี่ปีหลังๆ จีนกับสหรัฐฯกลับมีความเคลื่อนไหวมุ่งไปสู่การแข่งขันชิงดีกันทางการทหาร และเกิดความขัดแย้งกันทางเศรษฐกิจอย่างเปิดเผย เมื่อตอนที่จีนได้รับการยอมรับให้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (World Trade Organization หรือ WTO) ในปี 2001 วอชิงตันมีความเชื่อมั่นว่าปักกิ่งจะเล่นไปตามระเบียบกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่มีการกำหนดจัดวางเอาไว้แล้ว และกลายเป็นสมาชิกผู้โอนอ่อนยอมตามรายหนึ่งของประชาคมระหว่างประเทศที่นำโดยอเมริกา ในตอนนั้นดูเหมือนแทบไม่ได้มีความตระหนักรับรู้กันเอาเสียเลยว่า อาจจะเกิดอะไรขึ้นมาได้บ้าง ในเมื่อหนึ่งในห้าของมนุษยชาติได้เข้าร่วมในระบบโลกในฐานะผู้มีความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจรายหนึ่งเป็นครั้งแรกในรอบระยะเวลา 500 ปี

เมื่อถึงเวลาที่ สี จิ้นผิง กลายเป็นประธานาธิบดีคนที่ 7 ของจีน ระยะเวลา 1 ทศวรรษแห่งการเติบโตขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วว่องไวด้วยอัตราเฉลี่ย 11% ต่อปี และการมีทุนสำรองเงินตราต่างประเทศพุ่งพรวดจนไปสู่ระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นกันมาก่อนในพื้นพิภพนี้ ก็ได้ก่อเกิดศักยภาพทางเศรษฐกิจอันมหึมามหาศาลสำหรับการปรับเปลี่ยนดุลอำนาจของทั่วโลกอย่างรวดเร็วและอย่างรุนแรง เพียงไม่กี่เดือนที่อยู่ในตำแหน่ง สีเริ่มต้นอาศัยทุนสำรองที่มีมากมายเหล่านี้มาเปิดตัวเกมทางภูมิรัฐศาสตร์อันห้าวหาญ นับเป็นการท้าทายอย่างแท้จริงต่อฐานะของสหรัฐฯที่เป็นผู้ครอบงำเหนือมหาทวีปยูเรเชียตลอดจนส่วนอื่นๆ ของโลกที่อยู่เลยไกลไปจากนั้น แต่ว่าด้วยความอิ่มเอิบเปล่งปลั่งในฐานะของตนที่เป็นอภิมหาอำนาจเพียงรายเดียวของโลกเรื่อยมา ภายหลังจากเป็น “ผู้ชนะ” ในสงครามเย็นแล้ว ตอนแรกๆ วอชิงตันจึงดูมีความยากลำบากทีเดียวแม้กระทั่งในการจับฉวยรับรู้รับทราบความเป็นจริงระดับโลกที่กำลังมีการพัฒนาใหม่ๆ เช่นนั้นขึ้นมา และมีความเชื่องช้าอืดอาดในการตอบโต้รับมือ

จังหวะเวลาในการก้าวเข้ามาแข่งขันประลองฝีมือของจีน คงจะไม่สามารถเหมาะเจาะเหมาะเหม็งได้ยิ่งกว่านี้อีกแล้ว หลังจากครองความเป็นเจ้าใหญ่ของพื้นพิภพมาเป็นเวลาร่วมๆ 70 ปี ฐานะครอบงำเศรษฐกิจโลกของวอชิงตันได้เริ่มจางคลายเรียวเล็กลงไป และกำลังแรงงานของอเมริกาซึ่งครั้งหนึ่งเคยอยู่ในระดับเหนือชั้นอย่างมากๆ ก็ได้สูญเสียความได้เปรียบในการแข่งขันของตนไปเยอะ อันที่จริงแล้ว เมื่อถึงปี 2016 กระแสโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจซึ่งก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนโยกย้ายไปหาสถานที่ตั้งใหม่ๆ พร้อมๆ กับที่อเมริกันสูญเสียฐานะในการเป็นผู้ครอบงำโลกของตนเองไป ได้จุดชนวนให้บรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บจากความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ลุกฮือก่อกบฎขึ้นในประเทศประชาธิปไตยต่างๆ ทั่วโลก ตลอดจนในดินแดนใจกลางของอเมริกา และนำพาเอา โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ประกาศตัวเองเป็น “นักประชานิยม” ขึ้นสู่อำนาจ ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะสกัดกั้นการถดถอยเสื่อมทรุดของประเทศชาติของเขา ทรัมป์ได้ต้อนรับนำเอานโยบายการต่างประเทศแบบแข็งกร้าวและสร้างความแตกแยกเข้ามาใช้ ซึ่งกำลังสร้างความเดือดดาลให้แก่เหล่าพันธมิตรที่สหรัฐฯได้เคยฟูมฟักผูกพันมาอย่างยาวนานทั้งในเอเชียและยุโรป และก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากำลังเพิ่มแรงกระตุ้นใหม่ๆ ให้แก่ความถดถอยเสื่อมทรุดดังกล่าว

ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนที่ทรัมป์ก้าวเข้าไปนั่งทำงานในห้องทำงานรูปไข่ (Oval Office) ของทำเนียบขาว โลกก็ได้เป็นพยานเรียบร้อยแล้วถึงความเป็นปรปักษ์ที่ตัดแย้งกันอย่างชัดเจนเหลือเกิน ระหว่างการออกมาสนับสนุนรูปแบบใหม่ของการประสานงานร่วมมือกันในระดับโลกของสี กับเวอร์ชั่นลัทธิชาตินิยมทางเศรษฐกิจของทรัมป์ และในกระบวนการดังกล่าวนี้เอง มนุษยชาติดูเหมือนจะกำลังก้าวเข้าสู่ช่วงขณะแห่งประวัติศาสตร์อันพบเห็นได้ยากยิ่ง เมื่อความเป็นผู้นำในระดับชาติและสภาพแวดล้อมในระดับโลกกำลังก่อให้เกิดช่องทางเปิดกว้างสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรูปร่างลักษณะของระเบียบโลก

https://m.mgronline.com/around/detail/9610000094568

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Sep 21) WTO ต้องการความชัดเจนนโยบายช่วยเหลือเกษตรกรจากสหรัฐ: สำนักข่าว Reuters รายงานว่าประเทศสมาชิกในกลุ่มองค์การการค้าโลก หรือ WTO ต้องการความชัดเจนจากสหรัฐฯ ในรายละเอียดของนโยบายช่วยเหลือเกษตรกร จากผลกระทบของข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า


ในการเตรียมการประชุม Agriculture Committee ณ วันที่ 25–26 ก.ย. นี้ ทาง WTO ได้รับคำถามในประเด็นดังกล่าวจากประเทศญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ อินเดีย สหภาพยุโรป แคนาดา และออสเตรเลีย รวมกันกว่า 20 คำถาม เช่น ระยะเวลาของโครงการช่วยเหลือเกษตรกร แนวโน้มการเพิ่มกำลังการผลิตที่มากเกินไป รวมถึงความเสี่ยงที่สหรัฐฯ จะใช้เงินช่วยเหลือเกินกว่าขอบเขตที่ตกลงร่วมกันที่ 19.1 พันล้านดอลลาร์ สรอ.


นอกจากนี้ หลายฝ่ายกังวลว่า โครงการสนับสนุนการค้าของรัฐบาลสหรัฐฯ มูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ สรอ. ที่มีจุดประสงค์เพื่อ ‘บรรเทาผลกระทบจากการตอบโต้ของประเทศคู่ค้า’ อาจกลายเป็นการให้การอุดหนุนเพื่อการส่งออก (export subsidy) ทางอ้อม


Source: BOTSS

https://www.reuters.com/article/us-...re-clarity-on-u-s-farm-spending-idUSKCN1M02M4

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Sep 21) ทรัมป์แสดงความไม่พอใจรโอเปคหวังผลทางการเมือง: ประธานาธิบดี Trump แสดงความไม่พอใจต่อการปรับเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันเข้าใกล้ระดับ 80 ดอลลาร์ สรอ. ต่อบาร์เรล โดยเห็นว่ากลุ่มประเทศผู้ค้าน้ำมัน หรือ OPEC ควรใช้อำนาจจากสถานะของความเป็นผู้ผูกขาด เพื่อกดดันให้ราคาน้ำมันปรับลดลง


นักวิเคราะห์ของ UBS มองว่า การวิจารณ์ในลักษณะดังกล่าวเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของประธานาธิบดี เพื่อเพิ่มคะแนนนิยมก่อนการเลือกตั้ง ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียมักสนับสนุนนโยบายที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน สอดคล้องกับความเห็นจากสหรัฐฯ อย่างเห็นได้ชัด อาทิ การตัดสินใจเพิ่มกำลังการผลิต 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือน มิ.ย. ภายหลังจากที่ประธานาธิบดี Trump กล่าวโจมตีกลุ่ม OPEC ถึงการตัดสินใจลดกำลังการผลิตในเดือย เม.ย.


อนึ่ง สำนักข่าว Bloomberg รายงานเพิ่มเติมว่า OPEC อาจอยู่ระหว่างการวางกลยุทธ์เพื่อป้องกันการโจมตีจากสหรัฐฯ ในประเด็นด้านการผูกขาดการค้า รวมถึงเคยจ้างนาย Ted Olson, Solicitor General เพื่อเป็น lobbyist สำหรับการรณรงค์ต่อต้านร่างกฎหมาย “NOPEC” จากสหรัฐฯ


Source: BOTSS

https://www.cnbc.com/2018/09/20/trump-says-opec-monopoly-must-get-prices-down.html

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Sep 20) อะไรจะเกิดขึ้น? เมื่อ 7-ELEVEN ฝาก-ถอนเงินได้เหมือนแบงก์ เริ่มต้นที่ 1 บาท: เมื่อต้นปีเราตื่นตัวกับเหตุการณ์ที่ธนาคารปิดสาขา เพื่อลดต้นทุนกันแล้ว ตอนนี้เรามารับข่าวใหม่ๆ ว่าธนาคารจะเข้ามาแฝงอยู่กระทั่งใน 7-ELEVEN ที่สำคัญยังมารับฝากเงินสดได้ตลอด 24 ชม. ไม่ม่วันหยุดอีก


เมื่อ 7-ELEVEN รับฝากเงินจากออมสินได้ อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง?


สาเหตุที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-ELEVEN สามารถให้บริการทางการเงินได้เพราะมี เคาน์เตอร์เซอร์วิส เป็น Banking Agent (ตัวแทนของธนาคาร) ซึ่งจะต้องได้รับการอนุมัติจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างเป็นทางการ


โดย Banking Agent ตามกฎเกณฑ์ธปท. ปัจจุบันจะให้บริการได้ 4 อย่าง ทั้งการฝาก-ถอน-โอนเงินสด รวมถึงการชำระบิลต่างๆ แต่สถาบันการเงินก็ต้องขออนุญาตจากธปท. ก่อนเพื่อดูว่าระบบที่ทำธุรกรรมของฝั่งแบงก์และคนที่จะมาเป็น Banking Agent ได้มาตรฐานไหม ต่อไปเราอาจจะทำธุรกรรมทางการเงินที่เคาน์เตอร์ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต หรือปั๊มน้ำมันก็ได้


อย่าง ไปรษณีย์ไทย ก็ได้รับอนุญาตมาหลายปีแล้วและเป็นตัวแทนให้กับหลายธนาคาร อย่างล่าสุดเปิดบริการใหม่ร่วมกับ ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งให้บริการได้ 3 อย่างฝาก-ถอน-จ่ายบิล แต่แผนต่อไปของเขาคือการขยายให้ลูกค้าสามารถเปิดบัญชีเงินฝากได้ที่ไปรษณีย์เลย ในอนาคต Banking Agent น่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนหนึ่งจะมาชดเชยกับธนาคารที่แห่กันลดสาขาลง


ว่าแต่ Banking Agent จะมาแทนที่สาขาธนาคารได้ไหม?


ฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา บอกว่า สาขาธนาคารยังต้องมีอยู่แน่นอน เพราะยังมีลูกค้ากลุ่มนึงที่เลือกเดินไปสาขา โดยเฉพาะไทยเรากำลังก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์ที่ซับซ้อนลูกค้ายังอยากเจอคนอยู่


แต่ที่แน่ๆ คือรูปแบบของสาขาจะเปลี่ยนไป อาจจะมี Automate Branch หรือธุรกรรมง่ายๆ ลูกค้าอาจจะไปใช้บนมือถือได้ หรือ ธนาคารจะมี Banking Agent เข้าไปดูแลลูกค้าในจุดที่เรามองว่าไม่คุ้มที่จะไปตั้งสาขาอยู่ แต่เราก็ต้องสอน และเทรนคนให้มีมาตรฐาน เป็นตัวแทนในการทำธุรกรรมต่างๆ แทนธนาคาร ซึ่งทั้งหมดต้องใช้เวลาวางแผนอีกสักพัก


ออมสินเล็งเพิ่มเด็กชอบออม เจาะกลุ่มอายุ 7-20 ปี ฝากเงินได้ 24 ชม.


ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยกาธนาคารออมสิน บอกว่า ธนาคารออมสิน ร่วมกับ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ทำโครงการ “เด็กดี ออมฟรี 24 ชั่วโมง” ให้เด็กอายุ 7-20 ปี สามารถเดินเข้า 7-ELEVEN แล้วฝากเงินผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่มีอยู่ 13,000 สาขาได้ 24 ชม. ตั้งแต่บาทแรกโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม เริ่มตั้งแต่วันที่ 31 ต.ค. 2561


และเตรียมขยายงานสู่คนทั่วไป ในเฟส 2 เมื่อลูกค้าไปที่เคาน์เตอร์เซอร์วิส สามารถฝาก-ถอนเงินสดผ่านแอปพลิเคชัน MyMo ที่เป็น Mobile Banking ของธนาคารออมสิน ซึ่งจะฝากเงินได้สูงสุด 30,000 บาทต่อรายการ แต่ฝากได้ 24 ชม. ส่วนการถอนเงินได้ครั้งละ 1-5,000 บาทต่อครั้ง และถอนได้ในช่วงเวลา 08.00- 22.00 น. ซึ่งจะคิดค่าธรรมเนียม 15 บาทต่อรายการ


สรุป


เมื่อต้นปีเราตื่นตัวกับเหตุการณ์ที่ธนาคารปิดสาขา เพื่อลดต้นทุนกันแล้ว ตอนนี้เรามารับข่าวใหม่ๆ ว่าธนาคารจะเข้ามาแฝงอยู่กระทั่งใน 7-ELEVEN ที่สำคัญยังมารับฝากเงินสดได้ตลอด 24 ชม. ไม่ม่วันหยุดอีก แม้ว่าระยะแรกจะเริ่มในกลุ่มเยาวชนอายุ 7-20 ปี แต่ต่อไปพ่อค้าแม่ขายไม่จำเป็นต้องหิ้วเงินสดไปธนาคารแล้ว เดินเข้า 7-ELEVEN เอาเหรียญไปฝากก็ยังได้ แต่จุดสำคัญคือการเทรนพนักงานสาขาต่างๆ ให้มีความเข้าใจ และให้บริการได้จริงๆ ไม่ใช่ว่าเปิดบริการแต่ลูกค้าใช้งานไม่ได้….เนาะ


โดย Chutinun.Liu


https://brandinside.asia/money-7-eleven-deposit-gsb/